All Chapters of ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา: Chapter 1831 - Chapter 1840

1886 Chapters

บทที่ 1831

จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมิเชื่อว่าหลิงอวี๋จะเป็นฝ่ายวิ่งเข้าหาความตายเสียเอง ทว่าหากตีไปอีกครั้งจริง ๆ แล้วหลิงอวี๋เอาตัวไปเสี่ยงเข้าจริง ๆ จะทำอย่างไรเล่า?นางจะต้องพาหลิงอวี๋ไปที่ภูเขาศักดิ์สิทธิ์แบบที่ยังมีชีวิตอยู่ จึงจะนำหยกหล้าสุขาวดีออกมาจากร่างของนางได้ หากว่าหลิงอวี๋ตายไป เช่นนั้นแล้วศพนั้นก็จะไม่มีประโยชน์ใด ๆ สำหรับตน“นางสารเลว เจ้ายังกล้ามาขู่ข้าอีกรึ!”ใจของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้โอนอ่อนลงแล้ว แต่ปากยังมิยอมแสดงให้เห็นว่าตนด้อยกว่า นางดึงมือหลิงอวี๋อย่างแรงและเตะออกไป“หากเจ้าอยากตายก็เชิญไปตายเสีย! อย่างมากข้าก็มิเอาของสิ่งนั้นแล้ว แต่ข้าจะมิยอมให้คนชั้นต่ำเช่นเจ้ามาทำตัวไร้มารยาทกับข้าเป็นอันขาด!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยเหยียบลงไปบนใบหน้าหลิงอวี๋อย่างรุนแรง จากนั้นก็อาศัยความได้เปรียบของตนถอยออกไป“ตอนนี้เราอยู่ห่างจากเมืองหลวงแดนเทพหนึ่งพันกว่าลี้ เจ้ารีบรักษาตัวให้หายโดยเร็ว เราต้องรีบไปที่เมืองหลวงแดนเทพ!”จ้าวหรุ่ยหรุ่ยจ้องมองหลิงอวี๋อย่างโหดเหี้ยม จากนั้นจึงเปิดประตูให้เสี่ยวเอ้อร์ยกอาหารเข้ามาแม้ว่าหลิงอวี๋จะโดนเตะไปแล้วสองครั้ง แต่กลับมองท่าทีข่มขู่ของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยออก นางกำลังก
Read more

บทที่ 1832

จ้าวหรุ่ยหรุ่ยอยู่ในรถม้าข้างหน้า เมื่อนางได้ยินคำพูดของหลิงอวี๋เข้า สีหน้าของนางก็มืดมนลง นางกำลังคิดว่าจะออกไปห้าม แต่ก็คิดว่าหากหัวหน้าสำนักคุ้มภัยป่วยหนักขึ้นมา ก็จะส่งผลกระทบต่อแผนการเดินทางได้ นางจึงอดทนไว้ก่อนถึงอย่างไรตัวตนของหลิงอวี๋ในตอนนี้ก็เป็นนางรับใช้ของตน ดังนั้นแม้ว่าต่อให้นางรักษาหัวหน้าสำนักคุ้มภัยจนหายได้ ความดีความชอบก็จะตกเป็นของตนอยู่ดีจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเลิกม่านรถม้าขึ้น แล้วเอ่ยอย่างใจดี “อวี้หนู เจ้าไปตรวจให้เขาเถิด! การช่วยชีวิตคนหนึ่งคนดีเสียยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นอีก เรามิควรนิ่งดูดาย!”หลิงอวี๋มิได้ใส่ใจเรื่องที่จ้าวหรุ่ยหรุ่ยขโมยความดีความชอบไป จุดประสงค์ของนางก็คือต้องการที่จะใช้โอกาสนี้สั่งยาให้หัวหน้าสำนักคุ้มภัย แล้วหาเครื่องสมุนไพรที่ใช้ป้องกันตัวหลิงอวี๋ลงจากรถม้าแล้วเดินเข้าไปวัดชีพจรของหัวหน้าหม่า จากนั้นก็สั่งยาและให้หม่าเปียวส่งผู้คุ้มกันคนหนึ่งไปซื้อเครื่องยาสมุนไพรมาจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเองก็เป็นคนเจ้าแผนการเช่นกัน มีหรือที่นางจะไว้ใจหลิงอวี๋ นางจึงอ้างว่าจะช่วยหลิงอวี๋ตรวจสอบดูว่ามีคำใดเขียนผิดหรือไม่ จากนั้นก็นำตำรับยาไปตรวจสอบอย่างละเอียด
Read more

