All Chapters of ยอดหญิงในเงามาร: Chapter 421 - Chapter 430

442 Chapters

บทที่ 421

เซียวอวิ๋นถิงยังคงยิ้มตาหยีเหมือนเดิม ไม่มีทีท่าผิดหวังแม้แต่น้อย “จริงหรือ? เช่นนั้นคงเป็นข้าที่จำผิดไปเอง แต่ไหน ๆ ก็มาถึงแล้ว......”เขาหยิบกุญแจอายุยืนสีทองอร่ามออกมาจากด้านหลัง แล้วยื่นให้กับชีหยวน พร้อมกล่าวว่า “ขอให้ปีใหม่เริ่มต้นด้วยความโชคดี และขอให้ทุกสิ่งเป็นไปอย่างราบรื่นสมปรารถนา เล็ก ๆ น้อย ๆ จากใจ หวังว่านับจากนี้ไปเจ้าจะผ่านพ้นเคราะห์ร้ายและพบแต่ความรุ่งเรือง”กุญแจอายุยืนทอประกายแวววาวภายใต้แสงไฟเห็นได้ชัดว่า แค่เอื้อมมือออกไปก็สามารถหยิบของสิ่งนั้นไว้ในมือได้ แต่ชีหยวนกลับไม่ยื่นมือออกไปรับความสัมพันธ์ระหว่างนางกับเซียวอวิ๋นถิง ไม่ได้อยู่ในระดับที่รับกุญแจอายุยืนชิ้นนี้ไม่ได้ท้ายที่สุดแล้ว ตอนที่นางขอเงินจากเขา นางก็ไม่เคยลังเลเลยสักนิดแต่เงินทองก็คือเงินทองกุญแจอายุยืนนี้กลับแตกต่างออกไปนางส่ายหน้า “ขอบคุณน้ำใจของท่านอ๋องเจ้าค่ะ เพียงแต่ว่าหากข้าน้อยรับของของท่านเป็นการส่วนตัว เกรงว่าจะเข้าข่ายการรับของโดยมิชอบ ซึ่งผิดกฎระเบียบเจ้าค่ะ” ……ท่านโหวผู้เฒ่าชีและชีเจิ้นมองหน้ากันด้วยความสงสัยเต็มหัวตอนนี้มานึกขึ้นได้ว่าพวกเขาเป็นผู้ใหญ่ การที่ตัวนางแอบร
Read more

บทที่ 422

เดิมทียังคิดว่าวันส่งท้ายปีเก่าในวันพรุ่งนี้ จะได้กินเกี๊ยวอย่างสบายใจสักมื้อแล้วเชียวแต่พอมาดูตอนนี้ เกรงว่าเรื่องราวจะไม่ง่ายขนาดนั้นเสียแล้วแต่ที่แปลกก็คือ ไม่ว่าจะเป็นท่านโหวผู้เฒ่าชี เซียวอวิ๋นถิง หรือชีหยวนทั้งสามคนล้วนเปี่ยมด้วยรอยยิ้มสดใส ไม่มีท่าทีเป็นกังวลเลยแม้แต่น้อยยิ่งแปลกเข้าไปใหญ่ชีเจิ้นอดไม่ได้ที่จะเรียกพ่อของเขาท่านโหวผู้เฒ่าชีกดมือเขาไว้ อดกลั้นความปั่นป่วนในใจ ก่อนจะแค่นหัวเราะแล้วพูดว่า “วันตายของฉู่กั๋วกงมาถึงแล้ว!”ชีเจิ้นเบิกตากว้างยังไม่ทันที่เขาจะเข้าใจ ตรงหน้าประตูก็เกิดความวุ่นวายขึ้นแล้วเฉินฮ่าวและพวกที่ขวางประตูไว้ร้องตะโกนเสียงดัง “ท่านกั๋วกงตรากตรำทำงานหนักมาโดยตลอด! ในอดีตเพื่อแย่งชิงเจียงหยิน ท่านไม่ได้หลับไม่ได้นอน แม้ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผลและโรคภัย ก็ยังไม่ยอมถอดเกราะออกจากสนามรบ! บัดนี้แค่คำกล่าวหาจากชาวบ้านต่ำต้อยที่ไม่รู้หัวนอนปลายเท้าเพียงคนเดียว กลับสามารถลบล้างความพยายามหลายปีของท่านกั๋วกงให้สูญเปล่าได้อย่างนั้นหรือ?!”เฉิงกั๋วกงขมวดคิ้วแน่น กล่าวเตือนใจไล่เฉิงหลง “ใต้เท้าไล่ยังหนุ่มแน่น การทำอะไรอย่างเฉียบขาดเป็นเรื่องเข้าใจได
Read more

