คุณคิดว่าชื่อผมแปลกหรือเปล่า ผมชื่อ “แฟนมีต” มันคือชื่อของผม ชื่อจริงๆ ตั้งแต่คลอดออกมาลืมตาดูโลก
ประวัติของผมเป็นที่เลื่องลือจนกระทั่งตอนนี้ผมอายุเกือบจะ25แล้ว ผมก็ยังพบเจอภาพบรรยากาศการคลอดของผมลอยอยู่เต็มโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ชื่อดัง ผมไม่ต้องมานั่งถามแม่เลยด้วยซ้ำว่าตอนเกิดผมเป็นยังไง ร้องไห้เสียงดังไหม คลอดง่ายคลอดยาก เพราะผมเห็นด้วยตาของผมเอง ใช่ครับ..พวกคุณอ่านไม่ผิด ที่ผมเห็นทุกอย่างเพราะแม่คลอดผมกลางงานคอนเสิร์ตของศิลปินนักร้องชื่อดัง!!!
กลางงานที่มีคนดูนับพันคน เสียงร้องของผมที่ดังแข่งกับเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ และผมก็ไม่รู้ว่าแม่จะดีใจหรือเสียใจที่ผมคลอดออกมาวันนั้นเพราะมันเป็นวันที่ “พาสต้า” นักร้องในดวงใจของแม่ถูกยิงร่วงกลางงานคอนเสิร์ตเช่นกัน รถพยาบาลสองคันจอดเทียบคู่กัน
คันหนึ่งรับหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิด ส่วนอีกคันรับหนึ่งชีวิตที่กำลังจะตาย แล้วผมก็ได้ชื่อนี้มาอย่างไม่มีข้อกังขา ส่วนนักร้องคนนั้นเท่าที่ทราบมาเขาน่าจะเสียชีวิตไปแล้วก่อนจะถึงโรงพยาบาลเสียอีก ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องชื่อประหลาดๆ ของผม จนกระทั่งผมบังเอิญไปเจอคลิปของแม่ที่กำลังเจ็บท้องคลอดกลางงานคอนเสิร์ตเข้า ถึงได้รู้ที่ไปที่มาของตัวเองแบบแจ่มแจ้งแดงเดือดยิ่งกว่าไฟจราจรหน้าสี่แยกอโศก
ส่วนพ่อที่ทนกับเรื่องนี้ไม่ไหวขอเลิกกับแม่ไปตั้งแต่ผมยังไม่ทันตัดสายสะดือ ผมอาจจะไม่ซีเรียสกับเรื่องอะไรพวกนี้ เพราะน้อยคนที่จะรู้ว่าเด็กในคลิปคือผม ด้วยเรื่องมันก็ผ่านมา 20 กว่าปีแล้ว หน้าตาผมตอนนั้นกับตอนนี้ก็ห่างไกลกันหลายขุม ถึงแม้จะมีคนสะกิดใจเรื่องชื่อของผมบ้างก็เถอะ ผมใช้ชีวิตอย่างปกติสุขดี ไปเรียนกลับบ้านไปเที่ยวกับเพื่อน จนกระทั่งการใช้ชีวิตในสถานะนักศึกษาของผมสิ้นสุดลง ผมจึงขอแม่ไปหางานทำแทบจะทันทีเพราะเบื่อที่จะต้องมานอนอยู่บ้าน ตอนนี้ผมเองก็สมัครไปหลายที่อยู่และคิดว่าด้วยผลการเรียนของผมอีกไม่นานก็คงได้งานทำอย่างแน่นอน
จริงๆ แม่ก็ไม่อยากให้ผมออกไปทำงานนอกบ้าน ท่านอยากให้ผมช่วยงานของที่บ้านมากกว่าแต่ผมก็ตอบไปตามประสานิยายว่าผมอยากออกไปหาประสบการณ์ สุดท้ายแม่ก็เลยใจอ่อนให้ลูกชายที่แสนจะน่ารัก ดูเหมือนชีวิตผมมันไม่มีอะไรเลยใช่ไหมครับ มันช่างดูเรื่อยเปื่อยทั่วไป ซึ่งมันก็ใช่ครับผมก็คิดแบบนั้นมาโดยตลอด เพราะผมคิดว่าในชีวิตนี้มันคงไม่มีอะไรน่าประหลาดน่าตื่นเต้นตกใจเท่ากับการเกิดของตัวเองอีกแล้วแน่นอน
แต่เมื่อวันแรกของการเริ่มต้นทำงานมาถึงผมก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ เหมือนถูกใครบางคนคอยจับตาดูอยู่ตลอดเวลา ความหวาดระแวงเริ่มก่อตัวขึ้นเป็นรูปร่าง ไม่นานวันนั้นก็มาถึง..วันที่ผมได้คำตอบว่าใครหรืออะไร ที่กำลังตามผมอยู่กันแน่
“เชี่ยย! นี่คุณเป็นใคร”
“เห็นกันแล้วจริงๆ ด้วย!!”
