ทุกอย่างวูบเข้ามาเหมือนเดิม ความคิด เรื่องเก่าๆตลอดสิบสองปีที่ผ่านมา
จนปัจจุบัน..ปลายฝนยังรอ รอว่าเมื่อไหร่ชายรูปร่างยักษ์คนนั้นจะกลับมาหาเธอ และตอนนี้มันก็ผ่านมาสิบสองปีแล้ว
สิบสองปี..ผู้ชายคนนั้นคงแก่และโตมาก แต่เนิ่นนานที่นอนนิ่ง..แม้หลับตาแล้วหลับตาอีกเธอก็ไม่เห็นวี่แววเขา
อะไรกันนี่ ถึงวันแล้ว..ตอนนี้ก็อายุยี่สิบสี่ครบรอบปีนักษัตรแล้ว ใครจะทวงอะไรก็มาสิ มาเถอะ..ฉันจะได้สบายใจสักที!!
หญิงสาวนึกในใจ มือสองข้างก็ทุบที่นอนไปด้วย แต่ก็เงียบฉี่..นอกจากเสียงแอร์และเสียงนกร้องจิ๊บๆ ตอนนี้เธอไม่ได้ยินเสียงใครเลย
"เฮ้อ!!!" ร่างเล็กลุกขึ้นถอนหายใจ และปัดผมเพ้าที่รุงรังไปข้างหลัง ก่อนจะลุกจากเตียงไปเปิดม่านเปิดหน้าต่าง และยืนรอชายกำยำคนนั้นอีกครั้ง
"เมื่อไหร่จะมาคะคุณลุง มาเถอะค่ะ..หนูโตแล้ว ถ้าไม่มา..ลุงผิดคำสัญญานะ"
บ่นเสร็จก็หน้างอคอตก เธอทำแบบนี้แทบทุกวันหลังจากครบรอบปีนักษัตรนี้ จนแล้วจนเล่าจนผ่านมาสองปี
จวบจนเธออายุยี่สิบหก ตอนนี้เธอก็ยังทำ
2ปีต่อมา....
ก๊อก ก๊อก ก๊อก!!
"ปลายฝนวันนี้หนูมีนัดสัมภาษณ์งานนะ พี่ณภัทรจะไปส่ง รีบๆนะลูกกับข้าวก็ตั้งโต๊ะแล้ว เสร็จรึยัง?"
เสียงแม่ดังขึ้นหน้าประตู เรียกปลายฝนที่นอนอยู่หันไปมองทันที ใช่แม่คนนี้คือแม่บุญธรม..พ่ออาจารย์หมอก็พ่อบุญธรรม และพี่ณภัทรที่ว่าก็พี่ชายต่างสายเลือดที่กำลังคบหาดูใจกับเธออยู่
"ค่ะแม่ ขอเวลาสิบห้านาทีค่ะ" ปลายฝนตอบเสียงชัด และหยัดตัวลุกมองที่หน้าต่างครู่นึง วันนี้เธอทำเหมือนเดิม คือรอชายกำยำที่จะมาทวงคืน ซึ่งรอจนอายุยี่สิบหกแล้วก็ไม่มีวี่แวว
"ถ้าวันนี้ไม่มาอีกหนูไปธุระแล้วนะคะ ลุงน่ะ..ทำให้หนูไม่กล้าทำอะไรเลย ไม่กล้าทำงาน ไม่กล้ารักใคร หนูกลัวลุงมาทวงวิญญาณหนู อิอิ"
พูดไปพับผ้าห่มไป ถึงจะแอบเซ็งที่รอนาน..แต่ก็ยังสร้างอารมณ์ขันให้กำลังใจตัวเอง
ก่อนคนตัวเล็กจะสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวกระโปรงทรงเอ รวบผมเพียงครึ่ง เธอแต่งหน้าอ่อนๆทาลิปสีชมพูจากนั้นก็ทับกับลิปกลอสอีกทีนึง เพิ่มความสดใสให้ริมฝีปากตัวเอง
