All Chapters of ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย: Chapter 141 - Chapter 150

1320 Chapters

บทที่ 141

เมื่อได้เห็นท่าทางหวาดกลัวของหลิ่วจิ้นแล้ว ลั่วชิงยวนก็รู้สึกเย้ยหยันในใจจนถึงตอนนี้หลินอวี้เวยก็ยังไม่คิดจะสารภาพ และถึงกับยอมเสี่ยงซ่อนตัวหลิ่วจิ้นไว้ในจวนมหาราชครูซึ่งเป็นผลให้ชายผู้นี้หันกลับมาแว้งกัดนางหลินอวี้เวยเสียเองยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าหลินอวี้เวยถูกผิดเช่นไร เพียงเมื่อได้เห็นเช่นนี้แล้วนางก็รู้สึกว่าหลินอวี้เวยช่างน่าสมเพชเสียจริง“นางฝังอะไรไว้ที่ใดเล่า?” ลั่วหรงถามทันทีหลิ่วจิ้นยืนขึ้นและชี้ไปที่น้ำตก "ตรงนั้นขอรับ!"เขาเดินไปข้างหน้าลั่วชิงยวนมองเห็นสิ่งที่อยู่ใต้น้ำตกได้ในเสี้ยววินาที และทันใดนั้นดวงตาของนางก็เป็นประกายนางก้าวไปข้างหน้าและหยิบของออกมาจากใต้ม่านน้ำตกนั้น“นี่มัน…” ลั่วหรงมองดูสิ่งนี้อย่างคุ้นเคย“ธงชี้นำศพ” น้ำเสียงของลั่วชิงยวนเย็นชาเล็กน้อย “ไม่แปลกใจแล้วที่วันนี้จวนมหาราชครูจะมีผีดิบพวกนั้นอยู่ ดูเหมือนว่าคนเหล่านั้นจะกลายเป็นผีดิบอยู่ก่อนแล้ว ก่อนจะเข้ามาในจวน”“เพราะมีธงชี้นำศพซ่อนอยู่ในบ้าน พวกมันจึงสามารถปลอมแปลงเป็นคนธรรมดาได้ เรื่องทั้งหมดนี้ไม่ใช่เพียงแผนการชั่วร้ายเล็ก ๆ อีกแล้ว”หากในวันนี้พวกเขาไม่อาจค้นพบได้ทันเวลา ผีดิบเหล่าน
Read more

บทที่ 142

ลั่วชิงยวนขมวดคิ้ว "นี่ท่านสงสัยว่าตัวข้าฆ่าคนปิดปากอย่างนั้นหรือ?"ฟู่เฉินหวนมองไปทางอื่นและไม่ได้ตอบอะไร แต่สีหน้าของเขาได้บอกทุกอย่างไว้แล้วลั่วชิงยวนอยากจะอธิบาย แต่เธอก็รู้สึกเหนื่อยๆ รู้สึกเหมือนตัวเองคิดผิดที่รู้อะไรมากเกินไปฟู่เฉินหวนรู้สึกกังขาในเรื่องนี้จริง ๆ นั่นก็เพราะลั่วชิงยวนเป็นคนสัมผัสกับธงชี้นำศพ และนางก็เป็นคนที่สัมผัสร่างกายของหลิ่วจิ้นด้วยสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เขาสงสัยว่าเหตุการณ์นี้อาจเกี่ยวข้องกับตระกูลเหยียน ลั่วชิงยวนและตระกูลเหยียนนั้นก็มีความเกี่ยวข้องกันอย่างแยกไม่ออกลั่วหรงดูเคร่งขรึมและเอ่ยขึ้นว่า "ตอนนี้เราทำได้เพียงไปสอบปากคำหลินอวี้เวยเท่านั้น"ลั่วหรงจัดให้มีคนคอยจับตาดูร่างของหลิ่วจิ้นเอาไว้ ก่อนที่ทั้งสามจะออกจากป่าไผ่หลังจวนไปอย่างรวดเร็วเรือนปีกตะวันตก ลั่วอวิ๋นสี่กำลังทุบตีหลินอวี้เวยเพื่อบังคับให้นางสารภาพอยู่ แต่แม้จะใช้แส้เฆี่ยนตีหลินอวี้เวยจนตาย หลินอวี้เวยก็ยังไม่ปริปาก“นังสารเลว! เราปฏิบัติต่อเจ้าอย่างดี กลับกลายเป็นว่า เจ้าวางแผนทำร้ายพี่หญิงของข้าเสียเอง! ข้าหลงนึกว่าเจ้ารักและเอ็นดูพี่สาวของข้ามากแต่กลับกลายเป็นว่าเจ้าอยากใ
Read more

