“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั
“ต้องแบบนี้สิวะถึงจะเรียกว่าน้องเขย”วินทร์หันมายักคิ้วให้ชินกรก่อนจะดูดกาแฟเย็นของเขาต่อ วินทร์ยื่นชาเขียวแก้วใหม่ให้มิว“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่ข้างมิวเสมอ ไม่ต้องกลัวเพราะแพรวากับพี่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยและพี่ไม่เคยล่วงเกินเธอ”“พี่เป็นพยานให้ไอ้วินทร์ได้ในเรื่องนี้ น้องแพรคนนั้นถ้ากูจำไม่ผิดมากับดาวคณะที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน สุดท้ายมาเพื่อจะเข้าหามึงใช่ไหม”“พอไอ้ธิศพูดกูก็นึกออกเพราะพวกเธอตบตีกันเองมึงเลยเลิกติดต่อทั้งคู่ น้องแพรวาอะไรนี่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้คบหากับมึงเลยด้วยนี่ แค่ให้มึงเดินไปที่คณะด้วยกันเพราะเป็นทางผ่าน ตอนนั้นกูก็ไปด้วย”“ไอ้ภัทรมึงความจำแม่นใช้ได้เลยนี่กูก็ลืมไปแล้ว”“ก็หลังจากวันนั้นพวกพยาบาลมาใช้ห้องของคณะเราไงล่ะ มึงกับไอ้ธิศเลยโดนน้องมิวด่าที่หน้าคณะจำได้ไหมล่ะ”“ไอ้เชี่ยภัทรไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ มึงรื้อฟื้นทำไมวะกูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”วินทร์หันมามองหน้ามิวและยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ มิวรู้ดีว่าตอนนี้วินทร์จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงก็ยังมีวินทร์และชินกร พี่ชายของเธอที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่เสมอ“มิว พ่อโทรมาหาพี่บอกว่าเรื่องที่จะเข้าประกวดพ่อบอกว่าให้มิวทำ
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าต้องมีเรื่องแบบนี้”มิวพูดขึ้นมาหลังจากที่ริชชี่เดินออกมาจากร้านยืมชุดร้านที่สี่ที่เธอรู้จัก “นั่นสิ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีร้านไหนเลยที่มีชุดเหลือ แบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ เลย”“กลับกันเถอะ”“อ้าว แล้วจะทำยังไงละมิว”“ค่อยกลับไปคิดกันใหม่”“แต่ว่าเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ช่างแต่งหน้าก็ยังหาไม่ได้แล้วไหนจะชุดอีก”“เอาไว้ค่อยคิด”เย็นวันนั้น วินทร์ที่พึ่งกลับมาจากเรียนช่วงบ่ายเข้ามาในห้องก็เห็นว่ามิวนอนอยู่ที่โซฟาโดยมีมือถือวางอยู่ แต่เธอหลับสนิทจึงไม่เห็นข้อความของแยมที่ส่งมาให้“ริชชี่บอกว่าหาไปถึงร้านเวดดิ้งที่ทองหล่อก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน สงสัยงานนี้คงได้ตัดชุดใส่เองแล้วมั้ง ฮ่า