二
บนเวที เจ้าบ่าวเจ้าสาวที่ยังยืนเคียงข้างกันมองเหตุการณ์นี้ด้วยรอยยิ้มขำขัน แต่คนที่ดูจะสนุกที่สุดกลับเป็น หยวนยิง และ หยวนหลง สองพี่ชายฝาแฝดต่างสายเลือดจอมเย้าแหย่ของถังหูลู่ พวกเขาคือลูกชายของหยวนชิงหลาน หยวนยิง มีรูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวผ่อง ใบหน้าคมคาย ดวงตาเรียวดูเจ้าเล่ห์ ปากหยักบางที่มักแต้มด้วยรอยยิ้มมุมปากเสมอ หยวนหลง แม้จะเป็นฝาแฝด แต่เขามีลักษณะต่างจากพี่ชายเล็กน้อย ใบหน้าเนียนเกลี้ยงกว่าและดูอ่อนโยนกว่า ดวงตากลมโตและรอยยิ้มสดใสทำให้เขาดูเข้าถึงง่าย ทั้งคู่ปรบมือด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ ก่อนที่หยวนหลงจะเอนตัวกระซิบพี่ชาย “เฮียหยิง เฮียว่าช่อดอกไม้นี่มันตั้งใจเลือกอาหมวยถังของพวกเรารึเปล่า?” หยวนยิงหัวเราะเบา ๆ แต่เต็มไปด้วยความหมาย “เฮียว่ามันไม่ได้แค่เลือกนะ แต่มันคงอยากไปอยู่กับน้องถังตั้งแต่แรกแล้วล่ะ...” คำพูดนั้นทำให้ทั้งสองมองหน้ากันพร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ และเสียงหัวเราะขบขันที่ดังขึ้นตามมา... หลังจากพิธีจบลง แขกหลายคนทยอยกันมาถ่ายรูปกับเจ้าบ่าวเจ้าสาว แต่ระหว่างนั้นถังหูลู่กลับตกเป็นจุดสนใจมากพอ ๆ กับคู่บ่าวสาว บรรดาญาติ ๆ และเพื่อนสนิทต่างแวะมาร่วมแสดงความยินดีที่เธอได้ช่อดอกไม้แห่งความโชคดี บางคนแซวเธออย่างสนุกสนาน บ้างยื่นมือมาจับช่อดอกไม้เหมือนจะดูดซับพลังความรักจากมันไป ในขณะที่ถังหูลู่ยืนรับคำแซวด้วยรอยยิ้มที่ฝืนเต็มที มือเล็กยังคงจับช่อดอกไม้ไว้แน่นอย่างเก้ ๆ กัง ๆ ราวกับไม่รู้จะทำอย่างไรดี แม้ช่อดอกไม้นั้นจะเปื้อนคราบน้ำซุปเล็กน้อย แต่กลีบดอกไม้สีขาวกลับยังดูงดงาม ราวกับมันเกิดมาเพื่ออยู่ในมือของเธอ เมื่อความวุ่นวายในงานเริ่มสงบลง หยวนยิง และ หยวนหลง เดินเข้ามาหาถังหูลู่ ทั้งสองยังคงประดับรอยยิ้มเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม หยวนหลงเอ่ยขึ้นก่อนด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยการเย้าแหย่ “อาหมวย ถ้าหนูยังไม่เลิกกิน เดี๋ยวเจ้าบ่าวคนต่อไปของหนูอาจเป็นขาหมูตุ๋นแทนคนจริง ๆ แล้วนะ” คำพูดนั้นทำให้ถังหูลู่หันขวับ ใบหน้าเล็กขึ้นสีแดงก่ำด้วยความอาย แต่ยังไม่วายกลืนอาหารที่ค้างในปาก “เฮียหลง! หยุดแซวหนูได้แล้ว! กินขาหมูมันเกี่ยวอะไรกับความโชคดีเรื่องความรักเนี่ย?” หยวนยิงที่ยืนฟังอยู่หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล แต่แฝงด้วยการเย้าแหย่เช่นกัน “เฮียว่ามันก็เหมาะดีนะ น้องถังจะได้ทั้งอิ่มท้องและอิ่มใจไปพร้อมกันเลยไง...” ถังหูลู่ที่ยังถือช่อดอกไม้อยู่ในมือกระทืบเท้าเล็ก ๆ ของเธออย่างหงุดหงิด รอยยิ้มของพี่ชายทั้งสองยิ่งทำให้เธอรู้สึกเสียเปรียบ ก่อนจะโพล่งออกมาอย่างเหลืออด “เฮียหยิง! เฮียหลง! หนูจะเก็บดอกไม้นี่แล้วหนีไปเลย! ไม่ต้องพูดอะไรแล้วนะ!” เสียงหัวเราะดังลั่นจากสองพี่ชาย ขณะที่ถังหูลู่หันหลังเดินออกไปพร้อมกับช่อดอกไม้ในมือ ดวงตาของเธอฉายแววทั้งความอายและความไม่พอใจ แต่หากใครมองให้ลึกลงไป อาจเห็นความอ่อนโยนที่หลบซ่อนอยู่ในนั้น รอยน้ำซุปบนดอกไม้ยังคงเป็นร่องรอยที่ช่วยบอกเล่าเรื่องราวความวุ่นวายในวันแต่งงานครั้งนี้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ค่ำคืนนั้น กลายเป็นอีกหนึ่งความทรงจำที่ทุกคนในครอบครัวจะจดจำไปอีกนาน