บทที่ 143

ดวงตาของนางยังคงเบิกกว้าง ลำคอบวมแดงปูดโปน เห็นได้ชัดว่า นางกำลังพยายามกุมลำคอของตัวเอง แต่ทำไม่ได้ เพราะนางถูกมัดอยู่และจึงร่วงหล่นลงกับพื้น“นางตายด้วยอาการแบบเดียวกันกับหลิ่วจิ้น” ลั่วชิงยวนขมวดคิ้วฟู่เฉินหวนใช้ปลายนิ้วสัมผัสลงลำคอของหลินอวี้เวยแล้วกดเบา ๆ ก่อนที่หนอนสีดำจะคลานออกมาจากปากของหลินอวี้เวยฟู่เฉินหวนแทงหนอนตัวนั้นด้วยกริชของเขามันเป็นแมลงกู่เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้วจากนั้น ลั่วชิงยวนก็ได้รับสายตาที่เย็นชาและสายตาสงสัยจากฟู่เฉินหวนอีกระลอกลั่วชิงยวนลุกขึ้นยืนทันที "ไยท่านอ๋องถึงมองหม่อมฉันเช่นนี้ทุกที? หากท่านสงสัยว่าเป็นฝีมือหม่อมฉัน ก็หาหลักฐานมาสิเพคะ!"ดวงตาของฟู่เฉินหวนจ้องไปที่หลินอวี้เวยอีกครั้ง คิ้วของเขาขมวดมุ่นด้วยความหงุดหงิด “ถ้าข้ามีหลักฐาน คอเจ้าคงหลุดจากบ่าไปแล้ว”ลั่วชิงยวนโกรธมากและพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เอาสิ หม่อมฉันจะรอให้ท่านอ๋องหาหลักฐานพิสูจน์ว่าเป็นฝีมือหม่อมฉัน!"ลั่วหรงได้ยินเรื่องนี้ แต่พวกเขาก็แค่ถกเถียงกันเท่านั้น นางจึงไม่ได้คิดจะใส่ใจอะไรจริงจังลั่วอวิ๋นสี่ที่คอยรับฟังอยู่ข้าง ๆ รีบวิ่งเข้าไปคว้าคอเสื้อของลั่วชิงยวนเอาไว้ แล้ว
Read more

บทที่ 144

“โอสถคันธ์หยดน้ำค้าง!” ลูกกลอนหอมรัญจวนทันทีที่นางพูดเช่นนั้น ฟู่เฉินหวนและลั่วหรงก็ขมวดคิ้ว พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนเมื่อลั่วชิงยวนเห็นท่าทางสับสนของพวกเขา ก็กลับมาตั้งสติได้และอธิบายออกไป"โอสถคันธ์หยดน้ำค้าง เป็นโอสถที่ใช้คู่กับการเลี้ยงแมลงกู่ หากใครกินโอสถนี้เข้าไป เมื่อพวกเขาปล่อยแมลงกู่ออกมา แมลงกู่พวกนั้นจะชอนไชเข้าไปในร่างกายของคนผู้นั้นเพื่อเข้าไปกินโอสถที่อยู่ภายใน ทั้งยังทำลายผิวหนังและเนื้อของคนผู้นั้น จนทำให้ถึงแก่ความตาย"ฟู่เฉินหวนมองนางหน้านิ่ง “ทำไมเจ้าถึงรู้อะไรมากมายนัก?”แม้ว่าเขาจะเคยได้ยินเรื่องของวิชาแมลงกู่มาก่อน แต่เขาไม่เคยได้ยินเรื่องอะไรเช่นนี้ เหตุใด ลั่วชิงยวนจึงรู้รายละเอียดมากมายนักลั่วชิงยวนรู้ว่าฟู่เฉินหวนจะต้องสงสัย ดังนั้นนางจึงตอบอย่างใจเย็น "ข้าเคยพบมันในตำรา กลิ่นและพิษชนิดนี้เหมือนกับที่ถูกจารึกไว้ในตำรานั้นทุกประการ นั้นเพราะข้าก็เห็นแมลงภู่กับตาตัวเองแล้วด้วย"ลั่วหรงไม่นึกกังขา หลังจากได้ยินสิ่งนี้ นางก็เอ่ยขึ้นอย่างจริงจังว่า "ผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังทั้งวางแผนการและวางกับดักไว้เสียใหญ่โต พวกเขาได้เตรียมการไว้เผื่อกรณีนี้ล่
Read more

