“เธออย่าทำให้ฉันหมดความอดทนนะวีนัส !!” พี่ขุนเขาพูดเสียงแข็งพร้อมกับจ้องหน้าฉันตาเขม็ง“ก็หนูชอบพี่เขามากจริงๆ”“ผัวเธอยืนอยู่ตรงนี้ เธอมาบอกชอบผู้ชายคนอื่นต่อหน้าผัว กล้าดีหนิ หึ!!”“แต่เราไม่ได้รักกันสักหน่อย อีกอย่างหนูชอบพี่เหนือก่อนจะรู้จักพี่อีกนะคะ” ฉันพูดไปด้วยความสัจจริง ฉันน่ะปลื้มตั้งแต่ฉันอยู่ ม.ต้นแล้วนะ“ฉันไม่ชอบให้เธอยุ่งกับใคร ทำไมเธอไม่ฟัง!!”“หนะ หนูก็แค่ขอไปถ่ายรูป...” ฉันก้มหน้าตอบเมื่อเห็นอาการที่ไม่พอใจฉันเอามากๆของพี่ขุนเขา“ไม่ให้ถ่าย !!” เอะอะก็ตะคอก ตวาด ไม่มีใครหรอก มีแค่พี่ขุนเขาคนเดียวนี่แหละฉันยู้ปากเบ้บใส่พี่ขุนเขา เมื่อเขายืนกรานที่จะไม่ยอมให้ฉันถ่ายรูุป ก็แค่ถ่ายรูปไม่รู้ทำไมต้องหวงด้วย ฉันเสียดายมากๆเลยนะที่ได้เจอพี่เหนือแบบตัวๆแบบนี้ แต่ไม่มีโอกาสได้ถ่ายรูป ถ้าฉันได้ถ่ายรูปคู่กับพี่เหนือนะ กรีนกับนัตตี้ต้องอิจฉาฉันมากแน่ๆ“ขึ้นห้องไป แล้วห้ามมองมัน”“พี่บ้าไปแล้วรึไงกัน”“ฉันสั่งเธอก็ต้องทำ” พี่ขุนเขาสั่งเสียงแข็งไปกันใหญ่แล้วนะ แค่มองก็ไม่ได้เลยหรอ ฉันไม่ใช่คนรักของพี่ขุนเขาสักหน่อย ทำไมต้องมาห้ามกันแบบนี้ด้วย“ขึ้นห้องไปสิ จะมายืนอยู่ทำไม”“ชิ
“ไอ้สัสเอ้ย !!”ปัก!“พี่ขุนเขา หยุด”น้ำเสียงที่เปล่งออกไปแทบจะไม่มีใครได้ยินเลย เพราะพี่ขุนเขาเอาแต่โวยวายเสียงดังแล้วก็กระชากคอเสื้อพี่หมอ ก่อนจะง้างมือเตรียมที่จะต่อย เห็นแบบนั้นฉันจะอยู่เฉยได้ยังไง ฉันรวบรวมเรี่ยวแรงทั้งหมดที่ตัวเองพี่ ลุกขึ้นจากเตียงใช้มือที่สั่นเทาของตัวเองรั้งแขนแกร่งของพี่ขุนเขาเอาไว้“อย่ามาห้าม ไหนบอกว่าเป็นแค่พี่น้อง พี่น้องที่ไหนแม่งจะเอากันวะ ฉันคิดถูกแล้วที่ไม่เชื่อคำตอแหลจากเธอตั้งแต่แรก”พรึ่บ! พี่ขุนเขาสะบัดแขนแรงๆ ทำให้ร่างฉันกระเด็น ดีที่ร่างมันมากระแทกโดนเตียง แต่ตอนนี้ฉันไม่มีแรงจะลุกขึ้นห้ามแล้ว“มึงไม่แหกตาดูรึไงวะ วีนัสป่วยขนาดนี้”“นั่นมันก็เรื่องของผัวเมีย เมียกูป่วยแล้วมึงเสือกอะไร !!”“เมียมึง ?” พี่หมอทวนคำพูดพี่ขุนเขาอีกครั้ง และหันหน้ามามองฉัน เหมือนต้องการคำอธิบายในคำว่าเมียที่พี่ขุนเขาพูดมันออกมาฉันเงียบไม่ได้ตอบอะไร จากนั้นก็ก้มหน้าลง“เธอเป็นเมียกู กูแต่งงานกัน กูเอากันแล้ว มึงจะเลิกเสือกได้ยังไอ้สัส”“พะ พี่ขุนเขา พอแล้ว...”“หรือมึงจะให้กูเอากันให้มึงดูตอนนี้ !!”“พี่ขุนเขา !!” ฉันเปล่งเสียงออกไป และมองหน้าพี่ขุนเขาอย่างตำหนิ เข
