บทที่ 17 คนมาใหม่เมื่อคืนเยว่หรูเข้ามานอนในมิติบ้าน เพื่อเตรียมสิ่งของที่จะได้ทำอาหารในตอนเช้า เช้านี้เลยมีทั้งกับข้าวที่เป็นไข่ม้วน กับข้าวสวยร้อน ๆ และมีกระดูกหมูตุ๋นยาจีน เตรียมนมอุ่น ๆ และต้มยาสมุนไพรด้วย ตอนนี้ยังหาข้ออ้างไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าจะบอกว่าเอาสิ่งของพวกนี้มาจากไหน ต้องรอกลับจากโรงพยาบาลแล้วค่อยบอกเป็นค่าตอบแทน เพราะวันนี้เธอมีไปฝึกงานที่โรงพยาบาลส่วนมื้อเช้ามีแบบไหนก็คงต้องกินแบบนั้นไปก่อน ถึงจะอยากให้ทุกคนได้กินอาหารดี ๆ แต่หากไม่ระวัง... ความลับที่ต้องการปกปิดมันจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป แล้วหากมันไม่ได้เป็นความลับ เรื่องที่เธอปิดบังทั้งหมดก็อาจถูกเปิดเผย... คนมีความลับเยอะอย่างเยว่หรูเลยต้องทำทุกอย่างให้แนบเนียน...ในโลกนี้ยุคนี้... กินดีอยู่ดีมากไปก็ไม่ดี... แต่หากหาที่มาที่ไปได้ก็ไม่มีปัญหา... รอให้เธอรู้ผลว่าผ่านการทดสอบเสียก่อน... เธอยังสามารถบอกว่าทุกอย่างที่ได้มาคือสิ่งของสนับสนุน แต่หากเธอไม่ผ่าน... ค่อยคิดหาวิธีอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร...เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เยว่หรูก็เข้าไปอาบน้ำทาครีมบำรุง... ทำทุกอย่างแบบที่เคยทำในโลกเดิม ยังดีที่เครื่องสำอางที่ใช้..
บทที่ 18 หานหรงอี้จางหยวนขอตัวจากกลุ่มคนมาใหม่และหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อจะได้รีบไปส่งลูกสาวแล้วไปทำธุระของเขาให้เรียบร้อย และที่เขารีบขอตัวออกมาเพราะเห็นกลุ่มคนมาใหม่มองลูกสาวของเขาไม่วางตาเลย ทั้งที่ลูกสาวเขายืนอยู่ด้านหลัง แต่ทุกคนก็ดูจะสนใจลูกสาวของเขา ทางที่ดีต้องรีบออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุดหานหรงอี้ มองตามคนตัวเล็กกับพ่อเดินไปจนสุดสายตา ทั้งที่คนตัวเล็กไม่ยอมหันมาทักทายหรือยิ้มแย้ม มันยิ่งทำให้เขาสนใจมากกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเด็กสาวจะชอบคนที่มียศมีตำแหน่งหรอกหรือ การมาของพวกเขานั้นไม่ใช่ความลับ ยังไงสาวน้อยคงจะพอรู้ หากบอกว่าหลบเพราะเขินอายก็ไม่น่าจะใช่ เพราะสายตาที่ใช้มองพวกเขานั้นเหมือนรังเกียจมากกว่า"นายครับ เราต้องไปให้ทันเวลาหมอนัดนะครับ" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาหานายที่ไม่สนใจจะไปโรงพยาบาลตามที่หมอนัดเลย"จะรีบไปไหน โรงพยาบาลก็อยู่แค่นี้ ไม่ต้องตามกันมาเยอะแยะ กลับไปดูคนงานได้แล้ว" หานหรงอี้บอกลูกน้องที่ตามมาเป็นพรวน ทั้งที่อาการเขาดีขึ้นแล้ว เดินเหินได้เหมือนเดิม แต่คนพวกนี้ก็ยังจะตามติดเขาอยู่นั่นแหละ"นายมองสาวน้อยคนนั้นหรือกำลังชื่นชมธรรมชาติครับ" คนสนิทมองตามสายตาคนเป็นนาย