บทที่ 145

ลั่วชิงยวนสับสนเป็นอย่างมาก เหตุกบฏในวังหลวงหมายความว่าอย่างไร?นางเคยป่วยและความจำเสื่อมมาก่อน จึงลืมทุกสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น นางไม่อาจจำความหมายของคำเหล่านี้ได้แน่นอนว่าตอนนี้นางย่อมรู้สึกสับสนในขณะที่กำลังสับสน ฟู่เฉินหวนก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา "เรื่องนี้เป็นความลับอย่างยิ่ง ยิ่งปล่อยให้คนรู้มากเท่าไรเราก็ยิ่งปลอดภัยน้อยลงเท่านั้น พระชายาออกไปก่อนเถิด"ลั่วชิงยวนมองฟู่เฉินหวนอย่างไม่เข้าใจ แม้จะเห็นท่าทีแสร้งเป็นมิตรของเขา แต่ดวงตากลับเต็มไปด้วยความระแวดระวังและความสงสัยอย่างชัดเจน!ราชครูลั่วเหลือบมองนางแล้วพูดขึ้นว่า "ท่านอ๋องพูดถูกแล้ว เรื่องเก่าเช่นนี้ไม่เหมาะจะพูด ข้าไม่ได้คิดให้ดีเอง ชิงยวน เจ้าไปดูแลหลางหลางก่อนเถิด"ราชครูลั่วมีสีหน้ากังวลอย่างหนัก นั่นเพราะเขาเองก็กังวลว่าลั่วชิงยวนจะมีส่วนร่วมในเรื่องนี้ จึงไม่ยอมให้นางอยู่ฟัง หากป้องกันเอาไว้เสียจะดีกว่าแก้แต่ฟู่เฉินหวนใช้ประโยชน์จากสิ่งนี้และจงใจขับไล่นางออกไป!ลั่วชิงยวนรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่นางไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรับปาก "เจ้าค่ะ"จากนั้นนางก็ออกจากห้องไปแต่ที่เรือนปีกตะวันตกมีลั่วอ
Read more

บทที่ 146

แต่ลั่วชิงยวนก็ไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ตบดีนางอีกนางยกมือขึ้นมาคว้าข้อมือของลั่วไห่ผิงเอาไว้แน่นนางมองลั่วไห่ผิงด้วยสายตาคมกริบเชือดเฉือนและเอ่ยวาจาเด็ดขาดเพื่อข่มขู่ว่า “ท่านพ่อ ข้าหวังว่าท่านคงยังไม่ลืมว่ามหาราชครูลั่วบอกอะไรท่านไว้”“ถึงแม้ข้าจะเป็นบุตรีของท่าน แต่ว่าตอนนี้ข้าก็เป็นสตรีที่ออกเรือนแล้ว ท่านไม่มีสิทธิ์ที่จะมาลงโทษข้าอีกต่อไป! ก่อนที่จะลงมือคิดให้ดีก่อนเถิดว่า ท่านกำลังจะตบตีบุตรี หรือว่าชายาอ๋องกันแน่?”นางพูดอย่างเด็ดขาดชัดเจนก่อนปล่อยมือของลั่วไห่ผิงเมื่อคิดถึงสิ่งที่ท่านอารองได้กล่าวเตือนเขาไว้ ลั่วไห่ผิงก็เก็บกลั้นโทสะเอาไว้ เขากำหมัดแน่นไว้ด้านหลัง และไม่กล้าลงมืออีกลั่วเยวี่ยอิงนั้นโมโหจนกัดฟันแน่น นางสารเลวลั่วชิงยวนตอนนี้ไต่เต้าพึ่งพิงไม้ใหญ่ของจวนมหาราชครูได้แล้ว ตอนนี้แม้แต่บิดาก็ทำอะไรนางไม่ได้นางสารเลวผู้นี้ เหตุใดถึงได้มากเล่ห์นัก! นางหลอกลวงมหาราชครูลั่วและฮูหยินลั่วได้เช่นไรกันลั่วเยวี่ยอิงเกาะแขนลั่วไห่ผิง “ท่านพ่อ ไม่ต้องไปสนใจนาง เราไปหาท่านปู่รองดีกว่าเจ้าค่ะ”เมื่อเห็นว่าลั่วเยวี่ยอิงเปลี่ยนน้ำเสียงฉับพลัน ลั่วชิงยวนก็อดแค่นเสียงใส่ไม่ไ
Read more

