วันถัดมาแสงแดดจ้าในช่วงเที่ยงส่องผ่านผ้าม่านมากระทบใบหน้าสวยปลุกให้เธอตื่นจากความฝัน..ขนมปังเพียงขยับตัวพลิกความปวดร้าวมันก็แล่นไปทั่วทั้งร่างกาย แค่เธอขยับเหยียดขาความเจ็บมันก็พุ่งปรี๊ดขึ้นมาจนถึงหัวไม่ต้องบอกเธอก็รู้ว่าน้องสาวด้านล่างคงจะบวมแดงเจ็บระบมหรืออาจจะฉีกขาดด้วยซ้ำ ไหนจะที่ก้นอีก.. แค่จะขยับตัวแค่พลิกเล็กน้อยก็เจ็บไปหมดทุกส่วนของร่างกาย“โอ๊ย เจ็บจัง”ทำไมเธอถึงต้องมาเจอผู้ชายสารเลวอย่างอีวานด้วย พ่อแม่ยังไม่เคยตีเธอด้วยซ้ำ!‘คิดถึงพ่อกับแม่จัง’“อะไร ทำไมเราถึงร้องไห้ออกมากันล่ะ” จู่ ๆ น้ำตาก็ไหลออกมา เธอเม้มปากใช้แขนทั้งสองข้างยันให้ตัวเองลุกขึ้นนั่งเธอก้มมองตัวเองที่อยู่ในชุดนอนและนั่งอยู่ในห้องตัวเอง มองเห็นรอยช้ำรอยกัดตามแขนตัวเองก็ยิ่งทำให้ความรู้สึกของเธอดิ่งลงไปอีก“ตื่นแล้วเหรอ”ยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดอะไรไปมากกว่านั้นก็มีเสียงทุ้มต่ำละมุนของชายหนุ่มที่ทำให้เธอมีสภาพไม่ต่างจากโดนรุมโทรม..“อย่าเงียบใส่ฉัน”“มีตาไหมคะ ไม่ตื่นจะลุกมานั่งแบบนี้ได้ไหม”“ตื่นมาก็ปากเก่งเลยนะ”ขนมปังไม่คิดจะมองหน้าผู้สนทนากับเธอด้วยซ้ำ อีวานยืนกอดอกมองเธอจากฝั่งของประตูห้องนอน ส่วนขน
“พรุ่งนี้เตรียมตัวถ่ายงาน อย่าทำตัวสำออย ทำงานให้คุ้มกับค่าตัวที่ฉันจ่าย”“ฉันบอกให้ออกไป!”อีวานยกยิ้มมุมอย่างไม่ยี่หระก่อนจะหันหลังเดินออกไป ทำตัวไม่รู้สึกรู้สาอะไรเมื่อโดนคนที่เขายกพื้นที่ในบ้านให้“ฮือ ๆ ไอ้คนใจร้าย”ขนมปังนอนลงตะแคงข้างปลดปล่อยน้ำตาให้หลั่งไหลออกมาอย่างกับสายน้ำ“ฉันจะไม่มีวันรักคุณ ฮึกฮือๆ”มือเล็กทุบลงกลางอก เธอเจ็บใจจากที่เคยมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเขา และคิดว่ามันคงจะดีกว่านี้ถ้าอนาคตเขาจะเปลี่ยนนิสัยไปบ้าง แต่คำพูดเขาวันนี้มันทำให้เธอคิดได้ว่าเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงนิสัยใครได้กลับกัน ขนมปังคงไม่รู้ว่าในตอนที่เขาเดินออกไปนั้น อีวานยังคงยืนอยู่ที่หน้าประตูห้องนอน เขายืนฟังเสียงเธอร้องไห้ และเกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้นมาในจิตใจอันแข็งแกร่งการกระทำ คำพูด สวนทางกับความรู้สึกลึก ๆ แท้จริงของตัวเอง แสดงออกว่าเป็นคนใจร้าย บอกว่าไม่อยากรัก ไม่อยากให้เะอท้องลูกตัวเอง แต่พอเจอคำพูดขนมปังสวนกลับมาเขาดันมีความโกรธเคืองเธอ‘กูยืนทำบ้าอะไรวะ’‘สงสาร?’‘มันคือความรู้สึกสงสารใช่ไหมวะ..’ห้องทำงานอีวานเข้ามาทำงานในไร่ตั้งแต่เช้าพอเที่ยงก็ออกไปหาขนมปังเดาว่าเธอคงจะตื่นก็จริงม
