บททั้งหมดของ ยอดหญิงแกร่งของเฟิงอ๋อง: บทที่ 661 - บทที่ 670

946

บทที่ 661

จั๋วซือหรานออกจากเรือนเฟิงเหยียน ตรงไปทางทิศโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิงเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ดูแล้วน่าเกรงขามมาก ทั้งๆ ที่อยู่ในจวนตระกูลเฟิง ด้านนอกของสิ่งปลูกสร้างนี้ ยังมีกำแพงล้อมเอาไว้อีกไม่ถือเป็นกำแพงที่สูงนัก รู้สึกเหมือนไม่มีประโยชน์ในการป้องกันอะไรเลย แค่มีวิชาหน่อยก็กระโจนข้ามไปได้แล้วและเพราะไม่รู้ว่าความหมายของกำแพงชั้นนอกของโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษนี้คืออะไร หรือแค่เพื่อทำให้การออกแบบสิ่งปลูกสร้างเสร็จสมบูรณ์? เพื่อให้มันดูสวยงามหรือ?จั๋วซือหรานเห็นสิ่งปลูกสร้างน่าเกรงขามในวงล้อมกำแพงท่ามกลางราตรีนั่นแต่ไกล แทบจะในพริบตาก็รู้สึกว่ากำแพงล้อมวงนี้น่าขันเสียเหลือเกิน “กำแพงล้อมนี้...ล้อมไว้อย่างโดดเดี่ยวจริงๆ”และตอนที่นางเดินเข้าไปใกล้สิ่งปลูกสร้างโถงศักดิ์สิทิ์บรรพบุรุษมากขึ้นเรื่อยๆ จั๋วซือหรานก็รู้สึกว่า...นิ้วมือก็เริ่มเจ็บปวดจากการถูกลวก“ซี๊ด...” จั๋วซือหรานขมวดคิ้วมองนิ้วของตนเอง และเห็นว่าแหวนเสวียนเหยียนบนนิ้วเริ่มเปล่งแสงสีแดงจั๋วซือหรานขมวดคิ้วแน่น แหวนเสวียนเหยียนของนางเป็นของวิเศษที่หาได้ยากยิ่ง ไม่เพียงมีมิติน้ำพุวิเศ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 662

“พวกนี้มัน...อะไรกัน” จั๋วซือหรานกระพริบตาปริบเดิมทีคิดว่านี่เป็นแค่เพราะแรงบันดาลใจชั่วขณะทำให้เห็นสิ่งเหล่านี้ ดังนั้นก่อนหน้าจั๋วซือหรานต่อให้เจ็บปวดอย่างรุนแรง ก็ยังไม่กล้ากระพริบตาจนกระทั่งพลังความการจดจำที่ยอดเยี่ยมของนาง จัดการจดจำรูปแบบหลักๆ ส่วนใหญ่ของอักขระคำสาปนี้ได้...แต่เนื่องจากรายละเอียดที่มากเกินไป จึงไม่สามารถจดจำได้หมดทุกกระเบียดแต่ภาพหลักๆ ส่วนใหญ่ ก็จดจำได้พอสมควรแล้วจั๋วซือหรานตอนนี้จึงกระพริบตาปริบๆ แต่ยังดีที่หลังจากกระพริบตา อักขระคำสาปเหล่านี้ก็ไม่ได้หายไปในระยะสายตาของนางจั๋วซือหรานหลักๆ สามารถยืนยันได้ ว่าอักขระคำสาปเหล่านี้ของโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิง คนอื่นไม่มีทางมองเห็นแน่เกรงว่าต่อให้เป็นคนของตระกูลเฟิงเองก็ยังไม่แน่ว่าจะมองเห็น...จั๋วซือหรานขมวดคิ้ว งึมงำเอ่ยขึ้นว่า “แล้วทำไมข้าถึงมองเห็นล่ะ...”นางก้มหน้าลงมองแหวนเสวียนเหยียนบนนิ้วตนเองพอคิดถึงอาการลวกกับความเจ็บปวดจากการแผดเผาผิดปกติก่อนหน้านี้จั๋วซือหรานก็เม้มปาก เป็นเพราะแหวนเสวียนเหยียนหรือ?ตอนที่เห็นอักขระซับซ้อนเหล่านี้...แม้ว่าจั๋วซือหรานจะไม่เคยค้นคว้าอะไรกับโลกของ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 663

