All Chapters of สตรีขี่ม้าออกศึก: Chapter 1561 - Chapter 1570

1590 Chapters

บทที่ 1561

กล้ามเนื้อทั่วร่างของฮองเฮาเกร็งตึง เหงื่อไหลชุ่มนางมองผ้าขาวที่กำลังจะคล้องคอลงมา พลางตะโกนอย่างลนลาน “ไม่... ยังไม่สาย! ฝ่าบาททรงรักองค์ชายใหญ่ จะปล่อยให้เขาไร้มารดาได้อย่างไร? ข้าต้องไปดูแลเขาด้วยตัวเอง! พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์แย่งสิทธิ์ของข้าในฐานะมารดา!”“อีกอย่าง ซ่งซีซีเคยกล่าวไว้ นางว่าองค์ชายใหญ่รักข้ามาก เป็นเขาพูดด้วยปากของเขาเอง! ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส โดดเดี่ยวไร้คนดูแล จะปล่อยให้เขาไปสำนักเทพโอสถเพียงลำพังได้อย่างไร? ข้าต้องอยู่ข้างเขา... ข้าต้องไปอยู่กับเขา!”ผ้าขาวคล้องคอเข้าพอดี ฮองเฮากรีดร้องเสียงแหลม “ฝ่าบาท! ฝ่าบาท พระองค์จะใจร้ายปานนี้ไม่ได้! หม่อมฉันผิดอะไร? พระสนมเต๋อเฟยวางแผนฆ่าองค์ชายใหญ่ยังไม่ถูกประหาร แต่พระองค์กลับจะฆ่าหม่อมฉัน! หม่อมฉันก็แค่เอาแต่ใจ ไม่เคยฆ่าใครสักคน!”อู๋ต้าปั้นหยุดมือลง คำบางคำ เขาไม่ควรพูด แต่เมื่อนึกถึงองค์ชายใหญ่ที่บาดเจ็บสาหัส เขาก็อดไม่ได้ เอ่ยเสียงเย็นชา “ฮองเฮาจะบอกว่าตนไม่เคยทำร้ายใครหรือ? เรื่องของฝูเจาอี๋ กระหม่อมจะยังไม่พูดถึง แต่กับองค์ชายใหญ่ที่ตกม้าเช่นนั้น ฮองเฮาก็มีส่วนไม่น้อยเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”ฉีฮองเฮาเบิกตากว้าง มือกำผ้าขาวแน
Read more

บทที่ 1562

สุดท้าย พระสนมเต๋อเฟยก็ทนไม่ไหว... นางจากไปแล้วตั้งแต่ที่รู้ว่าองค์ชายรองกลายเป็นคนปัญญาอ่อน และถูกส่งไปอยู่วัดใช้ชีวิตที่เหลือ นางก็ดูเหมือนจะหมดแรงใจความเจ็บปวดเหมือนหนามที่ฝังแน่นในกระดูก ทรมานนางทุกลมหายใจ กระทั่งคืนหนึ่งที่เหน็บหนาว นางก็จากไปอย่างเงียบงันไทเฮาออกคำสั่งด้วยตนเอง จัดการส่งข้ารับใช้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดออกจากวัง ส่วนจัดการอย่างไร ซ่งซีซีและผู้อื่นก็ไม่มีใครล่วงรู้ได้ในวังหลัง... ชั่วพริบตาเดียว ฮองเฮากับสองพระสนมผู้มีอำนาจต่างสิ้นชีพ ไทเฮาเองก็สุขภาพไม่ดี จึงให้พระสนมกงเฟยรับหน้าที่ดูแลวังหลังชั่วคราวจักรพรรดิ์ซูชิงไม่คิดจะตั้งฮองเฮาขึ้นใหม่อีก วังหลังเรียบง่ายหน่อย ย่อมลดปัญหาตามมาได้แต่พระสนมกงเฟยกลับไร้ความสามารถ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นแทบทุกสามวัน สองวัน แค่เรื่องจัดสรรเบี้ยหวัดค่าอาหารเครื่องนุ่งห่มของพระสนมฝ่ายใน รวมถึงเงินเดือนของข้าราชบริพารในวัง ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายกันทั้งตำหนักนางต้องการชื่อเสียงว่าเป็นหญิงผู้รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ ลดค่าใช้จ่ายในวัง จึงลดเงินเดือน ลดเครื่องแต่งกายฤดูใบไม้ผลิของฝ่ายใน ให้ตัดเพียงชุดเดียว ประหยัดเงินไปได้ไม
Read more