ราวกับช่อดอกไม้เปื้อนน้ำซุปนั้นไม่ได้มอบเพียงโชคดีให้กับถังหูลู่ แต่มอบความสุขและเสียงหัวเราะให้กับทุกคนที่ได้ร่วมอยู่ในช่วงเวลานี้... เมื่อกลับถึงห้อง ถังหูลู่ทิ้งตัวลงบนเตียงนุ่มราวปุยนุ่น ความเหนื่อยล้าจากงานแต่งงานยังคงฝังลึกในร่างกาย แต่มากกว่านั้นคือความขวยเขินที่แล่นริ้วขึ้นมาเมื่อภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในงานย้อนกลับมาในหัว เธอเผลอยกมือขึ้นลูบแก้มตัวเองเบา ๆ แต่กลับพบว่าความร้อนที่อุ่นวาบยังไม่จางหาย “ไม่น่าเลย…ไม่น่าให้ความหิวเข้ามาครอบงำเราเลย...” เธอพึมพำกับเงาสะท้อนในกระจกที่มองกลับมาด้วยดวงตาเศร้าสร้อย ภายใต้กรอบแว่นตากลม ริมฝีปากบางของเธอเม้มแน่น ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกเหมือนตัวเองกลายเป็นตัวตลกในสายตาคนทั้งงาน ‘ขาหมูเป็นเหตุสังเกตได้…แต่ที่น่าอายกว่านั้นคือ ทุกคนเห็นแล้วว่าเราตะกละแม้กระทั่งในงานแต่งของพ่อ…’ ถังหูลู่ถอนหายใจหนักหน่วง ‘แล้วยังจะดันไปคว้าช่อดอกไม้ของน้าชิงหลานมาได้อีก…นี่มันวันซวยชัด ๆ ’ เสียงแผ่วเบาของประตูที่แง้มออกทำให้เธอเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเห็นแมวสายพันธุ์แร็กดอลล์ตัวขาวสะอาด ตาโตเหมือนดวงแก้ว เดินย่างเท้าอย่างอ้อยอิ่งเข้ามา “เป่าเปา! แกไปไหนมา แม่ตามหาแทบแย่” น้ำเสียงอ่อนโยนปนความน้อยใจดังขึ้นเมื่อเห็นเจ้าตัวเล็ก เธอรีบเดินเข้าไปหา ย่อตัวลงก่อนจะคว้าแมวตัวโปรดเข้ามากอดอย่างเต็มแรงจนมันร้องเหมียวออกมาอย่างตกใจ “โธ่…มาให้แม่กอดหน่อยสิ วันนี้แม่เหนื่อยจนแทบจะขาดใจอยู่แล้วเนี่ยรู้บ้างไหม?” เธอบ่นพลางลูบขนสีขาวนุ่มเหมือนปุยฝ้ายของมัน แต่แรงกอดที่มากเกินไปทำให้เป่าเปาดิ้นหนีอย่างน่าสงสาร “อย่าดิ้นสิ! ถ้าแกหนีอีก คราวนี้แม่จะทำให้แกกลายเป็นเหมือนทูน่าที่แกกิน...” น้ำเสียงข่มขู่นั้นทำให้เจ้าแมวน้อยหยุดนิ่งราวกับเข้าใจในทันที มันเงยหน้าขึ้นส่งเสียงเหมียว ๆ ที่ฟังดูเหมือนการอ้อนวอนมากกว่าคำตอบ To be continued...三ถังหูลู่หัวเราะคิกคักก่อนจะอุ้มเป่าเปาขึ้นไปนอนกอดบนเตียง ทั้ง ๆ ที่มันยังส่งเสียงอู้อี้ในลำคอเหมือนอยากบอกว่ามันไม่เต็มใจสักเท่าไร“เฮ้อ…หวังว่าอาเฮียทั้งสองจะไม่รังเกียจเรานะ ที่เรากินมูมมามแบบนั้น” เธอพึมพำเสียงแผ่ว ขณะที่ความทรงจำถึงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหยวนยิงและเสียงหัวเราะล้อเลียนของหยวนหลงก็ย้อนกลับมาเล่นงานเธออีกครั้งเพียงแค่คิดถึงสายตาของทั้งสองคนที่จ้องมองมาเหมือนรู้ทันทุกอย่าง เธอก็แทบอยากจะกรีดร้องออกมา “คงไม่หรอก...เพราะถ้ายังหัวเราะแบบนั้นได้ พวกเฮียก็เหี้ยพอสมควรเลยที่มารังแกเรา...ใช่ไหมเป่าเปา...”แมวตัวน้อยทำได้แค่ร้องเหมียวเบา ๆ อย่างน่าสงสารในอ้อมกอดของเธอ ท่ามกลางความสับสนและความอายที่ยังคงตีกันยุ่งอยู่ในหัวของถังหูลู่เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะกอดเป่าเปาแน่นขึ้น “โชคดีนะที่ยังมีแกอยู่ ไม่งั้นแม่คงบ้าตายไปแล้ว” ว่าแล้วเธอก็หลับตาลง ปล่อยให้เจ้าก้อนขนนุ่มในอ้อมกอดช่วยปลอบใจเธอจากความโกลาหลของวันนั้น...หลายวันต่อมา... บรรยากาศยามเช้าที่สดใสปกคลุมไปด้วยแสงแดดอ่อน ๆ ของวันใหม่ ถังหูลู่รู้สึกตื่นเต้นจนอดไม่ได้ที่จะยิ้มกว้าง เมื่อถึงวันที่ครอบครัวจะย้ายเข้าไปอยู่ในบ
