ทะเล...วันนี้คือวันแรงที่ฉันกับพี่ขุนเขามาฮันนีมูนกัน เราเลือกมาที่ทะเล ไม่อยากไปต่างประเทศ เพราะเป็นห่วงลูกๆ เรามาฮันนีมูนกันแค่สามวันและสำหรับวันแรกของการมาทะเล มันก็ตรงกับวันครบรอบแต่งงานสิบปีของฉันกับพี่ขุนเขาพอดี ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือ พี่ขุนเขาตั้งใจ ให้ตรงกับวันสำคัญของเรา“ไปเดินเล่นกันมั้ย”“ค่ะ ^_^”เราจูงมือกันเดินออกจากบังกะโล และพากันเดินไปที่ริมหาด ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว แสงแดดอ่อนๆ กระทบกับผิวน้ำทะเลมันชั่งสวยจริงๆเชื่อมั้ยว่านี่คือครั้งแรกที่ฉันเคยมาทะเล ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยไปไหนไกลนอกจากบ้านและโรงเรียนเลยที่นี่เงียบสงบดีจริงๆเลยนะ อาจเป็นเพราะเราเลือกมาวันที่คนอื่นเขาทำงานกัน เลยไม่ค่อยมีคน“เล่นน้ำมั้ย”“ไม่เล่....อร้ายยย” ฉันร้องออกมาเสียงหลงเมื่อ จู่ๆ พี่ขุนเขาก็ช้อนตัวฉันขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปที่ทะเลสีฟ้าคราม“พี่ขุนเขาหนูบอกว่าไม่เล่นไง”ตู้มม!!เมื่อฉันพูดจบร่างของฉันก็ถูกพี่ขุนเขาโยนลงน้ำทันที นี่เขาได้ยินที่ฉันร้องบอกบ้างมั้ยเนี่ย“ไอ้พี่ขุนเขาบ้า หนูบอกว่าไม่เล่นไง!!” เมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำได้ ฉันก็ตวาดใส่พี่ขุนเขาทันที“เวลาเปียก หนูเซ็กซี่มากเล
[ Talk Khunkao ] ผมพึ่งกลับมาจากคลับของผมเอง ผมไปดื่มกับเพื่อนมา และตอนนี้ผมโคตรจะเมาเลย ผมไม่รู้จะทำยังไง ผมรักด้าย แต่เธอแม่ง ทำไมต้องรักไอ้ป่าขนาดนั้นด้วยวะ ขนาดเอากับผมแทบจะทุกวัน เธอยังเพ้อหาแต่มัน !! ผมทำได้แค่ดื่มหนักเกือบจะทุกวันเพื่อให้ตัวเองไม่ต้องไปคิดอะไรมากกับเรื่องนี้ อย่างน้อยๆเส้นด้ายก็อยู่กับผม ถึงเธอจะรักพี่ชายของผมก็ตาม สักวันเธอต้องรักผมภายในห้องนอนที่มืดสนิท "ด้าย คุณหลับหรือยัง" ผมควานมือหาเส้นด้ายบนเตียงผ่านความมืด"ด้าย ผมขอนะ...." ผมพูดขึ้นเมื่อคลำมือไปเจอคนตัวเล็กที่กำลังนอนหลับอยู่ ผมค่อยๆล่วงมือเข้าไปในเสื้อของเธอ "อื้อ..." คนตัวเล็กร้องท้วงในลำคอ ทันทีที่ผมขยำน่าอกที่ใหญ่เกินตัวของเธอ "ตื่นแล้วหรอ หื้ม..""ซี๊ด คุณลืมมันได้รึเปล่า มีแค่ผมคนเดียวได้มั้ย ในใจคุณ..." ผมก้มหน้าลงไปซุกไซ้ซอกคอของเธอก่อนจะสูดดมกลิ่นหอม "คะ ใคร ผีรึเปล่า..." เสียงเล็กๆเอ่ยถามขึ้น "คุณผี ยะ อย่ามาหลอกมาหลอนหนูเลยนะคะ พรุ่งนี้หนูจะทำบุญไปให้" เส้นด้ายทำไมเธอพูดอะไรแปลกๆ ผีเผอที่ไหนกันวะ อ่า! เธออาจจะเบลอยานอนหลับ เพราะก่อนไปคลับผมเอายานอนหลับให้เธอกิน เพื่อที่เธอจะได้ไ
