“พอดีผมเปลี่ยนแผน เลิกหน้างอได้แล้วน่า”“..............”“ก็จะได้เสร็จงานไวๆไง หรือคุณอยากอยู่กับผมนานๆล่ะ”“..............”“โอเค ผมผิดเอง”ทางด้านไรอัน ตอนนี้กำลังนั่งทนกับอาการเงียบผิดปกติของเลขาสาว เมื่ออยู่ดีๆเขาก็บุกไปที่คอนโดของเธอแล้วบอกว่าต้องการเดินทางคืนนี้และเดี๋ยวนี้ด้วย ทำเอาเพชรพราวถึงกับไปไม่เป็นแถมเขายังบอกจะเข้าไปรอในห้องของเธอระหว่างรอเธอเก็บของทำเอาหญิงสาวยิ่งตระหนกเมื่อมันเต็มไปด้วยข้อมูลลับมากมาย เธอเลยต้องทำเป็นโกรธเขามากมายเหมือนอย่างตอนนี้เพื่อไม่ให้เขาเข้าไปในห้องของเธอส่วนไรอัน เหตุผลที่เขาเดินทางตอนกลางคืนเพราะว่ามันปลอดภัยและกันการติดตามจากคนที่ไม่หวังดีได้ดีกว่าตอนกลางวัน และกว่าจะถึงที่พักก็ค่อนรุ่ง และปัญหาก็เกิดขึ้นมาอีกครั้งเมื่อมาถึงจุดหมายปลายทาง“ไม่! โรมแรมใหญ่โตยังกับพระราชวัง ฉันไม่เชื่อเด็ดขาดว่าจะเหลือว่างไม่กี่ห้อง งั้นให้พวกนั้นไปนอนด้วยกันสิ”“ก็พวกมันนอนกันสี่คนแล้ว หรือคุณจะให้ผมไปนอนรวมกับพวกมันล่ะ”“ได้ก็ดี”“เพชรพราว! อย่าทำเหมือนกับว่าเราไม่เคยนอนด้วยกัน! ผมเห็นมาหมดแล้ว”และคำพูดของมาเฟียหนุ่มก็ทำเอาเพชรพราวถึงกับหน้าแดงขึ้นมาทันที
“นี่เหรอคะอาหารสุดวิเศษที่คุณโม้นักโม้หนา”“ฮ่าฮ่าฮ่า นี่แหละอาหารโปรดที่ผมกินทุกกกกวัน”ไรอามองชามบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อว่าเธอต้องมากินมันทั้งๆที่ก่อนหน้านี้มีอาหารสุดหรูวางเต็มอยู่ตรงหน้าแท้ๆ“ผมขอโทษนะที่พาคุณไปทานที่อื่นไม่ได้ ตอนนี้รูปเราคงเต็มอินเตอร์เน็ตไปหมดแล้ว”“อืม ฉันกินอะไรก็ได้ แค่เสียดายอาหารที่ร้าน กินไปแค่นิดเดียวเอง”“เดี๋ยวเอาไว้ผมพาไปอีก แต่คงเป็นที่อื่นนะ”“อืม...”ไรอาตอบรับออกมาพร้อมกับเริ่มจัดการบะหมี่กึ่งตรงหน้าอย่างหิวโหยไม่แพ้กันกับชายหนุ่ม ก่อนจะตบท้ายด้วยไอศกรีมของโปรดของเจสัน“นี่คุณอยู่ห้องใหญ่โตขนาดนี้คนเดียวเหรอ”“อ่าว สนใจมาอยู่กับผมไหมละ”“บ้า ฉันแค่อยากรู้ มันดูใหญ่มาก เผลอๆใหญ่กว่าบ้านทั้งหลังอีก”“อืม พ่อกับแม่ผมอยู่อเมริกาน่ะ มีแค่ผมที่อยู่ที่นี่เพราะต้องทำงาน นานๆจะบินไปเยี่ยมพวกท่านที”ไรอาหันไปมองหน้าดาราหนุ่มที่สลดลงเวลาเอ่ยถึงครอบครัวอย่างนึกแปลกใจ“คุณไม่ชอบอยู่คนเดียวเหรอ?”“หืม? ผมอ่ะนะ ไม่เลย แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะผมก็ไม่ชอบอยู่กับคนอื่นเหมือนกัน”“ฉันก็เหมือนกัน ไม่ชอบอยู่คนเดียวแล้วก็ไม่ชอบอยู่กับคนอื่นด้วย”เจสันหั
