Chapter 3 ติดหนี้
เกือบสี่ทุ่ม รถมอเตอร์ไซด์วิ่งมาจอดอยู่หน้าทาวน์เฮ้าท์สองชั้นเนื้อที่สิบหกตารางวา หญิงสาวในชุดนักศึกษาลงจากรถ จ่ายเงินให้คนขับวินที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก่อนจะเปิดประตูรั้วลูกกรงเหล็กแล้วเดินเข้าบ้าน
'อลินดา' หญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวยโดดเด่น ผิวกายขาวเนียนละเอียด หุ่นสมส่วนมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่แสนสวยงาม เธอเรียนอยู่ปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดังเป็นคนเรียนเก่ง มุ่งมั่นตั้งใจเพื่ออนาคต แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางบ้านเท่าที่ควรจะเป็น
เสียดาย...ความเก่งดันมาพร้อมกับความอาภัพ ต้นทุนเธอไม่สูงเหมือนคนอื่น ต้องกู้เงินเรียนพร้อมกับทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนไปด้วย มีน้องชายหนึ่งคน เรียนจบแค่ ม.3 ก็ออกมาหางานทำ เป็นลูกจ้างในอู่แห่งหนึ่งเพราะชอบแว้นซ์มอเตอร์ไซด์ เงินพอใช้บ้าง ไม่พอบ้าง บางครั้งก็หยิบยืมพี่สาวที่ก็ไม่ค่อยจะมี แล้วไม่เคยใช้คืน เมื่อเข้ามาในบ้าน ภาพที่เห็นจนชินตาคือแม่นั่งดื่มเหล้า ไม่มีงานมีการทำ อาศัยเงินที่ได้จากการเล่นพนันมาต่อชีวิตไปวัน ๆ บ้านช่องไม่เคยเก็บกวาด อลินดาที่ทั้งเรียนและทำงานจนไม่ได้พักผ่อน ต้องมานั่งทำงานบ้านงก ๆ เพราะทนดูบ้านรกไม่ไหว เหนื่อยเหลือเกินกับชีวิต...แต่ก็ไม่รู้จะระบายกับใคร ไม่มีญาติพี่น้องที่ไหน พ่อกับแม่เป็นคนต่างจังหวัดที่มาหางานทำในกรุงเทพฯ ไม่เคยกลับบ้านไปเยี่ยมญาติพี่น้อง ตั้งแต่เธอจำความได้ ก็ไม่เคยได้เห็นหน้าปู่ย่าตายาย ไม่เคยรู้ว่าพวกท่านยังอยู่หรือตายไปแล้ว ส่วนพ่อของเธอน่ะเหรอ เป็นหัวหน้าครอบครัวที่ไม่เอาไหน สนใจแต่การเข้าบ่อน พ่อของเธอทำงานบริษัท เงินเดือนประมาณสามหมื่นบาท นั่นแทบไม่พอค่าใช้จ่ายในบ้านเพราะพ่อทำงานคนเดียว ไปบ่อนแถวปอยเปตแทบทุกอาทิตย์ เข้าบ่อนคืออาชีพหลัก งานประจำคืออาชีพรองเล่นมานานหลายปีเธอไม่เห็นว่าจะรวยขึ้นมา มีแต่จนลง ๆ เป็นหนี้เป็นสินไปทั่ว เพราะพ่อเธอติดการพนันเข้าเส้น เงินเดือนส่วนใหญ่จึงหมดไปกับการพนัน
"ยังไม่นอนเหรอแม่" "ยัง นอนไม่หลับ" "อืม แล้วแม่อย่านอนดึกมากนะ ลินขอไปอาบน้ำนอนก่อน" อลินดาทำท่าจะเดินเลี่ยงไปเพราะเหนื่อยอยากพักผ่อน แต่แล้วมารดาก็ยื่นจดหมายฉบับหนึ่งให้เธอดู "อะไรเหรอ" "หมายบังคับคดี" "หมายบังคับคดี! คดีอะไรเหรอแม่" สุรินทร์ถอนหายใจ เสยผม ทำหน้าเครียด "ก็พ่อแกน่ะสิ เอาบ้านไปจำนองไว้กับไฟแนนซ์ แล้วขาดส่ง เขาก็เลยจะมายึดบ้านไปขายทอดตลาด" "อะไรนะ!" อลินดาตกใจไม่น้อย เธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน "ถ้าบ้านถูกยึด จะไปอยู่ที่ไหนกันล่ะที่นี้ ลำพังจะกินเข้าไปยังไม่พอ แล้วจะเอาตังค์ที่ไหนไปเช่าบ้านอยู่" "แล้วเราขอต่อรองเจ้าหนี้ไม่ได้เลยเหรอ" "มันเลยขั้นนั้นไปแล้ว มีหมายศาลมาให้ไปเจรจากับเจ้าหนี้ แต่พ่อแกไม่ไป ปล่อยเลยมาจนเขาไปร้องกับกรมบังคับคดีขอยึดทรัพย์" อลินดากำหมัด แววตาสั่นระริกมองใบหน้ามารดาที่หมองคล้ำเพราะความเครียด "แล้วแม่รู้มั้ยว่าพ่อเอาบ้านไปจำนอง" สุรินทร์พยักหน้าเบา ๆ ไม่กล้าสบตาลูกสาว "เราติดหนี้เขาอยู่เท่าไหร่" "ค้างอยู่ห้าแสน" "ห้าแสน!" อลินดายืนตัวชา ยอดเงินช่างมหาศาลสำหรับคนจนเช่นเธอ แล้วจะไปหาจากไหนมาใช้หนี้เขาได้ทัน หยาดน้ำตารินไหลเพราะความเสียใจ คับแค้นใจ ไม่คิดเลยว่าพ่อของเธอจะทำเช่นนี้ "แล้วพ่อเขาว่าไงบ้าง" "เห็นว่าจะปล่อยให้เขายึดไป" "แม่...