บทที่ 19 เรียกร้องในทุกเช้า เยว่หรูจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารบำรุงหลายอย่าง ต้มน้ำแกง ต้มยาสมุนไพรต่าง ๆ และทำอาหารหลากหลายเมนูเก็บไว้ ในทุกวันที่ไปเรียน เยว่หรูต้องเอาน้ำต้มสมุนไพรไปฝากคุณครูหมิงเว่ยเธอยังไม่สามารถให้อย่างอื่นเพื่อตอบแทนคุณครูได้ เพราะครูรู้ดีว่าครอบครัวของเธอยากจน การที่จะได้กินหรือมีสิ่งของดี ๆ นั้นมันแทบไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เมื่อมีโอกาสเธอต้องตอบแทนแน่นอนในระหว่างที่ตัวเองกำลังคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก็ทำให้เธอค่อนข้างแปลกใจ เหมือนคนไข้ที่ชื่อหานหรงอี้นั้นไม่เป็นอะไรเลย การไหลเวียนของเลือดมันไม่สมดุลและเหมือนร่างกายมีภาวะเย็นมากเกินไป แต่เธอไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ เพราะการตรวจของเธอนั้นต้องยุติก่อนที่จะตรวจเสร็จ ยังไม่ได้ดู ดม และสอบถามเลย อาจารย์ก็บอกพอก่อนและให้เธอกลับมาทำรายงานส่งเยว่หรูมองไปที่สมุดรายงานของตัวเอง ก่อนที่จะจัดเตรียมอาหารให้เรียบร้อย เมื่อวานพ่อก็ต้องเดินไปรอรับ เพราะกว่าจะออกจากโรงพยาบาลก็เริ่มเย็นแล้ว แล้วที่นี่จะมืดเร็วเสียด้วย หกโมงเย็นนี่เริ่มมืดแล้ว ทั้งที่เธออยากให้พ่อแม่พักผ่อนแต่ต้องไปรับเธอกลับ คงต้องหาวิธีอื่นรอแล้ว ไม่
บทที่ 20 ความรู้สึกไม่ต่างกันเยว่หรูเดินตามมาที่ห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนค่อนข้างเป็นส่วนตัว ส่วนมากมีแต่ญาติของคนไข้ที่เฝ้าอยู่เพียงเท่านั้น พอเยว่หรูมาถึงอาจารย์ก็เริ่มสอนสิ่งต่าง ๆ โดยที่สอนตรวจคนไข้ว่าควรตรวจแบบไหน เพื่อประหยัดเวลาและได้ผลที่แม่นยำทุกอย่างดำเนินไปอย่างดี เนื่องจากคนไข้ยอมให้ตรวจดี ๆ นอนมองนิ่ง ๆ เพียงเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไล่หมอพยาบาลออกไปทั้งหมด แต่เขากลับให้ลูกศิษย์กับอาจารย์สองคนทั้งจับพลิกดูตามร่างกายได้ตามต้องการ"อาจารย์ จากที่หนูดูไม่ใช่แค่ร่างกายอย่างเดียว หนูคิดว่าน่าจะมาจากจิตใจและความคิดด้วย" เยว่หรูสังเกตคนไข้แล้วรู้สึกว่าช่างคุ้นเคยกับอาการนี้เหลือเกิน"มีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว" อาจารย์ก็เห็นด้วยกับที่ลูกศิษย์คนล่าสุดบอกมา"เยว่หรูจะรักษาด้วยวิธีไหน เขียนรายงานมาด้วย รักษาแค่เบื้องต้นก่อน ส่วนต้องการเบิกอะไรก็สามารถใช้ญาติของคนไข้ไปจัดการได้เลย และนี่คือเอกสารที่ต้องเขียนรายละเอียดยื่นให้สมาพันธ์ มีเอกสารด้วย เตรียมมาให้พร้อมแล้วเอามาให้อาจารย์ เข้าใจไหม และหากรักษาเบื้องต้นเสร็จก็กลับบ้านได้เลย อาจารย์ต้องรีบไปประชุม" อาจารย์หม่าสั่งงาน