ปัง!เสียงประตูห้องนอนถูกผลักออกอย่างแรงจนไปชนกับผนังห้องเสียงดังสนั่น ร่างบางสะดุ้งตัวเล็กน้อยตกใจ เธอรู้ในทันทีว่าเป็นใคร และสัมผัสได้ถึงพลังงานที่เรียกว่าความโกรธจากแรงผลักประตู‘คราวนี้ไอ้คนใจร้ายนั่นจะเข้ามารังแกอะไรกันอีกล่ะ’‘ไม่มีแรงจะสู้แล้วนะ’‘ขอให้ฉันได้นอนเงียบ ๆ สงบบางไม่ได้เลยหรือไง!’ร่างบางนอนตะแคงข้างซุกตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาแกล้งนอนหลับไปเลยคงจะดีกว่า ไม่อยากต่อล้อต่อเถียงกับมาเฟียหนุ่มติ๊ดพรึบ! เสียงกดเปิดสวิตช์ไฟดังขึ้นจากที่ห้องมืดสนิทก็กลายเป็นสว่างไสว เธอได้ยินเสียงเท้ากำลังเดินเข้ามาใกล้ พยายามสงบจิตสงบใจไม่ให้ตื่นเต้นแม้ว่าในหัวใจตอนนี้จะเต้นเป็นกลองชุดแล้วก็ตามอีวานเดินตรงยังโต๊ะซึ่งมีถาดข้าวต้มกับน้ำส้มคั้นวางเอาไว้ ดูรู้เลยว่าป้ามณีเพิ่งเอาขึ้นมาให้เธอ เพราะมันยังมีควันโพยพุ่งจากชามข้าวต้ม เขาเดินไปคว้าถาดข้าวต้มมาถือแล้วจากนั้นก็เดินไปนั่งบนเตียงหมับ! พรึบ!อีวานยื่นมือไปจับผ้าห่มกระชากออก เขาเห็นปฏิกิริยาสะดุ้งของขนมปัง ‘จะแกล้งหลับงั้นเหรอ?!’ ชายหนุ่มคว้าแขนเล็กออกแรงดึงเธอให้ลุกขึ้นมานั่ง “โอ๊ย! เจ็บนะมากระชากแขนฉันทำไมคะ!” เสียงใสตะโกนถามพร้อมขมวด
ขนมปังหันหน้าหนีและยังคงหน้าบึ้งตึงโกรธอีวาน และไม่สนใจด้วยว่าเขาจะทำให้ข้าวต้มถ้วยนั้นมันเย็นหรือไม่ เพราะรอบนี้เธอจะไม่ยอมอ้าปากกินมันเข้าไป..หมับ! มือหนาทั้งสองข้างยื่นไปกุมใบหน้าเล็กให้หันหน้ากลับมาก่อนจะโน้มใบหน้าตัวเองเข้าไปจุมพิต ร่างบางตกใจกับการกระทำนี้ไม่ทันได้ระวัง อีวานดันข้าวต้มที่ตัวเองกินนำมันเข้าไปในปากของขนมปัง“เป็นไง เย็นขึ้นไหมล่ะ” พูดด้วยสีหน้ายียวน“คุณ!!”“ก็บอกว่าร้อนี่ ก็ทำให้เย็นแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอครับคุณขนมปัง”“อีวาน..! โอเค ฉันจะยอมกินข้าว เพราะงั้นคุณหยุดแกล้งฉันสักที” เธอหยิบถาดอาหารขึ้นลุกออกจากเตียงไปนั่งกินที่โต๊ะ โดยที่อีวานนั้นเดินตามมาติด ๆ ไม่ปล่อยให้เธอได้ออกห่างไปไหนเลย“ถ้าฉันกินหมดแล้วจะปล่อยให้ฉันได้นอนพักใช่ไหม” “ผมเธอยุ่ง ฉันรำคาญ”อีวานไม่ตอบคำถามเธอ แต่เขาเลือกจะทำสิ่งที่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะทำให้ นั่นคือการที่เขารวบผมเธอม้วนขึ้นแล้วหนีบด้วยกิ๊บสีเงินรูปผีเสื้อ ไม่รู้ว่าเขาหยิบมาตอนไหน“ขอบคุณค่ะ ถึงจะไม่ต้องการก็ตาม” ไม่วายจะตอบประชดประชันเขากลับไป“ต้องกินหมดเลยเหรอ ข้าวต้มถ้วยนี้ค่อนข้างเยอะอยู่นะคะ” เธอต้องควบคุมปริมาณอาหารเพื
