Lahat ng Kabanata ng ฝ่ามิติพลิกชะตาอ๋องผู้ถูกเนรเทศ: Kabanata 731 - Kabanata 740

768 Kabanata

บทที่ 731

“หลังกินข้าวมื้อนี้เสร็จ เจ้าก็ไปจากที่นี่เสียเถอะ สิ่งที่ข้าควรสอนก็สอนไปหมดแล้ว เจ้าไม่มีความจำเป็นต้องพักอยู่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว”ซางหมิงกินข้าวเสร็จอย่างรวดเร็วแล้วลุกขึ้นก้าวยาวๆ ออกไปจากห้องกินข้าวเจี่ยนอันอันรู้ว่าซางหมิงยังโกรธเรื่องเมื่อเย็นวาน นางเป็นฝ่ายผิดก่อนจึงไม่ได้โกรธเพราะคำพูดของซางหมิงเพื่อชดเชยให้กับเรื่องเมื่อเย็นวาน เจี่ยนอันอันจึงรีบกินข้าวให้เสร็จแล้วไปหาซางหมิงนางมาถึงสถานที่ที่ซางหมิงทำหน้ากากก็เห็นอีกฝ่ายกำลังนั่งทำหน้ากากอยู่ที่โต๊ะเจี่ยนอันอันหยิบยาถอนพิษที่ต้มไว้ตั้งแต่เมื่อเย็นวานออกมาจากในมิติแล้ววางลงตรงหน้าซางหมิง“ผู้วิเศษซาง นี่คือยาถอนพิษที่ข้าต้มเอง ท่านดื่มยานี้ก่อนแล้วข้าค่อยไปก็ยังไม่สาย”ซางหมิงเหลือบมองยาถอนพิษสองถ้วยนั้นแล้วมองไปทางเจี่ยนอันอัน“เจ้าแน่ใจนะว่ายาสองถ้วยนี้สามารถกำจัดพิษในร่างข้าได้?”เห็นเจี่ยนอันอันพยักหน้ายิ้มๆ เขาก็ไม่พูดมาก หยิบถ้วยยาขึ้นมาดื่มอึกใหญ่ทันทีหลังดื่มยาสองถ้วยนั้นจนหมด ซางหมิงก็รู้สึกว่าพิษในร่างกำลังสลายไปอย่างรวดเร็วบริเวณที่เดิมทียังเจ็บปวดอยู่บ้างก็รู้สึกโล่งสบายหาใดเปรียบ เพราะได้ดื่มยาสอง
Magbasa pa

บทที่ 732

เจี่ยนอันอันยิ้มกล่าว “พรุ่งนี้ข้าก็สามารถไปจากที่นี่ได้แล้ว”ฉู่จวินสิงจึงตัดสินใจค้างคืนกับเจี่ยนอันอันที่นี่เขาไม่อยากกลับไปที่โรงเตี๊ยม ที่นั่นเสียงดังเกินไป บวกกับเขาคิดถึงเจี่ยนอันอันหลายวันที่ผ่านมา เขาไม่ได้นอนหลับเต็มอิ่มเลยฉู่จวินสิงอยู่ค้างคืนด้วยได้ เจี่ยนอันอันย่อมดีใจอยู่แล้วอย่างไรเสียก็คงไม่มีใครบุกเข้ามาในห้องนี้อย่างปุบปับอยู่แล้วพอถึงพรุ่งนี้เช้า ฉู่จวินสิงค่อยทำเหมือนกับว่าเพิ่งมารับเจี่ยนอันอัน คนทั้งสองก็สามารถจากไปพร้อมกันได้แล้วทั้งคู่นอนอยู่บนเตียง เนื่องจากไม่ได้เจอกันหลายวันพวกเขาจึงเริ่มอิงแอบแนบชิดกัน ฉู่จวินสิงออกแรงอย่างนุ่มนวลด้วยกลัวว่าจะกระทบกระเทือนทารกในครรภ์เจี่ยนอันอันหลังเสร็จกิจแล้ว ทั้งคู่ก็สวมกอดกันนอนหลับไปจนถึงเช้าตรู่วันถัดมา ฉู่จวินสิงก็ทำให้ตัวเองล่องหนระหว่างที่เจี่ยนอันอันกำลังทำอาหารอยู่ ฉู่จวินสิงก็มาเคาะประตูเรือนโดยทำเหมือนกับว่าแวะมาเยี่ยมกะทันหันฮวาหลานเอ๋อร์ไปเปิดประตู เห็นว่าฉู่จวินสิงมาแล้ว คราวนี้นางไม่ได้เย็นชาเหมือนครั้งก่อน แต่ยิ้มแฉ่งให้ฉู่จวินสิง“เยียนอ๋องมาหาพี่หญิงเจี่ยนสินะ พี่หญิงเจี่ยนของข้าทำ
Magbasa pa

