“แปลกนะ ปกติเจ้าหมอไทม์ที่ฉันรู้จักไม่ค่อยชอบยุ่งเรื่องของใครนี่ แต่กับเด็กคนนี้ทำไมยุ่งจังนะ ชอบเขาเหรอเราอะ”คำถามของตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ ทำเอาธามไทกลอกตามองบนด้วยความเบื่อหน่าย จะมีเรื่องไหนสักเรื่องไหมที่รอดพ้นไปจากหูและตาของตาเฒ่าคนนี้ได้เพราะตั้งแต่ที่เขาย้ายมาอยู่เมืองไทย ทุก ๆ เรื่องในชีวิตเขาแทบไม่เคยรอดพ้นไปจากหูตาของกฤษฎิ์เลย เพียงแต่ลุงคนนี้ไม่ชอบเข้าไปยุ่งวุ่นวายก็เท่านั้น ยกเว้นเสียแต่ว่าหากเรื่องไหนที่มีผลกระทบกับงาน ตาเฒ่าจะรีบยื่นมือเข้ามาจัดการในทันที“ไม่ได้ชอบ แค่สงสาร”คำตอบเบาหวิวไร้ซึ่งความหนักแน่น ทำให้คนมีประสบการณ์อมยิ้มออกมาน้อย ๆ อย่างรู้ทันตอบเขาเสียงเบาหวิวขนาดนี้ แปลว่าเจ้าของคำตอบก็ยังไม่มั่นใจในความรู้สึกของตัวเองเหมือนกัน แต่สำหรับคนที่ผ่านอะไรมามากมายครึ่งค่อนชีวิตอย่างกฤษฎิ์ เขากลับมองเพียงปราดเดียวก็รู้ได้ในทันทีว่า หลานชายของเขาคนนี้กำลังตกหลุมรักแม่สาวน้อยคนนั้นอยู่อย่างแน่นอน“แรก ๆ ก็บอกว่าสงสาร พอนานวันไปก็บอกว่าชอบ สุดท้ายก็ผมรักเขา อืม หนุ่ม ๆ สมัยนี้ช่างเข้าใจยากจริง ๆ”คำพูดที่ดูคล้ายกับว่ากำลังพึมพำกับตนเอง ทำให้คนที่ได้ยินแอบคิดตามคำพูดของผ
ร่างบางที่เบียดตัวเข้าหาความอบอุ่นจากร่างสูงในช่วงเช้า ทำคนที่กำลังนอนหลับสบายลืมตาตื่นขึ้นมามองด้วยความงัวเงีย พร้อมกับก้มลงมองใครบางคนที่กำลังนอนหลับซบอยู่บนอกแกร่งจนแก้มย้วยดวงตากลมโตที่เคยทอแสงเป็นประกายหลับสนิทโดยไร้ทีท่าว่าจะตื่น มือบางโอบกอดเขาราวกับคุ้นชิน ส่วนแก้มกลมซบอยู่บนอกเขาอย่างสนิทใจธามไทถอนหายใจออกมาเบา ๆ ด้วยความหนักใจ เพราะทุก ๆ คืนเขากับไออุ่นจะแยกย้ายกันเข้าห้องนอนของตัวเอง แต่พอตื่นเช้ามาทีไรร่างบางก็มักจะนอนโอบกอดซบอกเขาอยู่เสมอแรก ๆ เขามักจะดุอยู่บ่อย ๆ เพราะเราทั้งคู่ไม่ได้อยู่ในสถานะที่จะมานอนแนบชิดด้วยกันแบบนี้ได้ แต่ดูเหมือนว่าพอยิ่งดุและยิ่งห้าม ก็กลายเป็นยิ่งยุให้เธอแอบเข้ามานอนในห้องเขาทุกวัน คนพี่จึงเลือกปล่อยเลยตามเลยไปแล้วแต่บางสิ่งบางอย่างที่กำลังขยายตัวใหญ่ขึ้นตามธรรมชาติมันปล่อยเลยตามเลยไม่ได้น่ะสิ กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของแป้งเด็กที่ลอยมาแตะจมูก ทำให้ความต้องการของเขาที่ไม่ได้รับการปลดปล่อยมายาวนานถึงสองอาทิตย์ เริ่มจะทำงานจนแทบจะอดกลั้นไม่ไหวอยู่แล้ว“อืม เย็นไว้ทนไว้ลูกพ่อ หายใจเข้าลึก ๆ หายใจออกและหายใจเข้า”ธามไทพึมพำเสียงเบาพยายามระงับอารมณ์ความ