บทที่ 1833

ทั้งกลุ่มเดินทางกันต่อไป และในที่สุดพลบค่ำของสองวันต่อมาพวกเขาก็มาถึงที่เมืองจงกวนกันแล้วเมืองจงกวนแห่งนี้ใหญ่โตมาก แม้จะเป็นตอนพลบค่ำแล้วแต่ที่ประตูเมืองก็ยังคงมีผู้คนสัญจรไปมาทุกคนอยู่กันที่ประตูเมืองเกือบหนึ่งชั่วยาม กระทั่งจัดการหนังสือผ่านแดนเสร็จเรียบร้อย จึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปในเมืองได้หลิงอวี๋กับป้าวซวนพยายามที่จะควบคุมความรู้สึกตื่นเต้นของพวกนางเอาไว้ พวกนางวางแผนที่จะหลบหนีกันในวันพรุ่งนี้คืนนี้เป็นวันที่สิบแล้วที่ป้าวซวนกินยาพิษของจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเข้าไป และจ้าวหรุ่ยหรุ่ยก็จะให้ยาแก้พิษกับนางหลิงอวี๋บอกป้าวซวนว่า เมื่อรับยาแก้พิษมาแล้วมิต้องรีบกิน ให้กินยาลงไปเล็กน้อย เพื่อที่ตนจะได้ตรวจสอบสูตรยา และจะได้เตรียมยาแก้พิษให้นางด้วยป้าวซวนเชื่อฟังและทำตามคำพูดของหลิงอวี๋ ในคืนนั้นจึงรบเร้าให้จ้าวหรุ่ยหรุ่ยมอบยาแก้พิษแก่นาง เมื่อตอนเข้าพักที่โรงเตี๊ยมแล้วเมื่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยเห็นว่านางมีท่าทางกลัวตายเช่นนั้น นางจึงให้ยาแก้พิษไปอย่างอารมณ์มิดีนักป้าวซวนกินยาแก้พิษเข้าไปต่อหน้าจ้าวหรุ่ยหรุ่ย แต่กลับอมเอาไว้ในปาก มิได้กลืนยาลงไป กระทั่งตอนที่นางไปเข้าห้องน้ำ นางจึงกัดยา
Read more

บทที่ 1834

“เจ้ามิรู้หรือว่าที่ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด?”หลิงอวี๋ยิ้มปลอบใจแล้วเอ่ยออกมา “เรากลับไปที่โรงเตี๊ยม ก็จะดูได้ด้วยว่าเมื่อจ้าวหรุ่ยหรุ่ยหาพวกเรามิเจอแล้วนางจะทำอย่างไรต่อ! เจ้ามิต้องกังวล มากับข้าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างแน่นอน!”ภายใต้การชักชวนของหลิงอวี๋ ป้าวซวนจึงเดินตามหลิงอวี๋กลับไปอย่างจนใจทั้งสองคนเดินเข้าไปทางประตูหลัก แสร้งทำเป็นจะรีบเดินทางแล้วมากินอาหารเช้า และนั่งลงตรงที่นั่งริมหน้าต่างจ้าวหรุ่ยหรุ่ยที่อยู่เรือนด้านหลังพบแล้วว่าหลิงอวี๋กับป้าวซวนหายไป นางก็โกรธมากจนอยากจะทุบโรงเตี๊ยมแห่งนี้ทิ้งไปเสียแต่นางยังคงข่มความโกรธไว้ และขอความช่วยเหลือจากสำนักคุ้มภัยและกลุ่มพ่อค้าอย่างน่าสงสาร ให้พวกเขาช่วยตนตามหาจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแสร้งทำเป็นจิตใจดีต่อหน้าคนเหล่านี้ นางร้องไห้และบอกว่านางรับใช้ทั้งสองของตนนั้น จะต้องถูกคนร้ายลักพาตัวไปอย่างแน่นอนพวกพ่อค้าและคนจากสำนักคุ้มภัยล้วนได้รับตำรับยาแก้ท้องเสียนั้นไปแล้ว ดังนั้นเพื่อตอบแทนกันและกัน พวกเขาจึงระดมทุกคนให้ช่วยกันตามหา และบางคนก็บอกว่าจะไปรายงานทางการ และขอให้ทางการส่งคนมาช่วยตามหาด้วยหลิงอวี๋กับป้าวซวนก็
Read more