บทที่ 21 การทำงานและการตอบแทนวันนี้ครบอาทิตย์หนึ่งแล้วที่เยว่หรูมีมิติบ้าน ของที่เอาออกมากินมาใช้ก็ไม่มีมาเพิ่ม หมดแล้วหมดเลย แต่สิ่งนี้ก็ยังไม่แน่นอน คงต้องรอดูกันก่อนว่าจะมีมาเพิ่มไหม... ขนาดบ้านมิติกว่าจะตามเธอมาก็ใช้เวลาสามเดือน... สิ่งของก็อาจมาช้าก็ได้ใครจะไปรู้..."อยากมีเวลาอยู่ในนี้นาน ๆ จังเลย... อยากทำอะไรหลาย ๆ อย่าง" เยว่หรูพึมพำไปด้วย รดน้ำผักผลไม้ในเรือนเพาะชำไปด้วยความลับก็ต้องปกปิด... แต่ก็อยากให้ครอบครัวได้กินของดี ๆ จะต้องงัดสารพัดข้ออ้างออกมา แต่พอถึงวันเสาร์วันอาทิตย์ก็กินอาหารที่มีอยู่ในบ้าน ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรเพราะไม่ได้ไปโรงเรียนยังดีที่ว่าในมิติบ้านมีอุปกรณ์เครื่องครัวหลากหลาย อะไรที่คนรีวิวว่าดี เยว่หรูก็รีบซื้อหามาทันที ติ๊กต๊อกว่าดี... เยว่หรูก็ว่าดี เครื่องปั่นละเอียดเตรียมเอาออกมาใช้งาน... ปั่นไก่ ปั่นหมู ให้ละเอียดจนมองไม่ออกว่าคืออะไร ข้าวต้มใส่หมูละเอียด โจ๊กใส่ไก่ละเอียด กระเทียมเจียวก็ตักใส่ข้าวต้มเยอะ ๆ จะได้ดับกลิ่นหมู ใช้ได้หรือเปล่าไม่รู้แต่ก็ต้องลอง สารพัดวิธีมาใช้เพื่อให้พ่อแม่อยู่ดีกินดี... ทุกอย่างก็ต้องพยายามทำให้แนบเนียนที่สุด...วันน
บทที่ 22 เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีวันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากวันเป็นเดือน... เยว่หรูก็ยังใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาทำงานทำงานบ้านช่วยแม่ ปลูกผักสมุนไพรในกระถาง ทำปุ๋ยหมักจากหญ้าและใบไม้แห้ง ตอนบ่ายไปทำงานที่โรงพยาบาล ตอนนี้เธอไม่ต้องไปเรียนในช่วงเช้าเหมือนแต่ก่อน เพราะเธอสอบเทียบจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว เยว่หรูไม่ลืมบุญคุณของคุณครูหมิงเว่ย เธอจะแวะเวียนเอาสิ่งของต่าง ๆ ไปให้คุณครู ไม่ว่าจะเป็นอาหารและยารักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งเธอจะบอกว่าทุกอย่างที่ได้มานั้น... คือสวัสดิการที่ทางสมาพันธ์ให้มาเยว่หรูทำงานไร้ตำแหน่งมาเดือนหนึ่งแล้ว แต่เธอก็ได้ค่าตอบแทนจากทางสมาพันธ์เช่นกัน อาจารย์หม่ายังจ่ายเงินเดือนให้ แต่ยังไม่เท่าคนที่เป็นแพทย์เต็มตัว เงินเดือนแพทย์เริ่มต้นที่ 70 หยวนต่อเดือน แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือศาสตราจารย์จะอยู่ที่ 280-380 หยวนต่อเดือน เงินเดือนจะลดหย่อนลงมาตามตำแหน่ง เดือนแรกเยว่หรูได้ 50 หยวน ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมากสำหรับเยว่หรู แล้วยังได้คูปองรายเดือนรายปีอีกด้วยเงินเดือนแพทย์ถือว่าสูงมาก หากเปรียบเทียบกับอาชีพอื่น ถึงขั้นถูกจัดให้อาชีพแพทย์ได้รับเงินเดือนอยู่ในขั้นสูงข
