“ยิ่งกว่านั้น นางยังวางแผนมากมายเพื่อลูกชายของนาง ซึ่งก็คือองค์ชายห้า เมื่อถึงเวลานั้น ไทเฮาและไท่จื่อจะขัดแย้งกัน แล้วต้าเย่ก็ต้องตกอยู่ในอันตราย เจ้าเข้าใจหรือไม่”ฮ่องเต้ซิงหลงพูดจบ อู๋หลิงก็พยักหน้า“กระหม่อมเข้าใจว่าความวุ่นวายในราชสำนัก สามารถส่งผลกระทบต่อแผ่นดินได้พ่ะย่ะค่ะ!”ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนี้เลย!ฮ่องเต้ซิงหลงพยักหน้า “ใช่แล้ว ข้าจึงขอให้เจ้ามาที่นี่ในวันนี้ เพื่อสั่งเสียเจ้า”“จากนี้ไป เจ้าจะเป็นผู้บัญชาการใหญ่ของกองทหารรักษาพระองค์ รับผิดชอบปกป้องเมืองหลวง!”“ในเวลาเดียวกัน ก็จะได้รับตำแหน่งเป็นนายทหารชั้นหนึ่งและขุนพลอันดับหนึ่งในต้าเย่ด้วย!”ฮ่องเต้ซิงหลงอยากจะบอกว่าเขาไม่สามารถไว้ใจใครได้ คนที่เขาไว้ใจได้มากที่สุดก็คืออู๋หลิง!ในยุคของตระกูลอู๋ ผู้ที่มีความภักดีจะไม่มีวันก่อกบฏแน่นอน!ดังนั้น เขาจึงมั่นใจมาก ที่จะมอบตำแหน่งนี้ให้กับอู๋หลิง!แน่นอนว่า นี่ยังเป็นการทำเพื่อฮองเฮาด้วย!อู๋หลิงมีจิตสำนึกในการปฏิบัติหน้าที่และมีความยุติธรรม เขาจะปกป้องเมืองซ่างจิง และฮองเฮาได้อย่างแน่นอน!เขาทำเช่นนี้ เพราะกังวลว่าตระกูลเซิ่งจะลงมือ!“กระหม่อมหรือพ่ะย่ะค่ะ?”
อู๋หลิงยืนอยู่ด้านนอกประตู ด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนมาก!ที่ฮ่องเต้ซิงหลงเป็นเช่นนี้ เขาย่อมรู้ดีว่าเพราะเหตุใด!พระองค์มีสุขภาพไม่ดีอยู่แล้ว แต่เพื่อทำให้ฮองเฮามีอำนาจ จึงเต็มใจที่จะฝืนร่างกายอย่างหนัก ไม่ยอมปล่อยให้วาระสุดท้ายผ่านไปอย่างสงบอู๋หลิงถอนหายใจ มองห้องตำราหลวงที่ปิดลง แล้วโค้งคำนับแต่ในใจของเขายังคงสับสนมาก!“ท่านพ่อ... ลูกควรจะเลือกทางไหนดีขอรับ?”ก่อนที่พ่อของเขาจะเสียชีวิต เขาอุทิศตนปกป้องต้าเย่ให้สงบสุข ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามหากพ่อของเขาอยู่ที่นี่ คงจะยอมรับเงื่อนไขของฮ่องเต้ซิงหลงโดยไม่ลังเลเป็นแน่ไม่จำเป็นต้องพูดอะไรอีก พ่อของเขาจะต้องปกป้องต้าเย่เพียงแต่ตัวเขาเอง...อู๋หลิงยังไม่สามารถผ่านพ้นอุปสรรคในใจไปได้ไม่ว่าวันนี้ฮ่องเต้ซิงหลงจะขอโทษอย่างจริงใจแค่ไหน แต่เขาก็ยังปล่อยผ่านมันไปไม่ได้ยิ่งไปกว่านั้น เขายังรู้ด้วยว่าเหตุผลที่ฮ่องเต้ซิงหลงกระทำเช่นนี้ ก็เพื่อต้าเย่และเพื่อฮองเฮาของเขา!แม้ว่าคำขอโทษนี้จะมีความจริงใจ แต่ก็เป็นข้ออ้างด้วยเช่นกันกลุอุบายของฮ่องเต้...“ข้าคิดว่าวันหนึ่ง ฮ่องเต้ซิงหลงจะมีวันที่รู้แจ้งอย่างแท้จริง แต่ความต้องการขอ