แต่งเรียบร้อยก็หยิบกระเป๋าผ้าลดโลกร้อนพับเป็นชิ้นเล็ก จัดทุกอย่างใส่กระเป๋าสะพายง่ายๆของตัวเอง แล้วถือแฟ้มเรซูเม่กับเอกสารการสมัครงานลงไป
เมื่อถึงโต๊ะกินข้าวก็ยกมือไหว้ทุกคน เป็นธรรมเนียมประจำตัวที่ปลายฝนตั้งไว้ เพราะเธอไม่อาจคาดเดาได้..ว่าลุงกำยำคนนั้นจะพาเธอไปเมื่อไหร่ เธอจึงไปมาลาไหว้พ่อแม่บุญธรรมและพี่ณภัทรของเธอทุกๆวัน
"แต่งหน้าสวยนะ^^" คนชมไม่ใช่ใคร ก็พี่ชายต่างสายเลือดที่เป็นแฟนเธอนั่นแหละ
"พี่ณภัทรก็หล่อ เป็นคุณหมอที่หล่อมากๆ^^" คุณหมอศัลยกรรมประสาทยิ้มจนตาหยี เขาหล่อเหลาดูดีเกินกว่าจะเป็นหมอซะอีก ก็แหม..พยาบาลจีบคนไขัจีบเป็นว่าเล่น ถ้าไม่มีปลายฝนเป็นเจ้าสาวในอนาคต..ป่านนี้เขาคงแต่งงานมีลูกมีเต้าไปแล้ว
เพราะอายุอานามก็ปาไปสามสิบ ใจเรียนจบอยากแต่งงานทันที แต่ก็ติดที่ยัยปลายฝนคนนี้ยังไม่แน่ใจในตัวเอง เธอไม่แน่ใจว่าเธอรักพี่ณภัทรเธอแบบไหน? เห็นหน้ากันทุกวันโตมาด้วยกัน เธออาจจะแค่ผูกพันกันก็ได้ และที่สำคัญสุด...เธอไม่แน่ใจ
ว่าจะมีชีวิตอยู่บนโลกนี้อีกนานเท่าไหร่
เธอถึงได้รอชายกำยำทุกวี่ทุกวัน..
"ณภัทรก็จบเฉพาะทางแล้ว ปลายฝนอยากทำงานอีกกี่ปีลูก แต่งเลยไหม?..จะได้ย้ายไปอยู่คอนโดที่ซื้อไว้เลย^^"
ปลายฝนนิ่งเงียบ ไม่กล้าอ้าปากตอบตกลงกับพ่อบุญธรรมไป ก่อนจะใช้สายตาเหล่มองว่าที่เจ้าบ่าวที่นั่งใกล้ๆ เพื่อให้เขาตอบแทน
"ให้น้องลงตัวกับงานก่อนครับพ่อ แต่งเมื่อไหร่ก็ได้..เราอยู่ด้วยกันตลอดชีวิตอยู่แล้ว^^"
คนเป็นพ่่อเป็นแม่หันไปยิ้มให้กัน เมื่อมองเห็นความรักในแววตาลูกชาย แต่ปลายฝน..เธอมองเป็นอีกอย่าง เธอไม่ได้มองเห็นความรักในเชิงหนุ่มสาวเลย เธอกลับมองว่ายังไงก็พี่ชาย..พี่ชายของเธอ และถ้าต้องตบแต่งก็แต่งตามหน้าที่เท่านั้น
และที่เออออ อยู่ทุกวัน..เธอไม่อยากขัดใจพ่อแม่บุญธรรมที่ชุบเลี้ยงเธอ อีกอย่างพี่ชายต่างสายเลือดก็เป็นคนดี..ดูแลเธอมาตั้งแต่เด็ก ใจก็แอบภาวนาเล็กๆให้หมอณภัทรเจอผู้หญิงที่ชอบๆสักที เธอจะได้ไม่ลำบากใจเวลาล้มหายตายจากกัน เหมือนที่ระแวงอยู่ทุกวันนี้
