“เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว ข้าจะรั้งอยู่ที่นี่เพื่อกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก” หวังหยวนทุบกำปั้นไปที่ฝ่ามือตัวเอง“ปีศาจดูดเลือดที่แท้จริงไม่ใช่นักล่าสังหาร สายเลือดแท้หรือเจ้าแห่งหมอกควันแต่ดั้งเดิมดื่มเลือดมนุษย์เพื่อเป็นอาหารและไม่รุกรานเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สูญสิ้น แต่พวกเผี่ยนฮกนั้นต่างกันพวกเขาตั้งใจจะครอบครองแผ่นดินทั้งหมดอย่างโง่เขลา" ฉู่หลิงรำพันนางรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น แวมไพร์ระดับต่ำจะตอบสนองเพียงต้องการกินดื่ม พวกมันจึงต้องมีพวกระดับสูงไว้ควบคุม เพื่อไม่ให้แหล่งอาหารหมดไปในระยะเวลาอันสั้น แต่ชนเผ่าเผี่ยนฮกเหล่านี้ถูกกัดโดยหวังหยวนรวมทั้งดื่มกินเลือดแวมไพร์กันเอง หวังหยวนอ่อนแอกว่าจะควบคุมพวกมันเอาไว้ได้อีกไม่นานพวกกระหายเลือดจะเพิ่มมากขึ้นอย่างไร้การควบคุม หายนะกำลังจะเกิดกับเหล่ามนุษย์!“เราต้องกลับไปปกป้องจวนผู้ตรวจการพิเศษ ทุกชั่วยามที่เรากำลังคุยกันอยู่นี่ปีศาจดูดเลือดระดับต่ำก็กำลังเพิ่มจำนวนกันตลอดเวลา ผู้พิทักษ์มีจำนวนน้อยเกินกว่าจะแบ่งคนไปปกป้องชาวบ้านที่อำเภอซิ่งอันเอาไว้”ฉู่หลิงรู้ดีว่าผู้พิทักษ์อย่างไรก็มีร่างกายเป็นมนุษย์พวกเขาต้องหลับนอนดื่มกิน ไม่สามารถต่อสู้กับ
เมื่อท้องฟ้าสิ้นแสงตะวัน เวลานี้ผู้คนในจวนผู้ตรวจการพิเศษทั้งหมดจึงได้เห็นกับตาว่าฉู่หลิงไม่ได้คิดไปเอง ปีศาจดูดเลือดที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่พวกเขาแข็งแรงกว่าและมีเขี้ยวยาวพยายามบุกเข้ามาภายในจวนผู้ตรวจการพิเศษเป็นจำนวนมาก“เล็งไปที่หัวใจ! ตัดคอมัน!” มู่เจียเหยียนตะโกนก้องระหว่างที่ทหารและชาวบ้านข่มกลั้นต่อความหวาดกลัวและพยายามเอาชีวิตรอดให้ถึงที่สุด พวกเขาก็ได้เห็นร่างของ ฉู่หลิง หวังหยวน ท่านยายเฉิน และเด็กกลุ่มหนึ่งที่มองแทบไม่ออกว่าคือใครบ้างพุ่งโจมตีด้วยความรุนแรงไปที่อีกฝ่ายแต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือคนกลุ่มนี้มีเขี้ยวเล็บไม่ต่างจากปีศาจดูดเลือดที่ดาหน้าเข้ามาโจมตีจวนผู้ตรวจการไม่มีผิด แต่ทุกคนแข็งแรงกว่ากระโดดได้สูงกว่าอีกฝ่ายมากนักและยังไม่ได้โจมตีมนุษย์ แต่กำลังเร่งกำจัดปีศาจดูดเลือดเช่นเดียวกันกับพวกเขา“แม่นางฉู่ หวังหยวน ท่านยาย..” มู่เจียเหยียนตกตะลึงอย่างหนัก เมื่อได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของหลายร่างที่กำลังปกป้องผู้คนในจวนผู้ตรวจการเอาไว้เต็มกำลังทหารและชาวบ้านเองก็ได้เห็นกับตาแล้วว่ายามนี้พวกตนเป็นเพียงแค่มดปลวกตัวจ้อย ทหารยังพอทำเนาพวกเขาใช้อาวุธกันได้คล่องมือพ