ฮ่องเต้ซิงหลงล้มป่วย ใบหน้าซีดเซียว ดูเหมือนจะสิ้นใจได้ทุกเมื่อเหล่านางสนมทุกคนคุกเข่าลงบนพื้น ส่งเสียงสะอื้นเบา ๆ ด้วยความเจ็บปวด หมอหลวงที่อยู่ด้านข้างขมวดคิ้ว ขณะตรวจชีพจรของฮ่องเต้ซิงหลงอย่างระมัดระวังดวงตาของฮองเฮากลายเป็นสีแดงก่ำ มองฮ่องเต้ที่นอนป่วยอยู่บนพระแท่นบรรทมด้วยความกังวล เมื่อเห็นหมอหลวงดึงมือออกอย่างร้อนใจ นางก็ก้าวเข้าไปถามทันทีว่า “หมอหลวง ตอนนี้ฝ่าบาทเป็นอย่างไรบ้าง?”ใบหน้าของหมอหลวงเคร่งขรึมมาก เขาส่ายหน้า ถอนหายใจเบา ๆ แล้วพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “อาการของพระองค์แย่มาก อาการสาหัสยิ่งนัก กระหม่อมเกรงว่าจะทรงเหลือเวลาอีกไม่มากพ่ะย่ะค่ะ... “ได้ยินเช่นนั้น นางสนมทั้งหมดก็ส่งเสียงร้องได้คร่ำครวญดังยิ่งขึ้นนางสนมบางคนถึงกับเป็นลมล้มลงกับพื้น ไม่อาจทนรับแรงกระแทกอันหนักหน่วงเช่นนี้ได้!สายตาของฮองเฮาเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ น้ำตาของนางไหลรินลงมาหยดแล้วหยดเล่า นางสะอื้นขณะถามว่า “ไม่มีทางอื่นใดที่จะรักษาฝ่าบาทได้เลยหรือ?”หมอหลวงส่ายหน้า แล้วพูดอย่างเคร่งขรึม “ช่วงนี้สุขภาพของฝ่าบาทไม่ค่อยดีนัก เมื่อเร็ว ๆ นี้ก็ดื่มสุราไปมาก จึงทำให้พระวรกายอ่อนแอลงพ่ะย่ะค่ะ... “
ฮ่องเต้ซิงหลงและฮองเฮาเสด็จมาถึงห้องโถงบรรพบุรุษหลวง ขณะมองแผ่นศิลาวิญญาณของอดีตฮ่องเต้ที่ประดิษฐานอยู่ ฮ่องเต้ซิงหลงก็หลั่งน้ำตาเขาคุกเข่าลงบนพื้น แล้วคำนับสามครั้ง“ท่านบรรพชน ลูกทำให้พวกท่านต้องผิดหวังเสียแล้ว...”ฮ่องเต้ซิงหลงรู้สึกทุกข์ทรมานใจ และไม่เต็มใจจะยอมรับความจริงแต่หากไม่ยอมรับ แล้วจะทำอย่างไรได้?เขาคุกเข่าอยู่ที่นี่ มองย้อนไปยังเหตุการณ์ในชีวิต แม้จะรู้สึกเสียใจและไม่เต็มใจยอมรับ แต่เรื่องก็ผ่านไปแล้ว ในเวลานี้ เขาเริ่มสงบมากขึ้น เขาไม่เคยปล่อยวางเรื่องความตายของตัวเองได้ แต่ในตอนนี้ จู่ ๆ เขาก็รู้สึกว่าปล่อยวางได้แล้วอย่างน้อยก่อนที่เขาจะสิ้นใจ เขาก็ได้ทำอะไรไปมากมาย และหาทางออกสำหรับต้าเย่ไว้แล้วอย่างน้อยสิ่งที่เขาคิดก็มีความมั่นคง!แม้ว่านี่อาจไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ปลอดภัยก็ตาม แต่ก็เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด!“ฮองเฮา คุกเข่าลงสิ!”ฮ่องเต้ซิงหลงพูดขึ้นมา หลังจากได้ยินเช่นนั้น ฮองเฮาก็คุกเข่าลงทันที“ข้าอยากให้เจ้าสาบานต่อหน้าอดีตฮ่องเต้ ว่าเจ้าผู้เป็นสะใภ้ของตระกูลจี เป็นสมาชิกคนหนึ่งของตระกูลจี และให้กำเนิดเลือดเนื้อเชื้อไขแก่ตระกูลจี เจ้าต้องพยายามอย่า
หวังหยวนยกยิ้ม แล้วพูดโดยไม่ปิดบังหลังจากได้ยินเช่นนั้น ไป๋เฟยเฟยก็ถอนหายใจด้วยใบหน้าบูดบึ้ง“พี่หวัง พูดตามตรง ข้ามาที่นี่ก็เพราะเรื่องนี้!”ไป๋เฟยเฟยมองหวังหยวนด้วยความขมขื่นพูดตามตรง นางคิดเรื่องนี้มาตลอดทางด้วยความวุ่นวายในต้าเย่ครั้งนี้ ตระกูลไป๋พิจารณาตัวเองอย่างไร?ยินดีที่จะเป็นขุนนางชั้นผู้ใหญ่ หรือยินดีที่จะรับส่วนแบ่งในแผ่นดินที่วุ่นวายนี้?เขาไม่เข้าใจและเป็นกังวลอย่างยิ่งสำหรับเรื่องนี้ หวังหยวนอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ตระกูลไป๋ ยังไม่ได้พิจารณาอย่างรอบคอบหรือ?”หวังหยวนรู้สึกว่าตระกูลไป๋ น่าจะเข้าใจสถานการณ์นี้อย่างชัดเจน!