四คำพูดนั้นทำให้ถังหูลู่ถึงกับหน้าแดงก่ำ “หยุดล้อหนูสักที!” เธอโวยวายก่อนจะอุ้มเป่าเปาออกจากห้องนั่งเล่น ทิ้งเสียงหัวเราะขบขันของพี่ชายทั้งสองไว้เบื้องหลัง เมื่อกลับมาที่ห้องของตัวเอง ถังหูลู่นั่งลงบนเตียงพร้อมกับเป่าเปาในอ้อมกอด “เป่าเปา...พวกเฮียก็ชอบแกล้งแม่แบบนี้ตลอด แต่แม่ไม่ถือหรอก...ใช่ไหมลูก” เธอกระซิบเบา ๆ พร้อมกับลูบขนสีขาวนุ่มอย่างอ่อนโยน เสียงเหมียวเบา ๆ ที่ตอบกลับมาทำให้เธอยิ้มออกมาในที่สุด...เวลา 20:00 น.ทันทีที่ถังหูลู่ลงมายังชั้นล่างกลิ่นหอมของอาหารจีนลอยมาจากห้องครัวชวนให้น้ำลายสอ เธอพบหยวนชิงหลาน แม่เลี้ยงของเธอ กำลังสวมผ้ากันเปื้อนยืนจัดการกับหม้อซุปที่ส่งไอร้อนกรุ่นไปทั่วครัวโต๊ะอาหารถูกจัดเรียงด้วยจานชามที่เตรียมไว้รออาหารจานหลัก ราวกับเป็นฉากในภาพยนตร์ที่แสนอบอุ่น “น้องถัง...เห็นพวกอาเฮียบ้างไหมลูก?” หยวนชิงหลานเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เป็นกันเอง เธอยิ้มขณะหันมาเช็ดมือกับผ้าขาวสะอาด “ไม่เห็นเลยค่ะ...” ถังหูลู่ตอบพลางเดินเข้าไปในครัว สายตาเธอสอดส่องไปยังเตาอาหารและโต๊ะที่พ่อของเธอกำลังหั่นผักอย่างคล่องแคล่ว รอยยิ้มและบทสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างพ่อกับแ
五“ทำไงได้...ก็เฮียดันมาทำให้หนูตกใจเองนี่...” เธอกล่าวเสียงเบา พร้อมกับหลบสายตาของทั้งคู่ที่จ้องมองมาอย่างลึกซึ้ง หยวนหลงยื่นมือมาแตะหน้าผากของเธอเบา ๆ “หน้าแดงขนาดนี้ เป็นไข้รึเปล่า?” คำพูดของเขาแฝงความห่วงใย แต่สายตานั้นทำให้เธอรู้สึกราวกับถูกมองทะลุถึงหัวใจ หัวใจของถังหูลู่เต้นแรงจนแทบจะหลุดออกมา...เธอหลบสายตาและรีบเบี่ยงตัวออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว “ไปกินข้าวกันเถอะ...” เสียงของเธอแผ่วเบา แต่เต็มไปด้วยความกระวนกระวายหยวนยิงและหยวนหลงมองแผ่นหลังเล็กที่ลับสายตาไป ก่อนที่ทั้งสองจะหันมายิ้มให้กันอย่างเข้าใจความหมายในใจของกันและกัน...ในห้องครัวโต๊ะอาหารยาวเหยียดถูกจัดเตรียมไว้อย่างประณีต บนโต๊ะเต็มไปด้วยอาหารจีนหลากหลายเมนูที่ล้วนแล้วแต่เป็นของโปรดของถังหูลู่ถ้วยและจานกระเบื้องลายครามบรรจงจัดวางอยู่คู่กับตะเกียบไม้ไผ่ที่มันวาว เธอเห็นทั้ง ‘เป็ดปักกิ่งหนังกรอบ’ ที่กลิ่นหอมของเครื่องเทศโชยขึ้นมาทำให้น้ำลายสอ‘หมูสามชั้นตุ๋นซีอิ๊ว’ ที่ดูนุ่มจนแทบละลาย เพียงมองก็รู้ว่าตุ๋นด้วยไฟอ่อนมาหลายชั่วโมง และยังมี‘กุ้งอบวุ้นเส้น’ ที่มีกลิ่นของกระเทียมเจียวและพริกไทยลอยมาแตะจมูกอย่างเย้ายวน
六‘หนูขอจินตนาการภาพของเฮียสองคนในเชิงสวาทเลยนะ…ถึงเฮียจะไม่อนุญาต แต่มันก็ไม่ทันแล้ว…’ เธอคิดอย่างรู้สึกผิด แต่ก็ปนเปด้วยความสุขที่ยากจะอธิบายเสียงลมหายใจของเธอเริ่มถี่ขึ้น ท่ามกลางห้องที่เงียบสงบ เสียงกระซิบของจินตนาการและความปรารถนาของเธอดังขึ้นอย่างชัดเจนในใจ ทุกสัมผัสที่เธอมอบให้ตัวเองเต็มไปด้วยความเร้าอารมณ์ ราวกับไฟที่โหมกระหน่ำไม่ยอมมอดดับในตอนนั้นเอง ถังหูลู่รู้เพียงอย่างเดียวว่า เธอไม่อาจหนีจากความรู้สึกนี้ได้อีกต่อไป…หยวนหลงที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จ ร่างกายยังคงชุ่มไปด้วยละอองน้ำที่เกาะพราวตามแผงอกและกล้ามเนื้อแน่นกระชับผ้าขนหนูผืนเดียวที่พันรอบสะโพกของเขาเผยให้เห็นร่องรอยของความเป็นชายที่น่าหลงใหล ความคิดเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นในหัวทันทีเมื่อเขานึกถึงถังหูลู่ น้องสาวบุญธรรมที่เขาชอบกลั่นแกล้งมาตั้งแต่ไหนแต่ไร‘สงสัยจะต้องแกล้งให้เธอหน้าแดงเล่นอีกแล้ว...’ หยวนหลงยิ้มมุมปาก เดินตรงไปยังห้องของถังหูลู่ด้วยท่าทีสบาย ๆ เขาหมุนลูกบิดประตูเข้าไปโดยไม่ได้เคาะตามนิสัย และสิ่งที่ปรากฏตรงหน้าก็ทำให้เขาชะงักไปชั่วขณะร่างเปล