“นี่คุณตื่นได้แล้ว คุณ...”เช้าวันต่อมา เพชรพราวที่ตื่นก่อนรีบลุกขึ้นอาบน้ำอาบท่าด้วยร่างกายที่อ่อนเพลีย แต่ด้วยเช้านี้ต้องเข้าไปตรวจโรงพยาบาลสาขาที่ตัวเมืองนครราชสีมาเธอเลยต้องกัดฟันลุกไปอาบน้ำแต่งตัวจนเสร็จเรียบร้อยก่อนจะเดินมาปลุกอีกคน ที่ยังนอนแผ่หลาไม่ยอมตื่น“อื้อ ขออีกสิบนาทีนะ ผมเพลียมากเลย”เสียงอ้อแอ้ดังขึ้นพร้อมทั้งหันร่างหนีไปอีกทางเพื่อกันการรบกวน แต่หญิงสาวไม่ยอมเมื่ออีกเพียงครึ่งชั่วโมงจะถึงเวลาประชุมแล้ว“ไม่ได้ มีประชุมเช้า ถ้าไปสายใครเขาจะเชื่อถือคุณล่ะ นี่! ตื่นได้แล้ว คุณ!”“เฮ้อ ก็ได้ๆๆๆ นี่คุณไม่เหนื่อยบ้างรึไง...อ้อ ลืมไปคุณนอนเฉยๆนี่น่า”ไอ้มาเฟียบ้าเอ้ย! ยังมีหน้ามาพูดหน้าตาระรื่นอีก! ฝากไว้ก่อนเถอะ!“ไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ เดี๋ยวฉันไปเตรียมชุดไว้ให้ จะได้ไม่ต้องใช้เวลานาน”พูดจบเพชรพราวก็เดินออกไปเพื่อเตรียมชุดให้เขาทันที ส่วนไรอันที่มองตามไปอดรู้สึกสุขใจไม่ได้ เมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่มีคนมาปลุกเขาให้ตื่นแถมยังเตรียมชุดให้อีก ก่อนจะลุกจากที่นอนใหญ่แล้วเดินตรงเข้าห้องน้ำไป“ไม่เห็นมีอะไรเลย...แล้วเอกสารอะไรก็ไม่มี...นายนี่รอบคอบกว่าที่เราคิดแฮะ”ขณะที่เพชรพราวกำลัง
‘ผมต้องไปถ่ายละครแล้ว ผมเตรียมโจ๊กไว้ให้ในตู้เย็นอุ่นทานได้เลย มีน้ำผลไม้ด้วย แล้ววันนี้ไม่ต้องไปทำงานนะครับ เดี๋ยวจะป่วยเอาไว้ แล้วผมจะรีบกลับมาหาปล.ถ้าเกิดไม่ยอมพักอยู่ที่ห้อง รับรองผมไปตามถึงโรงพยาบาลแน่...รักครับ’และยิ้มหวานก็ค่อยๆผุดขึ้นที่ใบหน้าขาวไร้การตกแต่งของไรอา เมื่อพอตื่นขึ้นมาก็ไม่เจอเจ้าของห้องเสียแล้วแต่เจอโน้ตสีขาวทิ้งเอาไว้ให้แทน พออ่านเสร็จเลยอดที่จะอมยิ้มออกมาไม่ได้“ถึงอยากไปก็ไปไม่ไหวหรอก ไอ้คนเจ้าเล่ห์”ไรอาอดว่าออกมาไม่ได้ เมื่อแค่เดินยังลำบากจะให้เธอไปทำงานได้ยังไง ก่อนจะอดหน้าแดงออกมาไม่ได้เมื่อดันไปคิดถึงเรื่องเมื่อคืน ทีแรกก็เจ็บเจียนตายแต่พอเอาไปเอามาเธอกลับเอาแต่ครวญครางอย่างซ่านเสียวแถมตอบรับเขาในทุกๆอย่างที่เขาชักนำอีก