บทที่ 147

ลั่วหรงเดินออกมาแล้วคว้ามือของลั่วชิงยวนไว้ สีหน้าของนางดูเคร่งขรึมก่อนหน้านี้ นางพูดเสียงจริงจังว่า “ไปคุยกันที่เรือนข้า”……หลังจากที่นั่งลงในห้องและปิดประตูเรียบร้อยแล้ว ลั่วหรงก็บอกว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องมีคำถามมากมาย แต่ข้าบอกเจ้าเรื่องปัญหาวุ่นวายที่เกิดขึ้นในตำหนักที่ท่านอ๋องบอกมาได้”“เรื่องนี้เป็นเรื่องต้องห้ามของในวังและเมืองนี้ เจ้าห้ามเอ่ยถึงเรื่องนี้ เจ้าต้องไม่พูดถึงเรื่องนี้นอกวังด้วย”แม้ลั่วชิงยวนจะรู้ว่าท่านอาลั่วหรงนั้นไม่อยากให้นางรู้เรื่องนี้ก็เพื่อประโยชน์ของนางเอง แต่นางก็ยิ่งอยากรู้เมื่อได้ยินเช่นนี้นางกลัวว่าน่าจะเป็นฟู่เฉินหวนที่บอกท่านอาว่าไม่ให้บอกนาง และใช้ข้ออ้างว่าเป็นไปเพื่อผลดีต่อตัวนางเองลั่วชิงยวนไม่ได้บังคับฝืนใจ นางเพียงพยักหน้า “เจ้าค่ะ เช่นนั้นข้าก็จะไม่ถาม”“เพียงแต่ว่าท่านอาทราบหรือยังว่าใครกันที่เป็นหนอนบ่อนไส้? ในเมื่อคราวนี้แผนใหญ่ของมันผู้นั้นล้มเหลว ไม่แน่ว่าจะไม่ลงมือครั้งที่สอง”ลั่วหรงพูดเสียงเคร่งเครียด “เจ้าก็ได้เห็นความมีเกียรติของท่านปู่เจ้าแล้ว ตระกูลของเรามิเคยล่วงเกินใคร แม้ว่าเราอาจจะมีเรื่องมีราวกับบิดาของเจ้าแต่นั้นก็เ
Read more

บทที่ 148

ก่อนที่แม่นมเติ้งจะทันพูดจบ ความกระวนกระวายร้อนใจของนางก็ทำให้ลั่วชิงยวนมีลางสังหรณ์ไม่ดี นางจึงรุดออกจากห้องไปที่เรือนของฟู่เฉินหวนนั้นมีองครักษ์เฝ้าอยู่มากมาย และมีคนโดนโยนออกมาจากห้องคนแล้วคนเล่า เสียงการต่อสู้ในห้องผสานกับเสียงร้องไห้อย่างหวาดกลัวของสตรีเมื่อลั่วชิงยวนมาถึง เซียวชูก็โดนฟู่เฉินหวนเตะออกมาพอดีเขาลอยลงกระแทกพื้นอย่างแรง“พระชายา ท่านเข้าไปไม่ได้นะขอรับ” ซูโหยวรีบหยุดลั่วชิงยวนไว้ทันที ตอนนี้ท่านอ๋องนั้นอันตรายมาก เขาจึงไม่กล้าจะให้ลั่วชิงยวนเข้าไปใกล้“ถอยไปให้พ้น” ลั่วชิงยวนนิ่วหน้า ก่อนผลักซูโหยวให้พ้นทางแล้วพุ่งเข้าไปในห้อง“พระชายา” เมื่อซูโหยวกำลังจะตามทัน ลั่วชิงยวนก็ชิงปิดประตูและลั่นดาลไว้ก่อนตอนนั้นเองกลิ่นอายชั่วร้ายของฟู่เฉินหวนแผ่ผ่านดวงตาของเขา และมีรังสีมารสีแดงก่ำอยู่ระหว่างคิ้วทั้งสองเขานั้นเกือบจะคลุ้มคลั่งเสียสติแล้ว แววตาเขาขุ่นมัวพร้อมแผ่กลิ่นอายสังหารออกมารอบกายเมื่อฟู่เฉินหวนเห็นนาง เขาก็พุ่งเข้าใส่นางทันทีโดยไม่ลังเลลั่วชิงยวนนั้นเตรียมตัวไว้แล้ว นางหลบทันทีพร้อมมีเข็มเงินอยู่ในมือ นางเอาเข็มนั้นปักเจ้าที่ด้านหลังคอของฟู่เฉินหวน
Read more