七หยวนหลงไม่ได้ตอบในทันที เขาเดินเข้ามาใกล้ช้า ๆ สายตาคมกริบของเขาจับจ้องเธออย่างไม่ละสายตา และทันทีที่ถังหูลู่เหลือบมองไปยังผ้าขนหนูตรงช่วงล่างของเขา เธอก็ต้องเบือนหน้าหนีด้วยความตกใจ เพราะสิ่งที่เธอเห็นใต้ผ้าขนหนูนั้น โป่งนูนจนยากจะปฏิเสธว่าเขาได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เพิ่งเห็น‘หรือว่าเฮียเขาจะมีอารมณ์กับเรา?’ ถังหูลู่อดคิดไม่ได้“เฮียสิที่ต้องถามว่าหนูกำลังทำอะไรอยู่...” น้ำเสียงของเขาแฝงด้วยความดุร้าย ปลายประโยคเปรียบเสมือนคำสั่งที่กดดัน‘อา...อย่าบอกนะว่าเธอกำลังครางเรียกเราอยู่...ร้ายไม่เบาเลยนะอาหมวย...’ เขาเองก็ยากที่จะปฏิเสธความคิดที่แสนโสมมของตัวเอง ซึ่งอาจจะเป็นความจริงที่ยากจะยอมรับได้ในขณะนี้หยวนหลงหยุดยืนตรงข้างเตียง จ้องมองเธอที่กำลังนั่งขดตัวอยู่ใต้ผ้าห่ม ดวงตาคู่นั้นของเขาราวกับสัตว์ร้ายที่เพิ่งพบเหยื่ออันโอชะ“เฮีย...คือ...เอ่อว่า...หนู...” เสียงของถังหูลู่ขาดห้วง เธอไม่รู้จะหาคำอธิบายอะไรให้ตัวเองดี ความจริงมันชัดเจนเกินไป ภาพที่หยวนหลงเห็นนั้นได้บอกทุกสิ่งที่เธอไม่สามารถปฏิเสธได้‘ทำไงดี...ทำไงดี...ทำ
八 “เป็นไงบ้าง...ชอบรึเปล่า?” เสียงกระซิบของหยวนหลงดังใกล้ใบหู ทำให้ขนอ่อนบนร่างกายของเธอลุกชัน ความอบอุ่นจากลมหายใจของเขาทำให้ใบหน้าของเธอร้อนวูบจนแทบลุกเป็นไฟ ‘อื๊อ~เฮีย...อย่ามาพูดใกล้ ๆ หูแบบนี้สิ...มันยิ่งทำให้หนูเงี่ยน...' เธอคิดแต่ไม่ได้พูดออกมา “เฮีย...หนูเสียว...อ๊า...เสียวมากเลย...” ส่วนคำพูดที่หลุดออกมาจากปากของถังหูลู่ก็แทบจะกลืนหายไปกับเสียงครางหวาน ร่างกายของเธอร้อนระอุจนหยาดเหงื่อไหลซึมออกมาตามไรผมและแผ่นหลัง เธอพยายามห้ามตัวเองไม่ให้หลุดปล่อยความรู้สึกออกมามากกว่านี้ แต่ทุกการเคลื่อนไหวของนิ้วของหยวนหลงกลับทำให้เธอรู้สึกเหมือนกำลังถูกผลักให้จมลึกลงไปในห้วงแห่งความเสียวซ่าน “ทำแบบนี้มานานแค่ไหนแล้ว...” เขาถามด้วยน้ำเสียงเจือความสนุก ราวกับพึงพอใจที่ได้เห็นเธออยู่ในสภาพนี้ ถังหูลู่หลบสายตาคมกริบของเขา หัวใจเต้นแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก “ก็ตั้งแต่ที่กินข้าวเสร็จ...อึ๊ก...อ๊า...” เธอตอบออกมาพร้อมเสียงสะอื้นอย่างขัดเขิน ใบหน้าของเธอแดงซ่านจนลามไปถึงลำคอ แจ๊ะ! แจ๊ะ! แจ๊ะ! เสียงน้ำที่ดังขึ้นอย่างชัดเจนระหว่างนิ้วของเขาและร่องรักของเธอทำให้เธอยิ่งอับอาย แต่กลับไม่สามารถหยุ
九 หลังประตู เสียงเคาะประตูดังขึ้นสามครั้ง ทำลายความเงียบที่เพิ่งกลับคืนมาในห้อง ถังหูลู่สะดุ้งเฮือก หัวใจเต้นระส่ำเมื่อเสียงนั้นมาพร้อมกับน้ำเสียงที่คุ้นเคย “น้องถัง! เห็นเฮียหลงบ้างไหม?” เสียงของหยวนยิงดังขึ้นจากอีกฟากของประตู หยวนยิงอยู่ในชุดนอนลำลอง ผ้าขนหนูพาดบ่า บ่งบอกว่าเขาเพิ่งอาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ผมเปียกยังมีหยดน้ำเกาะพราว บ่งบอกถึงความสดชื่นที่ตัดกับสถานการณ์ตึงเครียดที่กำลังเกิดขึ้นภายในห้อง ถังหูลู่รีบปรับสีหน้าพลางตอบกลับไปด้วยเสียงที่พยายามทำให้ราบเรียบ แต่ไม่อาจปิดความร้อนรนในน้ำเสียงได้ทั้งหมด “ไม่เห็นเลยค่ะ...” หยวนยิงเงียบไปชั่วครู่ก่อนถามต่อด้วยน้ำเสียงสงสัย “แล้วตอนนี้ทำอะไรอยู่?” “อาบน้ำอยู่ค่ะ...