บทที่10.แผนตลบหลังสิงโต...
“อะไรนะช้าง หมายความว่าไงวะ เจ้งง!!”
ชะเอมย้อนถามเสียงหลง เธอแอบแวบต่อสายหาคนของตัวเองจนได้ แต่กลับต้องงงกับคำตอบ...ที่ได้ยิน
“โหเจ้ ไปหลบอยู่ไหนมาคร๊าฟ... งานจวนจะเสร็จแล้วล่ะ น่าจะทันเวลาอยู่”
ช้างตอบกลั้วเสียงหัวเราะ ชะเอมหายไปครบอาทิตย์พอดี
“อ้าว...แล้วแบบล่ะ”
หญิงสาวสับสน เธอหาโอกาสเคลียร์กับอเล็กไซไม่ได้สักที แล้วงานเดินต่อแบบนี้ เขาไม่พอใจขึ้นมา เธอมิเสียทั้งเงิน และเวลาฟรีเหรอ
“โอ้ย!! คุณเขาโทร. มาบอกตั้งแต่เจ้ไปมอสโกวันแรกๆ แล้ว เป็นไงครับ... เที่ยวต่างประเทศสนุกมั้ยครับเจ้”
ช้างตอบ เขาย้อนถามด้วยความอยากรู้
ชะเอมอึ้ง!! เรื่องเที่ยวน่ะเธอไปทุกที่ที่อิรินาไป คนพาไปก็ใจป้ำ พาไปทุกแห่งที่อยากไปเสียด้วย มันเลยเป็นการเที่ยวที่ชะเอมคุ้มสุดๆ เธอไม่ต้องสนใจเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อมีสายเปย์ตัวพ่อ คอยตามจ่ายให้ เธอถ่ายรูปจนเมมโมรี่เต็ม เซฟเก็บไว้ในคอมส่วนตัวอีกเป็นกุรุส เอาไว้ว่างๆ จะมานั่งระลึกความหลัง เมื่อคงไม่มีวันแ
ชะเอมก้มหน้าลง เธออมยิ้มด้วยความพอใจ แผนแรกผ่านไปด้วยดี ที่เหลือก็แค่ชิ่ง...ต้องหาทางหลบการ์ดเหล่านี้ไปยังสนามบิน เพราะระยะทางร้านไอครีมชื่อดังกับท่าอากาศยานอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่...“เยี่ยมมาก...คนเก่ง”ชะเอมหันไปขยิบตาให้อิรินาสองมือสอดลงไปในกระเป๋ากาเกง เพื่อตรวจเช็กสิ่งที่ควรมี ‘พาสปอร์ต’ เธอโน้มตัวลงสวมกอดกระซิบแผ่วๆ ข้างใบหูเล็กๆ และเด็กหญิงก็หยุดร้องกรี๊ด เนื่องจากเสียงกระซิบของชะเอม“ไปค่ะ อีวานจะพาหนูไปกินไอครีมกัน...เราจะออกไปข้างนอกกันค่ะ”ชะเอมพูดยิ้มๆ เธอแอบขยิบตาให้อิรินาหลายครั้ง และเด็กหญิงก็รับลูก แสร้งกระโดดเหมือนดีใจหนักหนา“กินติมๆ ...เย้ๆ”หากอีวานสังเกตสองสาวดีๆ เขาจะรู้สึกสะกิดใจ ทั้ง อิรินาและชะเอม ต่างมีกระเป๋าเป้เล็กๆ สะพายไว้ที่หลังแต่เพราะเสียงสิบแปดหลอดของอิรินา ทำให้ต่อมความฉลาดของอีวานลดลง เขาต้องการแค่...ทำยังไงก็ได้ ให้คุณหนูตัวแสบ...หยุดตะเบ็งเสียงลั่นนั่นเสียทีห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ ‘เบนิคอฟ’ห้างสรรพสินค้าข