ยิ่งคิดหญิงสาวยิ่งนึกอายตัวเองส่วนอีกคนนั้น ตอนนี้กำลังยิ้มหน้าบานกับความสัมพันธ์ที่เขาใฝ่ฝันถึงจนคนที่ทำงานอดแซวออกมาไม่ได้ เมื่อตอนนี้เรื่องของดาราหนุ่มกำลังกลายเป็นประเด็นร้อนดังไปทั้งประเทศ“หุบปากบ้างรึยังน่ะวันนี้ ฟันแห้งหมดแล้วมั้งพ่อดาราดัง”“อ่าวพี่หวานแหวว ไหนว่าจะไปทำผมรอไง กลับมาทำไม”หวานแหววผู้จัดการส่วนตัวของเจสันเดินกลั
“ที่รัก ลูกสาวเราอยู่ที่นี่รึเปล่า”“อ่าว ทำไมกลับบ้านเร็วละคะ มีอะไรรึเปล่า”“ไรอาอยู่นี่ไหม ผมไปหาที่คอนโดไม่เจอ”คุณไบรอันเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งเครียด เมื่อก่อนมาที่นี่เขาไปหาไรอาที่คอนโดแต่กลับไม่เจอ ทำเอาคุณมิรันที่ตอนนี้ร่างกายกลับมาเป็นปกติหลังจากที่บุตรชายกลับมาก็เดินเข้ามาถามอย่างนึกแปลกใจ“มีเรื่องอะไรกันคะคุณ”“คุณไม่เห็นข่าวเลยรึไง ตอนนี้ลูกสาวเรากำลังเป็นที่พูดถึงของคนทั้งประเทศ มีที่ไหนไปเป็นข่าวกับไอ้ดาราหน้าอ่อนนั่น คุณลองโทรหาไรอาซิ เผื่อลูกจะรับสาย”คุณมิรันที่มองสามีอย่างนึกแปลกใจระคนสงสัย เมื่อวันนี้ทั้งวันเธอมัวแต่ยุ่งอยู่กับพวกต้นไม้ในสวนจนไม่ได้สนใจข่าวคราวอะไรค่อยๆหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วทำตามที่สามีบอก“ไรอาอยู
“กลับมาแล้วครับ...”กลับมาทางด้านคนที่สร้างปัญหามากมายอยู่ในตอนนี้ เจสันเร่งรีบกับการถ่ายละครของวันนี้จนเสร็จก่อนจะรีบกลับมาหาไรอาโดยไม่เอ่ยลาใครสักคนแม้กระทั่งหวานแหววที่ตอนนี้คงกำลังต้อนรับพวกนักข่าวที่ไปเฝ้าหาข่าวอยู่ที่กองละครเพื่อให้เจสันได้หนีออกมาอีกทาง“เอ๋ อยู่ไหน หรือว่ากลับไปแล้วเหรอ”ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องที่ดูเงียบเกินกว่าจะมีคนอยู่ ก่อนจะมองไปรอบๆเพื่อหาคนที่เขาคิดถึงทั้งวันจนกระทั่งเดินเข้ามาเจอร่างเล็กนอนขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ พลันรอยยิ้มกว้างก็เผยออกมาทันที“หลับนี่เอง”เขาพูดขึ้นเสียงเบา เพราะกลัวว่าเธอจะตื่นขึ้นมาก่อนจะเดินกลับออกไป เพื่ออาบน้ำอาบท่าหลังจากที่ทำงานมาทั้งวัน ไม่นานเขาก็เดินกลับเข้ามาในห้องนอนที่ร่างเล็กยังคงหลับสนิทด้วยฤทธิ์ยาที่ทานเข้าไปตั้งแต่ช่วงบ่ายเพราะรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว ชายหนุ่มเดินมานั่งลงข้างกายเล็กก่อนจะเกลี่ยผมที่บังหน้าสวยออกให้“ขอโทษนะครับ ที่ทำให้เจ็บ”เจสันพูดขึ้นมาในความเงียบ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาอยากกลับห้องจนแทบหนีออกมา ก่อนจะอดนึกไปถึงอดีตไม่ได้9 ปีก่อน‘เราขอนั่งด้วยได้ไหม’‘อืม’ไรอา ที่อายุย่าง 19 ปี เดินไปยังที่นั่งว่