ในราชสำนักนี้ แม้ว่าตระกูลไป๋จะมีทางเลือกมากมาย แต่หากเป็นเขา จะต้องเลือกเส้นทางสูงสุดแน่นอน!ไป๋เฟยเฟยพยักหน้า “ท่านพ่อของข้ากำลังสับสน ไม่รู้ว่าจะเลือกอย่างไรดี”“ไม่ว่าจะเพื่อแผ่นดินต้าเย่ เพื่อช่วยเหลือท่านป้า หรือเพื่อยึดครองแผ่นดินในช่วงที่เกิดความวุ่นวายนี้ ก็ยังหาข้อสรุปไม่ได้!”หลังจากพูดเช่นนั้น หวังหยวนก็ถอนหายใจ แล้วพูดว่า “อันที่จริง พวกเจ้าควรตัดสินใจเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”“ไม่ว่าตระกูลไป๋ของเจ้าจะเต็มใจเป็นขุนนางผู้จงรักภักดี
หวังหยวนพยักหน้า แล้วคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนพูด“ถึงกระนั้นนี่ก็เป็นเรื่องที่สำคัญต่อต้าเย่นัก จะประมาทได้อย่างไร ทั้งในกรณีนี้ ตระกูลไป๋ของพวกเจ้าก็ไม่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น เพียงเพราะคนคนเดียว”หวังหยวนกล่าว เมื่อพูดจบ ไป๋เฟยเฟยก็สูดหายใจเข้าลึก ๆอย่างไรเสีย นางก็ยังมีความลังเลในใจอยู่บ้าง“พี่หวัง หากเรื่องนี้เกิดขึ้นกับท่าน ท่านจะทำอย่างไร?”ไป๋เฟยเฟยถามด้วยความอยากรู้ ว่าหวังหยวนกำลังคิดอะไรอยู่หลังจากได้ยินเช่นนี้ หวังหยวนก็ยิ้มแล้วพูดว่า “หากเป็นข้า ข้าอาจจะละทิ้งสิ่งที่เรียกว่าราชวงศ์ไปก็ได้ อย่างไรเสีย... ข้าเองก็ไม่ได้สนใจเรื่องแผ่นดินนี้มากนัก”หวังหยวนพูดจบ ไป๋เฟยเฟยก็นิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ยิ้มฝืดเฝื่อน “พี่หวัง เป็นความจริงหรือ? แค่... จากสิ่งที่ข้าเห็น ดูเหมือนท่านจะเตรียมการไว้มากมาย”แม้ว่าหวังหยวนจะพยายามปกปิดไว้อย่างเต็มที่ แต่ตระกูลไป๋ก็ไม่ใช่ตระกูลธรรมดา จึงยังคงเป็นเรื่องยากที่จะซ่อนไว้ไม่ให้พวกเขาสังเกตเห็น!“ก็แค่เพื่อปกป้องตัวเอง แผ่นดินวุ่นวายเช่นนี้จะทำอย่างไรได้? เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่ชอบปัญหามากที่สุด สิ่งที่ข้าชอบที่สุดคืออิสรเสรีและความสุข”ไป๋เฟ
แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่กับตระกูลไป๋!สำหรับตระกูลไป๋ หวังหยวนถอนหายใจ มองสตรีทั้งสามแล้วอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “ฮองเฮาและตระกูลเซิ่งล้วนต้องการช่วงชิงอำนาจ แต่แล้วตระกูลไป๋ล่ะ?”“พวกเขามีเหตุผลอะไรบ้าง ในฐานะตระกูลของฮองเฮา หากพูดตามตรรกะแล้ว พวกเขาควรเป็นผู้นำแทนฮองเฮา แต่หากจะช่วงชิงอำนาจด้วยตัวเองก็คงไม่ดีใช่หรือไม่?”หลังจากที่หวังหยวนพูดเช่นนี้ สตรีทั้งสามก็เข้าใจทันที!พูดมีเหตุผล ฮองเฮาทำเพื่อองค์ชาย ตระกูลเซิ่งก็ทำเพื่อองค์ชาย แล้วตระกูลไป๋ทำไปเพื่ออะไร เพื่อตัวพวกเขาเองหรือ...?มันเกินกว่าที่จะคิดอย่างตรงไปตรงมาได้!พูดตามตรง มันเป็นเรื่องยากมากที่ตระกูลไป๋จะทำเรื่องเช่นนี้ได้“หากเป็นเช่นนั้น ตระกูลไป๋ก็จะไม่มีโอกาสแล้วใช่หรือไม่?”หวงเจียวเจียวอดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมาการยกทัพทำสงครามโดยไม่มีข้ออ้างนั้นไม่ง่ายเลย หากชนะใจผู้คนไม่ได้ แล้วจะปกครองแผ่นดินได้อย่างไร?นี่คือเหตุผลที่เรียบง่ายที่สุด!หูเมิ่งอิ๋งก็พยักหน้า “คุณชาย หากเป็นเช่นนั้น เหตุใดท่านยังสนับสนุนให้ตระกูลไป๋ช่วงชิงอำนาจอีกล่ะเจ้าคะ?”หวังหยวนหัวเราะแล้วตอบว่า “แน่นอนว่าเพื่อพวกเราเอง เมื่อตระกูลไป๋ครองแผ่น
