หลายวันต่อมาเป็นเวลาเกือบหนึ่งเดือนแล้วที่ไออุ่นมาพักอยู่กับธามไท การที่ได้มาอยู่กับเขาทำให้เธอหลงลืมความทุกข์ใจเรื่องทางบ้านไปชั่วขณะโดยไม่ได้หวนคิดถึงเรื่องนั้นแม้แต่น้อย ถึงแม้ว่าเธอจะต้องห่างจากอ้อมอกของบิดา แต่อ้อมกอดของธามไทที่คอยปลอบโยนเธอก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นปลอดภัยอย่างบอกไม่ถูกส่วนธามไทนั้นจากที่เคยใช้ชีวิตแสนเรียบง่าย กลับมีความตื่นเต้นและความวุ่นวายเข้ามาเซอร์ไพรส์เขาไม่เว้นในแต่ละวัน แต่นั่นก็ทำให้เขารู้สึกมีความสุขกับการใช้ชีวิตมากขึ้น เพราะรอยยิ้มของใครบางคนที่มักจะยิ้มให้ด้วยความสดใสอยู่เสมอนั้นเขาได้เห็นมันในทุก ๆ วัน“เฮียบอกกี่ครั้งแล้วว่าให้ค่อย ๆ กิน ดูสิเลอะปากหมดแล้ว”ธามไทดุคนตัวเล็กอย่างไม่จริงจังนัก เมื่อเธอเล่นจิ้มขนมปังลงบนสังขยาใบเตยนมสดพูน ๆ เข้าปากด้วยความเอร็ดอร่อย จนปากเลอะคราบสังขยาไหนจะหกจนไหลรดมืออีกคุณหมอส่ายหัวอย่างเอือมระอาปนเอ็นดูเด็กในปกครอง แต่ก็ยอมเอื้อมมือไปหยิบทิชชูที่วางอยู่ใกล้ ๆ มาเช็ดปากให้ไออุ่นที่นั่งนิ่ง ๆ ให้เขาเช็ดทำความสะอาดให้อย่างว่าง่ายด้วยความเคยชิน“ก็มันอร่อยนี่คะ กินกี่ครั้งก็อร่อยทุกครั้ง ขอบคุณเฮียไทม์มากน้า ที่เลือกร้าน
“ขนมพวกนี้คือ?”“อ้อ ดอกไม้กับขนมของพวกสาว ๆ เขาน่ะ แม่บ้านคงลืมเก็บ”ธามไทบอกไออุ่นอย่างไม่ได้ใส่ใจนัก เพราะเป็นปกติที่เขาจะเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วพบกับขนมและดอกไม้วางไว้บนโต๊ะทำงานเป็นประจำ ซึ่งทุกครั้งธามไทจะขอให้แม่บ้านจัดการกับดอกไม้และขนมพวกนี้ให้เรียบร้อย แต่วันนี้สงสัยแม่บ้านคงลืม ดอกไม้กับขนมจึงยังคงวางอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา“สาว ๆ นี่คือพวกพี่ ๆ พยาบาลเหรอคะ”“อืม”ได้ยินดังนั้นใบหน้าที่สดใสร่าเริงก่อนหน้านี้ก็บึ้งตึงเล็กน้อยอย่างไม่สบอารมณ์ ร่างเล็กในชุดน่ารักเดินไปนั่งลงบนโซฟา แล้วมองค้อนธามไทที่ขมวดคิ้วมุ่นด้วยความแปลกใจ เมื่ออยู่ ๆ เด็กน้อยของเขาก็หน้าบึ้งอย่างไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ“ทำไมทำหน้าแบบนั้น”“ก็หนูไอไม่ชอบ...”ไออุ่นเผลอตอบธามไทที่เลิกคิ้วรอฟังประโยคถัดไปที่พูดค้างไว้ ก่อนที่ใบหน้าบึ้งตึงจะกลายเป็นเลิ่กลั่ก เมื่อเธอเกือบเผลอหลุดปากพูดออกไปว่า ไม่ชอบใจที่สาว ๆ เอาดอกไม้กับขนมมาให้เขา“ไม่ชอบ...หนูไอไม่ชอบอะไรเหรอคะ?”ธามไทถามย้ำเด็กสาวอีกครั้งเมื่อไออุ่นเงียบไป จนเธอต้องยกโกโก้แก้วใหญ่ขึ้นมาดูดเฉไฉไปเรื่อย ทำราวกับว่าก่อนหน้านี้เธอไม่ได้พูดอะไรทั้งนั้นคุณหมอหนุ่ม
