Home / รักโบราณ / 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก / บทที่ 14 เริ่มทำแบบทดสอบ

Share

บทที่ 14 เริ่มทำแบบทดสอบ

last update Last Updated: 2025-01-06 22:50:57

บทที่ 14 เริ่มทำแบบทดสอบ

แบบทดสอบที่เยว่หรูได้รับมีทั้งหมดสองฉบับ... หนึ่งฉบับเป็นแบบทดสอบเกี่ยวกับความรู้สมุนไพรเบื้องต้น แบบที่สองคือการรักษาขั้นพื้นฐานของแพทย์แผนจีน... แบบทดสอบต้องตอบเป็นข้อเขียนทั้งหมด หรือก็คืออัตนัยนั่นเอง...

ถึงแม้ว่าเยว่หรูจะเป็นแพทย์แผนจีนมาก่อน แต่ก็ยังไม่วางใจ เพราะสิ่งที่เธอถนัดและคุ้นเคยนั้น... เป็นความรู้และการรักษาแบบโลกเดิม คือปี 2020 มันคือการรักษาแบบประยุกต์ มีการรักษาแผนปัจจุบันเข้ามาร่วมด้วย หากทดสอบโดยให้รักษาจะไม่มีปัญหาเพราะเธอเคยทำมาแล้ว แต่การทดสอบตอนนี้นั้น... ต้องตอบตามแบบหนังสือ พลิกแพลงมากไม่ได้ เลยทำให้เยว่หรูใช้เวลาในการทดสอบเรื่องการรักษาด้วยสมุนไพรค่อนข้างนาน

ทำแบบทดสอบได้... แต่ไม่รู้จะผ่านไหม ต้องรอดูอย่างเดียว มั่นใจมากไม่ดี... จงรู้ไว้ว่าในหนังสือเรียนกับสถานการณ์จริงแตกต่างกันมาก แล้วคนที่เรียนจบมาจนทำงานแล้วแบบเธอ... บางอย่างในหนังสือเรียนที่ไม่ค่อยได้ใช้ก็หลงลืมเป็นธรรมดา และที่สำคัญหนังสือเรียนแพทย์แผนจีนของที่นี่ก็ไม่ค่อยมีให้อ่านมากนัก

"เสร็จแล้วค่ะ" เยว่หรูยื่นเอกสารให้คุณตา ก่อนจะมานั่งรอและมองทุกอย่างรอบ ๆ ตัว เหมือนที่นี่ไม่ค่อยมีคนมากนัก หรืออาจไปประจำตามโรงพยาบาล ตามคลินิกแพทย์ของคอมมูน หรืออีกชื่อหนึ่งที่คนเรียกคือสถานีแพทย์ เพราะนโยบายของรัฐบาลจะต้องมีสถานีแพทย์ประจำคอมมูน ประจำโรงงานอุตสาหกรรม ต้องบอกว่าทุกสถานที่ต้องมีสถานีแพทย์ 

"ทำไมถึงเลือกมาสมัครเป็นผู้ช่วย หากพอรู้เรื่องสมุนไพรและการรักษาบ้างสามารถฝึกเป็นหมอเท้าเปล่าได้เลย หากทำงานก็สามารถมีเงินเดือนได้เลย การมาเป็นผู้ช่วยไม่ใช่ว่าจะได้เงินเดือนเลย" เขามองเด็กสาวที่ตัวเล็กและดูเด็กกว่าอายุที่แจ้งมาเสียอีก จากการที่ตรวจดูกระดาษคำตอบคร่าว ๆ ต้องยอมรับว่าเด็กคนนี้มีความรู้มากพอสมควร เหลือแค่ทดสอบภาคปฏิบัติเท่านั้นที่ยังไม่รู้ว่าจะทำออกมาได้หรือเปล่า

"เพราะหนูอยากมีใบประกอบวิชาชีพจากสมาพันธ์ค่ะ มันง่ายต่อการทำงานไม่ว่าจะย้ายไปอยู่ไหน หนูก็ยังสามารถทำงานนี้ได้โดยไม่ต้องยื่นขอใหม่ค่ะ" เยว่หรูตอบไปตามความจริง การสมัครเป็นผู้ช่วยคือก้าวแรกเพียงเท่านั้น ในเมื่อยังไม่ถึงเวลาการสอบชิงทุน ก็มาฝึกมือและมาเพื่อที่จะได้โอกาสด้วยเช่นกัน

"หากเข้าใจไม่ผิด... นี่คือก้าวแรก จริง ๆ แล้วหนูอยากเป็นหมอใช่ไหม" พอจะรู้แต่ก็ถามเพื่อที่จะพาไปทดสอบภาคปฏิบัติว่าควรพาไปที่ไหน ทดสอบแบบใด

"ใช่ค่ะ แต่หนูไม่รู้ว่าตอนนี้การเรียนหรือการรักษานั้นเขาใช้แบบผสมหรือว่ายังใช้แบบดั้งเดิม" เยว่หรูพอรู้ว่ายุคนี้แพทย์แผนปัจจุบันเริ่มเข้ามามีบทบาทแล้ว แต่ไม่รู้ว่าพวกเขาใช้การรักษาแบบไหน

"ตอนนี้ก็เริ่มมีการรักษาแบบผสม ส่วนมากคือการฝังเข็มให้ชาแทนการวางยาสลบ ต้องทำงานร่วมกันแพทย์แผนปัจจุบัน และเริ่มมีหลักสูตรนี้เปิดสอนแล้ว" คุณตายังคงบอกเล่า แต่ก็อ่านกระดาษคำตอบของเด็กสาวไปด้วย ยิ่งอ่านยิ่งน่าสนใจ เพราะนี่คือการรักษาที่สามารถนำไปใช้แบบเรียนและการรักษาแบบใหม่

"หากหนูผ่านและได้เป็นผู้ช่วย หนูจะมีโอกาสนั้นไหมคะ" เยว่หรูถามด้วยน้ำเสียงปกติ แต่ในใจกลับกรีดร้องด้วยความดีใจ มันคือการรักษาแบบที่เธอถนัดเลยแหละ ในตอนแรกไม่ค่อยมั่นใจเรื่องการรักษา แต่พอไปถามที่โรงพยาบาลมา เธอก็พอได้คำตอบจากการสอบถามหลาย ๆ คน แต่ไม่รู้ว่ารัฐบาลให้มีหลักสูตรการเรียนการสอนแบบนี้แล้วด้วย

"อาจไม่ต้องเป็นผู้ช่วย หากเจ้าผ่านการทดสอบ แต่การทดสอบนี้ต้องใช้เวลานานพอสมควร ต้องไปทดสอบของจริงเลย นั่นคือ... ไปที่โรงพยาบาล" หากอยากรู้ว่าความสามารถมีจริงไหม สามารถควบคุมความกดดันและตื่นเต้นได้จะถือว่าดีเลยแหละ เมื่ออยากรู้ก็ต้องพาไปพบผู้ป่วยจริง!!