ฮ่องเต้ซิงหลงต้องการลุกขึ้นนั่ง ฮองเฮาเป็นห่วงมาก จึงรีบก้าวเข้าไปช่วยประคองอย่างรวดเร็ว ก่อนจะถามอย่างร้อนใจและเป็นกังวล “ฝ่าบาท พระองค์จะทรงทำอะไรหรือเพคะ?”“ตอนนี้พระวรกายของพระองค์อ่อนแอมาก พระองค์ต้องพักผ่อนให้เพียงพอนะเพคะ ไม่สามารถ...”ก่อนที่ฮองเฮาจะพูดจบ นางก็เห็นฮ่องเต้โบกมืออย่างอ่อนแรง แล้วพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “ข้ารู้ว่าร่างกายของข้าเป็นเช่นไร และข้าก็รู้ด้วยว่าข้าเหลือเวลาอีกไม่มากแล้ว”“แต่ข้าเป็นฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ ไม่อาจสิ้นใจบนแท่นบรรทมเช่นนี้ได้ ช่วยข้าทีเถิด ข้าอยากกินข้าว แล้วไปราชสำนักแต่เช้า”ฮ่องเต้ซิงหลงพยายามอย่างเต็มที่ เพื่อทำให้น้ำเสียงของตนสงบลงเขาบังคับตัวเองไม่ให้ไอ เพราะเกรงว่าฮองเฮาจะเป็นกังวล“ฝ่าบาท ตอนนี้พระองค์ทรงอ่อนแอมาก ควรนอนพักฟื้นบนแท่นบรรทม ไม่ควรขยับไปไหนเพคะ!”เหล่าองค์ชายรีบก้าวเข้ามาหา แล้วพูดอย่างกระตือรือร้น “ใช่แล้วพ่ะย่ะค่ะเสด็จพ่อ ตอนนี้พระวรกายของพระองค์อ่อนแอมาก ไม่อาจขยับไปไหนได้ ไม่เช่นนั้นอาการป่วยของพระองค์จะหนักขึ้นพ่ะย่ะค่ะ...”เมื่อฮองเฮาเห็นฮ่องเต้ซิงหลงพยายามลุกขึ้น นางก็รีบก้าวเข้าไปประคองฮ่องเต้ซิงหลงจากนั้น นาง
ซือฟางถามขึ้นเปลี่ยนเรื่องทันทีเขาคิดว่าควรจะรีบตามล่าหวังหยวนและพวก แล้วฆ่าไป๋อวิ๋นเฟยและหวังหยวนให้สิ้นจึงจะหมดห่วง!ต้าเย่ก็จะตกเป็นของพวกเขา!ต่อไปแม้ไป๋หมิงจะโตขึ้นและอยากจะทวงคืนอำนาจก็คงไม่มีโอกาส!“ข้าคิดว่าพวกเราควรจะอยู่เฉย ๆ...”เจี๋ยงโฉ่วอีกล่าวด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “สายลับรายงานว่าหวังหยวนไปเมืองเหอเน่ยเพื่อร่วมมือกับเฉินซานเตา!”“ก่อนหน้านี้พวกเราเคยไปหาเฉินซานเตา แต่เขาบ่ายเบี่ยง ไม่ยอมมอบตราประทับทหารให้!”“ดูเหมือนว่าเขาคิดจะช่วยไป๋อวิ๋นเฟยทวงคืนอำนาจ!”ซือฟางแค่นเสียงกล่าวว่า “แล้วจะอย่างไร? เฉินซานเตามีทหารแค่หนึ่งแสนนาย จะสู้พวกเราได้อย่างไร”“ในเมื่อเขาอยากเล่น พวกเราก็เล่นกับเขาไปเลย!”“ก่อนที่เขาจะยกทัพ พวกเราก็ชิงลงมือก่อนเพื่อทำลายแผนการของเขา ดีหรือไม่?”ใบหน้าของซือฟางเต็มไปด้วยจิตสังหาร อยากจะสู้กับหวังหยวนตัวต่อตัว!นั่นเพราะเขามองหวังหยวนเป็นเสี้ยนหนาม หากกำจัดหวังหยวนได้ก็จะหมดห่วง!“ไม่ได้!”“ตอนนี้ยังไม่รู้สถานการณ์ แม้กองทัพของเฉินซานเตาจะอยู่ไม่ไกล แต่ข้าให้คนไปสืบแล้ว หากเฉินซานเตามีความเคลื่อนไหว พวกเราก็จะลงมือทันที!”“ชิงลงมือก่อน!”
