ภูเมฆาเดินออกจากห้องน้ำมาก็อดแปลกใจไม่ได้ที่เห็นกัญญ์วรานั่งรออยู่ “มารอพี่เหรอ” “ค่ะ” หญิงสาวตอบพลางหันมามองแล้วต้องรีบหันหน้ากลับด้วยความเขินอายเมื่อเห็นว่าชายหนุ่มนั้นนุ่งผ้าเช็ดตัวไว้แค่ผืนเดียวแล้วเขาก็ผูกไว้ต่ำมากจนเธอกลัวว่ามันจะหลุด ภูเมฆากระตุกยิ้มก่อนจะเดินมายืนตรงหน้าหญิงสาว เขาก้มลงมองก็เห็นว่าเธอกำลังอายและหน้าคงจะแดงมากเพราะขนาดใบหูเล็กๆ นั่นยังกลายเป็นสีแดงระเรื่อ “พี่ภูไปแต่งตัวก่อนดีกว่าไหมคะ” “ทำไม ไม่อยากเห็นพี่โป๊เหรอ” “ค่ะ” “ไม่โป๊หรอกครับ แล้วหนูมาหาพี่มีอะไรหรือเปล่า เมื่อกี้เหมือนหนูจะเข้านอนแล้วนะ” เขาอุ้มคนที่เอาแต่ก้มหน้าขึ้นจากเก้าอี้ตัวโตแล้วตัวเองก็นั่งลงไปนั่งแทนแล้วจับให้เธอนั่งอยู่บนตักตะแคงข้างให้เขา “หนูมีของจะให้พี่” “กล่องที่พี่เห็นเมื่อกี้ใช่ไหม” เขาแบมือตรงหน้า “หนูบอกก่อนนะคะว่าของข้างในมันเทียบไม่เลยกับของที่พี่ซื้อให้หนู แต่หนูตั้งใจจะซื้อให้พี่เป็นของขวัญปีใหม่” “แค่หนูซื้อให้พี่ก็ดีใจแล้ว ไหนล่ะขอที่จะให้พี่” กัญญ
คำพูดของชายหนุ่มที่กระซิบอยู่ข้างใบหูราวน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟปรารถนา กองไฟที่ทำให้กัญญ์วราหลอมละลายและจมดิ่งลงไปจนหาทางออกไม่เจอ“ถ้าพี่ภูชอบก็ต้องทำให้หนูร้องแบบนั้นบ่อยๆ สิคะ”“หนูกำลังท้าทายพี่”“หนูเปล่าท้าทายนะคะ ก็แค่อยากจะรู้ว่าพี่ภูจะทำให้หนูร้องจนเสียงแหบหรือเปล่า”หญิงสาวพูดขณะที่มือประคองใบหน้าหล่อนั้นไว้ เธอจ้องตาเขาอย่างท้าทายและนั้นก็ทำให้เขารู้สึกเลยว่าคนนี้คงไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ“หึหึ ถ้าพรุ่งนี้ลุกไม่ขึ้นอย่ามาโทษพี่นะคะ”เขาหัวเราะอย่างชอบใจก่อนจะก้มมาจูบอย่างเร่าร้อนฝ่ามือใหญ่นวดคลึงเต้าคู่งามขณะที่ปากก็จูบเธอไม่ยอมปล่อย ลิ้นหนากวาดต้อนลิ้นเล็กหยอกล้อกันเป็นพัลวัน ขณะที่มือใหญ่ก็ฟอนเฟ้นความนุ่มหยุ่นเพิ่มความเสียวซ่านด้วยการสะกิดเขี่ยปลายถัน กัญญ์วราอ่อนระทวยอยู่บนอาร์มแชร์มือเล็กของเธอลูบไปตามแผ่นหลัง บางครั้งก็บีบที่หัวไหลแรงๆ เพื่อระบายความเสียวซ่านที่มันมากขึ้นจนแทบจะครองสติไม่อยู่ภูเมฆาหลอกล่อเธอด้วยจุมพิตที่เร่าร้อนเพื่อให้เธอเคลิบเคลิ้มก่อนที่จะกดแกนกายเข้าหาเธอทีละนิด“พี่ภู”แม้ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ขนาดของเขานั้นมันไม่ธรรมดาเลยสักนิด หญิงสาวรู้สึกถึ