"เมื่อไหร่คะ" เยว่หรูตอบกลับ เธอนั้นพร้อมมาก ทดสอบได้เลยขอแค่โอกาสเท่านั้น เธอจะทำอย่างสุดความสามารถเลยแหละ

"หากนัดวันหลังได้ไหม เพราะวันนี้ตาต้องออกไปข้างนอก" วันนี้คือวันที่ไม่มีคนอยู่ที่สมาพันธ์ ต่างคนต่างมีงานกันทั้งนั้น และที่สำคัญเขาอยากไปเห็นการทดสอบด้วยตาของเขาด้วยเช่นกัน

ต้องบอกว่าแต่ละจังหวัดหรือเมืองจะมีสมาพันธ์แพทย์แผนโบราณอยู่ทุกเมือง แต่พวกเขาไม่ได้เปิดเพื่อรับการรักษา เขาเปิดเพื่อให้คำปรึกษา แพทย์ที่อยู่ในสังกัดของสมาพันธ์นั้นต้องไปประจำตามสถานที่ต่าง ๆ ที่ทางสมาพันธ์และรัฐบาลเป็นคนระบุ พวกเขาจะได้เงินเดือนจากทางรัฐบาลโดยตรง แต่หากเป็นหมอเท้าเปล่า พวกเขาจะได้จากหน่วยชุมชนหรือคอมมูน

"หากเป็นเสาร์อาทิตย์ หนูสะดวกทั้งวัน แต่หากเป็นวันธรรมดาหนูต้องไปเรียนในช่วงเช้า แต่หากคุณตาจะทดสอบในช่วงวันธรรมดาก็ได้ค่ะ หนูจะลาคุณครูมาทดสอบ" เยว่หรูตอบไปตามตรง เพราะในใบแนะนำตัวนั้นระบุแล้วว่าเธอยังเรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

"โรงเรียนของหนูอยู่ไม่ห่างจากโรงพยาบาลประจำจังหวัดใช่ไหม" เพราะไม่แน่ใจว่าใช่ที่เดียวกันไหมเลยต้องสอบถามให้แน่นอน

"ใช่ค่ะ" เยว่หรูตอบ แต่ในใจก็อยากทดสอบพรุ่งนี้เลยเสียด้วยซ้ำ

"ถ้าอย่างนั้นเอาเป็นวันจันทร์หลังเลิกเรียน เจอกันที่โรงพยาบาล ส่วนวันพรุ่งนี้ให้ทดลองทำงานเป็นผู้ช่วยที่โรงพยาบาลก่อน แล้วให้เขียนรายงานมาส่งในวันจันทร์" เมื่อเจอคนที่สามารถส่งเสริมได้ต้องรีบคว้าไว้ก่อนที่หน่วยงานอื่นจะมาแย่งตัวไป หากเก่งจริงก็ส่งเสริม แต่หากที่เขียนมาทั้งหมดคือการท่องจำแล้วนำมาเขียน ก็ค่อยว่ากันอีกที เมื่อคิดได้แบบนั้นเลยตัดสินใจอย่างรวดเร็ว พร้อมกับเอาใบส่งตัวมอบให้เด็กสาว

"เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะคุณตา" เยว่หรูกล่าวขอบคุณพร้อมกับอ่านรายละเอียดในกระดาษ 

"รายละเอียดมีบอกไว้หมดแล้ว กลับบ้านไปพักผ่อนได้ เจอกันวันจันทร์" คุณตาเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้ม

"ค่ะ ขอบคุณมาก ๆ เลยนะคะ" เยว่หรูกล่าวขอบคุณอีกครั้งพร้อมกับเก็บเอกสารในกระเป๋าให้เรียบร้อย ก่อนที่จะเดินยิ้มออกไปด้วยความสุขใจ

ทางด้านคุณตาที่อยู่ในสมาพันธ์มองตามเด็กสาว พร้อมกับก้มลงมองกระดาษคำตอบ เรื่องนี้มันน่าแปลกมาก แต่แนวทางการรักษาที่เด็กสาวเขียนมานั้นมันคือการรักษาแบบใหม่ที่กำลังจะเปิดเป็นหลักสูตรให้เรียนในปีการศึกษาหน้า ยังไม่มีการเปิดเผย ยังไม่มีหนังสือออกมา แล้วเด็กคนนั้นเอาแนวทางนี้มาจากไหน

"กลับมาแล้วครับอาจารย์ ขอโทษที่ต้องให้อาจารย์มาเฝ้าสมาพันธ์แทนครับ" เด็กหนุ่มวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในสมาพันธ์ รีบกล่าวขอโทษขออภัยอาจารย์ผู้เป็นประธานของสมาพันธ์แพทย์แผนโบราณประจำจังหวัด เพราะมีเรื่องเขาเลยต้องขอออกมาไปทำธุระสำคัญ ปกติจะมีคนอยู่ที่สมาพันธ์ตลอด แต่วันนี้ทุกคนล้วนมีงานล้นมือจนต้องเดือดร้อนถึงอาจารย์หม่าประธานสมาพันธ์ ดีที่ท่านเป็นคนใจดี ไม่อย่างนั้นคงต้องปิดทำการในวันนี้แล้ว

"ธุระเรียบร้อยดีไหม" อาจารย์หม่าถามเด็กที่เขาให้มาช่วยงาน แต่สายตาเขายังจับจ้องอยู่ที่กระดาษคำตอบของเด็กสาว... อยากให้ถึงวันจันทร์เร็ว ๆ อยากดูฝีมือของเด็กคนนี้จริง ๆ 

ทางด้านเยว่หรูเดินออกมาแล้วก็มองดูบ้านของคนในเมือง ผู้คนไม่ได้พลุกพล่านมากนัก อาจเพราะตรงนี้ไม่ใช่แหล่งชุมชน ไม่ได้มีห้างหรือสถานที่สำคัญมากนัก การซื้อขายทุกอย่างก็ต้องใช้ตั๋วใช้คูปอง มีเงินอย่างเดียวซื้อไม่ได้ คิดถึงตลาดมืดตามหนังสือที่เคยอ่านทันที อยากไปแต่ไม่มีเงิน อยากขายแต่ไม่รู้จะเอาอะไรไปขาย...