บทที่ 1835

หม่าเปียวตอบตกลงทันที กระทั่งกินบะหมี่เสร็จแล้วเขาก็พาคนของตนกับกลุ่มพ่อค้าออกเดินทางไปหลิงอวี๋กับป้าวซวนเห็นว่า จ้าวหรุ่ยหรุ่ยพาผู้คุ้มกันทั้งสองออกไปตามหาพวกตนอีกครั้งแล้ว ดังนั้นพวกนางจึงกินอาหารเช้าจนเสร็จอย่างใจเย็นแล้วเดินออกมา“น้องหญิง เราหาที่พักกันก่อนสักสองวันเถิด เช่นนี้แล้วข้าจะได้จัดเตรียมยาแก้พิษให้เจ้าได้ และอีกอย่างคือข้าจะได้ซ่อนตัวจากจ้าวหรุ่ยหรุ่ยได้ด้วย!”“หากจ้าวหรุ่ยหรุ่ยหาพวกเรามิพบ นางก็คงจะไปที่เมืองหลวงแดนเทพ แล้วพวกเราค่อยออกเดินทางล่าช้าไปสักสองสามวัน ก็คงจะมิพบนางอีก!”หลิงอวี๋จับเศษเงินใต้แขนเสื้อ ของมีค่าทั้งหมดที่นางพกติดตัวมา ถูกจ้าวหรุ่ยหรุ่ยแย่งชิงไปจนหมดแล้ว เหลืออยู่เพียงเศษเงินมิกี่ตำลึงเท่านั้น นางยังต้องทำงานหาเงินอีก เมื่อเก็บรวบรวมค่าเดินทางได้แล้ว จึงจะสามารถเดินทางได้ป้าวซวนไม่มีของมีค่าอะไรติดตัวมาเลย และหากทั้งสองจะเดินทาง เมื่อไม่มีเงินก็ไม่มีทางไปถึงเมืองหลวงแดนเทพได้แน่ตอนนี้ป้าวซวนทำได้เพียงติดตามหลิงอวี๋ไปเท่านั้น หลิงอวี๋ว่าอย่างไรก็ว่าตามนั้นทั้งสองแสดงเป็นพี่น้องที่หนีภัยกันมาแล้วไปหาที่พักอาศัยแต่เมืองจงกวนนั้นใหญ่นัก
Read more

บทที่ 1836

“น้องหญิง มีคนกำลังมา!”หลิงอวี๋รีบลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว ป้าวซวนก็มิได้หลับเช่นกันจึงรีบลุกขึ้นนั่ง แล้วเอ่ยถามด้วยความกังวล “พี่หญิงเจียง จะเป็นจ้าวหรุ่ยหรุ่ยมาตามหาเราหรือไม่?”สิ่งที่นางกลัวมากที่สุดคือการตกไปอยู่ในมือของจ้าวหรุ่ยหรุ่ย“น่าจะมิใช่!”หลิงอวี๋เอ่ยเสียงเบาอย่างปลอบใจ จากนั้นนางก็ย่องไปที่ข้างหน้าต่าง อาศัยแสงจันทร์มองไป ก็เห็นร่างหนึ่งเดินโซเซเข้ามาในลานคนผู้นี้ดูเหมือนจะใช้แรงจนหมด จึงล้มลงกับพื้นอย่างเสียงดังโครม“พี่หญิงเจียง นั่นคือใครกัน?”ป้าวซวนก็ขยับเข้ามาข้าง ๆ หลิงอวี๋เช่นกัน แล้วนางก็มองออกไปอย่างอยากรู้อยากเห็น“อย่าพูด...”หลิงอวี๋เงียบลง จากนั้นทั้งสองคนก็โน้มตัวมองไปตรงหน้าต่างอย่างเงียบ ๆแล้วก็เห็นเพียงว่าคนที่อยู่ตรงพื้นนั้นไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆหลิงอวี๋รออยู่อีกสักพักก็มิเห็นใครตามมา นางจึงพาป้าวซวนเดินออกมา“น้องหญิง เจ้าออกไปดูนอกวัดว่ามีคนอื่นหรือไม่ ส่วนข้าจะตรวจคนผู้นี้เสียหน่อย!”หลิงอวี๋สั่งออกไปแม้ว่าป้าวซวนจะกลัว แต่นางก็ยังคงฟังคำพูดของหลิงอวี๋ แล้วเดินย่องออกไปหลิงอวี๋วิ่งเข้าไปหาคนที่นอนอยู่ตรงพื้น จากนั้นก็อาศัยแสงจั
Read more