บทที่11.ลูกสาวอิรินานั่งเล่นเพลินๆ ในห้องทำงานชะเอม เจ้าตัวรู้สึกสนุก เมื่อไม่มีพี่เลี้ยงคอยตามประกบ ได้ทำอะไรแบบที่ชอบ แถมยังได้แต่งตัวแบบที่ไม่เคยทำกางเกงยีนเด็กกับเสื้อเชิ้ตผมยาวสลวยถูกจับถักเปียง่ายๆ เปิดหน้าผากนูนเด่นกับพวงแก้มยุ้ยสีระเรื่อ หากอเล็กไซได้มาเห็นบุตรสาวในตอนนี้... เขาคงต้องยกมือกุมขมับ เพราะชะเอมจับสาวหวานตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแต่งตัวเป็นทอมบอย“เด็กที่ไหนเจ้ น่ารักเป็นบ้า”ลมลูกน้องหนุ่มสุดแสบกระซิบถาม เขาชำเลืองมองอิรินาตาเยิ้ม ขนาดอายุเพียงแค่นี้... ความสวยยังเปล่งประกายเจิดจ้า หากโตเป็นสาวเต็มตัว เด็กหญิงตรงหน้าคงไม่ต่างอะไรจากนางฟ้า...“ไม่ยุ่งสักเรื่องได้ไหมหะ!!” ชะเอมหันมาแสยะยิ้มมุมปาก กระซิบดุลูกน้องจอมจุ้นเสียงเครียดๆ เมื่อเจ้าตัวดูเหมือนจะชอบสอดรู้ไปหมดทุกเรื่อง“โห...แค่อยากรู้เอง...ทำเป็นดุ!! ไปขโมยลูกใครมาอะครับ?”มันกะพริบเปลือกตาปริบๆ แล้วก็ถามต่อ...ไม่ยอมหยุดความอยากรู้แม้จะถูกมองตาขวาง เมื่อเจ้านายไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร...เด็กหญิ
ชะเอมหมุนตัวขวับ!! ต้องมีใคร? อยู่ด้านหลังเธอแน่ เพราะสังเกตจากสายตาของทุกคน สายตาเหล่านั้นโฟกัสไปที่ใครบางคนที่อยู่ด้านหลังเธอ“ไม่ยักรู้ว่าผม ‘หล่อ’ ในสายตาเอมด้วย”เสียงทุ้มๆ ยังไม่ทำให้ชะเอมหวาดหวั่น ได้เท่ากับตัวเป็นๆ ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง กลิ่นของอเล็กไซทำให้เธอมึน เธอจึงยิ้มกร่อยๆ ทักทายชายหนุ่มแบบเสียไม่ได้“คุณนั่นเอง มารับเอวาเหรอคะ?”“อย่าเปลี่ยนเรื่องน่าเอม... ตอบผมมาก่อน เอมน่ะชอบเฉไฉตลอด...จับไม่มั่น คั้นไม่ตายไม่มีทางยอมรับซักที”อเล็กไซยังดึงดัน เขาพูดย้ำเรื่องเดิมๆ ไม่สนใจแม้กำลังถูกจับตามองชะเอมกลอกตามองบน ชายหนุ่มต้องการคำตอบที่ตนเองพอใจ แต่จะให้เธอตอบว่าเขา ‘หล่อ’ แล้วไอ้พวกลูกน้องข้างหลังเธอมีหวังหัวเราะดังคลื่นแน่... เพราะแต่ละคนต่างพากันเงียบ แต่เปล่า...ที่สงบนิ่งกันอยู่นี่ เชื่อสิ... ตะแคงหูฟังกันเป็นแถว!!เธอถอนลมหายใจแรงๆ ก่อนตอบเสียงเรียบที่สุดเท่าที่จะบังคับปากตนเองให้พูดตอบโต้ไปได้ “ไม่น่าถามนี่คะ คุณน่ะมันเบอร์หนึ่งอยู่แล้ว... แม้แต่นายแบบเอ
บทที่1.เด็กหลงทางเรื่องมันเริ่มต้นขึ้นในช่วงเกือบค่ำของวันหนึ่ง...ไม่ว่าจะเป็นชะตาลิขิต หรือว่าฟ้าดินดลบันดาล มันก็เป็นตลกร้ายที่ชะเอม วรวัฒน์ขำไม่ออก เมื่ออยู่ๆ ชะตาลิขิตจากเบื้องบนก็ส่งความวุ่นวายเข้ามาในชีวิตอันแสนเรียบง่ายของเธอ เป็นพรหมลิขิตที่ทำให้หัวใจแข็งแกร่งมีอันต้องแกว่ง...และเต้นผิดจังหวะ!!เรื่องมันมีอยู่ว่า...ในวันหนึ่ง...วันที่พยับเมฆบนท้องฟ้ามีแต่สีหม่นๆ มองเห็นแต่ริ้วฝนทาทาบเต็มแผ่นฟ้า มันอึมครึมเสียจนอากาศรอบตัวขมุกขมัว...