บ้านเป็นสมบัติชิ้นเดียวที่เรามีอยู่นะ พ่อไม่คิดจะขวนขวายเพื่อรักษามันไว้เลยเหรอ" "จนปัญญา เพราะเจ้าหนี้ไม่เจรจากับเราแล้ว" สุรินทร์ถอนหายใจ อลินดายืนน้ำตาริน ตัวสั่นใจสั่นเพราะความเสียดายบ้าน เพราะพ่อติดการพนัน ความซวยเลยพานตกมาถึงลูกเมีย "เพราะการพนันใช่มั้ยคะ ถึงทำให้ครอบครัวเราเดินมาถึงจุดนี้ ถ้าพ่อไม่ติดการพนันจนฉิบหายไปทั้งบ้าน ชีวิตลินก็คงไม่ต้องลำบากขนาดนี้!" "ลิน...พ่อเขาพยายามหาเงินมาให้พวกเรากิน พวกเราใช้ อย่าว่าพ่อเลย" "แต่ลินไม่เคยใช้เงินพ่อสักบาท!" หญิงสาวตะโกนใส่หน้ามารดา ความอดทนมาถึงขีดสุด น้ำตาไหลอาบแก้ม ใบหน้าสวยแดงเห่อ ความโกรธความเสียใจ ความผิดหวังในตัวบิดา ถาโถมเข้ามากระแทกใจแสนเปราะบาง "ถ้าพ่อไม่ติดพนัน ลำพังเงินเดือนพ่อเราก็อยู่กันได้ ลินทำงานช่วยได้อยู่แล้ว ลินไม่เคยยุ่งที่พ่อเล่นพนัน แต่ถ้าถึงขั้นเสียบ้านมันเกินไปมั้ย" "....." "แม่คงลืมไป ลินต้องทำงานงก ๆ มาตั้งแต่ ม.3 ล้างจาน เด็กเสิร์ฟ เดินเข้าไปขายของตามร้านหมูกระทะก็เคยทำ ใครจ้างทำอะไรก็ไปหมดเพื่อหาเงินเรียน เสาร์อาทิตย์ไม่เคยได้พัก ทำไมพ่อไม่สงสารลินบ้างเลย" "ลิน..." "พ่อหวังรวยทางลัดจากการพนัน แล้วเป็นไง ไหนล่ะเงิน สุดท้ายไม่เหลือสักบาท เสียเงินไม่พอ ยังต้องเสียบ้านไปอีก ไม่คิดเลยว่าผีพนันจะเข้าสิงพ่อจนเป็นไปได้ขนาดนี้ บางทีลินก็อยากตาย จะได้หลุดพ้นจากนรกตรงนี้สักที!" อลินดาเดินน้ำตานองหน้า หนีมารดาไปเข้าห้อง ในความเสียใจที่กำลังจะไร้ที่อยู่ ความเกลียดชังก็เกาะกุมหัวใจที่กำลังเปราะบาง เธอโทษไปถึงเจ้าของบ่อนการพนันที่มีส่วนทำให้ชีวิตของเธอต้องฉิบหาย โทษกลโกงสารพัดที่เจ้าของบ่อนตั้งขึ้นเพื่อดูดเงินจากนักเสี่ยงโชคไปเข้ากระเป๋า พวกเขาร่ำรวยบนคราบน้ำตาของผู้หญิงคนหนึ่งที่เกิดมาพร้อมความลำบาก ต้องปากกัดตีนถีบสารพัดเพื่อความอยู่รอดบนโลกที่หาความเท่าเทียมไม่เจอ ทำไมโลกใบนี้ช่างโหดร้ายกับเธอเหลือเกิน โลกของคนรวยเป็นอย่างไรเธอไม่รู้จัก แต่พวกเขาคงไม่รู้ว่าโลกของคนจนมันบัดซบแค่ไหน ใบหน้าสวยฟุบกันหมอนนอนสะอื้น พานเกลียดทุกคนในแวดวงคาสิโน สาปแช่งไปต่าง ๆ นานา ให้ความฉิบหายนั้นกลับไปสู่เจ้าของบ่อนพนันChapter 4 ท้าทายกรุงเทพฯยามค่ำคืนดูวุ่นวายจากกลุ่มคนที่ทยอยกันกลับบ้าน รถบนท้องถนนค่อนข้างแน่น เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้โดยง่ายในรถหรูสีดำเงาวับที่แล่นไปบนท้องถนนปะปนกับรถหลากหลายรุ่น ภาณุภัทรมีสมาธิอยู่กับการประชุมออนไลน์ผ่านแล็ปท็อป งานของเขาไม่มีเวลาเข้าออกที่ตายตัว สามารถทำงานได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าเขาจะอยู่ส่วนไหนของโลกก็ตามเหมือนจะสบาย แต่ก็ไม่ เหมือนจะง่าย ก็ไม่ง่าย การก้าวมายืนอยู่จุดสูงสุด มีคนอยู่ใต้อาณัติมากมาย มันคือความท้าทายคนวัยหนุ่มเช่นเขาต้องทำอย่างไรที่จะคุมคนเหล่านั้นให้เชื่อง ไม่มีใครคิดจะโค่นบัลลังค์ที่เขาครอบครอง ยืนหยัดมาได้ตลอดสิบกว่าปีเอี๊ยด! ปรี๊น ๆโครม!เสียงที่มาพร้อมกัน พร้อมสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกที่บริเวณท้ายรถ ภาณุภัทรเงยหน้าสบตากับคนขับผ่านกระจกส่องหลัง เก็บซ่อนอารมณ์คุกรุ่นไว้ภายใต้สีหน้าสุขุม เขารู้แล้วว่ามีอุบัติเหตุ เพียงแต่มันเกิดได้อย่างไรคนขับต้องมีคำตอบ"มีรถตัดหน้าเราครับ ผมเลยเบรกกะทันหัน"อินทัชที่นั่งคู่มากับคนขับหันมามองหน้าเจ้านายหนุ่ม"โชคดีที่เบรกทันนะครับ ไม่งั้นโดนทั้งหน้าทั้งหลัง""คุณลงไปเคลียร์ รีบเคลียร์รีบจบ อย่าให้ผมต้องเสียเว
