All Chapters of ท่านอ๋องกับพระชายาพาลูกหนีภัยธรรมชาติ: Chapter 511 - Chapter 520

612 Chapters

บทที่ 511

แม้แขกในโรงเตี๊ยมจะไม่น้อย แต่คนที่สามารถเช่าเรือนใหญ่ขนาดนี้ได้กลับมีไม่มากต่อให้จะเป็นแขกที่มีเงินเหล่านั้น ส่วนใหญ่ก็จะเช่าห้องชั้นบนเพียงไม่กี่ห้องเท่านั้น มีน้อยมากที่จะเช่าทั้งเรือนยิ่งไปกว่านั้นคนใจใหญ่แบบอวิ๋นฝูหลิง ซึ่งเป็นแขกที่เช่าคราวเดียวทั้งเดือน ก็มีน้อยยิ่งกว่าเสี่ยวเอ้อเห็นลูกพี่อู๋กับอวิ๋นฝูหลิงคุยกันไม่กี่ประโยค ก็หันกลับมาต้องการจ่ายเงินตามสัญญา หัวใจจึงเพิ่งกลับมาสงบลงโดยพลันพูดจาเกินจริงต่อไปก็ไม่มีประโยชน์หลังจากจ่ายเงิน ลงชื่อในสัญญา ธุรกิจก็เป็นอันเรียบร้อยสมบูรณ์เจรจาธุรกิจใหญ่ขนาดนี้สำเร็จ ผู้ดูแลร้านจะต้องให้ผลประโยชน์กับเขาเป็นแน่เสี่ยวเอ้อนำลูกพี่อู๋เดินไปด้านหน้าด้วยรอยยิ้มแจ่มใส ขั้นตอนการเข้าพักจัดการเรียบร้อยเมื่อเสี่ยวเอ้อเดินไป อวิ๋นฝูหลิงก็เริ่มลงมือทำธุระนางออกคำสั่งหัวหน้าองครักษ์หูคุนว่า “เหลือสองคนไว้คอยเฝ้าม้ากับสัมภาระที่โรงเตี๊ยม”หูคุนตอบรับ และเลือกองครักษ์มาสองคนทันทีอวิ๋นฝูหลิงเรียกชื่อจางซานมู่อีกครา และกล่าวว่า “เจ้าพาคนสักสองสามคน ไปสอบถามข้อมูลของหอจินอวี้เสียหน่อย ยิ่งละเอียดยิ่งดี มุ่งเน้นโดยเฉพาะช่วงระยะก่อนหลั
Read more

บทที่ 512

ทันทีที่เจ้าของร้านเห็นป้ายอาญาสิทธิ์ ความง่วงงุนก็สลายหายไปทันทีเขาประสานมือให้อวิ๋นฝูหลิง พลางกล่าวเสียงต่ำว่า “ท่านใต้เท้าโปรดตามข้ามา!”กล่าวจบ เจ้าของร้านก็ลุกขึ้นออกไปจากโต๊ะต้อนรับ เอาป้ายปิดร้านแขวนไว้ที่หน้าประตู หลังจากนั้นก็ปิดประตูร้านจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จ เขาจึงเพิ่งนำทางพวกอวิ๋นฝูหลิงไปที่หลังร้านเมื่อเข้ามาที่เรือนหลักหลังร้าน เจ้าของร้านผู้นั้นก็ทำความเคารพอย่างจริงจังและนอบน้อมอีกครั้ง “ข้าน้อยหลี่หยวน ขอทำความเคารพท่านใต้เท้า!”อวิ๋นฝูหลิงเก็บป้ายอาญาสิทธิ์กลับมาในหน่วยกระบี่เงาป้ายอาญาสิทธิ์ที่ครอบครองจะแตกต่างกันออกไป ตามตำแหน่งสูงต่ำป้ายอาญาสิทธิ์ชิ้นนี้ที่ฮ่องเต้จิ่งผิงประทานให้นาง เป็นระดับสูงสุดในหน่วยกระบี่เงา สามารถสั่งการทุกคนในหน่วยกระบี่เงาได้ดังนั้นหน่วยกระบี่เงาซึ่งปลอมตัวเป็นเจ้าของร้านขายของเก่าผู้นี้ เมื่อเห็นป้ายอาญาสิทธิ์ชิ้นนั้น จึงนอบน้อมต่ออวิ๋นฝูหลิงเป็นอย่างยิ่งกระบี่เงาในหน่วยกระบี่เงามีจำนวนนับไม่ถ้วน หลายคนเจอหน้าก็ต่างไม่รู้จักกัน ดังนั้นในเวลาส่วนมากแล้ว จึงล้วนใช้ป้ายอาญาสิทธิ์ในการยืนยันตัวตนดังนั้นอวิ๋นฝูหลิงจึงเพีย
Read more