สายลมที่เคยพัดโบกหยุดทำงานเสียอย่างนั้น นั่นเป็นสัญญาณเตือนจากฟากฟ้า เมื่ออากาศร้อนอบอ้าวเช่นนี้เกิดขึ้น...อีกไม่นาน...ฝนคงจะเทลงมาให้แผ่นดินชุ่มฉ่ำ ชะเอมเร่งเดินให้เร็วขึ้น เพื่อไปให้ตนเองถึงบ้านพักก่อนที่หยาดพิรุณจะโปรยปรายลงมาจากท้องฟ้า เมื่อมันมีเสียงคำรนดังเบาๆ สลับกับแสงสีทองแลบแปล๊บๆ บนแผ่นฟ้า...เหมือนกับว่าในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้... หยาดฝนคงจะเทลงมาแบบไม่ลืมหูลืมตา...หญิงสาวเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นแข่งกับเวลา และวัดใจกับสภาพอากาศรอบตัว...แต่...อะไรบางอย่างสะดุดตาหญิงสาวจนชะงักงัน!!ชะเอมย่อตัวลงมอง เธอเห็นร่างเล็กๆ ของเด็กหญิงคนหนึ่ง ซุกต
“หลังใหญ่ๆ ท้ายหมู่บ้านค่ะ นั่นแหละบ้านเอวา” เด็กหญิงตอบ เธอยัดพิซซ่าชิ้นโตๆ เข้าปาก กัดกินอย่างเอร็ดอร่อยจนคราบซอสเลอะเทอะมุมปาก อาจจะเป็นเพราะหิวจัด เมื่อออกแรงกอดปล้ำ ฟัดกับเจ้าตูบสองตัวอยู่เป็นนาน และพิซซ่าที่เธอกำลังกินมันอร่อยจริงๆชะเอมเลิกหัวคิ้วขึ้นสูง เธอครางในอก... คฤหาสน์หลังใหญ่ท้ายหมู่บ้าน เธอเคยเห็นผ่านตาตอนออกไปวิ่งจ๊อกกิ้ง เคยค่อนคอดในใจเพราะแอบอิจฉาเล็กๆ ตัวบ้านหลังใหญ่ปานพระราชวังแวซาย เจ้าของบ้านคงร่ำรวยมหาศาล ไม่คิดไม่ฝันว่าตัวเองจะได้มาพบเจอคนที่อาศัยอยู่ในบ้านหลังนั้นตัวเป็นๆ“คุณป๊าเอวาไม่อยู่เหรอ? ป่านนี้ทำไมไม่มีใครมาตามหาเอวาเลยล่ะ” เธอบ่นแบบไม่ค่อยเข้าใจ คอยใช้ทิชชูซับมุมปากให้อิรินาบ่อยๆ เป็นความเอาใจใส่แบบที่เด็กหญิงรู้สึกอิ่มเอม หญิงสาวย่นหัวคิ้ว แอบค่อนบิดาของเด็กหญิงในใจคุณหนูของบ้านหายตัวไปเป็นเวลานาน ทำไมไม่มีใครในบ้านนั้นรู้เรื่องสักคน“อยู่ค่ะ แต่คุณป๊าไม่สนใจเอวาหร๊อก!! เอวาดื้อ” อิรินาเริ่มน้ำตาตกอีกครั้ง เมื่อหวนคิดถึงบิดา อเล็กไซบิดาของเธอคงกำลังป้อยอแม่สาวทรงโตที่เขาพามารับประทานมื้อค่ำด้วย เธอไม่พอใจอย่างแรง!! แต่บิดาไม่สนใจ...อิรินาก็เลยหลบอ
บทที่2.ผู้หญิงแปลกหน้า...กับตำแหน่ง ‘หม่ามี้’ชะเอมกลอกตาไปมา...เธอรู้สึกอึดอัด และอยากพาตัวเองออกไปจากสถานการณ์ที่คุกคามความรู้สึกตัวเองแบบนี้สักที เธออยากขอตัวไปแต่งเนื้อแต่งตัวให้เรียบร้อย ไม่ค่อยชินกับการอยู่ในสภาพไม่พร้อม แถมมีสายตาคมกริบคู่นั้นคอยมอง สายตาที่เหมือนกับกำลังส่องเนื้อในเธอ สายตาที่เต็มไปด้วยร่องรอยกรุ้มกริ่มของผู้ชายเจ้าชู้!!เขาหล่อแล้วไง...เธอควรต้องสนเหรอ? เพราะต่อให้หล่อเหมือนหลุดออกมาจากหนังสือแฟชั่นชั้นนำที่ฝรั่งเศส เธอก็ไม่สน!! เมื่อเขาคือคน...แปลกหน้า...