ผู้ชายที่ไม่เคยแยแสความรู้สึกใครหรือต่อให้มีคนจะตายอยู่ต่อหน้าอีวานสามารถปล่อยให้คนนั้นตายไปโดยที่ไม่รู้สึกรู้สา คนใกล้ตัวต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือ ‘ยูนิคอร์นสีดำผู้ไร้หัวใจ’แต่ภาพตรงหน้าอาจทำให้ทุกคนต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ อีวานที่ไร้หัวใจ กำลังนั่งเฝ้าคนดื้อรั้นให้กินข้าวกับกินยา พออีวานรู้เรื่องว่าขนมปังประท้วงไม่ยอมดื่มน้ำกินข้าวหมกตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่ม ประธานหนุ่มถึงขั้นละทิ้งงานสำคัญให้ลูกน้องคนสนิทไปทำหน้าที่แทน ส่วนตัวเองตรงดิ่งกลับมาบ้านและบังคับป้อนข้าวป้อนน้ำเธอถึงสิ่งที่เขาพูดมันจะเป็นการหาเหตุผลมารองรับต่าง ๆ นานา เพื่อบอกว่าตัวเองทำไปเพราะไม่ชอบที่เธอขัดคำสั่ง บอกว่าเป็นการท้าทาย ยั่วโมโห แต่การกระทำและคำพูดมันชัดเจนว่าเป็น ‘ความห่วงใย’คงมีแค่อีวานนั่นแหละที่ไม่เคยรู้…เสียงช้อนถูกวานลงบนถ้วยเปล่า เธอกินข้าวต้มจนหมด บอกเลยว่าที่กินหมดเพราะตัดความรำคาญผู้ชายที่คอยสั่งให้เธอกิน เขาจะได้ไม่มีเรื่องมาบังคับอะไรเธออีกอีวานจะได้ออกไปให้พ้นหน้าเธอสักที!“ฉันกินทั้งข้าวทั้งยาครบแล้ว” “มันทำให้พอใจคุณอีวานหรือยังคะ” เธอเลื่อนถาดอาหารไปทางเขา และกำลังเตรียมจะลุกไปเข้า
อีวานกับขนมปังนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำจากุชชี่ โดยที่ชายหนุ่มนั่งซ้อนอยู่ด้านหลังร่างบาง น้ำค่อย ๆ ไหลเข้าลงอ่างจนเต็ม อีวานบีบครีมใส่ในมือแล้วลูบไล้ไปที่ตัวของเธอ“อีวานคะอย่า..”“คิดว่าสั่งฉันได้เหรอ” ถึงคำพูดจะดูแข็งกระด้างแต่น้ำเสียงกับเร่าร้อนไปพร้อมกับมือหน้าที่บีบเคล้นเต้านมสวย “ตัวก็เล็ก ทำไมถึงได้ใหญ่จนล้นมือ”“อีวานไหนบอกว่าจะอาบน้ำให้ไงคะ”“แล้วที่ทำอยู่ไม่อาบน้ำตรงไหนล่ะ หื้ม..”มืออีวานเลื่อนต่ำลงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ทรวงอก ท้องน้อย ต่ำลงมาถึงใต้สะดือและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างใต้น้ำที่มันกำลังขยายตัวแข็งขึ้นเรื่อย ๆ แล้วมันก็อยู่แถวบริเวณก้นเธอ“อีวาน..พอแล้วค่ะ” เสียงหวานเอ่ยห้ามอีกครั้ง“ต้องทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมถึงจะสะอาด”เขาไล่มือลงไปถึงเนินสวาทสาวลูบไล้กลีบดอกไม้แสนสวยอย่างเบามือ แตกต่างจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิงนิ้วเรียวยาวแหวกกลีบดอกไม้ออกแล้วสอดนิ้วเข้าไปช้า ๆ “อื้ออ๊าง” เสียงเว้าวอนอย่างน่าอาย เธอไม่อาจต่อต้านความรู้สึกภายในกายได้เลย อีวานสัมผัสเธออย่างอ่อนโยน“ไหนบอกว่าจะแค่อาบน้ำไงคะ”“ฉันเคยรับปากเหรอ?”“ไม่เห็นจำได้”“อีวาน อื้ออ๊าง”นิ้วร้าย