หลังกินข้าวเช้าเสร็จ..หมอณภัทรก็ขับรถมาส่งปลายฝนที่บริษัทจิวเวลรี่ชื่อดัง ที่เธอยื่นใบสมัครไว้ในตำแหน่งเลขาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเธอถูกจริตอะไรบริษัท..เขาถึงเรียกเธอสัมภาษณ์งาน ทั้งที่เธอไม่ได้ตั้งใจแค่ยื่นมันผ่านๆและสมัครเล่นเท่านั้น
เพราะปลายฝนไม่รู้จะทำงานไปทำไม เกิดทุ่มเทเต็มที่เงินเดือนเต็มขั้น คนกำยำคนนั้นกลับมาเอาตัวเธอไป งานเธอที่ทำไว้คงเสียเปล่า
"ตั้งใจนะ..สู้ๆ^^" ปลายฝนยิ้มแล้วหยิบแฟ้มกอด ก่อนจะยกมือไหว้หมอณภัทรและก้าวขาลงจากรถ เมื่อเห็นบริษัทจะว่าตื่นเต้นก็ไม่..จะว่าชิวก็ไม่ มันครึ่งๆกลางๆ แต่ไหนๆเขาก็เลือกเธอแล้ว...เธอก็จะทำให้ดีที่สุด
ปลายฝนจึงปัดกระโปรงแต่งตัวให้เรียบร้อยอีกครั้ง แล้วเดินตรงไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์เพื่อขอบัตรเข้าสัมภาษณ์กับผู้บริหารโดยตรง
"สัมภาษณ์งานที่นัดไว้? งั้นตามดิฉันมาค่ะ ยังไงรอหน้าห้องก่อนนะคะ..คุณลิลินยังไม่มา^^"
ลิลิน.. ผู้บริหารเป็นผู้หญิงเหรอ? ปลายฝนขึ้นลิฟต์ด้วยความงุนงง แอบยกนาฬิกาข้อมือดูตอนนี้ก็จวนสิบครึ่ง ทำไมผู้บริหารยังไม่มา? เป็นผู้บริหารเข้างานสายได้เหรอ?
"ขอโทษนะคะ..ปกติผู้บริหารที่นี่เข้างานกี่โมงคะ^^?" ปลายฝนถามแล้วยิ้มเจื่อนๆ แต่ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ยิ้มแบบนั้น!..พนักงานสาวคนสวยก็ยิ้มเจื่อนๆเช่นกัน
"แฮร่...ตามอารมณ์ค่ะ อารมณ์ดีมาเร็ว อารมณ์เสียไม่มาก็เคย ^^"
ปลายฝนพยักหน้า แต่ในใจแอบคิด..ว่าเธอสมัครงานเป็นเลขาของคนแบบนี้เหรอเนี่ย? ทุกสิ่งทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับอารมณ์? เป็นเจ้าคนนายคนได้ยังไง?
"เอ่อ อะไรบ้างคะ?..ที่ทำให้ผู้บริหารอารมณ์เสียและไม่พอใจ ดิฉันจะได้ระวัง^^"
พนักงานสาวมองไปที่ตัวเลขตรงแผงลิฟต์อีกครั้ง ก่อนจะหันกลับมาตอบยิ้มๆว่า..
