ฉันจ้องมองพี่ขุนเขาที่ดูท่าทีว่ากำลังหัวเสียเอามากๆตอนนี้ เขาพ่นลมหายใจออกมาแรงๆ ก่อนจะหันขวับมาจ้องหน้าฉันตาเขม็ง ฉันรีบก้มหน้าลงหลบสายตาอำมหิตของพี่ขุนเขาทันทีหมับ! มือหนาคว้ามาจับแขนฉัน แถมยังออกแรงบีบจนแทบจะสุดแรงของพี่ขุนเขาเลยล่ะมั้ง เพราะมันทำให้ฉันเจ็บเอามากๆ“โอ้ยย หนูเจ็บนะ” ฉันพูดพลางพยายามแกะมือของพี่ขุนเขาออก“เอากับมันนานหรือยัง” พี่ขุนเขาถามเสียงแข็ง ก่อนจะขบกรามแน่น“บ้า หนูไม่เคยทำอะไรอย่างนั้นนะคะ”“หึ! มารับมาส่ง เธอจะให้ฉันคิดว่ายังไง”“....”“ถ้าไม่ใช่เพราะเธอเป็นเมียมันแล้ว วีนัส!!”“อื้อ หนูเจ็บ”ฉันร้องท้วงเมื่อพี่ขุนเขาปล่อยมือออกจากต้นแขนของฉัน แล้วเปลี่ยนมาบีบปลายคางของฉันแทน ไม่คิดว่าฉันจะเจ็บเลยหรือไงกัน“ฉันไม่ชอบให้ใครมายุ่งกับผู้หญิงของฉัน และฉันก็ไม่ชอบให้ผู้หญิงของฉันไปร่านกับใคร”“หนะ หนูไม่ใช่ผู้หญิงของพี่นี่คะ อะ อื้อ...จะ เจ็บ” ฉันร้องค่ำครวญออกมาในลำคอ เมื่อจบคำพูดของฉัน พี่ขุนเขาออกแรงบีบปลายคางของฉันแรงขึ้นเป็นเท่าตัว“ถ้ายังไม่ครบกำหนดที่ตกลงกันไว้ เธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของฉัน สาวน้อย...”“....”“และอย่าคิดที่จะถอนตัว เพราะถ้าเธอคิดจะไปเ
ฉันเม้มปากเข้าหากันแน่นทันที เมื่อพี่ขุนเขาสั่งฉันมาอย่างนี้ นิ้วใหญ่ยังคงขยับถูตรงจุดเสียวของฉันอยู่ จะไม่ให้ฉันเปล่งเสียงอะไรออกไปเลยมันก็ไม่ได้ พี่ขุนเขาจี้จุดเสียวกันขนาดนี้“ถอดเสื้อสิ” พี่ขุนเขาสั่งเสียงกระเส่าฉันยอดยกมือขึ้นมาถอดเสื้อตัวเองออกโดยไม่มีคำคัดค้านใดๆ เพราะค้านอะไรไปก็ไม่เป็นผลอยู่ดี หลังจากที่ฉันถอดเสื้อออก ถอดออกจนหมด ท่อนบนของฉันไม่มีเสื้อผ้าเหลืออยู่เลยสักชิ้นเดียวพี่ขุนเขาดันฉันให้ฉันราบไปกับที่นอน ก่อนจะปลดตะขอกระโปรงนักศึกษาของฉันออก รวมทั้งสเต กางเกงในตัวจิ๋วมันก็ติดมือพี่ขุนเขาออกไปด้วย“สวยไปทั้งตัวเลยนะรู้มั้ย หื้มม” พี่ขุนเขาพูดเสียงหวาน สายตามองเรือนร่างเปลือยเปล่าของฉันตาไม่กระพริบ“อย่ามองแบบนี้ได้มั้ย หนะ หนูอาย...” ฉันพูดพร้อมกับดึงผ้าห่มมาปิดร่างของตัวเอง แต่ก็ถูกพี่ขุนเขาดึงออกอย่างขัดใจพี่ขุนเขาลุกขึ้นยืน ถอดเสื้อผ้าของเขา สายตายังคงจับจ้องเรือนร่างของฉันอยู่อย่างนั้น ทำเอาตอนนี้หน้าของฉันมันร้อนผ่าวเพราะสายตาของพี่ขุนเขามากจริงๆหลังจากถอดเสื้อผ้าเสร็จพี่ขุนเขาก็โน้มลงมาหาตัวฉัน เขาลากเรียวลิ้นร้อนๆ ตั้งแต่ขาอ่อนของฉัน ลากไล้เรียวขึ้นขึ้นมาช้
