Share

บทที่ 148

Aвтор: หว่านชิงอิ๋น
ก่อนที่แม่นมเติ้งจะทันพูดจบ ความกระวนกระวายร้อนใจของนางก็ทำให้ลั่วชิงยวนมีลางสังหรณ์ไม่ดี นางจึงรุดออกจากห้องไป

ที่เรือนของฟู่เฉินหวนนั้นมีองครักษ์เฝ้าอยู่มากมาย และมีคนโดนโยนออกมาจากห้องคนแล้วคนเล่า เสียงการต่อสู้ในห้องผสานกับเสียงร้องไห้อย่างหวาดกลัวของสตรี

เมื่อลั่วชิงยวนมาถึง เซียวชูก็โดนฟู่เฉินหวนเตะออกมาพอดี

เขาลอยลงกระแทกพื้นอย่างแรง

“พระชายา ท่านเข้าไปไม่ได้นะขอรับ” ซูโหยวรีบหยุดลั่วชิงยวนไว้ทันที ตอนนี้ท่านอ๋องนั้นอันตรายมาก เขาจึงไม่กล้าจะให้ลั่วชิงยวนเข้าไปใกล้

“ถอยไปให้พ้น” ลั่วชิงยวนนิ่วหน้า ก่อนผลักซูโหยวให้พ้นทางแล้วพุ่งเข้าไปในห้อง

“พระชายา” เมื่อซูโหยวกำลังจะตามทัน ลั่วชิงยวนก็ชิงปิดประตูและลั่นดาลไว้ก่อน

ตอนนั้นเองกลิ่นอายชั่วร้ายของฟู่เฉินหวนแผ่ผ่านดวงตาของเขา และมีรังสีมารสีแดงก่ำอยู่ระหว่างคิ้วทั้งสอง

เขานั้นเกือบจะคลุ้มคลั่งเสียสติแล้ว แววตาเขาขุ่นมัวพร้อมแผ่กลิ่นอายสังหารออกมารอบกาย

เมื่อฟู่เฉินหวนเห็นนาง เขาก็พุ่งเข้าใส่นางทันทีโดยไม่ลังเล

ลั่วชิงยวนนั้นเตรียมตัวไว้แล้ว นางหลบทันทีพร้อมมีเข็มเงินอยู่ในมือ นางเอาเข็มนั้นปักเจ้าที่ด้านหลังคอของฟู่เฉินหวน
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Заблокированная глава

Related chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 149

    นางกำลังจะตาย!แววตาลั่วเยวี่ยอิงวาววับ มีแววบ้าคลั่งเจือเล็กน้อยแต่ขณะที่ลั่วเยวี่ยอิงกำลังรอด้วยใจระทึกนั้นเอง ประตูก็เปิดออกกะทันหันและมีเสียงร้อนรนดังขึ้น “ท่านอ๋อง หยุดมือ”ซูโหยว เซียวชูและท่านหมอกู้ต่างก็พุ่งเข้ามาในห้อง พวกเขาคว้ามือของฟู่เฉินหวนทันที หมอกู้ก็รีบใช้เข็มเงินฝังเข้าที่หลายจุดบนร่างของฟู่เฉินหวนทำให้เขาหมดสติไปจังหวะที่ฟู่เฉินหวนอ่อนแรงนั้น เรี่ยวแรงที่มากมายจนเหมือนปีศาจของเขาก็หายไป ลั่วชิงยวนถูกปล่อยพ้นมือเขาแ ละลงไปทรุดกองกับพื้น นางรู้สึกเหมือนได้เกิดใหม่นางสูดหายใจเฮือกใหญ่เข้าปอด พร้อมยกมือขึ้นแตะลำคอที่เจ็บปวด ก่อนมองดูฟู่เฉินหวนโดนแบกไปที่เตียงด้วยสีหน้าเคร่งเครียดฟู่เฉินหวนนั้นออกจากตำหนักอ๋องไปเพื่อรักษาตัวเมื่อเดือนก่อน และกลับมาเพียงวันเดียวก่อนวันเกิดของท่านมหาราชครู ในช่วงหนึ่งเดือนนี้อาการป่วยของเขาไม่เพียงไม่ดีขึ้น แต่กลับแย่ลงเมื่อได้เห็นโรคของฟู่เฉินหวนอาการหนักขึ้น เขานั้นเหมือนกลายร่างเป็นผีดิบที่โดนผู้อื่นควบคุมร่าง และสุดท้ายก็จะทำร้ายตัวเองผู้ที่ชักใยอยู่เบื้องหลังนั้นต้องการให้ฟู่เฉินหวนคลุ้มคลั่งตอนที่อยู่ในจวนมหาราชครู แต่ค