เดินไปด้วยปลงไปด้วย เคยอยู่ในโลกที่เสรี... มีกิจการเป็นของตัวเอง พอเจออะไรที่เหมือนโดนบังคับ ต้องอยู่ภายใต้คำสั่งคนอื่น เลยทำให้เธอไม่ชอบสักเท่าไหร่ แต่เธอไม่มีทางเลือกมากนัก บางครั้งคนเราก็ต้องเลือกทำในสิ่งที่ไม่ชอบ... เพื่อไม่ให้ตัวเองอดตาย... เพื่อชีวิตครอบครัวดีขึ้น ตราบใดที่ไม่ได้ทำร้ายคนอื่น... เยว่หรูก็สามารถทำสิ่งที่ไม่ชอบได้

การจะมีกิจการหรือมีธุรกิจเป็นของตัวเองนั้นคงอีกนาน เพราะเธอมาอยู่ในยุค 60 ซึ่งกว่าจะมีการเปิดการค้าเสรี ยกเลิกการใช้ตั๋วหรือคูปอง... ก็ประมาณปี 80 ซึ่งอีกนานเลยทีเดียว เธอไม่สามารถรอเปิดร้านค้าขายหรือรอเปิดคลินิกเป็นของตัวเองได้ 

ต้องหาทางทำงานในโรงพยาบาลของรัฐบาล เพราะว่ามีสวัสดิการดีกว่าอย่างอื่น ต้องค่อย ๆ ขยับขยายไปเรื่อย ๆ ยังไม่รู้เลยว่า... จะมีชีวิตอยู่ถึงตอนที่เปิดการค้าเสรีหรือเปล่า อาจอดตายก่อนก็ได้หากไม่ดิ้นรน 

หากตามโลกเดิมที่เคยรู้ ในปี 60 นี้ต้องเจอกับภัยธรรมชาติ น้ำท่วม ภัยแล้ง รวมถึงปัญหาทางการเมืองและวัฒนธรรม แต่ก็อีกนั่นแหละ ไม่รู้นักเขียนนิยายเรื่องนี้จะอ้างอิงและหยิบยกเอาอะไรมาบ้าง แต่เหตุการณ์พวกนั้นคือเหตุการณ์ที่หนักมาก มีความเป็นไปได้ว่านักเขียนจะหยิบยกมา ทางที่ดีต้องเตรียมตัวให้พร้อมรับมือเสมอ...

Related chapters

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 15 มาช้าดีกว่าไม่มา

    บทที่ 15 มาช้าดีกว่าไม่มาเยว่หรูเดินกลับบ้านในทิศทางเดิม เธอไม่ได้ออกนอกเส้นทางไปทางอื่นเลย มองเวลาแล้วเธอต้องรีบกลับ หากชักช้ามันอาจถึงบ้านมืดได้ เพราะตั้งใจเดินกลับบ้านเพื่อประหยัดเงิน"หนู ๆ ช่วยยายหน่อย" เสียงร้องเรียกใครไม่รู้ แต่เพราะมันเสียงดังเลยทำให้เยว่หรูที่กำลังรีบเดินกลับบ้านหันไปมองหาที่มาของเสียง"เรียกหนูเหรอคะ" เมื่อไม่เห็นใครนอกจากตัวเธอเองก็หันไปถามคุณยาย"ใช่ ๆ พอดียายจะกลับบ้านแต่ของมันเยอะ ช่วยถือไปส่งหน่อยได้ไหม ไม่ไกล ๆ ซอยข้างหน้านี่เอง" เมื่อเห็นเด็กสาวหันมามองแล้วเลยขอความช่วยเหลือ"อ้อ... ได้ค่ะคุณยาย" เยว่หรูมองกระสอบที่วางอยู่ใกล้ ๆ เลยเข้าไปช่วยหิ้วทันที"ยายเดินนำ ตามมาเลย" บอกจบก็เดินนำหน้าเลยส่วนเยว่หรูที่อุ้มกระสอบก็สงสัยว่าคืออะไรอยู่ข้างใน มันไม่ได้หนักมาก จากที่สัมผัสดูเหมือนเป็นผ้าเลย มัวแต่มองสิ่งที่ตัวเองถือและเดินตามหลังคุณยายเลยไม่ได้สังเกตสิ่งที่อยู่รอบข้าง"ส่งถึงตรงนี้แหละหนู ขอบใจมาก อันนี้ยายให้เป็นค่าตอบแทน" บอกพร้อมกับยื่นสร้อยข้อมือมาให้"ไม่เป็นไรค่ะคุณยาย แค่นี้เองค่ะ" เยว่หรูบอกพลางวางกระสอบก่อนที่จะมองรอบ ๆ ความสงสัยก็เกิดขึ้นทั

    Last Updated : 2025-01-06
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 16 ตอบแทนบุญคุณ... คนที่สมควรจะได้รับ

    บทที่ 16 ตอบแทนบุญคุณ... คนที่สมควรจะได้รับขอบคุณคุณยายที่มอบสร้อยข้อมือเส้นนี้ให้หนู... ขอบคุณที่คุณยายยัดเยียดให้ทั้งที่ตอนแรกหนูปฏิเสธไปแล้ว ขอบคุณมาก ๆ นะคะเยว่หรูกล่าวขอบคุณอย่างสุดซึ้ง หลังจากที่พิสูจน์ได้แล้วว่า... สร้อยข้อมือนี้คือมิติบ้านของเธอ... หากอยากเข้าหรือออกเพียงเอามือสัมผัสที่สร้อยข้อมือก็สามารถเข้าออกได้ตามที่ใจต้องการเยว่หรูสามารถหยิบสิ่งของออกมาข้างนอกได้... มันเหมือนในนิยายที่เคยอ่านเจอ แต่ไม่รู้ว่าสิ่งของที่เธอหยิบออกมาแล้วมันจะมีมาเติมให้ใหม่ไหม หรือว่าหมดแล้วหมดเลย เรื่องนี้คงต้องใช้เวลาเป็นการพิสูจน์ "เอานมนี่แหละ... ลองก่อนเป็นอย่างแรก แล้วจับเวลาว่าด้านนอกกับในมิติบ้านนี้เวลาแตกต่างกันไหม" เยว่หรูพึมพำพร้อมกับหยิบนาฬิกาจับเวลา เพื่อพิสูจน์ว่าด้านนอกและด้านในมีเวลาเท่ากันไหมส่วนอาหารที่เอาออกมาก็ยังเอาอะไรออกมามากไม่ได้ หากแตกต่างมาก เยว่หรูจะยังไม่เอาออกไปข้างนอก เพราะมันต้องมีคำถามตามมาแน่ ๆ เธอยังไม่อยากให้ใครรับรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้... ไม่รู้มีข้อห้ามอะไรไหม... หากบอกคนอื่นแล้วมิติบ้านหายไปล่ะ... เธอยังไม่อยากเสี่ยงในตอนนี้และที่สำคัญกว่าสิ่งอื่นใด