รถซูเปอร์คาร์คันหรูหยุดลงที่หน้าโกดังร้างแห่งหนึ่ง ที่ขึ้นชื่อว่าผีดุสุด ๆ ในย่านนี้และไม่มีใครกล้าย่างกรายเข้ามา นอกจากลูกน้องของเขาที่จับตัวอันดากับพวกมาขังไว้ที่นี่เป็นเวลาถึงสี่วันและแน่นอนว่าเขายังใจดีให้พวกมันได้ทานข้าวกินน้ำไม่อดตายไปเสียก่อน ส่วนบิดาของอันดานั้นคนของลุงกฤษฎิ์พาไปเที่ยวเล่นแถวทะเลทางใต้ ซึ่งตอนนี้ก็ไม่รู้จะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง...แต่ใครจะสนธามไทเดินมาหยุดลงตรงหน้าทั้งสี่คนที่ถูกจับมัดกับเสาเอาไว้ ซึ่งพอทุกคนเห็นหน้าธามไทต่างก็พากันตัวสั่นด้วยความกลัว แล้วขยับเข้ามากอดกันเอาไว้ด้วยความรู้สึกทรมานจนแทบไม่อยากมีชีวิตอยู่เพราะโกดังที่พวกตนถูกจับมาขังในยามวิกาลนั้น ไม่เคยมีสักคืนที่ได้หลับได้นอนเพราะที่นี่เต็มไปด้วยเสียงร้องโหยหวน ราวกับว่ามีวิญญาณมากมายอาศัยอยู่ตามที่เคยได้ยินมา“อ้าวคนสวยทำไมขอบตาดำแบบนั้นล่ะ เปลี่ยนที่นอนแค่ไม่กี่วันโทรมแทบดูไม่ได้เลยนะ”ธามไทเอ่ยกวนอันดากับแนนที่เงยหน้าขึ้นมองเขาทั้งน้ำตา ส่วนคนพูดนั้นกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความสะใจกับสภาพของทุกคน โดยเฉพาะแววตายามที่ทอดมองไปยังเด็กสาวทั้งสองคน คล้ายจะบอกว่าสมน้ำหน้าที่ไม่ยอมฟังคำเตือนของเขาที่อ
“เฮียไทม์คะ หนูไออยากอยากกินไอศกรีมอ่า วันนี้หนูไอเรียนหนักมาก จบจากห้องเรียนแล้วยังไม่พอ พอร์ชยังพาทบทวนบทเรียนในวันที่หนูไอหยุดเรียนอีกหลายบทจนหนูไอปวดหัวไปหมดแล้ว ถ้าได้กินไอศกรีมสักถ้วยอาการปวดหัวของหนูไอน่าจะหายดีเป็นปลิดทิ้งเลยค่ะ”เสียงหวานเอ่ยเจื้อยแจ้วชวนคนที่กำลังตั้งใจขับรถด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ตรงข้ามกับอาการปวดหัวที่เธอบอกเขาโดยสิ้นเชิงแสดงไม่เคยจะเก่งเลยแม่คุณรอยยิ้มจากคนเย็นชาผุดขึ้นบนหน้าด้วยความขบขัน เมื่อคนข้างกายกำลังออดอ้อนเขาให้พาไปกินไอศกรีมของโปรด แน่นอนว่าทุกครั้งที่พาไปเธอแทบจะเหมาจนหมดซูเปอร์มาร์เก็ตทุกครั้ง“ตามหลักการแพทย์ ถ้าปวดหัวต้องกินยานะยัยหนูไอไม่ใช่ไอศกรีม”คุณหมอตอบกลับคนข้างกายอย่างรู้ทัน ใบหน้าที่กำลังยิ้มแย้มหุบยิ้มลงทันควัน แทนที่ด้วยใบหน้ายับยู่ยี่อย่างแง่งอนธามไทส่ายหัวอย่างเอ็นดู แล้วละมือหนึ่งข้างที่กำลังบังคับพวงมาลัยอยู่มาขยี้ผมนุ่มอย่างมันเขี้ยว นึกขำคนที่อารมณ์สับสวิตช์ไวมาก เดี๋ยวก็อ้อนเดี๋ยวก็งอนจนสร้างความเคยชินให้เขาไปเสียแล้วส่วนคนที่กำลังงอนเมื่อถูกขยี้ผมก็เปลี่ยนท่าทีอย่างไว รีบขยับเข้าไปใกล้ ๆ คนพี่แล้วเอียงแก้มนวลซบลงบนต้นแข