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 150

    นางรู้สึกเย็นสันหลังวาบทันใดท่านหมอเทวดากู้นั้นมายืนมองนางตรงนั้นนานแค่ไหนแล้ว?เขาได้ยินทุกสิ่งที่นางคุยกับซูโหยวหรือไม่?ลั่วชิงยวนยิ้มโดยที่ไม่เปลี่ยนสีหน้า ก่อนบอกว่า “ดูจากอาการที่ท่านอ๋องเป็นตอนนี้ มันช่างเหมือนกับตอนที่มีเหตุผิดปกติในตำหนักและมีบ่าวรับใช้คลุ้มคลั่งเลยใช่หรือไม่?”“ตอนนี้ท่านอ๋องต่อต้านข้านัก ข้าก็จะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของพวกท่านหรอก เพียงแต่อยากเตือนไว้บ้างก็เท่านั้น”เมื่อได้ยินเช่นนี้ซูโหยวก็ตัวแข็งทื่อและรู้สึกในใจเย็นเยียบเมื่อพระชายาพูดขึ้นมาก็ดูเหมือนว่า อาการของท่านอ๋องในคืนนี้จะเหมือนเรื่องคืนก่อนนั้นมาก เป็นไปได้ไหมว่าท่านอ๋องโดนวิญญาณร้ายบางตนสิงสู่?“ขอรับ ขอบคุณที่พระชายาช่วยเตือนข้า”ลั่วชิงยวนไม่พูดอะไรอีก นางเดินกลับเรือนไปนางเองก็ได้ยินเสียงซูโหยวจากไปแล้ว แต่นางยังคงรู้สึกได้ถึงแววตาน่าหวาดหวั่นที่มองมาต้องมีบางอย่างไม่ปกติกับหมอเทวดากู้เป็นแน่ตำหนักอ๋องและจวนมหาราชครูต่างก็เกี่ยวข้องกัน นางกลัวว่า คนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้จะมีมือเท้ายาวไกล และท่านหมอกู้เองก็อาจจะเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้นนางคิดเรื่องนี้ขณะที่เดินกลับเรื

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 151

    “เช่นนั้น ก็วัดให้องค์ชายห้า และตัดเย็บอาภรณ์ให้เขาด้วยเถิด” สายตาของฟู่เฉินหวนยะเยือกลงทันที ลั่วชิงยวนถามด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม “ท่านอ๋องคงมิได้มีจิตใจคับแคบเช่นนั้นใช่? คนทั้งตำหนัก กระทั่งคนนอกอย่างลั่วเยวี่ยอิงยังมีอาภรณ์ใหม่ แต่เสด็จน้องแท้ ๆ ของท่านกลับมิมีน่ะหรือ?” น้ำเสียงของนางอ่อนโยนอย่างหาได้ยาก แต่กลับกำลังพูดเหน็บแนม สีหน้าของฟู่เฉินหวนมืดครึ้มลงทันที น้ำเสียงก็เยือกเย็นมากยิ่งขึ้น “เจ้าช่างห่วงใยน้องห้าของข้าเสียจริง” ลั่วชิงยวนยิ้มเลิกคิ้ว และตั้งใจพูดแซะ “หม่อมฉันเรียนรู้มาจากท่านอ๋องเพคะ” สีหน้าของฟู่เฉินหวนอึมครึม ส่วนลั่วชิงยวนหันร่าง และเดินจากไปทันที ซูโหยวที่อยู่อีกด้านมองอย่างอกสั่นขวัญหาย เขารีบขึ้นหน้าประคองท่านอ๋องไว้ “ท่านอ๋อง ท่านหมอเทวดากล่าว อาการของท่านตอนนี้มิควรกริ้วโกรธ! ท่านต้องควบคุมอารมณ์พ่ะย่ะค่ะ” ลมหายใจของฟู่เฉินหวนรุนแรงขึ้น ปลายนิ้วเย็น ๆ ของเขากดไปบนหน้าผาก “บางทีหมอเทวดากู้พูดถูก เมื่อหย่าร้างกับลั่วชิงยวน ทุกอย่างจะกลับเป็นปกติ” ตั้งแต่ที่ลั่วชิงยวนแต่งเข้ามาในตำหนัก ก็มิเคยมีวันสงบอีกต่อไป และวันนี้ที่เขาต้องกริ้วโกรธ ก็เป็