คำพูดแต่ละคำที่มันกลั่นออกมาจากปากพี่ขุนเขา มันทำให้ฉันรู้สึกเจ็บดีจริงๆ ตอบแทนบุญคุณ ฉันก็กำลังทำอยู่นี่ไง ยังไม่พอใจเขาอีกงั้นหรอ หรือฉันต้องตอบแทบยังไง ฉันต้องติดคุกใช่มั้ย ถึงจะพอใจ“เข้าใจที่ฉันพูดมั้ย ?”“.....”“วีนัส !!” พี่ขุนเขาตวาดเรียกชื่อฉันเสียงดัง“ค่ะ หนูเข้าใจ” ฉันตอบโดยที่ไม่หันหน้ามองพี่ขุนเขา“อย่าให้ฉันรู้ว่าเธอคุยกับผู้ชายคนไหน”“ค่ะ หนูไปอาบน้ำก่อนนะคะ” ฉันพูดเปลี่ยนประเด็น เพราะไม่อยากต่อปากต่อคำอีก ถึงยังไงฉันก็แพ้ และยังจะต้องมาเจ็บกับคำพูดของพี่ขุนเขาอีก“ที่เธอตบฉันเมื่อกี้ เธอจะรับผิดชอบยังไง” พี่ขุนเขารั้งแขนฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะลุกขึ้นจากเตียง“หนูขอโทษ...”“แค่ขอโทษมันไม่ง่ายไปหน่อยหรอ หื้ม”“แล้วจะให้หนูทำยังไงละคะ” ฉันต้องกลับอย่างหงุดหงิด เมื่อพี่ขุนเขาไม่ยอมปล่อยให้ฉันไปอาบน้ำสักที“จูบฉันสิ จูบตรงที่เธอตบ”“....” ฉันค่อยๆเม้มปากเข้าหากันแน่น ฉันตามอารมณ์พี่ขุนเขาไม่ทันเลยจริงๆเขาพูดให้ฉันเสียความรู้ เขาโมโหใส่ฉัน แต่ตอนนี้เขาทำราวกับว่าเมื่อครู่มันไม่มีอะไรเกินขึ้น เหมือนเราไม่ได้มีปากเสียงกัน เหมือนเขาไม่ได้ดูถูกฉัน“วันัส!!” พี่ขุนเขาเรียกชื่อฉั
พี่ขุนเขาถีบตู้เสื้อผ้าเสียงดัง ก่อนจะเดินออกไปตรงด้านนอกระเบียงแล้วจุดบุหรี่สูบ ควันสีขาวขุ่นลอยคลุ้งในอากาศ เขาไม่สนใจเลยว่าตัวเองทำฉันเจ็บ เขามันใจร้ายที่สุดฉันยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้ม แล้วก็วิ่งออกจากห้องแล้วเปิดประตูเข้าไปร้องไห้ในห้องนอนของตัวเอง“ไอ้คนใจร้าย ทำหนูเจ็บไม่ขอโทษสักคำ ฮึก...”“แค่เดินมาดูแผลหนูบ้างยังไม่มีเลย ใจร้ายที่สุด ฮึก...ไอ้คนบ้า” ฉันเอาแต่นั่งร้องไห้ แล้วก็พูดตัดพ้อพี่ขุนเขาเลือดที่มันเกิดจากของแข็งที่พี่ขุนเขาปามาโดนหัวฉัน ตอนนี้มันไหลลงมาอาบแก้มแล้ว แถมยังเปื้อนเสื้อนักศึกษาฉันไปหมด พอเห็นแบบนั้นฉันจึงหยุดร้องไห้ แล้วไปทำแผลของตัวเอง เพราะกลัวว่าเลือดจะหมดตัวสะก่อนหลังจากทำแผลให้ตัวเองเสร็จ ฉันก็ลงมาทำอาหาร หลังจากทำอาหารเสร็จก็ไม่วายที่จะเป็นห่วงพี่ขุนเขาเพราะเขายังไม่ได้ทานอะไรแน่ๆ เลยเฮ้อ...ฉันจะไปเป็นห่วงเขาทำไม เขาทำฉันเจ็บตัวหนิ“ปล่อยให้อดตายไปเลย...ชิ” ฉันก้มหน้าพูดพึมพำคนเดียว ก่อนจะตักข้าวราดใส่จาน แล้วก็ยกจานข้าวมานั่งกินที่หน้าทีวีในห้องนั่งเล่นวันต่อมา....พอฉันตื่นขึ้นมาก็อาบน้ำแต่งตัวก่อนจะออกจากห้อง เปิดประตูออกฉันเห็นโทรศัพท์ของ
นานพอสมควรที่ฉันยืนฟังเสียงคราง ที่มันดังเล็ดลอดออกมาจากด้านในห้อง ด้วยอารมณ์ที่หลากหลาย ก่อนที่ฉันจะคิดได้ว่าฉันไม่ควรมายืนอยู่แบบนี้ ฉันต้องเสียสติไปแล้วแน่ๆเลย บ้าจริง!!ฉันรีบเดินออกมาจากตรงนั้น ก่อนจะหายเข้าไปในห้องนอนของตัวเอง ฉันถอดชุดนักศึกษาออก ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชุดเสื้อยืนกางเกงขาสั้นธรรมดา จากนั้นฉันก็นั่งลงบนเตียงพลางคิดอะไรไปเรื่อยจู่ๆ มันก็มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัว เรื่องของฉันกับพี่ขุนเขา ตั้งแต่แรกเริ่ม จนถึงตอนนี้ ฉันเกือบจะลืมไปแล้วนะ ว่าเราแต่งงานกันแล้ว แต่แค่เราไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน เพราะอายุของฉันยังไม่ถึง ไม่งั้นฉันคงไม่รอดแน่ คำโกหกของฉันในตอนนั้น มันคือหลังฐานมัดตัวให้ฉันดิ้นไม่หลุดฉันกำลังชดใช้ในสิ่งที่ฉันโกหกไป....