เสียงฝีเท้าที่เหยียบย่ำลงบนต้นหญ้า ต่อให้พยายามเดินให้เบาแค่ไหนแต่สัญชาตญาณมาเฟียของธามไทก็ทำให้เขารีบหันขวับไปยังด้านหลังทันทีซึ่งภาพที่อยู่ตรงหน้าเขาก็คือไอศูรย์กับลูกน้อง ที่คำนวณจากสายตาคร่าว ๆ ก็น่าจะมีไม่ต่ำกว่าสามสิบคน ทว่าเขากลับนิ่งเฉยไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวคนพวกนี้เลยแม้แต่น้อย“หึ อยากได้ลูกเสือก็ต้องบุกถ้ำเสือสินะ”คำพูดของไอศูรย์ทำให้ธามไทแอบคาดเดาอยู่ในใจว่า ผู้ชายที่ดูท่าทางภูมิฐานและแต่งกายด้วยชุดสูทราคาแพงคนนี้น่าจะเป็นบิดาของไออุ่น เพราะท่าทางของคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ รวมไปถึงทุกคนที่รายล้อมรอบตัวเขาอยู่นั้น ดูให้ความเคารพและยำเกรงในตัวผู้ชายคนนี้ไม่น้อย“ว้า โดนจับได้แล้วสิ อุตส่าห์แอบย่องเบาเข้ามาเงียบ ๆ คนเดียวแล้วเชียว แล้วนี่ยกโขยงกันมาต้อนรับผม หรือกะจะมารุมกระทืบผมกันแน่ครับ พากันมาเยอะเชียว”ถึงจะไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้านั้นเป็นบิดาของไออุ่นหรือไม่ แต่ในเมื่อจงใจพาคนมาเยอะขนาดนี้เขาก็คาดเดาได้ไม่ยากว่า คงเป็นการมาเพื่อรุมเขาเสียมากกว่ามาต้อนรับเขาในฐานะแขกไอศูรย์กระตุกยิ้มน้อย ๆ เมื่อคำทักทายของชายหนุ่มตรงหน้านั้นช่างยียวนกวนประสาทเขาเสียเหลือเกิน“เดี๋ยวนี้คนเป็นหมอเ
โรงพยาบาล N“หมอไทม์แกเป็นไงบ้างวะ”เพลิงกัลป์รีบวิ่งออกจากแผนกฉุกเฉินถามเพื่อนรักด้วยความเป็นห่วง เมื่อบุรุษพยาบาลเข็นเตียงที่มีร่างของธามไทมาหยุดที่หน้าทางเข้า ข้างกายเขานั้นมีไออุ่นที่คอยจับมือเอาไว้ตลอดเวลาด้วยใบหน้าเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา“ยังไม่ตาย แค่ช้ำในกับแขนหักเอง ส่วนหน้าหล่อ ๆ ก็ยังดีอยู่”ผู้ที่ตอบคำถามแทนธามไทก็คือท่านประธานโรงพยาบาล N คู่กัดของหมอเพลิงกัลป์ เจอหน้ากันทีไรทั้งสองมักจะปล่อยสิงสาราสัตว์ออกมาสู้กันเสมออย่างไม่มีใครยอมใครส่วนเพลิงกัลป์เมื่อได้ฟังคำตอบก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ที่เพื่อนของตัวเองไม่เป็นอะไรมากตอนนั้นเขาติดผ่าตัดใหญ่จึงทำให้ไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้น มารู้อีกทีก็ตอนที่ลูกน้องของธามไทโทรมารายงานว่า เพื่อนสนิทชิงบุกลุยเดี่ยวไปพาตัวไออุ่นออกมาจากบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งเขายังไม่รู้ข้อมูลเรื่องนี้ดีมากนักแต่ตาแก่ตรงหน้ากลับรู้ดีไปหมดทุกอย่าง แถมยังตามไปช่วยธามไทได้ทันเวลา ราวกับว่ามีตาที่สามหยั่งรู้ว่าทุกคนที่อยู่รายรอบตัวนั้นทำอะไรอยู่ที่ไหน“รีบ ๆ พาไปรักษาเถอะ ขืนชักช้าแม่หนูนี่คงบ่อน้ำตาแตกแน่”คำพูดของบุคคลที่ดูจะเป็นที่เคารพและยำเกรงของทุกคนในที