ๆ”เขาไม่ได้แอบอ่านเพราะข้อความมันเด้งขึ้นมาเองจากหน้าจอภาวินทร์ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแต่เขาเห็นว่ามิวยังหลับสนิทอยู่จึงได้โทรไปหาริชชี่เพื่อนสนิทของมิวโดยตรงซึ่งเขามีเบอร์ของเพื่อนมิวเอาไว้ทุกคน“โอเคพี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะริชชี่”วินทร์วางหูไปแล้วและรีบกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันที เสียงปลายสายรับอย่างงัวเงียเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น“ว่าไงไอ้ตัวแสบยังจำเบอร์พี่สาวแกได้อยู่เหร
“โอ้โหน้องมิว วันนี้สวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ เลย”นิธิศเอ่ยปากชมด้วยใจจริง เขาเคยเห็นมิวมาก่อนหน้านี้แล้วในชุดบาร์เทนเดอร์และเห็นด้วยกับวินทร์ว่ามิวต้องสวยโดดเด่นในชุดไทยแน่ ๆ แต่ชินกรและวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นถึงกับยืนอึ้งอ้าปากค้าง รวมถึงคนที่เริ่มมามุงดูกันและเริ่มสงสัยว่าเธอเป็นใคร“นั่นใครวะ คนของคณะพยาบาลเหรอ”“นั่นสิหน้าไม่คุ้นเลยแต่สวยฉิบหาย มึงดูรูปร่างสิอย่างกับนางแบบ”“นั่งรถหรูมาขนาดนั้นลูกนักการเมืองหรือเปล่าวะ”“แต่รุ่นพี่วิศวะคนนั้น….เขาแฟนของ…”“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแฟนพี่ภาวินทร์คณะวิศวะเครื่องกลปีสี่คนนั้นน่ะ ที่ใส่แว่นหนา ๆ”“เชี่ย!! สวยขนาดนี้เลยเหรอวะ”ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ตกตะลึงในความขาวและความสวยของลักษิกาตรงหน้า แม้แต่คณะอาจารย์และกรรมการที่เริ่มเดินมาให้คะแนนในรอบแรกที่จะขึ้นรถที่ตกแต่งเอาไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้ชินกรให้คนของคณะวิศวะมาช่วยแต่งรถของมิวด้วยดอกไม้สดทั้งคัน วินทร์เดินเข้ามาหาและถามเธอ“เป็นยังไงบ้างเมื่อยไหม”“ไม่ค่ะแล้วพี่วินทร์ละคะ เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยแค่เห็นหน้ามิวก็หายเหนื่อยแล้ว วันนี้มิวสวยมากที่สุดเลย สวยจนอยากขอแต่งงานเลย”“พี่วินทร์ พูดอะไรน่ะ”“หนัก
มิวรับถ้วยจากอธิการบดีก่อนที่จะถ่ายรูปรวมกับผู้ที่ได้รองทั้งสี่อันดับ กว่าเธอจะได้ลงจากเวทีก็เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เมื่อลงมาด้านหลังคนที่รีบเดินหนีก่อนคนแรกเลยคือแพรวาที่อายจนไม่อยากอยู่ต่อ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของริชชี่ แยมและแคร์ที่มายืนขวางทางออกเอาไว้“จะรีบไปไหนเหรอแพรวา ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำได้นะว่าพูดอะไรเอาไว้ก่อนหน้านี้”“หลีกไป!”