ขนมปังหันหน้าหนีและยังคงหน้าบึ้งตึงโกรธอีวาน และไม่สนใจด้วยว่าเขาจะทำให้ข้าวต้มถ้วยนั้นมันเย็นหรือไม่ เพราะรอบนี้เธอจะไม่ยอมอ้าปากกินมันเข้าไป..หมับ! มือหนาทั้งสองข้างยื่นไปกุมใบหน้าเล็กให้หันหน้ากลับมาก่อนจะโน้มใบหน้าตัวเองเข้าไปจุมพิต ร่างบางตกใจกับการกระทำนี้ไม่ทันได้ระวัง อีวานดันข้าวต้มที่ตัวเองกินนำมันเข้าไปในปากของขนมปัง“เป็นไง เย็นขึ้นไหมล่ะ” พูดด้วยสีหน้ายียวน“คุณ!!”“ก็บอกว่าร้อนี่ ก็ทำให้เย็นแล้วยังไม่พอใจอีกเหรอครับคุณขนมปัง”“อีวาน..! โอเค ฉันจะยอมกินข้าว เพราะงั้นคุณหยุดแกล้งฉันสักที” เธอหยิบถาดอาหารขึ้นลุกออกจากเตียงไปนั่งกินที่โต๊ะ โดยที่อีวานนั้นเดินตามมาติด ๆ ไม่ปล่อยให้เธอได้ออกห่างไปไหนเลย“ถ้าฉันกินหมดแล้วจะปล่อยให้ฉันได้นอนพักใช่ไหม” “ผมเธอยุ่ง ฉันรำคาญ”อีวานไม่ตอบคำถามเธอ แต่เขาเลือกจะทำสิ่งที่เธอเองก็ไม่คาดคิดว่าเขาจะทำให้ นั่นคือการที่เขารวบผมเธอม้วนขึ้นแล้วหนีบด้วยกิ๊บสีเงินรูปผีเสื้อ ไม่รู้ว่าเขาหยิบมาตอนไหน“ขอบคุณค่ะ ถึงจะไม่ต้องการก็ตาม” ไม่วายจะตอบประชดประชันเขากลับไป“ต้องกินหมดเลยเหรอ ข้าวต้มถ้วยนี้ค่อนข้างเยอะอยู่นะคะ” เธอต้องควบคุมปริมาณอาหารเพื
ผู้ชายที่ไม่เคยแยแสความรู้สึกใครหรือต่อให้มีคนจะตายอยู่ต่อหน้าอีวานสามารถปล่อยให้คนนั้นตายไปโดยที่ไม่รู้สึกรู้สา คนใกล้ตัวต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขาคือ ‘ยูนิคอร์นสีดำผู้ไร้หัวใจ’แต่ภาพตรงหน้าอาจทำให้ทุกคนต้องเปลี่ยนความคิดใหม่ อีวานที่ไร้หัวใจ กำลังนั่งเฝ้าคนดื้อรั้นให้กินข้าวกับกินยา พออีวานรู้เรื่องว่าขนมปังประท้วงไม่ยอมดื่มน้ำกินข้าวหมกตัวเองอยู่ใต้ผ้าห่ม ประธานหนุ่มถึงขั้นละทิ้งงานสำคัญให้ลูกน้องคนสนิทไปทำหน้าที่แทน ส่วนตัวเองตรงดิ่งกลับมาบ้านและบังคับป้อนข้าวป้อนน้ำเธอถึงสิ่งที่เขาพูดมันจะเป็นการหาเหตุผลมารองรับต่าง ๆ นานา เพื่อบอกว่าตัวเองทำไปเพราะไม่ชอบที่เธอขัดคำสั่ง บอกว่าเป็นการท้าทาย ยั่วโมโห แต่การกระทำและคำพูดมันชัดเจนว่าเป็น ‘ความห่วงใย’คงมีแค่อีวานนั่นแหละที่ไม่เคยรู้…เสียงช้อนถูกวานลงบนถ้วยเปล่า เธอกินข้าวต้มจนหมด บอกเลยว่าที่กินหมดเพราะตัดความรำคาญผู้ชายที่คอยสั่งให้เธอกิน เขาจะได้ไม่มีเรื่องมาบังคับอะไรเธออีกอีวานจะได้ออกไปให้พ้นหน้าเธอสักที!“ฉันกินทั้งข้าวทั้งยาครบแล้ว” “มันทำให้พอใจคุณอีวานหรือยังคะ” เธอเลื่อนถาดอาหารไปทางเขา และกำลังเตรียมจะลุกไปเข้า