[ Talk Khunkhao ] หวัดดีครับ ผมชื่อขุนเขา เป็นนักเรียนนอก เพิ่งจะเรียนจบ แล้วก็มาขอให้ไอ้ป่าพี่ชายของผมเปิดคลับให้ที่ไทย ที่ผมมาอยู่ไทยเพราะว่าผมอยากมีอิสระ ผมเป็นลูกคนล่ะแม่กับไอ้ป่านะครับ พ่อคนเดียวกัน แม่ผมเป็นเมียน้อย หน้าตาแม่ของผมเป็นยังไงผมก็ไม่รู้หรอก เพราะแม่ผมทิ้งผมไปตั้งแต่ผมยังเด็ก โชคดีที่แม่ใหญ่ คือแม่ของไอ้ป่า รักและเอ็นดูผมเหมือนลูกแท้ๆคนหนึ่ง ว่าด้วยเรื่องความรัก....สมัยผมเรียนที่เมืองนอก ผมเป็นคนค่อนข้างจะเจ้าชู้ครับ ประเภทเอาไม่เลือก แต่ผมดันไปตกหลุมรักผู้หญิงคนหนึ่ง เธอชื่อว่าเส้นด้าย และที่สำคัญ ตอนนั้นที่ผมชอบเธอ เธอเป็นเมียของพี่ชายผม และเธอกับไอ้ป่าก็กำลังจะหมั้นกันแต่ปัจจุบันนี้ไอ้ป่ามันมีเมียใหม่ไปเรียบร้อยแล้ว ส่วนเส้นด้าย ผมจะดูแลเธอเอง ผมจะทำให้ด้ายลืมไอ้ป่า และ รักผมให้ได้ ส่วนเรื่องที่ผมพลาดไปมีอะไรกับเด็กนั่น เธอชื่อ ‘วีนัส’ ผมรู้จักเธอผ่านๆ ไม่ได้สนิทอะไร เพราะเธอมาดูแลแอมแปร์ เมียของไอ้ป่า ให้ผมสาบานเลยว่าผมไม่คิดจะล่วงเกินอะไรเด็กนั่นเลย เธอเด็กมาก แถมยังไม่ใช่สเปกผมอีกต่างหาก แต่เรื่องนี้มันผ่านไปแล้ว เด็กนั่นเธอกลับต่างจังหวัดไปแล้ว ก็ดีที่
ฉันกลับมาที่บ้านเพื่อที่จะมาเก็บเสื้อผ้า และกลับไปนอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาล พี่เพทายเป็นคนอาสามาส่งฉันที่บ้าน แล้วก็ไปส่งฉันที่โรงพยาบาล "เดี๋ยวพี่จะลองคุยกับพ่อให้นะเรื่องค่ารักษา อย่าร้องไห้ป้านาต้องหาย" พี่เพทายเอามือเอื้อมมาจับมือฉันในขณะที่กำลังขับรถอยู่ "งะ เงินตั้งหลายล้าน ฮึก...พี่ทายอย่าลำบากเลยค่ะ" ฉันรู้ว่าทางบ้านเขามีฐานะ แต่เงินขนาดนั้นคงไม่มีใครกล้าให้ยืมหรอก ''พี่อยากช่วย" พี่เพทายพูดสีหน้าจริงจัง "ขอบคุณนะคะ ที่พยายามจะช่วยหนู ฮึก...'' 19:30 น.พอมาถึงโรงพยาบาล พี่เพทายก็รีบกลับบ้านเพื่อไปคุยกับทางบ้านเรื่องช่วยค่ารักษาให้ ฉันก็แอบมีหวังนะ แต่ก็เผื่อใจเอาไว้แล้วแหละว่าคงจะไม่ได้หรอก เพราะเงินมันมากเกินไป "ป้านิ่ม..." ฉันเรียกป้านิ่มจากทางด้านหลัง ตอนนี้ป้านิ่มกำลังร้องไห้อยู่ ฉันรู้ว่าป้านิ่มก็คงรู้สึกไม่ต่างจากฉัน "วีนัสเอ่ย ป้าหมดปัญญาแล้วลูก..." ป้านิ่มพูดทั้งน้ำตา ฉันเอื้อมมือไปจับมือป้านิ่มแล้วออกแรงบีบเบาๆ "แม่ต้องได้ผ่าตัด หนูจะไม่ยอมปล่อยให้แม่เป็นอะไรไปเด็ดขาด" "กตัญญูจริงๆลูกเอ้ย ถ้านามันรู้ว่าลูกสาวมันพยายามจะช่วยมันขนาดไหนมันคงดีใจมาก" ป้านิ่มยกมือขึ