พลังของผู้พิทักษ์สายเลือดแท้ของโจวเฉิง เมื่อเข้าใกล้มายังกลุ่มปีศาจดูดเลือดที่กำลังห้ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่งก็กดข่มพลังของปีศาจดูดเลือดระดับต่ำไว้ได้ส่วนหนึ่งจนพวกมันรู้สึกตัวกลุ่มของฉู่หลิงและพวกทหารที่กลายมาเป็นปีศาจดูดเลือดก็รับรู้ได้ถึงการมาของโจวเฉิงและพรรคพวกของเขาอีกสองคนเช่นกัน แต่เป็นเพราะพวกเขาล้วนถูกกัดจากฉู่หลิงทั้งสิ้นจึงมีความต้านทานสูงกว่าพวกระดับต่ำ“ถอยกลับเข้าไปในกำแพง ทางด้านนอกนี้ปล่อยให้ผู้พิทักษ์จัดการ พวกเขาแข็งแกร่งมาก!” ฉู่หลิงรีบร้องเตือนพรรคพวกของตนให้กลับเข้าไปจัดการปีศาจดูดเลือดที่หลุดรอดเข้าไปในจวน นางต้องพาทุกคนออกไปให้ไกลจากโจวเฉิงเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ภายในจวนฝ่ายชาวบ้านกับทหารที่ยังไม่ถูกกัดสามารถควบคุมเอาไว้ได้ ฉู่หลิงก็พาปีศาจดูดเลือดทุกคนที่นางเพิ่งกัดหนีเข้าไปในป่า ตั้งใจจะไปตั้งหลักที่อุโมงค์เพื่อรอดูท่าทีกันก่อนโจวเฉิงและพรรคพวกเข้าร่วมการต่อสู้กับทหารและชาวบ้านที่ยังคงสภาพเป็นมนุษย์อยู่อีกพักใหญ่ พวกปีศาจดูดเลือดก็เริ่มแตกกระจายหลบหนีไปได้บ้าง ส่วนที่ถูกสังหารจบดับสิ้นก็มีไม่น้อย“เจ้าสองคนออกไปดูรอบๆ อีกครั้งให้แน่ใจ เมื่อครู่เราสังหารได้เพียง
แต่แล้วใบหน้าที่ค่อยๆ ซีดขาวลงไปทุกทีของผู้พิทักษ์ทั้งสามก็ต้องแตกตื่นตกใจในทันทีที่ตนหลั่งโลหิตใส่ถ้วยครบทั้ง 13 ใบ เด็กชายหญิงที่ดูสดใสไร้เดียงสา คว้าเอาถ้วยบรรจุของเหลวสีแดงฉานส่งกลิ่นคาวคลุ้งขึ้นไปดื่มอักๆ ไม่เกรงใจผู้ใด เมื่อดื่มเสร็จยังวิพากษ์วิจารณ์ว่าเลือดของผู้พิทักษ์จะแตกต่างกับเลือดกระต่ายที่เจียวจูดื่มทุกวันอย่างไรบ้าง “ข้าว่าต้องหวานกว่าเลือดกระต่ายแน่นอน ข้าดมอยู่ทุกวันเลือดกระต่ายเหม็นคาวกว่านี้หลายเท่าตัว” เจียวจ้านเช็ดเลือดที่มุมปากออกแล้วออกความเห็นเป็นคนแรก“กระต่ายน่ารักกว่าพี่ชายท่านนี้ตั้งเยอะ ข้าว่าเลือดกระต่ายน่าจะอร่อยกว่านะ” ไป๋ซุนตัวน้อยเบ้หน้าเล็กน้อยแสดงอาการไม่เห็นด้วยกับพี่ชายใหญ่“แต่ข้าว่า..” หลินอีกำลังจะติเตียนอะไรบางอย่างแต่ถูกโจวเฉิงยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ก่อน“พอที! พวกเจ้าสมควรเป็นน้องของนางจริงๆ” ไม่ต้องมีใครถามก็รู้ว่าผู้ตรวจการโจวกำลังกล่าวพาดพิงถึงผู้ใด เขากับฉู่หลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่มีปากเสียงกันอยู่เป็นประจำ“พวกเราต้องพัก การหลั่งโลหิตของพวกเราทำให้พวกเราเสียพลังและอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง” โจวเฉิงผุดลุกขึ้นยืน ร่างสูงโอนเอนเล็กน้อยจนเจียวจ้า