บทที่ 149

นางกำลังจะตาย!แววตาลั่วเยวี่ยอิงวาววับ มีแววบ้าคลั่งเจือเล็กน้อยแต่ขณะที่ลั่วเยวี่ยอิงกำลังรอด้วยใจระทึกนั้นเอง ประตูก็เปิดออกกะทันหันและมีเสียงร้อนรนดังขึ้น “ท่านอ๋อง หยุดมือ”ซูโหยว เซียวชูและท่านหมอกู้ต่างก็พุ่งเข้ามาในห้อง พวกเขาคว้ามือของฟู่เฉินหวนทันที หมอกู้ก็รีบใช้เข็มเงินฝังเข้าที่หลายจุดบนร่างของฟู่เฉินหวนทำให้เขาหมดสติไปจังหวะที่ฟู่เฉินหวนอ่อนแรงนั้น เรี่ยวแรงที่มากมายจนเหมือนปีศาจของเขาก็หายไป ลั่วชิงยวนถูกปล่อยพ้นมือเขาแ ละลงไปทรุดกองกับพื้น นางรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่นางสูดหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอด พร้อมยกมือขึ้นแตะลำคอที่เจ็บปวด ก่อนมองดูฟู่เฉินหวนโดนแบกไปที่เตียงด้วยสีหน้าเคร่งเครียดฟู่เฉินหวนนั้นออกจากตำหนักอ๋องไปเพื่อรักษาตัวเมื่อเดือนก่อน และกลับมาเพียงวันเดียวก่อนวันเกิดของท่านมหาราชครู ในช่วงหนึ่งเดือนนี้อาการป่วยของเขาไม่เพียงไม่ดีขึ้น แต่กลับแย่ลงเมื่อได้เห็นโรคของฟู่เฉินหวนอาการหนักขึ้น เขานั้นเหมือนกลายร่างเป็นผีดิบที่โดนผู้อื่นควบคุมร่าง และสุดท้ายก็จะทำร้ายตัวเองผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังนั้นต้องการให้ฟู่เฉินหวนคลุ้มคลั่งตอนที่อยู่ในจวนมหาราชครู แต่ค
Read more

บทที่ 150

นางรู้สึกเย็นสันหลังวาบทันใดท่านหมอเทวดากู้นั้นมายืนมองนางตรงนั้นนานแค่ไหนแล้ว?เขาได้ยินทุกสิ่งที่นางคุยกับซูโหยวหรือไม่?ลั่วชิงยวนยิ้มโดยที่ไม่เปลี่ยนสีหน้า ก่อนบอกว่า “ดูจากอาการที่ท่านอ๋องเป็นตอนนี้ มันช่างเหมือนกับตอนที่มีเหตุผิดปกติในตำหนักและมีบ่าวรับใช้คลุ้มคลั่งเลยใช่หรือไม่?”“ตอนนี้ท่านอ๋องต่อต้านข้านัก ข้าก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพวกท่านหรอก เพียงแต่อยากเตือนไว้บ้างก็เท่านั้น”เมื่อได้ยินเช่นนี้ซูโหยวก็ตัวแข็งทื่อและรู้สึกในใจเย็นเยียบเมื่อพระชายาพูดขึ้นมาก็ดูเหมือนว่า อาการของท่านอ๋องในคืนนี้จะเหมือนเรื่องคืนก่อนนั้นมาก เป็นไปได้ไหมว่าท่านอ๋องโดนวิญญาณร้ายบางตนสิงสู่?“ขอรับ ขอบคุณที่พระชายาช่วยเตือนข้า”ลั่วชิงยวนไม่พูดอะไรอีก นางเดินกลับเรือนไปนางเองก็ได้ยินเสียงซูโหยวจากไปแล้ว แต่นางยังคงรู้สึกได้ถึงแววตาน่าหวาดหวั่นที่มองมาต้องมีบางอย่างไม่ปกติกับหมอเทวดากู้เป็นแน่ตำหนักอ๋องและจวนมหาราชครูต่างก็เกี่ยวข้องกัน นางกลัวว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะมีมือเท้ายาวไกล และท่านหมอกู้เองก็อาจจะเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นนางคิดเรื่องนี้ขณะที่เดินกลับเรื
Read more
PREV
1
...
1314151617
...
132
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status