“เดี๋ยวนะ” ผมจ้องมองผู้ชายร่างสูงหน้าตาดีตรงหน้าที่ยืนยิ้มราวกับเจอของสำคัญ ก่อนในหัวจะเริ่มประมวลภาพของเขาช้าๆ เป็นฉากๆ ผมสีน้ำตาลเข้ม ต่างหูรูปดวงดาวสีเงิน ปากเชิดๆ หน้าหยิ่งๆ แบบนี้มัน..
“ทำไมคิดนานจัง...”
“คุณ..?!”
“นี่แฟนมีตเมื่อวันก่อนคุณยังดูคลิปของเราสองคนอยู่เลย”
“พาสต้า...”
“ถูกต้องแล้วครับ”
“เชี่ยยย” คำตอบที่เหมือนไม่ได้ช่วยอะไรแถมส่งผลให้ผมกระโดดถอยหลังไปตั้งหลักเกือบชิดผนัง
“เอ้า!อยู่ด้วยกันมาตั้งนาน มากลัวอะไรกันตอนนี้”
“ยะ..อยู่ ใครอยู่กับคุณ”
“ก็ผมไง ผมอยู่กับคุณมาตั้งแต่วันที่คุณเกิด นอนจ้องหน้ากันเลยตอนนั้น กะแล้วว่าการที่ผมไปไหนไม่ได้ต้องมาป้วนเปี้ยนอยู่รอบตัวคุณตลอด น่าจะ 25 ปีได้แล้วมั้ง ผมมั่นใจว่ามันต้องมีความหมายอะไรแน่ๆ”
“ไม่จริง..คุณตายไปแล้ว”
“ยังไม่ตายแค่เกือบ”
“ตายไปแล้วก็ข่าวออก ตายไปนานแล้วด้วย”
“ก็คนบอกอยู่นี่ไงว่ายังไม่ตาย ที่ให้ข่าวแบบนั้นเพราะที่บ้านผมเขาอยากให้คนอื่นๆ เข้าใจแบบนั้นต่างหาก”
‘เพี้ยะ! เพี้ยะ!’
“เห้ยยย!! แฟนมีตคุณตบหน้าตัวเองทำไม”
“จะได้ตื่นไง ผมต้องฝันอยู่แน่ๆ”
“ไม่ได้ฝันนี่เรื่องจริง ก็ผมอะ..”
happy birthday to you....
happy birthday to you....
happy birthday happy birthday
happy birthday to you....