ฉันเรียนจบเมื่อไหร่ ก็จะได้เป็นอิสระแล้ว อีกไม่นานหรอก แค่สองปีเอง พี่ขุนเขาคงไม่ใจร้ายไปกว่านี้แล้วแหละฉันถอนหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะลุกขึ้นจากเตียงนอน แล้วลงไปชั้นล่างเพื่อทำอาหารแม่ฉันหัดให้ฉันทำอาหารตั้งแต่อยู่ ม.ต้น เพราะเมื่อก่อนเราทำข้าวราดแกงขายที่หน้าบ้าน และขายดีมากเลยนะช่วงนั้น แต่พอพ่อเสียไป เหมือนเราขาดเสาหลักของครอบครัวไป ทุกอย่า
“หนูขอตัวค่ะ ปล่อย” ฉันพูดพลางพยายามแกะมือหนาของพี่ขุนเขาออก แต่เจ้าตัวไม่ยอมปล่อย“จะไปไหน !!” พี่ขุนเขาถามเสียงดัง“ก็ไปทำอาหารให้พี่ทานไงคะ ปล่อยหนู หนูเจ็บ...”“ฉันไม่หิว ไม่ต้องทำ”“งั้นก็ปล่อย หนูจะลงไปกวาดบ้าน”“ไม่ต้องทำ !!”“พี่ขุนเขาหนูเจ็บ บอกให้ปล่อยไง” ฉันนิ่วหน้าหลายต่อหลายครั้งเพราะความเจ็บ เขาไม่คิดอะไรเลยใช่มั้ย ที่ทำฉันเจ็บแบบนี้“มันมารับมาส่งเธอตลอดเลยสินะ”“ฉันไม่พูด เอาใหญ่เลยนะเดี๋ยวนี้ ทำตัวใสๆ แต่ข้างใน หึ....!!” พี่ขุนเขาปรายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับสายตาที่แสนจะดูถูก“พูดเรื่องอะไรอีกคะ พี่เป็นบ้าไปแล้วรึไงพี่ขุนเขา”“ไอ้หมอเวรนั่นไง !!” อีกแล้ว ตะคอกใสหน้าฉันอีกแล้วนะ“พี่หมอคือพี่ชายของหนู”“พี่น้องท้องชนกันสิไม่ว่า”“พี่ขุนเขา หนูไม่คิดจะทำอะไรต่ำๆ แบบนั้นหรอกนะคะ”“ใครจะไปรู้ ฉันไม่ได้อยู่กับเธอตลอด”“ที่เธอบอกว่าไปเรียน เธออาจจะแวะไปโรงแรม....”“พูดเกินไปแล้วนะคะ !!”“หึ!! ฉันว่าเธอไปคุยกับฉันในห้องจะดีกว่านะวีนัส”“มะ ไม่ หนูไม่คุย” ฉันพยายามดิ้นให้ตัวเองหลุดจากมือหนาของพี่ขุนเขา แต่ไม่เลย แค่พี่ขุนเขาออกแรงกระชากร่างฉันมันก็เซแถลไปตามแผ่นหลัง
หลังจากที่ขุนเขาทำเรื่องอย่างว่ากับฉันเสร็จ ฉันแทบจะไม่มีแรงลุกขึ้นไปไหนเลย รู้สึกว่าขามันอ่อนแรงสั่นพับๆเลยเวลายืน ฉันทำได้แค่นอนนิ่งๆอยู่บนเตียง ข้าวก็ยังไม่ได้กิน หิวก็หิว ส่วนพี่ขุนเขาก็นั่งเล่นโทรศัพท์ข้างๆฉันนี่เเหละ เขานั่งพิงหัวเตียงแล้วก็กดๆ พิมพ์โทรศัพท์ คุยกับใครก็ไม่รู้“เดี๋ยวเพื่อนฉันจะมา” พี่ขุนเขาหันมาบอกฉัน ก่อนจะหันหน้าไปจ้องมองโทรศัพท์เหมือนเดิม“ค่ะ ละ แล้วพี่บอกหนูทำไม” ฉันเอ่ยถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆแต่ก็สงสัย ว่าพี่ขุนเขาจะบอกฉันทำไมกัน“เธอต้องลงไปทำอาหารไว้”“แต่ขาหนูสั่นไปหมดแล้ว” ฉันมองหน้าพี่ขุนเขา พร้อมกับส่งสายตาบอกว่าฉันไม่ได้โกหกพี่ขุนเขาหันมาเลิกคิ้วให้ฉัน พร้อมกับกระตุกยิ้มที่มุมปากให้ฉันด้วย“ถ้าดื้อก็จะโดนแบบเมื่อกี้นี้อีก” พี่ขุนเขามองฉันสายตาดุๆ“พี่นั่นแหละชอบคิดไปเอง หนูพูดอะไรไปก็ไม่เชื่อหนู”“ปากดีแบบนี้อยากโดนเอาอีกว่างั้น”“เปล่านะคะ หนูแค่อธิบาย อยากให้พี่ อื้อ....”พี่ขุนเขาก้มหน้าลงมาประกบปากจูบฉัน โดยที่ฉันไม่ทันตั้งตัว สัมผัสแบบนี้มัน....มันทำให้ใจของฉันเต้นรัว ใบหน้าร้อนผ่าวขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุพรึ่บ! ฉันผลักพี่ขุนเขาออก และเอามือมาทาบ