เช้าวันต่อมาไรอันที่พึ่งได้นอนไปเพียงชั่วโมงกว่าๆค่อยๆปรือตาตื่น เมื่อมีสายเรียกเข้าดังขึ้นไม่ขาดสาย ก่อนจะจับร่างเล็กของเพชรพราวที่นอนกอดทับเขาอยู่ออกอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวเธอจะตื่น ก่อนจะลุกเดินไปควานหาโทรศัพท์เครื่องจิ๋วในกระเป๋ากางเกงที่กองอยู่บนพื้น“ฮัลโหล...”เสียงงัวเงียเอ่ยออกไปเมื่อกดรับสายโดยไม่ได้ดูเลยสักนิดว่าใครโทรมา เมื่อคงมีไม่กี่คนที่กล้าโทรจิกเขาขนาดนี้“ไรอัน! นี่แกทำอะไรลงไปห๊ะ! ฉันให้แกไปดูงานไม่ใช่ไปไล่คนออกมั่วซั่วแบบนั้น ยกเลิกตารางงานของแกแล้วกลับมาที่สำนักงานใหญ่เดี๋ยวนี้เลย”ไรอันถึงกับเอาหูออกห่างจากโทรศัพท์เมื่อเสียงของคุณไบรอันดังแทบทะลุออกมาด้านนอก“อะไรกัน ผมก็แค่ทำตามหน้าที่ ไหนบอกให้อำนาจผมเต็มที่ไง”
“นายครับ ทางทีมงานของเรารายงานเข้ามาแล้วว่าจัดการทางนั้นเรียบร้อยแล้ว นายจะให้ตามมาเลยรึเปล่าครับ”ทางด้านไรอัน เช้าวันนี้เขาต้องเข้าตรวจอีกสาขาหนึ่งที่จังหวัดขอนแก่นก่อนที่เตชินจะหันมารายงานในขณะที่กำลังนั่งรถไปที่โรงพยาบาลสาขา“อืม ตามมาเลยจะได้เสร็จไวกว่าเดิม”“ครับ”สองหนุ่มคุยกันเสร็จก็พากันเงียบไม่ได้สนใจเลขาสาวที่ตอนนี้มีคำถามในหัวเต็มไปหมด เธออุตส่ามาทำงานกับเขาถึงที่นี่แต่เธอกลับไม่ได้ข้อมูลของมาเฟียหนุ่มเพิ่มเติมเลยสักนิด“ตอนไหนฉันจะเข้าใจในสิ่งที่พวกคุณพูดกันสักที นี่ฉันก็เป็นเลขานะ ถ้าไม่ไว้ใจกันขนาดนี้ ฉันลาออกก็ได้นะ”อยู่ดีๆเพชรพราวก็พูดขึ้นอย่างน้อยอกน้อยใจจนสองหนุ่มพากันหันมามอง ไม่ใช่ว่าไม่อยากบอกแต่พวกเขายังไม่ไว้ใจหญิงสาวต่างหาก เมื่อเธอเล่นทำให้เขาหยุดสงสัยไม่ได้ทั้งค