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 152

    ลั่วชิงยวนตะลึงเล็กน้อย นักทำนายชะตาหรือ? แท้จริงนางอยากบอกฟู่อวิ๋นโจว บนตัวเขามิมีสิ่งอัปมงคลใด ดังนั้นต่อให้เชิญนักทำนายชะตามาดูก็เปล่าประโยชน์ “องค์ชายห้า ยามนี้ในยุทธจักรมีพวกต้มตุ๋นมากหลายนัก ท่านระวังจะถูกหลอกทรัพย์!” ลั่วชิงยวนทำได้เพียงตักเตือน ชีวิตของฟู่อวิ๋นโจวอาจลำบากยิ่งกว่านางเสียอีก เงินเหล่านั้นสำคัญต่อเขามาก หากโดนหลอกไปคงน่าเสียดาย “วางใจเถิด มิมีทางโดนหลอกแน่! ข้าสืบข่าวมาหลายครั้ง อาจารย์ท่านนี้ค่อนข้างมีชื่อเสียง ทุกวันเขารับทำนายเพียงหนึ่งชั่วยาม อีกทั้งเวลามิแน่นอน ผู้ที่เคยทำนายกับเขาต่างแก้ไขปัญหาชีวิตกันได้จนสิ้น ข้าว่าจะไปลองเสี่ยงดู” “เผื่อจะได้” เมื่อฟู่อวิ๋นโจวพูดสามคำนี้ นัยน์ตาเขาราวกับฉายแสงจ้า จนทำลั่วชิงยวนสะเทือนใจเล็กน้อย ต่อให้เขาไปแล้วจะไม่มีประโยชน์ แต่ลั่วชิงยวนก็มิได้พูดขัดเขาต่อ เพียงแค่ถามขึ้น “นักทำนายชะตาที่ใดหรือ หม่อมฉันลองดูก่อน หากแม่นจริง ๆ ท่านค่อยไปเถิดเพคะ” ฟู่อวิ๋นโจวพยักหน้า จากนั้นบอกที่อยู่ให้กับนาง ขนาดอาภรณ์วัดเสร็จ ลั่วชิงยวนมิได้อยู่ต่อ และพาคนจากไป เมื่อกลับไป แม่นมเติ้งต้องไปจัดการเรื่องอาภรณ์ฤดูหนาว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 153

    ลั่วชิวยวนมองโหวงเฮ้งของหญิงสาวผู้นั้น เป็นอย่างที่อาจารย์ท่านนั้นพูด โหงวเฮ้งคู่ชีวิตอ่อนแอ แต่โดนรวมแล้วมิใช่โหงวเฮ้งเดียวดาย นางมีบุพเพสันนิวาส เพียงแต่มาช้า “ขอบคุณท่านอาจารย์!” หญิงสาวผู้นั้นวางเงินตำลึง และลุกจากไป ลั่วชิงยวนมองอยู่ด้านข้าง นักทำนายชะตาจึงมิได้สังเกตเห็นนาง เขาทำนายให้ผู้อื่นต่ออย่างตั้งใจ มิว่าจะเรื่องเล็กหรือใหญ่เขาก็ต่างทำนาย จากที่ลั่วชิงยวนสำรวจ พบว่านักทำนายชะตาท่านนี้ถือว่าทำนายได้ค่อนข้างแม่น ไม่ถึงครึ่งชั่วยาม เงินตำลึงก็ได้วางเต็มโต๊ะเสียแล้ว จือเฉาถามอย่างอดมิได้ “พระชายา ท่านมองนานเช่นนี้ มองอะไรออกหรือไม่เจ้าคะ?” ลั่วชิงยวนกลับถอนหายใจ “กำไรเยอะเสียจริง…” จือเฉาชะงัก “เจ้าคะ?” ลั่วชิงยวนมองตำลึงมากมาย อย่างน้อย ๆ ก็ได้เป็นร้อยตำลึงแล้ว มิน่าจึงตั้งร้านเพียงวันละหนึ่งชั่วยาม เพราะเพียงแค่หนึ่งชั่วยามก็สามารถหาได้เป็นร้อยตำลึง จะเป็นพระชายาไปทำกัน? นางควรรีบเปิดร้านแต่แรก! ได้เงินเยอะกว่าพระชายาอีกมิใช่หรือ? หนึ่งชั่วยามผ่านไป นักทำนายชะตาท่านนั้นมิเสียเวลาแม้แต่นิด เขาเก็บของ โกยเงินตำลึงมากมาย พร้อมกล่าว “พบกันพรุ่งนี้เช้าทุกท่าน!

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 154

    นางมาทำอะไรกัน?! นักทำนายชะตาชะงักเล็กน้อย นี่ท่าจะเป็นปลาที่เบื้องบนให้เขาหว่านแล้วล่ะ ในห้องสงบลงฉับพลัน ลั่วชิงยวนร้องตะโกนต่อ “ข้าถูกสามีในบ้านตบตีทุกวัน จนเกือบเสียชีวิตไปหลายครั้ง ตระกูลฝั่งแม่ช่วยข้ามิได้! หนังสือหย่าข้าก็ขอมามิได้เช่นกัน!” “ท่านช่วยสงสารแล้วชี้แนะข้าหน่อยเถิด!” เมื่อได้ยินประโยคนี้ เส้นเลือดบนขมับของฟู่เฉินหวนกระตุก ถูกสามีตบตี? จนเกือบถึงแก่ชีวิต? เหลวไหล! หลายครั้งที่ยัยผู้หญิงคนนี้แข็งข้อกับเขาในตำหนัก เมื่อนางลงมือกับผู้อื่นก็ดุดันกล้าหาญ ตอนนี้กลับแสร้งทำตัวน่าสงสารหรือ? “หากเช่นนี้ เจ้าเข้ามาเถิด” เมื่อนักทำนายชะตาเอ่ยปาก สีหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนไปทันควัน นัยน์ตาเขาเผยแววลนลาน “ข้าค่อยมาวันอื่นดีกว่า!” ฟู่เฉินหวนลุกขึ้นทันที นักทำนายชะตากลับยื่นมือรั้งเขาไว้ “เดี๋ยว ท่านมาก่อน จะให้ท่านไปก่อนได้อย่างไรกัน ไม่เป็นไร อย่างไรเรื่องของพวกท่านสองคนก็มิเยอะ ไม่นานนักก็จัดการเรียบร้อย!” ฟู่เฉินหวนจึงทำได้เพียงนั่งลง บัดนี้ ลั่วชิงยวนผลักประตูออก “ท่านอาจารย์!” นางกำลังจะเอ่ยปาก แค่เมื่อเห็นฟู่เฉินหวน นางกลับชะงัก ฟู่เฉินหวน?