บทที่ 423

ฉู่กั๋วกงหันไปยิ้มด้วยท่าทียั่วยุใส่ไล่เฉิงหลง ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อ และแขนเสื้อได้สะบัดใส่หน้าของไล่เฉิงหลงไล่เฉิงหลงยังไม่ทันขยับ องครักษ์เสื้อแพรที่อยู่ข้างหลังเขาก็ชักดาบปักวสันต์ออกมาพร้อมเพรียงกัน จ้องมองฉู่กั๋วกงอย่างไม่พอใจที่เขาเสียมารยาทต่อเจ้านายของพวกตนเฉิงกั๋วกงอยากพูดบางอย่างแต่ก็หยุดลง แม้ว่าเขาจะออกหน้าช่วยพูดแทนฉู่กั๋วกงเพราะเห็นแก่ไมตรีเก่า ๆ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาอยากเป็นศัตรูกับไล่เฉิงหลงเจ้าเด็กนี่มันเก่งกาจและน่ากลัวเขาจึงกระแอมไอ ไกล่เกลี่ยข้อพิพาท “พี่เจ็ด อย่าไปถือสาเด็กหนุ่มนักเลย ฝ่าบาทมีรับสั่งให้เข้าเฝ้า เรารีบเข้าวังกันเถอะ!”ในสายตาของพวกเขา ฮ่องเต้หย่งชางยังคงมีเมตตาต่อเหล่าขุนนางเก่าที่ร่วมรบมาจากแคว้นหมิ่นเสมอตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไร่ชาในฝูเจี้ยนแทบทั้งหมดล้วนตกอยู่ในมือของพวกขุนนางชั้นสูง พระองค์จะมิทรงทราบเลยเชียวหรือ?ทว่าเพียงพราะเห็นแก่ไมตรีจิตที่ร่วมทำศึกสงครามกันมาในอดีต จึงทรงทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นอดีตเป็นเช่นนั้น อนาคตก็จะเป็นเช่นนั้นด้วยพวกเขาไม่กล้าทำเรื่องที่เลวร้ายเกินไป เพียงแค่โลภไปหน่อย เสวยสุขไปหน่อยเท่านั้นฮ่องเต้จะมาถึง
Read more

บทที่ 424

แววตาของไล่เฉิงหลงยิ่งฉายความสนใจมากขึ้นพระราชนัดดาองค์โตมาอยู่ที่นี่ในวันนี้ เห็นได้ชัดว่าพายุคลื่นลูกใหญ่ที่พระชายาหลิ่วกลับเข้าวังในครั้งนี้ ย่อมเกี่ยวข้องกับวังบูรพาเป็นแน่หญิงสาวที่เขาปกป้องอยู่นั้น......ไล่เฉิงหลงหันไปมองลูกน้องแวบหนึ่งลูกน้องเข้าใจทันทีและรีบจากไปทันทีฉู่กั๋วกงก็ได้ขึ้นม้าตามการเร่งรัดของเซี่ยกงกงไปแล้วจูปิน เฉินฮ่าว และพรรคพวกต่างก็ตามไปด้วยเว้นเพียงเฉิงกั๋วกง ที่ไม่รู้เพราะเหตุใด เขามองไล่เฉิงหลง แล้วเกิดความรู้สึกประหลาดบางอย่าง คิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง จึงหาเหตุผลอ้างว่าต้องกลับบ้านไปเปลี่ยนเสื้อผ้า และไม่ได้ตามไปฝูงชนที่รายล้อมจวนฉู่กั๋วกงก็เริ่มทยอยสลายตัวบรรดาปัญญาชนและชาวบ้านเริ่มวิพากษ์วิจารณ์เรื่องนี้สำหรับชาวบ้านธรรมดาย่อมไม่ต้องพูดถึง ทุกเสียงล้วนด่าทอว่าฉู่กั๋วกงชั่วร้ายและสมควรตาย แต่พวกปัญญาชนกลับรู้เรื่องราวมากกว่าเล็กน้อยเมื่อคิดถึงคดีที่ศาลซุ่นเทียนสอบสวนเกี่ยวกับเจียงเหยียนเจินที่ส่งคนไปลอบสังหารหูอี้ชวนในวันนี้ พวกเขาก็ยิ่งดูแคลนฉู่กั๋วกงเข้าไปใหญ่กระซิบกระซาบพิพากษ์ถึงเรื่องเสือยังไม่กินลูกของตนเอง กล่าวถึงเรื่องพระชาย
Read more