“นายครับ มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ...”เตชินที่เดินตามไรอันถามขึ้นอย่างแปลกใจกับท่าทีของเจ้านายหนุ่ม หลังจากออกมาจากห้องทำงานของคุณมนัสได้พักใหญ่ๆไรอันก็เดินเหมือนกับว่าไร้วิญญาณในมือถือกรอบรูปอันเล็กเอาไว้จนเตชินที่ทั้งแปลกใจและสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้านายของเขากันแน่อดถามขึ้นไม่ได้“นายครับ นั่นมัน เอ่อ ห้องทำงานไปทางนี้ครับ”“หือ? อือ...”“เป็นอะไรของเขาล่ะเนี่ย หรือว่าคุณมนัสพูดอะไรมา แต่ไม่น่าจะทำให้นายเป็นอย่างนี้ได้นี่”ยิ่งคิดเตชินยิ่งสับสน เมื่อนี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นไรอันเป็นแบบนี้ ก่อนไรอันจะเดินเข้าไปในห้องทำงานแล้วบอกไม่ให้ใครรบกวนเป็นอันขาด“มันเกิดอะไรขึ้น...ทำไมเธอถึง...”ชายหนุ่มยกรูปที่ขอยืมมาจากคุณมนัสขึ้นดู มันเป็นเพียง
“จะไม่กลับไปกับพ่อจริงๆเหรอ ท้องโตอย่างนี้แถมไม่มีคนดูแลอีก กลับไปกับพ่อเถอะนะ”“พราวดูแลตัวเองได้ค่ะไม่ต้องเป็นห่วงนะคะ เจสซี่ก็อยู่ คุณพ่อน่าจะอยู่เล่นกับหลานๆนานกว่านี้หน่อย ตั้งแต่คุณพ่อมาเด็กๆก็ไม่ค่อยเกเร...คุณตาจะกลับแล้วบอกลาคุณตาสิครับ”“อุ๊ย ดิ้นกันใหญ่เลย ฮ่าฮ่าฮ่า เดี๋ยวตาจะบินมาบ่อยๆนะ อย่าดื้ออย่าซนให้มันมากนักไอ้เสือน้อยของตา เข้าใจไหมครับ”“ฮึก คุณพ่ออ่ะ อย่าทำให้พราวร้องไห้สิคะ ไม่ต้องกลับได้ไหมคะ พราวคิดถึงคุณพ่อแล้ว”“โธ่ เด็กขี้แย จะเป็นแม่คนแล้ว”คุณมนัสดึงร่างอวบของบุตรสาวเข้ามากอดพลางน้ำตาซึมอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เมื่อในตอนนี้ไม่ใช่มีแค่ลูกสาวเขาคนเดียวแล้วแต่ยังมีหลานน้อยเพิ่มมาอีกสามคน แล้วจะไม่ให้เขาห่วงเพิ่มเป็นทบเท่าทวีคูณได้ยังไง“เดี๋ยวจะถ
หนึ่งวันหลังจากนั้นคุณไบรอันก็ถูกส่งตัวไปรักษาที่กรุงเทพฯพร้อมกับจอห์นส่วนไรอันต้องสะสางเรื่องที่คาสิโนและต้องให้ความร่วมมือกับพวกตำรวจสากลที่ต้องการตรวจสอบธุรกิจของเขารวมทั้งบริษัทผลิตอาวุธอีก เลยทำให้วุ่นกันไปหมดเพราะพอที่นี่เสร็จต้องบินไปที่อังกฤษอีก ไรอันแทบไม่ได้หยุดพัก เมื่อจอห์นตัดสินใจแล้วว่าจะขายคาสิโนทิ้งเหลือเอาไว้แค่บริษัทที่อังกฤษ ส่วนไรอันตกลงแล้วว่าจะกลับมารับช่วงต่อที่โรงพยาบาล เมื่อไรอาไม่ยอมที่จะขึ้นบริหารที่นั่น ก็คงเหลือเพียงแต่ชายหนุ่มที่ต้องกลับไปรับตำแหน่งต่อจากบิดา“นายครับ ทีมงานจากประเทศไทยพึ่งกับมาถึง น่าจะเข้ามาทำงานกันพรุ่งนี้”“อืม แจ้งไปทางตำรวจสากลให้เข้าตรวจพรุ่งนี้ได้เลย ส่วนเรื่องที่ฉันให้ไปสืบเป็นยังไงบ้าง”“ไม่มีข้อมูลหรือข่าวของเธอเพิ่มเติมเลยครับนาย คุณมนัสไม่ได้ติดต่อหรือไปหา ส่วนที่อเมริกาก็ไม่มีครับยากมากที่จะหาข้อมูลของเธอที่นั่น เพราะแทบไม่มีใครพูดเรื่องส่วนตัวกันเลย บอกแค