Chapter 5 ทางตัน ฤดูฝนมาเยือน ฝนเริ่มตกชุก ท้องฟ้าเหนือเมืองใหญ่ร้องคำราม ฟาดแสงสีทองเป็นเส้นแลดูน่ากลัว ยามดึกสงัด อลินดานั่งอยู่บนเตียงนอน ตรงหน้าคือเงินปึกหนึ่งที่เก็บรวมรวมไว้เธอหยิบมานับทีละใบ มีทั้งแบงค์ม่วง แบงค์แดง แบงค์เทามีไม่มาก กวาดเศษเหรียญมาได้อีกจำนวนหนึ่ง มันคือที่เงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง ตั้งใจเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวการศึกษา"ยังไม่ถึงสองหมื่นเลย"หญิงสาวถอนหายใจ มองเงินตรงหน้าแล้วเศร้า ความเครียดยิ่งถาโถม เวลาก็ใกล้เข้ามาทุกที หากอยากรักษาบ้านไว้ก็ต้องนำเงินก้อนไปจ่ายเจ้าหนี้ เหมือนระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังเมื่อถึงเลขศูนย์เมื่อไหร่ หล่อนก็ตายเมื่อนั้นอีกทั้งเรื่องที่น้องชายก่อเอาไว้ รวม ๆ กันแล้วเป็นหนี้เกือบล้าน ต่อให้เรียนจบมีทำงานทำ เธอก็ยังไม่รู้เลยว่า จะหาเงินล้านแรกจากการเป็นลูกจ้างได้ตอนไหน เงินมันมากเกินไปสำหรับคนต้นทุนชีวิตไม่สูงเช่นเธอเธอไม่อยากเป็นคนอ่อนแอ ที่ผ่านมาก็พยายามทำตัวเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา สู้เพื่ออนาคตที่ดี แต่ครั้งนี้มันหนักเกินไป หนักเกินที่สองมือเล็ก ๆ จะแบกรับเอาไว้ได้"สงสัยเธอคงต้องปล่อยแล้วแหละ ลินเอ๊ย"คนที่กำลังสับ
Chapter 6 งานดีเมื่อแสงอาทิตย์ทาบทาซีกโลกตะวันตก เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวบินผ่านน่านฟ้าอาร์เจนตินามุ่งหน้าสู่ชิลี...ภายในห้องโดยสารที่การตกแต่งแสนหรูหรา สะดวกสบาย ภาณุภัทรนั่งอยู่ในท่าผ่อนคลาย บนเก้าอี้หนานุ่มริมหน้าต่าง มือใหญ่ที่ตรงข้อมือสวมบุลการีออคโตถือแก้วคริสตัลใบสวย เขาส่ายแก้วเป็นวงกลม ค่อย ๆ ละเลียดแคนาเดียนวิสกี้ลงคอ ในช่วงเวลาผ่อนคลาย แววตาเข้มมองผ่านหน้าต่าง เบื้องล่างคือเทือกเขาแอนดีสที่ทอดยาวพาดผ่านถึงเจ็ดประเทศ เริ่มต้นจากเวเนซุเอลาไปสิ้นสุดที่อาร์เจนตินา มันขาวโพลนจากหิมะหนาปกคลุม ขณะที่เขากำลังจดจ่ออยู่กับอะไรบางอย่างบนแล็ปท็อป อินทัชก็เดินเข้ามาหาเจ้านายถึงห้องพักผ่อนส่วนตัว ในช่วงเวลาพักผ่อนเช่นนี้ ไม่มีใครกล้า นอกจากอินทัช "ขอรบกวนสักครู่ครับคุณคีย์" ภาณุภัทรเงยหน้ามอง พยักหน้าเล็กน้อย "รู้ตัวคนที่เอาข้อมูลเราไปขายให้ศัตรูแล้วครับ" แววตาเข้มเหลือบมอง สายตาที่อินทัชสัมผัสได้ แม้นายจะไม่สั่งออกมาเป็นคำพูด แต่เขารู้ว่าต้องทำอะไรต่อ "ให้ผมจัดการเลยไหม" ภาณุภัทรจิบแคนาเดียนวิสกี้ลงคอ ตามด้วยช็อกโกแลตที่กินแกล้