บทที่ 1563

ทันทีที่ซ่งซีซีเห็นยาทำหมัน นางก็รู้สึกตระหนกในใจ เอ่ยเสียงเบา “ฝ่าบาททรงระแวงเจ้าอีกแล้วหรือ?”เซี่ยหลูโม่ส่ายหน้า “ตอนนี้ไม่ระแวงแล้ว กลับกัน พระองค์ทรงไว้เนื้อเชื่อใจอย่างมาก บรรดาราชฎีกาส่วนใหญ่ก็ต้องผ่านมือข้ากับท่านเจ้ากรมก่อนถึงโต๊ะทรงพระอักษรของพระองค์เสียอีก”“เช่นนั้นแล้วไยต้องคิดถึงเรื่องนี้?” ซ่งซีซีไม่เข้าใจ“พิจารณาอยู่สามข้อ” เซี่ยหลูโม่วางยาเม็ดนั้นลงเบาๆ แล้วจับมือนางไว้แน่น “ข้อแรก ฝ่าบาทที่ไว้ใจข้าในยามนี้ ก็เพราะเพิ่งผ่านเรื่องราวมากมายมา อีกทั้งพระอาการก็ทรงทรงตัว จึงปลอดโปร่งจากความระแวง แต่หากวันใดพระอาการทรุด ข้ากลับมีอำนาจล้นมือ แล้วยังมีบุตรชายอีก... เช่นนั้น ข้าจะกลายเป็นภัยคุกคามในสายพระเนตรแน่นอน”ซ่งซีซีพยักหน้าเข้าใจ “เช่นนั้นเราก็รอสักสองสามปีก็ได้ไม่ใช่หรือ? เดิมทีท่านก็เคยกินยาครั้งหนึ่ง มันควบคุมได้ถึงห้าปีมิใช่หรือ? ตอนนี้ก็ครบห้าปีแล้ว กินอีกเม็ดก็อยู่ได้อีกห้าปีมิใช่หรือ?”เซี่ยหลูโม่กำมือแน่นขึ้น “ยานี่ก็คือเม็ดที่สอง ครั้งแรกกินแล้วคุมได้ห้าปี แต่ครั้งที่สอง... จะเป็นหมันถาวร ชิงเชวี่ยบอกว่า หากข้าไม่กิน... เจ้าต้องดื่มยาคุมกำเนิด ยานั้นทำร้
Read more

บทที่ 1564

ฝนฤดูใบไม้ผลิชุ่มฉ่ำดั่งน้ำมัน แม้เป็นฝนเดือนสี่ ก็ไม่ถือว่ามาสายจักรพรรดิ์ซูชิงยืนอยู่ที่หน้ามุขนอกห้องทรงพระอักษร ทอดพระเนตรโคมลมพลิ้วไหวท่ามกลางสายฝนยามราตรี สิ่งที่ทอดพระเนตรดูประหนึ่งความฝัน ประหนึ่งความจริง เงาร่างของเซี่ยหลูโม่เลือนหายไปในสายฝนเนิ่นนานแล้ว มองก็ไม่เห็นอีกต่อไป พระทัยของพระองค์เต็มไปด้วยความขมขื่น ระลึกถึงภาพที่เขากลืนโอสถนั้นลงไปอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ มิได้มีแม้แต่เสี้ยววินาทีของความลังเล ขณะเดียวกันที่พระองค์รู้สึกวางพระทัย ก็กลับเจ็บปวด เป็นพระองค์เองที่บีบบังคับพระอนุชาให้ถึงจุดนี้ ทั้งเขาและภรรยาก็ยังหนุ่มสาวนัก ไม่จำเป็นต้องมีอนุ ก็สามารถให้กำเนิดบุตรชายหญิงได้สามถึงห้าคน แต่เมื่อกินโอสถนั้นลงไปแล้ว สายโลหิตของเขาก็ขาดสะบั้น แม้จะสามารถรับบุตรบุญธรรม แต่ถึงอย่างไรก็หาใช่สายเลือดของตนเอง จะไม่ให้นับเป็นความอาลัยได้อย่างไร? ในฐานะพี่ชาย พระองค์รู้สึกเสียดายและเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ในฐานะฮ่องเต้ พระองค์ก็สามารถวางพระทัยได้อย่างแท้จริง ความรู้สึกขัดแย้งนี้ ทำให้พระองค์ทอดถอนพระทัยเบาๆ ตรัสว่า “ในใต้หล้า จะมีหนทางใดเล่าที่สมบูรณ์
Read more