“นี่...”หานเทาลังเล ดวงตาฉายแววเย็นชาเขาจะไม่อยากกำจัดหวังหยวนได้อย่างไร?“ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีไม่ใช่คนโง่ หากข้าไปหาพวกเขา พวกเขาก็คงไม่ร่วมมือกับข้า!”“หวังหยวนไม่กล้าใช้กำลังทหารกับต้าเย่ เพราะหากเขาทำเช่นนั้น พวกเราย่อมฉวยโอกาสโจมตีได้ง่ายดาย ต่อให้เขาจะยังคงอยู่ในต้าเย่ในตอนนี้ อย่างมากก็เป็นเพียงการเข้าร่วมในความวุ่นวายภายในของราชวงศ์เท่านั้นเอง”“แต่ซือฟางมีอำนาจ หวังหยวนมาคนเดียวคงทำอะไรไม่ได้!”“เอาอย่างนี้!”ทันใดนั้น หานเทาก็ชี้ไปที่คนผู้หนึ่ง แล้วกล่าวว่า “เจ้าพาผู้ใต้บัญชาแอบเข้าไปในต้าเย่ ไม่ต้องติดต่อกับคนของซือฟาง แค่แอบดูสถานการณ์!”“หากมีโอกาส ก็ยุยงให้พวกมันทะเลาะกัน!”“ยิ่งหวังหยวนกับซือฟางขัดแย้งกันมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นผลดีกับพวกเรา!”คนผู้นั้นรีบพยักหน้า “ได้เลยขอรับ!”...อีกด้านหนึ่ง ในเมืองหลวงของต้าเย่ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีอยู่ในวังหลวง ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วยซือฟางมองไปที่ห้องบรรทม แล้วกล่าวว่า “ฝ่าบาทอยู่ที่ไหน? ยังบรรทมอยู่หรือ?”“ใช่”เจี๋ยงโฉ่วอีส่ายหน้ากล่าวว่า “จักรพรรดินีองค์ก่อนช่างเก่งกาจ ทำให้ต้าเย่พัฒนาจากที่เคยอ่อนแอจนกลายเป็นแข็ง
วันข้างหน้าต้องแก้แค้นให้จงได้!“เช่นนั้นข้าขอตัวไปเตรียมการ”“พวกท่านทานอาหารกันก่อนเถิด”เกาเล่อกล่าว แล้วก็ออกไป“ท่านหวัง! ให้ท่านเกาอยู่ทานอาหารด้วยกันเถิด!”“พวกเรามีเวลา!”“เหตุใดจึงต้องรีบร้อนถึงเพียงนั้น?”เฉินซานเตามองตามเกาเล่อด้วยสีหน้าเสียดายเขาอยากจะทำความรู้จักกับเกาเล่อ หากได้เป็นสหายกับเกาเล่อคงจะดีอย่างแน่นอนหวังหยวนยิ้มกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “พวกเราทานกันเถิด ข้ารู้จักเขาดี เขาเป็นคนทำอะไรรวดเร็ว ในเมื่อวางแผนแล้วคงกลัวว่าหากชักช้าแล้วจะมีปัญหา”“ท่านขุนพลเฉินไม่ต้องห่วงเขาหรอก พวกเราดื่มกันต่อเถิด!”เฉินซานเตาถอนหายใจ แล้วร่วมรับประทานอาหารกับหวังหยวน...ในจวนขุนพลใหญ่ที่อาณาจักรต้าเป่ย หานเทาอ่านรายงานด้วยสีหน้าเคร่งขรึมใช้นิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ เป็นจังหวะพลางกล่าวกับตัวเอง “ต้าเย่เกิดเรื่องวุ่นวายเช่นนี้ ช่างน่าตกใจ”“เดิมทีต้าเย่คือศัตรูตัวฉกาจของพวกเรา พวกเราสู้รบกันกำลังจะยึดครองต้าเย่ แต่กลับมีคนมาขัดขวาง!”“หากหวังหยวนไม่เข้ามาขัดขวาง ดินแดนของต้าเย่คงตกเป็นของพวกเราแล้ว!”กล่าวจบ หานเทาก็กำหมัดแน่นพลางทุบโต๊ะ!รองขุนพลหลายคนที่ยืนอยู่มองหน้าก