วันต่อมา...เกือบจะอาทิตย์ที่ฉันมาอยู่ที่โรงพยาบาล วันนี้กรีน เพื่อนสนิทของฉันมาเยี่ยมแม่ฉันด้วย ฉันมีเพื่อนสนิทอยู่สองคน คือกรีน กับ นาย นายคือสาวประเภทสอง เธอไม่ชอบฉันใครเรียกว่านายหรอก ชอบให้เรียกว่า นัตตี้ ใครเรียกว่านาย นัตตี้ จะไล่ตบ ถึงขนาดนี้จริงๆ ยกเว้นฉันกับกรีนเรียกได้ "เอาไงวีนัส ค่ารักษาโหดมาก ฉันอยากช่วยแกนะ แต่ไม่มีปัญญาจริงๆ" กรีนพูดขึ้นหลังจากที่เราเดินออกมาจากเยี่ยมแม่ของฉันแล้ว "ป้านิ่มว่าจะกู้เงินนอกระบบ" "เฮ้ย วีนัส มันเสี่ยงมากนะ แถมดอกเบี้ยแพงขนาดนั้น อย่าเลย" "จะให้ทำยังไง เงินมากมายขนาดนั้นจะไปหามาจากไหนถ้าไม่ทำแบบนี้ ฉันก็ว่าจะขายไต...อุ๊บ" ฉันรีบยกมือขึ้นมาปิดปากตัวเองไว้ทันทีที่เผลอพูดว่าตัวเองจะขายไตออกไป ฉันอยากจะเอาหัวโขกเสาแรงๆสักทีจริงๆ กรีนพอได้ยินแบบนั้นรีบหันขวับมาจ้องหน้าฉันทันที"วีนัส นี่แกจะขายไตงั้นหรอ แกบ้ารึเปล่า !!"".....""ไม่ได้นะ วีนัส ถ้าแม่แกรู้แม่แกต้องเสียใจมากแน่ๆ แม่แกคงไม่ต้องการให้แกทำ เชื่อฉันสิ" "แล้วจะให้ทำยังไง ทุกอย่างมันมืดไปหมดแล้ว จะทำยังไงฉันถึงจะมีเงินมารักษาแม่ แกก็รู้ว่าครอบครัวฉันไม่ได้รวย ฮึก...." ฉันปล่อยโฮอ
ฉันคิดทบทวนคำที่กรีนพูดอีกครั้ง มันยิ่งทำให้ฉันคิดอยากลองดู ถึงคืนนั้นฉันกับพี่ขุนเขาจะไม่ได้มีอะไรกัน แต่เขาคิดว่าเรามีอะไรกันแล้ว อีกทั้งเขาก็มีแฟนแล้ว ถ้าฉันโกหกเขาว่าท้องเขาไม่มีทางที่จะสงสัยอะไรหรอก และเขาก็ต้องรีบเอาเงินให้ฉัน แบบครั้งนั้นที่เขาให้ฉันเอาเงินให้ฉัน แปลว่าเขาเป็นคนใช้เงินเเก้ปัญหา ฉันไม่ได้ยากจะโกหก แต่ฉันไม่มีทางเลือกแล้ว ถ้าแผนครั้งนี้ไม่สำเร็จ....ฉันคงจะต้องขายไตจริงๆ แล้ว"วีนัส วีนัส!!" ฉันสะดุ้งตัวเล็กน้อย จากแรงเขย่าของกรีน"แกเหม่ออะไร เรียกตั้งนานไม่ตอบตอบ" กรีนขมวดคิ้วมองหน้าฉันอย่างสงสัย"ฉะ ฉันจะไปกรุงเทพ!!" ฉันลุกขึ้นพรวดกำลังจะเดิน แต่ถูกกรีนรั้งแขนไว้สะก่อน"เฮ้ย!! จะไปทำไมวีนัส" "ไม่มีเวลาแล้วกรีน เอาไว้กลับมาฉันจะบอกแกนะ ฉันฝากบอกป้านิ่มด้วยว่าฉันไปธุระไม่ต้องห่วงฉัน" "เดี๋ยววีนัส!! วีนัส!!" ฉันรีบเดินตรงไปหาพี่วินโดยที่ไม่ฟังเสียงเรียกของกรีนเลยฉันให้พี่วินไปส่งที่ บคส ก่อนจะขึ้นรถตู้ไปกรุ่งเทพ ฉันไม่มีอะไรติดตัวมาเลย นอกจากเงิน3พันกับโทรศัพท์ ฉันไม่รู้เลยว่าต่อไปฉันจะเจอกับอะไร ฉันไม่ได้อยากจะทำแบบนี้ แต่มันจำเป็น....ระหว่างที่นั่งรถไป ฉันท
@กรุงเทพ พอลงรถได้ ฉันก็นั่งแท็กซี่ต่อเพื่อไปที่บ้านของพี่เจ้าป่า ฉันรู้ว่าบ้านหลังนั้นไม่มีใครอยู่ เพราะเจ้แอมบอกฉันว่าย้ายบ้านแล้ว และเคยชวนฉันไปเล่นที่บ้านใหม่ของเจ้ แต่ฉันไม่ได้ไป เรื่องแม่ ฉันไม่ได้บอกให้เจ้แอมรู้ หน้าบ้าน....