ดวงแก้วสีน้ำตาลจดจ้องลำแสงที่ส่องลงมา มือนางพยายามไขว่คว้าทุกสิ่ง เพื่อจะไปให้ถึงยังความอบอุ่นเบื้องบน อาภรณ์ที่สวมช่างหนักเหลือเกิน ร่างบาง จึงยิ่งจมดิ่ง ความหนาวเหน็บจู่โจมทุกอณูของร่างกาย ทุกครั้งที่เผยอริมฝีปาก เพื่อสูดอากาศกลับมีเพียงของเหลวไหลเข้าไปแทนที่ทรมาน ข้าทรมานเหลือเกิน เปลือกตาหนักอึ้ง สติค่อยๆ เลือนรางข้ากำลังจะตายงั้นรึท่านแม่ ท่านพี่ จื่อเหยาขอลา... แค่ก แค่ก แค่ก! หลี่จื่อเหยาสำรอกน้ำออกมาจากปากคำใหญ่ ความทรมานเมื่อครู่มลาย หายไปทีละน้อยเมื่อของเหลวไหลออกมาจนหมด ความเจ็บปวดตรงหน้าอกก็ หมดไป หลี่จื่อเหยาได้กลิ่นหอมสดชื่นของไม้กฤษณา แม้กำลังจะหมดแรง นางก็พยายามเปิดเปลือกตาเพื่อมองภาพผู้มีพระคุณนัยน์ตาดุจลูกกวางสบเข้ากับดวงแก้วสีนิล บุรุษแปลกหน้าผู้หนึ่งกำลังประคองนางเอาไว้ในอ้อมแขน“แม่นาง เจ้าไม่เป็นอันใดแล้ว” ชายในชุดสีครามกระตุกรอยยิ้มบนมุมปากน้อยๆ ช่างดูอบอุ่นยิ่งนัก“ขะ...ขอบคุณ” หญิงสาวที่เพิ่งก้าวข้ามจากประตูผีส่งเสียงเบาแทบจะไม่ได้ยิน“ไม่เป็นไร เห็นคนกำลังจะตาย ข้าเป็นลูกผู้ชายย่อมต้องช่วยเหลือ”หลี่จื่อเหยาอยากจะถามชื่อของเขา ทว่านางไม่มีเรี่ยวแรงเห
Last Updated : 2025-04-07 Read more