หลังจากฟังไปไม่กี่ประโยค ทุกคนก็เข้าใจทันที ตีงูต้องตีที่จุดตาย ครั้งนี้จะใช้ซือเฉิงเวยมาข่มขู่ซือฟาง!เพียงแต่...เฉินซานเตาลูบเคราพลางขมวดคิ้วกล่าวว่า “แผนการนี้อันตรายมาก ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญ ซือฟางนั้นรอบคอบ คงจะปกป้องลูกชายอย่างแน่นหนา”“อีกอย่างเมืองหลวงก็ถูกปิดล้อม หน้าตาของพวกเราคงถูกส่งไปให้ทหารที่เฝ้าเมืองแล้ว พวกเราจะเข้าเมืองได้ยาก...”“ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการจับตัวซือเฉิงเวย”“อีกอย่าง หากให้ซือฟางเลือกระหว่างอำนาจกับซือเฉิงเวย ข้าคิดว่าเขาคงเลือกอำนาจกระมัง?”ซือฟางมีความทะเยอทะยาน เห็นแก่ชื่อเสียงและผลประโยชน์ แม้จะมีความสามารถ แต่ก็กระหายอำนาจ!จึงทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้น!อย่าว่าแต่ใช้ลูกชายแลกกับอำนาจเลย ต่อให้ต้องใช้ชีวิตของตัวเองแลก เขาคงไม่ลังเลด้วยกระมัง?“เรื่องนี้พวกเราคิดไว้แล้ว”หวังหยวนกระแอม แล้วเริ่มกล่าว“เขามียอดฝีมือ ข้าก็มีเหมือนกัน!”“แม้ว่าข้าจะไม่สามารถส่งกำลังพลทั้งหมดไปได้ แต่ก็สามารถส่งยอดฝีมือไปได้!”“การจับตัวซือเฉิงเวยไม่ใช่เรื่องยาก!”“ส่วนแผนการนี้จะสำเร็จหรือไม่ ย่อมต้องลองดูไม่ใช่หรือ?”ทุกคนพยักหน้าตอนนี้ต้องลองทุกวิถีทา
แม้ทุกคนจะรู้ว่าหวังหยวนมีองค์กรเครือข่ายผีเสื้อและเกาเล่อคือหัวหน้า แต่เขาย่อมต้องรอบคอบ ห้ามเหลิงในอำนาจ!เช่นนั้นจึงจะไม่มีทางเกิดข้อผิดพลาด!เขาไม่อยากให้เกิดเรื่องแบบที่เมืองหลวงของต้าเย่อีก!คนที่อยู่ในร้านอาหารชิงเหอล้วนเป็นยอดฝีมือที่เขาคัดเลือกมา ถือเป็นสหายที่เหมือนพี่น้องร่วมเป็นร่วมตาย!แต่น่าเสียดาย...ตอนนี้ทุกอย่างสายเกินแก้ สหายเหล่านั้นถูกสังหารอย่างโหดร้าย เป็นความเจ็บปวดในใจเขา!“ท่านเกา ไม่ต้องถ่อมตัวหรอก”“ในเมื่อท่านมาแล้ว ข้าก็โล่งใจได้เสียที!”เฉินซานเตาหัวเราะ จากนั้นหันไปมองหวังหยวนแล้วรีบอธิบาย “ท่านหวังอย่าได้เข้าใจผิด ข้าไม่ได้ไม่เชื่อใจท่าน แต่เมื่อได้พบกับท่านเกาเล่อ ข้าก็รู้สึกมั่นใจมากขึ้น!”“แม้ว่าพวกเราจะมีกำลังพลไม่มาก แต่เมื่อมีท่านและท่านเกาเล่อ นั้นก็เท่ากับมีทหารมากมายหลายพันคน!”คนผู้นี้ปากหวานถึงเพียงนี้เลยหรือ?หวังหยวนหรี่ตามองเฉินซานเตา แล้วคิดในใจดูเหมือนว่าเฉินซานเตาไม่ได้เรียบง่ายอย่างที่เห็น เป็นคนเจ้าเล่ห์ที่รับมือยากมากทีเดียว!โชคดีที่คนผู้นี้ไม่ใช่ศัตรู อย่างน้อยตอนนี้ก็ถือว่าเป็นพันธมิตร!“เกาเล่อ เจ้าอธิบายแผนการให้ท