ช่วงเย็น....วันนี้พี่ขุนเขาแปลกไปมากพอสมควร ที่ว่าแปลกคือพี่ขุนเขาไม่ออกจากห้องฉันไปไหน และคอยวัดไข้ให้ฉันตลอด“ฉันโทรศัพท์ไปบอกให้ลูกน้องซื้อข้าวมาให้แล้วนะ เป็นไงบ้างเธอยังปวดหัวอยู่มั้ย”“ค่ะ ปวดอยู่”“ทำไมนานหายจังวะ....” พี่ขุนเขาบ่นพึมพำอะไรไม่รู้ ฉันฟังไม่ค่อยถนัด นานหายๆ อะไรนี่แหละ“ว่าไงนะคะ ?” ฉันขมวดคิ้วมองพี่ขุนเขาอย่างแปลกใจ“เปล่า ฉันยังไม่ได้พูดอะไรเลยนะ”“เมื่อกี้เหมือนหนูได้ยิน...”“เธอคงหนูแว่วไปเอง” พี่ขุนเขาพูดสวนสะก่อนที่ฉันจะพูดจบก๊อกๆ ก๊อกๆ เสียงเคาะห้องดังขึ้น พี่ขุนเขาหันไปมองที่ประตูห้องก่อนที่จะลุกขึ้นไปเปิดประตูห้อง“อย่าให้ไอ้หมอเวรนั่นมาเหยียบที่บ้านกูอีก”“ครับนาย”ประตูห้องนอนถูกปิดลง บทสนทนาเมื่อครู่ ฉันได้ยินชัดเจน เหมือนจงใจจะพูดให้ได้ยินพี่ขุนเขาถือชามข้าวต้มเดินมานั่งข้างๆกับเตียง นั่งบนเก้าอี้ตัวเดิมของเขาที่พึ่งลุกขึ้นไปเมื่อกี้ พี่ขุนเขาวางชามข้าวต้มลง ก่อนจะประคองตัวฉันให้ลุกขึ้นและเอาหมอนมาวางตรงหลังฉันให้ฉันพิงกับขอบเตียง“มีหมอนกั้นมันจะได้ไม่ปวดหลัง” จากนั้นก็หยิบชามข้าวต้มขึ้นมาตักแล้วจ่อมาตรงปากของฉันฉันไม่ได้อ้าปาก คือฉันเเปลกใจมากก
วันต่อมา....วันนี้ฉันตื่นแต่เช้าลุกขึ้นอาบน้ำเตรียมตัวจะไปเรียน จริงๆ ฉันยังไม่หายปวด ยังปวดหัว และรู้สึกเพลียๆอยู่ แต่ฉันหยุดเรียนมาแล้ววันหนึ่ง ถ้าหยุดอีกคงจะเรียนไม่ทันเพื่อน นี่แอนดรูว์ก็ส่งงานมาให้ฉันในแชท ยังดีที่มีแอนดรูว์คอยช่วย ถึงเราจะสื่อสารกันไม่ค่อยรู้เรื่องก็เถอะแกร็ก! ประตูห้องนอนของฉันถูกเปิดเข้ามา พี่ขุนเขาเดินเข้ามาในห้อง เขาใช้สายตามองฉันตั้งแต่หัวจรดเท้าก่อนจะยกมือขึ้นมากอดอกตัวเอง แล้วใช้สายตามองฉันแบบดุๆ“ถอดชุดนักเรียนออกซะ” พี่ขุนเขาสั่งเสียงเรียบ“ไม่ หนูจะไปเรียน” ฉันส่ายหน้ารัวๆ“เธอดูสภาพตัวเองหน่อยมั้ยวีนัส ซีดทั้งตัวแบบนี้ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง”“ถ้าหนูเป็นอะไรเดี๋ยวก็มีคนพาหนูไปส่งโรงพยาบาลเองนั่นแหละ”“หมายถึงใคร ไอ้หมดเวรนั่นสินะ” พี่ขุนเขาจ้องหน้าฉันตาเขม็ง“ทำไมต้องเอาพี่หมอมาเกี่ยวด้วยคะ” ฉันมองหน้าพี่ขุนเขาอย่างไม่เข้าใจ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมต้องให้พี่หมอมาเกี่ยวด้วยทุกเรื่องที่เราคุยกันหมั่บ! พี่ขุนเขาพุ่งตรงมาหาฉันอย่างรวดเร็วก่อนจะเอามือหนาบีบแขนฉันอย่างแรง“อื้อ หนูเจ็บ...”“ฉันพูดถึงมันไม่ได้เลยนะ หึ!!”“หนูไม่อยากคุยกับพี่เเล้ว ปล่อยห
เช้าวันใหม่...ฉันลืมตาตื่นขึ้นมา อาการไข้ของฉันมันลดลงจริงๆด้วย พี่ขุนเขาไม่ได้โกหกฉัน แต่ก็ยังแอบแปลกใจอยู่ดีนั่นแหละว่าเซ็กส์มันบำบัดอาการป่วยได้จริงๆนะหรอ ไม่รู้ว่าฟลุ๊คหรือเปล่า“พี่ขุนเขาตื่นได้แล้วค่ะ เช้าแล้ว” ฉันหันไปปลุกพี่ขุนเขาที่เอาแต่นอนหลับ ตะวันขึ้นแสงแดดจ้าขนาดนี้นอนได้ยังไงกัน ปกติพี่ขุนเขาไม่นอนตื่นสายขนาดนี้นะ“อื้อ...” พี่ขุนเขาพูดอู้อี้ในลำคอ น้ำเสียงที่เปล่งออกมามันแหบพล่าสะจนฉันต้องลุกขึ้นนั่งแล้วลองเอามืออังหน้าผากของพี่ขุนเขาดู“หื้อ!! ทำไมพี่ตัวร้อนขนาดนี้” ฉันตาโตขึ้นมาทันทีเมื่อจับหน้าผากของพี่ขุนเขาดูแล้วปรากฏว่าตัวร้อนมาก