บทที่ 73 อันดับที่หนึ่งมหาวิทยาลัยปักกิ่ง / พอร์ช 911ท้องฟ้าสีครามสดใส อากาศเย็นสบาย แสงแดดยามเช้าสาดส่องผ่านหน้าต่างห้องนอน สะท้อนให้เห็นรอยยิ้มอันเปี่ยมสุขบนใบหน้าของเซี่ยชิงโม่ เธอรู้สึกตื่นเต้นและดีใจอย่างบอกไม่ถูก เมื่อสองเดือนก่อน เธอและหวังตงได้พาครอบครัวไปท่องเที่ยวที่ยุโรป เป็นการท่องเที่ยวที่เต็มไปด้วยความประทับใจแต่สิ่งที่ทำให้เธอประทับใจที่สุด ไม่ใช่สถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงาม แต่เป็นของขวัญล้ำค่าที่เธอได้รับมาตอนนี้ต่างหากเธอตั้งครรภ์แล้ว เธอรู้ข่าวดีนี้หลังจากกลับจากทริปทันทีที่เธอทดสอบการตั้งครรภ์ สองขีดสีแดงปรากฏขึ้นบนแท่งทดสอบ โลกทั้งใบของเธอก็เหมือนหยุดหมุนเธอรู้สึกเหมือนฝันไป เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะมีลูก แต่เธอก็รู้สึกดีใจเธอดีใจที่เธอจะได้เป็นแม่ เธอดีใจที่เธอจะได้สร้างครอบครัวที่สมบูรณ์แบบกับเฉินหวังตงเธอรีบโทรไปบอกเฉินหวังตง เขาดีใจไม่แพ้เธอ เช้าวันนี้เซี่ยชิงโม่ตื่นนอนด้วยความสดชื่นเธอรู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายเธอรู้สึกถึงชีวิตน้อยๆ ที่กำลังเติบโตขึ้นภายในท้องของเธอยิ้มเธอรู้ว่า ชีวิตของเธอจะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแต่มันจะเป็นชีวิตที่เต็มไปด้วยคว
บทที่ 74 หยางชิงเย่วท้องฟ้ายามเช้าสาดแสงสีส้มอ่อนลงบนเมืองหลวงปักกิ่ง ท่ามกลางความวุ่นวายของผู้คน เด็กน้อยร่างผอมบางคนหนึ่งนอนขดตัวอยู่ใต้สะพานลอย ‘เขา’ สกปรกมอมแมม เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบดินและคราบน้ำตาหยางชินเย่วหนีออกมาจากแก๊งค้ามนุษย์ที่ ‘เขา’ ถูกลุงและป้าของ‘เขา’แอบขายเขาให้พวกมันโดยบอกเขาว่าคนกลุ่มนั้นจะพา 'เขา' ไปพบกับพี่สาวของ ‘เขา’ ถ้ามากับพวกเขา เขาต้องการที่จะตามหาพี่สาวมานานแล้วด้วยความไว้ใจลุงและป้าจึงได้ตามคนกลุ่มนี้มาแต่ที่ ‘เขา’ ผิดสังเกตก็คือ มีเด็กมากมายที่พวกเขาพามาด้วยบางคนถูกตีบางคนถูกมัดก็มี ทำให้เด็กน้อยแอบฟังเวลาที่พวกเขาคุยกันและรู้ว่านี้เป็นแก๊งที่จับคนมาขายไม่ใช่คนที่จะพาไปหาพี่สาว เด็กน้อยหวาดกลัวมาก แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเป็นที่สังเกตจนกระทั่งพวกเขาพามาถึงเมืองปักกิ่งเมื่อได้โอกาสเธอจึงได้หลบหนีออกมาเด็กน้อยเร่รอนอยู่หลายวันและพยายามหางานทำ และในที่สุดก็ได้งานเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านอาหารที่ขายเป็ดปักกิ่ง แต่ทำงานได้ 3 วันก็ต้องถูกไล่ออกเพราะมีอันธพาลมาหาเรื่องที่ร้าน ถึงแม้จะมีคนมาช่วย แต่เถ้าแก่ก็ไม่พอใจ ‘เขา’ และหลังจากนั้น 2 วันก็ไล่เขาออกมา