บทที่ 733

จังหวะที่พวกเขาเพิ่งเดินออกมาจากคุกหลวง ทหารรักษาการณ์กลุ่มหนึ่งก็ลาดตระเวนผ่านมาพอดีเมื่อพวกเขาเห็นพวกฉู่จวินสิงก็ล้วนประหลาดใจ“พวกเจ้าเข้าไปทำอะไรในคุกหลวง?” ทหารรักษาการณ์ที่นำหน้ามาถามด้วยความประหลาดใจเขาเห็นว่าทหารรักษาการณ์สิบกว่าคนนี้ล้วนไม่คุ้นหน้า แต่พวกเขาก็ไม่ได้คิดอะไรมากอย่างไรเสียทหารรักษาการณ์ในวังหลวงก็มีอยู่จำนวนมาก ถึงมีคนหน้าไม่คุ้นปรากฏตัวขึ้นก็ไม่ใช่เรื่องแปลกฉู่จวินสิงกล่าวเสียงขรึม “ตอนพวกข้าลาดตระเวนมาถึงที่นี่ ได้ยินเสียงร้องดังมาจากข้างในจึงเข้าไปตรวจดู”“ดีที่ข้างในมีแค่คนที่ถูกทรมานส่งเสียงร้อง แต่ไม่เจอตัวโจรร้ายที่โกนหัวฝ่าบาท”ทหารรักษาการณ์เหล่านั้นได้ยินแล้วก็พยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงเข้าใจ“ในเมื่อเป็นอย่างนั้น พวกเราก็ลาดตระเวนต่อกันเถอะ”“พวกเจ้าไปลาดตระเวนทางนั้น พวกข้าจะไปลาดตระเวนทางนี้”ฉู่จวินสิงว่าแล้วก็แยกจากทหารรักษาการณ์กลุ่มนั้นฉู่จวินสิงนำทหารเหล่านั้นตรงไปยังทางออกของวังหลวงเมื่อเจอกับทหารรักษาการณ์กลุ่มอื่นระหว่างทาง ต่างฝ่ายก็เพียงแต่พยักหน้าให้กันเล็กน้อยเท่านั้นไม่มีใครสังเกตว่าพวกเขาเป็นคนที่ปลอมตัวเป็นทหารรักษาการณ
Magbasa pa

บทที่ 734

ขณะที่เรื่องนี้เกิดขึ้นหลังจากเจี่ยนอันอันถูกเนรเทศไปพร้อมกับครอบครัวฉู่จวินสิงหากไม่ใช่เพราะเจี่ยนอันอันต้องติดตามครอบครัวฉู่จวินสิงเดินทางไปยังแดนเนรเทศ ไม่สามารถนำสิ่งของล้ำค่ามากมายขนาดนั้นติดตัวไปด้วยเจี่ยนกั๋วกงคงสงสัยไปแล้วว่าเงินเหล่านั้นถูกเจี่ยนอันอันขโมยไปแต่เรื่องที่คลังหลวงถูกปล้นก็ทำให้เจี่ยนกั๋วกงรู้สึกถึงความผิดปกติของเรื่องนี้ขึ้นมาอีกครั้งคราวก่อนเขาเข้าวังไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ เดิมตั้งใจว่าจะกราบทูลเรื่องนี้ด้วยแต่คิดไม่ถึงเลยว่าตนเองเพิ่งเอ่ยถึงเรื่องที่ว่าครอบครัวฉู่จวินสิงอาจยังไม่ตายก็ถูกฉู่ชางเหยียนตำหนิเอาอีกแล้วเขาไหนเลยจะมีความกล้าเอ่ยถึงเรื่องนี้กับฉู่ชางเหยียนอีกแต่ตอนนี้พอมาใคร่ครวญดีๆ แล้ว โจรที่ปล้นจวนกั๋วกงผู้นี้มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นโจรที่ปล้นคลังหลวงเดิมนั้น เจี่ยนกั๋วกงอยากสืบสวนเรื่องที่บ้านตนเองถูกปล้นอย่างเงียบๆอย่างไรเสียเรื่องนี้พูดออกมาแล้วก็มีแต่จะทำให้พวกขุนนางที่เป็นอริกับเขาหัวเราะเยาะแต่เวลาผ่านมานานขนาดนี้แล้ว เขากลับจับไม่ได้กระทั่งเงาของเจ้าโจรร้ายผู้นั้นยามนี้คลังหลวงถูกปล้นมานานขนาดนี้ก็ยังไม่มีใครจับตัวโจรผู้นั
Magbasa pa