บทที่ 23 มัดมือชกหลังจากที่เยว่หรูเอาเอกสารเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไปให้ทางสมาพันธ์ มันทำให้เธอต้องเจอเรื่องที่ไม่คาดคิด นั่นคือ... ทางสมาพันธ์ต้องการเอกสารยืนยันการรับรองจากทางพ่อและแม่ของเธอ ที่ทำให้เยว่หรูคิดมากนั่นคือ... เธอต้องการหลีกหนีเปลี่ยนชะตานางเอกปลอม ๆ โดยการที่ไม่ต้องไปพบเจอกับพ่อที่แท้จริง ถึงเขาจะมารับเธอไปอยู่ด้วย เธอก็ไม่มีทางที่จะไปด้วยเด็ดขาด... นี่คือสิ่งที่เยว่หรูตั้งใจเอาไว้แล้วแต่หากไม่ได้เอกสารรับรองการเรียนการทำงานของเธอก็ต้องมีปัญหาตามมา... หากจำไม่ผิด เยว่หรูจะได้เจอกับนางเอกตัวจริงตอนอายุ 16 ปี ซึ่งตอนนี้เธอจะ 15 ปีแล้ว หากไปหาพ่อตอนนี้... ก็มีแนวโน้มว่าจะได้เจอ เพราะนางเอกตัวจริงคือลูกติดมากับเมียใหม่ของพ่อ หรือหากให้นับจริง ๆ ก็คือพี่สาวต่างแม่ของเธอนั่นเอง...เยว่หรูทำงานไปด้วย ใช้ความคิดที่จะหลีกหนีชะตานางเอกไปด้วย เพราะหากว่าพ่อจริง ๆ เห็นประโยชน์ เขาไม่มีทางปล่อยตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอได้เรียนแพทย์แล้ว ยิ่งจะทำให้เขาอยากได้ผลประโยชน์จากตัวเธอมากกว่าเดิม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เขาต้องหว่านล้อมเหมือนทุกครั้งที่มาเจอลูกสาวอย่างแน่นอนเมื่อเยว่หรูเริ่มที่
บทที่ 24 ผมอยากแต่งงานกับเยว่เยว่ครับตอนนี้หานหรงอี้มาอยู่ที่บ้านของคนตัวเล็ก เพื่อรอเวลาที่พ่อกับแม่ของคนตัวเล็กกลับจากเลิกงาน เขามองดูที่ดินของครอบครัวนี้ที่เต็มไปด้วยต้นกล้าของสมุนไพรที่ปลูกในกระถางไม้ไผ่สาน... ถึงแม้พื้นที่จะไม่กว้างมากนัก แต่ก็สามารถปลูกต้นไม้แบบไล่ระดับปลูกตามแนวกำแพง ถือว่าใช้พื้นที่ได้คุ้มมาก ๆ หานหรงอี้เดินดูสิ่งที่ปลูกอยู่ในแปลง ต้องแหวกต้นหญ้าแห้งออกดู... เพราะมีต้นหญ้าแห้งปกคลุมทั่วทั้งแปลงเลย เขามองดูสิ่งต่าง ๆ แต่ในหัวเขาก็คิดว่าหากแต่งงานกันแล้ว เขาคงต้องให้ลูกน้องจัดการพื้นที่ว่างเปล่าเตรียมให้คนตัวเล็ก... เขาคิดว่ายังไงคนตัวเล็กได้ใช้ที่ดินในส่วนนั้นปลูกหลายสิ่งหลายอย่างแน่นอน..."สงสัยคงต้องสร้างบ้านให้ว่าที่พ่อตาแม่ยายใหม่เสียแล้ว... " หานหรงอี้มองบ้านแล้วพึมพำเบา ๆ ที่ดูเหมือนมันจะเล็กไปสักหน่อย... ก่อนหน้านี้คนตัวเล็กขอคนให้มาสร้างกำแพงให้จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องบ้านเขาจะเสนอให้เองโดยที่คนตัวเล็กไม่ต้องเอ่ยปากขอเลยสักคำ...ทางด้านเยว่หรูที่ทำอาหารอยู่ในครัวก็นึกหมั่นไส้คนตัวโตที่ตามติดมาด้วย บอกให้มาทีหลังก็ไม่ยอม แล้วมาตอนนี้ทำให้เธอเตรี
บทที่ 25 แต่งงานเยว่หรูได้บอกถึงความจำเป็นของตัวเองให้แม่ได้ฟัง และยังบอกว่าตัวเองนั้นพึงพอใจหานหรงอี้คนนี้เป็นอย่างมากด้วย หากไม่บอกแบบนั้น มีหวังว่าพ่อกับแม่ของเธออาจไม่เห็นด้วยงานแต่งของเยว่หรูถูกจัดขึ้น... เป็นงานที่แสนเรียบง่ายในแบบที่เยว่หรูต้องการ ถึงจะทำให้เจ้าบ่าวไม่ค่อยพอใจมากนัก แต่ก็ต้องยอมตามใจเธอ แต่เขาต้องการดูวันเวลาฤกษ์ยาม เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันยาวนาน เยว่หรูก็ยอมตามที่เขาเห็นควรในส่วนของสินสอด พ่อกับแม่ของเธอนั้นไม่ได้เรียกร้อง ให้ทางเจ้าบ่าวเห็นแก่สมควรว่าจะจัดอะไรมาบ้าง