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 155

    ได้ยินดังนี้ สีหน้าของนักทำนายชะตาเคร่งเครียด เขาตั้งใจพิจารณาโหงวเฮ้งของลั่วชิงยวน จากนั้นหยิบแผ่นทองแดง และโยนลงบนโต๊ะทีหนึ่ง วินาทีนั้น ลั่วชิงยวนสังเกตเห็นบนแขนของท่านหมอมีแผลไฟไหม้ที่เห็นได้ชัด แผลนั้นใหม่มาก ท่าจะภายในสองวันนี้! ทำนางนึกถึงภาพวาดที่ถูกเผาวันนั้นโดยไม่ทันคิด ไม่รู้ว่าที่ที่ไฟไหม้ทั้งหมดในเมืองหลวงของวันนั้น ท่านมหาราชครูสืบหาเจอหรือยัง นักทำนายชะตากำลังมองภาพปากว้าและขมวดคิ้ว เขาส่ายหัว “พิลึก พิลึกเหลือเกิน นี่เป็นมหาฆาต…” ประโยคด้านหลังเขามิได้พูดต่อ แต่ในใจกลับเคาะดังเป็นจังหวะกลอง นี่มันดวงคนถึงฆาตชะตาแล้วชัด ๆ โดยทั่วไป มีเพียงคนตายเท่านั้นที่มี หรือว่าคนตรงหน้าเขาจะเป็น… นักทำนายชะตาเหงื่อเย็นไหลซิบ แม้จะมีความกลัวในใจ แต่เขายังมิลืมภารกิจครั้งนี้ ประโยคของเขาหักมุม “แม้จะเป็นฆาตหนัก แต่ยังสามารถพลิกผันได้! ข้าจะเตรียมของบางอย่างให้ พรุ่งนี้เจ้ามาเอากลับไป” “เมื่อพกติดตัวเป็นเวลานาน จะสามารถเปลี่ยนชะตา และพลิกผันทุกอย่างได้!” ลั่วชิงยวนพูดอย่างดีใจ “ขอบคุณท่านอาจารย์เจ้าค่ะ!” นางเองก็มองภาพปากว้าทีหนึ่ง ในนั้นชะตาถึงฆาตแล้วจริง ๆ แต่

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 156

    สิ้นเสียงประโยคนี้ สีหน้านักทำนายชะตาซีดเผือด นัยน์ตาเอ่อความผวา สีหน้าของฟู่เฉินหวนเปลี่ยนไป “โดนเผาเมื่อวันเกิดท่านมหาราชครูงั้นหรือ? หมายความว่าอย่างไรกัน?!” สีหน้าของนักทำนายชะตาถอดสี เขาสลัดมือลั่วชิงยวนออกอย่างแรง และวิ่งพุ่งไปทางประตูเรือนอย่างรวดเร็ว ลั่วชิงยวนตะโกนเรียกฟู่เฉินหวนร้อน ๆ “ท่านอ๋อง อย่าปล่อยให้เขาหนีไป!” ฟู่เฉินหวนตามขึ้นไปทันที นักทำนายชะตาดึงเชือกที่อยู่ตรงมุมกำแพง ทันใดนั้น เสาไม้ต้นใหญ่ที่คล้ายกับคานเรือนตกลงมา หล่นตรงไปทางหัวของลั่วชิงยวน ฟู่เฉินหวนเห็นจากหางตา จึงล้มเลิกการจับตัวนักทำนายชะตาอย่างเด็ดขาด และวิ่งมาทางลั่วชิงยวนอย่างไว เขาดึงตัวนางออก แต่เมื่อเสาไม้ต้นใหญ่ตกลงมาในแนวกวาดล้าง พวกเขาหนีไม่พ้นแม้แต่นิด วินาทีนั้น ฟู่เฉินหวนบังอยู่หลังลั่วชิงยวน เขากำลังจะหลบ เสาไม้กระแทกกับท้ายทอยของเขาเสียก่อน จนเกิดเป็นเสียงดังต่ำ ๆ “ท่านอ๋อง!” หัวใจของลั่วชิงยวนสั่นคลอน วินาทีต่อมา ทั้งคู่ถูกเสาไม้กระแทกจนล้มลงกับพื้น ฟู่เฉินหวนทับอยู่บนตัวลั่วชิงยวน และเสาไม้ต้นนั้นกำลังจะหล่นลงมาอย่างแรงอีกครั้ง สีหน้าของลั่วชิงยวนเปลี่ยนไป นางหนี