แป๊บนะเฮีย...” เสียงตอบกลับดังออกมาจากหลังประตูอย่างเร่งรีบ เธอเหลือบมองหยวนหลงที่นั่งสงบอยู่บนเตียง ขณะที่ตัวเธอพยายามรวบรวมสติและทำให้ดูเป็นปกติที่สุด หยวนยิงยืนรออยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงปลดล็อกประตูจะดังขึ้น ประตูแง้มออกเพียงเล็กน้อยพอให้เห็นร่างของถังหูลู่ที่อยู่ในชุดผ้าขนหนูพันรอบกาย ผ้าขนหนูผืนน้อยเผยให้เห็นไหล่ขาวเนียน และช่วงขาเรียวเล็กที่ชวนมองโดยไม่ตั้งใจ
十 ‘ทำอะไรของเขาเนี่ย…’ ถังหูลู่คิดในใจ แม้จะอยากปฏิเสธ แต่เธอกลับไม่อาจต่อต้านได้ ความอบอุ่นจากมือของเขาที่ลูบไล้แผ่นหลังของเธอ และสัมผัสราวกับไฟที่กำลังเผาไหม้หัวใจของเธอ ทำให้เธอคล้อยตามไปโดยไม่รู้ตัว หยวนหลงผละออกช้า ๆ น้ำลายใสเชื่อมโยงระหว่างเขาและเธอ ริมฝีปากของเขายังเปื้อนรอยยิ้มเล็ก ๆ “เอาไว้ก่อนนะ...” เขาพูดขณะที่มองดูเธอที่ยังคงตกอยู่ในภวังค์ แก้มแดงเรื่อของเธอทำให้เขายิ่งมองด้วยความพึงพอใจ “ถึงหนูจะตะกละ...” เขาพูดด้วยน้ำเสียงหยอกเย้า ก่อนจะยิ้มกว้าง “แต่เฮียกก็รักหนูนะ...อาหมวยของเฮีย” พูดจบ หยวนหลงก็เดินไปทางหน้าต่าง ก่อนจะทำสิ่งที่ทำให้ถังหูลู่ตกใจจนแทบลืมหายใจ เขากระโดดลงจากหน้าต่างชั้นสองราวกับไม่ใช่เรื่องใหญ่ “เฮีย!” ถังหูลู่รีบวิ่งไปดูที่หน้าต่าง ใจหายวาบ แต่เมื่อมองลงไปก็เห็นเขายืนอย่างปลอดภัย เขายิ้มพร้อมทำรูปหัวใจด้วยแขนทั้งสองข้าง ก่อนจะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น “เอางี้เลยเหรอ... ประตูก็มีไหม?” ถังหูลู่พึมพำกับตัวเองด้วยความตกใจ ก่อนจะเผลอยกมือแตะริมฝีปากของตัวเองที่ยังคงรู้สึกถึงสัมผัสจากเขา รสชาติ กลิ่น และสัมผัสอันอบอุ่นยังคงหลงเหลืออยู่ใน
七十五ถังหูลู่หันไปมองหยวนหลงที่ยังคงนั่งจิบชาเขียวอย่างสบายอารมณ์ รอยยิ้มแพรวพราวของเขาดูจะไม่ทุกข์ร้อนอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว และนั่นทำให้เธอยิ่งหงุดหงิดขึ้นมาเธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะพูดขึ้น “หนูว่าหนูจะเริ่มลงคลิปเต้นล่ะคืนนี้...”น้ำเสียงของเธอฟังดูเหมือนเป็นคำพูดลอย ๆ แต่ในใจของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นมากกว่านั้น เธอไม่ได้พูดเล่น เธอเอาจริง!หยวนหลงวางแก้วชาเขียวลงก่อนจะเหลือบมองเธอ ยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน...“หึหึ... ทำไมเพิ่งมาทำล่ะ? เฮียแนะนำให้อาหมวยเริ่มตั้งแต่ยุคแรกเริ่มแล้วนะ” เขากล่าวพลางเอนตัวไปข้างหลัง ท่าทีของเขาดูเหมือนจะรู้ดีว่าอะไรเป็นแรงกระตุ้นให้เธอตัดสินใจแบบนี้แต่แทนที่เธอจะเถียงกลับเหมือนทุกที คราวนี้อาหมวยเพียงแค่จ้องหน้าอาเฮียของเธอนิ่ง ๆ ราวกับกำลังประกาศว่า เธอจะพิสูจน์ให้เขาเห็นเอง...หยวนหลงมองเข้าไปในดวงตาของเธอ แล้วก็รู้ได้ทันทีว่าเธอเอาจริงเอาจริงมากกว่าทุกทีเขาอมยิ้มเล็ก ๆ ก่อนจะโบกมือเรียกพนักงาน “ขอเครื่องดื่มเพิ่มสองแก้ว” เขาเลือกเครื่องดื่มที่มีราคาแพงสุดให้เธอโดยเฉพาะ“เฮียเลี้ยง?” ถังหูลู่เลิกคิ้วถามอย่างสงสัย แม้จะรู้ดีอยู่แล้วก็ตามว่าเขาต้องเ