“ไม่หลีก คนอะไรแพ้แล้วไม่มีสัจจะ การกระทำของเธอก่อนหน้านี้แย่มากนะ กลั่นแกล้งมิวสารพัดเพื่อจะไม่ให้มาประกวดและยังโทรไปแจ้งร้านไม่ให้พวกเราเช่าชุดมาตอนนี้ทำไมถึงกล้าหนี”“พวกเธอชนะแล้วนี่ยังต้องการอะไรอีก จริงสินะทั้งชุดเอยเครื่องประดับและรถขบวนแห่นั่นคงจ่ายไปไม่น้อยเลยสิ จ่ายเงินใต้โต๊ะไปเท่าไหร่ล่ะถึงได้ตำแหน่ง”“อีนี่! วอนเสียแล้ว”“แยมอย่า! ใจเย็น ๆ ก่อน”แยมเดินมาพร้อมกับดึงถ้วยและเงินรางวัลออกไปและผลักแพรวาเข้ามาในห้อง แคร์เดินเข้ามาดึงเพื่อนเอาไว้ก่อนที่แพรวาจะเริ่มโวยวายขึ้นมา มิวและธิดาที่กำลังลงมาจากเวทียืนมองอยู่ห่าง ๆ“ทำอะไรน่ะ ช่วยด้วย! นี่มันข่มขู่กันชัด ๆ เลยฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะพวกเธอยังต้องการอะไรอีก”“ขอโทษมิวก่อนสิ แล้วก็ยอมรับด้วยว่าแอบ
วินทร์รีบเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้มิว เธอพอจะลุกไหวจึงวัดไข้เอง“สามสิบเก้าจุดห้าองศา เฮ้อลูกแกะน้อยจะไม่คุ้มเอานะเนี่ย เดี๋ยวพี่มานะจะไปเอาข้าวมาป้อน”“มิวเดินออกไปกินเอง…”“พอเลยอยู่กับที่บ้างเถอะ ไม่น่าเลยจริง ๆ วันหลังไม่เอาแล้วนะแบบนี้ ครั้งเดียวพอเลยนอนพักไปเดี๋ยวพี่ไปเทมาให้พึ่งมาเมื่อกี้นี้ยังร้อนอยู่”ภาวินทร์บ่นไปอีกนานเรื่องที่เธอต้องป่วยเพราะไปยืนสวมชุดในอากาศที่เย็นของช่วงปลายปีแล้วยังสวมส้นสูง ซึ่งปกติเธอไม่เคยสวมมาก่อนแล้วยังต้องรับน้ำหนักของชุดและเครื่องประดับร่วมหลายชั่วโมงกว่าจะได้พัก“กินยาก่อนนะ”เธอรับยาจากเขามากินจนหมดและหลับสนิทไปทันที วินทร์เปลี่ยนผ้าและเช็ดตัวให้เธออีกครั้งหลังจากที่เหงื่อเริ่มออกแต่มิวยังลุกไม่ไหว“เย็นนี้ถ้าไข้ยังไม่ลดพี่จะพาไปนอนโรงพยาบาล”“ไม่เอา…พี่วินทร์”“ไม่ต้องมาเถียง”สุดท้ายก็ไม่พ้นที่ภาวินทร์จะต้องพาเธอไปที่โรงพยาบาลเพราะไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย หมอวินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่และต้องนอนที่โรงพยาบาล“ว่าแล้วเชียว”“วิน! น้องมิวเป็นยังไงบ้าง”“ไข้หวัดใหญ่น่ะสิ คิดเอาไว้แล้วไม่ผิด”“ไอ้วินทร์ แล้วตอนนี้มิวอยู่ไหน”“อยู่ในห้องปลอดเชื้อเด
คอนโด“พี่สารภาพไปหมดแล้ว มิวก็อย่าโกรธอีกเลยนะ”“สมคบคิดกับห้องระบบกล้องวงจรปิด แอบถ่ายคลิปหลังเวทีแล้วปล่อยแฉรุ่นน้อง พี่วินทร์ นี่พวกพี่ทำไมทำแบบนี้ นั่นมันอนาคตของแพรวาเลยนะคะ”“ใครบอกให้เธอไม่ยอมรับและขอโทษมิวล่ะ รู้หรือเปล่าว่าจนถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่ออยู่เลยทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเองแต่กลับไม่กล้ายอมรับความพ่ายแพ้ สมควรแล้ว…”แต่เมื่อหันมาเจอหน้าดุ ๆ ของมิวเสียงของเขาก็อ่อยลงทันที“มิว เรื่องนี้พี่กับไอ้กรไม่ได้ทำเกินไปจริง