บทที่ 425

ชีเจิ้นรู้สึกเย็นวาบในใจ ไม่ใช่แค่เย็นธรรมดา เขาถึงขั้นขนลุกซู่ไปทั้งแผ่นหลังเลยทีเดียวพอฝืนทนจนกลับถึงจวน ก็รีบร้อนตรงไปยังห้องอักษรทันทีก่อนหน้านี้พวกเขาเลิกใช้ห้องอักษรเป็นที่ปรึกษาหารือไปแล้ว มักจะไปพูดคุยกันที่หอหมิงเยว่แทนแต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน ทันทีที่เข้าห้องอักษร ชีเจิ้นก็รีบคว้าตัวท่านโหวผู้เฒ่าชีแล้วเอ่ยถาม “ท่านพ่อ! ท่านได้ยินหรือไม่ องค์หญิงเป่าหรง ตอนนางยังเด็กขนาดนั้นก็เคย…...”นั่นมันคนตั้งเท่าไหร่ นั่นคือชีวิตของผู้คนนับพัน!แม้แต่ในตอนนี้ หากมีคนตายจำนวนมากขนาดนั้น ก็คงเป็นเหตุการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน ถือได้ว่ามีผู้บาดเจ็บล้มตายอย่างหนักทั้งสองฝ่าย จำเป็นต้องรายงานต่อราชสำนักแล้วปีนั้นองค์หญิงเป่าหรงอายุแค่กี่ปีเอง?!หญิงสาวผู้นี้น่ากลัวยิ่งกว่าชีหยวนเสียอีกไม่แปลกใจเลยที่ฮองเฮาเฝิงจะถูกกดดันจนต้องเก็บตัวเงียบอยู่แต่ในวัง แม้แต่ในวันสำคัญอย่างวันขึ้นหนึ่งค่ำและสิบห้าค่ำที่ตำหนักกลางต้องออกมารับการถวายพระพรจากบรรดาสตรีบรรดาศักดิ์ นางก็ไม่เคยปรากฏตัวและไม่แปลกใจเลยที่ฮองเฮาเฝิงถึงกับต้องไปที่อารามไป๋อวิ๋นเพื่อขอร้ององค์หญิงใหญ่ ยอมทำทุกวิถีทางเพื่อส่
Read more

บทที่ 426

เพราะองค์หญิงเป่าหรงก็ยังเอ่ยถ้อยคำที่ว่าให้ละทิ้งจวนฉู่กั๋วกงเช่นนี้ออกมาในเวลานี้ฉู่กั๋วกงก็มาถึงตำหนักไท่จี๋แล้วด้านนอกตำหนักไท่จี๋มีกองกำลังองครักษ์เสื้อแพรล้อมอยู่เต็มไปหมด ไล่เฉิงหลงเข้าไปด้านในล่วงหน้าก่อน ไม่นานนักเขาก็เดินออกมา ขณะที่เดินผ่านฉู่กั๋วกงและจูปิน เขายกมุมปากขึ้นยิ้มเยาะด้วยสายตาเย็นชาให้พวกเขาจูปินยังแค้นใจเรื่องที่ไล่เฉิงหลงฟันแขนเสื้อเฉินฮ่าวไปเมื่อครู่ จึงสบถออกมาว่า “ทำเป็นวางท่าอะไรนักหนา?!”ไม่นาน ผู่อู๋ย่งก็เดินออกมาจากด้านใน แล้วร้องประกาศเสียงแหลม “เรียกฉู่กั๋วกงเข้าเฝ้า!”เมื่อเห็นผู่อู๋ย่ง สีหน้าของเหล่าขุนนางชั้นสูงก็ไม่สู้ดีนักเขาคือขันทีชั้นผู้ใหญ่แห่งกรมขันทีพระราชพิธี ปกติมักติดต่อกับสำนักขุนนางหลวง และมีอำนาจตรวจทานราชโองการ ถือเป็นขุนนางขันทีที่ทรงอิทธิพลที่แท้จริงฉู่กั๋วกงจัดเสื้อคลุมของตนให้เรียบร้อย ก่อนจะเชิดหน้าขึ้น ก้าวเข้าสู่ตำหนักไท่จี๋ในใจของเขาได้เตรียมแผนการรับมือไว้แล้วอันดับแรกคุกเข่าทูลรายงานข่าวการจากไปของฮูหยินฉู่กั๋วกงที่ถูกบีบบังคับจนต้องปลิดชีพจากนั้นก็ร้องไห้คร่ำครวญ ว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา ตนได้ภักดีต่อฮ่องเต
Read more