Chapter 7เสืออเมริกาใต้ชิลี...ประเทศที่อุดมไปด้วยความหลากหลาย ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า ทะเลทราย เทือกเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เกาะอีสเตอร์อันโด่งดัง คือจุดหมายปลายทางที่ใครหลายคนใฝ่ฝันหากแต่ไม่ใช่ 'อลินดา' เธอไม่ได้อยากมาที่นี่ แต่แค่เลือกไม่ได้เมื่อ 'เขาคนนั้น' ส่งเครื่องบินส่วนตัวไปรับถึงเมืองไทย เพราะความร้อนเงิน เธอตกลงทันที ทั้งที่ยังไม่รู้จักลูกค้าคนนี้ดีพอด้วยซ้ำรถหรูแล่นมาตามเนินเขาที่เลียบเลาะชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ในรถที่แอร์เย็นฉ่ำ แต่อลินดากลับนั่งเหงื่อซึมไรผม สองมือที่กำอยู่บนตักชื้นไปด้วยเหงื่อใจเธอเต้นแรง มีทั้งความกลัวและความตื่นเต้น แม้ตลอดสองข้างทางที่นั่งรถผ่าน วิวทิวทัศน์จะสวยตื่นตาตื่นใจสักแค่ไหน แต่เธอไม่มีอารมณ์ที่จะเสพความสุขกับธรรมชาติรอบกายมันเป็นการมาต่างประเทศครั้งแรกที่อยากจะเปลี่ยนใจกลับบ้าน นับตั้งแต่ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์เมนิลาบอกเธอโชคดี เจอลูกค้าเศรษฐีที่รวยโคตร ๆ ได้นั่งเครื่องบินเครื่องส่วนตัวมาไกลถึงชิลี ประเทศที่หลายคนอยากมาแต่เพราะสู้ค่าเดินทางไม่ไหวแต่อลินดากลับไม่รู้สึกว่าตนเองโชคดีอะไรขนาดนั้น เพราะเธอไม่ได้มาเที่ยว แค่มาขายเรือ
Chapter 8 เรียกร้อง อินทัชพาอลินดาเดินมาส่งที่หน้าห้องหนึ่ง มีบานประตูที่ทำจากไม้กว้างเกือบสี่เมตร ในความตื่นกลัวจนใจเต้นระรัว อลินดาเริ่มรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ 'เรา...เป็นอะไร...' จิตสำนึกบางอย่างร้องบอก แววตาตื่นตระหนกมองหน้าผู้ชายที่กำลังจะสัมผัสลงบนแผงควบคุมที่หน้าห้อง "คุณเจตต์ มีอะไรในน้ำส้มคะ!" แววตาเข้มมองใบหน้าสวยที่เริ่มแดงเห่อ มองด้วยสายตาที่สื่อให้รู้ว่า ไม่แปลก ไม่ต้องตกใจ เพราะเธอไม่ใช่คนแรกที่โดน "เข้าไปข้างในเถอะ เขารอเธออยู่" "พวกคุณใส่อะไรลงในน้ำที่ลินกิน!" อินทัชแตะปลายนิ้วลงบนแผงควบคุม โดยไม่คิดจะตอบคำถามของคนตรงหน้า ประตูค่อย ๆ เลื่อนขึ้นอย่างช้า ๆ แล้วชายหนุ่มก็ทำท่าหันหลังเดินหนี ปล่อยให้อลินดายืนละล้าละลัง "เดี๋ยวค่ะ! คุณจะไปไหน คุณให้ลินกินอะไรเข้าไปคะ คุณเจตต์! คุณเจตต์! " หญิงสาวร้องเรียก ทำท่าจะเดินตามอินทัชไป หากแต่เขาก็ไม่เหลียวหลัง ความหวาดกลัวแล่นมาเกาะกุมใจ จนการ์ดคนหนึ่งต้องปราดมาดักหน้า สองขาเรียวต้องชะงัก แววตาเลิ่กลั่ก เมื่อชนเข้ากับกายกำยำ ชายท
Chapter 9 เปิดซิงในอารมณ์หวามจากสัมผัสแปลกใหม่ จูบแสนหวานจากชายแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย ร่างกายของเธอเบาหวิว ใจล่องลอย สมองมึนเบลอราวกำลังฝันมือร้อนฉ่าของเขาลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงาม เคล้นคลึงอกอวบอิ่มที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัส เธอปล่อยใจและกายดำดิ่ง ไม่สนใจว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำอะไรกับร่างกายตนบ้างเธอรับรู้แค่ว่ามีใครบางคนมานั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง จับร่างเธอให้เอนซุกซบกับกายอุ่น สอดแขนมาด้านหน้าแล้วลูบไล้ไปตามผิวกายเนียนละเอียด ในขณะที่เขาลากมือเข้าหากลางกายของเธอ ลูบไล้เนินเนื้อที่แสนหวงแหนปลายนิ้วแกร่งกรีดผ่านรอยแยกที่ปิดสนิท สอดนิ้วลึกล้ำเข้าสู่เส้นทางรักอย่างอ่อนละมุนใจเย็น สัมผัสหวามที่ทำเอาแทบหยุดหายใจอลินดาเริ่มหายใจแรง สติกระเจิดกระเจิง สิ่งแปลกปลอมที่กระตุ้นความรู้สึกซ่านเสียวทำให้ใจเคลิบเคลิ้ม ไม่อาจควบคุมความรู้สึกนึกคิดหญิงสาวเงยหน้าขึ้นหาเจ้าของอ้อมกอดที่คลอเคลีย แลกจูบกับเธอคนนั้น ใจเธอเรียกร้อง สมองฟุ้งซ่าน ยามนิ้วร้อนฟอนเฟ้นอยู่ในกายสาวที่ชื้นฉ่ำ เขามอบประสบการณ์รักที่ไม่เคยพานพบ การปลุกเร้าผสานฤทธิ์ยาทำให้เธอคล้อยตามไปกับเกมสวาทที่ตกเป็นผู้เล่น ราวอยู่ในฝันที่เ
Chapter 10 แซนด์วิช ชายหนุ่มขบกรามแน่น เมื่อความนุ่มหยุ่นอุ่นซ่านท้าทายเร่งเร้าให้เขาปลดปล่อย เสียงสูดปากเบา ๆ มาพร้อมกับท่อนเนื้อแกร่งที่ถูกถอดถอนออกมาจากร่องสวาท มันยังเร็วเกินไป เขาต้องการเสพความสุขจากเรือนร่างแสนสวยงามให้นานกว่านี้ ซื้อเธอมาด้วยเงินเกือบล้าน ก็ต้องให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เขาเปลี่ยนท่า ท่อนแขนแกร่งตวัดร่างนุ่มเนียนให้ตามขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัก มือร้อนช้อนไปใต้ก้นขาวเนียนแล้วยกขึ้น มืออีกข้างกุมความเป็นชายที่เปื้อนสายเลือดบริสุทธิ์ ถูไถดึงดันกับกลีบเนื้อแดงระเรื่อ กดสะโพกกลมกลึงให้ร่องสวาทกลืนกินตัวตนของเขาจนสุดปลายทางลึกล้ำและลึกซึ้ง ความคับแน่นที่ขับลมหายใจร้อนผ่าวออกจากริมฝีปากหยักสวย อลินดาซุกหน้าเข้าหาบ่ากว้าง เขาสอนให้สะโพกกลมกลึงโยกขยับสอดรับจังหวะกระแทกกระทั้นจากแก่นกายร้อนเร่า มันคือแรงขับจากภายใน มาจากอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เธอส่ายเอวเป็นวงกลม บดเบียดเนินเนื้อให้แท่งร้อนสอดลึกล้ำความท้าทายที่ทำให้เขาเสียทรง เสียงครางแห่งความซ่านเสียวลอดผ่านริมฝีปากร้อนอย่างทนเก็บกลั้นเอาไว้ไม่ไหว
Chapter 1 Intro ประเทศชิลี..ในห้องโอ่โถงที่แสนหรูหรา ไฟในเตาผิงเผาไหม้ไม้จนลุกโชน ข้างหน้าเตาคือชุดเดย์เบดสีขาว พื้นปูพรมขนนุ่มสีน้ำตาล ถัดไปเป็นหน้าต่างบานใหญ่กว้างถึงแปดเมตร มองเห็นปุยหิมะด้านนอกโปรยปรายลงมาเป็นสายสีขาวในยามค่ำคืน 'ภาณุภัทร เมธากุล' ผู้ครอบครองบ้านพักตากอากาศสุดหรูบนชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ในเขตแดนประเทศชิลี เขามีธุรกิจมากมายในมือ และกระจายอยู่ทั่วโลก หนึ่งนั้นคือคาสิโน ในแวดวงนี้ ชื่อภาณุภัทรติดโผในฐานะเจ้าของบ่อนใหญ่ติดอันดับโลก ดูดเงินจากนักเสี่ยงโชคมากมาย ที่หวังรวยทางลัด เขาแค่นั่งกระดิกขาอยู่เฉย ๆ ก็มีคนเอาเงินมาประเคนให้ นั่นทำให้เขารวยล้นฟ้า อำนาจ เงิน ผู้หญิง คือสามสิ่งที่มาเฟียหนุ่มไม่เคยขาด โลกของคนจนบัดซบแค่ไหนเขาไม่รู้จัก ระดับเขาแล้วแบงค์เทาสิบใบยังไร้ค่า ความสุขสบาย ทำให้เขาใช้ชีวิตสุดเหวี่ยง เซ็กส์คือกิจกรรมที่เขาโปรดปราน ซื้อกินเป็นอาชีพ ขอแค่ถูกใจ เขาเปย์ให้ไม่อั้น ร่างเปลือยเปล่าหุ่นสมชายชาตรีนั่งอยู่บนเดย์เบดสีขาว สองแขนเหยียดตรงพาดอยู่บนพนักพิง ใบหน้าหล่อเหลาเงยซบยามลิ้นนุ่มแย่งกันกลืนกินแท่งเนื้
Chapter 10 แซนด์วิช ชายหนุ่มขบกรามแน่น เมื่อความนุ่มหยุ่นอุ่นซ่านท้าทายเร่งเร้าให้เขาปลดปล่อย เสียงสูดปากเบา ๆ มาพร้อมกับท่อนเนื้อแกร่งที่ถูกถอดถอนออกมาจากร่องสวาท มันยังเร็วเกินไป เขาต้องการเสพความสุขจากเรือนร่างแสนสวยงามให้นานกว่านี้ ซื้อเธอมาด้วยเงินเกือบล้าน ก็ต้องให้คุ้มค่ากับเงินที่เสียไป เขาเปลี่ยนท่า ท่อนแขนแกร่งตวัดร่างนุ่มเนียนให้ตามขึ้นมานั่งคร่อมอยู่บนตัก มือร้อนช้อนไปใต้ก้นขาวเนียนแล้วยกขึ้น มืออีกข้างกุมความเป็นชายที่เปื้อนสายเลือดบริสุทธิ์ ถูไถดึงดันกับกลีบเนื้อแดงระเรื่อ กดสะโพกกลมกลึงให้ร่องสวาทกลืนกินตัวตนของเขาจนสุดปลายทางลึกล้ำและลึกซึ้ง ความคับแน่นที่ขับลมหายใจร้อนผ่าวออกจากริมฝีปากหยักสวย อลินดาซุกหน้าเข้าหาบ่ากว้าง เขาสอนให้สะโพกกลมกลึงโยกขยับสอดรับจังหวะกระแทกกระทั้นจากแก่นกายร้อนเร่า มันคือแรงขับจากภายใน มาจากอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน เธอส่ายเอวเป็นวงกลม บดเบียดเนินเนื้อให้แท่งร้อนสอดลึกล้ำความท้าทายที่ทำให้เขาเสียทรง เสียงครางแห่งความซ่านเสียวลอดผ่านริมฝีปากร้อนอย่างทนเก็บกลั้นเอาไว้ไม่ไหว