หลายวันต่อมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้วที่ไออุ่นมาพักอยู่กับธามไท การที่ได้มาอยู่กับเขาทำให้เธอหลงลืมความทุกข์ใจเรื่องทางบ้านไปชั่วขณะโดยไม่ได้หวนคิดถึงเรื่องนั้นแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเธอจะต้องห่างจากอ้อมอกของบิดา แต่อ้อมกอดของธามไทที่คอยปลอบโยนเธอก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูกส่วนธามไทนั้นจากที่เคยใช้ชีวิตแสนเรียบง่าย กลับมีความตื่นเต้นและความวุ่นวายเข้ามาเซอร์ไพรส์เขาไม่เว้นในแต่ละวัน แต่นั่นก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะรอยยิ้มของใครบางคนที่มักจะยิ้มให้ด้วยความสดใสอยู่เสมอนั้นเขาได้เห็นมันในทุก ๆ วัน“เฮียบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ค่อย ๆ กิน ดูสิเลอะปากหมดแล้ว”ธามไทดุคนตัวเล็กอย่างไม่จริงจังนัก เมื่อเธอเล่นจิ้มขนมปังลงบนสังขยาใบเตยนมสดพูน ๆ เข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อย จนปากเลอะคราบสังขยาไหนจะหกจนไหลรดมืออีกคุณหมอส่ายหัวอย่างเอือมระอาปนเอ็นดูเด็กในปกครอง แต่ก็ยอมเอื้อมมือไปหยิบทิชชูที่วางอยู่ใกล้ ๆ มาเช็ดปากให้ไออุ่นที่นั่งนิ่ง ๆ ให้เขาเช็ดทำความสะอาดให้อย่างว่าง่ายด้วยความเคยชิน“ก็มันอร่อยนี่คะ กินกี่ครั้งก็อร่อยทุกครั้ง ขอบคุณเฮียไทม์มากน้า ที่เลือกร้าน
“ขนมพวกนี้คือ?”“อ้อ ดอกไม้กับขนมของพวกสาว ๆ เขาน่ะ แม่บ้านคงลืมเก็บ”ธามไทบอกไออุ่นอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะเป็นปกติที่เขาจะเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพบกับขนมและดอกไม้วางไว้บนโต๊ะทำงานเป็นประจำ ซึ่งทุกครั้งธามไทจะขอให้แม่บ้านจัดการกับดอกไม้และขนมพวกนี้ให้เรียบร้อย แต่วันนี้สงสัยแม่บ้านคงลืม ดอกไม้กับขนมจึงยังคงวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา“สาว ๆ นี่คือพวกพี่ ๆ พยาบาลเหรอคะ”“อืม”ได้ยินดังนั้นใบหน้าที่สดใสร่าเริงก่อนหน้านี้ก็บึ้งตึงเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ ร่างเล็กในชุดน่ารักเดินไปนั่งลงบนโซฟา แล้วมองค้อนธามไทที่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจ เมื่ออยู่ ๆ เด็กน้อยของเขาก็หน้าบึ้งอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“ก็หนูไอไม่ชอบ...”ไออุ่นเผลอตอบธามไทที่เลิกคิ้วรอฟังประโยคถัดไปที่พูดค้างไว้ ก่อนที่ใบหน้าบึ้งตึงจะกลายเป็นเลิ่กลั่ก เมื่อเธอเกือบเผลอหลุดปากพูดออกไปว่า ไม่ชอบใจที่สาว ๆ เอาดอกไม้กับขนมมาให้เขา“ไม่ชอบ...หนูไอไม่ชอบอะไรเหรอคะ?”ธามไทถามย้ำเด็กสาวอีกครั้งเมื่อไออุ่นเงียบไป จนเธอต้องยกโกโก้แก้วใหญ่ขึ้นมาดูดเฉไฉไปเรื่อย ทำราวกับว่าก่อนหน้านี้เธอไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นคุณหมอหนุ่ม