บทที่ 1565

วันที่สองเดือนสอง มังกรเงยหัวขึ้น หมอมหัศจรรย์ดันกลับมาจากสำนักเทพโอสถแล้ว เดินทางเหน็ดเหนื่อยฝ่าลมฝุ่นมาตลอดทาง พอเข้าเมืองหลวงได้ก็รีบเข้าวังทันที ยังมิได้กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเสียด้วยซ้ำ ขณะนั้นจักรพรรดิ์ซูชิงกำลังทรงหารือราชกิจในห้องทรงพระอักษร เมื่อทรงได้ยินว่าหมอมหัศจรรย์ดันมาขอเข้าเฝ้า ก็ทรงให้ขุนนางออกไปทั้งหมด เหลือเพียงเซี่ยหลูโม่ แล้วเชิญหมอมหัศจรรย์ดันเข้าตำหนัก หมอมหัศจรรย์ดันออกจากเมืองหลวงไปหนึ่งปีกับหนึ่งเดือนแล้ว รูปกายดูแก่ลงมาก ผมข้างหูขาวโพลน จักรพรรดิ์ซูชิงเสด็จลงมาประคองเขาที่ยังมิทันได้คำนับ การรอคอยตลอดหนึ่งปีนี้ บัดนี้ใกล้ได้รับคำตอบแล้ว แต่พระองค์กลับทรงรู้สึกหวั่นเกรงขึ้นมา “วางใจเถิด” หมอมหัศจรรย์ดันกล่าวคำสองคำก่อนเป็นอันดับแรก ทำให้พระทัยของจักรพรรดิ์ซูชิงกับเซี่ยหลูโม่ที่แขวนอยู่ค่อยๆ วางลง เมื่อเชิญหมอมหัศจรรย์ดันนั่งเรียบร้อยแล้ว เขาก็ทอดถอนใจแล้วกล่าวว่า “เดิมทีเคยเขียนจดหมายมาบอกว่าอาการทรงตัว ไร้ภัยถึงชีวิต แต่ยังไม่ทันได้ส่งจดหมายนานก็เกิดอาการป่วยไอเป็นเลือดขึ้นมา โรครุนแรงฉับพลัน ข้าคิดว่าเขาคงทนไม่ไหวเสียแล้ว คนแทบจะสิ้นใจไปแ
Read more

บทที่ 1566

ปลายฤดูใบไม้ร่วงเดือนสิบ เป็นฤกษ์มงคลแต่งงานของหวังเยว่จางกับเสิ่นว่านจือ แท้จริงแล้วเมื่อปีที่แล้วในคืนเทศกาลกลางฤดูใบไม้ร่วง เสิ่นว่านจือก็ตอบรับคำขอแต่งงานของหวังเยว่จางแล้ว ตลอดเส้นทางที่เคียงข้างกันมานี้ นางรู้สึกว่าเขาเป็นคนที่คู่ควรให้นางมอบหัวใจให้โดยแท้จริง ตอนที่นางตอบตกลง นางก็ตั้งใจจริงอย่างที่สุดว่าจะแต่งงาน จึงให้อารมณ์ในห้วงขณะนั้นเป็นผู้ตัดสิน ผ่านมาหนึ่งปีเต็มกว่าจะจัดพิธีแต่งงานได้ มิใช่เพราะต้องเตรียมของหมั้นหรือของสินเดิมมากมายอย่างไรเสีย ของเวืยเดืใของเสิ่นว่านจือ ทางตระกูลเสิ่นก็เริ่มจัดเตรียมตั้งแต่ปีที่นางถือกำเนิด ทุกปีก็เติมเพิ่มเข้าไป บัดนี้ถึงกับซื้อบ้านและเรือนสวนในเมืองหลวงไว้ให้แล้ว ส่วนของหมั้น ทางภูเขาเหม่ยชานก็เตรียมไว้ตั้งนานแล้ว ที่เรื่องแต่งงานล่าช้าออกมาจนถึงตอนนี้ เป็นเพราะความเห็นไม่ลงรอยกัน ทั้งตระกูลเสิ่น สถาบันชื่อเยียน สถาบันว่านซงเหมิน รวมทั้งตัวเสิ่นว่านจือเอง ต่างก็มีความเห็นไม่ตรงกัน เสิ่นว่านจืออยากออกเรือนจากจวนอ๋อง แล้วให้หวังเยว่จางมารับตนกลับไปที่บ้านเรือนของเขา วิธีนี้สะดวกยิ่ง ไม่ต้องเดินทางไกลกลับไปถึงเจียงหนาน
Read more