    Last Updated : 2025-01-06
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 17 คนมาใหม่

    บทที่ 17 คนมาใหม่เมื่อคืนเยว่หรูเข้ามานอนในมิติบ้าน เพื่อเตรียมสิ่งของที่จะได้ทำอาหารในตอนเช้า เช้านี้เลยมีทั้งกับข้าวที่เป็นไข่ม้วน กับข้าวสวยร้อน ๆ และมีกระดูกหมูตุ๋นยาจีน เตรียมนมอุ่น ๆ และต้มยาสมุนไพรด้วย ตอนนี้ยังหาข้ออ้างไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าจะบอกว่าเอาสิ่งของพวกนี้มาจากไหน ต้องรอกลับจากโรงพยาบาลแล้วค่อยบอกเป็นค่าตอบแทน เพราะวันนี้เธอมีไปฝึกงานที่โรงพยาบาลส่วนมื้อเช้ามีแบบไหนก็คงต้องกินแบบนั้นไปก่อน ถึงจะอยากให้ทุกคนได้กินอาหารดี ๆ แต่หากไม่ระวัง... ความลับที่ต้องการปกปิดมันจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป แล้วหากมันไม่ได้เป็นความลับ เรื่องที่เธอปิดบังทั้งหมดก็อาจถูกเปิดเผย... คนมีความลับเยอะอย่างเยว่หรูเลยต้องทำทุกอย่างให้แนบเนียน...ในโลกนี้ยุคนี้... กินดีอยู่ดีมากไปก็ไม่ดี... แต่หากหาที่มาที่ไปได้ก็ไม่มีปัญหา... รอให้เธอรู้ผลว่าผ่านการทดสอบเสียก่อน... เธอยังสามารถบอกว่าทุกอย่างที่ได้มาคือสิ่งของสนับสนุน แต่หากเธอไม่ผ่าน... ค่อยคิดหาวิธีอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร...เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เยว่หรูก็เข้าไปอาบน้ำทาครีมบำรุง... ทำทุกอย่างแบบที่เคยทำในโลกเดิม ยังดีที่เครื่องสำอางที่ใช้..

    Last Updated : 2025-01-07
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 18 หานหรงอี้

    บทที่ 18 หานหรงอี้จางหยวนขอตัวจากกลุ่มคนมาใหม่และหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อจะได้รีบไปส่งลูกสาวแล้วไปทำธุระของเขาให้เรียบร้อย และที่เขารีบขอตัวออกมาเพราะเห็นกลุ่มคนมาใหม่มองลูกสาวของเขาไม่วางตาเลย ทั้งที่ลูกสาวเขายืนอยู่ด้านหลัง แต่ทุกคนก็ดูจะสนใจลูกสาวของเขา ทางที่ดีต้องรีบออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุดหานหรงอี้ มองตามคนตัวเล็กกับพ่อเดินไปจนสุดสายตา ทั้งที่คนตัวเล็กไม่ยอมหันมาทักทายหรือยิ้มแย้ม มันยิ่งทำให้เขาสนใจมากกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเด็กสาวจะชอบคนที่มียศมีตำแหน่งหรอกหรือ การมาของพวกเขานั้นไม่ใช่ความลับ ยังไงสาวน้อยคงจะพอรู้ หากบอกว่าหลบเพราะเขินอายก็ไม่น่าจะใช่ เพราะสายตาที่ใช้มองพวกเขานั้นเหมือนรังเกียจมากกว่า"นายครับ เราต้องไปให้ทันเวลาหมอนัดนะครับ" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาหานายที่ไม่สนใจจะไปโรงพยาบาลตามที่หมอนัดเลย"จะรีบไปไหน โรงพยาบาลก็อยู่แค่นี้ ไม่ต้องตามกันมาเยอะแยะ กลับไปดูคนงานได้แล้ว" หานหรงอี้บอกลูกน้องที่ตามมาเป็นพรวน ทั้งที่อาการเขาดีขึ้นแล้ว เดินเหินได้เหมือนเดิม แต่คนพวกนี้ก็ยังจะตามติดเขาอยู่นั่นแหละ"นายมองสาวน้อยคนนั้นหรือกำลังชื่นชมธรรมชาติครับ" คนสนิทมองตามสายตาคนเป็นนาย

    Last Updated : 2025-01-07
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 19 เรียกร้อง

    บทที่ 19 เรียกร้องในทุกเช้า เยว่หรูจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารบำรุงหลายอย่าง ต้มน้ำแกง ต้มยาสมุนไพรต่าง ๆ และทำอาหารหลากหลายเมนูเก็บไว้ ในทุกวันที่ไปเรียน เยว่หรูต้องเอาน้ำต้มสมุนไพรไปฝากคุณครูหมิงเว่ยเธอยังไม่สามารถให้อย่างอื่นเพื่อตอบแทนคุณครูได้ เพราะครูรู้ดีว่าครอบครัวของเธอยากจน การที่จะได้กินหรือมีสิ่งของดี ๆ นั้นมันแทบไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เมื่อมีโอกาสเธอต้องตอบแทนแน่นอนในระหว่างที่ตัวเองกำลังคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก็ทำให้เธอค่อนข้างแปลกใจ เหมือนคนไข้ที่ชื่อหานหรงอี้นั้นไม่เป็นอะไรเลย การไหลเวียนของเลือดมันไม่สมดุลและเหมือนร่างกายมีภาวะเย็นมากเกินไป แต่เธอไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ เพราะการตรวจของเธอนั้นต้องยุติก่อนที่จะตรวจเสร็จ ยังไม่ได้ดู ดม และสอบถามเลย อาจารย์ก็บอกพอก่อนและให้เธอกลับมาทำรายงานส่งเยว่หรูมองไปที่สมุดรายงานของตัวเอง ก่อนที่จะจัดเตรียมอาหารให้เรียบร้อย เมื่อวานพ่อก็ต้องเดินไปรอรับ เพราะกว่าจะออกจากโรงพยาบาลก็เริ่มเย็นแล้ว แล้วที่นี่จะมืดเร็วเสียด้วย หกโมงเย็นนี่เริ่มมืดแล้ว ทั้งที่เธออยากให้พ่อแม่พักผ่อนแต่ต้องไปรับเธอกลับ คงต้องหาวิธีอื่นรอแล้ว ไม่

    Last Updated : 2025-01-07
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 20  ความรู้สึกไม่ต่างกัน