“พวกเขาเป็นปีศาจดูดเลือดก็จริง แต่พวกเขาอยู่ฝ่ายเรา เรื่องนี้ข้าจะอธิบายให้พวกเจ้าเข้าใจภายหลัง” โจวเฉิงรีบหันเหความสนใจของคนทั้งห้ากลับมาที่ตนเองอีกครั้งผู้พิทักษ์ทั้งห้าคนหันมองหน้ากันไปมา คำกล่าวของโจวเฉิงก็คล้ายว่าจะจริง ปีศาจดูดเลือดทุกคนที่พวกตนเห็นอยู่ล้วนแล้วแต่เป็นทหารและเด็กที่อยู่ในจวนผู้ตรวจการมาก่อนทั้งสิ้น พวกเขาไม่มีท่าทีจะเข้ามาโจมตีแต่อย่างใดแต่นี่มันแปลกประหลาดเกินไปหรือไม่ ในตำนานหรือตำราไม่เคยมีบันทึกมาก่อนว่าสายเลือดผู้พิทักษ์กับปีศาจดูดเลือดจะร่วมงานกันได้อย่างสันติ!“ไม่เคยเห็นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” หนึ่งในห้ายักไหล่ขึ้นมา เป็นอันสรุปว่าพวกเขายินยอมเชื่อคำของโจวเฉิงซึ่งเป็นผู้นำ“ทำไมพวกเจ้าทั้งห้าจึงมาทางนี้ ใช่ว่าเวลานี้ควรช่วยกันปิดทางแพร่กระจายของเหล่าปีศาจดูดเลือดไม่ให้ลุกลามไปยังเขตเมืองอื่นอยู่หรอกหรือ” “คนของเราแบ่งกำลังไปสกัดเส้นทางไปเมืองทั้งสามโดยรอบเอาไว้แล้วขอรับ จุดศูนย์รวมของพวกมันเวลานี้กระจายอยู่เป็นกลุ่มในเขตเมืองสือเจียมากที่สุด และเวลานี้พวกมันพุ่งเป้าไปที่กำแพงเมืองเป็นจำนวนมาก พวกเรากำลังจะตามไปสนับสนุนที่เมืองสือเจียเลยแวะมารายงานท่านก
เห็นความตั้งใจจริงของทุกคนฉู่หลิงก็ยินยอมแต่โดยดี เอาจริงก่อนจะเกิดเรื่องราวเช่นนี้นางก็ไม่คิดฝันมาก่อนว่าการย้อนเวลามาครั้งนี้จะมีมนุษย์ตัวเป็นๆ มายื่นคอให้นางกัดโดยไม่ต้องล่าทหารและชาวบ้านร้อยกว่าชีวิต เข้าแถวมาทีละคนเพื่อให้ฉู่หลิงดื่มเลือดพวกเขา แวมไพร์สาวรู้สึกอิ่มจนพุงกาง สุดท้ายก็ต้องให้หวังหยวนมาช่วยแบ่งเบาภาระเพิ่มอีกคน เพราะทุกคนในที่นี้มีเพียงหวังหยวนเพียงผู้เดียวที่เคยได้ลิ้มลองเลือดมนุษย์ไปแล้ว นางไม่อยากให้ผู้ใดต้องมาแปดเปื้อนเพิ่มขึ้นอีก“พร้อมกันแล้วใช่หรือไม่” แวมไพร์สาวกระโดดขึ้นไปอยู่บนกำแพงจวน ส่งเสียงคำรามและปลุกระดมความฮึกเหิมให้กับเหล่าสาวกเบื้องล่าง“แฮ่!!!” ทหารชาวบ้านและเด็กๆ ที่กลายเป็นปีศาจดูดเลือดทั้งหมด แยกเขี้ยวกางเล็บส่งเสียงคำรามตอบกลับ สตรีชาวบ้านบางคนอย่างเช่นนางจวงหญิงอ้วนที่ไม่เคยกระโดดพ้นยอดหญ้า รีบทดลองปีนป่ายขึ้นกำแพงก่อนจะหัวเราะชอบใจชักชวนให้สตรีคนอื่น ๆ ทดลองตามอย่างบ้าง“เราจะช้าไม่ได้แล้ว ระหว่างทางพวกท่านค่อยๆ ปรับสภาพร่างกายกันเอาเองก็แล้วกัน อ้อ! ทุกคนตัดต้นไผ่ติดมือกันไปให้มากที่สุดด้วย ไป!!” แม้จะไม่เข้าใจว่าฉู่หลิงให้พวกตนตัดต้นไผ่ไ