บทที่ 1567

ซ่งซีซีคิดว่าวันนี้ยังมีเวลาได้พูดคุยกับเสิ่นว่านจืออย่างเต็มที่ แต่กลับลืมเสียสนิทว่าวันแต่งงานนั้น มีเรื่องจุกจิกมากมายเพียงใด สาวช่างแต่งเจ้าสาวที่เชิญมาโดยเฉพาะได้มาถึงแล้ว ลงมือแต่งหน้า จัดแต่งผมให้ นับได้เพียงชั่วยามเดียวก็ผ่านไปแล้ว เสิ่นว่านจือหน้าตางดงามสดใสอยู่แล้ว ยิ่งอยู่ใต้ฝีมือของช่างที่เชี่ยวชาญ ก็ยิ่งงามจนบุปผายังอาย กลางวันทานเพียงอาหารง่ายๆ พอเสร็จแล้ว แขกผู้ร่วมส่งตัวเจ้าสาวก็ค่อยๆ ทยอยกันมาถึง เดิมทีภรรยาของพี่ชายคนโตของฝ่ายเจ้าบ่าวคือสตรีสกุลจี ไม่ควรจะมาที่นี่ แต่จีซูเซิ่นกลับยืนกรานจะมา นางบอกว่า นางก็เป็นคนฝ่ายเจ้าบ่าว และก็เป็นฝ่ายเจ้าสาวด้วย ไม่ขัดแย้งกันสักหน่อย อย่างไรก็เป็นวันมงคล จะอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น ขอแค่ทุกคนมีความสุขก็พอแล้ว ตอนที่สวมชุดเจ้าสาว เสิ่นว่านจือกลับรู้สึกประหม่าอย่างไร้สาเหตุ นางจะแต่งงานจริงๆ แล้วหรือ? แต่งงานหมายถึงต้องดูแลบ้าน มีลูก ไม่อาจใช้ชีวิตอิสระเสรีได้เหมือนเดิมอีกต่อไป เป่าจูยังเคยพูดว่าแต่งงาน แต่ตอนนี้นางก็ยังไม่แต่งเลยนี่นา นางหันขวับไปมองเป่าจู “ทำไมเจ้าถึงไม่แต่งงานกันล่ะ” เป่าจูถึงกับอึ้
Read more

บทที่ 1568

หัวหน้าตระกูลเสิ่นรอจนเสิ่นว่านจือคำนับครบสามครั้ง ถึงได้กลั้นสะอื้นเอาไว้ได้ “ลุกขึ้นเถิด เจ้าเด็กไร้หัวใจ” เสิ่นว่านจือค่อยๆ ลุกขึ้น ดวงตาเอ่อล้นไปด้วยหยาดน้ำใส นางเงยหน้าขึ้น บีบไล่น้ำตากลับคืน ในชั่วขณะนั้นจู่ๆ นางก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา เสียใจที่ตัวเองดื้อดึงเกินไป ไม่ยอมให้ญาติพี่น้องมาร่วมงาน ดันเลือกความสะดวกสบาย อยากจัดงานแต่งที่เมืองหลวง “ท่านพ่อ วันนี้เมื่อจัดงานมงคลเสร็จแล้ว พวกเราจะติดตามท่านกลับบ้าน ไปจัดงานเลี้ยงที่บ้านอีกครั้ง รอจัดงานที่บ้านเสร็จแล้ว ค่อยกลับไปจัดอีกครั้งที่สำนัก ดีหรือไม่เจ้าคะ?” หัวหน้าตระกูลเสิ่นย่อมรู้สึกยินดีเป็นธรรมดา เพียงแต่ก็อดสงสารลูกสาวที่จะต้องเดินทางไปมาลำบากไม่ได้ “เจ้าเคยพูดมิใช่หรือว่า เจียงหนานไม่มีสหาย ไม่อยากกลับไปจัดงานที่นั่น?” “ลูกไม่มีมากก็จริง แต่ท่านพ่อมี ท่านปู่ก็มี ลูกจะเห็นแก่ตัวเพียงลำพังไม่ได้ ทำให้ท่านต้องเสียหน้าไม่ได้หรอกเจ้าค่ะ” หัวหน้าตระกูลเสิ่นมองลูกสาวอย่างทั้งปลื้มใจและปวดร้าวในใจ พูดด้วยเสียงแผ่วเบาว่า “ลูกสาวที่รู้ความถึงเพียงนี้ วันนี้จะต้องออกเรือน เป็นสะใภ้บ้านอื่นเสียแล้ว” เสิ่นว่านจือเดินเข้า
Read more