ทางด้านเพชรพราว วันนี้เธอต้องเข้าไปรายงานตัวในสำนักงานวันแรกหลังจากพึ่งกลับมาถึงเมื่อวาน และพอเดินเข้าไปทุกสายตาต่างก็มองมาที่หญิงสาวอย่างแสดงความยินดี เมื่อต่างก็รู้ว่าถ้าเธอกลับมาและงานสำเร็จหญิงสาวจะได้เลื่อนขั้นเพราะนี่เป็นงานแรกที่เธอถูกส่งออกไปทำคนเดียว“พราว! ยินดีด้วยนะ หัวหน้ารอพบเธออยู่ ไปเร็วเข้า!”สำเนียงภาษาอังกฤษชัดเจนเอ่ยขึ้นพร้อมกับเดินเข้ามากอดเพื่อนสนิทอย่างยินดี ก่อนเพชรพราวจะเดินเข้าไปยังห้องทำงานของหัวหน้าของเธอ“อ่าว มาแล้วเหรอนั่งก่อนๆ ครั้งนี้คุณทำงานได้ดีมากเลยนะเพชรพราว ข้อมูลที่ส่งมาให้ค่อนข้างละเอียดตอนนี้ผมได้ให้รัฐบาลส่งเจ้าหน้าที่ไปลงพื้นที่เพื่อจับกุมพวกเลวนั่นแล้วและผมพร้อมทำตามสัญญา สิ้นเดือนนี้คุณจะได้เลื่อนตำแหน่ง อื้อ อีกอย่าง ผมอนุญาตให้พักยาวได้หนึ่งเดือนเลยแล้วค่อยกลับมาทำงาน”“ขอบคุณค่ะ เอ่อ หัวหน้าคะดิฉันอยากตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติม จะเป็นไ
“อะ...อะไรนะ! ที่แกมาหาฉัน...ก็เพื่อจะบอกว่าแกจะไปแล้วอย่างนั้นเหรอ”“ค่ะ พราวแค่แวะมาลา เหลือเวลาอีกชั่วโมงก็ต้องไปแล้ว คุณพ่อดูแลสุขภาพตัวเองบ้างนะคะ เอาแต่ทำงานหนักอย่างนี้ พราวเป็นห่วง”“ฉันละเชื่อแกจริงๆเลย นี่ตกลงแกเป็นลูกสาวของฉันจริงๆใช่ไหม”“โธ่ ถ้าคิดถึงก็บินไปหาพราวได้นี่คะ ลาออกเถอะนะคะคุณพ่อ พราวเลี้ยงคุณพ่อได้สบายมากค่ะ”คุณมนัสหันไปมองบุตรสาวด้วยสายตาผิดหวังอย่างชัดเจน เมื่อที่เขาทำทุกวันนี้ก็เพื่อคนตรงหน้าที่วันๆไม่ทำการทำงานเอาแต่เที่ยวเล่นไปวันๆโดยไม่รู้เลยว่าเพชรพราวนั้นเริ่มทำงานตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆแล้วแค่ไม่ได้บอกเพราะไม่อยากให้บิดาเป็นห่วง“อย่าไปเลยนะ ถึงลูกจะไม่ทำงานพ่อก็จะไม่บังคับอีก ขอแค่อยู่นี่...”“หนูทำงานให้หน่วยข่าวกรองสหรัฐ...ทำตั้งแต่เรียนจบ...”“ห๊ะ!! กะ...แกว่ายังไงนะ! หนะ...หน่วยข่าวกรองสหรัฐ แกไม่ได้โกหกพ่อเพื่อที่จะหนีไปหรอกใช่ไหม”คุณมนัสไม่คิดอยากเชื่อ เมื่อบุตรสาวที่เขาคิดมาตลอดว่าไม่เอาไหนกลับบอกว่าทำงานกับรัฐบาลสหรัฐเสียได้“หนูไม่อยากให้คุณพ่อไม่สบายใจเลยไม่ได้บอก ขอโทษนะคะ แต่หนูต้องกลับไปทำงาน ถ้าคุณพ่อว่างก็ไปหาหนูบ้างนะคะ”“โธ่แล้วทำไมแก