ตอนนี้ฉันกำลังยืนอยู่หน้ารั้วประตูบ้าน ด้านในบ้านมีรถหรูจอดอยู่ พอเห็นแบบนั้นมันทำให้ใจฉันมันเต้นรัวขึ้นมาทันที เมื่อรู้ว่าพี่ขุนเขากำลังรออยู่ภายในบ้าน กริ่ง~เสียงโทรศัพท์ของฉันดังขึ้น คนที่โทรมาคือพี่ขุนเขา ฉัน " ฮะ...." ขุนเขา " ฉันบอกแล้วไงว่าฉันไม่ได้ว่างมานั่งรอเธอทั้งวัน ถ้าภายใน10นาทีเธอยังไม่เข้ามา ฉันจะกลับ" น้ำเสียงที่ดูจะหงุดหงิดของคนที่พูดปลายสายเอ่ยขึ้น ฉัน "ยะ อยู่หน้าบ้านแล้ว" ขุนเขา " เออ ก็รีบเข้ามาดิวะแม่ง" ติด! สายถูกตัดไปทันทีที่เขาวีนใส่ฉันจบ ฉันมองรั้วบ้านแล้วก็ถอนหายใจออกมายาวๆ ถ้าแม่ฉันไม่ป่วยฉันคงไม่ต้องเลือกทำแบบนี้ ขอโทษจริงๆนะพี่ขุนเขา หนูจำเป็นต้องโกหก พี่คือความหวังของหนูจริงๆ ฉันพูดในใจก่อนจะถอนหายใจออกมาอีกครั้ง และเปิดประตูรั้วบ้านเดินเข้าไปภายในตัวบ้าน ภายในบ้านเงียบสนิท เงียบซะจนฉันแทบไม่อยากจะก้าวขาเดินต่อเลย
บรรยากาศภายในห้องรับแขก เงียบสงัด ตอนนี้ฉันกับพี่ขุนเขาถูกสั่งให้มานั่งข้างๆกัน โดยมีคุณแม่ ที่พี่ขุนเขาเรียกว่าแม่ใหญ่นั่งอยู่ตรงหน้าเราสองคน และต้องมองเราทั้งคู่อย่างเอาผิดฉันอยากจะหายตัวได้จริงๆนะตอนนี้ ฉันอยากหนีไปจากตรงนี้ ถ้าเป็นไปได้ ฉันจะไม่มาที่นี่ตั้งแต่แรก ฉันจะไม่คิดที่จะโกหกเลย ฉันพลาด...แล้วฉันจะทำยังไงต่อดีโอ้ย วีนัสเอ้ยย!!!"พี่ชายแกยังไม่ได้แต่ง แกจะเอาก่อนเลยใช่มั้ย ทำอะไรไม่รู้จักคิด!!""ไม่คิดว่าฉันกลับมาไทยอีกครั้ง จะมาได้ยินข่าวดีแบบนี้ ไหนเธอลองพูดมาสิ...""พะ พูดอะไรคะ""เธอบอกว่าเธอท้องกับตาขุน ?" คุณแม่ของพี่ขุนเขาพูดขึ้นทำลายความเงียบภายในห้อง"....." ฉันค่อยๆเม้มปากเข้าหากันแน่น มาถึงตอนนี้ฉันจะตอบไปว่ายังไงดีฉันต้องการเงินไปรักษาแม่ แต่ฉันไม่ต้องการให้เรื่องมันเป็นแบบนี้"แม่ใหญ่หูฟาดเปล่า เธอไม่ได้พูดแบบนั้น" พี่ขุนเขาพูดแก้ตัวขึ้นจบคำพูดของพี่ขุนเขา คุนแม่ท่านก็ถลึงตาใส่พี่ขุนเขาทันที"แกคิดว่าฉันจะเดินเข้ามาแล้วจะโพล่งถามแกเลยหรือไง ฉันยืนฟังสักพักแล้ว ฟังจนพอจะจับใจความได้ถึงเรื่องที่แกสองคนคุยกัน""ฉันได้ยินทุกอย่าง ได้ยินแม้กระทั้งคำพูดที่เห็นแก่
ทะเล...วันนี้คือวันแรงที่ฉันกับพี่ขุนเขามาฮันนีมูนกัน เราเลือกมาที่ทะเล ไม่อยากไปต่างประเทศ เพราะเป็นห่วงลูกๆ เรามาฮันนีมูนกันแค่สามวันและสำหรับวันแรกของการมาทะเล มันก็ตรงกับวันครบรอบแต่งงานสิบปีของฉันกับพี่ขุนเขาพอดี ไม่รู้ว่าบังเอิญ หรือ พี่ขุนเขาตั้งใจ ให้ตรงกับวันสำคัญของเรา“ไปเดินเล่นกันมั้ย”“ค่ะ ^_^”เราจูงมือกันเดินออกจากบังกะโล และพากันเดินไปที่ริมหาด ตอนนี้พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว แสงแดดอ่อนๆ กระทบกับผิวน้ำทะเลมันชั่งสวยจริงๆเชื่อมั้ยว่านี่คือครั้งแรกที่ฉันเคยมาทะเล ตั้งแต่เล็กจนโตฉันไม่เคยไปไหนไกลนอกจากบ้านและโรงเรียนเลยที่นี่เงียบสงบดีจริงๆเลยนะ อาจเป็นเพราะเราเลือกมาวันที่คนอื่นเขาทำงานกัน เลยไม่ค่อยมีคน“เล่นน้ำมั้ย”“ไม่เล่....