ๆ นะ คลิปที่ปล่อยออกไปก็แค่คำพูดที่เธอไม่ยอมขอโทษมิวหลังเวทีและเป็นคลิปเสียงเท่านั้น แต่ช่วยไม่ได้ที่คนจะรู้ทันทีว่าใครและอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก มิวมาดูนี่สิ”มิวขมวดคิ้วและหันมาดูสิ่งที่วินทร์เปิดให้ดู มีรุ่นน้องหลาย คนที่ออกมาแฉพฤติกรรมของแพรวา พวกเธอเองก็เคยถูกรุ่นพี่คนนี้กลั่นแกล้งจนไม่สามารถทนได้อยู่หลายครั้ง บางคนถึงกับหยุดเรียนไปเลยก็มี “อะไรกันเนี่ย แกล้งกันเกินไปหรือเปล่า คนพวกนี้ไม่ใช่แอคหลุมใช่ไหมคะ”“ไม่ใช่ ดูเหมือนว่าบางคนจะเป็นรุ่นน้องสายตรงของเธอเลยด้วยนะที่ออกมาแฉ พี่กับไอ้กรเช็คมาแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดเหมื
คอนโด “หยุด…พอก่อน อ๊ะ…อ๊าา”เสียงขอร้องในค่ำคืนเร่าร้อนไม่มีผล บั้นท้ายงอนงามถูกหนุ่มกำยำดีกรีเดือนคณะวิศวะปีที่สี่ยังคงถูกกระแทกไม่หยุดเมื่ออีกฝ่ายเอาแต่มุดหน้ากับหมอนเพื่อกั้นเสียงร้อง“อื้อ… พี่วินทร์…ฮึก!!”จังหวะสุดท้ายที่เข้าสอดลึกและแช่เอาไว้ “ลักษิกา” จึงรู้ว่าทุกอย่างจบลงแล้ว …แต่เธอเข้าใจผิดว่าเขาจะหยุดเพราะตอนนี้ “ภาวินทร์” กำลังถอดเครื่องป้องกันและจัดการตัวเอง ไม่ทันที่เธอจะได้ขยับดึงผ้าห่มก็ได้ยินเสียงฉีกซองป้องกันถุงใหม่อีกครั้ง“เดี๋ยวก่อนค่ะ พรุ่งนี้มิวมีสอบย่อย คืนนี้คง…”“นอนลงไปดี ๆ เถอะมิวอย่าให้พี่โมโห พี่เคยบอกแล้วว่าอย่ากลับไปทำงานแบบนั้นอีกไม่ใช่เหรอ”“ไม่ใช่นะคะพี่วินทร์เข้าใจผิด มิวแค่ อ๊าา!!”เขากดศีรษะเธอลงและเริ่มสอดใส่เข้าไปด้านหลังอีกครั้ง แม้ว่ามิวจะไม่ต่อต้านแต่คืนนี้เขาทำแบบนี้มาเกินสองรอบแล้วซึ่งเธอเริ่มจะหมดแรงจนพูดไม่ออกแล้ว“ฮึก!! เสียวฉิบหาย อาา… มิว”“อื้อ….”“มานี่ มาขึ้นให้หน่อย”“ไม่เอานะพี่วินทร์ อย่าทำแบบนี้ อ๊าา”เขาดึงตัวเธอมานั่งคร่อมตักและค่อย ๆ สอดอาวุธประจำตัวเข้าไป มิวที่ทั้งจุกและเสียวร้องครางกระเส่าเมื่อเขาสั่งให้เธอขยับเอวขึ้นอี
คอนโด“พี่สารภาพไปหมดแล้ว มิวก็อย่าโกรธอีกเลยนะ”“สมคบคิดกับห้องระบบกล้องวงจรปิด แอบถ่ายคลิปหลังเวทีแล้วปล่อยแฉรุ่นน้อง พี่วินทร์ นี่พวกพี่ทำไมทำแบบนี้ นั่นมันอนาคตของแพรวาเลยนะคะ”“ใครบอกให้เธอไม่ยอมรับและขอโทษมิวล่ะ รู้หรือเปล่าว่าจนถึงตอนนี้เธอยังคิดว่าตัวเองเป็นเหยื่ออยู่เลยทั้ง ๆ ที่ตัวเองเป็นคนเริ่มต้นทุกอย่างเองแต่กลับไม่กล้ายอมรับความพ่ายแพ้ สมควรแล้ว…”แต่เมื่อหันมาเจอหน้าดุ ๆ ของมิวเสียงของเขาก็อ่อยลงทันที“มิว เรื่องนี้พี่กับไอ้กรไม่ได้ทำเกินไปจริง ๆ นะ คลิปที่ปล่อยออกไปก็แค่คำพูดที่เธอไม่ยอมขอโทษมิวหลังเวทีและเป็นคลิปเสียงเท่านั้น