บทที่ 75 น้องสาว“เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นแบบนี้ละค่ะท่านนายพล”หยางชิงเย่วเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ท่านนายพลเย่เฉินฟัง รวมถึงเหตุผลที่เธอต้องปลอมตัวเป็นเด็กผู้ชายเพื่อความปลอดภัย นายพลเย่เฉินมองเธอด้วยความทึ่ง คิดในใจว่าเด็กคนนี้ช่างฉลาดเฉลียวเหมือนใครคนนั้นเลย“แล้วพี่สาวของเสี่ยวเย่วชื่ออะไรที่ตามหาอยู่” ท่านนายพลหันไปมองภรรยาที่รักของตนเอง ก่อนจะมองหน้าเจ้าเด็กน้อยหยางชิงเย่ว และตั้งคำถามพร้อมกับคาดเดาคำตอบในใจ“พี่สาวชื่อหยางชิงโม่ค่ะ พี่สาวถูกส่งตัวไปใช้แรงงานแทนลูกชายของคุณลุง ตอนนั้นพี่สาวไม่อยากไป แต่คุณลุงคุณป้าบอกว่าเพื่อตอบแทนบุญคุณที่พวกเขาเลี้ยงดูพวกเรา พวกเขาบอกกับพี่สาวของฉันว่าจะดูแลฉันเป็นอย่างดี และจะส่งฉันเรียนหนังสือถ้าพี่สาวไปแทนลูกชายคุณลุง” หยางชิงเย่วเอ่ยขึ้น น้ำเสียงสั่นเครือด้วยความเศร้า“แต่พอพี่สาวถูกส่งตัวไปไม่นาน พวกเขาก็ให้ฉันออกจากโรงเรียน บอกว่าผู้หญิงไม่ต้องเรียนหนังสือเยอะก็ได้” เสียงของเธอแผ่วเบาลง และแล้วน้ำตาเม็ดโตก็ไหลลงมา“ฮือฮือฮือ!!!...ฉันเพียงอยากจะเจอพี่สาวของฉันอีกครั้งเท่านั้นเอง ใครจะรู้ว่าพวกเขาถึงกับขายฉันให้กับแก๊งค้ามนุษย์” เธอร้องไห้
บทที่ 76 ปฎิบัติการทะลายแก๊งค้ามนุษย์จากฮ่องกงสู่จีนแผ่นดินใหญ่เซียวจ้านคือหัวหน้าแก๊งธุรกิจผิดกฎหมายหลายอย่างเช่น การพนันผิดกฎหมาย การฟอกเงิน ตั้งแก๊งรีดไถ เซียวจ้านถูกทางการขนานนามเจ้าพ่อธุรกิจสีเทาและเหตุการณ์ล่าสุดคือการต่อสู้แย่งชิงอำนาจในวงการมาเฟีย เขามีส่วนร่วมในการฆาตกรรมคนในครอบครัว และถูกตำรวจฮ่องกงตามไล่ล่า อย่างหนักจึงหนีมาที่จีนแผ่นดินใหญ่ เริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยความโหดเหี้ยม ไร้ความปรานี เขาก่อตั้งแก๊งค้ามนุษย์ข้ามชาติ เติบโตอย่างรวดเร็ว กลายเป็นจักรพรรดิในโลกมืดเส้นทางสู่จักรพรรดิของเซียวจ้าน เขาสร้างเครือข่ายอันกว้างใหญ่ ติดต่อแก๊งค้ามนุษย์ในฮ่องกงและมาเก๊า ใช้เส้นสายในดินบนฟ้า ลักลอบนำคนจากทั่วทุกมุมโลก มาขายเป็นสินค้าเขาใช้วิธีการโหดเหี้ยม บังคับขู่เข็ญ หลอกลวงล่อลวงเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายตกเป็นทาสในเงื้อมมือของเขาเซียวจ้านสั่งสมอำนาจเงินทองและอิทธิพลธุรกิจของเขาเฟื่องฟูร่ำรวยมหาศาลเขามีลูกน้องมากมายที่ต่างหวาดกลัวในความโหดเหี้ยมเขาสร้างภาพลักษณ์เป็นนักธุรกิจผู้ประสบความสำเร็จ ปกปิดความชั่วร้ายของเขาเบื้องหลังความร่ำรวย คือด้านมืดที่โหดร้ายเซียวจ้านฆ่าคนโดยไม่กะพริบ