อร้ายยย” ฉันร้องออกมาเสียงหลงเมื่อ จู่ๆ พี่ขุนเขาก็ช้อนตัวฉันขึ้น ก่อนจะเดินตรงไปที่ทะเลสีฟ้าคราม“พี่ขุนเขาหนูบอกว่าไม่เล่นไง”ตู้มม!!เมื่อฉันพูดจบร่างของฉันก็ถูกพี่ขุนเขาโยนลงน้ำทันที นี่เขาได้ยินที่ฉันร้องบอกบ้างมั้ยเนี่ย“ไอ้พี่ขุนเขาบ้า หนูบอกว่าไม่เล่นไง!!” เมื่อโผล่ขึ้นมาจากน้ำได้ ฉันก็ตวาดใส่พี่ขุนเขาทันที“เวลาเปียก หนูเซ็กซี่มากเล
ภายในบ้าน“หนูชื่ออะไร” ฉันก้มลงถามเด็กน้อย เฮ้อ ดูแววตาของเธอที่มองฉันสิ ทำไมถึงเศร้าแบบนี้นะ“หนูชื่อ เหมือนฝันค่ะ น้องชื่อ ข้าวหอม” เด็กน้อยตอบฉันเสียงใส ถ้าจับอาบน้ำแต่งตัว หนูเหมือนฝัน นี่น่าตาน่ารักน่าชังมากๆเลยนะ ส่วนทารกน้อยก็น่ารักน่าชังไม่แพ้กัน ใครหน้อชั่งใจร้ายพามาทิ้งไว้ที่หน้าบ้านของฉันฉันจัดการให้ป้าช้อยพาหนูเหมือนฝันไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ส่วนข้าวหอม ฉันจะจัดการอาบน้ำให้เอง เด็กอะไรก็ไม่รู้ เลี้ยงง่ายมาก ไม่ร้องไม่งอแงในเวลาอาบน้ำเลย พออาบน้ำเสร็จฉันเอานมให้กินแล้วก็พาไปนอนในเปลของขุนแผน ตอนนี้หลับปุ๋ยไปแล้ว เลี้ยงง่ายจริงๆผ่านไปพักใหญ่ ป้าช้อยพาหนูเหมือนฝันลงมาจากชั้นสอง พออาบน้ำขัดผิวแล้วน่ารักน่าชังมากกว่าที่ฉันคิดไว้สะอีกฉันเอาข้าวให้หนูเหมือนฝันกิน เด็กน้อยกินใหญ่เลย ท่าทางเหมือนจะไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน“หนู นั่นลูกใคร” เสียงพี่ขุนเขาถามฉัน พี่ขุนเขาเดินมาพร้อมกับ ขุนราม เจ้าคุณ แล้วก็อุ้มขุนแผนมาด้วย“ไม่รู้เหมือนกันค่ะ นั่งอยู่หน้าบ้าน ถามอะไรก็ไม่รู้ หนูก็ได้ให้เขามาในบ้านก่อน พี่ขุนเขาให้ลูกน้องตามหาพ่อแม่ให้ทีนะคะ” พี่ขุนเขาเพ่งมองไปที่เหมือนฝัน เธอกำลังน
หลายปีผ่านไปไวเหมือนโกหก...“ขุนรามลูก อย่าแกล้งน้อง”“เจ้าคุณเลิกเล่นเกมส์ได้แล้วลูก”ตอนนี้ฉันกำลังเก็บของเล่นที่มันกระจัดกระจายเกลื่อนพื้นไปหมด คงไม่ต้องบอกว่าฝีมือใครหรอกนะ จะมีใครสะอีก ก็เจ้าสองแฝด ขุนรามกับเจ้าคุณ ของฉันไงล่ะตอนนี้ทั้งสองอายุ8ขวบแล้ว แถมยังดื้อเอามากๆ ให้ช่วยดูน้องก็เอาแต่เล่นเกม อีกคนให้ดูน้องก็แกล้งน้องฟังไม่ผิดหรอกค่ะ ฉันมีลูกเล็กเพิ่มมาอีกคน แถมเป็นผู้ชายด้วย ชื่อ ขุนแผน จริงๆพี่ขุนเขาอยากจะได้แฝดอีก แต่ได้แค่คนเดียว แถมเขายังจะเอาอีกคน ฉันเบรคไว้แทบไม่ทัน ปิดอู่แล้วตอนนี้ เพราะแค่เจ้าสองแสบก็วุ่นแล้ว ไม่รู้ขุนแผนโตขึ้นกว่านี้หน่อยจะดื้อเหมือนพวกพี่ๆมั้ยเจ้าคุณ กับ ขุนราม เป็นแฝดก็จริง แต่หน้าตาไม่เหมือนกันเลยสักนิด เป็นแฝดคนละฝา แต่ถ้าพูดถึงความดื้อแล้วละก็ กินกันไม่ลงเลยจริงๆ ขุนรามเป็นพี่ก็จะดื้อเอามากๆ ชอบโวยวาย ส่วนเจ้าคุณ แฝดน้อง ร้ายนี้เงียบๆ แต่ดื้อไม่เบาเหมือนกัน เอาแต่ใจตัวเองมากๆอีกด้วยวันนี้พี่ขุนเขาไปที่บริษัท บริษัทของพี่เจ้าป่ากับพี่ขุนเขาหุ้นกันเปิด เปิดมาได้5ปีแล้ว ธุรกิจกำลังรุ่งเลยตอนนี้“แง๊ แง๊~” เสียงขุนแผนร้องดังลั่นบ้านฉันถึงกับถ