แต่ช่วยไม่ได้ที่คนจะรู้ทันทีว่าใครและอีกอย่างเรื่องนี้ไม่ใช่ครั้งแรก มิวมาดูนี่สิ”มิวขมวดคิ้วและหันมาดูสิ่งที่วินทร์เปิดให้ดู มีรุ่นน้องหลาย คนที่ออกมาแฉพฤติกรรมของแพรวา พวกเธอเองก็เคยถูกรุ่นพี่คนนี้กลั่นแกล้งจนไม่สามารถทนได้อยู่หลายครั้ง บางคนถึงกับหยุดเรียนไปเลยก็มี “อะไรกันเนี่ย แกล้งกันเกินไปหรือเปล่า คนพวกนี้ไม่ใช่แอคหลุมใช่ไหมคะ”“ไม่ใช่ ดูเหมือนว่าบางคนจะเป็นรุ่นน้องสายตรงของเธอเลยด้วยนะที่ออกมาแฉ พี่กับไอ้กรเช็คมาแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดเหมื
วินทร์รีบเตรียมน้ำมาเช็ดตัวให้มิว เธอพอจะลุกไหวจึงวัดไข้เอง“สามสิบเก้าจุดห้าองศา เฮ้อลูกแกะน้อยจะไม่คุ้มเอานะเนี่ย เดี๋ยวพี่มานะจะไปเอาข้าวมาป้อน”“มิวเดินออกไปกินเอง…”“พอเลยอยู่กับที่บ้างเถอะ ไม่น่าเลยจริง ๆ วันหลังไม่เอาแล้วนะแบบนี้ ครั้งเดียวพอเลยนอนพักไปเดี๋ยวพี่ไปเทมาให้พึ่งมาเมื่อกี้นี้ยังร้อนอยู่”ภาวินทร์บ่นไปอีกนานเรื่องที่เธอต้องป่วยเพราะไปยืนสวมชุดในอากาศที่เย็นของช่วงปลายปีแล้วยังสวมส้นสูง ซึ่งปกติเธอไม่เคยสวมมาก่อนแล้วยังต้องรับน้ำหนักของชุดและเครื่องประดับร่วมหลายชั่วโมงกว่าจะได้พัก“กินยาก่อนนะ”เธอรับยาจากเขามากินจนหมดและหลับสนิทไปทันที วินทร์เปลี่ยนผ้าและเช็ดตัวให้เธออีกครั้งหลังจากที่เหงื่อเริ่มออกแต่มิวยังลุกไม่ไหว“เย็นนี้ถ้าไข้ยังไม่ลดพี่จะพาไปนอนโรงพยาบาล”“ไม่เอา…พี่วินทร์”“ไม่ต้องมาเถียง”สุดท้ายก็ไม่พ้นที่ภาวินทร์จะต้องพาเธอไปที่โรงพยาบาลเพราะไข้ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงเลย หมอวินิจฉัยว่าเธอเป็นไข้หวัดใหญ่และต้องนอนที่โรงพยาบาล“ว่าแล้วเชียว”“วิน! น้องมิวเป็นยังไงบ้าง”“ไข้หวัดใหญ่น่ะสิ คิดเอาไว้แล้วไม่ผิด”“ไอ้วินทร์ แล้วตอนนี้มิวอยู่ไหน”“อยู่ในห้องปลอดเชื้อเด
มิวรับถ้วยจากอธิการบดีก่อนที่จะถ่ายรูปรวมกับผู้ที่ได้รองทั้งสี่อันดับ กว่าเธอจะได้ลงจากเวทีก็เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้ว เมื่อลงมาด้านหลังคนที่รีบเดินหนีก่อนคนแรกเลยคือแพรวาที่อายจนไม่อยากอยู่ต่อ แต่ก็ไม่พ้นสายตาของริชชี่ แยมและแคร์ที่มายืนขวางทางออกเอาไว้“จะรีบไปไหนเหรอแพรวา ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำได้นะว่าพูดอะไรเอาไว้ก่อนหน้านี้”“หลีกไป!”