ชายชุดดำสีหน้ามืดมน ตอนที่มองจั๋วซือหราน ในสายตาก็มีความเคียดแค้นสลักเข้ากระดูกดำ ดูแล้วเหมือนอยากจะกัดเคี้ยวเลือดเนื้ออย่างไรอย่างนั้นพอเทียบกับสายตาเกลียดชังเข้ากระดูกดำของเขาแล้ว สีหน้ากับสายตาของจั๋วซือหรานกลับดูนิ่งกว่ามากนางยืนเงียบๆ อยู่ที่เดิม มองอีกฝ่ายเงียบๆ ย้อนถามมาคำหนึ่ง “จ้าแน่ใจว่าข้าเข้ามาติดกับดักด้วยตนเอง แต่ไม่ใช่ว่าเจ้ารนมาหาที่ตาย?”ชายชุดดำร้องเชอะเย็นชา สีหน้ามืดมนแต่เดิมยิ่งดูน่ากลัวขึ้นไปอีก เอ่ยต่อว่า “เจ้าขยับตัวไม่ได้แล้ว ยังจะมาทำเป็นปากแข็ง ข้าว่าเจ้านั่นล่ะที่มาหาที่ตาย!”มือของเขาทาบอยู่บนด้ามกระบี่ข้างเอว บนด้ามกระบี่สลักอักษร “จื๋อ” อยู่ตัวหนึ่ง เขายื่นมือชักกระบี่ยาวออกจากฝัก“วันนี้ข้าจะละเลงเลือดเจ้าที่นี่ เพื่อปลอบประโลมดวงวิญญาณของลูกข้า!” เขาคำรามขึ้นเสียงต่ำจั๋วซือหรานมองเขาอย่างเย็นชา เดิมทีก็พอเดาถึงตัวตนฐานะคนผู้นี้ได้ น่าจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับสี่คนที่ร่างกายติดพิษกู่ร้อยไหมจนตายไปก่อนหน้านั้นตอนนี้ คำพูดของเขา ก็ยืนยันการคาดเดาในใจจั๋วซือหรานออกมาแล้วจั๋วซือหรานมองเขานิ่งๆ เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าพูดผิดแล้ว พวกเขาไม่ได้ตายเพราะข้า แ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 664

ส่วนจั๋วซือหราน กลับขยับนิ้วเพียงเบาๆ เท่านั้น“ไม่มีอะไร” นางเอ่ยขึ้น “ก็แค่...ไม่ใช่ว่าการจะรับมือคนทั้งหมดข้าต้องลงมือด้วยตนเอง”ขณะที่ประโยคนี้ของนางพูดออกมา เฟิงจื๋อก็เห็นว่านางยื่นมือออกมาข้างหนึ่ง นิ้วขาวนวลทั้งห้ากางแบออกเฟิงจื๋อถลึงตาโตมองในฝ่ามือนาง “เจ้า...เจ้า...นี่มัน...!”ในฝ่ามือนางมีแมลงสีขาวนวล กึ่งโปร่งใส ขนาดเท่ากับฝ่ามือตัวจ้ำม่ำตัวหนึ่งอยู่! ยิ่งไปกว่านั้นบนตัวของแมลงยังมีหนวดสัมผัสอีกมากมาย ตอนนี้ดูแล้วอ่อนยวบยวบ ราวกับเป็นขนอ่อนๆ นุ่มฟูอย่างไรอย่างนั้นพังพาบอยู่ในฝ่ามือนาง ดูแล้ว เหมือนเป็นสัตว์ที่ไม่มีอันตรายต่อมนุษย์แต่กลับยังคงทำให้เฟิงจื๋อขนลุกชูชัน เพราะเขารู้ว่าความจริงไม่มีทางเป็นเช่นนี้!สิ่งของที่อยู่ในมือนาง ดูอันตรายกว่าที่มองเห็นร้อยเท่าหมื่นเท่า!เสียงของจั๋วซือหรานยังคงเรียบเฉย “เจ้าไม่ใช่คิดว่าตระกูลเฟิงทั้งสี่คนนั้นที่ติดพิษกู่มานานแล้ว จะยังมีชีวิตรอดต่อไปได้ใช่ไหม? เช่นนั้นเจ้าก็ลองดุเองเลย ว่าติดพิษกู่ร้อยไหมนานๆ แล้วจะยังรอดได้หรือเปล่า”เฟิงจื๋อถ้าหากพูดว่าก่อนหน้านี้ไม่เคยเห็นตัวแม่ของกูพิษร้อยไหม จึงไม่รู้ว่าแมลงกู่ในฝ่ามือของ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 665