“เธออย่าทำให้ฉันหมดความอดทนนะวีนัส !!” พี่ขุนเขาพูดเสียงแข็งพร้อมกับจ้องหน้าฉันตาเขม็ง“ก็หนูชอบพี่เขามากจริงๆ”“ผัวเธอยืนอยู่ตรงนี้ เธอมาบอกชอบผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผัว กล้าดีหนิ หึ!!”“แต่เราไม่ได้รักกันสักหน่อย อีกอย่างหนูชอบพี่เหนือก่อนจะรู้จักพี่อีกนะคะ” ฉันพูดไปด้วยความสัจจริง ฉันน่ะปลื้มตั้งแต่ฉันอยู่ ม.ต้นแล้วนะ“ฉันไม่ชอบให้เธอยุ่งกับใคร ทำไมเธอไม่ฟัง!!”“หนะ หนูก็แค่ขอไปถ่ายรูป...” ฉันก้มหน้าตอบเมื่อเห็นอาการที่ไม่พอใจฉันเอามากๆของพี่ขุนเขา“ไม่ให้ถ่าย !!” เอะอะก็ตะคอก ตวาด ไม่มีใครหรอก มีแค่พี่ขุนเขาคนเดียวนี่แหละฉันยู้ปากเบ้บใส่พี่ขุนเขา เมื่อเขายืนกรานที่จะไม่ยอมให้ฉันถ่ายรูุป ก็แค่ถ่ายรูปไม่รู้ทำไมต้องหวงด้วย ฉันเสียดายมากๆเลยนะที่ได้เจอพี่เหนือแบบตัวๆแบบนี้ แต่ไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูป ถ้าฉันได้ถ่ายรูปคู่กับพี่เหนือนะ กรีนกับนัตตี้ต้องอิจฉาฉันมากแน่ๆ“ขึ้นห้องไป แล้วห้ามมองมัน”“พี่บ้าไปแล้วรึไงกัน”“ฉันสั่งเธอก็ต้องทำ” พี่ขุนเขาสั่งเสียงแข็งไปกันใหญ่แล้วนะ แค่มองก็ไม่ได้เลยหรอ ฉันไม่ใช่คนรักของพี่ขุนเขาสักหน่อย ทำไมต้องมาห้ามกันแบบนี้ด้วย“ขึ้นห้องไปสิ จะมายืนอยู่ทำไม”“ชิ
ทะเล...วันนี้คือวันแรงที่ฉันกับพี่ขุนเขามาฮันนีมูนกัน เราเลือกมาที่ทะเล ไม่อยากไปต่างประเทศ เพราะเป็นห่วงลูกๆ เรามาฮันนีมูนกันแค่สามวันและสำหรับวันแรกของการมาทะเล มันก็ตรงกับวันครบรอบแต่งงานสิบปีของฉันกับพี่ขุนเขาพอดี ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือ พี่ขุนเขาตั้งใจ ให้ตรงกับวันสำคัญของเรา“ไปเดินเล่นกันมั้ย”“ค่ะ ^_^”เราจูงมือกันเดินออกจากบังกะโล และพากันเดินไปที่ริมหาด ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว แสงแดดอ่อนๆ กระทบกับผิวน้ำทะเลมันชั่งสวยจริงๆเชื่อมั้ยว่านี่คือครั้งแรกที่ฉันเคยมาทะเล ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยไปไหนไกลนอกจากบ้านและโรงเรียนเลยที่นี่เงียบสงบดีจริงๆเลยนะ อาจเป็นเพราะเราเลือกมาวันที่คนอื่นเขาทำงานกัน เลยไม่ค่อยมีคน“เล่นน้ำมั้ย”“ไม่เล่....อร้ายยย” ฉันร้องออกมาเสียงหลงเมื่อ จู่ๆ พี่ขุนเขาก็ช้อนตัวฉันขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปที่ทะเลสีฟ้าคราม“พี่ขุนเขาหนูบอกว่าไม่เล่นไง”ตู้มม!!เมื่อฉันพูดจบร่างของฉันก็ถูกพี่ขุนเขาโยนลงน้ำทันที นี่เขาได้ยินที่ฉันร้องบอกบ้างมั้ยเนี่ย“ไอ้พี่ขุนเขาบ้า หนูบอกว่าไม่เล่นไง!!” เมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำได้ ฉันก็ตวาดใส่พี่ขุนเขาทันที“เวลาเปียก หนูเซ็กซี่มากเล