“ไม่หลีก คนอะไรแพ้แล้วไม่มีสัจจะ การกระทำของเธอก่อนหน้านี้แย่มากนะ กลั่นแกล้งมิวสารพัดเพื่อจะไม่ให้มาประกวดและยังโทรไปแจ้งร้านไม่ให้พวกเราเช่าชุดมาตอนนี้ทำไมถึงกล้าหนี”“พวกเธอชนะแล้วนี่ยังต้องการอะไรอีก จริงสินะทั้งชุดเอยเครื่องประดับและรถขบวนแห่นั่นคงจ่ายไปไม่น้อยเลยสิ จ่ายเงินใต้โต๊ะไปเท่าไหร่ล่ะถึงได้ตำแหน่ง”“อีนี่! วอนเสียแล้ว”“แยมอย่า! ใจเย็น ๆ ก่อน”แยมเดินมาพร้อมกับดึงถ้วยและเงินรางวัลออกไปและผลักแพรวาเข้ามาในห้อง แคร์เดินเข้ามาดึงเพื่อนเอาไว้ก่อนที่แพรวาจะเริ่มโวยวายขึ้นมา มิวและธิดาที่กำลังลงมาจากเวทียืนมองอยู่ห่าง ๆ“ทำอะไรน่ะ ช่วยด้วย! นี่มันข่มขู่กันชัด ๆ เลยฉันไม่ได้ทำอะไรผิดนะพวกเธอยังต้องการอะไรอีก”“ขอโทษมิวก่อนสิ แล้วก็ยอมรับด้วยว่าแอบ
“โอ้โหน้องมิว วันนี้สวยเหมือนนางฟ้าจริง ๆ เลย”นิธิศเอ่ยปากชมด้วยใจจริง เขาเคยเห็นมิวมาก่อนหน้านี้แล้วในชุดบาร์เทนเดอร์และเห็นด้วยกับวินทร์ว่ามิวต้องสวยโดดเด่นในชุดไทยแน่ ๆ แต่ชินกรและวีรภัทรที่ไม่เคยเห็นถึงกับยืนอึ้งอ้าปากค้าง รวมถึงคนที่เริ่มมามุงดูกันและเริ่มสงสัยว่าเธอเป็นใคร“นั่นใครวะ คนของคณะพยาบาลเหรอ”“นั่นสิหน้าไม่คุ้นเลยแต่สวยฉิบหาย มึงดูรูปร่างสิอย่างกับนางแบบ”“นั่งรถหรูมาขนาดนั้นลูกนักการเมืองหรือเปล่าวะ”“แต่รุ่นพี่วิศวะคนนั้น….เขาแฟนของ…”“เฮ้ย! อย่าบอกนะว่าแฟนพี่ภาวินทร์คณะวิศวะเครื่องกลปีสี่คนนั้นน่ะ ที่ใส่แว่นหนา ๆ”“เชี่ย!! สวยขนาดนี้เลยเหรอวะ”ไม่ใช่แค่พวกเขาที่ตกตะลึงในความขาวและความสวยของลักษิกาตรงหน้า แม้แต่คณะอาจารย์และกรรมการที่เริ่มเดินมาให้คะแนนในรอบแรกที่จะขึ้นรถที่ตกแต่งเอาไว้แล้ว ซึ่งครั้งนี้ชินกรให้คนของคณะวิศวะมาช่วยแต่งรถของมิวด้วยดอกไม้สดทั้งคัน วินทร์เดินเข้ามาหาและถามเธอ“เป็นยังไงบ้างเมื่อยไหม”“ไม่ค่ะแล้วพี่วินทร์ละคะ เหนื่อยไหม”“ไม่เหนื่อยแค่เห็นหน้ามิวก็หายเหนื่อยแล้ว วันนี้มิวสวยมากที่สุดเลย สวยจนอยากขอแต่งงานเลย”“พี่วินทร์ พูดอะไรน่ะ”“หนัก
“คิดเอาไว้ไม่มีผิดเลยว่าต้องมีเรื่องแบบนี้”มิวพูดขึ้นมาหลังจากที่ริชชี่เดินออกมาจากร้านยืมชุดร้านที่สี่ที่เธอรู้จัก “นั่นสิ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะไม่มีร้านไหนเลยที่มีชุดเหลือ แบบนี้มันเหมือนแกล้งกันชัด ๆ เลย”“กลับกันเถอะ”“อ้าว แล้วจะทำยังไงละมิว”“ค่อยกลับไปคิดกันใหม่”“แต่ว่าเหลืออีกแค่อาทิตย์เดียวเอง ช่างแต่งหน้าก็ยังหาไม่ได้แล้วไหนจะชุดอีก”“เอาไว้ค่อยคิด”เย็นวันนั้น วินทร์ที่พึ่งกลับมาจากเรียนช่วงบ่ายเข้ามาในห้องก็เห็นว่ามิวนอนอยู่ที่โซฟาโดยมีมือถือวางอยู่ แต่เธอหลับสนิทจึงไม่เห็นข้อความของแยมที่ส่งมาให้“ริชชี่บอกว่าหาไปถึงร้านเวดดิ้งที่ทองหล่อก็ยังหาไม่ได้เหมือนกัน สงสัยงานนี้คงได้ตัดชุดใส่เองแล้วมั้ง ฮ่า ๆ”เขาไม่ได้แอบอ่านเพราะข้อความมันเด้งขึ้นมาเองจากหน้าจอภาวินทร์ถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแต่เขาเห็นว่ามิวยังหลับสนิทอยู่จึงได้โทรไปหาริชชี่เพื่อนสนิทของมิวโดยตรงซึ่งเขามีเบอร์ของเพื่อนมิวเอาไว้ทุกคน“โอเคพี่รู้แล้ว ขอบใจมากนะริชชี่”วินทร์วางหูไปแล้วและรีบกดเบอร์โทรที่คุ้นเคยทันที เสียงปลายสายรับอย่างงัวเงียเพราะยังไม่ถึงเวลาตื่น“ว่าไงไอ้ตัวแสบยังจำเบอร์พี่สาวแกได้อยู่เหร