    บทที่ 20 ความรู้สึกไม่ต่างกันเยว่หรูเดินตามมาที่ห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนค่อนข้างเป็นส่วนตัว ส่วนมากมีแต่ญาติของคนไข้ที่เฝ้าอยู่เพียงเท่านั้น พอเยว่หรูมาถึงอาจารย์ก็เริ่มสอนสิ่งต่าง ๆ โดยที่สอนตรวจคนไข้ว่าควรตรวจแบบไหน เพื่อประหยัดเวลาและได้ผลที่แม่นยำทุกอย่างดำเนินไปอย่างดี เนื่องจากคนไข้ยอมให้ตรวจดี ๆ นอนมองนิ่ง ๆ เพียงเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไล่หมอพยาบาลออกไปทั้งหมด แต่เขากลับให้ลูกศิษย์กับอาจารย์สองคนทั้งจับพลิกดูตามร่างกายได้ตามต้องการ"อาจารย์ จากที่หนูดูไม่ใช่แค่ร่างกายอย่างเดียว หนูคิดว่าน่าจะมาจากจิตใจและความคิดด้วย" เยว่หรูสังเกตคนไข้แล้วรู้สึกว่าช่างคุ้นเคยกับอาการนี้เหลือเกิน"มีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว" อาจารย์ก็เห็นด้วยกับที่ลูกศิษย์คนล่าสุดบอกมา"เยว่หรูจะรักษาด้วยวิธีไหน เขียนรายงานมาด้วย รักษาแค่เบื้องต้นก่อน ส่วนต้องการเบิกอะไรก็สามารถใช้ญาติของคนไข้ไปจัดการได้เลย และนี่คือเอกสารที่ต้องเขียนรายละเอียดยื่นให้สมาพันธ์ มีเอกสารด้วย เตรียมมาให้พร้อมแล้วเอามาให้อาจารย์ เข้าใจไหม และหากรักษาเบื้องต้นเสร็จก็กลับบ้านได้เลย อาจารย์ต้องรีบไปประชุม" อาจารย์หม่าสั่งงาน

    Last Updated : 2025-01-07
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 21 การทำงานและการตอบแทน

    บทที่ 21 การทำงานและการตอบแทนวันนี้ครบอาทิตย์หนึ่งแล้วที่เยว่หรูมีมิติบ้าน ของที่เอาออกมากินมาใช้ก็ไม่มีมาเพิ่ม หมดแล้วหมดเลย แต่สิ่งนี้ก็ยังไม่แน่นอน คงต้องรอดูกันก่อนว่าจะมีมาเพิ่มไหม... ขนาดบ้านมิติกว่าจะตามเธอมาก็ใช้เวลาสามเดือน... สิ่งของก็อาจมาช้าก็ได้ใครจะไปรู้..."อยากมีเวลาอยู่ในนี้นาน ๆ จังเลย... อยากทำอะไรหลาย ๆ อย่าง" เยว่หรูพึมพำไปด้วย รดน้ำผักผลไม้ในเรือนเพาะชำไปด้วยความลับก็ต้องปกปิด... แต่ก็อยากให้ครอบครัวได้กินของดี ๆ จะต้องงัดสารพัดข้ออ้างออกมา แต่พอถึงวันเสาร์วันอาทิตย์ก็กินอาหารที่มีอยู่ในบ้าน ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรเพราะไม่ได้ไปโรงเรียนยังดีที่ว่าในมิติบ้านมีอุปกรณ์เครื่องครัวหลากหลาย อะไรที่คนรีวิวว่าดี เยว่หรูก็รีบซื้อหามาทันที ติ๊กต๊อกว่าดี... เยว่หรูก็ว่าดี เครื่องปั่นละเอียดเตรียมเอาออกมาใช้งาน... ปั่นไก่ ปั่นหมู ให้ละเอียดจนมองไม่ออกว่าคืออะไร ข้าวต้มใส่หมูละเอียด โจ๊กใส่ไก่ละเอียด กระเทียมเจียวก็ตักใส่ข้าวต้มเยอะ ๆ จะได้ดับกลิ่นหมู ใช้ได้หรือเปล่าไม่รู้แต่ก็ต้องลอง สารพัดวิธีมาใช้เพื่อให้พ่อแม่อยู่ดีกินดี... ทุกอย่างก็ต้องพยายามทำให้แนบเนียนที่สุด...วันน

    Last Updated : 2025-01-08
  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 22 เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

    บทที่ 22 เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีวันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากวันเป็นเดือน... เยว่หรูก็ยังใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาทำงานทำงานบ้านช่วยแม่ ปลูกผักสมุนไพรในกระถาง ทำปุ๋ยหมักจากหญ้าและใบไม้แห้ง ตอนบ่ายไปทำงานที่โรงพยาบาล ตอนนี้เธอไม่ต้องไปเรียนในช่วงเช้าเหมือนแต่ก่อน เพราะเธอสอบเทียบจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว เยว่หรูไม่ลืมบุญคุณของคุณครูหมิงเว่ย เธอจะแวะเวียนเอาสิ่งของต่าง ๆ ไปให้คุณครู ไม่ว่าจะเป็นอาหารและยารักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งเธอจะบอกว่าทุกอย่างที่ได้มานั้น... คือสวัสดิการที่ทางสมาพันธ์ให้มาเยว่หรูทำงานไร้ตำแหน่งมาเดือนหนึ่งแล้ว แต่เธอก็ได้ค่าตอบแทนจากทางสมาพันธ์เช่นกัน อาจารย์หม่ายังจ่ายเงินเดือนให้ แต่ยังไม่เท่าคนที่เป็นแพทย์เต็มตัว เงินเดือนแพทย์เริ่มต้นที่ 70 หยวนต่อเดือน แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือศาสตราจารย์จะอยู่ที่ 280-380 หยวนต่อเดือน เงินเดือนจะลดหย่อนลงมาตามตำแหน่ง เดือนแรกเยว่หรูได้ 50 หยวน ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมากสำหรับเยว่หรู แล้วยังได้คูปองรายเดือนรายปีอีกด้วยเงินเดือนแพทย์ถือว่าสูงมาก หากเปรียบเทียบกับอาชีพอื่น ถึงขั้นถูกจัดให้อาชีพแพทย์ได้รับเงินเดือนอยู่ในขั้นสูงข