“ท่านลุง ท่านป้า ข้าเองเจียวจ้าน!” เจียวจ้านกับฝานเจิ้งสลับกันตะโกนร้องเรียกหาสองสามีภรรยาไม่หยุดพวกเขารู้ดีว่าชาวบ้านได้รับคำเตือนให้ซ่อนตัวให้มิดชิด แต่หากยังไม่ได้เห็นคนทั้งสองกับตาว่าปลอดภัย เด็กชายทั้งสองคนก็ยังไม่วางใจอยู่ดี“เจียวจ้าน ฝานเจิ้ง! มาทำอะไรที่นี่! เข้ามาหลบในนี้ก่อนเร็วเข้า!” เถ้าแก่หลี่โผล่หน้าออกมาจากเตาดินเผาขนาดใหญ่ กวักมือเรียกเด็กชายทั้งสองให้เข้ามาซ่อนตัวด้วยความร้อนใจ“พวกท่านปลอดภัย ข้าดีใจเหลือเกินขอรับ” เจียวจ้านถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เวลานี้มีปีศาจที่บุกรุกเข้ามาด้านในมากขึ้นแล้ว ระหว่างทางพวกเขายังได้สังหารพวกมันไปหลายคนเลยทีเดียว“เจ้าสองคนเข้ามาในนี้ก่อนเร็วเข้า อย่าชักช้าอยู่” เถ้าแก่หลี่เร่งเด็กชายทั้งสอง ด้านนอกเริ่มมีเสียงกรีดร้องของผู้คนดังเข้ามาใกล้ทุกทีแล้วเจียวจ้านกับฝานเจิ้งยิ้มแห้งให้สองสามีภรรยา ดูเอาเถิดเตาดินเผาแม้จะมีขนาดใหญ่ แต่พอมีคนสองคนเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ก็ไม่สามารถบดบังร่างพวกเขาได้มิดชิด เท้าของเถ้าแก่หลี่ที่เต็มไปด้วยขี้เถ้าก็ยังโผล่พ้นออกมาด้านนอกอยู่เลย แล้วจะให้เขาสองคนเข้าไปข้างในอีกได้อย่างไรกันขณะนั้นเองปีศาจดูดเลื
ถ้ำลึกลับภายในป่านอกเมืองสือเจียร่างงามในโลงศพสลักลวดลายวิจิตรบรรจงเก่าแก่ค่อยๆ แง้มฝาโลงออกมาช้าๆ ก่อนจะชะโงกศีรษะออกมามองดูบรรยากาศรอบกายที่ผิดแผก ความมืดทำให้หญิงสาวต้องปรับสายตาพยายามเพ่งมองสิ่งรอบกายโดยอาศัยแสงสว่างที่มีเพียงน้อยนิด“อะไรกันเนี่ย!!” แวมไพร์สาวนามฉู่หลิงในชุดผู้ป่วยสีขาวตัวยาวหลวมโพรก ก้าวออกจากโลงศพออกมา สิ่งแรกที่นางรู้สึกแตกตื่นที่สุดย่อมเป็นสถานที่มืดอับชื้น แตกต่างจากห้องทดลองภายในสถาบันวิจัย ที่ตนได้เห็นก่อนเข้าไปนอนในโลงชั่วเวลาไม่กี่นาทีก่อนหน้าลิบลับฉู่หลิงเอื้อมมือคลำผนังหินข้างตัวพร้อมกับก้าวเท้าออกไปสำรวจพื้นที่ช้าๆ นางมองเห็นลำแสงสายหนึ่งเล็ดลอดมาจากซอกหินเป็นแนวยาว และเป็นแสงสว่างเดียวที่ทำให้ตนยังพอมองเห็นภาพภายในถ้ำมืดทึบแห่งนี้ได้นางรีบพาตัวเองเข้าไปหาลำแสงสายนั้นแล้วออกแรงผลักแผ่นหินขนาดใหญ่ด้วยหวังจะให้มีแสงสว่างเพิ่มขึ้นมาสักเล็กน้อย“ครืด..ดดด”หญิงสาวเข้าใจได้ในทันทีว่าแท้จริงแล้ว แผ่นหินที่ควรจะมีน้ำหนักมากแผ่นนี้มีกลไกซึ่งออกแบบให้เป็นประตูมันจึงถูกเปิดออกได้อย่างง่ายดาย และเมื่อนางก้าวออกมาแผ่นหินก็เคลื่อนตัวกลับไปยังตำแหน่งเดิม หากมองด
“ท่านลุง ท่านป้า ข้าเองเจียวจ้าน!” เจียวจ้านกับฝานเจิ้งสลับกันตะโกนร้องเรียกหาสองสามีภรรยาไม่หยุดพวกเขารู้ดีว่าชาวบ้านได้รับคำเตือนให้ซ่อนตัวให้มิดชิด แต่หากยังไม่ได้เห็นคนทั้งสองกับตาว่าปลอดภัย เด็กชายทั้งสองคนก็ยังไม่วางใจอยู่ดี“เจียวจ้าน ฝานเจิ้ง! มาทำอะไรที่นี่! เข้ามาหลบในนี้ก่อนเร็วเข้า!” เถ้าแก่หลี่โผล่หน้าออกมาจากเตาดินเผาขนาดใหญ่ กวักมือเรียกเด็กชายทั้งสองให้เข้ามาซ่อนตัวด้วยความร้อนใจ“พวกท่านปลอดภัย ข้าดีใจเหลือเกินขอรับ” เจียวจ้านถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เวลานี้มีปีศาจที่บุกรุกเข้ามาด้านในมากขึ้นแล้ว ระหว่างทางพวกเขายังได้สังหารพวกมันไปหลายคนเลยทีเดียว“เจ้าสองคนเข้ามาในนี้ก่อนเร็วเข้า อย่าชักช้าอยู่” เถ้าแก่หลี่เร่งเด็กชายทั้งสอง ด้านนอกเริ่มมีเสียงกรีดร้องของผู้คนดังเข้ามาใกล้ทุกทีแล้วเจียวจ้านกับฝานเจิ้งยิ้มแห้งให้สองสามีภรรยา ดูเอาเถิดเตาดินเผาแม้จะมีขนาดใหญ่ แต่พอมีคนสองคนเข้าไปหลบซ่อนตัวอยู่ก็ไม่สามารถบดบังร่างพวกเขาได้มิดชิด เท้าของเถ้าแก่หลี่ที่เต็มไปด้วยขี้เถ้าก็ยังโผล่พ้นออกมาด้านนอกอยู่เลย แล้วจะให้เขาสองคนเข้าไปข้างในอีกได้อย่างไรกันขณะนั้นเองปีศาจดูดเลื
เห็นความตั้งใจจริงของทุกคนฉู่หลิงก็ยินยอมแต่โดยดี เอาจริงก่อนจะเกิดเรื่องราวเช่นนี้นางก็ไม่คิดฝันมาก่อนว่าการย้อนเวลามาครั้งนี้จะมีมนุษย์ตัวเป็นๆ มายื่นคอให้นางกัดโดยไม่ต้องล่าทหารและชาวบ้านร้อยกว่าชีวิต เข้าแถวมาทีละคนเพื่อให้ฉู่หลิงดื่มเลือดพวกเขา แวมไพร์สาวรู้สึกอิ่มจนพุงกาง สุดท้ายก็ต้องให้หวังหยวนมาช่วยแบ่งเบาภาระเพิ่มอีกคน เพราะทุกคนในที่นี้มีเพียงหวังหยวนเพียงผู้เดียวที่เคยได้ลิ้มลองเลือดมนุษย์ไปแล้ว นางไม่อยากให้ผู้ใดต้องมาแปดเปื้อนเพิ่มขึ้นอีก“พร้อมกันแล้วใช่หรือไม่” แวมไพร์สาวกระโดดขึ้นไปอยู่บนกำแพงจวน ส่งเสียงคำรามและปลุกระดมความฮึกเหิมให้กับเหล่าสาวกเบื้องล่าง“แฮ่!!!” ทหารชาวบ้านและเด็กๆ ที่กลายเป็นปีศาจดูดเลือดทั้งหมด แยกเขี้ยวกางเล็บส่งเสียงคำรามตอบกลับ สตรีชาวบ้านบางคนอย่างเช่นนางจวงหญิงอ้วนที่ไม่เคยกระโดดพ้นยอดหญ้า รีบทดลองปีนป่ายขึ้นกำแพงก่อนจะหัวเราะชอบใจชักชวนให้สตรีคนอื่น ๆ ทดลองตามอย่างบ้าง“เราจะช้าไม่ได้แล้ว ระหว่างทางพวกท่านค่อยๆ ปรับสภาพร่างกายกันเอาเองก็แล้วกัน อ้อ! ทุกคนตัดต้นไผ่ติดมือกันไปให้มากที่สุดด้วย ไป!!” แม้จะไม่เข้าใจว่าฉู่หลิงให้พวกตนตัดต้นไผ่ไ
“พวกเขาเป็นปีศาจดูดเลือดก็จริง แต่พวกเขาอยู่ฝ่ายเรา เรื่องนี้ข้าจะอธิบายให้พวกเจ้าเข้าใจภายหลัง” โจวเฉิงรีบหันเหความสนใจของคนทั้งห้ากลับมาที่ตนเองอีกครั้งผู้พิทักษ์ทั้งห้าคนหันมองหน้ากันไปมา คำกล่าวของโจวเฉิงก็คล้ายว่าจะจริง ปีศาจดูดเลือดทุกคนที่พวกตนเห็นอยู่ล้วนแล้วแต่เป็นทหารและเด็กที่อยู่ในจวนผู้ตรวจการมาก่อนทั้งสิ้น พวกเขาไม่มีท่าทีจะเข้ามาโจมตีแต่อย่างใดแต่นี่มันแปลกประหลาดเกินไปหรือไม่ ในตำนานหรือตำราไม่เคยมีบันทึกมาก่อนว่าสายเลือดผู้พิทักษ์กับปีศาจดูดเลือดจะร่วมงานกันได้อย่างสันติ!