อย่างกับนอนอยู่ในทะเลทรายที่มีแสงแดดแผดเผาอย่างงั้นแหละ“อื้อ ปวดหัวชะมัด” พี่ขุนเขาเปล่งเสียงออกมาเบาๆ และยังคงหลับตาอยู่“ไปหาหมอนะคะ”“ไม่” พี่ขุนเขาส่ายหน้าไปมาเบาๆ“ได้ไง ตัวร้อนขนาดนี้ ต้องไปหาหมอนะคะ ทีหนูป่วยหนูยังไม่ปฏิเสธเลยนะ”“เธอปากดีชะมัด จะไปไหนก็ไป” พี่ขุนเขาพลิกตัวนอนตะแคงให้ฉัน“พี่ขุนเขา โตแล้วอย่าทำตัวเหมือนเด็กสิคะ”“ออกไป อย่ามาวุ่นวายฉันจะนอน”น้ำเสียงที่พูดออกมาอย่างหงุดหงิดเมื่อครู่ของพี่ขุนเขา มันทำให้หัวใจดวงน
“ปะ เปล่า” ฉันมุดหน้าลงตรงแผงอกของพี่ขุนเขา“แล้วทำไมไม่ไปนอนที่อื่น ขึ้นมานอนบนเตียงกับฉันทำไม”“ก็ปล่อยหนูสิคะ” ฉันใช้มือดันอกแกร่งอีกครั้ง“เธอชอบตอบไม่ตรงคำถาม”“....”“ถ้าเธอบอกว่าทำไมเธอถึงร้องไห้ ฉันจะยอมปล่อยเธอ”“หนะ หนู หนูคิดถึงแม่ค่ะ” ฉันโกหกออกไป มันคงจะดีกว่าที่ฉันบอกความรู้สึกของตัวเองออกไปแต่พี่ขุนเขาก็พอจะดูออกนั่นแหละว่าฉันคิดยังไง ไม่งั้นเขาคงไม่บอกว่าฉันชอบเขาหรอก“ก็ตอบมาแค่นี้ มันยากตรงไหน กลัวดอกพิกุลจะล่วงออกมาจากปากเธอรึไง”ฉันเงยหน้าขึ้นมองพี่ขุนเขาอีกครั้ง ก่อนจะผละตัวออกจากเขา ขนาดไม่สบายทำไมถึงพูดจิกขนาดนี้นะ“เดี๋ยวหนูเช็ดตัวให้นะคะ”พี่ขุนเขาพยักหน้าตอบ สายตาจ้องมองฉันไม่กระพริบ จนฉันต้องรีบหันหลังให้แล้วเดินลงไปฉันล่างหลังจากเตรียมน้ำใส่กะละมังเสร็จ ฉันก็รีบยกขึ้นไปบนห้อง“มาหาใครคะ” ก่อนที่ฉันจะเปิดประตูเข้าไปในห้อง จู่ๆก็มีผู้หญิงคนหนึ่งเดินขึ้นมาบนชั้นสอง ท่าทางเธอเหมือนกำลังมองหาอะไรอยู่ พอฉันถามก็ไม่ตอบ เธอเดินตรงไปที่ห้องพี่ขุนเขา“พี่คะ พี่ขุนเขาไม่ได้อยู่ในห้องค่ะ” ฉันรีบพูดก่อนที่เธอจะเปิดประตูเข้าไปด้านในห้อง“แล้วขุนเขาอยู่ไหน” เธอหันหน้าม
ฉันหลบสายตาของพี่ขุนเขา ก่อนจะค่อยๆเม้มปากเข้าหากันแน่น มือหนาของพี่ขุนเขายังคงจับแขนของฉันอยู่ไม่ยอมปล่อย“เขินแล้วน่ารักแบบนี้ เขินบ่อยๆนะฉันชอบมองเธอเวลาเธอเขิล”พี่ขุนเขายิ้มอ่อนๆให้ฉัน พร้อมกับออกแรงกระตุกแขนฉันเบาๆ ฉันเซเกือบจะล้มไปทับร่างพี่ขุนเขา ดีที่ทรงตัวหาที่จับได้ก่อน“ปล่อยได้แล้ว หนูจะไปอาบน้ำ”“ฉันอาบด้วย”“ก็มีคนเช็ดตัวให้แล้วไม่ใช่รึไง จะอาบทำไมล่ะ” ฉันพูดออกไปอย่างหงุดหงิด มันหงุดหงิดมากจริงๆเมื่อคิดถึงหน้าผู้หญิงคนนั้น“ก็ฉันอยากให้เธออาบน้ำให้”“ป่วยอยู่ไม่ใช่รึไงคะ อ้อ หรือพอเห็นหน้าผู้หญิงคนนั้นก็หายป่วย คงจะทำเรื่องอย่างว่ากันแล้วใช่มั้ยล่ะ” ฉันพูดพลางพยายามแกะมือหนาของพี่ขุนเขาออก“ทำอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลย ฉันไม่ยอม”“ไม่ต้องมาหลอกหนูเลยนะคะ”“ฉันพูดจริงๆ ฉันก็รอเธอมาทำให้นี่ไง”“ทำอะไร” ฉันขมวดคิ้วถามอย่างแปลกใจ“ก็ทำแบบเมื่อคืนที่ฉันทำให้เธอแล้วเธอหายป่วยไง คราวนี้ถึงทีเธอทำให้ฉันบ้างแล้วนะ”“บะ บ้า หนูไม่ทำ พี่มีอะไรกับพี่คนนั้นแล้ว หนูรู้”“ทำไมเธอไม่ฟังฉันเลย”“ปล่อยหนู หนูบอกให้ปล่อยไง!!”ฉันกับพี่ขุนเขาฉุดกระชากกันนานพอสมควร เขาไม่ยอมปล่อยมือออกจากแขนของฉ