    Last Updated : 2025-01-08

Latest chapter

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 25 แต่งงาน

    บทที่ 25 แต่งงานเยว่หรูได้บอกถึงความจำเป็นของตัวเองให้แม่ได้ฟัง และยังบอกว่าตัวเองนั้นพึงพอใจหานหรงอี้คนนี้เป็นอย่างมากด้วย หากไม่บอกแบบนั้น มีหวังว่าพ่อกับแม่ของเธออาจไม่เห็นด้วยงานแต่งของเยว่หรูถูกจัดขึ้น... เป็นงานที่แสนเรียบง่ายในแบบที่เยว่หรูต้องการ ถึงจะทำให้เจ้าบ่าวไม่ค่อยพอใจมากนัก แต่ก็ต้องยอมตามใจเธอ แต่เขาต้องการดูวันเวลาฤกษ์ยาม เพื่อที่จะได้ใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันยาวนาน เยว่หรูก็ยอมตามที่เขาเห็นควรในส่วนของสินสอด พ่อกับแม่ของเธอนั้นไม่ได้เรียกร้อง ให้ทางเจ้าบ่าวเห็นแก่สมควรว่าจะจัดอะไรมาบ้าง เนื่องจากเจ้าบ่าวนั้นเป็นที่นับหน้าถือตาของคนที่นี่ จึงทำให้เยว่หรูหลีกเลี่ยงไม่ได้แต่แขกส่วนมากจะอยู่บ้านเจ้าบ่าว... ส่วนฝั่งเจ้าสาวนั้นมีคุณครูหมิงเว่ยกับภรรยาและญาติของพ่อที่เยว่หรูไม่อยากเต็มใจเชิญ แต่ก็ขัดไม่ได้ เพราะเห็นแก่หน้าพ่อ ที่ตอนนี้ทำหน้าเหมือนคนจะร้องไห้อย่างไรอย่างนั้น"เยว่หรู หากไม่สบายใจกลับมาบ้านเราได้นะลูก อย่าอดทน บ้านเรายังมี" จางหยวนรู้ว่าไม่ควรบอกแบบนั้น แต่เขาไม่อยากให้ใครมารังแกลูกสาวของเขา"อย่าบอกลูกแบบนั้น... ควรอวยพรลูก" ลู่หลินมองลูกสาวที่แต่งตัวเสร็จแล้

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 24 ผมอยากแต่งงานกับเยว่เยว่ครับ

    บทที่ 24 ผมอยากแต่งงานกับเยว่เยว่ครับตอนนี้หานหรงอี้มาอยู่ที่บ้านของคนตัวเล็ก เพื่อรอเวลาที่พ่อกับแม่ของคนตัวเล็กกลับจากเลิกงาน เขามองดูที่ดินของครอบครัวนี้ที่เต็มไปด้วยต้นกล้าของสมุนไพรที่ปลูกในกระถางไม้ไผ่สาน... ถึงแม้พื้นที่จะไม่กว้างมากนัก แต่ก็สามารถปลูกต้นไม้แบบไล่ระดับปลูกตามแนวกำแพง ถือว่าใช้พื้นที่ได้คุ้มมาก ๆ หานหรงอี้เดินดูสิ่งที่ปลูกอยู่ในแปลง ต้องแหวกต้นหญ้าแห้งออกดู... เพราะมีต้นหญ้าแห้งปกคลุมทั่วทั้งแปลงเลย เขามองดูสิ่งต่าง ๆ แต่ในหัวเขาก็คิดว่าหากแต่งงานกันแล้ว เขาคงต้องให้ลูกน้องจัดการพื้นที่ว่างเปล่าเตรียมให้คนตัวเล็ก... เขาคิดว่ายังไงคนตัวเล็กได้ใช้ที่ดินในส่วนนั้นปลูกหลายสิ่งหลายอย่างแน่นอน..."สงสัยคงต้องสร้างบ้านให้ว่าที่พ่อตาแม่ยายใหม่เสียแล้ว... " หานหรงอี้มองบ้านแล้วพึมพำเบา ๆ ที่ดูเหมือนมันจะเล็กไปสักหน่อย... ก่อนหน้านี้คนตัวเล็กขอคนให้มาสร้างกำแพงให้จนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ส่วนเรื่องบ้านเขาจะเสนอให้เองโดยที่คนตัวเล็กไม่ต้องเอ่ยปากขอเลยสักคำ...ทางด้านเยว่หรูที่ทำอาหารอยู่ในครัวก็นึกหมั่นไส้คนตัวโตที่ตามติดมาด้วย บอกให้มาทีหลังก็ไม่ยอม แล้วมาตอนนี้ทำให้เธอเตรี

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 23 มัดมือชก

    บทที่ 23 มัดมือชกหลังจากที่เยว่หรูเอาเอกสารเรียนจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายไปให้ทางสมาพันธ์ มันทำให้เธอต้องเจอเรื่องที่ไม่คาดคิด นั่นคือ... ทางสมาพันธ์ต้องการเอกสารยืนยันการรับรองจากทางพ่อและแม่ของเธอ ที่ทำให้เยว่หรูคิดมากนั่นคือ... เธอต้องการหลีกหนีเปลี่ยนชะตานางเอกปลอม ๆ โดยการที่ไม่ต้องไปพบเจอกับพ่อที่แท้จริง ถึงเขาจะมารับเธอไปอยู่ด้วย เธอก็ไม่มีทางที่จะไปด้วยเด็ดขาด... นี่คือสิ่งที่เยว่หรูตั้งใจเอาไว้แล้วแต่หากไม่ได้เอกสารรับรองการเรียนการทำงานของเธอก็ต้องมีปัญหาตามมา... หากจำไม่ผิด เยว่หรูจะได้เจอกับนางเอกตัวจริงตอนอายุ 16 ปี ซึ่งตอนนี้เธอจะ 15 ปีแล้ว หากไปหาพ่อตอนนี้... ก็มีแนวโน้มว่าจะได้เจอ เพราะนางเอกตัวจริงคือลูกติดมากับเมียใหม่ของพ่อ หรือหากให้นับจริง ๆ ก็คือพี่สาวต่างแม่ของเธอนั่นเอง...เยว่หรูทำงานไปด้วย ใช้ความคิดที่จะหลีกหนีชะตานางเอกไปด้วย เพราะหากว่าพ่อจริง ๆ เห็นประโยชน์ เขาไม่มีทางปล่อยตั้งแต่ที่รู้ว่าเธอได้เรียนแพทย์แล้ว ยิ่งจะทำให้เขาอยากได้ผลประโยชน์จากตัวเธอมากกว่าเดิม ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เขาต้องหว่านล้อมเหมือนทุกครั้งที่มาเจอลูกสาวอย่างแน่นอนเมื่อเยว่หรูเริ่มที่

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 22 เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