“ข้ามีแผนการในใจแล้ว”หวังหยวนกล่าวพลางดื่มสุรา “ตอนนี้ซือฟางมีอำนาจ แต่แผ่นดินก็ยังเป็นของราชวงศ์ไป๋ ผู้ที่ครองราชย์ก็คือไป๋หมิง”“ในระยะเวลาอันสั้น ซือฟางคงไม่ทำอะไรไป๋หมิง เขาแค่ต้องการใช้ฐานะของไป๋หมิงเพื่อควบคุมราชสำนัก เมื่อเขามีอำนาจมั่นคง ไป๋หมิงก็จะหมดประโยชน์”“แต่กว่าจะถึงตอนนั้นก็ยังอีกนาน ดังนั้นพวกเรายังมีโอกาส!”เมื่อเห็นทุกคนมองมาที่เขา หวังหยวนจึงกล่าวต่อ “ซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีไม่ใช่คนธรรมดา แต่พวกเขาประสบความสำเร็จและมีอำนาจในเวลาอันรวดเร็ว คงจะเหลิงในอำนาจไม่น้อย”“อีกอย่าง เขายังกำจัดสายลับของข้าในเมืองหลวง ตอนนี้คงไม่เกรงกลัวอะไรแล้ว!”“เช่นนั้นพวกเราก็ใช้จุดอ่อนของเขา หาทางโค่นล้มเขาให้ได้!”การต่อสู้โดยตรงคงสู้ไม่ได้ จึงต้องใช้กลอุบายง่าย ๆ เพื่อควบคุมสถานการณ์!ด้วยวิธีนี้ ต้าเย่ก็จะไม่เสียหาย!สี่แคว้นใหญ่มีความสมดุลกัน หากสมดุลนี้พังทลาย ดินแดนทั้งเก้าก็จะเกิดสงคราม!ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่หวังหยวนต้องการ!หลายปีที่ผ่านมาเกิดสงครามขึ้น ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัย โจรผู้ร้ายชุกชุม ประชาชนยากลำบาก!หากเกิดเรื่องแบบนี้อีก ความพยายามที่ผ่านมาก็จะสูญเปล่า“ท่านหวัง
เฉินซานเตากล่าวด้วยรอยยิ้มจากนั้นเขาก็มองไปที่หวังหยวนพลางกล่าวต่อ “องค์ชาย พระองค์ช่างมีวาสนา สามารถดึงท่านหวังมาช่วยได้ มีกองหนุนที่แข็งแกร่งเช่นนี้ การโค่นล้มซือฟางและเจี๋ยงโฉ่วอีคงไม่ใช่เรื่องยากแล้วพ่ะย่ะค่ะ!”ไป๋อวิ๋นเฟยไม่ได้เอ่ยคำใด การทวงคืนอำนาจไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะซือฟางควบคุมกองทัพส่วนใหญ่ เว้นแต่หวังหยวนจะยกทัพมาช่วยจึงจะมีโอกาสแต่หากเป็นเช่นนั้น ทั้งเมืองหลิงและต้าเย่ก็จะบอบช้ำ!ในดินแดนทั้งเก้ายังมีอีกสองแคว้นที่จ้องจะโจมตี อีกทั้งยังมีชนเผ่าเล็ก ๆ รอบ ๆ ที่คอยหาโอกาสรุกรานดินแดนทั้งเก้า!สถานการณ์ไม่สู้ดี!“ค่อย ๆ คิดไปทีละก้าว ข้าเชื่อว่าท่านหวังจะช่วยพลิกสถานการณ์ได้”ไป๋อวิ๋นเฟยฝากความหวังไว้ที่หวังหยวน ด้วยตัวเขาเองคนเดียวจะทำอะไรมากได้อย่างไร?การจะพลิกสถานการณ์นั้นขึ้นอยู่กับหวังหยวน จึงต้องดูความสามารถของหวังหยวนไม่นานพวกเขาก็มาถึงจวนเจ้าเมืองอาหารและสุราถูกจัดเตรียมไว้ นางกำนัลและบ่าวไพร่ยืนก้มหน้าต้อนรับอยู่หน้าประตู “พวกเจ้าออกไปให้หมด”“หากข้าไม่เรียก ห้ามใครเข้ามาเด็ดขาด!”“ไม่เช่นนั้นอย่าหาว่าข้าใจร้าย!”เฉินซานเตาตะคอกใส่บ่าวไพร่ แล้วห