อีวานกับขนมปังนั่งอยู่ในอ่างอาบน้ำจากุชชี่ โดยที่ชายหนุ่มนั่งซ้อนอยู่ด้านหลังร่างบาง น้ำค่อย ๆ ไหลเข้าลงอ่างจนเต็ม อีวานบีบครีมใส่ในมือแล้วลูบไล้ไปที่ตัวของเธอ“อีวานคะอย่า..”“คิดว่าสั่งฉันได้เหรอ” ถึงคำพูดจะดูแข็งกระด้างแต่น้ำเสียงกับเร่าร้อนไปพร้อมกับมือหน้าที่บีบเคล้นเต้านมสวย “ตัวก็เล็ก ทำไมถึงได้ใหญ่จนล้นมือ”“อีวานไหนบอกว่าจะอาบน้ำให้ไงคะ”“แล้วที่ทำอยู่ไม่อาบน้ำตรงไหนล่ะ หื้ม..”มืออีวานเลื่อนต่ำลงไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ทรวงอก ท้องน้อย ต่ำลงมาถึงใต้สะดือและไม่มีทีท่าว่าจะหยุด เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างใต้น้ำที่มันกำลังขยายตัวแข็งขึ้นเรื่อย ๆ แล้วมันก็อยู่แถวบริเวณก้นเธอ“อีวาน..พอแล้วค่ะ” เสียงหวานเอ่ยห้ามอีกครั้ง“ต้องทำความสะอาดทุกซอกทุกมุมถึงจะสะอาด”เขาไล่มือลงไปถึงเนินสวาทสาวลูบไล้กลีบดอกไม้แสนสวยอย่างเบามือ แตกต่างจากเมื่อวานอย่างสิ้นเชิงนิ้วเรียวยาวแหวกกลีบดอกไม้ออกแล้วสอดนิ้วเข้าไปช้า ๆ “อื้ออ๊าง” เสียงเว้าวอนอย่างน่าอาย เธอไม่อาจต่อต้านความรู้สึกภายในกายได้เลย อีวานสัมผัสเธออย่างอ่อนโยน“ไหนบอกว่าจะแค่อาบน้ำไงคะ”“ฉันเคยรับปากเหรอ?”“ไม่เห็นจำได้”“อีวาน อื้ออ๊าง”นิ้วร้าย
สามสัปดาห์ผ่านไป ตั้งแต่ขนมปังได้เข้ามาอยู่บ้านและใกล้ชิดกับอีวาน และได้ทำอะไรหลายอย่างร่วมกันและส่วนมากจะเป็นการออกกำลังกายทางเตียง.. เพราะสิ่งนั้นเป็นสิ่งเดียวที่อีวานชอบทำที่สุด หนึ่งสัปดาห์มี 7 วัน อย่างน้อยเขาต้องได้ทำ 4 วัน ส่วนอย่างมากก็ทำทุกวัน… ผ่านพ้นงานประจำปีเกี่ยวกับการเกษตรก็เข้าสู่ประเพณียอดนิยมของไทยนั่นคือ ‘วันสงกรานต์’ วัฒนธรรมนี้ได้ถูกสืบทอดต่อกันมาอย่างยาวนานหลายร้อยปี นอกจากนี้คนต่างชาติยังให้ความสนใจเข้าร่วมประเพณีนี้ ถือเป็น Soft Power ให้แก่ประเทศไทยอีกอย่างหนึ่ง คนไทยรู้ดีว่าวันสงกรานต์นั้นถือว่าเป็นวันปีใหม่ของประเทศไทย คนทำงานไกลบ้านก็จะได้กลับไปหาครอบครัวที่รอคอยพวกเขา ได้พากันออกไปเที่ยวสร้างบุญกุศลร่วมกัน พิธีรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ขอพรเพื่อสิริมงคลแก่ตัวเอง อย่างในต่างจังหวัดก็จะได้เห็นภาพที่ทุกคนพากันขึ้นหลังกระบะรถ มีถังน้ำวางตรงกลาง เด็กและผู้ใหญ่นั่งล้อมรอบ ถือขันคนละใบหรือในบางคนก็จะพกปืนฉีดน้ำคนละอัน เตรียมพร้อมสำหรับการเล่นน้ำ ต่อให้ตรงหน้าเป็นคนแปลกหน้าแต่พวกเขาก็เล่นด้วยกันอย่างสนุกสนานในวันสงกรานต์ เป็นประเพณีโปรดของหลายคนรวมไปถึงขนมปัง