เนื่องจากเจ้าบ่าวนั้นเป็นที่นับหน้าถือตาของคนที่นี่ จึงทำให้เยว่หรูหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่แขกส่วนมากจะอยู่บ้านเจ้าบ่าว... ส่วนฝั่งเจ้าสาวนั้นมีคุณครูหมิงเว่ยกับภรรยาและญาติของพ่อที่เยว่หรูไม่อยากเต็มใจเชิญ แต่ก็ขัดไม่ได้ เพราะเห็นแก่หน้าพ่อ ที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้อย่างไรอย่างนั้น"เยว่หรู หากไม่สบายใจกลับมาบ้านเราได้นะลูก อย่าอดทน บ้านเรายังมี" จางหยวนรู้ว่าไม่ควรบอกแบบนั้น แต่เขาไม่อยากให้ใครมารังแกลูกสาวของเขา"อย่าบอกลูกแบบนั้น... ควรอวยพรลูก" ลู่หลินมองลูกสาวที่แต่งตัวเสร็จแล้
บทที่ 24 ผมอยากแต่งงานกับเยว่เยว่ครับตอนนี้หานหรงอี้มาอยู่ที่บ้านของคนตัวเล็ก เพื่อรอเวลาที่พ่อกับแม่ของคนตัวเล็กกลับจากเลิกงาน เขามองดูที่ดินของครอบครัวนี้ที่เต็มไปด้วยต้นกล้าของสมุนไพรที่ปลูกในกระถางไม้ไผ่สาน... ถึงแม้พื้นที่จะไม่กว้างมากนัก แต่ก็สามารถปลูกต้นไม้แบบไล่ระดับปลูกตามแนวกำแพง ถือว่าใช้พื้นที่ได้คุ้มมาก ๆ หานหรงอี้เดินดูสิ่งที่ปลูกอยู่ในแปลง ต้องแหวกต้นหญ้าแห้งออกดู... เพราะมีต้นหญ้าแห้งปกคลุมทั่วทั้งแปลงเลย เขามองดูสิ่งต่าง ๆ แต่ในหัวเขาก็คิดว่าหากแต่งงานกันแล้ว เขาคงต้องให้ลูกน้องจัดการพื้นที่ว่างเปล่าเตรียมให้คนตัวเล็ก... เขาคิดว่ายังไงคนตัวเล็กได้ใช้ที่ดินในส่วนนั้นปลูกหลายสิ่งหลายอย่างแน่นอน..."สงสัยคงต้องสร้างบ้านให้ว่าที่พ่อตาแม่ยายใหม่เสียแล้ว... " หานหรงอี้มองบ้านแล้วพึมพำเบา ๆ ที่ดูเหมือนมันจะเล็กไปสักหน่อย... ก่อนหน้านี้คนตัวเล็กขอคนให้มาสร้างกำแพงให้จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องบ้านเขาจะเสนอให้เองโดยที่คนตัวเล็กไม่ต้องเอ่ยปากขอเลยสักคำ...ทางด้านเยว่หรูที่ทำอาหารอยู่ในครัวก็นึกหมั่นไส้คนตัวโตที่ตามติดมาด้วย บอกให้มาทีหลังก็ไม่ยอม แล้วมาตอนนี้ทำให้เธอเตรี
บทที่ 23 มัดมือชกหลังจากที่เยว่หรูเอาเอกสารเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไปให้ทางสมาพันธ์ มันทำให้เธอต้องเจอเรื่องที่ไม่คาดคิด นั่นคือ... ทางสมาพันธ์ต้องการเอกสารยืนยันการรับรองจากทางพ่อและแม่ของเธอ ที่ทำให้เยว่หรูคิดมากนั่นคือ... เธอต้องการหลีกหนีเปลี่ยนชะตานางเอกปลอม ๆ โดยการที่ไม่ต้องไปพบเจอกับพ่อที่แท้จริง ถึงเขาจะมารับเธอไปอยู่ด้วย เธอก็ไม่มีทางที่จะไปด้วยเด็ดขาด... นี่คือสิ่งที่เยว่หรูตั้งใจเอาไว้แล้วแต่หากไม่ได้เอกสารรับรองการเรียนการทำงานของเธอก็ต้องมีปัญหาตามมา... หากจำไม่ผิด เยว่หรูจะได้เจอกับนางเอกตัวจริงตอนอายุ 16 ปี ซึ่งตอนนี้เธอจะ 15 ปีแล้ว หากไปหาพ่อตอนนี้... ก็มีแนวโน้มว่าจะได้เจอ เพราะนางเอกตัวจริงคือลูกติดมากับเมียใหม่ของพ่อ หรือหากให้นับจริง ๆ ก็คือพี่สาวต่างแม่ของเธอนั่นเอง...เยว่หรูทำงานไปด้วย ใช้ความคิดที่จะหลีกหนีชะตานางเอกไปด้วย เพราะหากว่าพ่อจริง ๆ เห็นประโยชน์ เขาไม่มีทางปล่อยตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอได้เรียนแพทย์แล้ว ยิ่งจะทำให้เขาอยากได้ผลประโยชน์จากตัวเธอมากกว่าเดิม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เขาต้องหว่านล้อมเหมือนทุกครั้งที่มาเจอลูกสาวอย่างแน่นอนเมื่อเยว่หรูเริ่มที่