บทที่ 77 ความจำภาพถ่าย photographic memory ผ่านเหตุการณ์กวาดล้างแก๊งค้ามนุษย์ของเซียวจ้านมา 3 เดือนแล้วตอนนี้ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาสู่ปรกติอีกครั้ง เซี่ยชิงโม่ที่ตอนนี้ท้องได้ 6 เดือนแล้ว แต่เธอยังคงไปทำงานที่โรงพยาบาลเป็นปรกติส่วนนายพลเฉินหวังตง และนายพลเย่เฉินหลังจากเหตุการณ์นั้นพวกเขาก็ได้รับคำชมเชยมากมายจากท่านผู้นำ พ่อแม่ครอบครัวที่ได้รับลูกหลานกลับสู้อ้อมกอดอีกครั้งต่างพากันขอบพวกเขาจากใจจริงหยางชิงเยว กำลังเรียนพิเศษอย่างขะมักเขม้นกับครูที่เซี่ยชิงโม่จ้างมาสอนเธอกำลังเรียนภาษาฝรั่งเศสที่บ้าน เมื่อเซี่ยชิงโม่เข้าไปดูการเรียนการสอน เธอถึงกับประหลาดใจเป็นอย่างมาก เพราะหยางชิงเยวสามารถทักทายเธอเป็นภาษาฝรั่งเศส ภาษาอังกฤษ และภาษาเยอรมันพร้อมกันทั้ง 3 ภาษา และยังบอกเซี่ยชิงโม่ว่าเธอชื่นชอบการเรียนภาษาต่างประเทศเหล่านี้กับครูท่านนี้มาก ทำให้ครูชาวฝรั่งถึงกับยิ้มแก้มปริเลยทีเดียว เพราะเป็นที่รู้กันว่าคุณหมอเซี่ยชิงโม่เป็นคนที่ใจคอกว้างขวางมาก ถ้าเธอพอใจรางวัลที่ให้มาก็มากตามไปด้วย และเย็นนั้นเขาก็กลับบ้านพร้อมกับไวน์แดง แฮมและชีสก้อนใหญ่รวมทั้งเงินหยวนที่เป็นรางวัลพิเศษอีกจำนวนไม่น้อย
บทที่ 78 แก๊งบอยแบนด์ขอคำปรึกษา“อะไรนะอาแป๊ะเฟิงมาปักกิ่ง และมาขอเข้าพบฉันหรือคะ” เซี่ยชิงโม่ที่เพิ่งจะให้นมเจ้าสองแฝดน้อยเสร็จ ถามขึ้นมาเมื่อคุณแม่เฉินเดินเข้ามาบอกเธอว่าอาแป๊ะเฟิงและเพื่อนๆ มาขอพบเธอที่เรือนสี่ประสาน ตอนนี้เซี่ยชิงโม่ได้ขอลาพักราชการเพราะเธอเพิ่งจะคลอดลูก เธอจึงขอหยุดเพื่อเลี้ยงดูลูกอยู่ที่บ้าน ซึ่งกรณีของเธอนั้นตอนนี้เธอได้เป็นอาจารย์ที่สอนแพทย์ที่จบใหม่ไปแล้ว ถ้าไม่มีกรณีที่ยากจริงๆ เธอจะไม่เข้าไปที่โรงพยาบาล“มีอะไรหรือเปล่านะ” เธอพึมพำกับตัวเอง เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังกึกก้องสะท้อนไปทั่วเรือนสี่ประสาน ประตูเรือนสี่ประสานของเธอบานออก เผยให้เห็นขบวนชายหนุ่มในสูทสีดำสนิท คอเสื้อประดับผ้าขาว เดินเรียงรายเข้ามา ประหนึ่งบอยแบนด์เวอร์ชั่นคุณลุง สมาชิกในแก๊งประกอบด้วย อาแป๊ะเฟิงเฉียง หล่อเนี้ยบ สมาร์ท สมกับเป็นหัวหน้าแก๊งอาแป๊ะฟงหลิ่ง ก้าวตามมา ท่าทางสง่างาม รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ระบายบนใบหน้าอาแป๊ะต้าหลิ่ง เยื้องย่างมาอย่างมั่นใจ ดวงตาเป็นประกาย ฉายแววเจ้าชู้อาแป๊ะเหวินฟู่ เดินมาแบบเนิบๆ แต่แฝงไปด้วยความน่าเกรงขาม อาแป๊ะฉินอวิ๋น ยิ้มหวานละมุนละไม ละลายหัวใจสาวๆอาแป๊ะห