เสียงร้องเพลงวันเกิดดังขึ้นขัดจังหวะสนทนา
“สุขสันต์วันเกิดนะแฟนมีตลูกแม่” ยังไม่ทันที่พาสต้าจะพูดอะไรต่อ แม่ก็ถือเค้กก้อนโตเข้ามาในห้องผมพอดี ผมที่กำลังอึ้งอยู่ไม่รู้จะพูดอะไรได้แต่หลับตาอธิษฐานขอพรก่อนจะเป่าเทียนและเอ่ยขอบที่แม่ยังไม่ลืมวันเกิดผม
“แฟนมีต คุณเป็นคนเดียวที่จะช่วยผมได้นะ” ผมทำหน้าบูดบึ้งทันทีเมื่อได้ยินเสียงกระซิบข้างหู
“ไม่ใช่สิ ผมต้องบอกว่าสุขสันต์วันเกิดนะแฟนมีต”
ดูเหมือนของขวัญวันเกิดปีนี้คงจะทำให้ชีวิตผม ไม่ปกติสุขอีกต่อไป
:
- TBC -
#hgdคุณผีที่รัก
‘มีความสุขมากๆ นะแฟนมีต’‘หล่อๆ รวยๆ นะมึง ไอ้ที่รวยอยู่แล้วก็แบ่งกูบ้าง’‘ไว้นัดกินข้าวกันนะมึง’‘แก่ขึ้นอีกปีแล้ว...คิดถึงมึงว่ะ’‘เจอกันที่บริษัทนะเว้ยยย เลี้ยงข้าวกูด้วย’หลากหลายข้อความอวยพรวันเกิดหลั่งไหลเข้ามาในมือถือราคาแพงของแฟนมีต แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจหรือตื่นเต้นเท่ากับเรื่องตรงหน้าของเขาในตอนนี้สักเท่าไหร่ชีวิตคนๆ หนึ่งมันจะมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่ากับการได้นั่งคุยกับผีแบบนี้“จ้องขนาดนี้สงสัยอะไร”“คุณตายแล้ว”“ผมบอกว่าผมแค่เกือบตาย แต่ยังไม่ตาย”“ตายแล้ววว ตายมานานแล้วด้วย”“แฮร่!!!”“เห้ยยยยยยย”แฟนมีตสะดุ้งโหยงถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้เมื่อจู่ๆ วิญญาณพาสต้าก็พุ่งตัวเข้ามา“หล่อขนาดนี้ คุณมองผมเป็นผีได้ลงคอเลยเหรอ”“นี่กูต้องฝันอยู่แน่ๆ”“ก็ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ฝัน”“แต่นี่มันไม่ใช่ละครไง คนอะไรจะมาเห็นผีนั่งคุยกับผีแบบนี้ หรือกูบ้าไปแล้ว?”“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ และผมคงต้องย้ำกับคุณอีกรอบ แฟนมีตคุณฟังนะผมยังไม่ตายแต่ร่างผมอยู่ที่ไหนสักที่และคุณคือคนที่ต้องช่วยผมตามหาให้เจอ!”พาสต้าทำเสียงจริงจังพลางมองหน้าแฟนมีตไม่ละสายตาจนอีกฝ่ายเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเขาไ
“แล้วเรื่องที่ผมอาจจะเป็นพ่อคุณ...”“เรื่องนั้นตัดทิ้งไปก่อน ต่อให้คุณเป็นพ่อผมจริงก็คงทำอะไรไม่ได้ผมก็คงจัดการเรื่องคุณให้จบๆ ไป บอกตามตรงผมใช้ชีวิตอยู่กับแม่มานานขนาดนี้ พ่ออาจจะเป็นแค่คนในความทรงจำของผมไปแล้ว”ทั้งสองคนมองหน้ากันอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แฟนมีตรู้สึกว่ายังมีอีกหลายอย่างที่พาสต้าไม่ได้พูดออกมา“พาสต้าไม่ว่าคุณจะรู้อะไร คิดอะไร หรือมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องของคุณ คุณต้องเล่าให้ผมฟังเพราะเราจะได้รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน”“อืมม งั้นคืนนี้ผมเล่าเรื่องของผมก่อนจะตายให้ฟังเอาไหมครับ”“ไม่ง่วงหรือไง”“ไม่รู้สิ ผมไม่ได้นอนมา 25 ปีแล้ว”“งั้นก็หัดนอนซะ ผมเป็นคนและผมต้องการพักผ่อน ส่วนคุณเป็น..เป็นอะไรก็ช่างเหอะ แต่ก็ไม่ควรรบกวนคนอื่น ฉะนั้นแยกย้ายพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”พาสต้าก็กระตุกยิ้มจนเห็นลักยิ้มเล็กๆ ที่แก้มด้านขวา เขาดูเป็นผู้ชายที่รอยยิ้มสวยมากคนหนึ่งก็ว่าได้“เลิกยิ้มหลอนๆแบบนั้นได้แล้วไม่งั้นผมจะไม่ช่วยคุณจริงๆ นะ”“ผมก็แค่ดีใจที่คุณไม่เรียกผมว่าผี”“ผมไปนอนล่ะ ส่วนคุณถ้าไม่นอนก็ช่วยอยู่เงียบๆ ด้วยแล้วกัน”แฟนมีตเดินกลับเข้ามาในห้องนอนปล่อยให้พาสต้ายืนชมวิวด้านนอ
“ไง...ตื่นแล้วเหรอครับ”“อืม...”“หน้าตายังดูเพลียๆ อยู่เลย อยากนอนต่อก่อนไหม”“ไม่ๆ เดี๋ยวต้องไปทำงาน”แฟนมีตยืดแขนขากลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนอย่างที่ชอบทำประจำ เพื่อไล่ความขี้เกียจให้ออกไปจากร่างกายเมื่อคืนก็ดันนอนดึกเพราะมัวแต่คิดเรื่องของพาสต้า“เห้ยยย”“เอ้า มาตกใจอะไรกันอีก”“เปล่า..ผมแค่ยังไม่ชิน เมื่อกี้งัวเงียอยู่เลยงงๆ นิดหน่อย”“ครับ...ก็น่ารักดี”“ว่าไงนะ”“เปล่าๆ งั้นแฟนมีตทำธุระส่วนตัวเถอะ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอบบ้านรอ”หลังจากพูดจบพาสต้าก็เดินทะลุประตูหายไปแฟนมีตพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและบอกกับตัวเองว่าทุดอย่างมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่ความฝันแต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน หรือเริ่มจากใครเพราะเรื่องของพาสต้ามันก็ผ่านมาตั้ง 25 ปีแล้ว เขาไม่มีข้อมูลอะไรเลยยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจว่าสิ่งที่เขาพยายามจะช่วยเหลืออีกฝ่ายมันจะสามารถทำได้จริงหรือเปล่า:ร้านกาแฟ Penne's Cafe“ไงแฟนมีตหน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอน ไหวไหม?”“ไหวครับพี่เพนเน่ผมเอาเหมือนเดิมแก้วหนึ่ง แล้วนี่พายุกับน้ำหนาวยังไม่มาเหรอครับ”“อ๋อไอ้เจ้าแฝดกำลังมาน่ะเห็นว่าวันนี้เข้าสาย อะนี่กาแฟคั่วเข้มขมปี๋ของคุณชายแฟนมีต ตั้ง