ฉันได้แค่มองดูการกระทำของพี่ขุนเขาที่กำลังกอดพี่เส้นด้ายอยู่ ฉันเห็นพี่ขุนเขาเจ็บ ใจฉันมันรู้สึกบีบรัดเหมือนกำลังมีคนกำหัวใจดวงน้อยๆของฉันเอาไว้และออกแรงบีบมันช้าๆ มันค่อยๆเจ็บแปลบๆทีละนิดๆตรงกลางอกมือของฉันเผลอกำผ้าห่มเอาไว้แน่น ฉันไม่ได้อยากมอง แต่ฉันห้ามไม่ให้ตัวเองมองเขาไม่ได้“นะ ด้าย อย่าทิ้งผม ผมยอมคุณทุกอย่าง แต่ขอร้องว่าอย่าไปไหนอีกได้มั้ย”“คุณอยากได้อะไร ผมยินดีหามาให้ทุกอย่าง”“บอกแล้วไงว่าอย่าพูดเรื่องนี้อีก”“ด้าย....”“ใส่เสื้อผ้าเถอะ ด้ายจะรอที่ห้อง”พี่ขุนเขายอมปล่อยกอดออกจากพี่เส้นด้าย พอเห็นว่าพี่เส้นด้ายเดินออกไปจากห้องแล้ว ฉันก็รีบดึงผ้าห่มมาคลุมหัวเอาไว้ ทำเหมือนไม่เห็นอะไรบรรยากาศภายในห้องเงียบสนิท ฉันได้ยินแค่เสียงปิดประตูห้อง จากนั้นก็รู้สึกว่าเตียงมันยวบยาบๆ เหมือนมีคนขึ้นมา คงเป็นใครไปไม่ได้หรอกนอกจากเขา....“วีนัส ฉัน...”“หนะ หนูไม่เห็น หนูไม่ได้ยิน ไม่สิ ไม่เป็น ไปเถอะค่ะ พี่เส้นด้ายรออยู่....”ฉันเหมือนคนสติหลุดพูดอะไรไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยตอนนี้ สมองมันเบลอไปหมด ทั้งอยากจะร้องไห้ ทั้งความรู้สึกที่มันแน่น แต่ต้องพยายามทำเหมือนว่าตัวเองไม่ได้รู้สึกอะไร“
ทะเล...วันนี้คือวันแรงที่ฉันกับพี่ขุนเขามาฮันนีมูนกัน เราเลือกมาที่ทะเล ไม่อยากไปต่างประเทศ เพราะเป็นห่วงลูกๆ เรามาฮันนีมูนกันแค่สามวันและสำหรับวันแรกของการมาทะเล มันก็ตรงกับวันครบรอบแต่งงานสิบปีของฉันกับพี่ขุนเขาพอดี ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือ พี่ขุนเขาตั้งใจ ให้ตรงกับวันสำคัญของเรา“ไปเดินเล่นกันมั้ย”“ค่ะ ^_^”เราจูงมือกันเดินออกจากบังกะโล และพากันเดินไปที่ริมหาด ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว แสงแดดอ่อนๆ กระทบกับผิวน้ำทะเลมันชั่งสวยจริงๆเชื่อมั้ยว่านี่คือครั้งแรกที่ฉันเคยมาทะเล ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยไปไหนไกลนอกจากบ้านและโรงเรียนเลยที่นี่เงียบสงบดีจริงๆเลยนะ อาจเป็นเพราะเราเลือกมาวันที่คนอื่นเขาทำงานกัน เลยไม่ค่อยมีคน“เล่นน้ำมั้ย”“ไม่เล่....อร้ายยย” ฉันร้องออกมาเสียงหลงเมื่อ จู่ๆ พี่ขุนเขาก็ช้อนตัวฉันขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปที่ทะเลสีฟ้าคราม“พี่ขุนเขาหนูบอกว่าไม่เล่นไง”ตู้มม!!เมื่อฉันพูดจบร่างของฉันก็ถูกพี่ขุนเขาโยนลงน้ำทันที นี่เขาได้ยินที่ฉันร้องบอกบ้างมั้ยเนี่ย“ไอ้พี่ขุนเขาบ้า หนูบอกว่าไม่เล่นไง!!” เมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำได้ ฉันก็ตวาดใส่พี่ขุนเขาทันที“เวลาเปียก หนูเซ็กซี่มากเล
ภายในบ้าน“หนูชื่ออะไร” ฉันก้มลงถามเด็กน้อย เฮ้อ ดูแววตาของเธอที่มองฉันสิ ทำไมถึงเศร้าแบบนี้นะ“หนูชื่อ เหมือนฝันค่ะ น้องชื่อ ข้าวหอม” เด็กน้อยตอบฉันเสียงใส ถ้าจับอาบน้ำแต่งตัว หนูเหมือนฝัน นี่น่าตาน่ารักน่าชังมากๆเลยนะ ส่วนทารกน้อยก็น่ารักน่าชังไม่แพ้กัน ใครหน้อชั่งใจร้ายพามาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของฉันฉันจัดการให้ป้าช้อยพาหนูเหมือนฝันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนข้าวหอม ฉันจะจัดการอาบน้ำให้เอง เด็กอะไรก็ไม่รู้ เลี้ยงง่ายมาก ไม่ร้องไม่งอแงในเวลาอาบน้ำเลย พออาบน้ำเสร็จฉันเอานมให้กินแล้วก็พาไปนอนในเปลของขุนแผน ตอนนี้หลับปุ๋ยไปแล้ว เลี้ยงง่ายจริงๆผ่านไปพักใหญ่ ป้าช้อยพาหนูเหมือนฝันลงมาจากชั้นสอง พออาบน้ำขัดผิวแล้วน่ารักน่าชังมากกว่าที่ฉันคิดไว้สะอีกฉันเอาข้าวให้หนูเหมือนฝันกิน เด็กน้อยกินใหญ่เลย ท่าทางเหมือนจะไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน“หนู นั่นลูกใคร” เสียงพี่ขุนเขาถามฉัน พี่ขุนเขาเดินมาพร้อมกับ ขุนราม เจ้าคุณ แล้วก็อุ้มขุนแผนมาด้วย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ นั่งอยู่หน้าบ้าน ถามอะไรก็ไม่รู้ หนูก็ได้ให้เขามาในบ้านก่อน พี่ขุนเขาให้ลูกน้องตามหาพ่อแม่ให้ทีนะคะ” พี่ขุนเขาเพ่งมองไปที่เหมือนฝัน เธอกำลังน
หลายปีผ่านไปไวเหมือนโกหก...“ขุนรามลูก อย่าแกล้งน้อง”“เจ้าคุณเลิกเล่นเกมส์ได้แล้วลูก”ตอนนี้ฉันกำลังเก็บของเล่นที่มันกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นไปหมด คงไม่ต้องบอกว่าฝีมือใครหรอกนะ จะมีใครสะอีก ก็เจ้าสองแฝด ขุนรามกับเจ้าคุณ ของฉันไงล่ะตอนนี้ทั้งสองอายุ8ขวบแล้ว แถมยังดื้อเอามากๆ ให้ช่วยดูน้องก็เอาแต่เล่นเกม อีกคนให้ดูน้องก็แกล้งน้องฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันมีลูกเล็กเพิ่มมาอีกคน แถมเป็นผู้ชายด้วย ชื่อ ขุนแผน จริงๆพี่ขุนเขาอยากจะได้แฝดอีก แต่ได้แค่คนเดียว แถมเขายังจะเอาอีกคน ฉันเบรคไว้แทบไม่ทัน ปิดอู่แล้วตอนนี้ เพราะแค่เจ้าสองแสบก็วุ่นแล้ว ไม่รู้ขุนแผนโตขึ้นกว่านี้หน่อยจะดื้อเหมือนพวกพี่ๆมั้ยเจ้าคุณ กับ ขุนราม เป็นแฝดก็จริง แต่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักนิด เป็นแฝดคนละฝา แต่ถ้าพูดถึงความดื้อแล้วละก็ กินกันไม่ลงเลยจริงๆ ขุนรามเป็นพี่ก็จะดื้อเอามากๆ ชอบโวยวาย ส่วนเจ้าคุณ แฝดน้อง ร้ายนี้เงียบๆ แต่ดื้อไม่เบาเหมือนกัน เอาแต่ใจตัวเองมากๆอีกด้วยวันนี้พี่ขุนเขาไปที่บริษัท บริษัทของพี่เจ้าป่ากับพี่ขุนเขาหุ้นกันเปิด เปิดมาได้5ปีแล้ว ธุรกิจกำลังรุ่งเลยตอนนี้“แง๊ แง๊~” เสียงขุนแผนร้องดังลั่นบ้านฉันถึงกับถ