อีวานเดินออกมาไม่ให้สุ้มให้เสียง โน้มตัวลงมากระซิบถามเธอ ร่างบางตกใจสะดุ้งเฮือก ดีดตัวออกไปด้านหน้าก่อนหันกลับมาต่อว่าเขาที่ทำเธอเกือบหัวใจวายอีวานเพิ่งอาบน้ำเสร็จ เขานุ้งผ้าเช็ดตัวผืนเดียวเดินออกมาเพราะได้ยินเสียงหวานที่คุ้นหูเรียกชื่อ ภาพตรงหน้าขนมปังคือ ชายหนุ่มรูปร่างแสนเพอร์เฟคหยดน้ำเกาะตามตัว มือที่เสยผมขึ้น เผยให้เห็นกล้ามแขนเป็นมัด ๆ“สรุปว่ามีอะไร”“อึก คะ..”เธอเหมือนตกอยู่ในภวังค์ไปชั่วขณะหนึ่งที่ได้จ้องมองอีวาน จนเขาต้องเอ่ยถามเธอขึ้น“หรือว่าอยากจะทำ.. เมื่อวานไม่ได้ทำเลยคิดถึงกันใช่ไหม”“ไม่ใช่สักหน่อย! ฉันแค่จะมาบอกว่าวันนี้จะออกไปเล่นสงกรานต์ คุณจะไปด้วยไหมคะ!?”อีวานเดินเข้ามาใกล้เรื่อย ๆ จนประชิดตัวเธอ ขนมปังต้องใช้สองมือดันอกแกร่งของชายหนุ่ม“เล่นสงกรานต์?”“ค่ะ ก็วันนี้ไงวันสงกรานต์ คุณไม่รู้จักเหรอ”“รู้”“แล้วทำไมถึงทำหน้างงเหมือนไม่รู้จักวันสงกรานต์”“เปล่า”“แล้วยังไงคะ จะไปด้วยกันไหม ถ้าไม่ฉันจะได้กลับไปเตรียมตัวออกไปเที่ยว”“ไม่ได้” น้ำเสียงทุ้มต่ำเอ่ยตอบเสียงเข้ม“ทำไมถึงไม่ได้ ก็ฉันจะออกไปเล่น” เธอตอบกลับน้ำเสียงดังขึ้น“วันนี้ฉันไม่ว่าง”“คุณไม่ว่างแล้วมั
อีวานโอบกอดเธอจากด้านหลัง พออุ้มเธอขึ้นทำให้เท้าเล็กนั้นลอยจากพื้น แต่ไม่ได้ทำให้ขนมปังหยุดดิ้น แล้วเธอดูจะใช้เต็มแรงที่มีอยู่ด้วยครั้งนี้“ปล่อย ฉันจะไปเที่ยว”“อย่าดื้อได้ไหมวะ! ก็บอกว่าวันนี้ไม่ว่าง”“ไม่ต้องพูด โอ๊ยปล่อยฉันสักที”“พรุ่งนี้ พรุ่งนี้จะพาไป”“คิดว่าฉันจะเชื่อเหรอคะ!”“คุณก็อ้างแบบนี้ตลอด ฉันไม่ได้โง่นะ กรี๊ด!!” ขนมปังดีดดิ้นสุดกำลังเธอตีขาไปมา มือก็ทั้งทุบทั้งตีเขาแต่เหมือนจะมีแต่เธอที่แสบมือ เขาไม่เห็นแสดงอาการถึงความเจ็บปวดอะไรเลย“ฟังกันก่อนขนมปัง”“จะพูดอะไรล่ะ ถ้าจะพูดว่าไม่ให้ไปก็หุบปากไปเถอะ”“ขนมปังพูดดี ๆ”อีวานเสียงเข้มขึ้นเชิงดุเมื่อเธอพูดจาไม่น่าฟังด้วยน้ำเสียงแข็ง“ทำไมฉันจะพูด...”“อ๋อคนนี้เองเหรอ?” มีความหยิ่งยโสปะปนด้วยน้ำเสียงคลายความสงสัยตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา เอ่ยขึ้นท่ามกลางความวุ่นวายของพวกเขา “เนเรีย?”ผู้มาเยือนใหม่คนนั้นคือเนเรียใบหน้างดงามชวนมอง ริมฝีปากอวบอิ่มเพราะฟีลเลอร์ ดวงตาสวยภายใต้ขนตางอนตัดกับสีนัยน์ตาเขียวมรกต รูปร่างมีส่วนเว้าส่วนโค้งเซ็กซี่เย้ายวนในชุดเดรสสีดำรัดรูป“เนรีย!!?” ขนมปังเอ่ยทวนชื่อนั้นอีกครั้งเงยหน้าขึ้นมามองผู้หญิ