“ไง...ตื่นแล้วเหรอครับ”“อืม...”“หน้าตายังดูเพลียๆ อยู่เลย อยากนอนต่อก่อนไหม”“ไม่ๆ เดี๋ยวต้องไปทำงาน”แฟนมีตยืดแขนขากลิ้งตัวไปมาบนเตียงนอนอย่างที่ชอบทำประจำ เพื่อไล่ความขี้เกียจให้ออกไปจากร่างกายเมื่อคืนก็ดันนอนดึกเพราะมัวแต่คิดเรื่องของพาสต้า“เห้ยยย”“เอ้า มาตกใจอะไรกันอีก”“เปล่า..ผมแค่ยังไม่ชิน เมื่อกี้งัวเงียอยู่เลยงงๆ นิดหน่อย”“ครับ...ก็น่ารักดี”“ว่าไงนะ”“เปล่าๆ งั้นแฟนมีตทำธุระส่วนตัวเถอะ เดี๋ยวผมไปเดินเล่นรอบบ้านรอ”หลังจากพูดจบพาสต้าก็เดินทะลุประตูหายไปแฟนมีตพยายามทบทวนสิ่งที่เกิดขึ้นและบอกกับตัวเองว่าทุดอย่างมันเกิดขึ้นจริงไม่ใช่ความฝันแต่เขาก็ไม่รู้ว่าต้องเริ่มจากตรงไหน หรือเริ่มจากใครเพราะเรื่องของพาสต้ามันก็ผ่านมาตั้ง 25 ปีแล้ว เขาไม่มีข้อมูลอะไรเลยยิ่งคิดก็ยิ่งหนักใจว่าสิ่งที่เขาพยายามจะช่วยเหลืออีกฝ่ายมันจะสามารถทำได้จริงหรือเปล่า:ร้านกาแฟ Penne's Cafe“ไงแฟนมีตหน้าตาเหมือนคนไม่ได้นอน ไหวไหม?”“ไหวครับพี่เพนเน่ผมเอาเหมือนเดิมแก้วหนึ่ง แล้วนี่พายุกับน้ำหนาวยังไม่มาเหรอครับ”“อ๋อไอ้เจ้าแฝดกำลังมาน่ะเห็นว่าวันนี้เข้าสาย อะนี่กาแฟคั่วเข้มขมปี๋ของคุณชายแฟนมีต ตั้ง
“แล้วเรื่องที่ผมอาจจะเป็นพ่อคุณ...”“เรื่องนั้นตัดทิ้งไปก่อน ต่อให้คุณเป็นพ่อผมจริงก็คงทำอะไรไม่ได้ผมก็คงจัดการเรื่องคุณให้จบๆ ไป บอกตามตรงผมใช้ชีวิตอยู่กับแม่มานานขนาดนี้ พ่ออาจจะเป็นแค่คนในความทรงจำของผมไปแล้ว”ทั้งสองคนมองหน้ากันอยู่แบบนั้น ไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่แฟนมีตรู้สึกว่ายังมีอีกหลายอย่างที่พาสต้าไม่ได้พูดออกมา“พาสต้าไม่ว่าคุณจะรู้อะไร คิดอะไร หรือมีอะไรเกี่ยวกับเรื่องของคุณ คุณต้องเล่าให้ผมฟังเพราะเราจะได้รู้ว่าควรเริ่มต้นจากตรงไหน”“อืมม งั้นคืนนี้ผมเล่าเรื่องของผมก่อนจะตายให้ฟังเอาไหมครับ”“ไม่ง่วงหรือไง”“ไม่รู้สิ ผมไม่ได้นอนมา 25 ปีแล้ว”“งั้นก็หัดนอนซะ ผมเป็นคนและผมต้องการพักผ่อน ส่วนคุณเป็น..เป็นอะไรก็ช่างเหอะ แต่ก็ไม่ควรรบกวนคนอื่น ฉะนั้นแยกย้ายพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”พาสต้าก็กระตุกยิ้มจนเห็นลักยิ้มเล็กๆ ที่แก้มด้านขวา เขาดูเป็นผู้ชายที่รอยยิ้มสวยมากคนหนึ่งก็ว่าได้“เลิกยิ้มหลอนๆแบบนั้นได้แล้วไม่งั้นผมจะไม่ช่วยคุณจริงๆ นะ”“ผมก็แค่ดีใจที่คุณไม่เรียกผมว่าผี”“ผมไปนอนล่ะ ส่วนคุณถ้าไม่นอนก็ช่วยอยู่เงียบๆ ด้วยแล้วกัน”แฟนมีตเดินกลับเข้ามาในห้องนอนปล่อยให้พาสต้ายืนชมวิวด้านนอ