——วันแห่งความสุข—-ขอตัดมาวันแต่งงานเลยแล้วกัน เพราะที่ผ่านมาหลังจากที่พี่ขุนเขาขอฉันแต่งงานเราก็วุ่นๆกันทั้งคู่ ทั้งหาฤกษ์แต่งงาน จัดเตรียมสถานที่ การ์ด อะไรอีกหลายๆอย่างเราสองคนจัดพิธีแต่งงานแบบไทยๆ ชุดแต่งงานก็เหมือนกัน ฉันใส่ชุดแบบไทยๆ ไม่ได้หรูหราอะไรมากมายพิธีแต่งงานจัดขึ้นที่บ้านของฉัน ไม่ได้จัดงานใหญ่โตอะไร เป็นงานเล็กๆ และก็เชิญแค่ญาติที่สนิทเท่านั้นตอนนี้แม่กำลังตอนรับแขกอยู่ข้างนอกกับป้านิ่มวันนี้ฉันคุยกับเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องแล้ว บอกว่าห้ามกวนแม่นะวันนี้ และดูเหมือนว่าลูกน้องของฉันจะเชื่อฟังซะด้วย เพราะตั้งแต่ตื่นมาแต่งหน้าแต่งตัว จนถึงตอนนี้ ฉันไม่มีอาการพะอืดพะอมอยากจะอ้วกเลย“ตื่นเต้นหรอเรา” เจ้แอมเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเอ่ยถาม เจ้แอมเป็นเพื่อนเจ้าสาว แล้วก็มีกรีน มีนัตตี้ แต่สองคนนั้นยังแต่งตัวกันอยู่ คงจะเอาให้สวยกว่าฉันเลยละมั้ง“ตื่นเต้นสิเจ้” บอกตามตรงว่าตอนนี้มือไม้ฉันสั่นไปหมดทั้งที่เคยแต่งงานกับเขามาแล้วครั้งหนึ่งแท้ๆ แต่ความรู้สึกของฉันราวกับว่านี่คือครั้งแรกที่ฉันกำลังจะได้แต่งงาน“เจ้าบ่าวใกล้จะมาถึงแล้วนะ” ยิ่งเจ้แอมพูดแบบนี้ฉันยิ่งตื่นเต้นไปกันใ
พอได้ยินพี่เส้นด้ายพูดออกมาแบบนี้ ฉันก็หันขวับไปมองหน้าของพี่ขุนเขาทันที เพราะอยากจะรู้ว่าตอนนี้อาการของพี่ขุนเขาเป็นยังไงตอนนี้พี่ขุนเขามองพี่เส้นด้าย แต่เขาไม่ได้ตอบอะไร“ถ้างั้นก็คุยกันไปแล้วกันค่ะ เดี๋ยวหนูไปรอที่รถ” ฉันบอกพี่ขุนเขาออกไป ถามว่าประชดมั้ย ใช่!! ฉันประชด แต่ถ้าเขาจะคุยกัน จริงๆ ฉันก็ห้ามอะไรไม่ได้หรอก“หนู...” พี่ขุนเขารั้งแขนฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเดินไป“ก็คุยไปสิ” ฉันพูดกระแทกเสียงใส่พี่ขุนเขา เขากำลังทำให้ฉันหงุดหงิด“ขุนเขา...” พี่เส้นด้ายเรียกพี่ขุนเขาอีกครั้ง“ด้าย คุณก็มากับแฟนคุณไม่ใช่รึไง คนที่คุณควรให้ความสนใจคือแฟนคุณนะ”“แต่...”“ตอนมีเขาอยู่ ไม่เห็นจะอาลัยอาวรณ์ ตอนนี้เป็นบ้ารึไง” ฉันพูดออกไปอย่างเหลืออด เพราะฉันก็ทนมามากแล้วเหมือนกัน“นี่แก หุบปากไป ฉันจะคุยกับขุนเขาไม่ใช่แก”“ด้าย!! เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว” พี่ขุนเขาพูดขึ้นก่อนที่ฉันจะพูด“ขอคุยแค่แปปเดียวก็ไม่ได้หรอ”“หน้าด้าน มาขอคุยกับผัวคนอื่น”“นี่ก็ผัวฉันเหมือนกัน !!”“แต่ตอนนี้เขาเป็นผัวหนู เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน พี่มายุ่งอะไรด้วย!!”“หนู พอแล้วคนอื่นมองเยอะแล้ว” พี่ขุนเขาร้องห้ามฉัน ทำไมไ