七十四พวกเขาดีกับเธอมากแค่ไหนกันนะ?เธอเพิ่งจะเข้าใจจริง ๆ ก็ตอนนี้เองพวกเขาไม่ได้เพียงแค่แกล้งเธอ...พวกเขาไม่ได้เพียงแค่ตามใจเธอ...หรือเพียงมีเซ็กส์กับเธอเพราะต้องการร่างกาย...แต่พวกเขา ‘ปกป้อง’ และ ‘ดูแล’ เธอมาโดยตลอดทั้งหยวนยิงและหยวนหลงเลย...แม้ว่าเธอจะยังไม่แน่ใจว่าความรู้สึกของพวกเขาที่มีต่อเธอนั้นเป็นอย่างที่เธอคิดหรือไม่ แต่เธอเลือกที่จะเชื่อว่ามันเป็นเช่นนั้นเพราะหากไม่ใช่ความรัก...แล้วมันจะเป็นอะไรได้อีกล่ะ?เธออยากให้พวกเขารักเธอจริง ๆ รักเธอจนโงหัวไม่ขึ้น! รักเธอแบบที่เธอรักพวกเขา...ถังหูลู่เหลือบมองหยวนหลงที่ยังคุยโทรศัพท์ สีหน้าเคร่งขรึมแต่แฝงแววอ่อนโยน เขาดูเป็นตัวของตัวเองเสมอ มั่นคง แข็งแกร่ง และอบอุ่นเธอยกตะเกียบขึ้นคีบเส้นราเมง เป่าลมไล่ความร้อนก่อนจะค่อย ๆ ลิ้มรส น้ำซุปเข้มข้นเคลือบลิ้น อุณหภูมิอุ่น ๆ ของมันช่วยปลอบประโลมหัวใจที่เต้นแรงของเธอให้สงบลงเล็กน้อย‘อา...ขอให้อาเฮียรักเราหลงเราอย่างที่เราคิดด้วยเถิด...’‘อยากเป็นภรรยาที่ดีของทั้งสองคนแล้วเนี่ย...’เธอยิ้มกับตัวเองเล็ก ๆ ในขณะที่หัวใจยังคงเต้นรัวไม่เป็นจังหวะ...หลังจากวางโทรศัพท์ลง หยวนหลงถอนหายใจเ
七十三ความร้อนวูบวาบแล่นไปทั่วร่าง ขาทั้งสองข้างสั่นระริกเล็กน้อยจากความปวดร้าวเบา ๆ ที่ก่อกวนอยู่ในท้องน้อยแต่ไม่...ครั้งนี้เธอจะไม่ปล่อยให้ตัวเองโอนอ่อนไปกับอารมณ์นั้น...เธอสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปอย่างรวดเร็ว สูดลมหายใจลึก เปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดนักศึกษาเป็นชุดใหม่ที่หยวนหลงเพิ่งซื้อให้ พร้อมปรับสีหน้าตัวเองให้เป็นปกติแต่ในขณะเดียวกัน...ด้านนอกห้องลองเสื้อหยวนหลงยืนพิงกำแพงพรมใบหน้าหล่อแฝงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ แววตาคมดูล้ำลึกยากจะคาดเดา‘ในห้องลองเสื้อเองก็น่าลองอยู่เหมือนกัน...แถมในนั้นยังมีกระจกให้ส่องภาพหน้าตายั่ว ๆ ของอาหมวยตอนโดนตอกอีกต่างหาก...อา...แค่คิดก็เงี่ยนขึ้นมาแล้วเนี่ย...เอาไงดี...เอาไงดี...สักหน่อยดีไหมนะ?’ปลายลิ้นแลบเลียริมฝีปาก ราวกับนักล่าที่กำลังสนุกกับเหยื่อที่ติดกับดักของตัวเองโชคดีของถังหูลู่ที่ตอนนี้เขายังไม่ลงมือ...หรือว่าเธอควรจะเรียกมันว่า โชคร้าย กันแน่นะ?หลังจากเปลี่ยนชุดเสร็จ ถังหูลู่ก้าวออกจากห้องลองเสื้อ ก่อนจะพบเข้ากับหยวนหลงที่ยืนรออยู่ตรงหน้าเขาสวมเสื้อยืดสีขาวลายสตรีทแบรนด์ดัง เรียบง่ายแต่ดูดี และกางยีนส์ขากระบอก รองเท้าผ้าใบสีขาวสะอาดสะอ้
七十二เสียงท่วงทำนองของ ซิมโฟนีหมายเลข 5 โดยบีโธเฟน...ดังก้องอยู่ในหูฟังของชายหนุ่มเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดประจำห้างสรรพสินค้า ผู้มีรอยสักรูปงูเป็นเอกลักษณ์ที่ลำคอเสียง....ดัน ดัน ดัน ดั๊นนนน! ดังขึ้นเป็นจังหวะเดียวกับที่เขาก้าวเท้าเข้าไปในห้องน้ำ พร้อมถุงมือยางสีฟ้าที่ถูกสวมเรียบร้อยเขาหยุดยืนอยู่หน้าประตูห้องน้ำห้องหนึ่ง สูดหายใจลึกพลางพึมพำกับตัวเองว่า “ขอให้วันนี้เป็นวันที่สงบสุขด้วยเถิด~!” จากนั้นก็ยกป้าย “กําลังทําความสะอาด” มาวางไว้หน้าทางเข้า ก่อนจะลงมือปฏิบัติหน้าที่อันทรงเกียรติของตน การขจัดความสกปรกและร่องรอยแห่งความบาปหนาที่ใครบางคนทิ้งไว้...ตามนิสัยแล้ว เขามักจะทำความสะอาดเป็นวงกลม เริ่มจากรอบนอก ไล่เก็บกวาดทีละห้องจนกระทั่งถึง ห้องกลางที่สุด—ห้องที่มักมีเรื่องน่าสนใจที่สุดรออยู่เสมอ และวันนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังจริง ๆทันทีที่ประตูห้องน้ำเปิดออก...“ดัน ดัน ดัน ดั๊นนนน!” ดนตรีพุ่งขึ้นสูงอย่างมีชั้นเชิงพอดีกับที่เขากวาดสายตาลงต่ำ แล้วพบกับ...— ของเหลวสีขาวขุ่นปริศนา ที่กระจัดกระจายบนฝาชักโครก— กางเกงชั้นในสีชมพูอ่อน ที่ถูกขยำและโยนทิ้งลงถังขยะราวกับหลักฐานที่ต้องกำจัดอ