ภายในบ้าน“หนูชื่ออะไร” ฉันก้มลงถามเด็กน้อย เฮ้อ ดูแววตาของเธอที่มองฉันสิ ทำไมถึงเศร้าแบบนี้นะ“หนูชื่อ เหมือนฝันค่ะ น้องชื่อ ข้าวหอม” เด็กน้อยตอบฉันเสียงใส ถ้าจับอาบน้ำแต่งตัว หนูเหมือนฝัน นี่น่าตาน่ารักน่าชังมากๆเลยนะ ส่วนทารกน้อยก็น่ารักน่าชังไม่แพ้กัน ใครหน้อชั่งใจร้ายพามาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของฉันฉันจัดการให้ป้าช้อยพาหนูเหมือนฝันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนข้าวหอม ฉันจะจัดการอาบน้ำให้เอง เด็กอะไรก็ไม่รู้ เลี้ยงง่ายมาก ไม่ร้องไม่งอแงในเวลาอาบน้ำเลย พออาบน้ำเสร็จฉันเอานมให้กินแล้วก็พาไปนอนในเปลของขุนแผน ตอนนี้หลับปุ๋ยไปแล้ว เลี้ยงง่ายจริงๆผ่านไปพักใหญ่ ป้าช้อยพาหนูเหมือนฝันลงมาจากชั้นสอง พออาบน้ำขัดผิวแล้วน่ารักน่าชังมากกว่าที่ฉันคิดไว้สะอีกฉันเอาข้าวให้หนูเหมือนฝันกิน เด็กน้อยกินใหญ่เลย ท่าทางเหมือนจะไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน“หนู นั่นลูกใคร” เสียงพี่ขุนเขาถามฉัน พี่ขุนเขาเดินมาพร้อมกับ ขุนราม เจ้าคุณ แล้วก็อุ้มขุนแผนมาด้วย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ นั่งอยู่หน้าบ้าน ถามอะไรก็ไม่รู้ หนูก็ได้ให้เขามาในบ้านก่อน พี่ขุนเขาให้ลูกน้องตามหาพ่อแม่ให้ทีนะคะ” พี่ขุนเขาเพ่งมองไปที่เหมือนฝัน เธอกำลังน
หลายปีผ่านไปไวเหมือนโกหก...“ขุนรามลูก อย่าแกล้งน้อง”“เจ้าคุณเลิกเล่นเกมส์ได้แล้วลูก”ตอนนี้ฉันกำลังเก็บของเล่นที่มันกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นไปหมด คงไม่ต้องบอกว่าฝีมือใครหรอกนะ จะมีใครสะอีก ก็เจ้าสองแฝด ขุนรามกับเจ้าคุณ ของฉันไงล่ะตอนนี้ทั้งสองอายุ8ขวบแล้ว แถมยังดื้อเอามากๆ ให้ช่วยดูน้องก็เอาแต่เล่นเกม อีกคนให้ดูน้องก็แกล้งน้องฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันมีลูกเล็กเพิ่มมาอีกคน แถมเป็นผู้ชายด้วย ชื่อ ขุนแผน จริงๆพี่ขุนเขาอยากจะได้แฝดอีก แต่ได้แค่คนเดียว แถมเขายังจะเอาอีกคน ฉันเบรคไว้แทบไม่ทัน ปิดอู่แล้วตอนนี้ เพราะแค่เจ้าสองแสบก็วุ่นแล้ว ไม่รู้ขุนแผนโตขึ้นกว่านี้หน่อยจะดื้อเหมือนพวกพี่ๆมั้ยเจ้าคุณ กับ ขุนราม เป็นแฝดก็จริง แต่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักนิด เป็นแฝดคนละฝา แต่ถ้าพูดถึงความดื้อแล้วละก็ กินกันไม่ลงเลยจริงๆ ขุนรามเป็นพี่ก็จะดื้อเอามากๆ ชอบโวยวาย ส่วนเจ้าคุณ แฝดน้อง ร้ายนี้เงียบๆ แต่ดื้อไม่เบาเหมือนกัน เอาแต่ใจตัวเองมากๆอีกด้วยวันนี้พี่ขุนเขาไปที่บริษัท บริษัทของพี่เจ้าป่ากับพี่ขุนเขาหุ้นกันเปิด เปิดมาได้5ปีแล้ว ธุรกิจกำลังรุ่งเลยตอนนี้“แง๊ แง๊~” เสียงขุนแผนร้องดังลั่นบ้านฉันถึงกับถ