"ไม่ต้องกังวลนะคะ ไม่มีอะไรทำให้คุณลิลินอารมณ์เสียได้ นอกจาก'ผู้ชาย'^^"
ในขณะที่ปลายฝนนั่งรอและลุ้น รถสปอร์สคันหรูราคาหลักสิบล้านก็ขับมาจอดหน้าประตู ลิลิน รัญญาลินท์ ก้าวขาเรียวสวยเปิดประตูลงมาพร้อมๆประตูปีกนกที่สวิงขึ้นอย่างสง่ารองเท้าส้นสูงสีแดงสดสีสันแสบตา แต่ไม่เท่าใบหน้าสวยไร้ที่ติของเธอตาเฉี่ยวๆที่ทั้งเซ็กซี่และน่าค้นหา ริมฝีปากอวบอิ่มที่แสนเย้ายวน กับอกอวบๆสะโพกผายๆ มันเด่นในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปและสูทหลวมๆที่คลุมไหล่เธอลงตัวสมส่วนทุกอย่าง..ราวกับกำลังดูแฟชั่นวีคที่เมืองคานส์ยังไงอย่างงั้น"เลขาที่นัดสัมภาษณ์ มาถึงรึยัง?"ลิลินเอ่ยถามพนักงานที่วิ่งก้มหน้าก้มตามาถือกระเป๋าให้ ในขณะที่เธอก้าวฉับๆถอดแว่นตาดำเข้าบริษัทกับผมที่ปลิวไสวและไล่สายตามองรอบๆอย่างสำรวจ"มาแล้วค่ะ นั่งรอคุณลิลินข้างบน" ได้ยินคำตอบ ลิลินก็พยักหน้าเบาๆก่อนจะก้าวเข้าลิฟต์ที่พนักงานอีกคนเปิดรอก่อนที่เธอจะถอนหายใจเมื่อเห็นตัวเลขที่ขยับขึ้นๆสลับกับก้มมองนาฬิกาข้อมือ ที่จวนเที่ยงและถึงเวลาพักใช่เธอมาสาย และเธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร แต่ที่หงุดหงิดคือ เธอไม่มีเวลามากที่จะสัมภาษณ์เลขาคนใหม่ เพราะอีกไม่ถึงยี่สิบนาทีแฟนซีอีโอสายการบินเวลฟาย ก็จะมารับไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันแล้ว"จะทันมั้ย
'หวงก็เป็นของพี่สิครับ'แน่นอนว่าประโยคนี้ทำให้ลิลินยิ้มกว้างปากแทบฉีก แล้วเธอก็รีบยื่นมือไปควงแขนติณห์ทันที ก่อนที่จะเอนไปซบไหล่กว้างๆของเขา"รอแต่งงานนะคะ ลินจะเป็นของพี่ติณห์ทั้งตัวเลย^^""โถ่ลิน..อีกไม่กี่เดือนเองนะ พี่ขอทดลองก่อนไม่ได้เหรอ? เราคบกันมานานแล้วยังไงๆก็ต้องแต่งอยู่ดีนี่"ติณห์หว่านล้อม พร้อมกับยกมือใหญ่ๆของเขาแตะเบาๆที่มือลิลินด้วย"ไม่ได้ค่่ะ ลินจะไม่ผิดคำสัญญากับปาป๊าเด็ดขาด พี่ติณห์ชวนบ่อยๆแบบนี้จำไม่ได้เหรอคะ ว่าปาป๊าบอกพี่ติณห์วันที่ท่านจับได้ว่าเราคบกันว่าอะไร^^""จำได้ ห้ามล่วงเกินลินก่อนแต่งงาน-_-""เยส!!