“พี่นั่นแหละ จะเป็นใครได้ล่ะ”พี่ขุนเขายิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจในคำตอบของฉันหลังจากที่เราทั้งคู่ต่างจ้องตากันนานพอสมควร พี่ขุนเขา ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้ฉันเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากของเราทั้งคู่แตะโดนกันก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง)จู่ๆ เสียงเคาะห้องก็ดังขึ้น ฉันรีบผลักพี่ขุนเขาออกทันที“ใครวะ !!” พี่ขุนเขานั่งบนปลายเตียงเขายกมือขึ้นมายีผมตัวเองแรงๆ ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสียก๊อก ก๊อกๆ“วีนัสลูก อยู่ในห้องรึเปล่า” คนที่เคาะห้องคือแม่นี่เอง“ยะ อยู่จ้ะแม่”ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปเปิดประตูให้แม่ เมื่อเปิดประตูออก แม่กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แม่หยุดชะงัก แล้วก็มองผ่านตัวฉันเข้ามาด้านในห้อง ก่อนที่แม่จะมองหน้าฉันแล้วก็ยิ่มน้อยยิ้มใหญ่“ใจอ่อนเเล้วใช่มั้ย” แม่ถามฉันฉันเม้มปากเข้าหากันแน่น มันอายที่จะตอบนะ เพราะก่อนหน้านี้ฉันยังบอกแม่ว่าจะไม่ให้อภัยพี่ขุนเขาอยู่เลย“งั้นแม่ไม่กวนแล้ว ทำต่อเถอะ”“แม่!!” ฉันทำหน้างอใส่แม่ ก็แม่นะสิ คงคิดว่าฉันกำลังจะทำอะไรกับพี่ขุนเขาอยู่แน่ๆเลย ถึงเราสองคนกำลังจะทำแบบนั้น จริงๆ ก็เถอะ“แม่พูดผิดรึไง แต่ เบาๆ หน่อยนะ เดี๋ยวจะกระทบถึงลูกเอา” เเม่เอ
พูดจบฉันก็เดินไปหยิบเค้กขึ้นมา ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้พี่ขุนเขา แต่ดูท่าเขาจะไม่เข้าใจในการกระทำของฉันสักเท่าไหร่พี่ขุนเขายังคงร้องไห้อยู่ แล้วก็มองหน้าฉันด้วยอาการมึนงง“เทียนละคะ”เมื่อฉันถามหาเทียน พี่ขุนเขาก็รีบหมุนตัวกลับไปก้มหยิบถุงที่เอาใส่เค้กมา ข้างในนั้นมีกล่องเทียนอยู่ เมื่อได้เทียนแล้ว พี่ขุนเขาก็จัดการปักเทียนลงเค้ก เขาทำไปร้องไห้ไปเหมือนเด็กเลย“ถ้าร้องไห้แบบนี้ หนูจะไม่เป่าเค้กแล้วนะ” ฉันทำตาดุใส่พี่ขุนเขา เมื่อพี่ขุนเขาเห็นว่าฉันพูดขู่ไปแบบนั้น เขาก็รีบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มของตัวเองทันที และพยายามที่จะหยุดร้องพี่ขุนเขาล้วงเมื่อเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง หยิบไฟแช็กออกมาจุดเทียนวันเกิด“เอ้า เงียบทำไม จุดเทียนเสร็จแล้วก็ร้องเพลงวันเกิดสิคะ” ฉันบอกพี่ขุนเขา เมื่อเขาเอาแต่ก้มหน้าเงียบ“อ้อ อื้อ..” พี่ขุนเขาพยักหน้าตอบหงึกๆ“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู....~” 🎵เสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ดังขึ้นจากต้นจนจบ เมื่อจบเสียงเพลง ฉันก็จัดการเป่าเค้กวันเกิด ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้พี่ขุนเขาอีกครั้ง แต่ดูท่าพี่ขุนเขายังคง งง กับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นี่เขาดูไม่ออ