“ไม่เคยเห็นก็ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้” หนึ่งในห้ายักไหล่ขึ้นมา เป็นอันสรุปว่าพวกเขายินยอมเชื่อคำของโจวเฉิงซึ่งเป็นผู้นำ“ทำไมพวกเจ้าทั้งห้าจึงมาทางนี้ ใช่ว่าเวลานี้ควรช่วยกันปิดทางแพร่กระจายของเหล่าปีศาจดูดเลือดไม่ให้ลุกลามไปยังเขตเมืองอื่นอยู่หรอกหรือ” “คนของเราแบ่งกำลังไปสกัดเส้นทางไปเมืองทั้งสามโดยรอบเอาไว้แล้วขอรับ จุดศูนย์รวมของพวกมันเวลานี้กระจายอยู่เป็นกลุ่มในเขตเมืองสือเจียมากที่สุด และเวลานี้พวกมันพุ่งเป้าไปที่กำแพงเมืองเป็นจำนวนมาก พวกเรากำลังจะตามไปสนับสนุนที่เมืองสือเจียเลยแวะมารายงานท่านก
แต่แล้วใบหน้าที่ค่อยๆ ซีดขาวลงไปทุกทีของผู้พิทักษ์ทั้งสามก็ต้องแตกตื่นตกใจในทันทีที่ตนหลั่งโลหิตใส่ถ้วยครบทั้ง 13 ใบ เด็กชายหญิงที่ดูสดใสไร้เดียงสา คว้าเอาถ้วยบรรจุของเหลวสีแดงฉานส่งกลิ่นคาวคลุ้งขึ้นไปดื่มอักๆ ไม่เกรงใจผู้ใด เมื่อดื่มเสร็จยังวิพากษ์วิจารณ์ว่าเลือดของผู้พิทักษ์จะแตกต่างกับเลือดกระต่ายที่เจียวจูดื่มทุกวันอย่างไรบ้าง “ข้าว่าต้องหวานกว่าเลือดกระต่ายแน่นอน ข้าดมอยู่ทุกวันเลือดกระต่ายเหม็นคาวกว่านี้หลายเท่าตัว” เจียวจ้านเช็ดเลือดที่มุมปากออกแล้วออกความเห็นเป็นคนแรก“กระต่ายน่ารักกว่าพี่ชายท่านนี้ตั้งเยอะ ข้าว่าเลือดกระต่ายน่าจะอร่อยกว่านะ” ไป๋ซุนตัวน้อยเบ้หน้าเล็กน้อยแสดงอาการไม่เห็นด้วยกับพี่ชายใหญ่“แต่ข้าว่า..” หลินอีกำลังจะติเตียนอะไรบางอย่างแต่ถูกโจวเฉิงยกมือขึ้นห้ามเอาไว้ก่อน“พอที! พวกเจ้าสมควรเป็นน้องของนางจริงๆ” ไม่ต้องมีใครถามก็รู้ว่าผู้ตรวจการโจวกำลังกล่าวพาดพิงถึงผู้ใด เขากับฉู่หลิงเป็นไม้เบื่อไม้เมาที่มีปากเสียงกันอยู่เป็นประจำ“พวกเราต้องพัก การหลั่งโลหิตของพวกเราทำให้พวกเราเสียพลังและอ่อนแอเป็นอย่างยิ่ง” โจวเฉิงผุดลุกขึ้นยืน ร่างสูงโอนเอนเล็กน้อยจนเจียวจ้า
พลังของผู้พิทักษ์สายเลือดแท้ของโจวเฉิง เมื่อเข้าใกล้มายังกลุ่มปีศาจดูดเลือดที่กำลังห้ำหั่นกันอย่างบ้าคลั่งก็กดข่มพลังของปีศาจดูดเลือดระดับต่ำไว้ได้ส่วนหนึ่งจนพวกมันรู้สึกตัวกลุ่มของฉู่หลิงและพวกทหารที่กลายมาเป็นปีศาจดูดเลือดก็รับรู้ได้ถึงการมาของโจวเฉิงและพรรคพวกของเขาอีกสองคนเช่นกัน แต่เป็นเพราะพวกเขาล้วนถูกกัดจากฉู่หลิงทั้งสิ้นจึงมีความต้านทานสูงกว่าพวกระดับต่ำ“ถอยกลับเข้าไปในกำแพง ทางด้านนอกนี้ปล่อยให้ผู้พิทักษ์จัดการ พวกเขาแข็งแกร่งมาก!” ฉู่หลิงรีบร้องเตือนพรรคพวกของตนให้กลับเข้าไปจัดการปีศาจดูดเลือดที่หลุดรอดเข้าไปในจวน นางต้องพาทุกคนออกไปให้ไกลจากโจวเฉิงเมื่อเห็นว่าสถานการณ์ภายในจวนฝ่ายชาวบ้านกับทหารที่ยังไม่ถูกกัดสามารถควบคุมเอาไว้ได้ ฉู่หลิงก็พาปีศาจดูดเลือดทุกคนที่นางเพิ่งกัดหนีเข้าไปในป่า ตั้งใจจะไปตั้งหลักที่อุโมงค์เพื่อรอดูท่าทีกันก่อนโจวเฉิงและพรรคพวกเข้าร่วมการต่อสู้กับทหารและชาวบ้านที่ยังคงสภาพเป็นมนุษย์อยู่อีกพักใหญ่ พวกปีศาจดูดเลือดก็เริ่มแตกกระจายหลบหนีไปได้บ้าง ส่วนที่ถูกสังหารจบดับสิ้นก็มีไม่น้อย“เจ้าสองคนออกไปดูรอบๆ อีกครั้งให้แน่ใจ เมื่อครู่เราสังหารได้เพียง