เพราะเป็นวันหยุดเลยไม่มีแม่บ้านคอยช่วยอีวานจึงต้องเดินไปห้องครัวเองซึ่งอยู่ด้านหลังของบ้าน ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงขนมปังกับเนเรียกันสองคนเนเรียจ้องมองไปยังขนมปังตลอดเวลาที่อีวานเดินออกไป หล่อนกำลังพิจารณาผู้หญิงตรงหน้า ส่วนขนมปังที่ถูกจ้องมาตั้งแต่เมื่อกี้ เริ่มมีความรู้สึกไม่พอใจอยู่หน่อย ๆ“สวัสดีค่ะ เห็นมองตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว มีอะไรอยากจะพูดหรือเปล่าคะ” ขนมปังเริ่มบทสนทนา“เปล่าค่ะ คุณชื่ออะไรเหรอคะ”“ฉันชื่อขนมปังค่ะ คุณเนเรียใช่ไหมคะ”“ค่ะ อีวานพูดถึงฉันบ่อยเหรอคะ” มือที่วางลงบนหมอนรองและเท้าคางมองด้วยสายเฉียบคม อย่างกับว่าเนเรียมองเธอออกจนหมดว่ากำลังคิดหรือรู้สึกอะไร“เปล่าค่ะ แค่ตอนที่อยู่กับเขาฉันมักได้ยินชื่อคุณแทรกขึ้นมาตลอด”“คุณเป็นเพื่อนคุณอีวานก็คงอายุเท่ากันใช่ไหมคะ”“ฉันเด็กกว่าอีวานปีหนึ่งค่ะ”“อ๋อ แต่ก็แก่กว่าฉันตั้งห้าปีอยู่ดีนะคะ” ขนมปังพูดพร้อมรอยยิ้มเนเรียยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเล็กน้อย พลางติดในใจว่า ‘เด็กน้อยคนนี้น่าสนใจ’ ‘ลองเขี่ยเล่นดีไหมนะ? ไม่ได้รู้สึกสนุกอย่างนี้มานานแล้วด้วย’“ค่ะ เป็นปกติของอีวานนั่นแหละ ไม่ชอบผู้หญิงที่อายุเยอะจนเกินไป”“กินเสร็จ เบื่อก็ค
“ไอ้ขายาว”“ยัยขาสั้น”“นี่! ฉันสู้งขึ้นแล้วยะ!”“ก็เตี้ยกว่าฉันอยู่ดีนะ”“เออไอ้ขายาว”“ก็ไม่ได้มีดีแค่ขา”“อ่อ เชื่ออยู่จ้าา!”“จะอยู่ต่อไหม จะได้บอกให้ไอ้อาร์มอเตรียมห้องที่รีสอร์ต”“แล้วแกอยากให้ฉันอยู่ต่อไหมล่ะหื้ม..ไอ้ขายาว”เสียงสนทนาสนุกสนานของเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมาหลายเดือนก่อกวนจิตใจขนมปังที่นั่งเงียบฟังพวกเขาอยู่ และที่เขาบอกว่าวันนี้ไม่ว่างคงจะหมายถึงการที่ต้องคอยอยู่ดูแลเพื่อนสาวสุดสวยคนนี้สินะ!‘ฉันมาทำอะไรตรงนี้..’‘ (กินเสร็จ ก็คายทิ้ง) ’‘ทำไมถึงเอาคำพูดนั้นออกจากความคิดไม่ได้เลย’คำพูดเนเรียดังกึกก้องอยู่ในหัวของขนมปัง ซึ่งเธอทนไม่ไหวแล้วถ้ายังต้องนั่งอยู่ตรงนี้ฟังพวกเขาพูดคุยกันต่อไปด้วยรูปประโยคไม่ค่อยรื่นหูสักเท่าไหร่พรึบ! เธอตัดสินใจลุกขึ้นยืนก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย“ที่คุณบอกว่าไม่ว่างฉันเข้าใจแล้วค่ะ”“คุณคงต้องคอยดูแลเพื่อน”“งั้นฉันขอตัวกลับขึ้นไปบนห้องนะคะ”“ขนมปัง เดี๋ยว” อีวานยื่นมือจะไปจับข้อมือเธอแต่ไม่ทัน ขนมปังวิ่งออกไปก่อน อีวานหันขวับเมื่อเนเรียระเบิดเสียงหัวเราะ“ฮ่า ๆ สนุกจังเลยอะ” จู่ ๆ เนเรียก็ขำออกมาอย่างคนที่ได้เจอเรื่องสนุก เป