บทที่ 1569

วันแรกที่หิมะแรกโปรยปรายลงมา จักรพรรดิ์ซูชิงพลันเกิดความคิดประหลาดขึ้นมา ทรงมิได้เสด็จออกว่าราชการมานาน แต่กลับเสด็จประทับบนบัลลังก์มังกร ทรงประกาศว่าจะเสด็จออกตรวจตราด้วยพระองค์เอง เพื่อทอดพระเนตรแผ่นดินแคว้นซางอันงดงาม ส่วนราชกิจนั้นเดิมทีเนี่ยเจิ้งหวางเป็นผู้ดูแลอยู่แล้ว บัดนี้ก็ให้เขารับผิดชอบต่อไป จักรพรรดิ์ซูชิงทรงมีพระพักตร์อิดโรย ผอมซูบ ขุนนางทั้งหลายพากันทูลทัดว่าไม่ควรเสด็จไป แต่พระองค์ทรงตั้งพระทัยไว้แล้ว จึงให้ซ่งซีซีกับชี่กุ้ยคุมคนติดตาม พร้อมพาหมอมหัศจรรย์ดันและหมอหลวงจินร่วมทางด้วย แล้วในวันถัดจากที่ประกาศ ก็ออกเดินทางทันที การเสด็จออกตรวจครั้งนี้ของจักรพรรดิ์ซูชิง มิใช่การตัดสินใจชั่ววูบ แต่ได้ปรึกษาเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมานานแล้ว แม้หมอมหัศจรรย์ดันจะไม่เห็นด้วย แต่เมื่อพระองค์ยืนกรานจะไป เขาก็ทำได้เพียงติดตามร่วมเดินทาง แผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ จักรพรรดิ์ซูชิงย่อมอยากทอดพระเนตรอีกสักครั้ง แต่จุดหมายที่แท้จริงของพระองค์คือ สำนักเทพโอสถพระองค์ต้องการพบลูกชายเป็นครั้งสุดท้าย หมอมหัศจรรย์ดันก็เคยบอกกับเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีไว้เป็นการส่วนตัวแล้ว ว่าการเสด็จไป
Read more

บทที่ 1570

ก่อนจักรพรรดิ์ซูชิงจะเสด็จออกจากเมืองหลวง เซี่ยหลูโม่ก็ดำรงตำแหน่งเนี่ยเจิ้งอ๋อง และรับหน้าที่ว่าราชการแทนพระองค์แล้วเขามีผลงานการศึกอันเกรียงไกร ขุนนางทั้งราชสำนักเดิมทีก็มิได้มีผู้ใดไม่ยอมรับฟังคำสั่งเขา ตรงกันข้ามยังเคารพนับถือเขาไม่น้อยแต่บัดนี้ฮ่องเต้แม้ประชวรกลับปลอมกายออกจากวัง ร่ำลือในราชสำนักกลับเริ่มกล่าวถึงเนี่ยเจิ้งอ๋องด้วยความระแวงที่ระแวงเขา ก็เพียงเพราะหวั่นเกรงว่าองค์รัชทายาทยังเยาว์วัย เนี่ยเจิ้งอ๋องจะฉวยโอกาสข่มเหงและคิดชิงราชบัลลังก์ในภายภาคหน้าแต่เดิม เรื่องทำนองนี้ ล้วนเป็นเรื่องที่คนพูดมากเข้าก็กลายเป็นความจริง คำพูดของคนมากมายมีพลังยิ่งกว่าทองคำ ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้คนไม่น้อยที่มิได้ให้ความเคารพเซี่ยหลูโม่ดั่งเดิม ต่อราชโองการของเขาก็รับเพียงเปลือกนอก หาได้ทำตามจริงไม่ กระทำการลวกๆ เพียงขอไปทีหลี่เต๋อฮวยเห็นบรรดาขุนนางบางคนมีพฤติการณ์เยี่ยงนี้ ก็กระวนกระวายใจนัก จึงไปพบกับเจ้ากรมอาญาหลี่ลี่เป็นอันดับแรก เพราะหลี่ลี่คือท่านตาขององค์รัชทายาท เป็นบิดาของพระสนมซูเฟยผู้ล่วงลับ ยามนี้เมื่อเกิดข่าวลือว่าร้ายต่อเนี่ยเจิ้งอ๋อง หลี่ลี่ควรจะออกหน้าแก้ต่างให้เนี่ยเจิ
Read more
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status