“คุณบุกรุกบ้านคนอื่นแบบนี้บ่อยเหรอคะ?” เป็นคำเปรยที่กระแทกเข้ากลางแสกหน้าอเล็กไซ เหมือนกับว่าหล่อนกำลังด่าเขาแบบ...อ้อมๆ เนียนๆ ในแบบที่เขาไม่เคยเจอ เมื่อมีแต่สาวๆ อ้าแขนรับ“ต้องขอโทษที่ทำให้คุณรู้สึกเช่นนั้นครับ บังเอิญว่าผมเห็นเอวาในบ้านหลังนี้ และไม่เห็นผู้ใหญ่อยู่สักคน ให้ผมทันได้ขออนุญาตก่อน”ชายหนุ่มแจงเสียงอ่อน เขาหรี่ตามองเรียวขาเพรียว ยามที่หล่อนขยับก้าวเดิน“อ๋อ...” หล่อนลากเ
บทที่3.คาสโนว่าพ่อลูกอ่อน“คุณป๊า...เอวาจะไปหาหม่ามี้ค่า” ในเช้าวันหนึ่ง อิรินาเรียกร้องเอากับบิดา ช่วงเวลาที่กำลังรับประทานอาหารมื้อเช้าชายหนุ่มเลิกคิ้วขึ้นสูง เขาลืมชะเอมไปเสียสนิทใจ เมื่อการงานของอเล็กไซรัดตัว เขาวุ่นวายจนลืมนางฟ้าในฝันคนนั้นเสียหมดสิ้นใบหน้าเล็กๆ ของบุตรสาวหงิกงอ แสดงความไม่พอใจออกมาทางสีหน้า ถึงแม้บิดาไม่พาผู้หญิงคนไหนของท่านมาเหยียบที่คฤหาสน์อันยูคอฟเหมือนเมื่อก่อนก็จริง...แต่อเล็กไซก็ยังไม่ค่อยมีเวลาให้เธอเหมือนเดิม ความเหงา... ความเบื่อหน่าย ทำให้เด็กหญิงแสดงออกแบบก้าวร้าว เมื่อพี่เลี้ยงเป็นแค่เพียงลูกจ้าง...ไม่สามารถสอนสั่งบุตรสาวนายจ้างได้ นอกจากตามใจ“อืม...ตามใจเอวาค่ะ แต่...ให้การ์ดไปด้วยนะ” ชายหนุ่มพับหนังสือพิมพ์ในมือวางลงตรงหน้า เขาฉวยแก้วกาแฟขึ้นมายกจิบ พยักใบหน้าอนุญาตและสั่งงานการ์ดด้านหลังชายหนุ่มสกรีนชะเอมแล้ว หล่อนไม่มีนอกมีใน ไม่มีพิษภัยสำหรับอิรินา“หม่ามี้ทำงานหนัก จะไปหาแต่ล่ะทีต้องนัดล่ว
อาการเหมือนเดินสะดุดขอบพรมปูพื้น...นั่นคืออาการแรกของหล่อนที่อเล็กไซมองเห็น...ชายหนุ่มกลั้นรอยยิ้มขำๆ ทำหน้าตาเฉยชา... ยกรีโหมตขึ้นกดเปิดทีวีจอยักษ์ ทำเป็นเหมือนกำลังรีแลกซ์ยามว่าง ทั้งที่ยังเหนื่อยหอบเพราะออกแรงวิ่งหน้าตั้งมาทิ้งตัวนั่งตรงจุดนี้...ก่อนหน้าที่ชะเอมจะมาถึงแบบเฉียดฉิว!! หากชะเอมฉลาดเป็นกรด รู้ทันเหลี่ยมกลโกงของเขา หล่อนน่าจะรู้ได้จากรถยนต์ที่จอดอยู่ตรงโถงทางเข้า...เมื่อเครื่องยนต์ยังระอุร้อนอยู่เลยปากบางเฉียบขยับกดลง มุมปากบิดเบี้ยวด้วยความอึดอัด เสียงถอนใจเฮือกใหญ่ๆ ดังขึ้น เสยกมือขึ้นถอดหมวกแก็บที่สวมไว้บนศีรษะออก สะบัดเส้นผมยาวสลวยให้ทิ้งตัวลงมา ก่อนจะกล่าวทักทายเจ้าของบ้านหนุ่ม แบบ...เสียไม่ได้...“สวัสดีค่ะคุณเจ้าของบ้าน...เอมไม่คิดว่าคุณจะอยู่ ไม่ทราบว่าคนของเอมแจ้งให้คุณทราบแล้วใช่ไหมคะ เอมเข้ามาดูสถานที่จริง เพื่อจะเริ่มงาน” เสียงชะเอมเป็นงานเป็นการ“เหมาะเลยครับคุณ...แหมๆ โชคดีเสียจริง...ผมว่างพอดี ความจริงผมมีเรื่องอยากปรึกษาคุณด้วย...ได้เจอคุณเลยก็ดี จะได้ไม่ต้องนัดนอกรอบให้ลำบาก...”ชายหนุ่มแสร้งอยู่ในโห