Chapter 9 เปิดซิงในอารมณ์หวามจากสัมผัสแปลกใหม่ จูบแสนหวานจากชายแปลกหน้าที่ไม่คุ้นเคย ร่างกายของเธอเบาหวิว ใจล่องลอย สมองมึนเบลอราวกำลังฝันมือร้อนฉ่าของเขาลูบไล้ไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งที่สวยงาม เคล้นคลึงอกอวบอิ่มที่ไม่เคยมีใครได้สัมผัส เธอปล่อยใจและกายดำดิ่ง ไม่สนใจว่าผู้ชายตรงหน้าจะทำอะไรกับร่างกายตนบ้างเธอรับรู้แค่ว่ามีใครบางคนมานั่งซ้อนอยู่ข้างหลัง จับร่างเธอให้เอนซุกซบกับกายอุ่น สอดแขนมาด้านหน้าแล้วลูบไล้ไปตามผิวกายเนียนละเอียด ในขณะที่เขาลากมือเข้าหากลางกายของเธอ ลูบไล้เนินเนื้อที่แสนหวงแหนปลายนิ้วแกร่งกรีดผ่านรอยแยกที่ปิดสนิท สอดนิ้วลึกล้ำเข้าสู่เส้นทางรักอย่างอ่อนละมุนใจเย็น สัมผัสหวามที่ทำเอาแทบหยุดหายใจอลินดาเริ่มหายใจแรง สติกระเจิดกระเจิง สิ่งแปลกปลอมที่กระตุ้นความรู้สึกซ่านเสียวทำให้ใจเคลิบเคลิ้ม ไม่อาจควบคุมความรู้สึกนึกคิดหญิงสาวเงยหน้าขึ้นหาเจ้าของอ้อมกอดที่คลอเคลีย แลกจูบกับเธอคนนั้น ใจเธอเรียกร้อง สมองฟุ้งซ่าน ยามนิ้วร้อนฟอนเฟ้นอยู่ในกายสาวที่ชื้นฉ่ำ เขามอบประสบการณ์รักที่ไม่เคยพานพบ การปลุกเร้าผสานฤทธิ์ยาทำให้เธอคล้อยตามไปกับเกมสวาทที่ตกเป็นผู้เล่น ราวอยู่ในฝันที่เ
Chapter 8 เรียกร้อง อินทัชพาอลินดาเดินมาส่งที่หน้าห้องหนึ่ง มีบานประตูที่ทำจากไม้กว้างเกือบสี่เมตร ในความตื่นกลัวจนใจเต้นระรัว อลินดาเริ่มรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างไม่ปกติ 'เรา...เป็นอะไร...' จิตสำนึกบางอย่างร้องบอก แววตาตื่นตระหนกมองหน้าผู้ชายที่กำลังจะสัมผัสลงบนแผงควบคุมที่หน้าห้อง "คุณเจตต์ มีอะไรในน้ำส้มคะ!" แววตาเข้มมองใบหน้าสวยที่เริ่มแดงเห่อ มองด้วยสายตาที่สื่อให้รู้ว่า ไม่แปลก ไม่ต้องตกใจ เพราะเธอไม่ใช่คนแรกที่โดน "เข้าไปข้างในเถอะ เขารอเธออยู่" "พวกคุณใส่อะไรลงในน้ำที่ลินกิน!" อินทัชแตะปลายนิ้วลงบนแผงควบคุม โดยไม่คิดจะตอบคำถามของคนตรงหน้า ประตูค่อย ๆ เลื่อนขึ้นอย่างช้า ๆ แล้วชายหนุ่มก็ทำท่าหันหลังเดินหนี ปล่อยให้อลินดายืนละล้าละลัง "เดี๋ยวค่ะ! คุณจะไปไหน คุณให้ลินกินอะไรเข้าไปคะ คุณเจตต์! คุณเจตต์! " หญิงสาวร้องเรียก ทำท่าจะเดินตามอินทัชไป หากแต่เขาก็ไม่เหลียวหลัง ความหวาดกลัวแล่นมาเกาะกุมใจ จนการ์ดคนหนึ่งต้องปราดมาดักหน้า สองขาเรียวต้องชะงัก แววตาเลิ่กลั่ก เมื่อชนเข้ากับกายกำยำ ชายท
Chapter 7เสืออเมริกาใต้ชิลี...ประเทศที่อุดมไปด้วยความหลากหลาย ธารน้ำแข็ง ทะเลสาบ ทุ่งหญ้า ทะเลทราย เทือกเขาสูงที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ เกาะอีสเตอร์อันโด่งดัง คือจุดหมายปลายทางที่ใครหลายคนใฝ่ฝันหากแต่ไม่ใช่ 'อลินดา' เธอไม่ได้อยากมาที่นี่ แต่แค่เลือกไม่ได้เมื่อ 'เขาคนนั้น' ส่งเครื่องบินส่วนตัวไปรับถึงเมืองไทย เพราะความร้อนเงิน เธอตกลงทันที ทั้งที่ยังไม่รู้จักลูกค้าคนนี้ดีพอด้วยซ้ำรถหรูแล่นมาตามเนินเขาที่เลียบเลาะชายฝั่งมหาสมุทรแปซิฟิก ในรถที่แอร์เย็นฉ่ำ แต่อลินดากลับนั่งเหงื่อซึมไรผม สองมือที่กำอยู่บนตักชื้นไปด้วยเหงื่อใจเธอเต้นแรง