“เฮ้อ เหนื่อยอะ”ขนมปังฟุบหน้าลงทิ้งตัวนอนบนหน้าอกแกร่ง เสียงหายเธอหอบเหนื่อยอย่างคนที่ผ่านการวิ่งมาสิบห้านาทีแต่เปลี่ยนเป็นการทำให้เขากับเธอได้ปลดปล่อยความสุขทางกาย“แค่นี้เหนื่อยแล้ว?”“ค่ะ เหนื่อยแล้ว ฉันขอยอมแพ้ค่ะ”ระหว่างที่พูดก็ยังคงหายใจด้วยความเหนื่อยล้า ทำไมตอนเขาทำเธอไม่เห็นว่าอีวานจะบ่นออกมาเลยว่าเหนื่อยมากเลย เริ่มสงสัยแล้วว่ามาเฟียหนุ่มเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน เธอทำแค่เกร็งขาขยับขึ้นลงนี้ยังรู้สึกเหนื่อยจนหายใจแทบไม่ทัน“ยอมแพ้อย่างนี้ก็ต้องทำตามที่ฉันสั่งน่ะสิ”“ค่ะ สั่งมาเลย”แก่นกายใหญ่ไซซ์ 60 ยังคงเสียบคากระตุกหงึก ๆอยู่ด้านในสวดดอกไม้แสนสวยของขนมปัง อีวานลูบก้นงอนเนียนนุ่มบีบขย้ำเบา ๆ“แล้วคุณจะให้ฉันทำอะไรล่ะคะ”“ช่วยตัวเองให้ฉันดู ตอนนี้!”“คะ!!!”“ฉันได้ยินอะไรผิดไปหรือเปล่า”ขนมปังเงยหน้าขึ้นมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเบิกกว้าง อยากให้สิ่งที่เธอได้ยินนั้นเป็นการเข้าใจผิด เพราะเขาเพิ่งพูดว่าให้เธอ ‘ช่วยตัวเองให้เขาดู’ ใช่ไหม“เธอได้ยินไม่ผิดหรอกเด็กดื้อ”“อีวาน..ฉัน”“เธอแพ้เองนะ จะไม่ก็ได้แต่เราก็ไม่มีเรื่องต้องคุยกันอีกก็เท่านั้น”“…” ขนมปังเม้มปากเข้ากันแน่นพร้อมหลบ
แกร๊ก ปึง! เสียงประตูบ้านเปิดออกแล้วปิดกระแทกอย่างแรงบ่งบอกว่าอารมณ์คนที่ปิดประตูนั้นกำลังอารมณ์เดือดแบบสุด ๆ ขนมปังที่นั่งเงียบ ๆ รออีวานอยู่ที่โซฟายังสะดุ้งจนหัวใจเต้นแรง แต่ก็พยายามเก็บอาการรีบเปลี่ยนสีหน้าที่ตกใจแสดงออกว่าบึ้งตึง ‘ฉันจะไม่ยอมพูดกับเขาก่อน’ ‘ไอ้คนเย็นชา’ ‘…!’ ผิดคาดจากที่ขนมปังคิดเอาไว้ว่าอีวานจะโวยวายเดินมาหาเรื่องหรือพูดเคลียร์เรื่องเลย์ตัน แต่สิ่งที่อีวานทำคือการเดินผ่านเธอไปโดยไม่มองหน้า เขาทำเหมือนเธอเป็นอากาศ… ขนมปังอึ้งไปเลยเพราะอีวานไม่เคยเมินเธอแบบนี้มาก่อน ขนมปังจึงรีบลุกเดินไปจับแขนอีวาน เขาเอียงหน้าหันกลับมามองสายตายังคงเฉยชาใส่เธอเหมือนเดิม ขนมปังขยับปากเล็กเอ่ยถาม “อีวาน” “มีอะไร” “คุณไม่ได้จะคุยกับฉันเหรอคะ” “ฉันบอกเหรอว่าจะคุย?” “ก็คุณบอกให้ฉันกลับมาที่บ้าน..” “ฉันคิดว่าคุณจะเคลียร์เรื่องที่เกิดขึ้น แล้วทำไมถึงได้เมินใส่กันล่ะคะ” เธอเม้มริมฝีปากลงแล้วคลายออกด้วยความสับสน ดวงตากลมโตสบตากับนัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลแววตาของเขาฉายให้เห็นความเย็นชา “เธอพูดเองไม่ใช่เหรอว่าไม่มีเรื่องจะพูดกับฉันแล้ว งั้นก็ไม่จำเป็นต้องนั่งอธิบายอะ