Latest chapter

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1324

    คืนต่อมา ลั่วชิงยวนนำรถม้ามาจอดรออยู่มิไกลจากหน้าประตูคฤหาสน์ตระกูลมู่ตามเวลา แล้วกำชับโฉวสือชีให้ดูแลรถม้าจากนั้นก็แอบเข้าไปในคฤหาสน์ตระกูลมู่เพื่อรับมู่หยวนหยวนมู่หยวนหยวนได้ทิ้งจดหมายไว้หนึ่งฉบับ ในจดหมายเขียนว่า นางมิต้องการอยู่ในคฤหาสน์อีกต่อไป และแสดงเจตจำนงว่ามิต้องการเข้าวังด้วยจากนั้นก็แอบมารอคอยลั่วชิงยวนอยู่ตรงมุมกำแพงอย่างเงียบเชียบเนื่องจากคำพูดของเวินซินถงที่บอกแก่นายท่านมู่ นายท่านมู่จึงให้ความสำคัญอย่างมาก เขาเพิ่มผู้คุ้มกันมากมายที่ด้านนอกเรือนของมู่หยวนหยวนลั่วชิงยวนใช้เวลาอยู่สักพักจึงสามารถแอบเข้าไปยังมุมด้านนอกเรือนของมู่หยวนหยวนได้“ท่านมาแล้ว” มู่หยวนหยวนตื่นเต้นยิ่งนักลั่วชิงยวนทำท่าให้เงียบ จากนั้นมอบอาภรณ์บุรุษให้นาง “รีบใส่เสีย ข้าจะได้พาเจ้าไป”มู่หยวนหยวนรีบเปลี่ยนชุดทันใดลั่วชิงยวนพานางปีนข้ามกำแพงท่ามกลางความมืด หลบหลีกผู้คุ้มกันที่เดินตรวจตรา แล้วหลบหนีออกจากคฤหาสน์ตระกูลมู่จนกระทั่งมาถึงมุมถนนก็รีบขึ้นรถม้ามู่หยวนหยวนยังคงมองกลับไปด้วยความหวาดหวั่น เมื่อรถม้าเคลื่อนตัวไปยังประตูเมือง ในใจของนางก็บังเกิดความคาดหวัง“พวกเราจะออกไปได้แ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1323

    “เรื่องอันใด?”ลั่วชิงยวนเอ่ยถึงเรื่องสำคัญ “บอกภายนอกไปว่าเจ้าแก้ไขปัญหาของตระกูลมู่ครั้งนี้ได้ และยังแก้ปัญหาเรื่องสำนักเทียนฉยงได้ด้วย ข้าจะมิแย่งความดีความชอบกับเจ้า”“และจะมิเปิดเผยความจริงให้คนอื่นรู้”เมื่อได้ยินดังนั้น เวินซินถงก็ตกตะลึง พลันมองนางด้วยความมิอยากจะเชื่อลั่วชิงยวนกล่าวต่อ “แต่ข้าต้องการให้เจ้าช่วยเหลือ”“ข้าต้องการส่งมู่หยวนหยวนออกจากเมืองหลวง ออกไปจากตระกูลมู่”“นี่เป็นสิ่งที่ข้ารับปากนางไว้”“เลยต้องการความช่วยเหลือจากเจ้า”เมื่อเวินซินถงได้ฟังดังนั้นก็ยิ่งตกตะลึง จากนั้นก็ถามว่า “นี่คือวิธีที่ท่านแก้ปัญหาเรื่องสำนักเทียนฉยงหรือ? ท่านทราบความจริงแล้วหรือ?”นี่แหละคือวิถีของศิษย์พี่น่าเสียดายที่นางไม่มีความสามารถแข็งแกร่งเท่าศิษย์พี่ จึงทำให้นางมีไม่มีความกล้าหาญเช่นนี้“ใช่” ลั่วชิงยวนมิได้ปิดบัง“บางครั้งการใช้กำลังก็มิสามารถแก้ไขปัญหาได้ทั้งหมด ท้ายที่สุดแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้ารับประกันว่าตนเองจะชนะหรือพ่ายแพ้”“โดยเฉพาะกับสิ่งที่ร้ายกาจอย่างสำนักเทียนฉยง หากถูกพวกมันตามรังควานก็ต้องเจอไปชั่วชีวิต และการรับมือกับพวกมันจะยิ่งยากขึ้น”ลั่วชิงยวนกำชั