เฟิงจื๋อมองออกถึงแสงไฟสีขาววูบนี้ในพริบตา นี่คือไฟวิเศษของเฟิงช่าน...เปลวเพลิงอู๋ซื่อ!นี่มันเปลวเพลิงอู๋ซื่อของลูกชายข้า! ทำไมจึงมาอยู่กับเจ้า!” เฟิงจื๋อเอ่ยขึ้นอย่างตกตะลึงจั๋วซือหรานเอ่ยเสียงเรียบ “ต้องพูดอย่างไรดีล่ะ ตอนนั้นแมลงกู่รวมเข้าด้วยกันกับชีพจรหัวใจเขาแล้ว ทำให้ไฟวิเศษ พลังวิญญาณ แทบะจถูกดูดซับไปจนเกลี้ยงแล้ว ดังนั้น ตอนที่ข้าลอกเอาแมลงกุ่ออกมาจากศพเขา บนตัวแมลงกู่จึงมีไฟวิเศษของเขาอยู่ด้วย...”เสียงของจั๋วซือหรานนิ่งมาก เอ่ยต่อว่า “โอ้ แต่ว่าเจ้าคงไม่เชื่ออยู่แล้วนี่นะ เจ้ารู้สึกแต่ว่าข้าเป็นคนทำให้เขาตาย ไม่ใช่พิษแมลงกู่ที่ทำเขาตาย ช่างมันเถอะ”จั๋วซือหรานมองเฟิงจื๋อ “จั๋วซือหรานอย่างข้าถูกใส่ร้าย ถูกสาดน้ำสกปรกใส่บ่อยจะตายไป ดังนั้นจะเพิ่มเจ้ามาอีกสักคนก็คงไม่ต่างกันเท่าไร”“เจ้า...!” เฟิงจื๋อถลึงตามองนาง“ลูกชายเจ้าตายไปก็คู่ควรให้เห็นใจอยู่” ดวงตาของจั๋วซือหรานเย็นชาลง น้ำเสียงก็ค่อยๆ ไม่เหลือบความอบอุ่นอยู่อีก ถ้าหากบอกว่าเสียงก่อนหน้นี้คือเย็นชาล่ะก็ ตอนนี้เสียงของนางคือเย็นเยียบเลยทีเดียวจั๋วซือหรานมองเฟิงจื๋ออย่างเย็นชา เอ่ยขึ้นด้วยเสียงเย็นเยียบ “จะมาใส่
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 666

ต่อให้เขาอยากจะเก็บกระบี่ของตนเอง ก็ทำไม่ได้แล้วไม่เพียงเท่านี้ ต่อให้เขาอยากจะรีบถอยหนี ก็ทำไม่ได้ด้วยเช่นกันตอนนี้ เป็นเขาที่ขยับไม่ได้แล้วดวงตาของเฟิงจื๋อเบิกกว้าง ในสายตาที่ตกตะลึงของเขา เขามองเห็นสาวงามสดสวยที่อยู่ตรงหน้าของเขาซึ่งไม่ขยับตัวอยู่นานคิ้วของนางเลิกขึ้นเป็นเส้นโค้งบางๆจากนั้น มือของนางก็ค่อยๆ ยกขึ้นบางทีคงเป็นเพราะยังโดนผลกระทบของค่ายกลอยู่ ดังนั้นท่าทางการยกมือจึงค่อนข้างเชื่องช้าไปบ้างแต่ก็เข้าขับเด่นกับชุดแดงของนาง สีหน้าสงบหางตาที่เกียจคร้าน ในท่าทางกลับเผยความสง่างดงามออกมาเป็นเช่นนี้ พอนางยื่นมือ แขนขว้างหนึ่งก็คว้าหมับเข้าที่คางของเฟิงจื๋อส่วนมืออีกข้าง ก็กดลงไปที่ปากของเขาเฟิงจื๋อม่านตาหดลง ดวงตาเบิกกว้าง แต่กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว เรี่ยวแรงที่จะดิ้นรนก็ไม่มีราวกับเป็น...หุ่นเชิดไม้ตัวหนึ่งและประสาทสัมผัสทั้งห้าของเขา ยังคงได้ยิน ยังคงมองเห็นเฟิงจื๋อได้ยินสาวงามตรงหน้าคนนี้ ที่มุมปากมีรอยยิ้มโค้ง เส้นเสียงฟังดูอ่อนนุ่ม ราวกับกำลังปลอบเอาใจอะไรอย่างอย่างอยู่นางเอ่ยขึ้นว่า “รู้แล้วรู้แล้ว เจ้าขนมชาม ไม่ต้องน้อยใจไป ไม่ได้นานขนา
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 667