“พาเธอออกไป!”“คะ..ครับ”บอดี้การ์ดเข้ามาจับแขนเล็กพยายามจะดึงให้คนที่เคารพดั่งนายหญิงพาเธอออกไปจากบ้านพักตากอากาศตามคำสั่งของนายท่าน ขนมปังขืนตัวไม่ไปตามแรงที่ดึงตัวเธอ ขนมปังหันกลับมาพูดทักท้วงอีกรอบ“อีวาน คุณจะเอาแบบนี้ใช่ไหมคะ?”“จะไม่ยอมฟังกันเลยใช่ไหมคะ?”“คิดว่าพูดในสถานการณ์ตอนนี้มันฟังขึ้นไหมล่ะ”“ฉันบอกให้ไปรอที่บ้าน”“ฉันไม่อยากพูดซ้ำประโยคเดิมหลายรอบขนมปัง”น้ำเสียงไร้ความอ่อนโยน นัยน์ตาสีฟ้าน้ำทะเลไม่สั่นคลอเลยแม้แต่เศษเสี้ยว“โอเค ได้ค่ะ”“ฉันทำได้แค่ต้องฟังแล้วก็ทำตามคำสั่งคุณเท่านั้นใช่ไหม”“ใช่ เธอควรฟังคำสั่งของฉัน”“งั้นขอบอกอะไรไว้อย่างหนึ่งค่ะ”“ถ้าคุณเลือกจะไม่ฟังกันแล้ว หลังจากนี้ฉันก็จะไม่พูดอะไรอีกแล้วค่ะ”ขนมปังมองไปที่อีวานด้วยแววตาน้อยใจ ส่วนอีวานกลับมองเธอด้วยสายตาเรียบเฉยแววตาที่ว่างเปล่าไม่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ออกมาเลย สายตาคู่นั้นเย็นชาราวกับน้ำแข็ง กำแพงที่เกือบถูกหลอมละลายกับถูกปกคลุมด้วยกำแพงเหล็กอันใหม่…ที่ดูแล้วจะทำลายยากกว่าเดิมอีก“ไม่ต้องจับ ฉันเดินเองได้ค่ะ”ขนมปังสะบัดตัวออกจากลูกน้องของอีวานแล้วหันหลังเดินออกไปรอเขาอยู่ที่บ้านพักตากอาก
เฮือก! พรึบ!“เชี่ย! กูฝันเหรอวะ..?!”อีวานสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมาจากความฝัน แล้วดันเป็นฝันร้ายด้วยที่เกี่ยวกับขนมปัง… ครั้งแรกในหลายสิบปีเลยก็ว่าได้ที่เขาหลับแล้วฝัน หรือเพราะเขาป่วยเหรอถึงได้ฝันอะไรที่ไม่มีทางเกิดขึ้นจริง?!“น้ำตา?” อีวานลูบข้างแก้มตัวเองพบว่ามีน้ำตาเปียกอยู่ ทำให้เขาสับสนมากกว่าเดิม ไม่อยากเชื่อว่าเขาจะร้องไห้เพราะแค่ฝัน.. ความฝันแบบไหนกันนะที่ทำให้มาเฟียสะดุ้งตื่นได้มันคงเป็นความฝันที่กระทบจิตใจเขา ถึงทำให้คนที่แข็งแกร่งดังหินผาตกอยู่ในอาการตื่นตระหนก…“เชี่ยกูเป็นอะไรวะ”พลางนึกถึงสิ่งที่ทำให้เขาร้องไห้ได้ซึ่งในความฝันนั้นเป็นภาพที่มีคนพยายามทำร้ายขนมปังอย่างรุนแรง เหตุผลที่เขาตกใจจนตื่นเพราะเธอเสียชีวิตในอ้อมกอดของเขาโดยที่อีวานไม่สามารถช่วยหรือทำอะไรได้เลย…“มันไม่ใช่เรื่องจริง มึงก็แค่ฝัน”ใครมันจะกล้ามาทำร้ายผู้หญิงของอีวาน!! ใครอนุญาตให้แตะต้องเธอ คนเดียวที่สามารถทำอะไรเธอได้มีแค่เขาคนเดียวเท่านั้น!!!“ขนมปัง..”อีวานหันซ้ายหันขวามองหาผู้หญิงของตัวเองที่ยามนี้ไร้วี่แววของขนมปัง ผิดปกติมากที่เธอไม่นอนอยู่ข้างกายเขาหรืออยู่ในห้องนอน บรรยากาศในตอนนี้เงียบสงบเหมือน