เมื่อกลับมาถึงคอนโด คำพูดของลูกพีชก็ยังคงตามกวนใจไออุ่นไม่น้อย เด็กสาวเฝ้าถามตัวเองว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อธามไทนั้นเรียกว่ารักใช่ไหม หรือเธอแค่รู้สึกหวงเขาในฐานะพี่ชายที่แสนดีเท่านั้นแต่เมื่อเธอลองจินตนาการว่าหากมีผู้หญิงมาสารภาพรักกับเฮียไทม์ แล้วเขาตกลงคบกันเธอกลับไม่รู้สึกยินดีด้วยเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็นเพราะว่า...เธอหวงรอยยิ้มของเขาที่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนในวันที่เหนื่อยล้าเธอหวงมือใหญ่ที่แสนอบอุ่นของเขาที่คอยกุมมือเธอในวันที่หลงทางเธอหวงอ้อมกอดของเขาที่คอยโอบกอดเพื่อปลอบโยนในยามเสียใจเธอหวง ๆ ทุกอย่างที่เป็นเขา หวง หวง หวง และหวงจนไม่สามารถทำใจได้ หากวันหนึ่งนั้นมีใครยื้อแย่งสิ่งนั้นไปจากเธอ“หวงโว้ย หวง ได้ยินไหมว่าหวง โคตรหวงเลย”เสียงร้องตะโกนโวยวายของเด็กสาว ทำเอาธามไทที่นั่งอ่านหนังสืออยู่สะดุ้งน้อย ๆ ด้วยความตกใจ เมื่อคนที่อยู่ห้องข้าง ๆ เขาร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดังราวกับว่า กำลังเจอกับเรื่องราวที่ทำให้เธออารมณ์เสียเพราะตั้งแต่ที่เธอย้ายมาอยู่กับเขา ไออุ่นไม่เคยเสียงดังเลยสักครั้ง หรือว่าวันนี้เด็กน้อยของเขาจะเป็นวันนั้นของเดือนกันนะ เขารู้สึกได้ว่าวันนี้ทั้งวันอารมณ์ข
ตุบ“อ๊ะ”ไออุ่นร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่ออยู่ ๆ ธามไทก็ผลักเธอให้นอนราบลงบนเตียงก่อนที่ร่างสูงจะตามลงมาทาบทับร่างบางของเธอเอาไว้ ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกอก เมื่อลมหายใจที่ร้อนผ่าวของคนพี่เป่ารินรดลงบนแก้มเนียนแววตาของเขาในยามนี้ดูจริงจังไร้วี่แววหยอกล้อเหมือนเช่นทุกครั้งใบหน้าของไออุ่นค่อย ๆ ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย แล้วทำใจกล้ามองสบตากับเขาตรง ๆ โดยไม่หลบสายตาเหมือนเช่นที่ผ่านมา แววตาที่ดูจริงจังของเด็กสาวทำให้มุมปากของธามไทยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จนอดสูดดมกลิ่นแป้งเด็กบนแก้มป่องเข้าไปเต็มปอดไม่ได้“นี่พูดจริงหรือล้อเล่น หืม ไม่ใช่แค่แกล้งพูดให้เฮียใจเต้นใช่ไหม”น้ำเสียงกระเส่าดังอยู่ข้างแก้ม ยังไม่เท่าบางสิ่งที่ดุนดันหน้าขาของเธอ จนแก้มเนียนแดงแล้วแดงอีกอย่างเขินอาย“คะ ใครจะกล้าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นกันคะ หนูไอชอบเฮียหนูไอก็ต้องสารภาพสิ เก็บไว้คนเดียวมันอึดอัดจะแย่แล้ว”คำพูดของเด็กสาวที่มาพร้อมแก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อ ทำให้ธามไทอดใจไม่ไหวต้องยื่นจมูกไปหอมแก้มเนียนนั้นฟอดใหญ่ด้วยความชื่นใจฟอด“อ๊ะ ฮะ เฮียจะมาหอมแก้มหนูไอทำไมกันเล่าเฮียบ้า” ต่อว่าคนพี่ด้ว