พี่ขุนเขาทำท่าเหมือนกำลังขุ่นคิดอะไรอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืนถอดเสื้อออก จากนั้นก็ถอดกางเกง“จะทำอะไร !!” ฉันถามไปเมื่อพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ของตัวเองออก นี่อย่าบอกนะว่าจะแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน จริงๆ เป็นบ้าไปแล้วรึไง“ก็หนูบอกว่าถ้าพี่ยอมแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน หนูจะให้อภัยพี่“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ !!” ฉันร้องห้าม เพราะพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ออกจากตัว“ทำไม”“ไม่ต้องทำ แล้วก็ออกไปจากห้อง”“หนู...พี่ยอมทำทุกอย่าง แค่หนูบอกมา”“ออกไป หนูบอกให้ออกไป”“หนู....”“ได้ ถ้าไม่ไปหนูไปเอง!!”พูดจบฉันก็ลุกขึ้นเดินนออกมาจากห้องของตัวเองทันที ขืนอยู่ต่อฉันคงต้องใจอ่อนให้พี่ขุนเขาจริงๆแน่“พี่หมอ !!” ฉันอุทานออกมา เมื่อเดินออกมานอกบ้านแล้วเจอกับพี่หมอที่กำลังเดินมาทางฉัน ในมือพี่หมอถือของเต็มไม้เต็มมือไปหมด“ทำไมทำหน้าเหมือนเจอผีแบบนั้น”“ปะ เปล่าสะหน่อย”“แล้วนี่แม่ตัวเล็กล่ะ พี่ซื้อของมาให้เยอะแยะเลย”“แม่ไป....”“แม่ไม่อยู่ อยู่แต่ผัว”ฉันกำลังจะตอบพี่หมอ แต่ไม่ทันที่จะได้พูดจบ เสียงของพี่ขุนเขาก็พูดแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลังของฉันพี่หมอมองหน้าพี่ขุนเขา แต่ดูท่าพี่หมอจะไม่แปลกใจเ
เช้าวันใหม่...เฮือก....ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนจะมองไป ข้างๆ กายปรากฎร่างของพี่ขุนเขานอนอยู่ ข้างๆ กับตัวฉัน แถมตอนนี้เขาลืมตาทำตาใสส่งมาให้ฉันอีกต่างหาก“ออกไปเลยนะ” ฉันพูดเสียงแข็ง เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไป เผลอตัวไปแบบนั้นได้ยังไงกัน“ขอนอนอยู่แบบนี้อีกหน่อยไม่ได้หรอ” พี่ขุนเขาพูดเสียงออดอ้อนใส่ฉัน ดูเขาทำหน้าสิ อย่างกับเด็กสามขวบ“อย่าเยอะได้มั้ย”“เมื่อคืนหนูเร้าร้อนมากเลยนะ ^_^”“พี่ขุนเขา หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!” ฉันตวาดใส่หน้าเขา คนบ้า ทำไมต้องมาพูดเรื่องแบบนั้นด้วย หน้าอายที่สุดจู่ๆ ใบหน้าของฉันมันก็เห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่สิ สาเหตุก็เรื่องอย่างว่าที่พี่ขุนเขาพึ่งพูดออกมาไงล่ะ“พี่พูดผิดตรงไหน ก็เมื่อคืนเรามีอะไรกัน ตัวเล็กครางเสียงดังลั่นบ้าน จำไม่ได้หรอ หื้ม^_^” ไม่พูดเปล่า พี่ขุนเขาถือวิสาสะเอามือขึ้นมากดร่างฉันให้นอนราบไปกับที่นอนเหมือนเดิม ก่อนจะกอดฉันเอาไว้แน่น“บอกให้ออกไปไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง !!” ฉันตวาดเสียงดังอีกครั้ง“อยากให้ฝนตก บ่อยๆ จัง หนูจะได้ให้พี่เข้ามาอยู่ในห้องด้วย บ่อยๆ ^_^” พี่ขุนเขาพูดพร้อมกับกำชับกอดแน่นกว่าเดิม แค่นั้นยังไม่พอ เขายังขโมยห