——วันแห่งความสุข—-ขอตัดมาวันแต่งงานเลยแล้วกัน เพราะที่ผ่านมาหลังจากที่พี่ขุนเขาขอฉันแต่งงานเราก็วุ่นๆกันทั้งคู่ ทั้งหาฤกษ์แต่งงาน จัดเตรียมสถานที่ การ์ด อะไรอีกหลายๆอย่างเราสองคนจัดพิธีแต่งงานแบบไทยๆ ชุดแต่งงานก็เหมือนกัน ฉันใส่ชุดแบบไทยๆ ไม่ได้หรูหราอะไรมากมายพิธีแต่งงานจัดขึ้นที่บ้านของฉัน ไม่ได้จัดงานใหญ่โตอะไร เป็นงานเล็กๆ และก็เชิญแค่ญาติที่สนิทเท่านั้นตอนนี้แม่กำลังตอนรับแขกอยู่ข้างนอกกับป้านิ่มวันนี้ฉันคุยกับเจ้าตัวน้อยที่อยู่ในท้องแล้ว บอกว่าห้ามกวนแม่นะวันนี้ และดูเหมือนว่าลูกน้องของฉันจะเชื่อฟังซะด้วย เพราะตั้งแต่ตื่นมาแต่งหน้าแต่งตัว จนถึงตอนนี้ ฉันไม่มีอาการพะอืดพะอมอยากจะอ้วกเลย“ตื่นเต้นหรอเรา” เจ้แอมเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเอ่ยถาม เจ้แอมเป็นเพื่อนเจ้าสาว แล้วก็มีกรีน มีนัตตี้ แต่สองคนนั้นยังแต่งตัวกันอยู่ คงจะเอาให้สวยกว่าฉันเลยละมั้ง“ตื่นเต้นสิเจ้” บอกตามตรงว่าตอนนี้มือไม้ฉันสั่นไปหมดทั้งที่เคยแต่งงานกับเขามาแล้วครั้งหนึ่งแท้ๆ แต่ความรู้สึกของฉันราวกับว่านี่คือครั้งแรกที่ฉันกำลังจะได้แต่งงาน“เจ้าบ่าวใกล้จะมาถึงแล้วนะ” ยิ่งเจ้แอมพูดแบบนี้ฉันยิ่งตื่นเต้นไปกันใ
พอได้ยินพี่เส้นด้ายพูดออกมาแบบนี้ ฉันก็หันขวับไปมองหน้าของพี่ขุนเขาทันที เพราะอยากจะรู้ว่าตอนนี้อาการของพี่ขุนเขาเป็นยังไงตอนนี้พี่ขุนเขามองพี่เส้นด้าย แต่เขาไม่ได้ตอบอะไร“ถ้างั้นก็คุยกันไปแล้วกันค่ะ เดี๋ยวหนูไปรอที่รถ” ฉันบอกพี่ขุนเขาออกไป ถามว่าประชดมั้ย ใช่!! ฉันประชด แต่ถ้าเขาจะคุยกัน จริงๆ ฉันก็ห้ามอะไรไม่ได้หรอก“หนู...” พี่ขุนเขารั้งแขนฉันเอาไว้ก่อนที่ฉันจะเดินไป“ก็คุยไปสิ” ฉันพูดกระแทกเสียงใส่พี่ขุนเขา เขากำลังทำให้ฉันหงุดหงิด“ขุนเขา...” พี่เส้นด้ายเรียกพี่ขุนเขาอีกครั้ง“ด้าย คุณก็มากับแฟนคุณไม่ใช่รึไง คนที่คุณควรให้ความสนใจคือแฟนคุณนะ”“แต่...”“ตอนมีเขาอยู่ ไม่เห็นจะอาลัยอาวรณ์ ตอนนี้เป็นบ้ารึไง” ฉันพูดออกไปอย่างเหลืออด เพราะฉันก็ทนมามากแล้วเหมือนกัน“นี่แก หุบปากไป ฉันจะคุยกับขุนเขาไม่ใช่แก”“ด้าย!! เราไม่มีอะไรต้องคุยกันอีกแล้ว” พี่ขุนเขาพูดขึ้นก่อนที่ฉันจะพูด“ขอคุยแค่แปปเดียวก็ไม่ได้หรอ”“หน้าด้าน มาขอคุยกับผัวคนอื่น”“นี่ก็ผัวฉันเหมือนกัน !!”“แต่ตอนนี้เขาเป็นผัวหนู เรากำลังจะมีลูกด้วยกัน พี่มายุ่งอะไรด้วย!!”“หนู พอแล้วคนอื่นมองเยอะแล้ว” พี่ขุนเขาร้องห้ามฉัน ทำไมไ