——วันแห่งความสุข—-ขอตัดมาวันแต่งงานเลยแล้วกัน เพราะที่ผ่านมาหลังจากที่พี่ขุนเขาขอฉันแต่งงานเราก็วุ่นๆกันทั้งคู่ ทั้งหาฤกษ์แต่งงาน จัดเตรียมสถานที่ การ์ด อะไรอีกหลายๆอย่างเราสองคนจัดพิธีแต่งงานแบบไทยๆ ชุดแต่งงานก็เหมือนกัน ฉันใส่ชุดแบบไทยๆ ไม่ได้หรูหราอะไรมากมายพิธีแต่งงานจัดขึ้นที่บ้านของฉัน ไม่ได้จัดงานใหญ่โตอะไร เป็นงานเล็กๆ และก็เชิญแค่ญาติที่สนิทเท่านั้นตอนนี้แม่กำลังตอนรับแขกอยู่ข้างนอกกับป้านิ่มวันนี้ฉันคุยกับเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องแล้ว บอกว่าห้ามกวนแม่นะวันนี้ และดูเหมือนว่าลูกน้องของฉันจะเชื่อฟังซะด้วย เพราะตั้งแต่ตื่นมาแต่งหน้าแต่งตัว จนถึงตอนนี้ ฉันไม่มีอาการพะอืดพะอมอยากจะอ้วกเลย“ตื่นเต้นหรอเรา” เจ้แอมเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเอ่ยถาม เจ้แอมเป็นเพื่อนเจ้าสาว แล้วก็มีกรีน มีนัตตี้ แต่สองคนนั้นยังแต่งตัวกันอยู่ คงจะเอาให้สวยกว่าฉันเลยละมั้ง“ตื่นเต้นสิเจ้” บอกตามตรงว่าตอนนี้มือไม้ฉันสั่นไปหมดทั้งที่เคยแต่งงานกับเขามาแล้วครั้งหนึ่งแท้ๆ แต่ความรู้สึกของฉันราวกับว่านี่คือครั้งแรกที่ฉันกำลังจะได้แต่งงาน“เจ้าบ่าวใกล้จะมาถึงแล้วนะ” ยิ่งเจ้แอมพูดแบบนี้ฉันยิ่งตื่นเต้นไปกันใ
พอได้ยินพี่เส้นด้ายพูดออกมาแบบนี้ ฉันก็หันขวับไปมองหน้าของพี่ขุนเขาทันที เพราะอยากจะรู้ว่าตอนนี้อาการของพี่ขุนเขาเป็นยังไงตอนนี้พี่ขุนเขามองพี่เส้นด้าย แต่เขาไม่ได้ตอบอะไร“ถ้างั้นก็คุยกันไปแล้วกันค่ะ เดี๋ยวหนูไปรอที่รถ” ฉันบอกพี่ขุนเขาออกไป ถามว่าประชดมั้ย ใช่!! ฉันประชด แต่ถ้าเขาจะคุยกัน จริงๆ ฉันก็ห้ามอะไรไม่ได้หรอก“หนู...” พี่ขุนเขารั้งแขนฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเดินไป“ก็คุยไปสิ” ฉันพูดกระแทกเสียงใส่พี่ขุนเขา เขากำลังทำให้ฉันหงุดหงิด“ขุนเขา...” พี่เส้นด้ายเรียกพี่ขุนเขาอีกครั้ง“ด้าย คุณก็มากับแฟนคุณไม่ใช่รึไง คนที่คุณควรให้ความสนใจคือแฟนคุณนะ”“แต่...”“ตอนมีเขาอยู่ ไม่เห็นจะอาลัยอาวรณ์ ตอนนี้เป็นบ้ารึไง” ฉันพูดออกไปอย่างเหลืออด เพราะฉันก็ทนมามากแล้วเหมือนกัน“นี่แก หุบปากไป ฉันจะคุยกับขุนเขาไม่ใช่แก”“ด้าย!! เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว” พี่ขุนเขาพูดขึ้นก่อนที่ฉันจะพูด“ขอคุยแค่แปปเดียวก็ไม่ได้หรอ”“หน้าด้าน มาขอคุยกับผัวคนอื่น”“นี่ก็ผัวฉันเหมือนกัน !!”“แต่ตอนนี้เขาเป็นผัวหนู เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน พี่มายุ่งอะไรด้วย!!”“หนู พอแล้วคนอื่นมองเยอะแล้ว” พี่ขุนเขาร้องห้ามฉัน ทำไมไ