บทที่ 1837

หมอเถาถอนหายใจออกมา แล้วโบกมือ “มิต้องพูดแล้ว ไปเถิด ๆ! หากข้าผ่านเรื่องนี้ไปได้อย่างปลอดภัย ในภายหน้าโรงฮุ่ยเฉ่าก็คงจะได้เปิดขึ้นอีกครั้ง ถึงเวลานั้นพวกเจ้าอยากจะกลับมาก็ค่อยกลับมากันเถิด!”หลังจากนั้นมินาน ลูกจ้างหนุ่มหลายคนก็เดินหอบห่อผ้าเข้าไปกล่าวลาหมอเถาทีละคนทั้งน้ำตาและเดินออกมาหลิงอวี๋รีบเดินเข้าไป จากนั้นเสี่ยวซิ่งลูกจ้างหนุ่มที่ยังมิไปก็เห็นนางเข้าจึงเอ่ย “ฮูหยิน ร้านเราปิดแล้ว หากท่านอยากจะตรวจรักษาก็ไปที่ร้านอื่นเถิด!”“ข้าต้องการยา!”หลิงอวี๋เอ่ยออกมาอย่างรวดเร็วขณะที่เสี่ยวซิ่งกำลังจะพูดออกมา หมอเถาก็เอ่ย “เจ้าดูว่านางต้องการเครื่องยาสมุนไพรอันใด แล้วมอบให้นางไปเสียเถิด โรงฮุ่ยเฉ่าปิดแล้ว นางเป็นลูกค้ารายสุดท้าย ก็ถือได้ว่านางมีโชคชะตากับข้า!”เสี่ยวซิ่งจึงยื่นมือออกไป “ใบเทียบยาเล่า?”“ข้าไม่มีใบเทียบยา ข้าจะบอกให้เอง เจ้าแค่ใส่มาตามปริมาณที่ข้าบอกก็พอ!”หลิงอวี๋รีบบอกเครื่องยาสมุนไพรที่ต้องการออกไป แล้วเสี่ยวซิ่งก็วางห่อผ้าลง จากนั้นก็ไปเปิดกล่องและตู้เพื่อช่วยหยิบยาให้หลิงอวี๋หลิงอวี๋เห็นว่าเครื่องยาสมุนไพรเหล่านั้นเหลืออยู่มิมาก และบางอันก็ถูกห่อเอาไว้แล้
Read more

บทที่ 1838

ท้องใหญ่เท่ากลองเลยหรือ?เมื่อหลิงอวี๋ฟังหมอเถาเล่าถึงอาการป่วยของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อเสร็จแล้ว ในหัวของนางก็มีวิธีรักษาเกี่ยวกับโรคประเภทนี้หลายวิธีผุดขึ้นมาอย่างรวดเร็วเพียงแต่หากมิได้พบผู้ป่วย ก็มิสามารถยืนยันได้ว่าควรใช้วิธีไหนดี“หมอเถา วันพรุ่งท่านจะไปที่จวนข้าหลวงเก๋อเมื่อใดหรือ?”หลิงอวี๋เอ่ยถามออกมา“ก่อนยามเหม่า[footnoteRef:0]!” [0: ยามเหม่า คือ ช่วง 05.00 - 07.00 น.] หมอเถามองหลิงอวี๋อตาปริบ ๆ “แม่นาง เจ้ามีวิธีรักษาโรคประหลาดเช่นนี้นี้หรือ?”หลิงอวี๋ยิ้มออกมา “ก็มีวิธีอยู่ ทว่าหากยังมิพบผู้ป่วยก็มิอาจตัดสินได้ว่าใช้ได้จริงหรือไม่! หมอเถา วันพรุ่งตอนยามอู่[footnoteRef:1]ข้าจะมาหาท่าน แล้วไปที่ตระกูลเก๋อพร้อมกับท่าน!” [1: ยามอู่ คือ ช่วง 11.00 - 13.00 น.] เมื่อหมอเถาได้ยินดังนั้นก็รู้สึกมีความหวังขึ้นมา แม้ว่าจะมีความสงสัยอยู่ในใจว่า วัยรุ่นเช่นหลิงอวี๋นี้สามารถรักษาโรคของฮูหยินผู้เฒ่าเก๋อได้หรือไม่ แต่ตนก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วถึงอย่างไรก็ต้องตายอยู่แล้ว ลองดูสักหน่อยก็ไม่มีอะไรเสียหาย“แม่นาง เจ้าวางใจเถิด หากเจ้ามิอาจรักษาได้ ต่อให้ข้าต้องทุ่มทั้งชีวิต ข้าก็จ
Read more