เลย์ตันไม่สนใจเขาหันไปต่อยกำแพงต่อเต็มแรงกลายเป็นว่าเขาไม่รู้สึกถึงความเจ็บปวดใด ๆ เลยถึงแม้เลือดจะออกมาเยอะมาก พอได้เห็นเธออารมณ์น้อยเนื้อต่ำใจทวีคูณตอกย้ำว่าเขาคือคนขี้แพ้ ผู้หญิงที่เขาอยากได้อีวานก็เป็นคนที่ได้ “คุณเลย์ตันพอได้แล้วจะทำร้ายตัวเองไปทำไมคะ!!”เธอลุกขึ้นมาอีกครั้งสวมกอดจากด้านหลังพยายามดึงให้เขาถอยห่างด้วยแรงทั้งหมดที่มี เลย์ตันพยายามจะสะบัดเธอออก คราวนี้ขนมปังกอดติดแน่เหมือนกาว“ไม่! ปล่อยผม!”“ฉันขอร้องไปแล้วไม่ใช่เหรอว่าอย่ามีเรื่องชกต่อยอีกนี่อะไรยังไม่ทันผ่านวันเลยคุณก็เป็นแบบนี้อีกแล้ว”“คุณห้ามผมทะเลาะกับมัน ผมก็ไม่ทำ”“ตอนนี้ผมต่อยกำแพงไม่ได้ต่อยมันผมผิดอะไร”‘…จริงด้วยเขาไม่ได้มีเรื่องกับอีวาน…’“แล้วกำแพงห้องผิดอะไรคะคุณถึงไปชกเขาอยู่ได้”“ผมทำอะไรไม่ได้เลยใช่ไหมต่อยกำแพงก็ผิด งั้นให้ผมต่อยจนมือแตกตายไปเลยคุณไม่ต้องมาสนใจ”“เอาเวลานี้ไปสนใจไอ้อีวานเถอะครับ!”ขนมปังปล่อยมือออกจากตัวเลย์ตันวิธีนี้ใช้ไม่ได้ผลงั้นคงต้องลองวิธีนี้ดู‘ไหนว่าจะช่วยแค่ครั้งเดียวไงขนมปัง..’“หึ กลับไปเถอะแค่นี้ผมก็สมเพชตัวเองมากพอแล้ว”เขาแค่นหัวเราะให้กับชีวิตตัวเองเลย์ตันที่กำลังจะ
“ให้ไปช่วยหยุดใครนะคะ?”ขนมปังเอียงคอลงเล็กน้อยแล้วถามซ้ำอีกครั้งเพื่อความแน่ใจว่าที่ฟังไปเมื่อครู่เธอไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม“นายท่านเลย์ตันครับ คุณขนมปังช่วยหยุดไม่ให้เจ้านายผมทำร้ายตัวเองด้วยนะครับ” บอดี้การ์ดอีกคนที่มาด้วยเอ่ยบอกน้ำเสียงจริงจังใบหน้ากังวลสายตาก็สั่นไหวดูยังไงก็ไม่ใช่คำพูดของคนโกหก“มีเรื่องอะไรกันคะ แล้วทำไมถึงต้องเป็นฉันที่จะไปหยุดเขาล่ะคะ?”หมับ! “เอ๊ะ!”“ไม่มีเวลาแล้วครับ!”บ็อบบี้ถือวิสาสะยื่นมือออกไปคว้าข้อมือเล็กแล้วดึงลากให้เดินไปกับเขาจะต้องบอกว่ากิ่งวิ่งกิ่งเดินเร็วเสียมากกว่าพรึบ! ฟิ้วว!!“เฮ้ย! ทำไรวะ!”ฮาร์ทตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความตกใจเร็วกว่าสมองคือมือได้ยื่นออกไปหวังจะคว้าข้อมือหรือแขนนายหญิงแต่ช้ากว่าบ็อบบี้เขาจึงจับได้เพียงลมในอากาศ“คุณบ็อบบี้ใจเย็นก่อนค่ะฉันตามไม่ทันแล้ว”“ขอโทษนะครับที่ต้องทำแบบนี้มีแค่วิธีนี้เราถึงจะไปได้ทันนะครับ”บ็อบบี้เอ่ยขอโทษแต่ยังคงพาขนมปังออกตัววิ่งแบบที่เธอจะสับขาตามไม่ทันอยู่แล้ว กระทั่งวิ่งมาถึงประตูทางเข้าบ้านพักตากอากาศ บ็อบบี้ปล่อยมือขนมปังทรุดตัวลงไปนั่งคุกเข่าก้มหน้า“ทำอะไรคะ! ลุกขึ้นเดี๋ยวนี้เลยค่ะ”“ขอโทษนะค