บทที่ 735

ไม่มีใครคาดถึงว่าเรื่องเหล่านี้ล้วนเป็นฝีมือของพวกเขาต่อให้ทหารเหล่านั้นฟื้นขึ้นมาก็ไม่มีทางเชื่อมโยงเรื่องนี้ไปถึงพวกเขาเจี่ยนอันอันไม่สนใจว่าจะเกิดความโกลาหลขึ้นภายในเมืองจิงโจวหรือไม่ อย่างไรเสีย พวกนางก็เป็นคนที่ตายไปแล้วสำหรับฉู่ชางเหยียนคิดว่าฉู่ชางเหยียนก็คงคิดไม่ถึงเด็ดขาดว่า คนที่ลักลอบเปิดประตูเมืองหนีออกไปจะเป็นพวกนางเจี่ยนอันอันสวมแว่นตาล่องหนกับหูฟัง แอบสอดส่องทุกอย่างในวังหลวงนางดูตำหนักหลงเหอก่อนเป็นอันดับแรก เห็นว่าฉู่ชางเหยียนไม่ได้กลับไปพักผ่อนคิดว่าคงกำลังตรวจฎีกาอยู่ในห้องทรงพระอักษรกระมังเจี่ยนอันอันจึงดูในห้องทรงพระอักษรแล้วก็เห็นฉู่ชางเหยียนอยู่ที่นั่นดังคาดแต่ว่าคราวนี้ เจี่ยนกั๋วกงก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกันเจี่ยนอันอันนึกถึงฉากที่นางสบตากับเจี่ยนกั๋วกงขณะรถม้าวิ่งผ่านหน้าจวนกั๋วกงตอนแรกนางยังนึกสงสัย กลางดึกกลางดื่นแบบนี้เจี่ยนกั๋วกงไม่นอนหลับพักผ่อน นั่งรถม้าออกไปทำอะไร?ตอนนี้ในที่สุดนางก็เข้าใจเสียที เจี่ยนกั๋วกงเข้าวังไปหารือกับฉู่ชางเหยียนนี่เองในไม่ช้า คำพูดของเจี่ยนกั๋วกงก็ถ่ายทอดมาถึงหูเจี่ยนอันอันผ่านหูฟัง“ฝ่าบาท คลังสมบัติในบ้าน
Magbasa pa

บทที่ 736

เมื่อได้ประจักษ์ถึงวิชาแพทย์ของเจี่ยนอันอัน เหล่าชาวบ้านล้วนนับถือนางประหนึ่งหมอเทวดาก็มิปานแต่พวกเขาล้วนไม่รู้ชื่อจริงของเจี่ยนอันอัน รู้เพียงนางมีรูปโฉมงดงาม และข้างกายยังมีหนุ่มรูปงามผู้หนึ่งคอยติดตามอยู่ชาวบ้านต่างพากันสืบข่าวอยู่หลายวัน ก็ยังไม่รู้ว่านางมาจากแห่งหนตำบลใดพวกเขาต่างก็รู้ว่า เมืองอินเป่ยไม่ใช่ที่ๆ ผู้ใดจะเข้าออกได้ตามอำเภอใจเจี่ยนอันอันก็ไม่อาจออกไปได้เช่นกันขอเพียงพวกเขาตั้งใจเสาะหา สักวันต้องพบเจอนางได้แน่......ถังหมิงเซวียนรอมาถึงสามสี่วัน จนคิดว่าเหยียนซวงน่าจะตัดเย็บเสื้อเสร็จสิ้นแล้วถึงเวลาที่เขาควรไปหมู่บ้านชิงสุ่ยเยี่ยมเยียนเหยียนซวงสักหน่อย และหากได้พบเจี่ยนอันอันที่นั่นด้วย ก็จะได้โอ้อวดต่อนางเล็กน้อยเพราะบัดนี้เขาไม่ต้องพึ่งพาเจี่ยนอันอันสืบหาเบาะแสของเหยียนซวงแล้ว เขารู้แล้วว่านางพักอยู่ที่ใดวันนี้ในยามเช้า ถังหมิงเซวียนจึงควบม้ามาถึงหมู่บ้านชิงสุ่ยแต่กลับไม่เห็นแม้แต่เงาของเจี่ยนอันอันซึ่งเขาก็หาได้ใส่ใจไม่ เพราะคิดว่าเจี่ยนอันอันคงมีธุระอื่นกระมังและเป้าหมายเขามีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ก็คือตามไปถึงบ้านเหยียนซวง เพื่อรับเสื้อผ้
Magbasa pa