ชะเอมหมุนตัวขวับ!! ต้องมีใคร? อยู่ด้านหลังเธอแน่ เพราะสังเกตจากสายตาของทุกคน สายตาเหล่านั้นโฟกัสไปที่ใครบางคนที่อยู่ด้านหลังเธอ“ไม่ยักรู้ว่าผม ‘หล่อ’ ในสายตาเอมด้วย”เสียงทุ้มๆ ยังไม่ทำให้ชะเอมหวาดหวั่น ได้เท่ากับตัวเป็นๆ ยืนนิ่งอยู่ด้านหลัง กลิ่นของอเล็กไซทำให้เธอมึน เธอจึงยิ้มกร่อยๆ ทักทายชายหนุ่มแบบเสียไม่ได้“คุณนั่นเอง มารับเอวาเหรอคะ?”“อย่าเปลี่ยนเรื่องน่าเอม... ตอบผมมาก่อน เอมน่ะชอบเฉไฉตลอด...จับไม่มั่น คั้นไม่ตายไม่มีทางยอมรับซักที”อเล็กไซยังดึงดัน เขาพูดย้ำเรื่องเดิมๆ ไม่สนใจแม้กำลังถูกจับตามองชะเอมกลอกตามองบน ชายหนุ่มต้องการคำตอบที่ตนเองพอใจ แต่จะให้เธอตอบว่าเขา ‘หล่อ’ แล้วไอ้พวกลูกน้องข้างหลังเธอมีหวังหัวเราะดังคลื่นแน่... เพราะแต่ละคนต่างพากันเงียบ แต่เปล่า...ที่สงบนิ่งกันอยู่นี่ เชื่อสิ... ตะแคงหูฟังกันเป็นแถว!!เธอถอนลมหายใจแรงๆ ก่อนตอบเสียงเรียบที่สุดเท่าที่จะบังคับปากตนเองให้พูดตอบโต้ไปได้ “ไม่น่าถามนี่คะ คุณน่ะมันเบอร์หนึ่งอยู่แล้ว... แม้แต่นายแบบเอ
บทที่11.ลูกสาวอิรินานั่งเล่นเพลินๆ ในห้องทำงานชะเอม เจ้าตัวรู้สึกสนุก เมื่อไม่มีพี่เลี้ยงคอยตามประกบ ได้ทำอะไรแบบที่ชอบ แถมยังได้แต่งตัวแบบที่ไม่เคยทำกางเกงยีนเด็กกับเสื้อเชิ้ตผมยาวสลวยถูกจับถักเปียง่ายๆ เปิดหน้าผากนูนเด่นกับพวงแก้มยุ้ยสีระเรื่อ หากอเล็กไซได้มาเห็นบุตรสาวในตอนนี้... เขาคงต้องยกมือกุมขมับ เพราะชะเอมจับสาวหวานตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้าแต่งตัวเป็นทอมบอย“เด็กที่ไหนเจ้ น่ารักเป็นบ้า”ลมลูกน้องหนุ่มสุดแสบกระซิบถาม เขาชำเลืองมองอิรินาตาเยิ้ม ขนาดอายุเพียงแค่นี้... ความสวยยังเปล่งประกายเจิดจ้า หากโตเป็นสาวเต็มตัว เด็กหญิงตรงหน้าคงไม่ต่างอะไรจากนางฟ้า...“ไม่ยุ่งสักเรื่องได้ไหมหะ!!” ชะเอมหันมาแสยะยิ้มมุมปาก กระซิบดุลูกน้องจอมจุ้นเสียงเครียดๆ เมื่อเจ้าตัวดูเหมือนจะชอบสอดรู้ไปหมดทุกเรื่อง“โห...แค่อยากรู้เอง...ทำเป็นดุ!! ไปขโมยลูกใครมาอะครับ?”มันกะพริบเปลือกตาปริบๆ แล้วก็ถามต่อ...ไม่ยอมหยุดความอยากรู้แม้จะถูกมองตาขวาง เมื่อเจ้านายไม่ค่อยชอบสุงสิงกับใคร...เด็กหญิ
