บททั้งหมดของ พลิกชะตารัก มรดกเซียน: บทที่ 661 - บทที่ 670

“หว่านชิง ราชาแดนเหนือพูดถูก”“ไม่ว่าจะพิจารณาจากด้านไหน ลี่หย่งเจี๋ยล้วนเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด!”หลินเถิงฮุ่ยพูดอย่างรวดเร็วสี่ตระกูลใหญ่นั้นมีความสัมพันธ์เชิงแข่งขันกันมาโดยตลอด ต่างฝ่ายต่างไม่เห็นอีกฝ่ายอยู่ในสายตา ย่อมไม่มีการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างพวกเขานอกจากสี่ตระกูลใหญ่แล้ว ผู้ที่มีอำนาจและมีศักยภาพมากที่สุดในเมืองเจียงเฉิงก็คือสองราชาแดนเหนือและใต้ ในบรรดาพวกเขากำลังของราชาแดนเหนือลี่ตั๋วไห่เรียกได้ว่าเหนือกว่าราชาแดนใต้เฝิงเจิ้นอยู่ขั้นหนึ่ง!ในขณะที่เหลิ่งจวิ้นและเค่ออั๋งต่างก็เป็นเพลย์บอยชื่อดังที่มีความประพฤติที่ไม่น่าเชื่อถือแต่หลี่หยงเจี๋ยแตกต่างออกไป เขาไม่เคยมีชื่อเสียงที่ไม่ดีในด้านนี้ แถมความประพฤติของเขาก็ดีกว่าพวกเหลิ่งจวิ้นมากดังนั้นเมื่อพิจารณาจากทั้งหมด ถ้าตระกูลหลินต้องการหาคู่แต่งงาน ในบรรดาทายาทสายตรงของตระกูลที่มีอำนาจมากมายในเมืองเจียงเฉิง ลี่หย่งเจี๋ยคือตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดอย่างแน่นอน!“หว่านชิง แม้ว่าหลานและหลี่หยงเจี๋ยจะไม่มีความรู้สึกต่อกันในตอนนี้ แต่ของเหล่านี้สามารถค่อย ๆ บ่มเพาะกันได้”“ปู่คิดว่าหลานน่าจะหมั้นหมายกับเขาก่อน แล้

นี่คือร้านเสื้อผ้าแบรนด์เนมระดับไฮเอนด์ที่มีทั้งเสื้อผ้าบุรุษและสตรีหลากหลายประเภท แถมสินค้าแต่ละชิ้นก็มีราคาแพงมากโซนเสื้อผ้าผู้ชาย“ฉินหมิง นายอยากลองชุดนี้ไหม?”ดวงตาของเฝิงรั่วซวงเป็นประกาย เธอหยิบชุดสูทสีน้ำเงินออกมาจากชั้นแล้วยื่นให้กับฉินหมิง“ไม่ใช่ว่าเป็นพี่ที่อยากมาซื้อเสื้อผ้าเหรอ?”“ทำไม หรือนายจะให้ฉันลองเสื้อผ้าของผู้ชายล่ะ?”“อ้อ หรือว่าพี่ตั้งใจจะซื้อเสื้อผ้าให้กับเฝิงหลุน?”ฉินหมิงรู้สึกประหลาดใจมาก เขาคาดเดาว่าเฝิงรั่วซวงอาจกำลังคิดที่จะซื้อเสื้อผ้าให้กับเฝิงหลุน จึงขอให้เขาช่วยลองสวมดู“เปล่า ฉันจะซื้อให้นาย!”เฝิงรั่วซวงพูดอย่างตรงไปตรงมา“ซื้อให้ผม?”“ทำไมจู่ ๆ ถึงคิดจะซื้อเสื้อผ้าให้ผมล่ะ”ฉินหมิงตกใจมาก“ครั้งก่อนนายช่วยฉันสั่งสอนลี่หย่งเจี๋ย แล้วนายยังช่วยชีวิตคุณแม่เอาไว้อีก ฉันต้องการซื้อเสื้อผ้าสักสองสามชุดให้นายเป็นการตอบแทนและเพื่อแสดงความขอบคุณ”เฝิงรั่วซวงพูดด้วยรอยยิ้ม“ไม่ต้องหรอกครับ มันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย พี่ไม่จำเป็นต้องคิดมาก…”ฉินหมิงปฏิเสธอย่างสุภาพ“จะไม่ให้คิดได้ยังไง?”“นายมีพระคุณกับตระกูลของเรามาก ในตอนนั้นที่พ่อของฉันจะต