เมื่อกลับมาถึงคอนโด คำพูดของลูกพีชก็ยังคงตามกวนใจไออุ่นไม่น้อย เด็กสาวเฝ้าถามตัวเองว่าความรู้สึกที่เธอมีต่อธามไทนั้นเรียกว่ารักใช่ไหม หรือเธอแค่รู้สึกหวงเขาในฐานะพี่ชายที่แสนดีเท่านั้นแต่เมื่อเธอลองจินตนาการว่าหากมีผู้หญิงมาสารภาพรักกับเฮียไทม์ แล้วเขาตกลงคบกันเธอกลับไม่รู้สึกยินดีด้วยเลยแม้แต่น้อย นั่นเป็นเพราะว่า...เธอหวงรอยยิ้มของเขาที่ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยนในวันที่เหนื่อยล้าเธอหวงมือใหญ่ที่แสนอบอุ่นของเขาที่คอยกุมมือเธอในวันที่หลงทางเธอหวงอ้อมกอดของเขาที่คอยโอบกอดเพื่อปลอบโยนในยามเสียใจเธอหวง ๆ ทุกอย่างที่เป็นเขา หวง หวง หวง และหวงจนไม่สามารถทำใจได้ หากวันหนึ่งนั้นมีใครยื้อแย่งสิ่งนั้นไปจากเธอ“หวงโว้ย หวง ได้ยินไหมว่าหวง โคตรหวงเลย”เสียงร้องตะโกนโวยวายของเด็กสาว ทำเอาธามไทที่นั่งอ่านหนังสืออยู่สะดุ้งน้อย ๆ ด้วยความตกใจ เมื่อคนที่อยู่ห้องข้าง ๆ เขาร้องตะโกนขึ้นมาเสียงดังราวกับว่า กำลังเจอกับเรื่องราวที่ทำให้เธออารมณ์เสียเพราะตั้งแต่ที่เธอย้ายมาอยู่กับเขา ไออุ่นไม่เคยเสียงดังเลยสักครั้ง หรือว่าวันนี้เด็กน้อยของเขาจะเป็นวันนั้นของเดือนกันนะ เขารู้สึกได้ว่าวันนี้ทั้งวันอารมณ์ข
ตุบ“อ๊ะ”ไออุ่นร้องขึ้นด้วยความตกใจเมื่ออยู่ ๆ ธามไทก็ผลักเธอให้นอนราบลงบนเตียงก่อนที่ร่างสูงจะตามลงมาทาบทับร่างบางของเธอเอาไว้ ทำเอาหัวใจดวงน้อยเต้นแรงจนแทบกระเด็นออกมานอกอก เมื่อลมหายใจที่ร้อนผ่าวของคนพี่เป่ารินรดลงบนแก้มเนียนแววตาของเขาในยามนี้ดูจริงจังไร้วี่แววหยอกล้อเหมือนเช่นทุกครั้งใบหน้าของไออุ่นค่อย ๆ ขึ้นสีแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย แล้วทำใจกล้ามองสบตากับเขาตรง ๆ โดยไม่หลบสายตาเหมือนเช่นที่ผ่านมา แววตาที่ดูจริงจังของเด็กสาวทำให้มุมปากของธามไทยกยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ จนอดสูดดมกลิ่นแป้งเด็กบนแก้มป่องเข้าไปเต็มปอดไม่ได้“นี่พูดจริงหรือล้อเล่น หืม ไม่ใช่แค่แกล้งพูดให้เฮียใจเต้นใช่ไหม”น้ำเสียงกระเส่าดังอยู่ข้างแก้ม ยังไม่เท่าบางสิ่งที่ดุนดันหน้าขาของเธอ จนแก้มเนียนแดงแล้วแดงอีกอย่างเขินอาย“คะ ใครจะกล้าเอาเรื่องแบบนี้มาล้อเล่นกันคะ หนูไอชอบเฮียหนูไอก็ต้องสารภาพสิ เก็บไว้คนเดียวมันอึดอัดจะแย่แล้ว”คำพูดของเด็กสาวที่มาพร้อมแก้มเนียนขึ้นสีระเรื่อ ทำให้ธามไทอดใจไม่ไหวต้องยื่นจมูกไปหอมแก้มเนียนนั้นฟอดใหญ่ด้วยความชื่นใจฟอด“อ๊ะ ฮะ เฮียจะมาหอมแก้มหนูไอทำไมกันเล่าเฮียบ้า” ต่อว่าคนพี่ด้ว