บทที่ 79 ลาออกจากกองทัพ ผ่านปีใหม่ 1988 มา 3 เดือนแล้วดูเหมือนชีวิตของเซี่ยชิงโม่จะดำเนินไปด้วยความสงบ แต่ในความเป็นจริงนั้นตอนนี้เธอกำลังเครียดเคร่งอยู่ เพราะในกระดาษโพยใบนั้นระบุว่าในปีหน้าจะเกิด เหตุการณ์การประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน ซึ่งจะเกิดขึ้นใน เดือนเมษายน ถึง มิถุนายน ของปี 1989 อีกหนึ่งปีข้างหน้า การประท้วงเริ่มต้นขึ้นในวันที่ 15 เมษายน 1989 โดยนักศึกษาและประชาชนเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย เสรีภาพ และต่อต้านการคอรัปชั่น การประท้วงดำเนินไปเป็นเวลานานกว่า 1 เดือน และมีผู้เข้าร่วมหลายแสนคนในวันที่ 4 มิถุนายน 1989 รัฐบาลจีนได้ส่งกองทัพเข้าปราบปรามผู้ประท้วง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยถึงหลายพันคน เหตุการณ์การประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมิน เป็นหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญในประวัติศาสตร์จีน และยังคงเป็นประเด็นถกเถียงกันแม้แต่ในยุคก่อนที่เธอจะจากมาในการประท้วงครั้งนี้เธอไม่ต้องการให้สามีของเธอและพ่อบุญธรรมเข้าไปมีส่วนร่วมในการปราบปรามนักศึกษาเหล่านั้น แต่เธอก็รู้ว่าด้วยหน้าที่ของนายพลพวกเขาคงยากที่จะหลีกเลี่ยงไม่ปฏิบัติตามคำสั่งได้ เธอกำลังเครียดหาทางว่าจะทำอย่างไร เธอมีเวลาเพียง
บทที่ 80 โรงพยาบาลเอกชนที่ทันสมัยที่สุดในปักกิ่ง(ศูนย์รวมแพทย์เทพแห่งปักกิ่ง)เสียงแตรรถดังระงมผู้คนต่างรีบเร่งไปทำงานบนถนนสายหลักของกรุงปักกิ่งเต็มไปด้วยรถจักรยานและรถยนต์เก่า ๆ ท่ามกลางความคึกคักนั้น มีตึกสูงเด่นเป็นสง่า ต่างจากตึกอื่น ๆ ในบริเวณนั้น ที่นี่คือ ‘โรงพยาบาลเอกชนเซี่ยเฉิน Xie Chen Hospital and Care’ โรงพยาบาลเอกชนที่ทันสมัยที่สุดในปักกิ่งหลายเดือนที่ผ่านมาตั้งแต่โรงพยาบาล ‘โรงพยาบาลเอกชนเซี่ยเฉิน Xie Chen Hospital and Care’ ได้เปิดทำการรักษาให้คนปักกิ่งนั้นได้เห็นศักยภาพของคุณหมอเซี่ยชิงโม่ลูกสาวคนเล็กของนายพลเซี่ยจงอย่างแท้จริง พวกเขาสามารถพูดได้เต็มปากว่า คนไข้ที่ผ่านมือเธอไม่ว่าอาการจะหนักหนาสาหัสแค่ไหน ถ้าถึงมือคุณหมอชิงโม่ โอกาสที่จะรอดคือ 99% เลยทีเดียว และอีกอย่างทีมหมอที่เธอสร้างขึ้นมานั้น สามารถใช้คำว่า ‘รวมทีมหมอเทพแห่งปักกิ่ง’ เลยก็ว่าได้ เพราะได้รับการฝึกสอนแบบเข้มงวดสุดๆ จากเธอ และเครื่องไม้เครื่องมือที่ทันสมัยที่สุด (เธอนำออกมาจากแหวนมิติทั้งหมด)โรงพยาบาลเซี่ยเฉิน เมื่อคนไข้พูดปากต่อปากถึงความเก่งกาจของคุณหมอเซี่ยชิงโม่ ได้กลายมาเป็นโรงพยาบาลหมอเทวดา เ
บทส่งท้าย ส่งต่อแหวนมิติ2 วันต่อมาคู่สามีภรรยาหลังจากที่พากันไปจดทะเบียนเรียบร้อยแล้ว พวกเขาจึงขับรถไปที่บริเวณที่เป็นเรือนสี่ประสานที่พวกเขาเคยอยู่ตั้งแต่ในยุค 70 เมื่อขับรถผ่านและจอดมอง พวกเขาเห็นเรือนสี่ประสานที่ยังคงงดงามและมีมนต์เสน่ห์เช่นเดิม นั้นสามารถบอกได้ว่าลูกๆ หลานๆ ของพวกเขานั้นดูแลเรือนหลังนี้เอาไว้อย่างดี พวกเขาจอดรถและเฝ้ามองอยู่ที่ประตูตั้งแต่เช้าไม่นานก็เห็นรถโรลส-รอยซ์สีขาวคันใหญ่ค่อยๆ ขับออกมาขณะที่รถคันนั้นกำลังจะขับผ่านพวกเขาไป รถโรลส-รอยซ์คันนั้นก็หยุดกะทันหันเพียงไม่นานประตูก็เปิดออก คนที่ออกมาจากประตูรถเป็นเด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่แต่งกายเหมือนชุดอนุบาลเรียบร้อย เธอเปิดประตูออกมาแล้วรีบวิ่งกลับไปที่ประตูบ้านทันที ประตูเรือนสี่ประสานยังไม่ทันได้ปิดก็มีร่างสูงของชายหนุ่มคนหนึ่งรีบวิ่งมาในมือของเขานั้นมีกล่องเล็กอยู่ 2 สอง ดูเหมือนว่าจะเป็นกล่องข้าว เขายื่นกล่องข้าวใบเล็กนั้นให้กับเจ้าเด็กน้อยจากนั้นก็เดินจูงเธอมาและเปิดประตูรถให้เธอเมื่อเสร็จก็ยกมือขึ้นบ๊ายบาย 2-3 ครั้งก่อนจะปิดประตู และยืนมองจนกระทั่งรถคนนั้นหายไปจากสายตา เขากำลังจะกลับเข้าไปที่บ้านแต่เหมือนว่าเขา
บทที่ 103 จากฮีโร่สู้ผู้ร้ายเช้าวันต่อต่อมาเกิดข่าวใหญ่ที่สะเทือนเมืองหลวงปักกิ่งขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อหยวนเปียวน้องของภรรยารองของท่านผู้นำ จากที่เมื่อไม่กี่วันก่อนเขาคือฮีโร่ที่เข้าช่วยเหลือท่านผู้นำจนตัวเองได้รับบาดเจ็บอาการเป็นตายเท่ากัน มาวันนี้อาการของเขากลับมาดีขึ้นมาเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาเลย และที่ทำให้ตกใจมากกว่าเดิมนั้นก็คือ เขาขอให้ทางหมอและพยาบาลช่วยอัดคลิปให้ ตอนแรกพวกหมอและพยาบาลนึกว่าเขาจะอัดคลิปเพื่อบอกให้คนที่เป็นห่วงเขาไม่ต้องห่วงเขาสบายดี แต่ที่ไหนได้คลิปที่เขาอัดกลับกลายเป็นการสารภาพความผิดทั้งหมดที่เขาเคยทำมา รวมทั้งการวางแผนกับพี่สาวของตัวเองซึ่งก็คือภรรยารองของท่านผู้นำเพื่อที่จะสังหารเขานั้นเอง และยังได้บอกอีกว่าพวกเขาคือ ผู้ร้ายข้ามชาติที่แฝงตัวอยู่ในประเทศนานแล้ว และรอเพียงเวลาที่จะลงมือสังหารท่านผู้นำนั้นเองเมื่อคลิปการสารภาพของเขากระจายออกไป ทำให้เกิดคลื่นใหญ่ขึ้นในสังคมทันที เหล่าผู้รักษาความปลอดภัยต่างก็รีบเข้าเพื่ออารักขาท่านผู้นำและพวกเขาได้รวบตัวของภรรยารองของท่านผู้นำเอาไว้เพื่อสอบสวนต่อไป ถึงแม้ว่าเธอจะปฎิเสธทุกข้อหาที่น้องชายของเธอพูดก็ตาม ตอ
บทที่ 102ความทรงจำที่หวนคืนเมื่อหยางชิงโม่ออกจากห้องของเฉินหวังตงได้ เธอก็รีบยกหูโทรหาน้องสาวจางหมี่ของเธอทันที“พี่หมอให้หยดน้ำทิพย์ไปเขากินหรือคะ” จางหมี่เอ่ยถามมาตามสาย“ใช่แล้วน้องหมี่ พี่ก็เลยจะถามน้องว่าน้ำทิพย์จะมีผลต่อความทรงจำของเขาหรือไม่นะสิ”หยางชิงโม่เอ่ยออกมาเธอออกจะเป็นกังวลเล็กน้อย“มีผลค่ะ นั้นคือหากว่าเขาสูญเสียความทรงจำไปจริงๆ เขาก็จะกลับมาจำได้อย่างแน่นอน แต่หากว่าเขาไม่มีความทรงจำนั้นอยู่แล้ว น้ำทิพย์ก็เพียงจะทำให้เขาเฉลียวฉลาดมากขึ้นเท่านั้นเอง”จางหมี่บอกคุณสมบัติของน้ำทิพย์สวรรค์ของเธอให้กับพี่หมอหยางชิงโม่ไป ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว เธอไม่จำเป็นต้องใช้น้ำทิพย์เพื่อกระตุ้นความทรงจำเขาเลยด้วยซ้ำ เพราะอีกไม่นานเขาก็จะจำเธอได้แล้ว แต่ว่าแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน พวกเขาจะได้ไม่เสียเวลาดีๆ ในชีวิตไป จางหมี่คิด“เช่นนั้นแสดงว่าหากเขาเป็นเฉินหวังตงของพี่จริงๆ เขาก็จะจำพี่ได้แล้วใช่หรือไม่?"