โรงพยาบาล N“เรื่องมันก็เป็นแบบนี้แหละ”เมื่อได้ฟังเรื่องเล่าจากปากของธามไท ก็ทำให้เพลิงกัลป์รู้สึกสงสารไออุ่นไม่น้อย เพราะจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ทุกอย่างนั้นเกิดขึ้นเพียงเพราะว่า บิดาของเธอบังคับให้ตัวเธอแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนโดยที่เธอไม่ได้ยินยอมนั่นจึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอเก็บเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านมา จนกระทั่งพบกับเพื่อนของเขาที่มาเหนือกว่าบิดาของไออุ่นหลายเท่านัก ด้วยการช่วงชิงความบริสุทธิ์ของเธอมาอย่างไม่ทันตั้งตัว“มันยังมีอยู่อีกเหรอวะสมัยนี้ที่จับลูกคลุมถุงชนอะ ฉันโคตรไม่เข้าใจความคิดของพ่อหนูไอเลย”“ฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะไออุ่นบอกว่าพ่อไม่เคยพูดถึงเรื่องแต่งงานมาก่อนเลยสักครั้ง แต่อยู่ดี ๆ กลับบอกว่าให้เตรียมตัวแต่งงานกับลูกชายของเพื่อนท่านทันทีที่เรียนจบ”“การแต่งงานของลูกสาวเพียงคนเดียวมันเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับคนเป็นพ่อนะเว้ย ฉันว่ามันดูแปลก ๆ นะที่อยู่ ๆ ก็จะให้เมียเด็กของนายแต่งงานทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันจะเรียนจบเลย มันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลสักเท่าไหร่”“ฉันก็คิดเหมือนนายว่ะเพื่อน แต่ถ้าว่าที่พ่อตายังคงดื้อดึงจะจับเมียฉันแต่งงานกับผู้ชายคนอื่น ฉันไม่มีทางยอมแน่นอน”“ห
โรงพยาบาล Nหลังจากที่เลิกเรียนแล้ว เฌอแตมก็ขออนุญาตบิดาเดินทางมาเยี่ยมธามไทที่กำลังพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ซึ่งวันนี้เป็นวันที่สามแล้วสำหรับการพักฟื้นร่างกายที่ยังคงมีรอยฟกช้ำอยู่แต่ไออุ่นบอกเธอว่าอีกสองวัน เฮียเพลิงจะอนุญาตให้เฮียไทม์ออกจากโรงพยาบาลได้แล้วนึกถึงวันที่เพื่อนของเธอโดนบิดาลักพาตัวไป ก็ให้นึกเสียดายกับสิ่งที่เฮียไทม์ตั้งใจทำเพื่อไออุ่นไม่น้อยเพราะความรักที่เขามีต่อไออุ่น ทำให้เขายอมลงทุนเรียนทำขนม แม้ว่าเขาไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นเลยก็ได้ แต่เพราะรักมากจึงทำให้เขายอมทุ่มเทเพื่อทำให้ไออุ่นมีความสุขมากที่สุดและวันนี้ก็เป็นอีกครั้งที่เธอกับธามไทวางแผนเซอร์ไพรส์วันเกิดให้ไออุ่น โดยที่ตอนนี้ทุกคนมาอยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันที่ห้องพักฟื้นผู้ป่วย เตรียมเซอร์ไพรส์ให้สาวน้อยวัยสิบเก้าขวบคนนั้น“ปีนี้ไม่ได้เป่าเค้กวันเกิดเลย หนูไอน้อยใจปะเนี่ย”เฌอแตมถามในระหว่างที่กำลังเดินทางไปห้องพักผู้ป่วยของธามไทไออุ่นส่ายหน้าน้อย ๆ ด้วยรอยยิ้มหวาน ตามประสาคนมองโลกในแง่ดีและไม่ได้นึกน้อยใจคนรักในเรื่องนี้เลยที่เขาไม่รู้วันเกิดของเธอ“หนูไอไม่ได้ยึดติดกับวันเกิดขนาดนั้นสักหน่อย มันก็แค่วั