“พี่นั่นแหละ จะเป็นใครได้ล่ะ”พี่ขุนเขายิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจในคำตอบของฉันหลังจากที่เราทั้งคู่ต่างจ้องตากันนานพอสมควร พี่ขุนเขา ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้ฉันเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากของเราทั้งคู่แตะโดนกันก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง)จู่ๆ เสียงเคาะห้องก็ดังขึ้น ฉันรีบผลักพี่ขุนเขาออกทันที“ใครวะ !!” พี่ขุนเขานั่งบนปลายเตียงเขายกมือขึ้นมายีผมตัวเองแรงๆ ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสียก๊อก ก๊อกๆ“วีนัสลูก อยู่ในห้องรึเปล่า” คนที่เคาะห้องคือแม่นี่เอง“ยะ อยู่จ้ะแม่”ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปเปิดประตูให้แม่ เมื่อเปิดประตูออก แม่กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แม่หยุดชะงัก แล้วก็มองผ่านตัวฉันเข้ามาด้านในห้อง ก่อนที่แม่จะมองหน้าฉันแล้วก็ยิ่มน้อยยิ้มใหญ่“ใจอ่อนเเล้วใช่มั้ย” แม่ถามฉันฉันเม้มปากเข้าหากันแน่น มันอายที่จะตอบนะ เพราะก่อนหน้านี้ฉันยังบอกแม่ว่าจะไม่ให้อภัยพี่ขุนเขาอยู่เลย“งั้นแม่ไม่กวนแล้ว ทำต่อเถอะ”“แม่!!” ฉันทำหน้างอใส่แม่ ก็แม่นะสิ คงคิดว่าฉันกำลังจะทำอะไรกับพี่ขุนเขาอยู่แน่ๆเลย ถึงเราสองคนกำลังจะทำแบบนั้น จริงๆ ก็เถอะ“แม่พูดผิดรึไง แต่ เบาๆ หน่อยนะ เดี๋ยวจะกระทบถึงลูกเอา” เเม่เอ
พูดจบฉันก็เดินไปหยิบเค้กขึ้นมา ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้พี่ขุนเขา แต่ดูท่าเขาจะไม่เข้าใจในการกระทำของฉันสักเท่าไหร่พี่ขุนเขายังคงร้องไห้อยู่ แล้วก็มองหน้าฉันด้วยอาการมึนงง“เทียนละคะ”เมื่อฉันถามหาเทียน พี่ขุนเขาก็รีบหมุนตัวกลับไปก้มหยิบถุงที่เอาใส่เค้กมา ข้างในนั้นมีกล่องเทียนอยู่ เมื่อได้เทียนแล้ว พี่ขุนเขาก็จัดการปักเทียนลงเค้ก เขาทำไปร้องไห้ไปเหมือนเด็กเลย“ถ้าร้องไห้แบบนี้ หนูจะไม่เป่าเค้กแล้วนะ” ฉันทำตาดุใส่พี่ขุนเขา เมื่อพี่ขุนเขาเห็นว่าฉันพูดขู่ไปแบบนั้น เขาก็รีบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มของตัวเองทันที และพยายามที่จะหยุดร้องพี่ขุนเขาล้วงเมื่อเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง หยิบไฟแช็กออกมาจุดเทียนวันเกิด“เอ้า เงียบทำไม จุดเทียนเสร็จแล้วก็ร้องเพลงวันเกิดสิคะ” ฉันบอกพี่ขุนเขา เมื่อเขาเอาแต่ก้มหน้าเงียบ“อ้อ อื้อ..” พี่ขุนเขาพยักหน้าตอบหงึกๆ“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู....~” 🎵เสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ดังขึ้นจากต้นจนจบ เมื่อจบเสียงเพลง ฉันก็จัดการเป่าเค้กวันเกิด ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้พี่ขุนเขาอีกครั้ง แต่ดูท่าพี่ขุนเขายังคง งง กับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นี่เขาดูไม่ออ