หยางชิงโม่ยังต้องการคำตอบเพื่อความแน่ใจ“ใช่แล้วค่ะ เขาจะจำพี่ได้แน่นอน ที่นี่ก็ขึ้นอยู่กับพี่หมอแล้วว่าจะตัดสินใจอย่างไร แต่ฉันก็อยากจะบอกพี่หมอเหมือนกันว่า คู่ชีวิตที่ดีนั้นหาไม่ได้ง่ายน
บทที่ 101 เป็นแฟนกันเถอะนะครับหยางชิงโม่ที่อยู่ในชุดกาวน์ของแพทย์ยืนมองดูร่างของคนไข้ที่ตอนนี้มีสายระโยงระยางเพื่อพยุงชีวิตเขาเต็มไปหมด หมอที่มาตรวจดูอาการของเขาต่างก็ตกอยู่ในอาการงวยงง กันมาก เพราะว่าแผลของเขาที่รับนั้นมันเล็กมาก ไม่ถึง10 เซนติเมตรด้วยซ้ำแต่ว่าอาการของเขานั้นมีหลายครั้งที่ถึงกลับมีอาการหัวใจล้มเหลว พวกเขาต่างพยายามเต็มที่ที่จะช่วยชีวิตของคนไข้รายสำคัญคนนี้ของท่านผู้นำเอาไว้ เพราะแน่นอนว่าพวกเขาทุกคนต่างก็ได้รับข่าวสารเรื่องการที่เขาเป็นผู้ช่วยเหลือท่านผู้นำเอาไว้จากผู้ร้ายหยางชิงโม่นั้นก่อนที่จะมาที่นี่เธอได้โทรหาน้องสาวจางหมี่แล้ว โดยถามว่ายาที่เธอให้มานั้นจะเกิดอาการอย่างไรกับคนที่โดนซึ่งจางหมี่ก็ได้บอกรายละเอียดมาจนครบและเด็กสาวคนนั้นยังบอกอีกว่าหากจะรักษาให้หายเพียงให้หยดน้ำทิพย์เข้าปากเพียง1หยดเท่านั้นเอง และหากว่าอยากจะให้คนร้ายสารภาพและซัดทอดไปถึงผู้บงการจำเป็นต้องมียาอีกตัวที่จะทำให้ประสาทของคนไข้หลอนและสารภาพออกมาเอง โดยการที่เขาจะสารภาพนั้นอาจจะใช้เวลา 1 หรือ 2 วันหลังจากที่เขาอาการดีขึ้น โดยที่พวกเธอไม่ต้องทำอะไร และแน่นอนว่าตอนนี้ยาเม็ดนั้นอยู่ในมือของเ
บทที่ 100 ข่าวเด่นประเด็นร้อนเมื่อเหตุการณ์สงบลงเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาจับกุมตัวของคนร้ายและรถพยาบาลได้นำตัวของหยวนเปียวผู้ที่ได้เข้ามาช่วยท่านผู้นำไปส่งโรงพยาบาล ทุกอย่างก็เริ่มคลี่คลาย ท่านผู้นำเดินมาหาหมอหยางชิงโม่ที่ตอนนี้กำลังยืนอยู่และมือของเธอข้างหนึ่งก็ถูกเฉินหวังตรงจับเอาไว้แน่น“ผมต้องขอโทษคุณหมอด้วยนะครับที่การมาทานอาหารครั้งนี้ทำให้คุณหมอตกอกตกใจขนาดนี้ ไม่นึกจริงๆ การรักษาความปลอดภัยของผมจะหละหลวมขนาดนี้ ผมคงต้องกลับไปจัดการใหม่อีกครั้งแล้วล่ะ” ท่านผู้นำกล่าวขึ้นมา“ไม่เป็นไรค่ะ มันเป็นเหตุสุดวิสัย พวกเราไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว” หยางชิงโม่พูดขึ้นมา“คุณหมอหยางคะ เป็นอย่างไรบ้างคะ ฉันกลัวมากเลยค่ะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นมาและร่างของเธอก็ถูกกอดเอาไว้จากด้านหลัง