บทที่ 737

เดิมถังหมิงเซวียนก็เป็นคนรูปงามอยู่แล้ว ยิ่งมาสวมใส่เสื้อชุดใหม่นี้ ก็ยิ่งเสริมความเป็นผู้ดีมีตระกูลให้เขามากขึ้น“แม่นางเหยียน ฝีมือเจ้าไม่เลวจริงๆ เสื้อผ้าชุดนี้ข้าใส่แล้วพอดีกับตัวมาก”ถังหมิงเซวียนกล่าวชมจากใจจริงเมื่อครู่อยู่ในห้อง เขาได้มองผ่านคันฉ่อง ว่าตนใส่ชุดนี้แล้วผลจะเป็นอย่างไรพูดแล้วจะหาว่าชมกันเอง ฝีมือว่าที่ภรรยาของเขาช่างยอดเยี่ยมนักเหยียนซวงก็พอใจฝีมือตนเองเช่นกัน นางจึงยิ้มให้ถังหมิงเซวียน“คุณชายถังใส่พอดีก็ย่อมจะดีมาก ข้าจะได้ไม่ต้องแก้ไขใหม่”ทั้งคู่ถามไถ่ทุกข์สุขตามมารยาทเล็กน้อย ในที่สุดถังหมิงเซวียนยังคงอดใจไม่ไหว ซักถามในสิ่งที่กังขาอยู่“แม่นางเหยียน ข้ามีเรื่องจะถามเจ้า เห็นคุณชายเหยียนบอกว่า เมื่อครู่เจ้าไปส่งเสื้อให้พี่เสิ่น”“พี่เสิ่นท่านนี้คือผู้ใด และเขาเป็นอะไรกับเจ้า?”ถังหมิงเซวียนจ้องมองเหยียนซวงด้วยแววตาเป็นประกาย และหาได้ตระหนักไม่ว่า คำถามของตนมีความละลาบละล้วงเพียงใดทันใดนั้นเหยียนซวงก็มีใบหน้าเย็นชา“คุณชายถัง เรื่องที่ไม่ควรรู้โปรดอย่าได้ซักถามมากนัก ในเมื่อได้เสื้อผ้าแล้ว ก็เชิญท่านกลับไปเถิด”ถังหมิงเซวียนไม่คาดคิดว่า เหยียน
Magbasa pa

บทที่ 738

ต่อมานางถูกอารองจับขายให้แก่ชายชราวัยห้าสิบกว่าผู้หนึ่งจึงยิ่งไม่มีแก่ใจไปตามหาหมอเทวดาถังอีกได้แต่พาเหยียนอวี่ซึ่งยังป่วยอยู่ หลบหนีมาอยู่เมืองอินเป่ยโดยไม่คาดคิดว่า แม้จะอยู่ในเมืองที่ถูกปิดกั้นแห่งนี้ ก็ยังได้มาพบหมอเทวดาถังตัวจริงเข้าเหยียนซวงรู้สึกตื้นตันใจยิ่ง พร้อมลบล้างความรู้สึกไม่พอใจเมื่อครู่นี้ไปหมดสิ้น“ท่านหมอถังคงยังไม่ได้กินอาหารเช้า ถ้าอย่างไรอยู่กินก่อนแล้วค่อยไปเถิด”เหยียนซวงกล่าวพลางรีบวิ่งไปยังห้องครัวเพื่อทำอาหารเมื่อเช้านี้นางยังไม่ทันได้ทำอาหาร ก็คิดว่าจะนำเสื้อตัวใหม่ที่เพิ่งตัดเย็บเสร็จไปมอบให้แก่คุณชายใหญ่แห่งตระกูลเสิ่นก่อนหน้านี้เสิ่นจือเจิ้งคิดจะไปอำเภอไถหยางซื้อเสื้อชุดใหม่มาสับเปลี่ยนแต่ได้ยินเซียงเสวี่ยกล่าวว่า แม่นางเหยียนซวงที่อยู่ข้างบ้านมีฝีมือในการตัดเย็บเสื้อผ้าเก่งนักถ้าให้ดีไปจ้างนางตัดชุดใหม่ ดีกว่าไปซื้อที่อำเภอไถหยางซึ่งอยู่ห่างไกลเสิ่นจือเจิ้งไม่คัดค้าน จึงให้เซียงเสวี่ยไปพาเหยียนซวงมาพบ เพื่อให้นางวัดตัวตัดชุดใหม่ให้เขาและเสิ่นจืออวี้ด้วยเมื่อคืนหลังจากเหยียนซวงตัดเสื้อสองตัวเรียบร้อย รุ่งขึ้นจึงรีบนำไปส่งทันทีโดยไม
Magbasa pa