บทที่ 427

ตลอดหลายปีที่ดำรงตำแหน่งขุนนางมา ฉู่กั๋วกงไม่เคยตกอยู่ในสภาพที่น่าอับอายเช่นนี้มาก่อนเขารู้สึกว่าตัวเองถูกต้อนจนมาถึงริมหน้าผา เพียงแค่ก้าวพลาดเพียงนิดเดียว ก็จะตกลงไป จนร่างแหลกสลาย ไม่เหลือแม้แต่ซากแต่มาถึงตอนนี้ เจียงเหยียนเจินพูดได้ชัดเจนทุกอย่าง ทั้งยังกล้าสาบานด้วยชีวิตลู่หมิงอันก็กลับมาแล้ว พาหม่าเซวียน เจ้าเมืองทงโจวกลับมาด้วย รวมถึงอ๋องโจว ผู้ที่ฮ่องเต้หย่งชางให้ความไว้วางใจมาตลอด คนทั้งสองสามารถเป็นพยานได้ว่า ลู่หมิงฮุยเป็นคนที่ไปลอบสังหารเซียวโม่และราชบุตรเขยลู่ยังมีหญิงรับใช้ชราที่อยู่ในจวนของลู่หมิงฮุย นางกล่าวยืนยันอย่างหนักแน่นว่านางสามารถสาบานด้วยชีวิตได้ ว่าฉู่กั๋วกงเป็นผู้สั่งให้เฉินชง ซึ่งเป็นพ่อบ้านใหญ่ของจวนลู่หมิงฮุย ลงมือสังหารฮูหยินใหญ่ลู่เพื่อปิดปาก ป้องกันไม่ให้ฮูหยินใหญ่ลู่เป็นเหมือนเจียงเหยียนเจินที่หันมาหักหลังเมื่อมีคนเอาเรื่องราวในอดีตและเหตุการณ์ล่าสุดมาปะติดปะต่อกัน ก็กลายเป็นตาข่ายที่แน่นหนาแม้ว่าบางเรื่องในนี้จะไม่เป็นความจริง แต่ก็ไม่สำคัญอีกต่อไป เพราะคำโกหกที่ปะปนทั้งเรื่องจริงและเรื่องเท็จนี่แหละ คือสิ่งที่จับพิสูจน์ได้ยากที่สุดเป็น
Read more

บทที่ 428

แม้แต่เฉินฮ่าวและจูปินที่มาขอความเมตตา ก็ยังถูกปลดจากตำแหน่งขุนนางโดยตรงองค์หญิงใหญ่และลู่หมิงอันยังคงร่ำไห้แสดงความน่าสงสารอยู่ที่นี่ ก็มีแต่ทำให้ความโกรธของฮ่องเต้หย่งชางก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆถึงเวลานั้น เกรงว่าแม้แต่พระสนมกุ้ยเฟยและเหล่าองค์หญิงองค์ชายก็คงต้องพลอยเดือดร้อนเพราะตนไปด้วยต่อให้ฮ่องเต้หย่งชางเห็นแก่โศกาดูรของพระชายาหลิ่วและเซียวโม่ ในอนาคต พระองค์ก็ต้องมีอคติต่อเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยอย่างแน่นอนชีหยวน! ชีหยวน!หากเขารู้ล่วงหน้าว่าบุตรสาวบุญธรรมของคนเชือดหมูผู้นี้ จะสามารถลุกขึ้นมาก่อคลื่นลมปั่นป่วนได้เพียงลำพัง เขาจะบีบคอฆ่านางให้ตายตั้งแต่แรก!เพราะเขาประมาท! ทั้งหมดเป็นเพราะเขาประมาท!หัวใจของเขาเจ็บปวดอย่างรุนแรง แต่สมองกลับยังคงคิดวางแผนอย่างรวดเร็วไม่ได้! เขาจะลากกุ้ยเฟยและเหล่าองค์หญิงองค์ชายมาเกี่ยวข้องไม่ได้!ตราบใดที่ขุนเขาเขียวขจียังอยู่ อย่าได้กลัวไม่มีฟืนเผาเขารู้ดีว่าองค์หญิงเป่าหรงมีความสามารถเพียงใดตราบใดที่ยังมีความหวังแม้เพียงเส้นด้ายเดียว เขาย่อมสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ดังนั้น......ดังนั้นมีเพียงคนแก่อย่างเขาที่ต้องตายไปเท่าน
Read more