ทางด้านไรอัน ตอนนี้กำลังเดินลงจากเฮลิคอปเตอร์ด้วยร่างกายที่เรียกได้ว่าอ่อนแรงเต็มทน เมื่อเขาได้รับการรักษาห้ามเลือดเพียงอย่างเดียวก่อนที่จะมาถึงที่นี่“นายใหญ่เป็นยังไงบ้าง รายงานมาให้หมด”“ตอนนี้พ้นขีดอันตรายแล้วแต่ยังอยู่ในห้องไอซียูเพราะท่านอายุเยอะและมีภาวะแทรกซ้อนหลายโรคครับ น่าจะต้องรอดูอาการไปอีกสักพัก”“อืม ส่งคนไปคุ้มกันอย่าให้มีใครที่ไม่ใช่หมอและพยาบาลเข้าไปเด็ดขาดจนกว่าทุกอย่างจะเรียบร้อย”“ครับนาย แล้วก็...”พอได้ยินประโยคสุดท้ายจากปากของลูกน้อง ไรอันถึงกับรีบถลาเดินออกไปทันที“มาทำอะไรที่นี่...ผมถามว่ามาทำอะ อ๊ะ! อะไรที่นี่!”ไรอันตะโกนถามเสียงดังทันทีที่มาถึงคาสิโนแล้วพบร่างสูงใหญ่ของคุณไบรอันที่นี่“ฉันควรถามแกมากกว่านะสภาพแบบนี่จะมาเป็นภาระเพิ่มอีกรึไง...พาไปหาหมอ”“ไม่! พ่อต่างหากที่ต้องกลับไป ผมจัดการเองได้”คุณไบรอันบอกขึ้นแต่ไรอันก็ดื้อหัวชนฝาจนคนเป็นพ่อถอนหายใจออกมา“สภาพแกเป็นแบบนี้แล้วแกจะไปทำอะไรใครได้ เดี๋ยวฉันจัดการเอง”“ผมจัดการ...”“บอกให้ไปหาหมอไง! พาออกไปเดี๋ยวนี้! ก่อนที่ฉันจะจัดการพวกแกรายตัว พาไปสิวะ!!!!”คุณไบรอันตะโกนสั่งออกมาสุดเสียงจนพวกที่ยืนอยู่ร
“นายครับ ตอนนี้ลูกน้องของไอ้ไรอันกำลังตามหาตัวมันครับ แสดงว่าตอนนี้ไม่มีใครรู้ว่ามันอยู่ที่ไหน นายจะให้ทำยังไงต่อครับ”“พวกมึงยังตามมันอยู่ใช่ไหม”“ครับ มันอยู่ที่โรงแรมครับนาย”“แสดงว่าไม่มีคนคุ้มกันมัน งั้นจัดการได้เลย เอาให้ตาย เพราะถ้ามันไม่ตายรับรองมึงได้ตายแทนแน่”“ครับ”พอวางสายยิ้มร้ายก็ปรากฏขึ้น เดชาที่รอโอกาสมาเป็นเดือนไม่นึกว่าอยู่ดีๆมันก็ถึงเวลาที่เขารอคอยก่อนจะยืนขึ้นแล้วสั่งออกมา“ไปรวบรวมคนมาให้หมด ฉันจะไปถล่มคาสิโน เอาให้ยับอย่าให้เหลือซาก มันจะได้จำไว้ว่าอย่ามากร่างกับกูอีก”พอสั่งเสร็จเดชาก็เดินยิ้มอย่างมีความสุขออกไปเมื่อเหลือแค่จอห์นคนเดียวและแก่ขนาดนั้นคงทำอะไรเขาไม่ได้ เสือเฒ่าที่ใ