七十一เสียงครางถูกกลืนลงไปในลำคอ...ถังหูลู่รีบใช้มือปิดปากแน่นด้วยความกังวล หวาดหวั่น และเสียวซ่านที่ท่วมท้นอย่างถึงที่สุด เธอถึงจุดสุดยอดในวินาทีแห่งความลุ้นระทึกนั้น!ร่างกายกระตุกไหวอย่างรุนแรง ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างออกมาจากร่องรักสีชมพูหวานที่แดงระเรื่อนั้น พร้อมกับหยาดน้ำแห่งความสุขสมที่พุ่งกระฉูดอย่างท่วมท้น!ขณะเดียวกันนั้นเอง หยวนหลงเองก็กระแทกแรงสุดท้ายด้วยความหนักหน่วง ปล่อยให้ท่อนเนื้อพุ่งทะยานเข้าไปลึกสุดหยั่ง กระทั่งกระทบชนเข้ากับปากมดลูกของเธออีกหน ‘เสียวจนแทบบ้า! แต่ครางออกมาไม่ได้...มันโคตรจะทรมานเลย!’‘เป็นจังหวะที่เข้าได้เข้าเข็มเกินไปแล้ว! ทำนอกบ้านมันเสี่ยงมากเลยจริง ๆ !’ร่างหนาเกร็งแน่น ระเบิดความต้องการที่อัดแน่นอยู่ภายในออกมา ปลดปล่อยทุกสิ่งทุกอย่างไปพร้อมกันกับเธอ ‘เสียว! ...เสียว! ... เสียว! เสียวฉิบหายเลยยย~!!’ท่อนเนื้อของเขาที่อยู่ในท้องน้อยของเธอดิ้นพล่านอย่างหนัก ทำให้เธอยิ่งเสียดเสียวและร้อนวูบวาบราวกับถูกไปเผา เขาเองก็ไม่ต่างกัน...‘อาหมวยตอดแรงเป็นบ้าเลย...นี่เธอกะจะบดโคยเราให้ขาดออกจากกันเลยรึไง!?’ร่องเนื้อของถังหูลู่ขมิบเข้าหากัน หมายจะปิดช่องว่า
七十“คิดไปเองรึเปล่า...” เพื่อนชายร่างท้วมถามพลางฉี่เสร็จพอดี เขายังคงสงสัยในสิ่งที่เพื่อนได้ยิน“เสียงเหมือนคนกำลังเอากันในห้องน้ำยังไงอย่างงั้นเลย...” ชายผมแดงพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งตื่นเต้นและสงสัย หัวใจของเขาเต้นแรงราวกับกำลังจะกระเด็นออกจากอก เขาสังเกตไปรอบ ๆ และพบว่ามีเพียงห้องส้วมห้องกลางเท่านั้นที่มีคนอยู่ ด้วยความคาดหวังและความลุ้นระทึก—เขาจึงก้มลงมองช่องว่างด้านล่างประตู“เจออะไรไหม?” ชายร่างท้วมถามพลางรูดซิปกางเกงขึ้นภาพที่ชายผมแดงเห็นแทนที่จะเป็นเท้าสองคู่ กลับเป็นเท้าซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของผู้ชายเพียงคู่เดียวกำลังยืนอยู่... เขาหายใจเฮือกเบา ๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่ทั้งผิดหวังและขบขัน “ไม่...กูคงคิดไปเองแหละ...”ชายร่างท้วมพยักหน้าแล้วเดินไปล้างมือตามเพื่อน เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทั้งขบขันและชวนคิด “คนในห้องนั้นอาจจะกำลังดูหนังโป๊อยู่ก็ได้...”คำพูดของเพื่อนทำให้ชายผมแดงหัวเราะลั่น “ฮ่ะฮ่า...ถ้าเป็นงั้นก็พอเข้าใจได้...แต่ช่างมัน...ช่างมัน...ไปหาอะไรกินกันดีกว่า...” เขากล่าวอย่างยิ้มแย้ม แม้จะไม่สามารถพิสูจน์ความจริงให้เป็นดังหวัง แต่เขาก็รู้สึกดีที่มีเพื่อนอยู่ข้าง ๆ ว