“พี่นั่นแหละ จะเป็นใครได้ล่ะ”พี่ขุนเขายิ้มออกมาอย่างพึ่งพอใจในคำตอบของฉันหลังจากที่เราทั้งคู่ต่างจ้องตากันนานพอสมควร พี่ขุนเขา ค่อยๆ โน้มใบหน้าลงมาใกล้ฉันเรื่อยๆ จนกระทั่งริมฝีปากของเราทั้งคู่แตะโดนกันก๊อกๆ ก๊อกๆ (เสียงเคาะประตูห้อง)จู่ๆ เสียงเคาะห้องก็ดังขึ้น ฉันรีบผลักพี่ขุนเขาออกทันที“ใครวะ !!” พี่ขุนเขานั่งบนปลายเตียงเขายกมือขึ้นมายีผมตัวเองแรงๆ ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสียก๊อก ก๊อกๆ“วีนัสลูก อยู่ในห้องรึเปล่า” คนที่เคาะห้องคือแม่นี่เอง“ยะ อยู่จ้ะแม่”ฉันรีบลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปเปิดประตูให้แม่ เมื่อเปิดประตูออก แม่กำลังจะพูดอะไรสักอย่าง แต่แม่หยุดชะงัก แล้วก็มองผ่านตัวฉันเข้ามาด้านในห้อง ก่อนที่แม่จะมองหน้าฉันแล้วก็ยิ่มน้อยยิ้มใหญ่“ใจอ่อนเเล้วใช่มั้ย” แม่ถามฉันฉันเม้มปากเข้าหากันแน่น มันอายที่จะตอบนะ เพราะก่อนหน้านี้ฉันยังบอกแม่ว่าจะไม่ให้อภัยพี่ขุนเขาอยู่เลย“งั้นแม่ไม่กวนแล้ว ทำต่อเถอะ”“แม่!!” ฉันทำหน้างอใส่แม่ ก็แม่นะสิ คงคิดว่าฉันกำลังจะทำอะไรกับพี่ขุนเขาอยู่แน่ๆเลย ถึงเราสองคนกำลังจะทำแบบนั้น จริงๆ ก็เถอะ“แม่พูดผิดรึไง แต่ เบาๆ หน่อยนะ เดี๋ยวจะกระทบถึงลูกเอา” เเม่เอ
พูดจบฉันก็เดินไปหยิบเค้กขึ้นมา ก่อนที่จะส่งยิ้มหวานให้พี่ขุนเขา แต่ดูท่าเขาจะไม่เข้าใจในการกระทำของฉันสักเท่าไหร่พี่ขุนเขายังคงร้องไห้อยู่ แล้วก็มองหน้าฉันด้วยอาการมึนงง“เทียนละคะ”เมื่อฉันถามหาเทียน พี่ขุนเขาก็รีบหมุนตัวกลับไปก้มหยิบถุงที่เอาใส่เค้กมา ข้างในนั้นมีกล่องเทียนอยู่ เมื่อได้เทียนแล้ว พี่ขุนเขาก็จัดการปักเทียนลงเค้ก เขาทำไปร้องไห้ไปเหมือนเด็กเลย“ถ้าร้องไห้แบบนี้ หนูจะไม่เป่าเค้กแล้วนะ” ฉันทำตาดุใส่พี่ขุนเขา เมื่อพี่ขุนเขาเห็นว่าฉันพูดขู่ไปแบบนั้น เขาก็รีบยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาออกจากแก้มของตัวเองทันที และพยายามที่จะหยุดร้องพี่ขุนเขาล้วงเมื่อเข้าไปในกระเป๋ากางเกงของตัวเอง หยิบไฟแช็กออกมาจุดเทียนวันเกิด“เอ้า เงียบทำไม จุดเทียนเสร็จแล้วก็ร้องเพลงวันเกิดสิคะ” ฉันบอกพี่ขุนเขา เมื่อเขาเอาแต่ก้มหน้าเงียบ“อ้อ อื้อ..” พี่ขุนเขาพยักหน้าตอบหงึกๆ“แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู แฮปปี้เบิร์ดเดย์ทูยู....~” 🎵เสียงเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์ดังขึ้นจากต้นจนจบ เมื่อจบเสียงเพลง ฉันก็จัดการเป่าเค้กวันเกิด ก่อนจะฉีกยิ้มหวานให้พี่ขุนเขาอีกครั้ง แต่ดูท่าพี่ขุนเขายังคง งง กับเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่นี่เขาดูไม่ออ