“อืม เจ้าก็ดูแลตัวเองด้วย!”กล่าวจบ หวังหยวนก็พาผู้ใต้บัญชามุ่งหน้าไปยังเมืองเหอเน่ยเมื่อหวังหยวนและพวกเข้าเมือง เฉินซานเตาก็ออกมาต้อนรับ เขารู้ล่วงหน้าว่าหวังหยวนจะมา จึงมารออยู่ก่อนแล้ว“ท่านคงจะเป็นหวังหยวนผู้มีชื่อเสียงกระมัง?”บุรุษร่างกำยำเดินเข้ามาหาหวังหยวน เขามีองครักษ์ติดตามมา มองจากขมับที่นูนสูงก็รู้ว่าพวกเขาล้วนเป็นยอดฝีมือ!“ท่านคือขุนพลเฉินหรือ?”หวังหยวนมองสำรวจ ปรากฏว่าต่างจากที่เขาจินตนาการไว้เขาคิดว่าเฉินซานเตาคงเป็นคนหยาบกระด้าง นั่นเพราะชื่อของเขาฟังดูเหี้ยมโหดน่ากลัว!แต่เมื่อได้พบ หวังหยวนก็เปลี่ยนความคิด แม้เฉินซานเตาจะมีชื่อดุดัน แต่กลับดูสุภาพและสง่างามมากถึงแม้จะมีร่างกายกำยำ แต่หากไม่สวมชุดเกราะก็ดูเหมือนบัณฑิต“ใช่แล้ว!”“ข้าคือเฉินซานเตา!”เฉินซานเตาตบหน้าอกด้วยรอบยิ้ม แล้วกล่าวว่า “การที่ท่านหวังมาเยือน ถือเป็นเกียรติของเมืองเหอเน่ยของพวกเรายิ่งนัก! แม้ข้าจะเพิ่งพบกับท่าน แต่ก็ได้ยินชื่อเสียงของท่านมานาน!”“วันนี้ได้พบตัวจริง ท่านเป็นดั่งหงส์เหินมังกรทะยานสมคำร่ำลือ!”หวังหยวนโบกมือพลางยกยิ้ม “ท่านขุนพลเฉิน ท่านชมกันเกินไปแล้ว”“เชิญก่อ
หวังหยวนนิ่งเงียบไปครู่ใหญ่เขารักผู้ใต้บัญชาทุกคน รวมถึงคนขององค์กรเครือข่ายผีเสื้อ แต่น่าเสียดาย...พวกเขาต้องตายเพราะเขา!“ทั้งหมดเป็นความผิดของข้า!”“ไม่นึกเลยว่าเสี่ยวเต๋อจื่อจะทรยศข้า...”ไป๋อวิ๋นเฟยเดินเข้ามา อยากจะตบหน้าตัวเอง เพราะปัญหาเกิดจากเสี่ยวเต๋อจื่อ!“เรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของเสี่ยวเต๋อจื่อ”“ข้าสืบมาแล้ว เสี่ยวเต๋อจื่อถูกจับไปหนึ่งวัน คงถูกทรมานหนักมากจึงยอมบอกเรื่องร้านอาหารชิงเหอ...”เกาเล่ออธิบายไป๋อวิ๋นเฟยจึงเข้าใจ หากเสี่ยวเต๋อจื่อคิดทรยศจะส่งจดหมายให้เขาตั้งแต่แรกได้อย่างไร?อีกอย่างคือเรื่องนี้เพิ่งจะมาเกิดขึ้นช่างไม่สมเหตุสมผล“ดูเหมือนว่าข้าจะเข้าใจเสี่ยวเต๋อจื่อผิด...”“แต่ข้าก็ทำให้เขาเดือดร้อน ไม่เช่นนั้นเสี่ยวเต๋อจื่อคงไม่เป็นเช่นนี้”“เขาคงตายไปแล้ว”ไป๋อวิ๋นเฟยถอนหายใจทุกอย่างเกิดจากเขา ผู้ใต้บัญชาของหวังหยวนถูกซือฟางจับ เสี่ยวเต๋อจื่อก็ตาย ล้วนเกี่ยวข้องกับเขาทั้งสิ้นหากต้าเย่ไม่วุ่นวาย เรื่องนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างไร?ตอนนี้ยากที่จะแก้ไข“ยังไม่รู้ว่าเสี่ยวเต๋อจื่อเป็นตายร้ายดีอย่างไร แต่ข้าได้ข่าวว่าเขายังอยู่ในคุก...”เกาเล่อกล