เธอเป็นลูกสาวของราชาแดนใต้ ยิ่งชัดเจนมากเกี่ยวกับกองกำลังของโลกใต้ดิน พื้นที่เขตภูเขาอวิ๋นอู้เป็นเพียงสถานที่ที่ค่อนข้างห่างไกลของเมืองเจียง และคนในโลกใต้ดินที่นี่ส่วนใหญ่จะเป็นพวกปลายแถว ไม่ได้มีตำแหน่งหรือสถานะสูงอะไรด้วยฐานะอันสูงส่งของเธอ เธอจะเห็นบุคคลตัวเล็ก ๆ อย่างนี้ในสายตาได้อย่างไร?ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่หน้าของฉินหมิง เธอคงไม่แม้แต่จะชายตามองเฉียนเป้าด้วยซ้ำ!เมื่อสัมผัสได้ถึงการดูถูกของเฝิงรั่วซวง เฉียนเป้าก็ค่อนข้างกระอักกระอ่วนอย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาว่าอีกฝ่ายเป็นเพื่อนของฉินหมิง เขาก็ไม่กล้าที่จะไม่พอใจ“คุณฉินครับ ผมได้จัดโต๊ะเลี้ยงในโรงแรมไว้แล้ว เชิญทั้งสองคนตามผมมมา…”เฉียนเป้าผายมือและทำท่าทางเชิญ จากนั้นพวกเขาก็เดินเข้าไปในโรงแรมด้วยกันในห้องส่วนตัวสุดหรูฉินหมิงและเฉียนเป้าทยอยกันนั่งลงจากนั้นเฉียนเป้าก็สั่งให้บริกรเริ่มเสิร์ฟไวน์และอาหาร“เฉียนเป้า ไม่รู้ว่านายเรียกฉันมาอย่างเร่งด่วนขนาดนี้มีเรื่องอะไรเหรอ?”ฉินหมิงถามตรงเข้าประเด็น“คุณฉิน คือแบบนี้ครับ ผมมีศัตรูอยู่คนหนึ่งชื่อว่าเซ่าโหว เขาเองก็อยู่ในเขตพื้นที่ของภูเขาอวิ๋นอู้…”“แต่เมื่อไม่น

“แม้ว่าคุณและผมจะร่วมมือกัน เราก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขาได้!”ยิ่งเฉียนเป้าพูดมากเท่าไร เขาก็ยิ่งกังวลมากขึ้นเท่านั้นเขาเคยต่อสู้กับฉินหมิงมาก่อน ย่อมรู้ว่าความแข็งแกร่งของฉินหมิงนั้นสูงกว่าเขาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งยังไม่น่าจะไปถึงขั้นสูงสุดระดับมานะสร้างด้วยกำลังเพียงเล็กน้อยของฉินหมิง ย่อมเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอนที่จะให้ผลลัพธ์ใด ๆยิ่งไปกว่านั้น เซ่าโหวยังได้รับการสนับสนุนจากพยัคฆ์หน้ายิ้มตู้ไฉ ถ้าฉินหมิงเข้ามาเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ไม่ต่างอะไรกับการวิ่งไปตายด้วยกัน!“ยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับมานะสร้าง?”ฉินหมิงและเฝิงรั่วซวงหันไปมองหน้ากันและอดหัวเราะไม่ได้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเฝิงรั่วซวง เธอหัวเราะหนักมากจนน้ำตาเล็ดหลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นในงานเปิดตัวขายของหมิงเหยากรุ๊ป ฉินหมิงได้รับการยกย่องจากตระกูลหลัก ๆ ในเมืองเจียงเฉิงว่าเป็นอันดับที่หนึ่งในกลุ่มคนรุ่นเยาว์ของเมืองเจียงเฉิง และระดับการบ่มเพาะของเขานั้น ก็มาถึงขั้นสูงระดับปรมาจารย์แล้ว!อย่าว่าแต่ผู้ฝึกยุทธ์ขั้นสูงสุดระดับมานะสร้างคนหนึ่ง ต่อให้อีกฝ่ายจะส่งยอดฝีมือขั้นสูงสุดระดับสวรรค์ประทานมา ฉินหมิงก็สามารถฆ่าพว

“ไอ้หนู แกเรียกใครว่าเป็นปลาซิวปลาสร้อย”“แกรนหาที่ตายอยู่ใช่ไหม?”เซ่าโหวโกรธมาก ดวงตาของเขาฉายแววสังหารอย่างเย็นชาพี่ฮัวที่อยู่ข้าง ๆ เองก็มีสีหน้ามืดครึ้มไม่ต่างกัน ด้วยระดับการบ่มเพาะขั้นสูงสุดระดับมานะสร้างของเขา เขายืนอยู่บนจุดสูงสุดของพื้นที่ภูเขาอวิ๋นอู้แห่งนี้เสมอ!ตอนนี้ถูกฉินหมิงที่เป็นแค่เด็กหนุ่มขนยังขึ้นไม่ครบคนหนึ่งดูถูกเขาว่าเป็นปลาซิวปลาสร้อย เขาจะกลืนความโกรธนี้ลงไปได้อย่างไร!“เซ่าโหว แกยืนขวางประตูนี้ไว้ ส่วนไอ้เด็กนี่และเฉียนเป้าปล่อยให้ฉันจัดการเอง!”พี่ฮัวพูดอย่างเย็นชา ก้าวขึ้นมาข้างหน้าก้าวใหญ่“ครับ!”“พี่ฮัว ความแข็งแกร่งของพี่สูงกว่าของฉันมาก ถ้าพี่ลงมือ ไอ้เด็กนี่และเฉียนเป้าจะต้องตายอย่างแน่นอน!”เซ่าโหวดูมีความสุขแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าฉินหมิงคือใคร แต่เขาและเฉียนเป้านั้นแข็งแกร่งที่สุดในเขตพื้นที่ภูเขาอวิ๋นอู้นี้ ระดับการบ่มเพาะของพวกเขามาถึงขั้นสูงระดับมานะสร้างแล้วด้วยความแข็งแกร่งขั้นสูงสุดของพี่ฮัว คิดที่จะจัดการกับเฉียนเป้าและฉินหมิงที่ไม่รู้ที่มาที่ไปคนหนึ่ง ง่ายซะยิ่งกว่าง่าย!“เฉียนเป้า แกกับไอ้เด็กนี่ไปลงนรกซะเถอะ ฉันจะได้ไม่ต้องเปล