บทที่ 513

เมื่อได้ยินอวิ๋นฝูหลิงพูดถึงจ้าวเสวียซือ บนใบหน้าของหลี่หยวนก็มีสีหน้าแปลกประหลาดปรากฏขึ้นเขาลังเลครู่หนึ่ง จึงเพิ่งกล่าวว่า “ท่านใต้เท้า เชิญตามข้าน้อยมา”กล่าวจบ เขาก็หมุนม้านั่งที่วางกระถางดอกไม้ในห้องเล็กน้อยจากนั้นมีเสียงแผ่วเบาดังขึ้นเสียงหนึ่ง ชั้นวางของเก่าที่เดิมทีติดผนังค่อย ๆ เคลื่อนไปด้านข้าง เผยทางเข้าที่ใหญ่พอจะให้คนผู้หนึ่งเดินเข้าไปได้“ท่านใต้เท้า เชิญด้านนี้ขอรับ!” หลี่หยวนยกมือแสดงท่าทีพลางกล่าวหัวใจของอวิ๋นฝูหลิงสั่นไหวเล็กน้อย เดินตามหลังหลี่หยวนไปทันที เข้าไปในทางเดินที่ผนัง หลังจากเดินไปครู่หนึ่งประมาณสิบกว่าก้าวผ่านทางเดินคับแคบ ตรงหน้าจึงเพิ่งชัดเจนสิ่งที่ปรากฏสู่สายตาคือห้องลับห้องหนึ่งทั้งสามด้านของห้องลับมีตะเกียงน้ำมันแขวนอยู่บนผนัง ซึ่งให้แสงสว่างแก่ห้องที่ไม่นับว่าใหญ่นักแห่งนี้ภายใต้แสงสลัว สามารถมองเห็นเตียงไม้เตียงหนึ่งซึ่งวางอยู่กลางห้องลับได้บนเตียงไม้มีคนผู้หนึ่งนอนอยู่ดวงตาทั้งสองข้างของคนผู้นั้นปิดสนิท สภาพครึ่งเป็นครึ่งตายสายตาของอวิ๋นฝูหลิงมองไปยังใบหน้าของคนผู้นั้น แทบจะจำได้ในทันทีว่าเป็นจ้าวเสวียซือแม้ในใจนางจะคาดเดาไว้ก
Read more

บทที่ 514

ไม่มีผงยาต้านการอักเสบที่ดีไปกว่าขวดนี้แล้วหลังจากรักษาบาดแผลบนร่างของจ้าวเสวียซือเรียบร้อย อวิ๋นฝูหลิงก็หยิบถุงเข็มขึ้นมา และหยิบเข็มทองเล่มหนึ่งออกมา ก่อนจะฝังเข็มบนตัวของจ้าวเสวียซือหลังจากฝังเข็มเสร็จแล้ว จ้าวเสวียซือก็ค่อย ๆ ได้สติขึ้นมาพวกหลี่หยวนที่อยู่ด้านข้างอดไม่ได้ที่จะแอบตกตะลึงคิดไม่ถึงว่าสตรีสูงศักดิ์ผู้นี้จะมีทักษะแพทย์ที่ยอดเยี่ยมถึงเพียงนี้ ฝังเข็มเพียงไม่กี่เข็ม ก็ทำให้คนฟื้นได้แล้วแม้อวิ๋นฝูหลิงจะปลอมตัวเป็นบุรุษ แต่หลี่หยวนในฐานะที่เป็นหน่วยกระบี่เงา ก็มีสายตาที่เฉียบแหลมยิ่งเขามองออกนานแล้วว่าอวิ๋นฝูหลิงเป็นสตรีที่ปลอมตัวเป็นบุรุษ เพียงแต่ไม่ได้พูดออกไปต่อหน้าถึงอย่างไรอวิ๋นฝูหลิงก็มีป้ายอาญาสิทธิ์ของหน่วยกระบี่เงา นางจะเป็นชายหรือหญิงย่อมไม่สำคัญจิตใจของหลี่หยวนสั่นไหวเล็กน้อยช้าก่อน ใต้เท้าท่านนี้เป็นสตรี ทั้งยังมีทักษะแพทย์ที่โดดเด่นถึงเพียงนี้ คงมิใช่ว่าเป็นพระชายาอี้อ๋องผู้นั้นกระมัง?นึกถึงการหายตัวไปอย่างกะทันหันของอี้อ๋องอีกครา ข่าวคราวคงไปถึงพระชายาอี้อ๋องที่อยู่เมืองหลวงแล้ว นางย่อมนั่งไม่ติดแต่คิดไม่ถึงว่าคนจะมาที่จินโจวเอง!หลังจา
Read more