“คุณเป็นบ้าไปแล้วรึไง! ปล่อยฉันนะ คุณ!”ทางด้านเพชรพราวตอนนี้เจ็บข้อมือจนแทบทนไม่ไหวเมื่อไรอันบีบมันแน่นจนแทบแตกหัก ก่อนจะอดเหลือบไปมองอีกคนที่นอนหมดสติหน้าตาบวมช้ำจนดูไม่ได้อย่างนึกสงสาร เธอไม่น่าใช้เขาเป็นเครื่องมือในการประชดเลยจริงๆ“หึ! ยังกล้ามองมันอีกเหรอ เธอกล้ามากเพชรพราวที่ท้าทายฉันแบบนั้น”ไรอันกัดฟันพูดออกมา เขาไม่นึกว่าแผนการที่วางไว้จะเป็นแผนการที่เอาไว้ทำลายเขาโดยเฉพาะ จากที่อยากพิสูจน์ความรู้สึกของหญิงสาวนั้นตอนนี้ความรู้สึกของเขากลับดูชัดเจนจนเขาเองแทบไม่อยากยอมรับมัน“คุณมันบ้า ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ!”เพชรพราวบอกขึ้นพร้อมกับยกขาขึ้นเพื่อหวังทำลายจุดอ่อนของเขาแต่ไรอันรู้ทันจับขาเล็กเอาไว้พร้อมกับดึงเข้าหาตัวเขาอย่างรวดเร็ว“จำเอาไว้ ว่าห้ามแตะต้องใครอีก!”พอสิ้นสุดคำพูดปากร้อนก็กดจูบลงมาที่ปากเล็กอย่างรวดเร็วและรุนแรงจนเพชรพราวได้กลิ่นคาวเลือดจากปากของเธอ“อื้อๆๆๆๆๆๆ อ่อย อื้อออ ไอ้อ้า! อื้ออ”เพชรพราวพยายามร้องห้ามในลำคอและใช้ทุกแม่ไม้วิธีต่อสู้ดิ้นรนเพื่อให้เขาปล่อย แต่ร่างสูงแข็งแกร่งอย่างกับเหล็กแทบไม่สะท้าน ความโกรธนั้นมีมากจนเขาไม่สนใจความเจ็บปวดทางร่างกายเลยแม้แต่
“เอ่อ ขอโทษนะคะ พอดีทีมงาน...”“ให้เข้ามาเลย ส่วนคุณ...จะเข้าหรือไม่เข้าก็ได้”เพชรพราวเดินเข้ามาทันทีที่เห็นคุณไบรอันเดินหน้าตาไม่รับแขกออกจากห้องไป เธอเลยเดินเข้ามาเพื่อบอกว่าตอนนี้ทีมงานที่ตามไปทำงานที่สาขาพึ่งเดินทางมาถึง และก็ขอเข้าพบไรอันเพื่อรายงานการทำงาน“ค่ะ...”เพชรพราวตอบรับออกมาอย่างน้อยใจ ก่อนจะเดินหันหลังออกไปเพื่อบอกให้พวกด้านนอกเข้ามา และพอประตูห้องทำงานของไรอันปิดลงหญิงสาวก็ได้แต่นั่งห่อเหี่ยวเหมือนเดิม“ทำไมมันรู้สึกว่าไม่อยากทำอะไรเลย...แล้วทำไมเราจะเข้าไปฟังด้วยไม่ได้ เราเป็นเลขานี่น่า”พอนึกได้เพชรพราวก็ตัดสินใจลุกเดินเข้าไปในห้องทำงานของไรอันทันทีจะมองทำไม ทำเป็นหูหนวกตาบอดไม่รู้ไม่เห็น ไม่ได้เลยรึไงอีตาบ้าเอ้ย!พอเดินเข้าไปทุกสายตาต่างหันมาจับจ้องที่หญิงสาวจนอดประหม่าไม่ได้ ก่อนจะเดินไปนั่งที่ว่างซึ่งมันก็ดันข้างไรอันอีก จากนั้นเพชรพราวก็เริ่มตั้งสติแล้วฟังทีมงานที่ไรอันเคยบอกว่ายอดเยี่ยมรายงานถึงการทำงานเกือบเดือนตามสาขาต่างๆโอ้วแม่เจ้า นี่มันสุดยอดอัจฉริยะทั้งนั้นเลยรึเปล่าเนี่ย ทำไมถึงละเอียดรอบคอบแถมยังพูดแต่เรื่องระดับบริษัทยักษ์ใหญ่ในต่างประเทศเขาทำกัน