พี่ขุนเขาทำท่าเหมือนกำลังขุ่นคิดอะไรอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืนถอดเสื้อออก จากนั้นก็ถอดกางเกง“จะทำอะไร !!” ฉันถามไปเมื่อพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ของตัวเองออก นี่อย่าบอกนะว่าจะแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน จริงๆ เป็นบ้าไปแล้วรึไง“ก็หนูบอกว่าถ้าพี่ยอมแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน หนูจะให้อภัยพี่“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ !!” ฉันร้องห้าม เพราะพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ออกจากตัว“ทำไม”“ไม่ต้องทำ แล้วก็ออกไปจากห้อง”“หนู...พี่ยอมทำทุกอย่าง แค่หนูบอกมา”“ออกไป หนูบอกให้ออกไป”“หนู....”“ได้ ถ้าไม่ไปหนูไปเอง!!”พูดจบฉันก็ลุกขึ้นเดินนออกมาจากห้องของตัวเองทันที ขืนอยู่ต่อฉันคงต้องใจอ่อนให้พี่ขุนเขาจริงๆแน่“พี่หมอ !!” ฉันอุทานออกมา เมื่อเดินออกมานอกบ้านแล้วเจอกับพี่หมอที่กำลังเดินมาทางฉัน ในมือพี่หมอถือของเต็มไม้เต็มมือไปหมด“ทำไมทำหน้าเหมือนเจอผีแบบนั้น”“ปะ เปล่าสะหน่อย”“แล้วนี่แม่ตัวเล็กล่ะ พี่ซื้อของมาให้เยอะแยะเลย”“แม่ไป....”“แม่ไม่อยู่ อยู่แต่ผัว”ฉันกำลังจะตอบพี่หมอ แต่ไม่ทันที่จะได้พูดจบ เสียงของพี่ขุนเขาก็พูดแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลังของฉันพี่หมอมองหน้าพี่ขุนเขา แต่ดูท่าพี่หมอจะไม่แปลกใจเ
เช้าวันใหม่...เฮือก....ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนจะมองไป ข้างๆ กายปรากฎร่างของพี่ขุนเขานอนอยู่ ข้างๆ กับตัวฉัน แถมตอนนี้เขาลืมตาทำตาใสส่งมาให้ฉันอีกต่างหาก“ออกไปเลยนะ” ฉันพูดเสียงแข็ง เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไป เผลอตัวไปแบบนั้นได้ยังไงกัน“ขอนอนอยู่แบบนี้อีกหน่อยไม่ได้หรอ” พี่ขุนเขาพูดเสียงออดอ้อนใส่ฉัน ดูเขาทำหน้าสิ อย่างกับเด็กสามขวบ“อย่าเยอะได้มั้ย”“เมื่อคืนหนูเร้าร้อนมากเลยนะ ^_^”“พี่ขุนเขา หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!” ฉันตวาดใส่หน้าเขา คนบ้า ทำไมต้องมาพูดเรื่องแบบนั้นด้วย หน้าอายที่สุดจู่ๆ ใบหน้าของฉันมันก็เห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่สิ สาเหตุก็เรื่องอย่างว่าที่พี่ขุนเขาพึ่งพูดออกมาไงล่ะ“พี่พูดผิดตรงไหน ก็เมื่อคืนเรามีอะไรกัน ตัวเล็กครางเสียงดังลั่นบ้าน จำไม่ได้หรอ หื้ม^_^” ไม่พูดเปล่า พี่ขุนเขาถือวิสาสะเอามือขึ้นมากดร่างฉันให้นอนราบไปกับที่นอนเหมือนเดิม ก่อนจะกอดฉันเอาไว้แน่น“บอกให้ออกไปไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง !!” ฉันตวาดเสียงดังอีกครั้ง“อยากให้ฝนตก บ่อยๆ จัง หนูจะได้ให้พี่เข้ามาอยู่ในห้องด้วย บ่อยๆ ^_^” พี่ขุนเขาพูดพร้อมกับกำชับกอดแน่นกว่าเดิม แค่นั้นยังไม่พอ เขายังขโมยห