บทที่ 515

“ไอ้สุนัขเลว สกุลเวินใจกล้า ถึงขั้นกล้าแตะต้องแม้แต่ท่านอ๋อง คงเหนื่อยจะใช้ชีวิตแล้วจริงๆ!”“คิดไว้แล้วเชียวว่าต้องเป็นเช่นนี้ ตอนแรกข้าไม่น่าฟังท่านอ๋องเลย วางแผนระยะยาวเพื่อจับปลาตัวใหญ่อันใดกัน?”“น่าจะจัดการสกุลเวินให้สิ้นซากเสียตั้งแต่แรก!”จ้าวเสวียซือพูดด่าทอขึ้นมารู้สึกตื่นตระหนกไปชั่วขณะหนึ่ง จนกระทบบาดแผลอย่างช่วยไม่ได้ ทำให้เขาเจ็บจนแยกเขี้ยว เป่าปาก ‘ฟู่’ ออกมาอวิ๋นฝูหลิงตบไหล่เขาคราหนึ่ง และกล่าวเสียงต่ำว่า “เอาเถอะ ตอนนี้มันใช่เวลามาด่าหรือ?”“ยามนี้การตามหาท่านอ๋องกับผู้บัญชาการจั่วเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สุด!”“ตกลงมันเกิดเรื่องอะไรขึ้น เจ้าบอกข้ามาให้ชัดเจนเสีย!”“พวกเจ้าสืบเจอสิ่งใดบ้าง อย่าได้ปิดบังช้าแม้แต่นิดเดียว”“ข้าต้องรู้สถานการณ์ทั้งหมดเสียก่อน จึงจะรู้ว่าควรตามหาที่อยู่ของท่านอ๋องกับผู้บัญชาการจั่วอย่างไร!”หลังจากจ้าวเสวียซือผ่านพ้นการระบายอารมณ์ในช่วงแรกไป ทั้งยังถูกอวิ๋นฝูหลิงตีไปทีหนึ่ง ตอนนี้สติจึงค่อย ๆ กลับมาเขารู้ว่าสิ่งที่อวิ๋นฝูหลิงพูดถูกต้องตอนนี้ถึงเขาจะโกรธอย่างไร้เหตุผลไป ก็ไม่มีประโยชน์แม้แต่น้อยมีเพียงแต่ต้องบอกความจริงทั้งหมดแ
Read more

บทที่ 516

“จากการทะเลาะเบาะแว้งของพวกเขา พวกเราจึงรู้ว่าสกุลเวินเกี่ยวข้องกับการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมาย ซึ่งขี้ผึ้งทองก็ถูกลักลอบนำเข้ามาเช่นกัน” “แต่เรื่องการลักลอบขนส่งสินค้าผิดกฎหมายทำโดยบ้านรองสกุลเวินเป็นหลัก บ้านสามอิจฉาผลประโยชน์ส่วนนี้ จึงอยากเข้าร่วมด้วย และแบ่งผลประโยชน์มาส่วนหนึ่ง”“ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้ทางการท้องถิ่นของจินโจวก็มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน”“หลังจากได้รับเบาะแส ท่านอ๋องก็หันไปเริ่มตรวจสอบสกุลเวิน”ราชวงศ์ต้าฉีเริ่มเปิดการค้าทางทะเล ดังนั้นพ่อค้าบริเวณชายฝั่งจึงต่างได้รับผลประโยชน์ และได้รับกำไรมากมายขอเพียงจ่ายภาษีให้ครบถ้วน และสินค้าที่ซื้อขายไม่ใช่สินค้าที่เกี่ยวกับอาวุธสงครามที่ควบคุมโดยราชสำนักอย่างพวกเสบียง อาวุธหนัก ม้า และเกลือ ทางราชสำนักก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งที่จะมีการค้าทางทะเลระหว่างประเทศโพ้นทะเลกับราชวงศ์ต้าฉีแต่ก็มักจะมีเหล่าผู้คน ที่โลภมากไม่รู้จักพอเห็นได้ชัดว่าทำกำไรได้มากมาย แต่ก็มักจะยังอยากได้เงินมากกว่าเดิม แม้แต่ภาษีเล็กน้อยก็ยังไม่อยากจ่ายด้วยเหตุนี้จึงทำการลักลอบค้าขายสินค้าผิดกฎหมายแม้ราชสำนักจะตรวจสอบและปราบปรามอย่างเข้มงวดมา
Read more