และมือที่ถูกเฉินหวังตงจับเอาไว้แน่นนั้นก็ถูกดึงออก จากมือใหญ่แข็งแรงและมีมือเล็กขาวนวลนั้นก็มาจับเอาไว้แทนเฉินหวังตงรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยที่เจ้าบ้าหรูอี้มาแย่ง ‘แฟน’ ของเขาไปและมันยังพัฒนาถึงขั้นกอด ‘แฟน’ ของเขาอีกหยางชิงโม่ที่ถูกกอดจากด้านหลังก็ตกใจเล็กน้อย แต่เมื่อตั้งสติได้เธอก็ยกมือขึ้นมาลูบมือของจ้าวหรูอี้แล้วปล
บทที่ 99 ดินเนอร์กับท่านผู้นำประเทศ ep 2 เมื่ออาหารถูกเสิร์ฟบนโต๊ะ หยางชิงโม่และท่านผู้นำและไม้ประดับคู่นั้นก็เริ่มทานอาหาร บรรยากาศระหว่างมื้ออาหารเต็มไปด้วยความอบอุ่น ท่านผู้นำเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้เธอฟัง หยางชิงโม่รู้สึกประทับใจกับความรู้และประสบการณ์ของเขามากจ้าวชุนหยางนั่งทานอาหารมื้อค่ำอย่างเอร็ดอร่อย รอบตัวเขามีเพียงองครักษ์ 2 นาย ยืนประจำการอยู่ห่างๆ บรรยากาศภายในห้องอาหารเงียบสงบ แสงไฟสีนวลสาดส่องลงมาสร้างบรรยากาศอบอุ่นทันใดนั้น เสียงฝีเท้าหนักๆ ดังขึ้นจากด้านหลังของเขาแต่เมื่อมองไปเห็นเขาเพียงพนักงานที่กำลังถือถาดเพื่อจะนำไวน์มาเสิร์ฟให้พวกเขาเท่านั้น พนักงานชายคนนั้นเดินมาทางด้านหลังและก่อนที่ทุกคนจะทันตั้งตัวเขาก็ชักมีดเล่มเล็กออกมาและจ่อไปที่คอของท่านผู้นำประเทศทันที“อย่าขยับไม่อย่างนั้นฉันจะเชือดคอผู้นำของพวกแกแน่นอน” น้ำเสียงที่เปล่งออกมานั้นเป็นภาษาจีนแต่ว่าสำเนียงนั้นไม่ชัดเจนเหมือนว่าคนที่พูดเป็นชาวต่างประเทศอย่างไรอย่างนั้นตอนนี้ทุกคนต่างตกตะลึงกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่เกิดขึ้น มันเป็นไปได้อย่างไรกับการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวดขนาดนี้แต่ยังมีคนร้ายสามารถเล็ดลอด
บทที่ 98 ดินเนอร์กับท่านผู้นำประเทศ ep 1 “ผมยังไม่มีแฟนครับ”เฉินหวังตงตอบอย่างภาคภูมิใจ และหันไปมองหน้าของหมอหยางที่ทำสีหน้าประมาณ ‘ฉันนึกแล้ว’ ใส่เขาและเธอก็หันไปขับรถต่อไป ทิ้งให้ภายในรถมีแต่ความเงียบ....เมื่อบอกไปแล้ว ชายหนุ่มก็หันไปมองหน้าคุณหมอคนสวยพลางรออีก เขารอให้เธอถามต่อหรือแสดงอาการดีใจ อะไรก็ได้ แต่สิ่งที่เขาได้รับคือ ความเงียบและสีหน้านิ่งเฉยและตั้งหน้าตั้งตาเหยียบคันเร่งรถเหมือนจะพยายามขับให้ถึงที่หมายโดยเร็วที่สุด เฉินหวังตงแสดงอาการผิดหวังเล็กน้อยที่เธอไม่ถามต่อ เขาก็เลยจะเฉลยให้เธอฟังซะเลยดีกว่าเพราะตัวเขาเองก็อึดอัดใจเหมือนกัน คือ อยากบอกอยากเล่าอะนะ (55555 สงสาร)“คือว่าผมกับจ้าวหรูอี้เป็นเพียงเพื่อ.....“ถึงคอนโดของคุณเฉินแล้วค่ะ” หยางชิงโม่ที่เหยียบรถห้อมาเต็มที่ในที่สุดก็ถึงคอนโดของชายหนุ่มที่นั่งอยู่ข้างๆ เสียที เฮ้ออึดอัดเป็นบ้าเลย ทำไมตอนที่เธออยู่ที่ยุค 80 กับเขาตอนนั้นไม่เป็นแบบนี้นะ ตอนนั้นทั้งสองออกจะหวานแหววกันตลอดด้วยและดูเหมือนว่าเขากำลังจะเล่าอะไรอีกแล้วละ ...ขณะที่เฉินหวังตงกำลังจะบอกเงื่อนไขที่เขากับเจ้าจ้าวหรูอี้คุยกันกับเธอ หยางชิงโม่ก็พูดแทรก