ชะเอมก้มหน้าลง เธออมยิ้มด้วยความพอใจ แผนแรกผ่านไปด้วยดี ที่เหลือก็แค่ชิ่ง...ต้องหาทางหลบการ์ดเหล่านี้ไปยังสนามบิน เพราะระยะทางร้านไอครีมชื่อดังกับท่าอากาศยานอยู่ไม่ไกลกันเท่าไหร่...“เยี่ยมมาก...คนเก่ง”ชะเอมหันไปขยิบตาให้อิรินาสองมือสอดลงไปในกระเป๋ากาเกง เพื่อตรวจเช็กสิ่งที่ควรมี ‘พาสปอร์ต’ เธอโน้มตัวลงสวมกอดกระซิบแผ่วๆ ข้างใบหูเล็กๆ และเด็กหญิงก็หยุดร้องกรี๊ด เนื่องจากเสียงกระซิบของชะเอม“ไปค่ะ อีวานจะพาหนูไปกินไอครีมกัน...เราจะออกไปข้างนอกกันค่ะ”ชะเอมพูดยิ้มๆ เธอแอบขยิบตาให้อิรินาหลายครั้ง และเด็กหญิงก็รับลูก แสร้งกระโดดเหมือนดีใจหนักหนา“กินติมๆ ...เย้ๆ”หากอีวานสังเกตสองสาวดีๆ เขาจะรู้สึกสะกิดใจ ทั้ง อิรินาและชะเอม ต่างมีกระเป๋าเป้เล็กๆ สะพายไว้ที่หลังแต่เพราะเสียงสิบแปดหลอดของอิรินา ทำให้ต่อมความฉลาดของอีวานลดลง เขาต้องการแค่...ทำยังไงก็ได้ ให้คุณหนูตัวแสบ...หยุดตะเบ็งเสียงลั่นนั่นเสียทีห้างสรรพสินค้าเก่าแก่ ‘เบนิคอฟ’ห้างสรรพสินค้าข
บทที่10.แผนตลบหลังสิงโต...“อะไรนะช้าง หมายความว่าไงวะ เจ้งง!!”ชะเอมย้อนถามเสียงหลง เธอแอบแวบต่อสายหาคนของตัวเองจนได้ แต่กลับต้องงงกับคำตอบ...ที่ได้ยิน“โหเจ้ ไปหลบอยู่ไหนมาคร๊าฟ... งานจวนจะเสร็จแล้วล่ะ น่าจะทันเวลาอยู่”ช้างตอบกลั้วเสียงหัวเราะ ชะเอมหายไปครบอาทิตย์พอดี“อ้าว...แล้วแบบล่ะ”หญิงสาวสับสน เธอหาโอกาสเคลียร์กับอเล็กไซไม่ได้สักที แล้วงานเดินต่อแบบนี้ เขาไม่พอใจขึ้นมา เธอมิเสียทั้งเงิน และเวลาฟรีเหรอ“โอ้ย!! คุณเขาโทร. มาบอกตั้งแต่เจ้ไปมอสโกวันแรกๆ แล้ว เป็นไงครับ... เที่ยวต่างประเทศสนุกมั้ยครับเจ้”ช้างตอบ เขาย้อนถามด้วยความอยากรู้ชะเอมอึ้ง!! เรื่องเที่ยวน่ะเธอไปทุกที่ที่อิรินาไป คนพาไปก็ใจป้ำ พาไปทุกแห่งที่อยากไปเสียด้วย มันเลยเป็นการเที่ยวที่ชะเอมคุ้มสุดๆ เธอไม่ต้องสนใจเรื่องค่าใช้จ่าย เมื่อมีสายเปย์ตัวพ่อ คอยตามจ่ายให้ เธอถ่ายรูปจนเมมโมรี่เต็ม เซฟเก็บไว้ในคอมส่วนตัวอีกเป็นกุรุส เอาไว้ว่างๆ จะมานั่งระลึกความหลัง เมื่อคงไม่มีวันแ
หญิงสาวตอบกลับ เธอกดยิ้มมุมปาก ชะเอมไม่ใช่คนที่มีความอดทนเท่าไหร่ นิยามความรักของเธอสวยหรู เกินกว่าจะให้มันจบลง เพราะความมักง่ายของคนคนเดียว อเล็กไซเป็นต้นแบบของผู้ชายที่เธอปักหมุดไว้ ...เขาคือตัวอันตราย ที่ควรอยู่ห่างที่สุด ก็เขาน่ะมันผู้ชายสมบูรณ์พร้อม มีสมบัติมากมายก่ายกอง หล่อเหลาเกินคน...แต่ไม่ใช่ผู้ชายในฝันที่ตนเองต้องการเมื่อป้ายแผ่นเบ้อเร่อติดไว้ที่กลางหน้าผากชายหนุ่ม ‘เขาน่ะตัวพ่อ’ จัดอยู่ในกลุ่มผู้ชายที่เห็นเพศหญิงเป็นแค่เครื่องบันเทิงอารมณ์ พวกคนเหล่านั้นชอบสนุกบนเรือนร่างงดงาม แต่ไม่คิดจะรับผิดชอบ...เขาพร้อมหันหลังหนีทุกกรณี“เอม...