六十九อุณหภูมิร่างกายของทั้งคู่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ เหงื่อไคลไหลอาบร่าง กลิ่นตัวที่ฟุ้งกระจายผสานกันอย่างลงตัว เร้าอารมณ์ให้แก่กันและกันจนแทบหยุดไม่อยู่ คนหนึ่งมีกลิ่นที่ทำให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย ในขณะที่อีกคนมีกลิ่นที่หอมละมุนน่าลิ้มลอง....บรรยากาศรอบตัวอบอ้าวและหนักหน่วง เหมือนพายุที่กำลังจะถาโถมเข้ามา ท่วงท่าของทั้งคู่ผสานกันอย่างลงตัว ราวกับการเต้นรำที่เต็มไปด้วยความปรารถนาและความเร่าร้อน“ปากกล้าขึ้นเยอะเลยนะ...” หยวนหลงกระซิบด้วยน้ำเสียงทุ้มห้าวอีกครั้ง มือของเขาค่อย ๆ บีบคอเธอแรงขึ้น ทุกนิ้วมือที่จมลงไปบนเนื้อหนังเหมือนกำลังส่งผ่านความปรารถนาที่เข้มข้นและความหมั่นไส้ที่เขามีต่อเธอไปยังก้นบึ้งของจิตใจเขาต้องการทำให้เธอรู้ว่าเขาควบคุมเธอได้ทุกอย่าง แม้แต่ลมหายใจของเธอเอง...ลมหายใจของถังหูลู่เริ่มติดขัด เธอรู้สึกเหมือนอากาศรอบตัวถูกดูดออกไปทีละน้อย แต่สายตาของเธอยังคงท้าทาย ไม่ยอมแพ้อะไรง่าย ๆ ‘อา...การโดนบีบคอและโดนกระแทกไปด้วยแบบนี้เนี่ย...มันโคตรที่จะฟินเลย!’ความรู้สึกสุขสมท่ามกลางความเจ็บปวดที่พรั่งพรู ทำให้ถังหูลู่รู้จักรสนิยมทางเพศของตัวเองมากยิ่งขึ้น‘ดูเหมือนว่าเราจะชอบใ
六十八เสียงสะอื้นแผ่วเบาของอาหมวยกรีดลึกเข้าไปในโสตประสาท ราวกับเปลวไฟที่โหมกระพือเชื้อเพลิงในก้นบึ้งของหัวใจ หยวนหลงพยายามระงับความรู้สึกอันเร่าร้อนที่กำลังปะทุ แต่กลับพบว่ามันยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นทุกครั้งที่ได้ยินเสียงสั่นเครือของเธอเมื่ออยู่ในโรงหนัง เสียงนั้นอาจถูกกลืนไปกับบรรยากาศรอบข้าง แต่ที่นี่… ในห้วงเวลานี้ ทุกถ้อยคำ ทุกเสียงหายใจ กลับดังชัดเจนจนแทบสะท้อนก้องอยู่ในหัว หยวนหลงรู้สึกเหมือนตัวเองกำลังจะถูกแรงปรารถนาครอบงำ เขาเร่งเร้าตัวเอง กระชากร่างเธอเข้าหาตัวดุดันยิ่งขึ้นเรื่อย ๆ !ตับ! ตับ! ตับ!เสียงเนื้อกระทบกันดังกึกก้อง หลอมรวมกับเสียงครางและลมหายใจที่ร้อนระอุ พื้นห้องเหมือนสั่นสะเทือนตามแรงอารมณ์ที่โหมกระหน่ำ“เฮีย...เฮียหลง...หนูจะ...หนูจะ...หนูจะไม่ไหวแล้ว!”เสียงของถังหูลู่แผ่วเบา ทว่ากลับเปี่ยมไปด้วยแรงดึงดูดที่ยากจะต้านทาน ไหล่ของเธอตึงแน่นจนเจ็บจากแรงดึงของเขา และแขนของเธอก็ปวดร้าว จากการที่เขาบีบแน่นและยื้อยุดอย่างรุนแรง แม้จะดูโหดร้ายแต่มันกลับเร้าใจทั้งคู่จนไม่มีใครคิดที่จะหยุด!หยวนหลงจ้องมองเธอ ดวงตาทอประกายร้อนแรงราวกับเปลวเพลิงที่พร้อมจะแผดเผาทุกสิ่ง “เสร็
六十七ณ ห้องน้ำชายใกล้โรงภาพยนตร์ภายในห้องส้วมคับแคบที่ถูกปิดล็อกเอาไว้ เสียงลมหายใจแผ่วกระเส่าเจือปนอยู่กับความเงียบสงัดที่ถูกขับเน้นด้วยเสียงฝีเท้าจากผู้คนภายนอก ราวกับโลกภายนอกกำลังดำเนินไปตามปกติ ขณะที่ภายในนี้กำลังลุกโชนด้วยไฟปรารถนาที่ควบคุมไม่อยู่กางเกงชั้นในสีชมพูอ่อนถูกทิ้งลงกับพื้น หล่นอยู่ใกล้กับฐานชักโครก เป็นหลักฐานของความเร่าร้อนที่กำลังเกิดขึ้น...ถังหูลู่กัดริมฝีปากแน่น ใบหน้าแดงซ่านดั่งกลีบดอกไม้ที่ผลิบานท่ามกลางไอแดด ความตื่นเต้นผสมความกลัวเล่นตลกกับจังหวะหัวใจของเธอ แต่น่าแปลกที่มันไม่ได้ทำให้เธอหวาดหวั่น—ตรงกันข้าม มันกลับทำให้เธอรู้สึกมีชีวิตชีวา‘ตื่นเต้นดีจัง...ครั้งก่อนในห้องลองเสื้อ...เมื่อกี้ในโรงหนัง...แล้วตอนนี้ก็เป็นในห้องน้ำชาย...อา...เรานี่มันร่านได้ใจจริง ๆ ’ เธอครุ่นคิดในใจ ราวกับกำลังค้นพบด้านที่ซ่อนเร้นของตัวเองหยวนหลงมองถังหูลู่ด้วยแววตาที่ลุกวาว ถกเสื้อเชิ้ตนักศึกษาของเธอขึ้น เพื่อชื่นชมแผ่นหลังขาวเนียนแสนบอบบางนี้ที่สะท้อนเข้ากับแสงไฟสลัวจนดูราวกับต้องมนต์สะกด ‘อา...ในที่สุดเราก็ได้ลองอะไรแบบนี้...นี่มันสนุกจริง ๆ ...แถมอาหมวยก็ยังกล้ากว่าที่เรา