บทที่ 739

ครั้นเมื่อเห็นถังหมิงเซวียนจ้องมองนางเขม็ง จึงได้แต่กล่าวตอบ “อันอันเดินทางไกล อีกนานกว่าจะกลับมา”ถังหมิงเซวียนไม่รู้คำว่าเดินทางไกลคือหมายถึงไปที่ใด ตามหลักหากเพียงแค่เข้าเมือง ก็ไม่นับว่าเดินทางไกลมากนักเว้นเสียแต่เจี่ยนอันอันออกจากเมืองอินเป่ย แต่กลับไปที่อื่นมากกว่าแต่พอเขามาอยู่เมืองอินเป่ยจึงได้รู้ ว่าประตูเมืองถูกปิดแน่น ผู้ใดก็ห้ามเข้าออกเป็นอันขาดแล้วเจี่ยนอันอันจะออกจากเมืองอินเป่ยได้อย่างเปิดเผย ไปอยู่ที่อื่นได้อย่างไร?แต่เมื่อเห็นเหยียนซวงไม่ยอมพูดความจริง เขาจึงไม่กล้าถามมากความอีกเหตุเพราะเมื่อครู่เขาเองก็ใจร้อนเกินไป ถามในสิ่งที่ไม่ควรถาม จึงทำให้เหยียนซวงไม่พอใจนักถ้ายังไปซักไซ้ไล่เลียงจนทำให้นางโกรธอีก เห็นทีอาหารมื้อนี้เขาคงไม่ต้องกินอีกแล้วไม่นานทั้งสามคนก็กินข้าวจนอิ่ม เหยียนซวงลุกไปล้างชาม ยังได้ยินถังหมิงเซวียนกับเหยี่ยนอวี่พูดคุยอยู่ลานบ้านถังหมิงเซวียนถามเขา “โรคของเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ตอนนี้ดีขึ้นหรือยัง?”เหยียนอวี่ไม่เข้าใจว่าเหตุใดถังหมิงเซวียนจึงได้ถามเรื่องนี้ขึ้นมา แต่ยังคงตอบตามตรง “โรคของข้าได้รับการรักษาจากแม่นางเจี่ยนจนหายดีแล้ว”“เ
Magbasa pa

บทที่ 740

แม้ว่าถังหมิงเซวียนและคู่หมั้นนางต่างมาจากแคว้นหนิงชวนเช่นกัน แต่ก็มิได้แปลว่าทั้งคู่จะเป็นคนคนเดียวกันเหยียนซวงแอบนึกดีใจเสียด้วยซ้ำ เคราะห์ดีที่คู่หมั้นนางไม่ใช่ถังหมิงเซวียน หาไม่แล้วด้วยชาติกำเนิดของนาง คงไม่คู่ควรกับถังหมิงเซวียนเป็นแน่แท้ถังหมิงเซวียนไม่เพียงเป็นหมอเทวดาเลื่องชื่อแห่งแคว้นหนิงชวน เมื่อครู่จากการเอ่ยปากของเขา ยังได้กล่าวถึงคนในครอบครัวอีกต่างหากเขามีบิดาเป็นขุนนางในวัง ส่วนมารดาก็เป็นธิดาของพ่อค้าใหญ่ในแคว้นหนิงชวนมีปูมหลังที่ยิ่งใหญ่ถึงเพียงนี้ ส่วนตัวเขาเองก็เป็นหมอเทวดาอันเลื่องชื่อครั้นหันมามองดูนางบ้าง กำพร้าทั้งบิดามารดา ไปใช้ชีวิตอยู่กับอารองและอาสะใภ้อารองมิได้เมตตาต่อนางและเหยียนอวี่แม้แต่น้อย ซ้ำยังเห็นแก่เงินเพียงห้าสิบตำลึงจนยอมขายนางทิ้งไปเมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว นางกับเขาย่อมเหมือนอยู่กันคนละโลกโดยแท้หากไม่เพราะนางหนีแต่งงานจนมาถึงเมืองอินเป่ย คงไม่ได้รู้จักกับครอบครัวเสิ่นจือเจิ้งและเจี่ยนอันอันและยิ่งไม่ได้พบหมอเทวดาเช่นถังหมิงเซวียนหลายวันนี้ความใส่ใจของเหยียนซวงล้วนไปอยู่ที่เสิ่นจือเจิ้งเพียงผู้เดียว แต่อีกฝ่ายกลับเย็นชาต่อนาง ห
Magbasa pa
PREV
1
...
727374757677
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status