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1322

    เวินซินถงมองคนตรงหน้าด้วยความตกใจร่างทั้งร่างแข็งทื่อไปหมด“เจ้ารู้ได้อย่างไร...”ดวงตาลั่วชิงยวนฉายแววเย็นชา “เข้าไปคุยกัน”เวินซินถงตะลึงงัน มือที่กำลังบีบคอลั่วชิงยวนค่อย ๆ คลายออกจากนั้นก็ลุกขึ้นยืนลั่วชิงยวนก็พลิกตัวลุกขึ้นตามเซี่ยหลิงที่อยู่ข้าง ๆ เห็นดังนั้นก็อดมิได้ที่จะขมวดคิ้ว มองไปยังเวินซินถง “ท่านนักบวชระดับสูง!”เขาต้องการเตือนท่านนักบวชระดับสูงว่าอย่าใจอ่อนเวินซินถงกล่าวอย่างเย็นชา “ข้ามีเรื่องจะถามนาง”“พวกเจ้ามิต้องตามมา”กล่าวจบ นางก็พาลั่วชิงยวนเข้าไปในห้องเพียงลำพังหลังจากปิดประตูแล้วเวินซินถงก็มองนางด้วยสายตาหวาดระแวง “เจ้าได้ยินชื่ออาถังมาจากที่ใด”นี่เป็นชื่อที่ศิษย์พี่ตั้งให้นาง มีเพียงศิษย์พี่และท่านอาจารย์เท่านั้นที่เคยเรียกนางด้วยชื่อนี้แล้วลั่วชิงยวนได้ยินมาจากที่ใด?ลั่วชิงยวนตัดสินใจตั้งแต่วินาทีที่เอ่ยชื่อนี้ออกมานางมิอาจควบคุมเวินซินถงได้จริง ๆ แต่ลั่วเหลาทำได้!วันนี้เวินซินถงตั้งใจจะสังหารนาง จนถึงกับสังหารคนไปก่อนแล้วสองชีวิตแต่นางมิเพียงแต่จะตายมิได้เท่านั้น ยังต้องทำตามที่รับปากฉีหงและมู่หยวนหยวนไว้ให้สำเร็จด้วยมีเพียงต้

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1321

    “ลั่วชิงยวน!” เวินซินถงเดือดดาลยิ่งนักนางยกมือขึ้นตบลั่วชิงยวนลั่วชิงยวนถอยหลังในทันที แล้วยกมือขึ้นป้องกัน ต่อสู้กับเวินซินถงหลายกระบวนท่าทันใดนั้นเซี่ยหลิงก็พุ่งเข้ามาพร้อมกับเหล่าผู้คุ้มกันที่เข้ามาล้อมไว้ลั่วชิงยวนต่อต้านอย่างสุดกำลัง ต่อสู้กันอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็ถูกเวินซินถงกดไหล่จับตัวไว้ได้อย่างแน่นหนา“วันนี้มิว่าอย่างไรข้าก็จะมิปล่อยเจ้าไป! ต่อให้เฉินชีมาก็ไร้ประโยชน์!”“เซี่ยหลิง ลงมือ!”เวินซินถงออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงเย็นชาลั่วชิงยวนหัวเราะเยาะ “ปากท่านนักบวชระดับสูงบอกว่ามิกลัวเฉินชี เหตุใดจึงให้เซี่ยหลิงลงมือ หากข้าตาย เฉินชีจะได้มาแก้แค้นเซี่ยหลิง มิแก้แค้นท่านใช่หรือไม่?”คำพูดนี้ทำให้สีหน้าของเวินซินถงและเซี่ยหลิงแปรเปลี่ยนไปเวินซินถงเหมือนถูกเปิดโปง คว้าคอนางอย่างแรงด้วยความเดือดดาล “ดี หากเจ้าอยากตายด้วยน้ำมือข้า ข้าก็จะสนองให้!”เวินซินถงบีบคอลั่วชิงยวนอย่างแรงเส้นเลือดที่หน้าผากลั่วชิงยวนปูดโปน ความรู้สึกหายใจมิออกทำให้นางตาแดงก่ำนางจับมือของเวินซินถงไว้แน่น แล้วกัดฟันออกแรงเหวี่ยงเวินซินถงลงกับพื้นลั่วชิงยวนมิลังเล กระโจนเข้าไปคร่อมเวิ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1320

    ลั่วชิงยวนไปหาโฉวสือชี ให้เขาจัดเตรียมรถม้าและสิ่งของจำเป็นสำหรับการเดินทางอีกทั้งยังวางแผนเส้นทาง หลังจากออกจากเมืองหลวงแล้วควรไปที่ใด จึงจะสามารถหลบหนีการติดตามของคนตระกูลมู่ได้ดีที่สุดหลังจากจัดการเรียบร้อยแล้ว ลั่วชิงยวนก็กลับไปยังบ้านตระกูลมู่และตอนนี้ผู้ที่รอคอยอยู่ในเรือนก็คือเวินซินถงและเซี่ยหลิงอีกทั้งยังมีผู้คุ้มกันอีกหลายสิบคนเวินซินถงนั่งอยู่บนเก้าอี้ เอ่ยปากอย่างเย็นชาด้วยท่าทางทรงอำนาจ “ถึงเวลาที่จะต้องทำตามสัญญาแล้ว”ลั่วชิงยวนชะงักเล็กน้อย มิเข้าใจความหมายของเวินซินถงนางกล่าวอย่างเย็นชา “ในเมื่อท่านนักบวชระดับสูงมาถึงที่นี่แล้ว ก็น่าจะเห็นว่าปัญหาของตระกูลมู่ได้รับการแก้ไขแล้ว”“ไม่มีคนของสำนักเทียนฉยงแล้ว”“หากจะต้องทำตามสัญญา ก็ควรเป็นท่านนักบวชระดับสูงที่ต้องทำตาม”“เหตุใดจึงทำราวกับจะลงโทษข้า?”เวินซินถงลุกขึ้นจากเก้าอี้ หัวเราะเบา ๆ “ใช่ สำนักเทียนฉยงไม่มีแล้ว”“แต่ข้าเป็นคนทำ เจ้ามีส่วนเกี่ยวข้องอะไร?”เวินซินถงยกยิ้มอย่างเย็นชา สายตาเย็นเยียบมองลั่วชิงยวน ในดวงตายังมีรอยยิ้มเมื่อคำพูดนี้หลุดออกมา ลั่วชิงยวนก็ตกตะลึงนางคาดมิถึงว่าเวินซินถงจะ