“ต้องแบบนี้สิวะถึงจะเรียกว่าน้องเขย”วินทร์หันมายักคิ้วให้ชินกรก่อนจะดูดกาแฟเย็นของเขาต่อ วินทร์ยื่นชาเขียวแก้วใหม่ให้มิว“ไม่ต้องห่วงพี่อยู่ข้างมิวเสมอ ไม่ต้องกลัวเพราะแพรวากับพี่ไม่ได้มีอะไรเกินเลยและพี่ไม่เคยล่วงเกินเธอ”“พี่เป็นพยานให้ไอ้วินทร์ได้ในเรื่องนี้ น้องแพรคนนั้นถ้ากูจำไม่ผิดมากับดาวคณะที่บอกว่าเป็นเพื่อนกัน สุดท้ายมาเพื่อจะเข้าหามึงใช่ไหม”“พอไอ้ธิศพูดกูก็นึกออกเพราะพวกเธอตบตีกันเองมึงเลยเลิกติดต่อทั้งคู่ น้องแพรวาอะไรนี่ดูเหมือนจะยังไม่ทันได้คบหากับมึงเลยด้วยนี่ แค่ให้มึงเดินไปที่คณะด้วยกันเพราะเป็นทางผ่าน ตอนนั้นกูก็ไปด้วย”“ไอ้ภัทรมึงความจำแม่นใช้ได้เลยนี่กูก็ลืมไปแล้ว”“ก็หลังจากวันนั้นพวกพยาบาลมาใช้ห้องของคณะเราไงล่ะ มึงกับไอ้ธิศเลยโดนน้องมิวด่าที่หน้าคณะจำได้ไหมล่ะ”“ไอ้เชี่ยภัทรไม่พูดก็ไม่มีใครว่านะ มึงรื้อฟื้นทำไมวะกูอุตส่าห์ลืมไปแล้ว”วินทร์หันมามองหน้ามิวและยิ้มให้กันอย่างเข้าใจ มิวรู้ดีว่าตอนนี้วินทร์จะอยู่ข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะตัดสินใจยังไงก็ยังมีวินทร์และชินกร พี่ชายของเธอที่พร้อมจะช่วยเหลืออยู่เสมอ“มิว พ่อโทรมาหาพี่บอกว่าเรื่องที่จะเข้าประกวดพ่อบอกว่าให้มิวทำ
“ฉันว่าคนที่น่าห่วงน่ะไม่ใช่มิวหรอก แต่เป็นคนขี้อิจฉาอย่างเธอมากกว่า”“ยัยแคร์ หมายความว่ายังไง”แคร์ ริชชี่และแยมเดินมาพอดีพร้อมกับดึงมิวเข้ามา ดูท่าทางแพรวาเองก็เหมือนจะไม่ยอมแพ้ง่าย ๆ “ก็เธอโดนทิ้งก็ไม่ได้หมายความว่ามิวจะเป็นอย่างเธอ ที่ฉันเห็นนะมิวกับพี่วินทร์คบหากันมานานเกินครึ่งปีแล้ว อีกอย่างตอนที่มิวโกรธ พี่วินทร์ถึงกับตามไปง้อถึงที่เลยนะ เรื่องแบบนี้เธอเคยเจอบ้างหรือเปล่า”“แก!”“อ๊ะ ๆ แคร์พูดไม่จบฉันขอต่อให้ก็แล้วกันนะ เรื่องของเธอกับมิวมันเอามาเทียบกันไม่ได้ แค่คนที่เคยคุยกับ "แฟน" น่ะ มันก็คนละเรื่องกันแล้ว อีกอย่างนะตอนนี้พี่วินทร์ก็ไม่เคยมองผู้หญิงคนไหนอีกเลย ไม่คิดเลยนะว่าพี่วินทร์จะคลั่งรักขนาดนี้ ไม่น่าเชื่อเลยว่าไหมริชชี่"แพรวากำหมัดแน่นเพราะความอิจฉา เธอเคยคุยกับภาวินทร์และเคยควงเขาอยู่ไม่ถึงสิบวัน อาจเพราะเธอเซ้าซี้เขามากเกินไปและเรียกร้องขอให้เขามารับมาส่ง แต่ไม่เคยมีสักครั้งที่ภาวินทร์จะทำตามที่เธอขอ ไม่เหมือนกับที่เขาถึงกับขับรถมาส่งมิวที่หน้าคณะอย่างเต็มใจแบบนี้“งานลอยกระทงปีนี้ ถ้าเธอคิดว่าเธอแน่จริงกล้ามาแข่งกับฉันไหมล่ะ”“อะไรนะ”“งานลอยกระทงของมหาวิทยาลั