สามสัปดาห์ผ่านไป ตั้งแต่ขนมปังได้เข้ามาอยู่บ้านและใกล้ชิดกับอีวาน และได้ทำอะไรหลายอย่างร่วมกันและส่วนมากจะเป็นการออกกำลังกายทางเตียง.. เพราะสิ่งนั้นเป็นสิ่งเดียวที่อีวานชอบทำที่สุด หนึ่งสัปดาห์มี 7 วัน อย่างน้อยเขาต้องได้ทำ 4 วัน ส่วนอย่างมากก็ทำทุกวัน… ผ่านพ้นงานประจำปีเกี่ยวกับการเกษตรก็เข้าสู่ประเพณียอดนิยมของไทยนั่นคือ ‘วันสงกรานต์’ วัฒนธรรมนี้ได้ถูกสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี นอกจากนี้คนต่างชาติยังให้ความสนใจเข้าร่วมประเพณีนี้ ถือเป็น Soft Power ให้แก่ประเทศไทยอีกอย่างหนึ่ง คนไทยรู้ดีว่าวันสงกรานต์นั้นถือว่าเป็นวันปีใหม่ของประเทศไทย คนทำงานไกลบ้านก็จะได้กลับไปหาครอบครัวที่รอคอยพวกเขา ได้พากันออกไปเที่ยวสร้างบุญกุศลร่วมกัน พิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ขอพรเพื่อสิริมงคลแก่ตัวเอง อย่างในต่างจังหวัดก็จะได้เห็นภาพที่ทุกคนพากันขึ้นหลังกระบะรถ มีถังน้ำวางตรงกลาง เด็กและผู้ใหญ่นั่งล้อมรอบ ถือขันคนละใบหรือในบางคนก็จะพกปืนฉีดน้ำคนละอัน เตรียมพร้อมสำหรับการเล่นน้ำ ต่อให้ตรงหน้าเป็นคนแปลกหน้าแต่พวกเขาก็เล่นด้วยกันอย่างสนุกสนานในวันสงกรานต์ เป็นประเพณีโปรดของหลายคนรวมไปถึงขนมปัง
อีวานเดินออกมาไม่ให้สุ้มให้เสียง โน้มตัวลงมากระซิบถามเธอ ร่างบางตกใจสะดุ้งเฮือก ดีดตัวออกไปด้านหน้าก่อนหันกลับมาต่อว่าเขาที่ทำเธอเกือบหัวใจวายอีวานเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขานุ้งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมาเพราะได้ยินเสียงหวานที่คุ้นหูเรียกชื่อ ภาพตรงหน้าขนมปังคือ ชายหนุ่มรูปร่างแสนเพอร์เฟคหยดน้ำเกาะตามตัว มือที่เสยผมขึ้น เผยให้เห็นกล้ามแขนเป็นมัด ๆ“สรุปว่ามีอะไร”“อึก คะ..”เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะหนึ่งที่ได้จ้องมองอีวาน จนเขาต้องเอ่ยถามเธอขึ้น“หรือว่าอยากจะทำ.. เมื่อวานไม่ได้ทำเลยคิดถึงกันใช่ไหม”“ไม่ใช่สักหน่อย! ฉันแค่จะมาบอกว่าวันนี้จะออกไปเล่นสงกรานต์ คุณจะไปด้วยไหมคะ!?”อีวานเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จนประชิดตัวเธอ ขนมปังต้องใช้สองมือดันอกแกร่งของชายหนุ่ม“เล่นสงกรานต์?”“ค่ะ ก็วันนี้ไงวันสงกรานต์ คุณไม่รู้จักเหรอ”“รู้”“แล้วทำไมถึงทำหน้างงเหมือนไม่รู้จักวันสงกรานต์”“เปล่า”“แล้วยังไงคะ จะไปด้วยกันไหม ถ้าไม่ฉันจะได้กลับไปเตรียมตัวออกไปเที่ยว”“ไม่ได้” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยตอบเสียงเข้ม“ทำไมถึงไม่ได้ ก็ฉันจะออกไปเล่น” เธอตอบกลับน้ำเสียงดังขึ้น“วันนี้ฉันไม่ว่าง”“คุณไม่ว่างแล้วมั