ขนมปังหยิบกล่องปฐมพยาบาลเบื้องต้นขึ้นมาวางไว้ที่ตักตัวเองมือก็หยิบหาอุปกรณ์สำหรับเช็ดล้างทำความสะอาด เธอใช้สำลีชุบแอลกอฮอล์สำหรับล้างแผลเตรียมจะเช็ดลงบนใบหน้าให้อีวาน“คงจะเจ็บมากเลยใช่ไหมคะ”ขนมปังมองสำรวจบาดแผลมากมายบนใบหน้าที่เคยสะอาดสะอ้านแต่ตอนนี้กับสะบักสะบอม คิ้วแตก ปากแตก คางแตก และตามแก้มก็มีรอยฟกช้ำแดงบางอันก็เริ่มกลายเป็นสีม่วง ๆ ‘ต่อยกันเอาเป็นเอาตายเลยไหมเนี่ย’“มันคงไม่เจ็บเท่ากับที่เธอบอกว่าผิดหวังในตัวฉัน”“…”เธอนิ่งอึ้งไปพักหนึ่งหลังจากได้ยินคำพูดอีวาน ในเวลาปกติเขาไม่น่าจะเอ่ยอะไรแบบนี้ออกมาให้เธอได้ยิน เดาได้เลยว่าเขาเมาพันเปอร์เซ็นต์ ไวน์สองขวดว่างเปล่าถูกวางอยู่ข้างกายกลับกลิ่นหอมของไวน์ที่ออกมาเวลาที่เขาพูด“คุณอีวานรู้สึกเจ็บเป็นด้วยเหรอคะ”“คิดว่าเป็นคนที่ไม่มีความรู้สึกอะไรแล้วซะอีก”ขนมปังเอ่ยถามเชิงประชดพร้อมกับมือที่คอยเช็ดทำความสะอาดคราบเลือดบนใบหน้าเขาเมื่อทำความสะอาดคราบเลือดออกจนหมด ก็เริ่มหยิบหลอดยาบีบลงที่นิ้วแล้วทาให้เขาต่อ“ถ้าเป็นคนอื่นพูดก็คงไม่รู้สึกอะไร...”“แล้วฉันก็เป็นคนนะจะไม่มีความรู้สึกเลยได้ไง..”“อืม..แล้วฉันสำคัญกับคุณมากถึงขนาดที่มาแ
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั
หมับ! หมับ!ร่างบางก้าวเท้าเดินเข้าไปหาสองหนุ่มยื่นมือทั้งสองข้างออกไปจับเสื้อเชิ้ตประมาณกระดุมเม็ดที่สามเพื่อให้พวกเขาหันกลับมามองยังเธอ ขนมปังออกแรงดึงกระชากให้เข้ามาใกล้แล้วเอ่ยคำสั่งสอนคล้ายคำขู่…“อย่าสร้างความวุ่นวายได้ไหมคะ?!”เสียงหวานเอ่ยอย่างเหนื่อยหน่ายกับพฤติกรรมของพวกเขา“ถ้าฉันรู้ว่าพวกคุณทะเลาะกันในระหว่างที่ฉันทำงาน แล้วให้คนพูดอะไรที่มันไม่เป็นความจริงอีก ฉันจะไม่อดทนกับคุณทั้งสองคนแล้วนะคะ”“…”“…”“จะอายุสามสิบกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอจะให้เด็กอายุยี่สิบสองมาคอยบอกคอยเตือนเหรอคะ?”แต่ละประโยคทำเอามาเฟียหนุ่มทั้งสองยืนหน้าเจื่อนอย่างกับว่าตัวจะหดเล็กลงเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่เธอเอ่ยปากพูดตักเตือน“เป็นถึงประธานทั้งคู่ควรมีวุฒิภาวะมากกว่านี้หรือเปล่าคะ? แต่นี่อะไรเจอหน้ากันทีไรก็มาทะเลาะต่อยตีกันและยังทำต่อหน้าลูกน้องอีก”“…”“…”สองหนุ่มพี่น้องได้แต่ยืนนิ่งเงียบกริบไม่มีใครปริปากพูดสิ่งใด แค่ความคิดว่าจะเอ่ยต่อว่าเธอออกมายังไม่กล้า ‘ทำไมฉันถึงไม่กล้าพูดอะไรเลยวะ!’ เลย์ตันตั้งคำถามภายในใจ‘อีวาน มึงเป็นอะไรวะยอมเธอขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่..’ อีวานเองก็ตีกับความคิดความรู้สึกตั