ไม่มีใครไม่เคยทำผิดหรอกนะ ทุกคนสามารถทำผิดกันได้ ผมเคยพลาด แต่ผมก็พยามแก้ไขนี่ พยายามทำให้ดีที่สุด...ในแบบของผม”ชายหนุ่มเปรยเสียงอ่อน...นับวันความรู้สึกลึกๆ ในใจ ที่มีกับชะเอมยิ่งเด่นชัดขึ้น ความรู้สึกที่ไม่เคยเกิดขึ้นกับใครมาก่อน แม้แต่ฟิริเซีย ชะเอมทำให้เขามองโลกในมุมที่ดีขึ้น สบายใจทุกครั้งหากมีหล่อนอยู่ใกล้ๆ ได้ต่อปากต่อคำ ได้ถกเถียงกันในบางครั้ง แต่มันก็เปี่ยมสุข จนไม่อยากปล่อยมือจากเธอ พยายามคว้า พย
บทที่9.มิสซิสฟิริเซียอิรินาขยับตัวเข้าใกล้ชะเอม มือกลมป้อมยกขึ้นจับชายเสื้อของชะเอมไว้แน่น พร้อมกับรีบก้มหน้าลง เหมือนกำลังกลัวอะไรบางอย่าง หญิงสาวขมวดคิ้ว เธอรับรู้ถึงความผิดปกติ ชะเอมเหลียวมองไปรอบๆ เธอเห็นใครบางคน กำลังเดินตรงมาทางนี้ ‘หล่อน’ ใช่คนที่เดินมาเป็นผู้หญิง ผู้หญิงสวยจัดคนหนึ่ง กับการแต่งกายฉูดฉาดไม่ต้องบอกก็รู้ หล่อนต้องมีความสัมพันธ์กับคนบ้านนี้แน่ๆ ไม่อย่างนั้นคงไม่สามารถฝ่าปราการป้องกันของเหล่าบอดี้การ์ดพันธุ์ดุมาได้แน่นอน“เซไฮ!! เบบี้”เสียงหล่อนแหลมปรี๊ด แววตาจิกๆ พิกล คำทักทายที่ฟังยังไงก็หาได้มีความอบอุ่น ไม่แปลกเลยที่อิรินาจะกลัว“เป็นอะไรไปยัยหนู หม่ามี้มาหาทั้งที จะหลบหน้าหลบตากันทำไม?”น้ำเสียงออกจะดุไปสักนิด สำหรับวิธีพูดของมารดาที่พูดกับบุตรสาวที่ไม่ได้เจอหน้ากันมานาน“มาหาหม่ามี้สิ มาให้กอดหน่อย คิดถึ๊งคิดถึง!!”มือเรียวสวยอ้ากว้าง พร้อมกับยิ้มหวานทั้งปาก แต่ดวงตากลับแข็งกร้าวจนแม้แต่คนนอกอย่างชะเอมยังรู้สึก&ldqu
บทที่7.เป็นแฟนกันมั้ย!!ชะเอมปิดประตูห้องนอนด้วยมือที่สั่นระริก เธอแสร้งทำเป็นใจแข็งไปอย่างนั้นเอง เพราะมันคือ ‘เกราะ’ ที่ใช้กางกั้นชายหนุ่ม ใครเข้าใกล้อเล็กไซ แล้วไม่หลงเสน่ห์ชายหนุ่มบ้างล่ะ...ไม่มี...ชะเอมยืนยันได้ แม้แต่ตัวเองที่แกร่งและเชื่อมั่นตัวเองสุดๆ ยังหวั่นไหวไปกับเสน่ห์ของเขา เมื่อชายหนุ่มรุกคืบเข้าประชิดตัวแบบนี้...หญิงสาวหลับตานิ่งๆ เธอยืนพิงประตูห้อง เงี่ยหูฟังเสียงการเคลื่อนไหวภายนอก...อเล็กไซอึ้ง!!ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดกับชะเอมถึงแค่ไหน...ที่เขารู้คือ...ชะเอมเข้ามาป่วนความคิดเขา หล่อนไม่เหมือนผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยรู้จัก มันอาจจะเป็นความเคยตัวก็ย่อมได้ สาวๆ ส่วนใหญ่ วิ่งใส่...พอมาเจอคนที่วิ่งหนีเขาเลยไปไม่ถูก แถมหล่อนไม่เลิศเลออะไรเลย มันจึงทำให้ต่อมอยากเอาชนะของเขาทำงาน...คงเป็นแบบนั้น ชายหนุ่มสะบัดศีรษะแรงๆ มือดันโซฟาพยายามทรงตัวลุกขึ้นยืนแม้จะมึนหัวตุ๊บๆ ไม่มีประโยชน์ที่จะอยู่ตรงจุดนี้...ชะเอมตัดเยื่อใย หล่อนไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่เขาต้องการ...มันเสียหน้าจนอยากหายตัวได้...เสียงการเคลื่อ