ห้องพักฟื้นผู้ป่วยของธามไทเป็นห้อง VVIP ที่กฤษฎิ์แยกออกมาต่างหาก ซึ่งเป็นห้องที่มีไว้เพื่อรองรับคนในครอบครัวหรือญาติสนิทมิตรสหายโดยเฉพาะดังนั้นภายในห้องพักจึงถูกออกแบบให้คล้ายกับคอนโดที่มีของใช้ทุกอย่างครบครัน จึงทำให้ไออุ่นเลือกจะพักอยู่ที่โรงพยาบาลเพื่อคอยดูแลคนรักอย่างใกล้ชิดหลังจากที่เด็กสาวทำการบ้านและจัดการเก็บหนังสือสมุดลงกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว อยู่ ๆ เธอก็มีความรู้สึกคล้ายว่ากำลังถูกจ้องมองจากทางด้านหลังไออุ่นจึงรีบหันหน้ากลับไปมองทันที ถึงได้พบว่าธามไทกำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ ทำเอารู้สึกขนลุกซู่อย่างบอกไม่ถูก“ทำไมถึงมองหนูไออย่างนั้นล่ะคะ”ไออุ่นเอ่ยถามตรง ๆ อย่างสงสัย แต่เขากลับเผยรอยยิ้มกว้างออกมาอย่างออดอ้อนไม่ตอบคำถาม ทว่ากลับลุกขึ้นจากเตียงคนไข้และเดินมานั่งลงข้าง ๆ ไออุ่นสองมือพลันดึงรั้งร่างแน่งน้อยของดรุณีวัยแรกแย้มขึ้นมานั่งบนตัก ทำเอาไออุ่นเบิกตากว้างด้วยความตกใจ ด้วยกลัวว่าเขาจะเจ็บแผลช้ำในตรงช่วงบริเวณหน้าท้อง เธอจึงพยายามดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากอ้อมแขนที่รัดแน่นนี้“เฮียไทม์ขา เฮียยังไม่หายดีเลยน้า แต่มานั่งแบบนี้เผื่อมือของหนูไอเผลอไปโดนแผลจะเจ็บเอา
ธามไทพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลอีกเพียงสองวัน เพลิงกัลป์ก็อนุญาตให้เขากลับมาพักที่คอนโดได้ แต่ธามไทเลือกที่จะกลับไปทำงานแทนการหยุดพักผ่อน เพราะร่างกายของเขาไม่ได้เจ็บหนักถึงขั้นที่ต้องหยุดพักรักษาตัวเป็นเวลานาน ซึ่งเพลิงกัลป์ที่รู้จักนิสัยของเพื่อนรักดีก็ไม่ได้ทักท้วงแต่อย่างใด“ไปทำงานไหวจริง ๆ นะคะ”เมื่อรถซูเปอร์คาร์คันหรูหยุดลงข้าง ๆ โรงเรียนมัธยมของไออุ่น เด็กสาวก็เอ่ยถามสารถีจำเป็นด้วยความเป็นห่วง เพราะวันนี้คือวันแรกที่เขาจะกลับไปทำงาน หลังจากที่เพิ่งกลับมาพักฟื้นร่างกายต่อที่คอนโดได้เพียงหนึ่งวันธามไทพยักหน้าตอบรับน้อย ๆ แล้วดึงแฟนเด็กเข้ามากอดอย่างอ่อนโยน เมื่อใบหน้าของเด็กสาวนั้นยังคงฉายแววกังวลใจด้วยความเป็นห่วงอาการป่วยของเขา“ไหวสิคะ เฮียไม่ได้เจ็บหนักถึงขั้นต้องพักนานขนาดนั้นสักหน่อย”“แต่หนูไอเป็นห่วงกลัวเฮียจะเจ็บแผลนี่คะ”“หึ ทีตอนอยู่ในห้องน้ำที่โรงพยาบาลไม่เห็นหนูไอจะห้ามเฮียแบบนี้เลย มีแต่บอกเฮียไทม์ขาแรง ๆ อ๊ะ เจ็บนะหนูไอ”คำพูดของธามไททำให้ใบหน้าของไออุ่นพลันร้อนผ่าวด้วยความเขินอาย แล้วรัวฟาดฝ่ามือลงบนแขนล่ำอย่างแรงด้วยความหมั่นไส้ซึ่งคนถูกฟาดไม่ได้รู้สึกเจ็บเ