ถูกต้อง!! ฉะนั้นรอหน่อยนะคะ อีกแปปเดียวเอง ลินไม่หายไปไหนหรอกค่ะ^^"ติณห์ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจเฮือก ถึงเขาจะรู้ว่ายังไงๆก็ต้องสมปรารถนา แต่ความเป็นชายทั้งแท่งของเขา ที่อยู่แนบชิดกับลิลินแฟนสาวทุกวันนั้นมันชักจะทำเขาความอดทนต่ำลงไปทุกวันเขาต้องการให้ลิลินเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะทางพฤตินัยหรือนิตินัย อยากเชยชมเรือนร่างที่เขาเฝ้าทะนุถนอมไว้มาตลอดนี้สักที เพราะที่ผ่านมาจวนจะสามสิบปีนี้ ชายทั้งแท่งอย่างเขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย"เฮ้อ รอก็ได้..แ
"ขึ้นรถ!!" สองเท้าที่กำลังเหยียบน้ำฟุบๆที่พื้นถนน กำลังมีรถสปอร์ทคันหรูของนายแพทย์ศัลยกรรมประสาทและสมองขับขนาบข้าง เขาเลื่อนกระจกตะโกนและบีบแตรเสียงดัง พยายามให้เจ้าของร่างเล็กที่เปียกฝนหันมาสนใจสักครั้ง แต่ก็ไม่...ปริ้น ปริ้น~!"ปลายฝน ขึ้นรถ!!""ไม่ขึ้น! ฉันไม่ไปไหนกับนายทั้งนั้น ฉันไม่ใช่ปลายฝนบ้าบอคอแตกอะไรด้วย นายเองไม่ใช่เหรอ..ที่เป็นคนไล่ฉันลงจากรถ จะเรียกฉันขึ้นไปด่าอีกใช่ไหม?! เออเอาสิ...อ้าปากเมื่อไหร่ฉันจะถอดรองเท้าส้นสูงยัดปากนาย!!""หยุดบ้า! นิสัยแบบนี้ไม่ใช่แฟนฉันแน่นอน ฝนมันตกเห็นไหม!..ถ้าเธอไม่ขึ้นรถและทำร่างแฟนฉันป่วย ฉันไม่เอาเธอไว้แน่!!""คิดว่าฉันอยากป่วยรึไง! ถ้าร่างแฟนนายป่วย..ฉันก็จะรู้สึกป่วยตาม อยู่ในร่างผู้หญิงซื่อบื่อว่าทรมานแล้ว ฉันต้องจำใจมีแฟนซื่อบื้อแบบนายอีก โอ้ย...อยากตาย!>[]เออดี..ปากแบบนี้ทำไมไม่ลงนรกไปซะ เข้ามาสิงร่างแฟนฉันทำไม!!"ริมฝีปากบางขบแน่น ก่อนจะหันขวับไปมองหมอศัลยกรรมประสาทและสมองที่แสนจะเพอร์เฟคในรถคันหรูนี่เหรอ?! คุณหมอณภัทรผู้แสนดีของหล่อนยัยปลายฝน!! เขาพูดกับฉันแต่ละคำเหมือนฉันเป็นกิ้งกือไส้เดือน !"เอองั้นก็ช่วยๆให้ฉัน..ลงไปนรกส
เจ้าของร่างบางบนเตียง...เปิดตาขึ้นจากการงีบหลับ ริมฝีปากหยักสวย ขนตาเป็นแพงอนกระพริบตาถี่ๆอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ปลายฝนจะใช้มือประสานกันวางที่ท้องและเพ่งมองเพดาน คิดกังวลกับเรื่องบางอย่างที่เธอปรึกษาใครไม่ได้ เธอมองและคิดทวน..มองและหาคำตอบให้ตัวเอง ถึงเหตุการ์ณต่างๆที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสิบสองปีที่แล้ว วันนั้นมันตรงกับวันนี้พอดี ครบรอบสิบสองปีนักษัตรที่ผู้ชายกำยำบึกบึนคนนั้นเคยพูดไว้กับเธอเธอเจอเขาคืนนั้นเวลา 3:33 น. ปลายฝนเมื่ออายุสิบสองใส่ชุดนอนหมีพูสีชมพูหวาน เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงลมหวิวๆที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง เสียงนั้น..