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1319

    “อีกอย่างคือสำนักเทียนฉยงก็ไม่ใช่พวกดีอะไร หากมู่หยวนหยวนข้องแวะกับสำนักเทียนฉยงจะมีจุดจบเช่นไร เจ้าต้องคิดให้ดี”ลั่วชิงยวนอยากช่วยเหลือพวกเขาแต่สำหรับสถานการณ์ของฉีหง นางก็ไร้ความสามารถเขาใช้ตัวเขาเองเป็นเครื่องสังเวย หลอมรวมเข้ากับวงแหวนแห่งเวท เมื่อออกจากสภาพแวดล้อมนี้ พลังก็จะอ่อนแอลงมากมู่หยวนหยวนกลับยกยิ้มแล้วกล่าวว่า “ข้าสามารถปกป้องตนเองได้”“และจะปกป้องเขาด้วย”เมื่อเห็นสายตาแน่วแน่และเปี่ยมด้วยความหวังของมู่หยวนหยวน ลั่วชิงยวนก็สะเทือนใจบางทีเพียงแค่ได้อยู่กับคนที่รัก อุปสรรคใด ๆ ก็มิน่าหวาดกลัวนี่ทำให้ลั่วชิงยวนเจ็บปวดใจอดมิได้ที่จะนึกถึงฟู่เฉินหวนสุดท้ายแล้วเขากับนางก็ดูเหมือนจะไม่มีจุดจบที่ดี หรือว่ามิควรพบเจอกันตั้งแต่แรกเริ่มกันแน่ ช่างเป็นโชคชะตาที่เล่นตลกมิให้พวกเขาอยู่ด้วยกัน แต่กลับจัดให้พวกเขาได้พบกันเมื่อได้สติ ลั่วชิงยวนก็ข่มความเจ็บปวดในใจ และกล่าวกับฉีหง “เจ้าต้องออกจากคฤหาสน์ตระกูลมู่ไปก่อนสองวัน เพื่อให้แน่ใจว่าที่นี่ไม่มีสิ่งชั่วร้ายอยู่ที่นี่อีก”“ข้าจะให้คนไปเตรียมรถม้าและอาหาร สองวันให้หลัง ข้าจะส่งมู่หยวนหยวนออกจากเมือง”“เส้นทาง

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1318

    “ข้ามิได้เห็นแก่ตัวแล้วต้องการครอบครองนางแต่เพียงผู้เดียว และมิได้มิคำนึงถึงชื่อเสียงของนางแล้วจะพานางหนีตามไป”“แต่เป็นเพราะหวงกุ้ยเฟยในวังได้ส่งมือสังหารมาลอบสังหารนางตั้งแต่ก่อนหน้านี้แล้ว”“แต่ถึงแม้บิดาของนางจะเห็นหลักฐานที่ข้ามอบให้ก็ยังมิยอมเชื่อ ยืนกรานที่จะให้นางเข้าวังไปเสี่ยงชีวิต เพื่อแสวงหาสิ่งที่เลื่อนลอยเพื่อตระกูล”ลั่วชิงยวนจดสิ่งที่ฉีหงพูดลงบนกระดาษทีละคำขณะที่ให้มู่หยวนหยวนดูก็ถามว่า “เจ้าเป็นคนของสำนักเทียนฉยงหรือ?”ฉีหงตอบ “มิใช่”“ข้าถูกบีบคั้นจนไร้ทางออก สุดท้ายจึงจำต้องเข้าร่วมสำนักเทียนฉยง มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นจึงจะสามารถปกป้องหยวนหยวนได้”“คนที่ข้าสังหาร ไม่มีผู้ใดบริสุทธิ์สักคน”“พวกเขาปลอมแปลงข่าวสาร หลอกลวงหยวนหยวนและหลอกลวงข้า”“เมื่อวางวงแหวนแห่งเวทแล้ว หยวนหยวนออกไปมิได้ พวกเขาก็พยายามหาทางนำหยวนหยวนออกไปเพื่อส่งเข้าวัง”“ข้าทำได้เพียงเท่านี้ สังหารคนตระกูลมู่ให้สิ้น หยวนหยวนจึงจะเป็นอิสระ”“แต่ข้าคาดมิถึงว่า พวกเขาจะเชิญนักบวชระดับสูงมา”“นักบวชระดับสูงไร้ความสามารถ กลับเป็นเจ้าที่มองทะลุภาพลวงตาได้!”เมื่อกล่าวจบ ฉีหงก็ข่มขู่ “หากเจ้าคิด