“ถ้าฉันบอกว่าอยากให้นายลาออกจากการเป็นหมอ และเข้ามาเรียนรู้งานที่บริษัทของฉันเพื่อรับตำแหน่งประธานบริษัทคนต่อไปหลังจากที่ฉันจากไปแล้ว นายจะว่ายังไงคุณหมอ”คำพูดของไอศูรย์ทำให้ธามไทรู้สึกตกใจและประหลาดใจไปพร้อมกัน ดวงตาคู่สวยมองอีกฝ่ายด้วยความคิดที่ซับซ้อน บนใบหน้าหล่อเหลาคล้ายกับมีความคิดอะไรบางอย่างอยู่ในใจในขณะที่ไอศูรย์ระบายยิ้มออกมาบาง ๆ พร้อมกับยกชาถ้วยใหม่ขึ้นจิบอย่างรู้สึกผ่อนคลาย เมื่อได้พูดในสิ่งที่เขาคิดและทบทวนมาตลอดหลายวัน“แล้วถ้าผมไม่ยอมลาออกล่ะครับ”ธามไทถามว่าที่พ่อตากลับอย่างหยั่งเชิง ซึ่งคนที่นั่งตรงข้ามก็ทำเพียงวางถ้วยชาลง แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับคุณหมออย่างเปิดเผยความคิด และความรู้สึกภายในใจออกมาให้เขาได้รับรู้จนหมดสิ้น“ถ้านายเลือกไม่ยอมลาออก นั่นก็เท่ากับว่านายได้เลือกทางที่สอง ซึ่งก็คือยอมเดินออกไปจากชีวิตของไออุ่น และฉันก็จะให้ไออุ่นแต่งงานกับปริญตามกำหนดเดิม”ไอศูรย์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้มเช่นเดิม โดยไม่มีทีท่าทุกข์ร้อนแต่อย่างใด ในขณะที่ธามไทถึงกับเผลอกำหมัดแน่น เมื่อได้ยินคำพูดของว่าที่พ่อตาหน็อยแน่ จะให้เขาเลิกกับหนูไอและปล่อยให้เธอไปแต่งานกับไอ้ปรงไอ้
All about You❤️อุ่นไอรัก พ่อตาตัวแสบโรงพยาบาล Nกฤษฎิ์มองธามไทที่กำลังนั่งอยู่บนโซฟาภายในห้องทำงานของเขา นัยน์ตาลึกล้ำยากที่จะมองไม่ออกว่าผู้เป็นลุงนั้นกำลังคิดอะไรอยู่“อยากจะไปเรียนรู้งาน เพื่อช่วยดูแลธุรกิจแทนว่าที่พ่อตาในระหว่างที่พักรักษาตัวว่างั้นเหอะ”หลังจากที่นั่งเงียบมานาน ในที่สุดกฤษฎิ์ก็เอ่ยถามหลานชายด้วยใบหน้านิ่งเรียบด้วยท่าทีสบาย ๆ ซึ่งแตกต่างจากท่าทีในตอนแรกอย่างสิ้นเชิง แต่คุณหมอธามไทก็พยักหน้าตอบรับอย่างว่าง่าย“แล้วถ้าพ่อตาเกิดรักษาไม่หายหนีไปเฝ้ายมบาลก่อนล่ะ จะทำยังไง”กฤษฎิ์ถามหลานชายอย่างหยั่งเชิง เพราะโรคมะเร็งนั้นไม่มีหมอคนไหนที่สามารถการันตีได้เลยว่า เมื่อได้รับการรักษาแล้วจะหายดีเป็นปกติ หรืออาจจะเป็นแค่การรักษาเพื่อประคองอาการเท่านั้น“ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ไทม์ก็คงต้องรับช่วงต่อดูแลธุรกิจทุกอย่างแทนท่าน เพราะหนูไอเองก็ยังเด็ก คงสู้กับพวกลุง ๆ ป้า ๆ ที่จ้องจะชิงตำแหน่งท่านประธานบริษัทคนใหม่ไม่ได้หรอกครับ”“ไทม์ในฐานะสามีก็ต้องปกป้องสิทธิ์ของภรรยาอย่างเต็มที่ จะคอยกันไม่ให้สมบัติของเมียตกไปเป็นของคนอื่น”“เหอะ สามีเต็มปากเต็มคำเชียว ไปตั้งใจเรียนรู้งานใ