บทที่ 517

อวิ๋นฝูหลิงได้ยินว่าคนญี่ปุ่น ก็อดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว“เจ้าแน่ใจหรือว่าเป็นคนญี่ปุ่น?”จ้าวเสวียซือพยักหน้า น้ำเสียงมั่นใจ “จิวโจวอยู่ติดทะเล มีพ่อค้าต่างชาติจำนวนไม่น้อยไปมาเพื่อทำการค้า ข้าอยู่ที่จินโจวมาหลายวันขนาดนี้ จะไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นได้อย่างไร?”“ดูจากการแต่งตัวของคนผู้นั้น รวมถึงสำเนียงที่พูด ต้องเป็นคนญี่ปุ่นแน่นอน!”ไม่ว่าจะเป็นชาติก่อนหรือชาตินี้ อวิ๋นฝูหลิงก็ล้วนไม่มีความรู้สึกดีอันใดกับคนญี่ปุ่นเลยมักจะรู้สึกว่าชาวเกาะที่อาศัยอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ แห่งนั้น ไม่ได้มีดีอันใดเก็บซ่อนไว้การลักลอบซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายครั้งนี้ ไม่แน่สกุลเวินอาจจะร่วมมือกับคนญี่ปุ่นทั้งสองฝั่งฝ่ายหนึ่งดูแลภายใน อีกฝ่ายหนึ่งดูแลภายนอก ฝ่ายหนึ่งทำการนำเข้า อีกฝ่ายหนึ่งทำการส่งออก ร่วมมือกันย่อมยิ่งสะดวกการลักลอบซื้อขายสินค้าผิดกฎหมายไม่เพียงแต่เป็นการนำสิ่งของภายนอกเข้ามา แต่ยังสามารถเอาของในประเทศตัวเองขายให้ต่างชาติได้ด้วยขี้ผึ้งทองที่ขายอยู่ในหอจินอวี้ของสกุลเวิน ไม่แน่ว่าที่มาของขี้ผึ้งทอง อาจจะเกี่ยวข้องกับญี่ปุ่นจิตใจของอวิ๋นฝูหลิงสั่นไหวเล็กน้อย ก่อนหันกลับไปถามต่อว่า “หลังจากน
Read more

บทที่ 518

“เขารับปากว่าจะมอบธัญพืชสองลำเรือให้คนญี่ปุ่นคนนั้น แต่คนญี่ปุ่นจะต้องเอาอาวุธมาแลกเปลี่ยน”อวิ๋นฝูหลิงเลิกคิ้วขึ้น “เวินเจาต้องการแลกเปลี่ยนกับอาวุธ เขาคิดจะทำอะไร? หรือสกุลเวินคิดจะก่อกบฏ?”ยามนี้ใต้หล้าสงบสุข ทะเลทั้งสี่ก็สงบสุขฮ่องเต้จิ่งผิงก็นับเป็นฮ่องเต้ที่ดีทุ่มเทกำลังทำให้แคว้นรุ่งเรือง แม้ว่าชีวิตของประชาชนจะไม่ได้มั่งมี แต่ก็ดีกว่าช่วงหลายปีก่อนที่บ้านเมืองวุ่นวายเพราะสงครามภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ ใครกันจะคิดสั้นก่อกบฏ?ยิ่งไปกว่านั้นสกุลเวินก็เป็นสกุลที่สืบทอดต่อกันมายาวนานในจินโจว ในสกุลยังมีลูกหลานจำนวนไม่น้อยที่รับราชการเจ้าหน้าที่ทางการที่รับผิดชอบจินโจว เกือบทั้งหมดล้วนทุ่มเทสร้างความสัมพันธ์อันดีกับสกุลเวิน เพราะเกรงว่าหากไปล่วงเกินสกุลเวินซึ่งเป็นเจ้าถิ่น จะทำให้ชีวิตในจินโจวไม่สู้ดีในระดับหนึ่ง สกุลเวินก็นับว่าเป็นฮ่องเต้ของจินโจว ต้องการเงินก็ได้เงิน ต้องการอำนาจก็มีอำนาจเวินเจาในฐานะลูกชายคนโตของบ้านรอง ในสถานการณ์ที่บ้านใหญ่ไร้ข่าวคราวและเริ่มเสื่อมถอย ตำแหน่งผู้นำสกุลเวินในอนาคต มีความเป็นไปได้สูงที่จะมาอยู่ในมือของเวินเจาทิ้งอนาคตที่ยอดเยี่ยมไป
Read more