จั๋วซือหรานถึงแม้จะไม่รู้ว่าโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษตระกูลเฟิงปกติแล้วเป็นแบบไหน แต่วันนี้ดูเงียบสงบอย่างเห็นได้ชัดเป็นไปได้ว่าเฟิงจื๋อกันคนออกไปเพื่อจะล่อนางมาที่นี่ เพื่อคิดจะรับมือกับนาง วางสถานการณ์เช่นนี้เฟิงจื๋อน่าจะรู้สึกว่าสถานการณ์นี้มั่นใจไปได้เก้าส่วนแล้ว ด้านในโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษนี้จึงไม่มีอะไรอยู่เลย...เอาเปรียบจั๋วซือหรานเสียจริงเฟิงจื๋อหลังจากที่ออกไปภายใต้การควบคุมของเจ้าชามขนม ความรู้สึกเชื่องช้าเหมือนจมอยู่ในบึงโคลนบนตัวจั๋วซือหรานก็สลายหายไปอย่างรวดเร็วนางค่อยๆ ยกมือยกเท้าขยับเขยื้อนตัวอยู่ครู่หนึ่งพอยืนยันว่าความรู้สึกเชื่องช้าเหล่านั้นสลายหายไปหมดแล้ว จั๋วซือหรานก็เดินอย่างไม่เร่งรีบ ตรงไปยังโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษแห่งนี้ในโถงศักดิ์สิทธิ์บรรพบุรุษ มีป้ายวิญญาณเรียงอยู่เป็นแถวๆ ด้านหน้าสว่างไสวไปด้วยโคมไฟที่จุดสว่างไว้หลายใบแสงไฟโยกไหว แต่กลับยังคงไม่สว่างอย่างที่ควรเป็นป้ายวิญญาณเป็นแถวๆ ด้านใน ให้ความรู้สึกบีบคั้นอย่างชัดเจนและคิดว่าคนที่ขี้ขลาดหน่อย อยู่ในสถานที่เช่นนี้จิตใจคงจะลนลานไปหมดแต่ว่าจั๋วซือหราน...ไม่ใช่คนเช่นนั้นสองมือขอ
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 668

ตอนที่จั๋วซือหรานพูดประโยคนี้ ไฟเทียนทั่วทั้งโถงศักดิ์สิทธิ์ก็สว่างวาบขึ้นอย่างรวดเร็ว ทั้งที่ไม่มีลม แต่ไฟเทียนกลับโยกไหวราวกับกำลังจะดับมอดลงได้ทุกขณะ!ท่ามกลางเส้นแสงวูบวาบเช่นนี้ บนพื้นที่กว้างขวางของโถงศักดิ์สิทธิ์ สัญลักษณ์สีทึบรูปหนึ่ง กลับยิ่งดูแจ่มชัดขึ้นท่ามกลางเส้นแสงเช่นนี้นั่นเป็น...สัญลักษณ์รูปร่างนกสีแดงทึบ เพียงแต่ขนนกของหางทั้งเก้าเส้น ล้วนเป็นลักษณะเปลวเพลิง...หงส์แดง!จั๋วซือหรานแน่นอนว่าสังเกตเห็นถึงความผิดปกตินี้ ถ้าเป็นคนที่ความกล้าน้อยหน่อย พอเจอกับสถานการณ์เช่นนี้ ในที่ที่มีป้ายวิญญาณมากขนาดนี้ คงได้ตกใจจนเยี่ยวเล็ดไปแล้วแต่จั๋วซือหราน ไม่ใช่คนธรรมดา!นางแค่รู้สึกว่าสถานการณ์ประหลาดนี้มีจุดผิดปกติ แต่ก็ไม่ได้หวาดกลัวลนลานแต่อย่างใด กระทั่งไม่ตึงเครียดเสียด้วยซ้ำนางเลิกคิ้วขึ้น “ดูท่าจะเดาออกแล้ว พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดง...ไม่สิ พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดงถูกท่านอ๋องที่ทั้งหน้าตาดีทั้งน่าสงสารของข้าสืบทอดไปแล้ว แล้วยังทรมานเขาไปไม่น้อย นั่นจะต้องไม่ใช่พลังศักดิ์สิทธิ์หงส์แดง”“สิ่งศักดิ์สิทธิ์ดวงใจแห่งหงส์แดง...น่าจะมีไว้ใช้ควบคุมท่านอ๋องที่ทั้งหน้าตาตีทั
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 669