“ได้งั้ยคุณ!! งานเอมล่ะ เอมไม่ได้พักกับคุณด้วยนี่”หญิงสาวพูดเสียงแข็ง เธอไม่ใช่มหาเศรษฐีหมื่นล้าน ไม่ได้มีเงินโอนเข้าบัญชีทุกนาทีเหมือนเขา เธอต้องรับผิดชอบชีวิตคนใต้บังคับบัญชาอีกหลายสิบคน จะมาทำตัวชิลๆ แสนสบายเหมือนอเล็กไซคงไม่ได้“ก็หยุดไว้ก่อนสิ...ผมไม่ปรับคุณหรอกน่า” เสียงพูดเหมือนไม่ยี่หระแต่ชะเอมไม่เล่นด้วย “เอมยังมีงานรออยู่อีกหลายเจ้าค่ะ ไม่ใช่แค่คุณเจ้าเดียวที่เอมรับทำ งานใหม่จะถูกเลื่อนออกไปอีก แพลนที่วางไว้ก็จะรวน คุณคิดว่าเอมควรทำแบบนั้นเหรอคะ?”ชายหนุ่มจิปาก เขาวางแก้วลงบนผิวโต๊ะ เอื้อมมือหยิบขวดบรั่นดีมาเทใส่ ทำท่าเหมือนไม่ได้ยินสิ่งที่ชะเอมพูด“อย่าทำแบบนี้เลยค่ะ คนอื่นๆ ไม่เกี่ยวด้วยเลย หากคุณอยากเหวี่ยงก็เหวี่ยงใส่เอมคนเดียวสิคะ”หญิงสาวบ่นเสียงสุดเพลีย เธอรู้...ชายหนุ่มจงใจโต้กลับ ที่เธอปฏิเสธสิ่งที่เขาต้องการ มันคือสิทธิของเธอไหมล่ะ เพราะหากฝืน...ดันทุรัง อนาคตก็คงต้องจบลงในสักวันหนึ่ง!! เมื่อชายหนุ่มไม่ใช่คนที่จริงจังอะไรกับความสัมพันธ์ที่เธอคิดว่ามันคงแค่ฉาบฉวย...
บทที่8.นี่มันคืองานนะ ไม่ใช่การมาเที่ยวก้อนเมฆสีขาวลอยตัวอยู่เหนือน่านฟ้า มันเป็นความตื่นเต้นทุกครั้ง หากชะเอมได้นั่งบนนกเหล็กที่ลอยตัวอยู่กลางอากาศ มันเป็นเรื่องน่าทึ่ง!! การที่มนุษย์เอาชนะแรงโน้มถ่วงของโลกได้ สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่แทบจะไม่มีความเป็นไปได้...กับการเอาเหล็กหนักๆ ขึ้นไปลอยอยู่ในอากาศ เป็นความสำเร็จเกินคาดที่มนุษย์สามารถเอาชนะกฎเกณฑ์ธรรมชาติได้อย่างงดงามเป็นความสวยงามที่ชะเอมชื่นชม...เธอนั่งเท้าคางมองมวลหมู่เมฆ โดยมีการ์ดสุดหล่อนั่งขนาบข้าง บนเครื่องบินโดยสารแบบเฟิร์สคลาส เป็นความไฮโซที่ชะเอมไม่เคยสัมผัสมันเป็นการฟุ่มเฟือยที่หญิงสาวไม่คิดจะควักกระเป๋าจ่ายแน่ๆ หากต้องเดินทางเองผู้โดยสารท่านอื่นนอนพริ้มตาหลับ เมื่อพวกเขาต้องทนนั่งอยู่เฉยๆ เช่นนี้ไปอีกเกือบ9 ชั่วโมง เป็นการเดินทางแสนยาวนานที่สุดในชีวิตชะเอม หญิงสาวเคยเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเหมือนกัน แต่สำหรับรัสเซีย...นี่เป็นครั้งแรกมันจึงไม่แปลกที่ชะเอมจะมีแต่ความตื่นเต้น...จนไม่สามารถข่มตาหลับลงได้เธอหยิบแมกาซีนฉบับหนึ่งที่เสียบไว้ในช่องตรงหน้า