‘มีความสุขมากๆ นะแฟนมีต’‘หล่อๆ รวยๆ นะมึง ไอ้ที่รวยอยู่แล้วก็แบ่งกูบ้าง’‘ไว้นัดกินข้าวกันนะมึง’‘แก่ขึ้นอีกปีแล้ว...คิดถึงมึงว่ะ’‘เจอกันที่บริษัทนะเว้ยยย เลี้ยงข้าวกูด้วย’หลากหลายข้อความอวยพรวันเกิดหลั่งไหลเข้ามาในมือถือราคาแพงของแฟนมีต แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีใจหรือตื่นเต้นเท่ากับเรื่องตรงหน้าของเขาในตอนนี้สักเท่าไหร่ชีวิตคนๆ หนึ่งมันจะมีอะไรน่าตื่นเต้นเท่ากับการได้นั่งคุยกับผีแบบนี้“จ้องขนาดนี้สงสัยอะไร”“คุณตายแล้ว”“ผมบอกว่าผมแค่เกือบตาย แต่ยังไม่ตาย”“ตายแล้ววว ตายมานานแล้วด้วย”“แฮร่!!!”“เห้ยยยยยยย”แฟนมีตสะดุ้งโหยงถอยหลังจนเกือบตกเก้าอี้เมื่อจู่ๆ วิญญาณพาสต้าก็พุ่งตัวเข้ามา“หล่อขนาดนี้ คุณมองผมเป็นผีได้ลงคอเลยเหรอ”“นี่กูต้องฝันอยู่แน่ๆ”“ก็ผมบอกแล้วไงว่าไม่ได้ฝัน”“แต่นี่มันไม่ใช่ละครไง คนอะไรจะมาเห็นผีนั่งคุยกับผีแบบนี้ หรือกูบ้าไปแล้ว?”“พูดไม่เพราะอีกแล้วนะ และผมคงต้องย้ำกับคุณอีกรอบ แฟนมีตคุณฟังนะผมยังไม่ตายแต่ร่างผมอยู่ที่ไหนสักที่และคุณคือคนที่ต้องช่วยผมตามหาให้เจอ!”พาสต้าทำเสียงจริงจังพลางมองหน้าแฟนมีตไม่ละสายตาจนอีกฝ่ายเผลอกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบากเขาไ
คุณคิดว่าชื่อผมแปลกหรือเปล่า ผมชื่อ “แฟนมีต” มันคือชื่อของผม ชื่อจริงๆ ตั้งแต่คลอดออกมาลืมตาดูโลกประวัติของผมเป็นที่เลื่องลือจนกระทั่งตอนนี้ผมอายุเกือบจะ25แล้ว ผมก็ยังพบเจอภาพบรรยากาศการคลอดของผมลอยอยู่เต็มโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ชื่อดัง ผมไม่ต้องมานั่งถามแม่เลยด้วยซ้ำว่าตอนเกิดผมเป็นยังไง ร้องไห้เสียงดังไหม คลอดง่ายคลอดยาก เพราะผมเห็นด้วยตาของผมเอง ใช่ครับ..พวกคุณอ่านไม่ผิด ที่ผมเห็นทุกอย่างเพราะแม่คลอดผมกลางงานคอนเสิร์ตของศิลปินนักร้องชื่อดัง!!!กลางงานที่มีคนดูนับพันคน เสียงร้องของผมที่ดังแข่งกับเสียงกรี๊ดของแฟนคลับ และผมก็ไม่รู้ว่าแม่จะดีใจหรือเสียใจที่ผมคลอดออกมาวันนั้นเพราะมันเป็นวันที่ “พาสต้า” นักร้องในดวงใจของแม่ถูกยิงร่วงกลางงานคอนเสิร์ตเช่นกัน รถพยาบาลสองคันจอดเทียบคู่กันคันหนึ่งรับหนึ่งชีวิตที่กำลังเกิด ส่วนอีกคันรับหนึ่งชีวิตที่กำลังจะตาย แล้วผมก็ได้ชื่อนี้มาอย่างไม่มีข้อกังขา ส่วนนักร้องคนนั้นเท่าที่ทราบมาเขาน่าจะเสียชีวิตไปแล้วก่อนจะถึงโรงพยาบาลเสียอีก ตอนแรกผมก็ไม่ได้คิดอะไรกับเรื่องชื่อประหลาดๆ ของผม จนกระทั่งผมบังเอิญไปเจอคลิปของแม่ที่กำลังเจ็บท้องคลอดกลางงานคอนเสิ