บทที่ 429

นอกตำหนักมีเสียงร่ำไห้อันแสนเศร้าของเสี่ยวหลิวกุ้ยเฟยในขณะที่ภายในตำหนัก องค์หญิงใหญ่ทั้งขุ่นเคืองและปวดใจ “เสด็จพี่! ความความทุกข์ทรมานของพวกหม่อมฉันเป็นเรื่องโกหกอย่างนั้นหรือ? การที่หม่อมฉันกับราชบุตรเขยถูกพรากจากกันนานหลายสิบปีเป็นเรื่องโกหกอย่างนั้นหรือ? หรือการที่หม่อมฉันเคยคิดว่าลูกของหม่อมฉันตายไปแล้ว ทุกคืนวันส่งท้ายปีเก่า ในขณะที่บ้านเมืองเต็มไปด้วยแสงไฟแห่งการเฉลิมฉลอง หม่อมฉันกลับต้องจมอยู่กับความทุกข์นั้นก็เป็นเรื่องลวงตาด้วยหรือเพคะ?”แต่ละคำที่นางเอ่ยถาม ทำให้ฮ่องเต้หย่งชางไม่อาจเอื้อนเอ่ยคำตอบใด ๆ ได้เพลานี้พระองค์รู้สึกเหมือนพระหทัยถูกฉีกออกเป็นสองส่วน ครึ่งหนึ่งห่วงใยพระชายาหลิ่วและน้องหญิงของตน ทรงรู้สึกเจ็บปวดกับชะตากรรมอันโหดร้ายที่พวกนางต้องเผชิญมานานปี และเต็มไปด้วยความโกรธแค้นต่อความโหดเหี้ยมของฉู่กั๋วกงและพรรคพวกของเขาแต่อีกครึ่งหนึ่ง กลับโบยบินไปหาเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยที่อยู่ด้านนอกร่างกายของนางอ่อนแอมาแต่ไหนแต่ไรเมื่อตอนที่ให้กำเนิดองค์หญิงหมิงเฉิง นางเสียเลือดมากจนเกือบเอาชีวิตไม่รอดและหมิงเฉิง นางยังเด็กนัก ต้องมาเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรงเช่นนี้ นา
Read more

บทที่ 430

ขณะที่นางพูด ก็ลุกขึ้นยืนอย่างไม่ยี่หระต่อความตายใด ๆ ทั้งสิ้น แล้วจ้องไปที่เสาตรงระเบียงขันทีเซี่ยและผู่อู๋ย่งซึ่งยืนดูอยู่ใต้ระเบียงมาโดยตลอดพลันหน้าถอดสีพวกเขารู้ดีว่า นี่คือสนมคนโปรดของฮ่องเต้หย่งชาง!และขณะที่เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยวิ่งพุ่งเข้าหาเสานั้น ดูเหมือนนางจะชนเข้ากับเซียวโม่ที่กำลังก้มหน้าเล่นกับจิ้งหรีดในมือโดยไม่ได้ตั้งใจเสี่ยวโม่รู้สึกเจ็บแปลบที่เอว จึงร้องไห้ออกมาทันที และเผลอผลักเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยออกไปอย่างแรงโดยสัญชาตญาณร่างของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟยล้มลงกระแทกพื้นอย่างแรง หน้าผากของนางกระแทกเข้ากับอิฐ จนเลือดไหลทะลักออกมาพระชายาหลิ่วมองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยใบหน้าที่เรียบนิ่ง แต่ในใจกลับหัวเราะเย็นชาอีกแล้ว เป็นเช่นนี้อีกแล้วแม่ลูกคู่นี้ใช้วิธีเดิม ๆ ไม่เคยเปลี่ยนแสร้งทำเป็นอ่อนแอ แสร้งทำเป็นน่าสงสาร แสร้งทำเป็นบอบบางและพวกบุรุษก็มักจะหลงกลเสมอ!นางกำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรบางอย่าง แต่ทันใดนั้น เงาร่างหนึ่งที่ผอมบางกลับพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็วราวกับสายลม เมื่อเห็นเลือดบนหน้าผากของเสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย นางก็คุกเข่าลงกับพื้นทันที แล้วคลานไปข้าง ๆ เสี่ยวหลิ่วกุ้ยเฟย พร
Read more
PREV
1
...
404142434445
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status