บทที่ 1839

“ท่านอา...”“ท่านพ่อ…”บุรุษผู้นั้นมีไข้สูงและพูดเพ้อออกมา หลิงอวี๋เห็นว่าใบหน้ารูปงามของเขาขมวดคิ้วมุ่น ดูท่าทางเจ็บปวด ราวกับว่าในฝันเกิดเรื่องอะไรขึ้น ซึ่งทำให้เขารู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อหลิงอวี๋เห็นเหงื่อผุดขึ้นมาที่หน้าผากของเขา นางก็ฉีกอาภรณ์ขาด ๆ ของเขามาทำเป็นผ้าเช็ดเหงื่อให้เขา“อย่า… อย่าทำเช่นนี้กับข้า!”บุรุษผู้ที่มีบาดแผลอยู่ทั่วร่างกายผู้นั้นก็คือ เฉียวไป๋ที่ถูกท่านอาเฉียวพาลงมาจากภูเขาหิมะนั่นเองบนร่างกายของเฉียวไป๋มีบาดแผลอยู่หลายแห่ง ในตอนนั้นเขากำลังรู้สึกสับสน แต่หลังจากที่ค่อย ๆ ฟื้นขึ้นมา เฉียวไป๋ก็จำช่วงเวลาที่ถูกขังอยู่ในค่ายกลได้เขานึกขึ้นได้ว่าตนกับท่านพ่อต่างก็สู้กัน ทั้งยังจำได้ด้วยว่าตนแทงเข้าไปที่ท้องของท่านพ่อเฉียวไป๋กังวลใจขึ้นมาทันที จากนั้นเขาก็คว้าตัวท่านอาเฉียวไว้แล้วตะโกนออกมา “ท่านอา ข้า... ข้า... ข้าสังหารท่านพ่อใช่หรือไม่?”นี่มันเป็นการปิตุฆาต!เฉียวมองท่านอาเฉียวตาปริบ ๆ หวังว่าท่านอาเฉียวจะตอบปฏิเสธในคำถามของตนแต่ไหนเลยจะรู้ว่าท่านอาเฉียวจะมองเขา แล้วผ่านไปสักพักเขาก็พยักหน้าหัวใจของเฉียวไป๋จมดิ่งลงไปทันที เขาถอยหลังไปสองสามก้าว
Read more

บทที่ 1840

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา เฉียวไป๋ก็ซ่อนตัวจากท่านอาเฉียว และมิสนใจอาการบาดเจ็บของตนเลยแม้แต่น้อยเขารู้สึกโกรธเคืองตนเอง และคิดเพียงว่าตายไปเช่นนี้ก็จบแล้วต่อมาเขาได้พบกับคนของตระกูลจงเจิ้ง เฉียวไป๋อยากตายจึงไปยั่วยุพวกเขา ผลก็คือถูกอีกฝ่ายทำร้ายจนมีบาดแผลทั่วทั้งตัวและในขณะที่เฉียวไป๋กำลังถูกดูถูกจนถึงขีดสุดนั้น เฉียวไป๋ก็ถูกกระตุ้นให้เกิดความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอดขึ้นมา เขาจึงใช้แรงที่เหลืออยู่ของตนเปิดใช้งานลูกแก้ววิญญาณ เขาจึงถูกส่งกลับมายังแดนเทพอีกทั้งช่างเป็นเรื่องบังเอิญที่เขาตกลงไปในแม่น้ำ และถูกสายน้ำพัดมาถึงแถว ๆ วัดเก่า จึงได้โชคดีพบกับหลิงอวี๋เข้า“ข้ามิได้สังหารท่านพ่อ! ท่านอาโกหกข้า! ท่านมิใช่พ่อของข้า... ท่านมิใช่!”การเพ้อกับฝันร้ายของเฉียวไป๋ทำให้หลิงอวี๋ฟังแล้วก็รู้สึกงุนงง แต่นางจะมิถือว่าการเพ้อของคนที่เป็นไข้เป็นเรื่องจริงหรอกเมื่อเห็นว่าเวลาผ่านไปสองชั่วยามแล้วและอุณหภูมิของเฉียวไป๋ยังมิลดลง หลิงอวี๋จึงให้ยาเขาไปอีกครั้งหนึ่งจากนั้นก็ป้อนยาทุก ๆ สองชั่วโมง จนกระทั่งรุ่งสาง ในที่สุดอุณหภูมิของเฉียวไป๋ก็ลดลงแล้วหลิงอวี๋ถอนหายใจโล่งอกแล้วยื่นมือไปเช็ดเ
Read more
PREV
1
...
182183184185186
...
189
Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status