บทที่ 97 ผมยังไม่มีแฟน“น้องจะบอกว่ามีคนปองร้ายท่านผู้นำหรือ” หยางชิงโม่ก้มหน้าลงและพูดกระซิบกับจางหมี่ทั้งที่บริเวณนั้นไม่มีใครแต่ว่าเรื่องพวกนี้มันเป็นเหมือนสัญชาตญาณการระวังตัวนั้นเอง“ทั้งใช่และไม่ใช่ค่ะ” จางหมี่บอกแบบคลุ่มเครือ เธอไม่อยากจะฟันธงไปเลยการมีคนต้องการที่จะปองร้ายท่านผู้ เพราะว่าคนที่ทำนั้นมันอยู่ใกล้ตัวของท่านผู้นำมากนั้นเอง เฮ้อ ปัญหาครอบครัวแม้ว่าจะยิ่งใหญ่แค่ไหนก็หนีไม่พ้นจริงๆ จางหมี่คิดหยางชิงโม่หยิบขวดน้ำทิพย์ที่จางหมี่ให้มาแล้วเก็บเอาไว้อย่างดีภายในแหวนมิติของเธอ“แล้วท่านผู้นำจะเชื่อพี่หรือ ถ้าพี่บอกว่าแม่บ้านของเขาน่าสงสัย” หยางชิงโม่กังวลเล็กน้อยเพราะต้องทราบว่าเธอก็แค่คนแปลกหน้าที่บังเอิญได้มีโอกาสเข้าไปช่วยเหลือเขาเท่านั้น ไม่ได้มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดใดๆ กับพวกเขาเลย“เขาจะเชื่อค่ะ อย่าลืมว่ากว่าเขาจะขึ้นมาเป็นผู้นำคนทั้งประเทศได้ไม่ใช่เรื่องง่ายและเขาจะต้องระมัดระวังเรื่องพวกนี้อยู่แล้ว ยิ่งพี่หมอเอายาไปให้และบอกว่ามาจากฉันเขาจะยิ่งตรวจเช็คเรื่องพวกนี้อย่างถี่ถ้วนแน่นอน” จางหมี่บอกออกไป“ได้งั้นพี่จะทำตามที่น้องจางหมี่บอกก็แล้วกัน”"อีกอย่างตอนที่พี่
บทที่ 96 ฉันเลือกที่จะลืมเขาหยางชิงโม่นั่งรอเพียงไม่นาน ร่างแสนสวยของจางหมี่ก็เดินเหมือนลอยมาหาเธอแล้ว สองสาวทักทายกันนิดหน่อยและจางหมี่ก็เชิญเธอเข้าไปด้านในร้าน เพราะว่าภายในร้านชานั้นพวกเธอไม่ได้ขายอาหารเต็มรูปแบบ มีเพียงขนมและของกินเล่นที่ใช้กินคู่กับชาเท่านั้น ส่วนวันนี้นั้นเธอได้นัดที่จะเลี้ยงอาหารมื้อใหญ่พี่หมอ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเข้าไปทานกันด้านใน ในขณะที่พวกเธอสองคนเดินนั้น ได้มีสายตาของหมาป่าต่างเพศสองตัวจ้องอยู่และพวกเขามองส่งนางฟ้าไปจนลับตาพลางถอนหายใจด้วยความเสียดายเฉินหวังตงและจ้าวหรูอี้ที่มองนางฟ้า 2คนเดินเข้าไปข้างในต่างก็ถอนหายใจด้วยความเสียดายเมื่อไม่มีอาหารตาที่แสนสวยแล้ว พวกเขาสองคนก็หันหน้ามาหากันแทน แม้จะเบื่อหน่ายแค่ไหนก็ตาม“งั้นเอาแบบนี้ไหม อีก 2-3 วันนี้คุณปู่ของคุณจะเชิญหมอหยางของผมไปทานอาหารเพื่อเป็นการขอบคุณที่หมอหยางของผมช่วยชีวิตน้องชายของคุณเอาไว้ วันนั้นผมจะถือโอกาสบอกท่านผู้นำเลยว่าเราสองคนตัดสินใจเลิกกัน ส่วนคุณจะไปหาแฟนของคุณก็ไปผมจะเป็นคนบอกเอง”เฉินหวังตงหันมาปรึกษาหาทางออกให้กับทั้งสองฝ่าย“ถ้าแบบนั้นฉันก็คงจะโดนคุณปู่ยำแน่นอน นายมีทางอื่นอีกไห