บทที่ 22 เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีวันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากวันเป็นเดือน... เยว่หรูก็ยังใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาทำงานทำงานบ้านช่วยแม่ ปลูกผักสมุนไพรในกระถาง ทำปุ๋ยหมักจากหญ้าและใบไม้แห้ง ตอนบ่ายไปทำงานที่โรงพยาบาล ตอนนี้เธอไม่ต้องไปเรียนในช่วงเช้าเหมือนแต่ก่อน เพราะเธอสอบเทียบจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว เยว่หรูไม่ลืมบุญคุณของคุณครูหมิงเว่ย เธอจะแวะเวียนเอาสิ่งของต่าง ๆ ไปให้คุณครู ไม่ว่าจะเป็นอาหารและยารักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งเธอจะบอกว่าทุกอย่างที่ได้มานั้น... คือสวัสดิการที่ทางสมาพันธ์ให้มาเยว่หรูทำงานไร้ตำแหน่งมาเดือนหนึ่งแล้ว แต่เธอก็ได้ค่าตอบแทนจากทางสมาพันธ์เช่นกัน อาจารย์หม่ายังจ่ายเงินเดือนให้ แต่ยังไม่เท่าคนที่เป็นแพทย์เต็มตัว เงินเดือนแพทย์เริ่มต้นที่ 70 หยวนต่อเดือน แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือศาสตราจารย์จะอยู่ที่ 280-380 หยวนต่อเดือน เงินเดือนจะลดหย่อนลงมาตามตำแหน่ง เดือนแรกเยว่หรูได้ 50 หยวน ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมากสำหรับเยว่หรู แล้วยังได้คูปองรายเดือนรายปีอีกด้วยเงินเดือนแพทย์ถือว่าสูงมาก หากเปรียบเทียบกับอาชีพอื่น ถึงขั้นถูกจัดให้อาชีพแพทย์ได้รับเงินเดือนอยู่ในขั้นสูงข
บทที่ 21 การทำงานและการตอบแทนวันนี้ครบอาทิตย์หนึ่งแล้วที่เยว่หรูมีมิติบ้าน ของที่เอาออกมากินมาใช้ก็ไม่มีมาเพิ่ม หมดแล้วหมดเลย แต่สิ่งนี้ก็ยังไม่แน่นอน คงต้องรอดูกันก่อนว่าจะมีมาเพิ่มไหม... ขนาดบ้านมิติกว่าจะตามเธอมาก็ใช้เวลาสามเดือน... สิ่งของก็อาจมาช้าก็ได้ใครจะไปรู้..."อยากมีเวลาอยู่ในนี้นาน ๆ จังเลย... อยากทำอะไรหลาย ๆ อย่าง" เยว่หรูพึมพำไปด้วย รดน้ำผักผลไม้ในเรือนเพาะชำไปด้วยความลับก็ต้องปกปิด... แต่ก็อยากให้ครอบครัวได้กินของดี ๆ จะต้องงัดสารพัดข้ออ้างออกมา แต่พอถึงวันเสาร์วันอาทิตย์ก็กินอาหารที่มีอยู่ในบ้าน ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรเพราะไม่ได้ไปโรงเรียนยังดีที่ว่าในมิติบ้านมีอุปกรณ์เครื่องครัวหลากหลาย อะไรที่คนรีวิวว่าดี เยว่หรูก็รีบซื้อหามาทันที ติ๊กต๊อกว่าดี... เยว่หรูก็ว่าดี เครื่องปั่นละเอียดเตรียมเอาออกมาใช้งาน... ปั่นไก่ ปั่นหมู ให้ละเอียดจนมองไม่ออกว่าคืออะไร ข้าวต้มใส่หมูละเอียด โจ๊กใส่ไก่ละเอียด กระเทียมเจียวก็ตักใส่ข้าวต้มเยอะ ๆ จะได้ดับกลิ่นหมู ใช้ได้หรือเปล่าไม่รู้แต่ก็ต้องลอง สารพัดวิธีมาใช้เพื่อให้พ่อแม่อยู่ดีกินดี... ทุกอย่างก็ต้องพยายามทำให้แนบเนียนที่สุด...วันน