มิวหันมามองหน้าเขาเมื่อรับจานจากวินทร์มาเข้าเครื่องล้างจาน“ทำไมจู่ ๆ พี่วินทร์มาถามเรื่องนี้กับมิวละคะ ไหนบอกว่าไม่อยากให้มิวทำยังไงล่ะ”“ก็ถ้า…พี่เรียนจบแล้วและต้องทำงาน อีกอย่างที่ร้านนั้นตอนนี้พ่อพี่ก็เป็นหุ้นส่วนใหญ่ ถ้าแต่งตัวให้ดี ๆ บาร์เทนเดอร์ไม่จำเป็นต้องแต่งตัวโป๊นี่จริงไหม”“ก็จริงค่ะ ที่จริงมิวก็ไม่ได้ชอบการแต่งตัวแบบนั้นเท่าไหร่หรอกค่ะ แต่ตอนนั้นมันเลือกไม่ได้”“อีกอย่างตอนนี้มิวก็ไม่ต้องห่วงเรื่องทุนการศึกษาแล้วด้วย ไม่จำเป็นต้องปิดบัง พี่แค่อยากถามว่ามิวอยากทำหรือเปล่า แต่ใจพี่ยังไม่อยากให้มิวไปทำหรอกนะ เพราะปีหน้ามิวก็เรียนปีสุดท้ายแล้ว พี่อยากให้มิวเรียนให้จบก่อน”“ที่จริงมิวก็รักงานนี้นะคะ แต่ก็อย่างที่พี่วินทร์พูดนั่นแหละค่ะว่าคงต้องตั้งใจเรียนก่อน เอาเป็นว่าไปช่วยแค่ชั่วครั้งชั่วคราวได้เหมือนกับงานที่แล้ว”“แต่พี่จะไม่ให้ใส่ชุดแบบนั้นแล้วนะ ใส่ให้มันรัดกุมให้ดูเป็นผับที่ดูดีหน่อยไม่ใช่…”“ตอนนี้ที่นั่นมีใครดูแลอยู่เหรอคะ”“พี่รินทร์กับสามีไง วันนี้เธอมาที่นี่เพราะจะคุยเรื่องมิวนั่นแหละ พ่อคงไปบอกเรื่องของเราหมดแล้วเพราะคืนนั้นพ่อเห็นพี่ลากมิวออกมาจากงาน วันนี้พี่ร
มิวที่ช็อกอยู่หน้าประตูพยายามก้าวขาออกจากห้อง แต่ภาพตรงหน้าทำให้เธอตกใจจนขาแทบไม่กระดิก เมื่อสาวสวยคนนั้นหันมามองหน้าเธอ ส่วนภาวินทร์พยายามลุกขึ้นมา“ฟังพี่ก่อนนะ”“เธอเป็นใครน่ะวินทร์”มิวพยายามกลั้นน้ำตาและหันออกไปจากห้องแต่ภาวินทร์ที่พยายามลุกจากโซฟามาหาเธอกลับล้มตึงลงไปกับพื้นจนเธอตกใจและหันมา“ว้าย! ไอ้วินทร์! น้องคะมาช่วยพี่หน่อยเร็ว ๆ เข้า ไอ้บ้านี่ตัวอย่างกับยักษ์ แกไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะค่อย ๆ ลุก”“พี่รินทร์หลีกไปเลยผมบอกว่า…โอ๊ย!!”มิวตกใจแต่ก็ไม่ทันได้ถาม แต่สรรพนามที่ผู้หญิงสวยคนนั้นเรียกแฟนหนุ่มของเธอ หากฟังไม่ผิดพวกเขาน่าจะไม่ใช่อย่างที่มิวคิดเอาไว้ เธอรีบวิ่งมาประคองภาวินทร์ที่ล้มให้ลุกขึ้น ซึ่งตัวภาวินทร์ร้อนเหมือนไฟ“พี่วินทร์…ไม่สบายเหรอคะ”“ใช่ค่ะ มันไม่ยอมให้พี่โทรบอก น้องมิวใช่ไหมอย่าพึ่งถามตอนนี้ช่วยพี่ลากไอ้เด็กดื้อนี่เข้าห้องนอนก่อน”“เอ่อ ค่ะ ๆ”“ไม่ต้อง พี่รินทร์กลับไปเถอะ ผมมีมิวแล้วเดี๋ยวมิวจัดการเอง โอย…”“พี่วินทร์ อย่าพึ่งพูดเข้าไปในห้องก่อน”“กลับมาแล้วเหรอ กลับมาได้เสียที”แม้แต่เสียงของวินทร์ก็แหบจนแทบไม่มีเสียง มิวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่เธอก็รีบให้เขา