“ฉันไม่น่าหลับเลยเสียดายจัง”“น่าจะได้พูดคุยสนิทกับเพื่อน ๆ คุณให้มากกว่านี้ ไม่อยากโดนมองว่าทำลายบรรยากาศเลยค่ะ”“ไม่เป็นไร ไม่มีใครคิดแบบนั้นหรอกนะ และก็ยังเหลือเวลาให้ได้สนุกอีกหลายวัน”“จริงนะคะ..”“อืม อย่าคิดมาก”อีวานพูดปลอบใจเธอ เขากลัวเธอจะงอแงที่ตัวเองหลับไปทั้งที่ยังอยากสนุกต่อ“เธอรออาบน้ำต่อฉันละกัน”อีวานกำลังถอดเสื้อผ้าเตรียมไปอาบน้ำอีกรอบ พอเขาอาบเสร็จก็มารอเธอบนเตียง ส่วนเธอพออาบน้ำเสร็จเดินออกมาพร้อมผ้าขนหนูที่พันไว้รอบตัวแต่ไม่สามารถบดบังเนินหน้าอกใหญ่โตนั้นได้“หนาวจังเลยค่ะ ขนาดเปิดน้ำอุ่นแล้วก็ไม่ช่วยเลย”“รู้ไหมมันมีวิธีทำให้หายหนาวอยู่นะ” อีวานปิดหนังสือที่อ่านรอเธอลง กวาดสายตามองเธอโดยเฉพาะหน้าอกที่เป็นจุดเด่นให้เขาวางสายตา“วิธีไหนคะ”อีวานลุกขึ้นเดินตรงไปหาเธอ ดึงร่างบางเข้ามาแนบชิดทำให้บริเวณเต้านมสวยแนบชิดติดกับหน้าอกแกร่งที่เปลือยเปล่าของมาเฟียหนุ่ม เขากระตุกผ้าขนหนูเธอออกจนมันหลุดไปอยู่ปลายเท้าร่างบาง“ทำอะไรคะ!”เธอมีอาการตกใจกับสิ่งที่อีวานทำนั่นคือการที่เขาใช้สองมือบีบก้นเธออย่างแรง“วิธีที่จะช่วยให้เธอหายหนาว”‘ทำไมเธอถึงได้น่า..กดลงเตียงแบบนี้วะ’“
หมับ!“ไอ้ขายาวฝากหยิบมาให้ฉันด้วยนะ ฉันก็อยากดื่มไวน์เหมือนกันอะ” เนเรียยื่นมือออกไปจับแขนอีวานก่อนที่เขาจะได้ลุกออกไป เธอแค่จะวานให้เขาหยิบแก้วไวน์มาให้เธอด้วยเหมือนกัน แต่การกระทำนี้ดูจะสร้างความไม่พอใจให้ขนมปังอย่างแรง“โอเค ยัยขาสั้น” “โอ๊ย ไอ้บ้านี่อย่ามาผลักหัวฉันนะ!”อีวานผลักหัวเพื่อนสาวคนสนิทเบา ๆ ขนมปังมองทุกอิริยาบถของทั้งคู่ข่มอารมณ์ความหึงที่ผุดขึ้นมาจนหน้าเธอแดงก่ำ!‘ใจเย็นไว้ขนมปัง’‘ท่อนเอาไว้ว่าเขาเป็นเพื่อนกัน’“ถ้าไม่ให้ผลักจะให้ดึงเหรอยัยขาสั้น”“ก็ลูบหัวฉันเหมือนที่ลูบหัวสาว ๆ สิจ๊ะ!”ขนมปังเบือนหน้าหันหนีไปอีกทางไม่อยากมองความสนิทสนมระหว่างอีวานกับเพื่อนสาวแสนสวยของเขาที่หยอกล้อกันตาอหน้าเธอ จนเกิดความรู้สึกหึง..‘บอกฉันว่าอย่าสนใจใครแต่ตัวเองกับหยอกล้อกับเพื่อนตัวเองไม่แคร์กันเลย!’“ไหนลองลูบหน่อยสิคะคุณอีวาน”“พูดไร้สาระเนเรีย”อีวานกวาดสายตาไปมองทางขนมปังทันทีว่าเธอมีท่าทีอย่างไรกับคำพูดเนเรีย ขนมปังถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เขาก็รู้ได้เลยว่าเธอกำลังไม่พอใจ“ไร้สาระอะไร ความจริงทั้งนั้น”“คนต่อไปจะเป็นสาวชนชาติไหนล่ะคะคุณเพื่อน”“เธอนี่มันผู้หญิงนิสัยเสีย”“แม
อีวานที่นั่งสนใจแค่ขนมปังก็ยังต้องแวะพูดถึงความสัมพันธ์ของลูเซียโน่กับสาวในความลับ “ไอ้สัตว์อย่ามาพากันรุมกูได้ไหม กูเอาเรื่องตัวเองอยู่เว้ยไม่ต้องให้ใครช่วย พวกมึงนั่นแหละเอาเรื่องความสัมพันธ์ของตัวเองให้รอดก่อน” “ที่พูดรอมาก็มีเหตุผล แต่กูจะรอดูเลยว่าคนที่บอกว่าเอาอยู่สภาพจะเป็นยังไง” เจริคเอ่ยขึ้นเบา ๆ ถ้าเพื่อนจัดการปัญหาตัวเองได้มันก็ดี