มีทั้งความกลัวและความตื่นเต้น แม้ตลอดสองข้างทางที่นั่งรถผ่าน วิวทิวทัศน์จะสวยตื่นตาตื่นใจสักแค่ไหน แต่เธอไม่มีอารมณ์ที่จะเสพความสุขกับธรรมชาติรอบกายมันเป็นการมาต่างประเทศครั้งแรกที่อยากจะเปลี่ยนใจกลับบ้าน นับตั้งแต่ล้อเครื่องบินแตะรันเวย์เมนิลาบอกเธอโชคดี เจอลูกค้าเศรษฐีที่รวยโคตร ๆ ได้นั่งเครื่องบินเครื่องส่วนตัวมาไกลถึงชิลี ประเทศที่หลายคนอยากมาแต่เพราะสู้ค่าเดินทางไม่ไหวแต่อลินดากลับไม่รู้สึกว่าตนเองโชคดีอะไรขนาดนั้น เพราะเธอไม่ได้มาเที่ยว แค่มาขายเรือ
Chapter 6 งานดีเมื่อแสงอาทิตย์ทาบทาซีกโลกตะวันตก เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวบินผ่านน่านฟ้าอาร์เจนตินามุ่งหน้าสู่ชิลี...ภายในห้องโดยสารที่การตกแต่งแสนหรูหรา สะดวกสบาย ภาณุภัทรนั่งอยู่ในท่าผ่อนคลาย บนเก้าอี้หนานุ่มริมหน้าต่าง มือใหญ่ที่ตรงข้อมือสวมบุลการีออคโตถือแก้วคริสตัลใบสวย เขาส่ายแก้วเป็นวงกลม ค่อย ๆ ละเลียดแคนาเดียนวิสกี้ลงคอ ในช่วงเวลาผ่อนคลาย แววตาเข้มมองผ่านหน้าต่าง เบื้องล่างคือเทือกเขาแอนดีสที่ทอดยาวพาดผ่านถึงเจ็ดประเทศ เริ่มต้นจากเวเนซุเอลาไปสิ้นสุดที่อาร์เจนตินา มันขาวโพลนจากหิมะหนาปกคลุม ขณะที่เขากำลังจดจ่ออยู่กับอะไรบางอย่างบนแล็ปท็อป อินทัชก็เดินเข้ามาหาเจ้านายถึงห้องพักผ่อนส่วนตัว ในช่วงเวลาพักผ่อนเช่นนี้ ไม่มีใครกล้า นอกจากอินทัช "ขอรบกวนสักครู่ครับคุณคีย์" ภาณุภัทรเงยหน้ามอง พยักหน้าเล็กน้อย "รู้ตัวคนที่เอาข้อมูลเราไปขายให้ศัตรูแล้วครับ" แววตาเข้มเหลือบมอง สายตาที่อินทัชสัมผัสได้ แม้นายจะไม่สั่งออกมาเป็นคำพูด แต่เขารู้ว่าต้องทำอะไรต่อ "ให้ผมจัดการเลยไหม" ภาณุภัทรจิบแคนาเดียนวิสกี้ลงคอ ตามด้วยช็อกโกแลตที่กินแกล้
Chapter 5 ทางตัน ฤดูฝนมาเยือน ฝนเริ่มตกชุก ท้องฟ้าเหนือเมืองใหญ่ร้องคำราม ฟาดแสงสีทองเป็นเส้นแลดูน่ากลัว ยามดึกสงัด อลินดานั่งอยู่บนเตียงนอน ตรงหน้าคือเงินปึกหนึ่งที่เก็บรวมรวมไว้เธอหยิบมานับทีละใบ มีทั้งแบงค์ม่วง แบงค์แดง แบงค์เทามีไม่มาก กวาดเศษเหรียญมาได้อีกจำนวนหนึ่ง มันคือที่เงินที่ได้มาจากน้ำพักน้ำแรง ตั้งใจเก็บไว้เป็นค่าใช้จ่ายเกี่ยวการศึกษา"ยังไม่ถึงสองหมื่นเลย"หญิงสาวถอนหายใจ มองเงินตรงหน้าแล้วเศร้า ความเครียดยิ่งถาโถม เวลาก็ใกล้เข้ามาทุกที หากอยากรักษาบ้านไว้ก็ต้องนำเงินก้อนไปจ่ายเจ้าหนี้ เหมือนระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลังเมื่อถึงเลขศูนย์เมื่อไหร่ หล่อนก็ตายเมื่อนั้นอีกทั้งเรื่องที่น้องชายก่อเอาไว้ รวม ๆ กันแล้วเป็นหนี้เกือบล้าน ต่อให้เรียนจบมีทำงานทำ เธอก็ยังไม่รู้เลยว่า จะหาเงินล้านแรกจากการเป็นลูกจ้างได้ตอนไหน เงินมันมากเกินไปสำหรับคนต้นทุนชีวิตไม่สูงเช่นเธอเธอไม่อยากเป็นคนอ่อนแอ ที่ผ่านมาก็พยายามทำตัวเข้มแข็ง ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา สู้เพื่ออนาคตที่ดี แต่ครั้งนี้มันหนักเกินไป หนักเกินที่สองมือเล็ก ๆ จะแบกรับเอาไว้ได้"สงสัยเธอคงต้องปล่อยแล้วแหละ ลินเอ๊ย"คนที่กำลังสับ