ดังราวกับเสียงโหยหวน ดังขึ้นๆจนร่างเล็กหยัดตัวนั่งและขยี้ตา..หันมองหน้าต่างที่ปิดสนิทสองบานด้วยความแปลกใจ ก่อนสุดท้ายจะหันไปเห็นนาฬิกาบนโต๊ะแล้วตัดสินใจล้มตัวนอนแต่ร่างเล็กของเด็กสาว...ก็ถึงกลับชะงัก เมื่อเธอเห็นว่าร่างตัวเองยังนอนหลับสนิทแน่นิ่งหนุนหมอนใบนั้นอยู่เช่นเดิม สัญชาตญานความกลัวทำปลายฝนดีดตัวรีบลุกขึ้น เธอยืนมองร่างเล็กใต้ผ้าห่มหนาก่อนจะลูบหน้าลูบตาตัวเองหลายครั้ง นี่ก็เนื้อหนังเธอ บนเตียงล่ะ...ร่างนั้นคนที่เหมือนเธอทุกอย่างคืออะไร?!!หนึ่งสมองแต่สองจิต
'หวงก็เป็นของพี่สิครับ'แน่นอนว่าประโยคนี้ทำให้ลิลินยิ้มกว้างปากแทบฉีก แล้วเธอก็รีบยื่นมือไปควงแขนติณห์ทันที ก่อนที่จะเอนไปซบไหล่กว้างๆของเขา"รอแต่งงานนะคะ ลินจะเป็นของพี่ติณห์ทั้งตัวเลย^^""โถ่ลิน..อีกไม่กี่เดือนเองนะ พี่ขอทดลองก่อนไม่ได้เหรอ? เราคบกันมานานแล้วยังไงๆก็ต้องแต่งอยู่ดีนี่"ติณห์หว่านล้อม พร้อมกับยกมือใหญ่ๆของเขาแตะเบาๆที่มือลิลินด้วย"ไม่ได้ค่่ะ ลินจะไม่ผิดคำสัญญากับปาป๊าเด็ดขาด พี่ติณห์ชวนบ่อยๆแบบนี้จำไม่ได้เหรอคะ ว่าปาป๊าบอกพี่ติณห์วันที่ท่านจับได้ว่าเราคบกันว่าอะไร^^""จำได้ ห้ามล่วงเกินลินก่อนแต่งงาน-_-""เยส!!ถูกต้อง!! ฉะนั้นรอหน่อยนะคะ อีกแปปเดียวเอง ลินไม่หายไปไหนหรอกค่ะ^^"ติณห์ได้ยินแบบนั้นก็ถอนหายใจเฮือก ถึงเขาจะรู้ว่ายังไงๆก็ต้องสมปรารถนา แต่ความเป็นชายทั้งแท่งของเขา ที่อยู่แนบชิดกับลิลินแฟนสาวทุกวันนั้นมันชักจะทำเขาความอดทนต่ำลงไปทุกวันเขาต้องการให้ลิลินเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์แบบ ไม่ว่าจะทางพฤตินัยหรือนิตินัย อยากเชยชมเรือนร่างที่เขาเฝ้าทะนุถนอมไว้มาตลอดนี้สักที เพราะที่ผ่านมาจวนจะสามสิบปีนี้ ชายทั้งแท่งอย่างเขาไม่เคยแตะต้องผู้หญิงคนไหนเลย"เฮ้อ รอก็ได้..แ