“แต่จะให้เจ้าได้เปิดหูเปิดตาหน่อยก็ได้”สิ่งของที่เป็นรูดำๆ ชิ้นหนึ่ง ชี้ไปที่ตำแหน่งหัวใจของเฟิงอวี้เฟิงอวี้มองเห็นสิ่งของรูดำ ชิ้นนี้ แม้จะไม่รู้ว่าคืออะไร แต่ก็เหมือนจะเข้าใจขึ้นรางๆตอนนั้นหลังจากที่พวกเฟิงช่านเฟิงจู๋พิษกู่กำเริบขึ้นมา ในถ้ำใต้ดินนั่น...ตอนที่จั๋วซือหรานเข้ามาคลายวงล้อม ใช้อุปกรณ์แปลกประหลาดอย่างหนึ่งที่มีเสียงดังมาก และคลี่คลายทั้งสี่คนนั้นอย่างรวดเร็วเฟิงอวี้รู้สึกขึ้นด้วยสัญชาตญาณ ว่าสิ่งของในมือจั๋วซือหรานนั้นอันตราย “นี่มันอะไร?” เฟิงอวี้ขมวดคิ้วคิดจะชักกระบี่ประจำตระกูลของตนเองออก แต่ว่าตอนนี้เอง กลับไม่สามารถดึงออกมาได้! หญิงสาวคนนี้ไม่ใช่แค่แพทย์หรอกหรือ?!พละกำลังมหาศาล...หลังจากนั้น ก็เห็นนิ้วที่นางถือสิ่งของดำๆ มีรูนี้ขยับปัง!เสียงดังขึ้นมา แต่แตกต่างกับเสียงดังที่เฟิงอวี้เข้าใจอย่างมาก นี่เป็นเสียงที่เบาลงหน่อย ฟังแล้วดูทุ้มๆ ต่ำๆเฟิงอวี้ก้มลงมองหน้าอกตนเองอย่างงงงัน “เจ้า...”เพราะรู้ว่าเจ้าสิ่งนี้อันตราย ดังนั้นเฟิงอวี้อันที่จริงก็ถอยห่างออกมาด้วยสัญชาตญาณแล้วแต่คิดไม่ถึงว่าจะเลี่ยงแค่แค่จุดสำคัญ ไม่สามารถเลี่ยงการโจมตีได้อย่าง
อ่านเพิ่มเติม

บทที่ 670

เดิมทีตระกูลเฟิงก็มีพลังป้องกันต่อโรคระบาดพิษกู่สูงอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเพราะธาตุไฟแต่กำเนิดนั่นเองและสาเหตุที่ก่อนหน้านี้ใช้เจ้าขนมชามรับมือกับเฟิงจื๋อ หนึ่งก็เพราะเฟิงจื๋อไม่ได้เก่งกาจเท่ากับเฟิงอวี้ สองคือ เจ้าขนมชามนั้นถูกดึงออกมาจากในชีพจรหัวใจของเฟิงช่านพอมีไฟวิเศษของเฟิงช่าน ดังนั้นจึงมีพลังการต่อต้านต่อพลังวิญญาณของเฟิงจื๋อที่สูงกว่าแต่ว่าตอนนี้ ด้วยการโจมตีระดับนี้ของเฟิงอวี้ จั๋วซือหรานกล้าปล่อยเจ้าพวกก้อนเนื้อออกมามาตายเปล่าเสียที่ไหน!เฟิงอวี้พอเห็นว่าจั๋วจิ่วคนนี้ไม่มีการเคลื่อนไหวใดหลังจากได้ยินคำพูดเขา ก็ทำแค่ยืนนิ่งๆ อยู่ที่เดิม เหมือนกับว่า...ยอมรับในชะตากรรมแล้ว ไม่จำเป็นต้องดิ้นรนอย่างเปล่าประโยชน์อีก จึงยืนอยู่นิ่งๆเฟิ่งอวี้หัวเราะเย็นชาขึ้นเสียงหนึ่ง “วางใจเถอะ เหยียนเอ๋อร์รักชอบในตัวเจ้า ข้าเองจะไม่ให้เจ้าตายอย่างน่าเกลียดหรอก หลังจากทำลายรากฐานของเจ้า หลังจากทำลายพลังฝึกฝนกับความสามารถทั้งหมดของเจ้าแล้ว พอเจ้าไม่มีความสามารถในการขโมยพลังของตระกูลเฟิงแล้ว ข้าจะเว้นชีวิตของเจ้าไว้ก็ได้”เฟิงอวี้ขณะที่พูด สีของกระบี่ประจำตระกูลในมือก็ยิ่งแดงเข้มขึ้นหลังจ
อ่านเพิ่มเติม
ก่อนหน้า
1
...
6566676869
...
95
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status