แต่เห็นมาเยอะแล้วที่พูดว่าเอาอยู่สุดท้ายก็เจ็บเจียนตายทุกคน… ยังไม่เจอกับตัวก็เลยยังกล้าพูด เราสามารถอวดเก่งกับความสัมพันธ์คนอื่นได้แต่ไม่ใช่กับความสัมพัทธ์ของตัวเอง “พี่เจคคะ” “ว่าไงครับ” “อยากลองดื่มไวน์จังเลยค่ะ” เธอชี้ไปที่แก้วไวน์ในมือเจริค “พี่ว่าไม่ดีนะครับ เรายังเด็กอยู่” เจริควางมือลงบนหัวดิสนีย์ลูบสองที เธอทำหน้ามุ่ยใส่เขาทันทีไม่พอใจ “หนูอยากลองดื่มอ่ะ นะ ๆๆๆ ได้ไหมคะ” “ไม่ได้ครับ” เจริคทำเสียงเข้ม “เชอะ! ไม่ขอจากพี่ก็ได้” เธอหันไปทางพี่ชายคนรอง คนที่ตามใจเธอที่สุด “โดนงอนแล้วดิ ชอบตามใจดีนักโดนงอนซะบ้างมึง” คาร์ลเตอร์หันไปพูดกับเจริค “พี่ชายคะ น้องอยากดื่มค่ะ ขอดื่มไวน์ได้ไหม” “แก้วเดียวพอนะ” “เย้ ได้ค่ะ
แคมป์ปิ้ง 🏕 เมื่ออาหาร เครื่องดื่ม และของทานเล่นถูกจัดเตรียมพร้อมเรียบร้อยสำหรับรับประทาน ทุกคนก็เริ่มเข้ามานั่งล้อมวงรอบกองไฟเป็นรูปวงกลม ลำดับการนั่ง ให้คาร์ลเตอร์เป็นจุดแรก ต่อมาถัดมาทางซ้ายมือคือเคอร์วิน เรนเดล ลูเซียโน่ ขนมปัง อีวาน เนเรีย ดิสนีย์ เจริค ที่นั่งติดอยู่ทางขวามือคาร์ลเตอร์ “ลองกินอันนี้ดู” อีวานหั่นสเต๊กเนื้อวัวให้ขนมปังลองชิม เขามองแก้มเนียนเคี้ยวตุ่ย ๆ “อื้ม! อร่อยค่ะ” “อร่อยก็กินเยอะ ๆ น้ำหนักเธอลงไปเยอะเลยนะจากที่อุ้มเมื่อวาน” “คะ!!!” “แฮ่ม! เพื่อนยังนั่นกันอยู่ตรงนี้เนอะ” ลูเซียโน่ยิ้มมุมปากมองอีวานมันทำเหมือนตรงนี้มีแค่มันกับน้องไปได้ไอ้นี่ “อ้าว มีมึงอยู่ตรงนี้ด้วยเหรอ กูมองไม่เห็น คิดว่าเป็นอากาศ” “ขนมปังดูเอานะครับคนแบบนี้” ลูเซียโน่หันหน้าฟ้องขนมปัง ทำหน้าล้อเลียนอีวานเมื่อโดนดุ “อีวานทำไมพูดกับเพื่อนแบบนั้นคะไม่น่ารักเลย” ขนมปังหันมองตาขวาง “พี่ลูเซียโน่จะเสียใจนะคะ” พอเธอพูดประโยคนั้นจบอีวานก็เอื้อมมือไปประคองใบหน้าเธอให้หันมามองเขาแล้วเอ่ยพูดน้ำเสียงจริงจัง “อย่าไปสนใจความรู้สึกมันหรือใคร สนใจแค่ฉันก็พอนี่ไม่ใช่คำขอแต่
เมื่อเห็นว่าอีวานกำลังจ้องเขม็งไปทางอาร์มอ ขนมปังจึงรีบอธิบาย ไม่อยากให้ลูกน้องเขาโดนดุ“ขอโทษนะที่ออกมาช้า”“ไม่เป็นไรค่ะ คุณคงจะสนุกเลยอยู่นานเป็นคนสุดท้ายเลย”ทั้งคำพูดและรอยยิ้ม เธอช่างไร้เดียงสา โลกของเขากับเธอต่างกันขนาดนี้ แล้วจะให้เขาดึงเธอมาอยู่ในโลกดำมืดนี้ได้ยังไง…ตัดมาที่เจริคเขาเดินอุ้มกระต่ายขนปุยสีน้ำตาลไปให้ดิสนีย์“พี่เอากระต่ายมาฝาก”“น่ารักมากเลยค่ะพี่เจค หนูชอบมาก”เธออุ้มกระต่ายมาแนบอก ก่อนจะทำสิ่งที่เจริคก็ไม่ขาดคิด คือการเข้ามากอดเขาโดยที่เธอไม่สนสายตาใครเลย เพราะการกอดมันเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับเธอที่เติบโตมาในต่างประเทศ“ขอบคุณนะคะ เป็นของฝากที่ดีที่สุดเลย”“ครับ ดีใจที่เราชอบ”“วันนี้เรามาทำสเต๊กกันกินดีกว่าไหมวะ”ลูเซียโน่ที่อยากกินสเต๊กจึงเอ่ยขึ้น“เอาดิ กูอยากกินพอดี” เรนเดลตอบ“แล้วคนอื่นอยากกินอะไรอีก เดี๋ยวสั่งให้ลูกน้องกูไปซื้อมาเพิ่ม”เคอร์วินเสนอแล้วก็ยังอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย เข่น สปาเกตตี พิซซ่า ปิ้งมาชเมลโล่ ปิ้งมัน และที่ขาดไม่ได้เลยคือเครื่องดื่ม วอดก้า ไวน์ขาว ไวน์แดง น้ำผลไม้สำหรับพวกเธอที่บางครั้งอาจจะไม่อยากดื่ม“ไอ้ลูซกับไอ้อีวานไปเตรียมเนื้อ
Camping 🏕 บ้านไม้กลางป่าตั้งอยู่ในที่ดินตระกูลมาร์ติเนซ เป็นบ้านพักตากอากาศสองชั้นขนาดใหญ่ ถูกสร้างขึ้นตามคำสั่งอีวาน เพื่อใช้สำหรับพักผ่อนจากกิจกรรมล่าสัตว์กับกลุ่มเพื่อนสนิท บ้านหลังนี้จึงมีถึงหกห้องนอน การดีไซน์ห้องนอนแต่ละห้องก็เป็นตามความต้องการของหกหนุ่ม และยังมีห้องนั่งเล่น รวมถึงมีห้องใต้ดิน การล่าสัตว์จบลงแล้วสามสาวมีผู้ติดตามคอยดูแลอยู่ห่าง ๆ ไม่ได้เข้าไปวุ่นวายในเส้นทาง ถึงสองสาวอย่างขนมปัง ดิสนีย์ ไม่ได้ไล่ล่าสัตว์ตัวไหนเลยก็ตาม ส่วนเนเรียก็ยิงนกไปได้สองตัว นอกนั้นพวกเธอก็เดินเล่นแล้วออกมารอหนุ่ม ๆ ที่บ้านพักตากอากาศกับบอดี้การ์ดหนุ่มหลายคน“ทานมาการองกันไหมครับ เดี๋ยวผมไปเอาออกมาให้ครับ” อาร์มอกับบอดี้การ์ดของหนุ่ม ๆ แก๊งบรูทิชคอยดูแลผู้หญิงทั้งสามคนอย่างใกล้ชิด ถึงจะอยู่ในเขตตระกูลมาร์ติเนซที่ไม่มีใครเข้ามาได้แต่กับพวกสัตว์ไม่ใช่แบบนั้น“หรือนายหญิงอยากทานขนมปังทาแยมสตรอว์เบอร์รี่ไหมครับ”“เอาทั้งคู่มาไว้ก็ได้อาร์มอ” ขนมปังเอ่ยบอก เธอกำลังอร่อยกับน้ำส้มคั้นถ้ามีขนมด้วยยิ่งดี“เสียงนกร้องนี่ไพเราะจัง”“พวกพี่ ๆ เขาคงจริงจังกันมากเลยนะคะ”ดิสนีย์ชวนคุย ขยับขาไปตามจังหว
Part - Rendel (เรนเดล)เรนเดลเดินก้าวช้า ๆ และผิวปากไปด้วย และเสียงผิวปากของเขายิ่งสร้างความหวาดหวั่นให้กับนักโทษที่พยายามหลบซ่อน“เสียงความกลัวมันดังออกมาจนได้ยินแล้วนะ”เรนเดลหยุดยืนอยู่ตรงโขดหินก้อนใหญ่เขาสัมผัสได้ว่ามีคนหลบอยู่ด้านหลังโดยที่ตัวเขาไม่ต้องดูจีพีเอสเลยด้วยซ้ำ“ยังจะแอบอยู่เหรอ?” น้ำเสียงเยือกเย็นเอ่ยถามเอนตัวพิงโขดหิน หยิบบุหรี่ไฟฟ้าขึ้นมาสูบอย่างใจเย็น“ผมยอมแล้วครับไว้ชีวิตผมได้ครับ”“ผมขอโอกาสในการแก้ตัว”พรึบ! ฉึก!“อึก! อึกอ่อก”เรนเดลชักดาบตระกูลออกมาจากฝักดาบที่เก็บไว้ข้างเอวปาดคอชายคนนั้นทันทีที่มันมานั่งคุกเข่าอ้อนวอนขอโอกาส มันยังไม่ได้ในทันทีหรอก“พวกมึงนี่เหมือนกันหมด พูดแบบนี้ทุกปี”“เบื่อจะฟัง”ปัง!เรนเดลเตะให้มันนอนลงแล้วยิงไปที่ท้องของมัน เพราะผู้ชายคนนั้นคิดที่จะยื่นมือมาแตะต้องตัวเขา เลือดพวกมันไม่สมควรโดนตัวเขา“รอบนี้กูจะไม่ออกไปเป็นคนสุดท้าย”Part - Jerik (เจริค)เพียงแค่เจริคก้าวเท้าเข้ามาในเส้นทางล่าสัตว์ บรรยากาศรอบตัวเขาก็ดูเงียบสงบจนน่ากลัว ใบหน้าไร้ความรู้สึกและเบื่อหน่าย“เลิกซ่อนแล้วออกมา”“อย่าทำให้เสียเวลา”“สามวิเท่านั้น”“1”“2”“ออ