    บทที่ 22 เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีวันเวลาผ่านไปเรื่อย ๆ จากวันเป็นเดือน... เยว่หรูก็ยังใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ตื่นเช้ามาทำงานทำงานบ้านช่วยแม่ ปลูกผักสมุนไพรในกระถาง ทำปุ๋ยหมักจากหญ้าและใบไม้แห้ง ตอนบ่ายไปทำงานที่โรงพยาบาล ตอนนี้เธอไม่ต้องไปเรียนในช่วงเช้าเหมือนแต่ก่อน เพราะเธอสอบเทียบจบชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายแล้ว เยว่หรูไม่ลืมบุญคุณของคุณครูหมิงเว่ย เธอจะแวะเวียนเอาสิ่งของต่าง ๆ ไปให้คุณครู ไม่ว่าจะเป็นอาหารและยารักษาโรคต่าง ๆ ซึ่งเธอจะบอกว่าทุกอย่างที่ได้มานั้น... คือสวัสดิการที่ทางสมาพันธ์ให้มาเยว่หรูทำงานไร้ตำแหน่งมาเดือนหนึ่งแล้ว แต่เธอก็ได้ค่าตอบแทนจากทางสมาพันธ์เช่นกัน อาจารย์หม่ายังจ่ายเงินเดือนให้ แต่ยังไม่เท่าคนที่เป็นแพทย์เต็มตัว เงินเดือนแพทย์เริ่มต้นที่ 70 หยวนต่อเดือน แต่หากเป็นผู้เชี่ยวชาญหรือศาสตราจารย์จะอยู่ที่ 280-380 หยวนต่อเดือน เงินเดือนจะลดหย่อนลงมาตามตำแหน่ง เดือนแรกเยว่หรูได้ 50 หยวน ซึ่งมันเป็นเงินจำนวนมากสำหรับเยว่หรู แล้วยังได้คูปองรายเดือนรายปีอีกด้วยเงินเดือนแพทย์ถือว่าสูงมาก หากเปรียบเทียบกับอาชีพอื่น ถึงขั้นถูกจัดให้อาชีพแพทย์ได้รับเงินเดือนอยู่ในขั้นสูงข

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 21 การทำงานและการตอบแทน

    บทที่ 21 การทำงานและการตอบแทนวันนี้ครบอาทิตย์หนึ่งแล้วที่เยว่หรูมีมิติบ้าน ของที่เอาออกมากินมาใช้ก็ไม่มีมาเพิ่ม หมดแล้วหมดเลย แต่สิ่งนี้ก็ยังไม่แน่นอน คงต้องรอดูกันก่อนว่าจะมีมาเพิ่มไหม... ขนาดบ้านมิติกว่าจะตามเธอมาก็ใช้เวลาสามเดือน... สิ่งของก็อาจมาช้าก็ได้ใครจะไปรู้..."อยากมีเวลาอยู่ในนี้นาน ๆ จังเลย... อยากทำอะไรหลาย ๆ อย่าง" เยว่หรูพึมพำไปด้วย รดน้ำผักผลไม้ในเรือนเพาะชำไปด้วยความลับก็ต้องปกปิด... แต่ก็อยากให้ครอบครัวได้กินของดี ๆ จะต้องงัดสารพัดข้ออ้างออกมา แต่พอถึงวันเสาร์วันอาทิตย์ก็กินอาหารที่มีอยู่ในบ้าน ไม่รู้จะหาข้ออ้างอะไรเพราะไม่ได้ไปโรงเรียนยังดีที่ว่าในมิติบ้านมีอุปกรณ์เครื่องครัวหลากหลาย อะไรที่คนรีวิวว่าดี เยว่หรูก็รีบซื้อหามาทันที ติ๊กต๊อกว่าดี... เยว่หรูก็ว่าดี เครื่องปั่นละเอียดเตรียมเอาออกมาใช้งาน... ปั่นไก่ ปั่นหมู ให้ละเอียดจนมองไม่ออกว่าคืออะไร ข้าวต้มใส่หมูละเอียด โจ๊กใส่ไก่ละเอียด กระเทียมเจียวก็ตักใส่ข้าวต้มเยอะ ๆ จะได้ดับกลิ่นหมู ใช้ได้หรือเปล่าไม่รู้แต่ก็ต้องลอง สารพัดวิธีมาใช้เพื่อให้พ่อแม่อยู่ดีกินดี... ทุกอย่างก็ต้องพยายามทำให้แนบเนียนที่สุด...วันน

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 20  ความรู้สึกไม่ต่างกัน

    บทที่ 20 ความรู้สึกไม่ต่างกันเยว่หรูเดินตามมาที่ห้องพักที่แยกเป็นสัดส่วนค่อนข้างเป็นส่วนตัว ส่วนมากมีแต่ญาติของคนไข้ที่เฝ้าอยู่เพียงเท่านั้น พอเยว่หรูมาถึงอาจารย์ก็เริ่มสอนสิ่งต่าง ๆ โดยที่สอนตรวจคนไข้ว่าควรตรวจแบบไหน เพื่อประหยัดเวลาและได้ผลที่แม่นยำทุกอย่างดำเนินไปอย่างดี เนื่องจากคนไข้ยอมให้ตรวจดี ๆ นอนมองนิ่ง ๆ เพียงเท่านั้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาไล่หมอพยาบาลออกไปทั้งหมด แต่เขากลับให้ลูกศิษย์กับอาจารย์สองคนทั้งจับพลิกดูตามร่างกายได้ตามต้องการ"อาจารย์ จากที่หนูดูไม่ใช่แค่ร่างกายอย่างเดียว หนูคิดว่าน่าจะมาจากจิตใจและความคิดด้วย" เยว่หรูสังเกตคนไข้แล้วรู้สึกว่าช่างคุ้นเคยกับอาการนี้เหลือเกิน"มีความเป็นไปได้มากเลยทีเดียว" อาจารย์ก็เห็นด้วยกับที่ลูกศิษย์คนล่าสุดบอกมา"เยว่หรูจะรักษาด้วยวิธีไหน เขียนรายงานมาด้วย รักษาแค่เบื้องต้นก่อน ส่วนต้องการเบิกอะไรก็สามารถใช้ญาติของคนไข้ไปจัดการได้เลย และนี่คือเอกสารที่ต้องเขียนรายละเอียดยื่นให้สมาพันธ์ มีเอกสารด้วย เตรียมมาให้พร้อมแล้วเอามาให้อาจารย์ เข้าใจไหม และหากรักษาเบื้องต้นเสร็จก็กลับบ้านได้เลย อาจารย์ต้องรีบไปประชุม" อาจารย์หม่าสั่งงาน