Chapter 4 ท้าทายกรุงเทพฯยามค่ำคืนดูวุ่นวายจากกลุ่มคนที่ทยอยกันกลับบ้าน รถบนท้องถนนค่อนข้างแน่น เสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้โดยง่ายในรถหรูสีดำเงาวับที่แล่นไปบนท้องถนนปะปนกับรถหลากหลายรุ่น ภาณุภัทรมีสมาธิอยู่กับการประชุมออนไลน์ผ่านแล็ปท็อป งานของเขาไม่มีเวลาเข้าออกที่ตายตัว สามารถทำงานได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าเขาจะอยู่ส่วนไหนของโลกก็ตามเหมือนจะสบาย แต่ก็ไม่ เหมือนจะง่าย ก็ไม่ง่าย การก้าวมายืนอยู่จุดสูงสุด มีคนอยู่ใต้อาณัติมากมาย มันคือความท้าทายคนวัยหนุ่มเช่นเขาต้องทำอย่างไรที่จะคุมคนเหล่านั้นให้เชื่อง ไม่มีใครคิดจะโค่นบัลลังค์ที่เขาครอบครอง ยืนหยัดมาได้ตลอดสิบกว่าปีเอี๊ยด! ปรี๊น ๆโครม!เสียงที่มาพร้อมกัน พร้อมสัมผัสได้ถึงแรงกระแทกที่บริเวณท้ายรถ ภาณุภัทรเงยหน้าสบตากับคนขับผ่านกระจกส่องหลัง เก็บซ่อนอารมณ์คุกรุ่นไว้ภายใต้สีหน้าสุขุม เขารู้แล้วว่ามีอุบัติเหตุ เพียงแต่มันเกิดได้อย่างไรคนขับต้องมีคำตอบ"มีรถตัดหน้าเราครับ ผมเลยเบรกกะทันหัน"อินทัชที่นั่งคู่มากับคนขับหันมามองหน้าเจ้านายหนุ่ม"โชคดีที่เบรกทันนะครับ ไม่งั้นโดนทั้งหน้าทั้งหลัง""คุณลงไปเคลียร์ รีบเคลียร์รีบจบ อย่าให้ผมต้องเสียเว
Chapter 3 ติดหนี้ เกือบสี่ทุ่ม รถมอเตอร์ไซด์วิ่งมาจอดอยู่หน้าทาวน์เฮ้าท์สองชั้นเนื้อที่สิบหกตารางวา หญิงสาวในชุดนักศึกษาลงจากรถ จ่ายเงินให้คนขับวินที่คุ้นหน้าคุ้นตากันดี ก่อนจะเปิดประตูรั้วลูกกรงเหล็กแล้วเดินเข้าบ้าน 'อลินดา' หญิงสาวที่มีหน้าตาสะสวยโดดเด่น ผิวกายขาวเนียนละเอียด หุ่นสมส่วนมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่แสนสวยงาม เธอเรียนอยู่ปีสุดท้ายในมหาวิทยาลัยของรัฐชื่อดังเป็นคนเรียนเก่ง มุ่งมั่นตั้งใจเพื่ออนาคต แต่กลับไม่ได้รับการสนับสนุนจากทางบ้านเท่าที่ควรจะเป็น เสียดาย...ความเก่งดันมาพร้อมกับความอาภัพ ต้นทุนเธอไม่สูงเหมือนคนอื่น ต้องกู้เงินเรียนพร้อมกับทำงานหาเงินส่งตัวเองเรียนไปด้วย มีน้องชายหนึ่งคน เรียนจบแค่ ม.3 ก็ออกมาหางานทำ เป็นลูกจ้างในอู่แห่งหนึ่งเพราะชอบแว้นซ์มอเตอร์ไซด์ เงินพอใช้บ้าง ไม่พอบ้าง บางครั้งก็หยิบยืมพี่สาวที่ก็ไม่ค่อยจะมี แล้วไม่เคยใช้คืน เมื่อเข้ามาในบ้าน ภาพที่เห็นจนชินตาคือแม่นั่งดื่มเหล้า ไม่มีงานมีการทำ อาศัยเงินที่ได้จากการเล่นพนันมาต่อชีวิตไปวัน ๆ บ้านช่องไม่เคยเก็บกวาด อลินดาที่ทั้งเรียนและทำงานจนไม่ได้พักผ่อน ต้องมา
Chapter 2 ปมอดีต แพนอเมริกันที่ทอดยาวกว่า 19000 ไมล์ เชื่อมอเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ไว้ด้วยกัน จุดเริ่มต้นคืออลาสก้าไปสู่ปลายทางในเขตแดนบราซิลบนเส้นทางสายเปลี่ยว Bentley สีดำเงาวับแล่นฉิวไปบนนท้องถนนในเขตแดนเม็กซิโก เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องอาชญากรรมติดอันดับโลก รถคุ้มกัน Bentley ประกบหน้าหลัง ล้วนเป็นทหารรับจ้างฝีมือดีที่ถูกจ้างมาเป็นการ์ดคุ้มกันคนรวย และบรรดาผู้มีอิทธิพลที่ล้วนมีศัตรูซ่อนอยู่ในมุมมืด ในรถคันหรู บทสนทนาของคนสองคนระหว่างลูกชายและผู้เป็นพ่อที่กำธุรกิจมากมายไว้ในมือ เป็นเรื่องของความหวังและเป้าหมายในอนาคต ผู้สืบทอดธุรกิจเมื่อยามที่เขาวางมือ เรื่องการแต่งงานของลูกชายและส่วนใหญ่มักลงเอยด้วยความไม่ลงรอยกัน "ฉันวางอนาคตไว้ให้นายหมดแล้ว รวมทั้งเรื่องการแต่งงาน นายจะต้องแต่งงานกับผู้หญิงที่ฉันหาไว้ให้" ภาณุภัทรในวัยยี่สิบสอง เพิ่งเรียนจบ เขาคิดว่าตัวเองยังเด็กเกินกว่าจะพูดถึงเรื่องแต่งงาน แววตาที่ออกจะต่อต้านความคร่ำครึมองเหยียด ภาษากายที่สื่อถึงความดื้อและหัวแข็ง "ถ้าผมยังไม่อยากมีเมีย อยากรู้เหมือนกันว่าป๊าจะทำยังไง"