เมื่อท้องฟ้าสิ้นแสงตะวัน เวลานี้ผู้คนในจวนผู้ตรวจการพิเศษทั้งหมดจึงได้เห็นกับตาว่าฉู่หลิงไม่ได้คิดไปเอง ปีศาจดูดเลือดที่มีรูปร่างเหมือนมนุษย์ทุกประการ แต่พวกเขาแข็งแรงกว่าและมีเขี้ยวยาวพยายามบุกเข้ามาภายในจวนผู้ตรวจการพิเศษเป็นจำนวนมาก“เล็งไปที่หัวใจ! ตัดคอมัน!” มู่เจียเหยียนตะโกนก้องระหว่างที่ทหารและชาวบ้านข่มกลั้นต่อความหวาดกลัวและพยายามเอาชีวิตรอดให้ถึงที่สุด พวกเขาก็ได้เห็นร่างของ ฉู่หลิง หวังหยวน ท่านยายเฉิน และเด็กกลุ่มหนึ่งที่มองแทบไม่ออกว่าคือใครบ้างพุ่งโจมตีด้วยความรุนแรงไปที่อีกฝ่ายแต่ที่เห็นได้ชัดเจนคือคนกลุ่มนี้มีเขี้ยวเล็บไม่ต่างจากปีศาจดูดเลือดที่ดาหน้าเข้ามาโจมตีจวนผู้ตรวจการไม่มีผิด แต่ทุกคนแข็งแรงกว่ากระโดดได้สูงกว่าอีกฝ่ายมากนักและยังไม่ได้โจมตีมนุษย์ แต่กำลังเร่งกำจัดปีศาจดูดเลือดเช่นเดียวกันกับพวกเขา“แม่นางฉู่ หวังหยวน ท่านยาย..” มู่เจียเหยียนตกตะลึงอย่างหนัก เมื่อได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของหลายร่างที่กำลังปกป้องผู้คนในจวนผู้ตรวจการเอาไว้เต็มกำลังทหารและชาวบ้านเองก็ได้เห็นกับตาแล้วว่ายามนี้พวกตนเป็นเพียงแค่มดปลวกตัวจ้อย ทหารยังพอทำเนาพวกเขาใช้อาวุธกันได้คล่องมือพ
“เช่นนั้นข้าก็ไม่เกรงใจแล้ว ข้าจะรั้งอยู่ที่นี่เพื่อกำจัดพวกมันให้สิ้นซาก” หวังหยวนทุบกำปั้นไปที่ฝ่ามือตัวเอง“ปีศาจดูดเลือดที่แท้จริงไม่ใช่นักล่าสังหาร สายเลือดแท้หรือเจ้าแห่งหมอกควันแต่ดั้งเดิมดื่มเลือดมนุษย์เพื่อเป็นอาหารและไม่รุกรานเผ่าพันธุ์มนุษย์ให้สูญสิ้น แต่พวกเผี่ยนฮกนั้นต่างกันพวกเขาตั้งใจจะครอบครองแผ่นดินทั้งหมดอย่างโง่เขลา" ฉู่หลิงรำพันนางรู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้น แวมไพร์ระดับต่ำจะตอบสนองเพียงต้องการกินดื่ม พวกมันจึงต้องมีพวกระดับสูงไว้ควบคุม เพื่อไม่ให้แหล่งอาหารหมดไปในระยะเวลาอันสั้น แต่ชนเผ่าเผี่ยนฮกเหล่านี้ถูกกัดโดยหวังหยวนรวมทั้งดื่มกินเลือดแวมไพร์กันเอง หวังหยวนอ่อนแอกว่าจะควบคุมพวกมันเอาไว้ได้อีกไม่นานพวกกระหายเลือดจะเพิ่มมากขึ้นอย่างไร้การควบคุม หายนะกำลังจะเกิดกับเหล่ามนุษย์!“เราต้องกลับไปปกป้องจวนผู้ตรวจการพิเศษ ทุกชั่วยามที่เรากำลังคุยกันอยู่นี่ปีศาจดูดเลือดระดับต่ำก็กำลังเพิ่มจำนวนกันตลอดเวลา ผู้พิทักษ์มีจำนวนน้อยเกินกว่าจะแบ่งคนไปปกป้องชาวบ้านที่อำเภอซิ่งอันเอาไว้”ฉู่หลิงรู้ดีว่าผู้พิทักษ์อย่างไรก็มีร่างกายเป็นมนุษย์พวกเขาต้องหลับนอนดื่มกิน ไม่สามารถต่อสู้กับ