ในขณะที่ปลายฝนนั่งรอและลุ้น รถสปอร์สคันหรูราคาหลักสิบล้านก็ขับมาจอดหน้าประตู ลิลิน รัญญาลินท์ ก้าวขาเรียวสวยเปิดประตูลงมาพร้อมๆประตูปีกนกที่สวิงขึ้นอย่างสง่ารองเท้าส้นสูงสีแดงสดสีสันแสบตา แต่ไม่เท่าใบหน้าสวยไร้ที่ติของเธอตาเฉี่ยวๆที่ทั้งเซ็กซี่และน่าค้นหา ริมฝีปากอวบอิ่มที่แสนเย้ายวน กับอกอวบๆสะโพกผายๆ มันเด่นในชุดเดรสเกาะอกรัดรูปและสูทหลวมๆที่คลุมไหล่เธอลงตัวสมส่วนทุกอย่าง..ราวกับกำลังดูแฟชั่นวีคที่เมืองคานส์ยังไงอย่างงั้น"เลขาที่นัดสัมภาษณ์ มาถึงรึยัง?"ลิลินเอ่ยถามพนักงานที่วิ่งก้มหน้าก้มตามาถือกระเป๋าให้ ในขณะที่เธอก้าวฉับๆถอดแว่นตาดำเข้าบริษัทกับผมที่ปลิวไสวและไล่สายตามองรอบๆอย่างสำรวจ"มาแล้วค่ะ นั่งรอคุณลิลินข้างบน" ได้ยินคำตอบ ลิลินก็พยักหน้าเบาๆก่อนจะก้าวเข้าลิฟต์ที่พนักงานอีกคนเปิดรอก่อนที่เธอจะถอนหายใจเมื่อเห็นตัวเลขที่ขยับขึ้นๆสลับกับก้มมองนาฬิกาข้อมือ ที่จวนเที่ยงและถึงเวลาพักใช่เธอมาสาย และเธอก็ไม่ได้รู้สึกผิดอะไร แต่ที่หงุดหงิดคือ เธอไม่มีเวลามากที่จะสัมภาษณ์เลขาคนใหม่ เพราะอีกไม่ถึงยี่สิบนาทีแฟนซีอีโอสายการบินเวลฟาย ก็จะมารับไปทานมื้อเที่ยงด้วยกันแล้ว"จะทันมั้ย
ทุกอย่างวูบเข้ามาเหมือนเดิม ความคิด เรื่องเก่าๆตลอดสิบสองปีที่ผ่านมาจนปัจจุบัน..ปลายฝนยังรอ รอว่าเมื่อไหร่ชายรูปร่างยักษ์คนนั้นจะกลับมาหาเธอ และตอนนี้มันก็ผ่านมาสิบสองปีแล้วสิบสองปี..ผู้ชายคนนั้นคงแก่และโตมาก แต่เนิ่นนานที่นอนนิ่ง..แม้หลับตาแล้วหลับตาอีกเธอก็ไม่เห็นวี่แววเขาอะไรกันนี่ ถึงวันแล้ว..ตอนนี้ก็อายุยี่สิบสี่ครบรอบปีนักษัตรแล้ว ใครจะทวงอะไรก็มาสิ มาเถอะ..ฉันจะได้สบายใจสักที!!หญิงสาวนึกในใจ มือสองข้างก็ทุบที่นอนไปด้วย แต่ก็เงียบฉี่..นอกจากเสียงแอร์และเสียงนกร้องจิ๊บๆ ตอนนี้เธอไม่ได้ยินเสียงใครเลย"เฮ้อ!!!" ร่างเล็กลุกขึ้นถอนหายใจ และปัดผมเพ้าที่รุงรังไปข้างหลัง ก่อนจะลุกจากเตียงไปเปิดม่านเปิดหน้าต่าง และยืนรอชายกำยำคนนั้นอีกครั้ง"เมื่อไหร่จะมาคะคุณลุง มาเถอะค่ะ..หนูโตแล้ว ถ้าไม่มา..ลุงผิดคำสัญญานะ"บ่นเสร็จก็หน้างอคอตก เธอทำแบบนี้แทบทุกวันหลังจากครบรอบปีนักษัตรนี้ จนแล้วจนเล่าจนผ่านมาสองปีจวบจนเธออายุยี่สิบหก ตอนนี้เธอก็ยังทำ2ปีต่อมา....ก๊อก ก๊อก ก๊อก!! "ปลายฝนวันนี้หนูมีนัดสัมภาษณ์งานนะ พี่ณภัทรจะไปส่ง รีบๆนะลูกกับข้าวก็ตั้งโต๊ะแล้ว เสร็จรึยัง?"เสียงแม่ดังขึ้นหน้าปร