พี่ขุนเขาทำท่าเหมือนกำลังขุ่นคิดอะไรอยู่สักพัก จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นยืนถอดเสื้อออก จากนั้นก็ถอดกางเกง“จะทำอะไร !!” ฉันถามไปเมื่อพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ของตัวเองออก นี่อย่าบอกนะว่าจะแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน จริงๆ เป็นบ้าไปแล้วรึไง“ก็หนูบอกว่าถ้าพี่ยอมแก้ผ้าวิ่งรอบหมู่บ้าน หนูจะให้อภัยพี่“หยุด หยุดเดี๋ยวนี้นะ !!” ฉันร้องห้าม เพราะพี่ขุนเขากำลังจะถอดบล็อกเซอร์ออกจากตัว“ทำไม”“ไม่ต้องทำ แล้วก็ออกไปจากห้อง”“หนู...พี่ยอมทำทุกอย่าง แค่หนูบอกมา”“ออกไป หนูบอกให้ออกไป”“หนู....”“ได้ ถ้าไม่ไปหนูไปเอง!!”พูดจบฉันก็ลุกขึ้นเดินนออกมาจากห้องของตัวเองทันที ขืนอยู่ต่อฉันคงต้องใจอ่อนให้พี่ขุนเขาจริงๆแน่“พี่หมอ !!” ฉันอุทานออกมา เมื่อเดินออกมานอกบ้านแล้วเจอกับพี่หมอที่กำลังเดินมาทางฉัน ในมือพี่หมอถือของเต็มไม้เต็มมือไปหมด“ทำไมทำหน้าเหมือนเจอผีแบบนั้น”“ปะ เปล่าสะหน่อย”“แล้วนี่แม่ตัวเล็กล่ะ พี่ซื้อของมาให้เยอะแยะเลย”“แม่ไป....”“แม่ไม่อยู่ อยู่แต่ผัว”ฉันกำลังจะตอบพี่หมอ แต่ไม่ทันที่จะได้พูดจบ เสียงของพี่ขุนเขาก็พูดแทรกขึ้นมาจากทางด้านหลังของฉันพี่หมอมองหน้าพี่ขุนเขา แต่ดูท่าพี่หมอจะไม่แปลกใจเ
เช้าวันใหม่...เฮือก....ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นมา ก่อนจะมองไป ข้างๆ กายปรากฎร่างของพี่ขุนเขานอนอยู่ ข้างๆ กับตัวฉัน แถมตอนนี้เขาลืมตาทำตาใสส่งมาให้ฉันอีกต่างหาก“ออกไปเลยนะ” ฉันพูดเสียงแข็ง เมื่อคืนฉันทำอะไรลงไป เผลอตัวไปแบบนั้นได้ยังไงกัน“ขอนอนอยู่แบบนี้อีกหน่อยไม่ได้หรอ” พี่ขุนเขาพูดเสียงออดอ้อนใส่ฉัน ดูเขาทำหน้าสิ อย่างกับเด็กสามขวบ“อย่าเยอะได้มั้ย”“เมื่อคืนหนูเร้าร้อนมากเลยนะ ^_^”“พี่ขุนเขา หยุดพูดเดี๋ยวนี้นะ!!” ฉันตวาดใส่หน้าเขา คนบ้า ทำไมต้องมาพูดเรื่องแบบนั้นด้วย หน้าอายที่สุดจู่ๆ ใบหน้าของฉันมันก็เห่อร้อนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ไม่สิ สาเหตุก็เรื่องอย่างว่าที่พี่ขุนเขาพึ่งพูดออกมาไงล่ะ“พี่พูดผิดตรงไหน ก็เมื่อคืนเรามีอะไรกัน ตัวเล็กครางเสียงดังลั่นบ้าน จำไม่ได้หรอ หื้ม^_^” ไม่พูดเปล่า พี่ขุนเขาถือวิสาสะเอามือขึ้นมากดร่างฉันให้นอนราบไปกับที่นอนเหมือนเดิม ก่อนจะกอดฉันเอาไว้แน่น“บอกให้ออกไปไง ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องรึไง !!” ฉันตวาดเสียงดังอีกครั้ง“อยากให้ฝนตก บ่อยๆ จัง หนูจะได้ให้พี่เข้ามาอยู่ในห้องด้วย บ่อยๆ ^_^” พี่ขุนเขาพูดพร้อมกับกำชับกอดแน่นกว่าเดิม แค่นั้นยังไม่พอ เขายังขโมยห