บทที่ 519

อวิ๋นฝูหลิงแค่นเสียงเบาเสียงหนึ่ง “เจ้าต้องขอบคุณข้าด้วย”“หากข้ามาช้ากว่านี้อีกสักสองสามวัน บาดแผลบนร่างของเจ้า แม้แต่เทพเซียนคงยากจะช่วยแล้ว!”จ้าวเสวียซือผุดรอยยิ้มขึ้นมาบนใบหน้า “ใช่ ๆ ๆ โชคดีมากที่พี่สะใภ้มาทันเวลา ด้วยฝีมือแพทย์ที่เหนือชั้น จึงช่วยชีวิตข้าไว้ได้!”อวิ๋นฝูหลิงเห็นเขายังคงมีรอยยิ้มสดใสเหมือนเมื่อก่อน ก็อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาเช่นกัน“เมื่อเป็นเช่นนี้ มือสังหารที่สกุลเวินตามหาตัวไปทั่ว น่าจะเป็นเจ้าหรือไม่ก็คนที่ส่งเสียงโดยไม่ระวังผู้นั้น”จ้าวเสวียซือพยักหน้า “น่าจะใช่”“แต่เรื่องการตายของรองผู้นำของหอจินอวี้ ข้าไม่รู้จริงๆ”“คืนนั้นหลังจากที่ถูกพบ ข้าต่อสู้กับคนของหอจินอวี้มากมาย ยามนั้นมันชุลมุนมาก เพื่อหนีออกมา ข้าก็ฆ่าคนของหอจินอวี้ไปหลายคน ทว่าในบรรดานั้นมีรองผู้นำคนนั้นหรือไม่ ข้าก็ไม่รู้”“เรื่องที่คืนนั้นพวกเวินเจาทั้งสามคนมาพูดคุยกัน ไม่อาจแพร่งพรายออกมาได้แม้แต่ประโยคเดียว”“ไม่เช่นนั้นไม่ว่าจะเป็นโทษฐานเรื่องใด ก็ล้วนเพียงพอที่สกุลเวินจะถูกจับกุมมาสอบสวนทั้งสกุลได้!”อวิ๋นฝูหลิงครุ่นคิดครู่หนึ่ง และกล่าวว่า “ดังนั้นจากมุมมองของพวกเวินเจา เจ้ากับ
Read more

บทที่ 520

“ยิ่งไปกว่านั้นมีสองคนนี้คอยดูแลในหอจินอวี้อยู่ ใครจะกล้าก่อเรื่องที่หอจินอวี้ได้?”“ดังนั้นชื่อเสียงของผู้นำใหญ่และรองผู้นำ จึงโด่งดังมากขึ้นเรื่อย ๆ”“ทว่าผู้นำใหญ่คนนั้น ไม่กี่ปีก่อนป่วยตายไปแล้ว รองผู้นำที่เหลืออยู่คนนั้น ก็ตายไปเมื่อไม่กี่วันก่อนเช่นกัน”“ข้าคิดว่าการตายของรองผู้นำ ไม่ใช่แค่ข้ออ้างที่สร้างขึ้นมาเพื่อตามหามือสังหารเท่านั้น”ประโยคสุดท้าย หลี่หยวนพูดแฝงความนัยอวิ๋นฝูหลิงเข้าใจขึ้นมาบ้าง และกล่าวต่อว่า “ที่ผ่านมาหอจินอวี้ถูกดูแลโดยผู้นำใหญ่กับรองผู้นำ ทั้งสองละทิ้งความชั่วหันเข้าสู่ความดี เพราะนายท่านใหญ่เวิน”“คิดว่าผู้นำใหญ่กับรองผู้นำเอาหอจินอวี้ไปรับผิดชอบ ก็เป็นเพราะนายท่านใหญ่เวินเช่นกัน”“พูดได้ว่าหลายปีมานี้หอจินอวี้อยู่ในมือของบ้านใหญ่มาโดยตลอด”“แม้ผู้นำใหญ่จะป่วยตายไปแล้ว ในหอจินอวี้ก็ยังมีรองผู้นำคอยดูแลอยู่ รองผู้นำเคยเป็นโจรมาก่อน ทั้งยังทำให้หอจินอวี้ยิ่งใหญ่มาด้วยกันกับนายท่านใหญ่เวิน แน่นอนว่าย่อมมีบารมีในหอจินอวี้”“ยามนี้นายท่านใหญ่เวินตายจากอุบัติเหตุ ลูกชายคนเดียวของเขาคุณชายใหญ่เวินก็ป่วยจนต้องนอนติดบนเตียง ไม่สนใจสิ่งใด”“กิจการทั้งห
Read more
PREV
1
...
5051525354
...
62
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status