เจ้าของร่างบางบนเตียง...เปิดตาขึ้นจากการงีบหลับ ริมฝีปากหยักสวย ขนตาเป็นแพงอนกระพริบตาถี่ๆอยู่หลายครั้ง ก่อนที่ปลายฝนจะใช้มือประสานกันวางที่ท้องและเพ่งมองเพดาน คิดกังวลกับเรื่องบางอย่างที่เธอปรึกษาใครไม่ได้ เธอมองและคิดทวน..มองและหาคำตอบให้ตัวเอง ถึงเหตุการ์ณต่างๆที่เคยเกิดขึ้นเมื่อสิบสองปีที่แล้ว วันนั้นมันตรงกับวันนี้พอดี ครบรอบสิบสองปีนักษัตรที่ผู้ชายกำยำบึกบึนคนนั้นเคยพูดไว้กับเธอเธอเจอเขาคืนนั้นเวลา 3:33 น. ปลายฝนเมื่ออายุสิบสองใส่ชุดนอนหมีพูสีชมพูหวาน เธอสะดุ้งตื่นเพราะเสียงลมหวิวๆที่ลอดเข้ามาทางหน้าต่าง เสียงนั้น..ดังราวกับเสียงโหยหวน ดังขึ้นๆจนร่างเล็กหยัดตัวนั่งและขยี้ตา..หันมองหน้าต่างที่ปิดสนิทสองบานด้วยความแปลกใจ ก่อนสุดท้ายจะหันไปเห็นนาฬิกาบนโต๊ะแล้วตัดสินใจล้มตัวนอนแต่ร่างเล็กของเด็กสาว...ก็ถึงกลับชะงัก เมื่อเธอเห็นว่าร่างตัวเองยังนอนหลับสนิทแน่นิ่งหนุนหมอนใบนั้นอยู่เช่นเดิม สัญชาตญานความกลัวทำปลายฝนดีดตัวรีบลุกขึ้น เธอยืนมองร่างเล็กใต้ผ้าห่มหนาก่อนจะลูบหน้าลูบตาตัวเองหลายครั้ง นี่ก็เนื้อหนังเธอ บนเตียงล่ะ...ร่างนั้นคนที่เหมือนเธอทุกอย่างคืออะไร?!!หนึ่งสมองแต่สองจิต
"ขึ้นรถ!!" สองเท้าที่กำลังเหยียบน้ำฟุบๆที่พื้นถนน กำลังมีรถสปอร์ทคันหรูของนายแพทย์ศัลยกรรมประสาทและสมองขับขนาบข้าง เขาเลื่อนกระจกตะโกนและบีบแตรเสียงดัง พยายามให้เจ้าของร่างเล็กที่เปียกฝนหันมาสนใจสักครั้ง แต่ก็ไม่...ปริ้น ปริ้น~!"ปลายฝน ขึ้นรถ!!""ไม่ขึ้น! ฉันไม่ไปไหนกับนายทั้งนั้น ฉันไม่ใช่ปลายฝนบ้าบอคอแตกอะไรด้วย นายเองไม่ใช่เหรอ..ที่เป็นคนไล่ฉันลงจากรถ จะเรียกฉันขึ้นไปด่าอีกใช่ไหม?! เออเอาสิ...อ้าปากเมื่อไหร่ฉันจะถอดรองเท้าส้นสูงยัดปากนาย!!""หยุดบ้า! นิสัยแบบนี้ไม่ใช่แฟนฉันแน่นอน ฝนมันตกเห็นไหม!..ถ้าเธอไม่ขึ้นรถและทำร่างแฟนฉันป่วย ฉันไม่เอาเธอไว้แน่!!""คิดว่าฉันอยากป่วยรึไง! ถ้าร่างแฟนนายป่วย..ฉันก็จะรู้สึกป่วยตาม อยู่ในร่างผู้หญิงซื่อบื่อว่าทรมานแล้ว ฉันต้องจำใจมีแฟนซื่อบื้อแบบนายอีก โอ้ย...อยากตาย!>[]เออดี..ปากแบบนี้ทำไมไม่ลงนรกไปซะ เข้ามาสิงร่างแฟนฉันทำไม!!"ริมฝีปากบางขบแน่น ก่อนจะหันขวับไปมองหมอศัลยกรรมประสาทและสมองที่แสนจะเพอร์เฟคในรถคันหรูนี่เหรอ?! คุณหมอณภัทรผู้แสนดีของหล่อนยัยปลายฝน!! เขาพูดกับฉันแต่ละคำเหมือนฉันเป็นกิ้งกือไส้เดือน !"เอองั้นก็ช่วยๆให้ฉัน..ลงไปนรกส