เริ่มการล่าสัตว์!เมื่อการล่าสัตว์เริ่มต้นขึ้น ความหื่นกระหายในการฆ่ามันก็ทำให้เลือดในกายพวกเขาพุ่งสูบฉีด ทั้งหกหนุ่มแทบอดใจไม่ไหวที่จะได้ทรมานเหล่านักโทษพวกนั้น“มาเริ่มกันเลยไหม พร้อมนะ” แกร๊ก! เสียงขยับกระบอกปืนลูกซองปิดลงหลังใส่ลูกกระสุนเสร็จ อีวานยกปืนขึ้นวางบนบ่าตัวเอง“ของแบบนี้กูพร้อมตั้งแต่เกิดแล้วว่ะ”ลูเซียโน่เอ่ยเสียงเข้มขยับปืนกำเอาไว้แน่นแล้วออกเดินไปก่อนใครเพื่อน“หึ” อีวานแค่นหัวเราะเบา ๆ“ไว้เจอกันที่แคมป์ ใครช้าสุดต้องจ่ายให้เพื่อนละหนึ่งล้านอย่าลืม”“กูยอมเป็นคนสุดท้าย” คาร์ลเตอร์เอ่ยเขาไม่ชอบแข่งขันกับใครอยู่แล้ว“ก็เห็นพูดแบบนี้มาสี่ปีแล้ว แต่มึงก็ออกมาคนแรกตลอดเลยนะเพื่อน” เรนเดลยกคิ้วเลิกสูงขึ้นมอง คาร์ลเตอร์ยิ้มจาง ๆ พลางยกไหล่ขึ้นทำไม่รู้ไม่ชี้แล้วเดินไปเส้นทางตัวเอง“รอบนี้ก็คงเป็นไอ้อีวานนั่นแหละที่ออกมาคนสุดท้าย”เคอร์วินที่เช็กกระบอกปืนอยู่ขึ้นแล้วมองไปยังอีวานที่กำลังเดินมุ่งหน้าไปยังเส้นทางของตัวเอง“ไม่ก็อาจจะเป็นไอ้เจค” เรนเดลหันไปมองเจริค“ไม่หรอก รอบนี้กูตั้งใจจะออกมาคนแรก”เจริคเอ่ยเสียงเรียบด้วยใบหน้าอันสงบนิ่ง ถือปืนลูกซองคู่ใจที่สลักชื่อกับนามสก
ตัดมาที่เจริคยังคงยืนมองเดสทินีหรือชื่อที่คนสนิทมักจะเรียกเธอว่าดิสนีย์ ร่างบางยืนจับ ๆ อาวุธสามอย่างนั้น แต่ตัดสินใจไม่ได้สักทีว่าควรจะใช้อันไหน“เลือกได้ไหมยัยตัวแสบ”“ยังค่ะ พี่เจคช่วยดิสนีย์เลือกไหมคะ”“ได้ครับ”“หน้าไม้เหมาะกับมือใหม่แบบเรามากกว่านะ”เขายื่นหน้าไม้ไปให้เธอ ดิสนีย์หยิบหน้าไม้พลิกไปพลิกมา“แล้วมันต้องทำยังไงคะ” เธอเงยหน้ามามองเจริคยิ้มจาง ๆ เธอไม่เคยหยิบจับอะไรพวกนี้เลยน่ะสิ“มา เดี๋ยวพี่สอนใช้”เจริคสอนจนเธอใช้คล่องมือ แต่ไม่คิดว่าประโยคที่เธอพูดต่อมาคือการขอให้เขาช่วยสอนวิธีใช้ปืนลูกซอง“แต่ฉันอยากลองใช้ปืนด้วยค่ะ พี่เจคช่วยสอนได้ไหมคะ”“ปืน? แน่ใจนะครับ”“ค่ะ”เจริคเดินไปหยิบปืนลูกซองมาให้ดิสนีย์ถือ แต่แค่ส่งไปให้พอเธอรับเท่านั้นแหละ เธอเกือบปล่อยปืนตกแล้ว ไม่คิดว่าปืนลูกซองจะหนักขนาดนี้ โชคดีที่เจริคยื่นมือมาช่วยถือไว้ทัน“เปลี่ยนใจแล้วค่ะ หนูเอาหน้าไม้อย่างเดียวพอ”“ครับ” เจริคมองเธอด้วยสายตาเอ็นดูเด็กคนนี้ ‘น่ารักชะมัด’หลังจากซักซ้อมวิธีการใช้อาวุธล่าสัตว์กันจนชำนาญคล่องมือแล้ว เรนเดลก็ได้อธิบายเส้นทางการล่าสัตว์ให้กับพวกเธอต่อ และจุดท้ายที่พวกเขาจะไปเจอกันค