“อ๊า อื้อ หนูเจ็บ”ไออุ่นกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด เมื่อความใหญ่โตกระแทกเข้ามาจนสุดลำ ส่งผลให้ช่องทางรักฉีกขาดอีกครั้ง หยดเลือดสีแดงค่อย ๆ ไหลออกมาชโลมความใหญ่โตของธามไทจนชุ่มฉ่ำหยดน้ำตาไหลกลิ้งลงมาบนพวงแก้มแดงก่ำ จนคนพี่ต้องหยุดขยับชั่วครู่ แล้วเบี่ยงเบนความสนใจลดระดับจากจูบร้อนแรง กลายเป็นจูบที่อ่อนหวานและลึกซึ้งจนคนตัวเล็กค่อย ๆ คล้อยตามทีละนิดถึงแม้ส่วนที่บอบบางจะเจ็บปวดจนแทบทนไม่ไหว แต่ความอ่อนโยนที่ได้รับจากแฟนหนุ่มก็ทำให้ความกลัวค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นผ่อนคลายลงริมฝีปากจิ้มลิ้มพยายามจูบตอบพี่เขาอย่างไร้เดียงสา ธามไทค่อย ๆ ขยับตัวช้า ๆ เพื่อให้เธอได้ปรับตัวกับขนาดใหญ่โตของเขา ซึ่งทุกครั้งที่เขาขยับร่องรักของเธอก็ยิ่งตอดรัดเขาแน่นมากขึ้นเท่านั้นริมฝีปากร้อนผ่าวผละจูบออกอย่างอ้อยอิ่ง แลกลมหายใจกันชั่วครู่คนพี่ก็เลื่อนใบหน้าลงมาซุกไซ้ที่ซอกคอหอมกรุ่นแทนแล้วไม่รู้ว่าเขาเสพติดกลิ่นหอมของเด็กสาวมากขนาดไหน แต่ก็อยากดมอยากสัมผัสอยู่ร่ำไปให้พอชื่นใจเท่านั้น ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงต่ำ เคลื่อนหาอกอวบที่ทั้งขาวทั้งใหญ่ถูกใจ ไหนจะยอดปทุมถันสีชมพูที่ชูชันรอคอยการสัมผัส“หนูไอขา หายเจ็บหรือยังคะเด็
เช้าวันต่อมาเสียงนาฬิกาปลุกที่ดังอยู่บนหัวเตียง ทำให้ธามไทที่กำลังนอนหลับสบายรู้สึกตัวตื่นก่อน มือหนารีบคว้าโทรศัพท์มาปิดเสียงด้วยความรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เสียงดังรบกวนแฟนเด็กที่กำลังนอนหลับซบอยู่บนอกแกร่งใบหน้าเนียนใสไร้เครื่องสำอางในยามหลับนั้นช่างไร้เดียงสา จนคนเพิ่งเคยมีแฟนอดใจไม่ไหวก้มหน้าลงไปสัมผัสแก้มหอมอย่างชื่นใจเพราะแรงสัมผัสที่แม้ว่าจะแผ่วเบาและอ่อนโยน แต่กลับทำให้เปลือกตาของไออุ่นขยับยุกยิกแล้วค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้น เป็นจังหวะเดียวกันกับที่ธามไทรีบปิดตาลงเพื่อแกล้งหลับ ด้วยอยากรู้ว่าเด็กสาวจะทำอย่างไรเมื่อตื่นขึ้นมาในอ้อมกอดของเขา“หล่อจัง”เสียงหวานเอ่ยชมแฟนหนุ่มทันทีที่ลืมตาตื่น ทำเอาคนที่แกล้งหลับเกือบหลุดยิ้มออกมาด้วยความดีใจ แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็พยายามตีเนียนแกล้งหลับต่อไปเพื่อไม่ให้เธอจับได้มือบางค่อย ๆ ยกขึ้นลูบใบหน้าของธามไทอย่างเบามือ รอยยิ้มสวยค่อย ๆ เผยออกมาทีละนิดอย่างมีความสุขกับความรักครั้งแรก และผู้ชายคนแรกในชีวิตที่ครั้งนี้เธอยินยอมเป็นของเขาด้วยความเต็มใจ“หนูไอรักเฮียไทม์นะคะ”ไออุ่นสารภาพความรู้สึกในใจของเธอให้เขาได้ฟังอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้คนที่แกล้งหลับท