บทที่ 20 ความรู้สึกไม่ต่างกันเยว่หรูเดินตามมาที่ห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนค่อนข้างเป็นส่วนตัว ส่วนมากมีแต่ญาติของคนไข้ที่เฝ้าอยู่เพียงเท่านั้น พอเยว่หรูมาถึงอาจารย์ก็เริ่มสอนสิ่งต่าง ๆ โดยที่สอนตรวจคนไข้ว่าควรตรวจแบบไหน เพื่อประหยัดเวลาและได้ผลที่แม่นยำทุกอย่างดำเนินไปอย่างดี เนื่องจากคนไข้ยอมให้ตรวจดี ๆ นอนมองนิ่ง ๆ เพียงเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไล่หมอพยาบาลออกไปทั้งหมด แต่เขากลับให้ลูกศิษย์กับอาจารย์สองคนทั้งจับพลิกดูตามร่างกายได้ตามต้องการ"อาจารย์ จากที่หนูดูไม่ใช่แค่ร่างกายอย่างเดียว หนูคิดว่าน่าจะมาจากจิตใจและความคิดด้วย" เยว่หรูสังเกตคนไข้แล้วรู้สึกว่าช่างคุ้นเคยกับอาการนี้เหลือเกิน"มีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว" อาจารย์ก็เห็นด้วยกับที่ลูกศิษย์คนล่าสุดบอกมา"เยว่หรูจะรักษาด้วยวิธีไหน เขียนรายงานมาด้วย รักษาแค่เบื้องต้นก่อน ส่วนต้องการเบิกอะไรก็สามารถใช้ญาติของคนไข้ไปจัดการได้เลย และนี่คือเอกสารที่ต้องเขียนรายละเอียดยื่นให้สมาพันธ์ มีเอกสารด้วย เตรียมมาให้พร้อมแล้วเอามาให้อาจารย์ เข้าใจไหม และหากรักษาเบื้องต้นเสร็จก็กลับบ้านได้เลย อาจารย์ต้องรีบไปประชุม" อาจารย์หม่าสั่งงาน
บทที่ 19 เรียกร้องในทุกเช้า เยว่หรูจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารบำรุงหลายอย่าง ต้มน้ำแกง ต้มยาสมุนไพรต่าง ๆ และทำอาหารหลากหลายเมนูเก็บไว้ ในทุกวันที่ไปเรียน เยว่หรูต้องเอาน้ำต้มสมุนไพรไปฝากคุณครูหมิงเว่ยเธอยังไม่สามารถให้อย่างอื่นเพื่อตอบแทนคุณครูได้ เพราะครูรู้ดีว่าครอบครัวของเธอยากจน การที่จะได้กินหรือมีสิ่งของดี ๆ นั้นมันแทบไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เมื่อมีโอกาสเธอต้องตอบแทนแน่นอนในระหว่างที่ตัวเองกำลังคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก็ทำให้เธอค่อนข้างแปลกใจ เหมือนคนไข้ที่ชื่อหานหรงอี้นั้นไม่เป็นอะไรเลย การไหลเวียนของเลือดมันไม่สมดุลและเหมือนร่างกายมีภาวะเย็นมากเกินไป แต่เธอไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ เพราะการตรวจของเธอนั้นต้องยุติก่อนที่จะตรวจเสร็จ ยังไม่ได้ดู ดม และสอบถามเลย อาจารย์ก็บอกพอก่อนและให้เธอกลับมาทำรายงานส่งเยว่หรูมองไปที่สมุดรายงานของตัวเอง ก่อนที่จะจัดเตรียมอาหารให้เรียบร้อย เมื่อวานพ่อก็ต้องเดินไปรอรับ เพราะกว่าจะออกจากโรงพยาบาลก็เริ่มเย็นแล้ว แล้วที่นี่จะมืดเร็วเสียด้วย หกโมงเย็นนี่เริ่มมืดแล้ว ทั้งที่เธออยากให้พ่อแม่พักผ่อนแต่ต้องไปรับเธอกลับ คงต้องหาวิธีอื่นรอแล้ว ไม่