“ท่านอามีความแค้นและอยากเป็นปีศาจดูดเลือดมาตลอด หรือว่าเขาจะไปที่ชายแดนแล้วพี่หลิงหลิง” เจียวจูเริ่มกังวลใจบ้างแล้ว ฉู่หลิงเองก็คิดเห็นตรงกับเจียวจู เจียวจูมีความผูกพันกับเด็กและชาวบ้านที่อำเภอซิ่งอัน ต่อให้นางกระหายเลือดก็ยังรู้จักยับยั้งชั่งใจ แต่กับหวังหยวนเขามีเพียงความแค้นล้นอก ซ้ำยังเดินทางได้แม้เวลากลางวัน แวมไพร์สาวใจหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม หวั่นเกรงว่าอาจจะมีเหตุการณ์ร้ายแรงเกิดขึ้นบนแผ่นดินในไม่ช้า……….เพียงไม่กี่ชั่วยามที่หวังหยวนบุกฝ่าไปที่ชายแดนเพียงลำพัง เขาไม่ได้มีความอดทนอดกลั้นเหมือนอย่างเจียวจู เมื่อเห็นทหารหูรวมทั้งพวกชนเผ่า หวังหยวนก็ไล่ล่าสังหารรวมทั้งกัดพวกมันบางคนไปด้วยความกระหายเลือดอย่างรุนแรงพอพวกชนเผ่าบางคนได้กลายเป็นปีศาจดูดเลือดสมใจ พวกมันถึงกับรุมทึ้งฉีกร่างปีศาจดูดเลือดตนนั้นเพื่อเอาเลือดมาเปลี่ยนสภาพของพวกมันอย่างรวดเร็ว ตลอดทั้งวันการขยายเผ่าพันธุ์ปีศาจดูดเลือดระดับต่ำก็เพิ่มจำนวนขึ้นมากในฝั่งทัพแคว้นหูจนอยู่ในระดับที่น่าตกใจ“ปีศาจดูดเลือดปรากฏตัวขึ้นแล้วจริงๆ แบ่งกองกำลังของเราออกไปให้ทั่วพื้นที่ ตามผู้พิทักษ์ที่เหลืออยู่ให้มารวมตัวกันโดยเร็วที่สุด” โ
ฉู่หลิงกระโดดอยู่บนยอดไม้ผ่านกลุ่มเด็กทั้งห้าคนที่พยายามกลับไปที่จวนให้เร็วที่สุด แต่นางไม่มีเวลาหยุดคุยกับเด็กทั้งห้า ตอนนี้ฟ้าสว่างแล้วนางเป็นห่วงเจียวจูเพียงผู้เดียว แวมไพร์สาวพยายามสื่อสารพูดคุยกับเจียวจูตามวิธีของแวมไพร์แต่นางกลับทำไม่ได้ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความสามารถของนางยังกลับมาไม่สมบูรณ์หรือเป็นเพราะนางกับเจียวจูอยู่ห่างไกลกันเกินไปกันแน่เมื่อมาถึงจวนผู้ตรวจการพิเศษหญิงสาวเห็นว่าสถานการณ์ไม่ได้เลวร้ายอย่างที่นางเข้าใจ เวลานี้ทหารและชาวบ้านหลายคนกำลังลำเลียงศพฝ่ายตรงข้ามออกไปฝังที่สุสาน นางจึงลงจากยอดไม้แล้วเดินเข้าไปในจวนตรงๆ ทางประตูหลัง“แม่นางฉู่ ท่านกลับมาแล้วหรือ” ชาวบ้านหลายคนที่คุ้นหน้าคุ้นตาฉู่หลิงทักทายนางระเรื่อยมาตลอดทางจนถึงตัวอาคาร “เจ้ามาแล้วหรือ เข้ามาก่อนเร็วเจียวจ้านพานางไปพักข้างบนแล้ว” ท่านยายเฉินที่รอท่าอยู่ก่อนแล้วรีบเดินมาดึงฉู่หลิงแยกออกจากผู้คนเข้าไปภายในจวน“นางเป็นอย่างไรบ้าง เกิดอะไรขึ้นที่นี่ท่านยาย” “เจียวจ้านพบนางก่อนข้า ยังไม่ทันได้ถามความอะไรกันเขาก็ต้องรีบพาเจียวจูไปข้างบนก่อน ไม่เช่นนั้นนางจะถูกแสงแดด ข้าก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรมากนักเห็นนาง