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 19 เรียกร้อง

    บทที่ 19 เรียกร้องในทุกเช้า เยว่หรูจะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อทำอาหารบำรุงหลายอย่าง ต้มน้ำแกง ต้มยาสมุนไพรต่าง ๆ และทำอาหารหลากหลายเมนูเก็บไว้ ในทุกวันที่ไปเรียน เยว่หรูต้องเอาน้ำต้มสมุนไพรไปฝากคุณครูหมิงเว่ยเธอยังไม่สามารถให้อย่างอื่นเพื่อตอบแทนคุณครูได้ เพราะครูรู้ดีว่าครอบครัวของเธอยากจน การที่จะได้กินหรือมีสิ่งของดี ๆ นั้นมันแทบไม่มีทางเป็นไปได้ แต่เมื่อมีโอกาสเธอต้องตอบแทนแน่นอนในระหว่างที่ตัวเองกำลังคิดเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อวาน ก็ทำให้เธอค่อนข้างแปลกใจ เหมือนคนไข้ที่ชื่อหานหรงอี้นั้นไม่เป็นอะไรเลย การไหลเวียนของเลือดมันไม่สมดุลและเหมือนร่างกายมีภาวะเย็นมากเกินไป แต่เธอไม่สามารถวินิจฉัยโรคได้ เพราะการตรวจของเธอนั้นต้องยุติก่อนที่จะตรวจเสร็จ ยังไม่ได้ดู ดม และสอบถามเลย อาจารย์ก็บอกพอก่อนและให้เธอกลับมาทำรายงานส่งเยว่หรูมองไปที่สมุดรายงานของตัวเอง ก่อนที่จะจัดเตรียมอาหารให้เรียบร้อย เมื่อวานพ่อก็ต้องเดินไปรอรับ เพราะกว่าจะออกจากโรงพยาบาลก็เริ่มเย็นแล้ว แล้วที่นี่จะมืดเร็วเสียด้วย หกโมงเย็นนี่เริ่มมืดแล้ว ทั้งที่เธออยากให้พ่อแม่พักผ่อนแต่ต้องไปรับเธอกลับ คงต้องหาวิธีอื่นรอแล้ว ไม่

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 18 หานหรงอี้

    บทที่ 18 หานหรงอี้จางหยวนขอตัวจากกลุ่มคนมาใหม่และหัวหน้าหมู่บ้านเพื่อจะได้รีบไปส่งลูกสาวแล้วไปทำธุระของเขาให้เรียบร้อย และที่เขารีบขอตัวออกมาเพราะเห็นกลุ่มคนมาใหม่มองลูกสาวของเขาไม่วางตาเลย ทั้งที่ลูกสาวเขายืนอยู่ด้านหลัง แต่ทุกคนก็ดูจะสนใจลูกสาวของเขา ทางที่ดีต้องรีบออกจากที่นั่นให้เร็วที่สุดหานหรงอี้ มองตามคนตัวเล็กกับพ่อเดินไปจนสุดสายตา ทั้งที่คนตัวเล็กไม่ยอมหันมาทักทายหรือยิ้มแย้ม มันยิ่งทำให้เขาสนใจมากกว่าเดิม ไม่ใช่ว่าเด็กสาวจะชอบคนที่มียศมีตำแหน่งหรอกหรือ การมาของพวกเขานั้นไม่ใช่ความลับ ยังไงสาวน้อยคงจะพอรู้ หากบอกว่าหลบเพราะเขินอายก็ไม่น่าจะใช่ เพราะสายตาที่ใช้มองพวกเขานั้นเหมือนรังเกียจมากกว่า"นายครับ เราต้องไปให้ทันเวลาหมอนัดนะครับ" ลูกน้องคนสนิทเดินเข้ามาหานายที่ไม่สนใจจะไปโรงพยาบาลตามที่หมอนัดเลย"จะรีบไปไหน โรงพยาบาลก็อยู่แค่นี้ ไม่ต้องตามกันมาเยอะแยะ กลับไปดูคนงานได้แล้ว" หานหรงอี้บอกลูกน้องที่ตามมาเป็นพรวน ทั้งที่อาการเขาดีขึ้นแล้ว เดินเหินได้เหมือนเดิม แต่คนพวกนี้ก็ยังจะตามติดเขาอยู่นั่นแหละ"นายมองสาวน้อยคนนั้นหรือกำลังชื่นชมธรรมชาติครับ" คนสนิทมองตามสายตาคนเป็นนาย

  • 1960s เปลี่ยนชะตานางเอก   บทที่ 17 คนมาใหม่

    บทที่ 17 คนมาใหม่เมื่อคืนเยว่หรูเข้ามานอนในมิติบ้าน เพื่อเตรียมสิ่งของที่จะได้ทำอาหารในตอนเช้า เช้านี้เลยมีทั้งกับข้าวที่เป็นไข่ม้วน กับข้าวสวยร้อน ๆ และมีกระดูกหมูตุ๋นยาจีน เตรียมนมอุ่น ๆ และต้มยาสมุนไพรด้วย ตอนนี้ยังหาข้ออ้างไม่ได้ ยังไม่รู้ว่าจะบอกว่าเอาสิ่งของพวกนี้มาจากไหน ต้องรอกลับจากโรงพยาบาลแล้วค่อยบอกเป็นค่าตอบแทน เพราะวันนี้เธอมีไปฝึกงานที่โรงพยาบาลส่วนมื้อเช้ามีแบบไหนก็คงต้องกินแบบนั้นไปก่อน ถึงจะอยากให้ทุกคนได้กินอาหารดี ๆ แต่หากไม่ระวัง... ความลับที่ต้องการปกปิดมันจะไม่เป็นความลับอีกต่อไป แล้วหากมันไม่ได้เป็นความลับ เรื่องที่เธอปิดบังทั้งหมดก็อาจถูกเปิดเผย... คนมีความลับเยอะอย่างเยว่หรูเลยต้องทำทุกอย่างให้แนบเนียน...ในโลกนี้ยุคนี้... กินดีอยู่ดีมากไปก็ไม่ดี... แต่หากหาที่มาที่ไปได้ก็ไม่มีปัญหา... รอให้เธอรู้ผลว่าผ่านการทดสอบเสียก่อน... เธอยังสามารถบอกว่าทุกอย่างที่ได้มาคือสิ่งของสนับสนุน แต่หากเธอไม่ผ่าน... ค่อยคิดหาวิธีอีกครั้งว่าจะทำอย่างไร...เมื่อทำทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เยว่หรูก็เข้าไปอาบน้ำทาครีมบำรุง... ทำทุกอย่างแบบที่เคยทำในโลกเดิม ยังดีที่เครื่องสำอางที่ใช้..

DMCA.com Protection Status