บทที่ 18 หานหรงอี้จางหยวนขอตัวจากกลุ่มคนมาใหม่และหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อจะได้รีบไปส่งลูกสาวแล้วไปทำธุระของเขาให้เรียบร้อย และที่เขารีบขอตัวออกมาเพราะเห็นกลุ่มคนมาใหม่มองลูกสาวของเขาไม่วางตาเลย ทั้งที่ลูกสาวเขายืนอยู่ด้านหลัง แต่ทุกคนก็ดูจะสนใจลูกสาวของเขา ทางที่ดีต้องรีบออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุดหานหรงอี้ มองตามคนตัวเล็กกับพ่อเดินไปจนสุดสายตา ทั้งที่คนตัวเล็กไม่ยอมหันมาทักทายหรือยิ้มแย้ม มันยิ่งทำให้เขาสนใจมากกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเด็กสาวจะชอบคนที่มียศมีตำแหน่งหรอกหรือ การมาของพวกเขานั้นไม่ใช่ความลับ ยังไงสาวน้อยคงจะพอรู้ หากบอกว่าหลบเพราะเขินอายก็ไม่น่าจะใช่ เพราะสายตาที่ใช้มองพวกเขานั้นเหมือนรังเกียจมากกว่า"นายครับ เราต้องไปให้ทันเวลาหมอนัดนะครับ" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาหานายที่ไม่สนใจจะไปโรงพยาบาลตามที่หมอนัดเลย"จะรีบไปไหน โรงพยาบาลก็อยู่แค่นี้ ไม่ต้องตามกันมาเยอะแยะ กลับไปดูคนงานได้แล้ว" หานหรงอี้บอกลูกน้องที่ตามมาเป็นพรวน ทั้งที่อาการเขาดีขึ้นแล้ว เดินเหินได้เหมือนเดิม แต่คนพวกนี้ก็ยังจะตามติดเขาอยู่นั่นแหละ"นายมองสาวน้อยคนนั้นหรือกำลังชื่นชมธรรมชาติครับ" คนสนิทมองตามสายตาคนเป็นนาย
บทที่ 17 คนมาใหม่เมื่อคืนเยว่หรูเข้ามานอนในมิติบ้าน เพื่อเตรียมสิ่งของที่จะได้ทำอาหารในตอนเช้า เช้านี้เลยมีทั้งกับข้าวที่เป็นไข่ม้วน กับข้าวสวยร้อน ๆ และมีกระดูกหมูตุ๋นยาจีน เตรียมนมอุ่น ๆ และต้มยาสมุนไพรด้วย ตอนนี้ยังหาข้ออ้างไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าจะบอกว่าเอาสิ่งของพวกนี้มาจากไหน ต้องรอกลับจากโรงพยาบาลแล้วค่อยบอกเป็นค่าตอบแทน เพราะวันนี้เธอมีไปฝึกงานที่โรงพยาบาลส่วนมื้อเช้ามีแบบไหนก็คงต้องกินแบบนั้นไปก่อน ถึงจะอยากให้ทุกคนได้กินอาหารดี ๆ แต่หากไม่ระวัง... ความลับที่ต้องการปกปิดมันจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป แล้วหากมันไม่ได้เป็นความลับ เรื่องที่เธอปิดบังทั้งหมดก็อาจถูกเปิดเผย... คนมีความลับเยอะอย่างเยว่หรูเลยต้องทำทุกอย่างให้แนบเนียน...ในโลกนี้ยุคนี้... กินดีอยู่ดีมากไปก็ไม่ดี... แต่หากหาที่มาที่ไปได้ก็ไม่มีปัญหา... รอให้เธอรู้ผลว่าผ่านการทดสอบเสียก่อน... เธอยังสามารถบอกว่าทุกอย่างที่ได้มาคือสิ่งของสนับสนุน แต่หากเธอไม่ผ่าน... ค่อยคิดหาวิธีอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร...เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เยว่หรูก็เข้าไปอาบน้ำทาครีมบำรุง... ทำทุกอย่างแบบที่เคยทำในโลกเดิม ยังดีที่เครื่องสำอางที่ใช้..