ตู๊ด ตู๊ด ตู๊ด“มาทำงานเดี๋ยวนี้นะไอ้เด็กเวร”ทันทีที่ปลายสายกดรับโทรศัพท์ เสียงตะโกนด่าก็ดังเข้ามาในสายจนธามไทดึงโทรศัพท์ออกจากหูแทบไม่ทัน ก่อนที่เสียงปลายสายจะเงียบไปถึงได้เอาโทรศัพท์แนบหูอีกครั้ง“บอกว่ามาทำงานไม่ได้ยินหรือไงไอ้หลานเวร”ลูกไม้ตื้น ๆ ของธามไทไม่สามารถหลอกท่านประธานโรงพยาบาล N ที่เป็นถึงมาเฟียใหญ่ได้เลยสักนิด คนเป็นหลานถอนหายใจออกมาเบา ๆ เมื่อตาลุงกฤษฎิ์เริ่มสวดเขาไม่หยุด แต่คุณหมอก็น้อมรับผิดด้วยการไม่เอาโทรศัพท์ออกห่างจากหูยอมฟังคำบ่นแต่โดยดี“เลิกบ่นได้แล้วครับ ยังไม่แก่สักหน่อย ทำบ่นเป็นตาแก่ไปได้อะลุง น่ารำคาญชะมัดยาด”กฤษฎิ์ที่กำลังอ่านเอกสารสำคัญอยู่ฟังแล้วก็ต้องพยายามระงับโทสะที่กำลังพุ่งขึ้น เมื่อเจ้าหลานชายตัวดีไม่ยอมโทรมาลางาน และยังไม่ยอมรับสายเขาที่พยายามโทรหาหลายสายอีกนี่ถ้าอยู่ต่อหน้านะพ่อจะหยุมหัวให้ดู โตแล้วแต่ยังทำตัวเหมือนเด็กที่ตื่นสายไม่มีผิด อ้อ ไม่ใช่สิ เพราะติดเมียต่างหาก“หุบปากไปเลยนะไอ้หมอปากหมา นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว ฉันโทรหาแกตั้งหลายสายแต่แกไม่ยอมรับสายฉันเลย นี่ขนาดเพิ่งคบกันนะ ถ้าแต่งงานกันไปแกไม่ลางานมันอาทิตย์ละสามวันเลยหรือยังไง”
ร้านอาหารญี่ปุ่น“อ้าว คุณหมอธามไทบังเอิญจังเลยนะคะ”ปัณณ์ทิชาคุณหมอสาวแผนกสูตินรีเวช เอ่ยทักทายเพื่อนร่วมงานคนหล่อด้วยรอยยิ้มอย่างดีใจ เมื่อเธอบังเอิญเจอเขาที่ร้านอาหารญี่ปุ่น ทว่ารอยยิ้มของคุณหมอสาวค่อย ๆ จางหายไป เมื่อข้างกายของธามไทที่เคยว่างเปล่ากลับมีสาวน้อยหน้าตาน่ารักยืนกุมมืออยู่เคียงข้างกัน“ครับ”ธามไททำแค่เพียงตอบรับคำพูดของคุณหมอสาวเท่านั้น ด้วยไม่ได้สนิทสนมกับปัณณ์ทิชาถึงขั้นที่ต้องเอ่ยประโยคยาว ๆ เพื่อทักทายเธอขนาดนั้น ถึงแม้เขาจะรับรู้มาตลอดว่าคุณหมอสาวที่กำลังส่งยิ้มให้แอบชอบเขาอยู่ก็ตาม“วันนี้คุณหมอเข้าเวรไม่ใช่เหรอคะ แล้วทำไมถึงได้พาเอ่อ...น้องสาวมาทานอาหารที่นี่ได้คะเนี่ย”เพราะไม่รู้ว่าความสัมพันธ์ของทั้งคู่นั้นอยู่ในสถานะใด ปัณณ์ทิชาจึงคิดเข้าข้างตัวเองเอาไว้ก่อนว่า เด็กสาวหน้าตาน่ารักจิ้มลิ้มคนนี้น่าจะเป็นน้องสาวของหมอธามไท เพราะเขานั้นอายุไม่ใช่น้อย ๆ แล้วคงไม่น่าจะคบกับเด็กอายุน้อยกว่าหรอก“พอดีวันนี้ผมขอลางานพาแฟนมาเดตน่ะครับ”คำพูดที่ชัดเจนนั้นทำให้ปัณณ์ทิชาหน้าเจื่อนไปเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะมองไปยังไออุ่นที่ส่งยิ้มมาให้เธออย่างเป็นมิตร แต่แล้วเธอก็ต้องหุบยิ้