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1317

    นางค่อย ๆ เดินเข้าไปหา น้ำตาไหลรินอาบแก้มนางตระหนักได้แล้วว่าคำพูดของลั่วชิงยวนหมายถึงอะไรเขามาแล้ว แต่นางมองมิเห็น เช่นนั้นก็แสดงว่าเขาตายไปแล้ว“เหตุใด? หากเจ้าต้องการสังหารข้า ข้าก็ยอมตาย”“เหตุใดจึงต้องใช้วิธีเช่นนี้?”มู่หยวนหยวนพูดกับอากาศตรงหน้า น้ำตาไหลรินมิหยุดฉีหงขมวดคิ้วมุ่น มองสตรีอันเป็นที่รักตรงหน้า เขาอ้าปากแต่กลับมิเอ่ยคำใดออกมาเพราะนางมิได้ยินลั่วชิงยวนมองภาพนี้เงียบ ๆ แล้วเอ่ยขึ้นช้า ๆ “เจ้ามิได้ต้องการสังหารนางใช่หรือไม่”เมื่อได้ยินดังนั้น ฉีหงก็หันมามองลั่วชิงยวน ดวงตาฉายแววมุ่งสังหารในทันที“ใช่ คนที่ข้าต้องการสังหารคือเจ้า!”“คือพวกเจ้าทุกคน!”ฉีหงยกกระบี่ขึ้นอีกครั้ง ฟันไปยังวงแหวนแห่งเวทอย่างแรงหมายจะฝ่าออกมาท่าทางที่เปี่ยมไปด้วยจิตสังหารนั้นทำให้ผู้คนรู้สึกหวาดกลัวลั่วชิงยวนหรี่ตาลง ในที่สุดเขาก็เอ่ยปากพูดแล้วนางมิตื่นตระหนก นางเดินไปอยู่ด้านหลังมู่หยวนหยวนแล้วใช้กริชจ่อที่คอของมู่หยวนหยวนสายตามองฉีหง “หากเจ้าต้องการสังหารข้า เช่นนั้นข้าก็จะสังหารนางก่อน!”มู่หยวนหยวนตัวสั่นสะท้านลั่วชิงยวนกำลังพูดกับฉีหงอยู่หรือ?ฉีหงเห็นภาพนี้ ดว

  • ยอดหญิงแห่งเทียนเชวีย   บทที่ 1316

    มู่หยวนหยวนกลั้นหายใจด้วยความตื่นตระหนกในทันทีลั่วชิงยวนตบไหล่นางเบา ๆ เป็นเชิงบอกให้นางอย่าหวาดกลัว จากนั้นก็ค่อย ๆ ออกไปทางหน้าต่าง แล้วอ้อมมาด้านหน้าจึงเห็นเจ้ายักษ์ที่ถือกระบี่ตนนั้นอีกครั้งท่าทางดุดัน ดวงตาสีแดงก่ำกำลังสอดส่องหาบางสิ่งผ่านช่องว่างลั่วชิงยวนวางวงแหวนแห่งเวทในทันที คราวนี้จะพ่ายแพ้ให้มันอีกมิได้!เมื่อรับรู้ถึงอันตรายที่ใกล้เข้ามา เจ้ายักษ์นั่นก็หันกลับไปในทันทีและเห็นลั่วชิงยวนพลันยกกระบี่ยาวหลายเมตรขึ้น ฟาดลงมายังศีรษะของลั่วชิงยวนอย่างแรงลั่วชิงยวนสีหน้าแปรเปลี่ยน วงแหวนแห่งเวทยังมิเสร็จสมบูรณ์ ไร้ที่หลบนางหยิบเข็มทิศอาณัติสวรรค์ขึ้นมา ยกแขนขึ้นต้านรับกระบี่นี้ขณะนั้นเอง มู่หยวนหยวนก็วิ่งออกจากห้องด้วยความตื่นตระหนก มองไปรอบ ๆ พลางตะโกนเรียก “ฉีหง!”“เจ้าออกมานะ!”“เรามาพูดคุยกันดี ๆ เจ้าให้ข้าทำอะไรก็ได้ อย่าทำร้ายผู้บริสุทธิ์อีกเลย!”ในเวลานี้เอง เจ้ายักษ์นั่นก็หยุดมือลงในทันทีกระบี่ยาวคมกริบค้างอยู่เหนือศีรษะของลั่วชิงยวน แต่กลับมิตกลงมาลั่วชิงยวนเห็นดวงตาสีแดงก่ำของเจ้ายักษ์ซึ่งอยู่ตรงหน้าเหมือนจะกลับมาเป็นตาปกติกลิ่นอายชั่วร้ายทั่วร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status