วันหยุดยาวผ่านไปแล้ว เช้าวันนี้ภูเมฆาเลยตื่นนอนเร็วกว่าปกติแต่เขาไม่ได้ลงไปออกกำลังกายอย่างเคย ชายหนุ่มกำลังเตรียมอาหารเช้าให้กับตนเองและกัญญ์วราเพิ่งจะได้นอนไปเมื่อตีสอง “พี่ภูทำอะไรคะ กลิ่นหอมฉุยเลยค่ะ” “ข้าวต้มปลาครับ ของหนูไม่ใส่ขิงแต่ใส่ขึ้นฉ่ายเยอะๆ ใช้ไหม” “ค่ะ ขอบคุณนะคะ พี่ภูรู้ใจหนูที่สุดเลย” “ลองชิมดูนะครับว่ารสชาติดีไหม” “อ๊ะ! ….” หญิงสาวรีบไปหน่อยข้าวต้มร้อนเลยลวกปาก “ไหนพี่ขอดูหน่อย ปากพองไหม” “ไม่หรอกค่ะ หนูก็แค่ตกใจ” ภูเมฆาเดินมาใกล้ก้มลงมองปากเล็กแล้วก้มลงเบาๆ ทำเอาอีกคนอายจนหน้าแดงที่เห็นเขาอ่อนโยนกับแบบนี้ “เจ็บมากไหม” เขาเกลี่ยปลายนิ้วไปบนปากนุ่มของหญิงสาวอย่างเบามือ “ไม่ค่ะ พี่ภูเป่าเมื่อกี้หนูก็หายเจ็บเลยค่ะ” “อย่ารีบกินสิครับยังเหลือเวลาอีกตั้งเยอะ” “หนูจะรีบไปเจอเพื่อนค่ะ อยากเอาของฝากไปให้แล้วเราก็มีเรื่องคุยกันเยอะเลยค่ะ” “ในนั้นมีเรื่องพี่ด้วยไหม” “พี่อยากให้มีไหมล่ะคะ” “แล้วแต่หนูเลย พี่ยังไงก็ได้ ว่
“ใบตองคิดอะไรอยู่” ธิชากรถามเพื่อนรักเมื่อเห็นว่าตอนนี้เธอกำลังนั่งเหม่อ “เรากลัวคนอื่นจะรู้เรื่องเรากับพี่ภูน่ะสิ” “แต่ดูเหมือนพี่ภูของใบตองจะไม่ได้กลัวเลยนะ ถ้าอย่างนั้นคงไปเอารูปลงโทรศัพท์หรอกนะ เราว่าหายากมาที่ผู้ชายจะทำแบบนี้นะ” “พี่ภูบอกว่าไม่อยากปิด เลยให้เราทำตัวตามปกติถ้าใครจะรู้ก็ไม่เป็นไร อย่างเมื่อเช้าเรากับเขาก็มาทำงานพร้อมกัน” “พี่เขาคงคิดดีแล้วใบตองก็อย่ากังวลนะ” “อือ ขอบใจนะถ้าไม่มีมะเหมี่ยวเราคงอกแตกตายแน่ๆ เพราะไม่รู้จะคุยเรื่องนี้กับใคร” “ก็เราเป็นเพื่อนกันนี่” “แล้วแบบนี้จบแล้วใบตองจะทำงานที่นี่เลยไหม เราได้ยินว่าจะมีตำแหน่งว่างนะ” “ก็ว่าจะยื่นใบสมัครดูก่อน” “จะยื่นทำไมล่ะ เป็นถึงแฟนบอสเลยนะ” “เราไม่อยากให้คนอื่นมองว่าเป็นเด็กเส้น หรือบางทีก็อาจจะลองไปหาประสบการณ์ที่อื่นก่อน” “เคยคุยเรื่องนี้กับบอสหรือยังล่ะ” “ก็มีคุยบ้างพี่ภูเขาตามใจแต่จริงๆ เขาไม่ค่อยอยากให้เราทำงาน” “นั้นสิ รวยขนาดนี้จะให้แฟนมาทำงานทำไม” “แต
หลังจากทำงานอย่างหนักมาทั้งสองสัปดาห์ วันนี้ก็ถึงวันที่ทั้งสองคนนัดกันไปเที่ยวทะเล “พี่ขอแวะที่ไซต์งานหน่อยนะ เพราะเป็นทางผ่าน น่าจะคุยกับหัวหน้าวิศวะไม่นาน” ภูเมฆาที่นั่งอยู่ประจำที่คนขับหันมาบอกกับกัญญ์วรา “ได้ค่ะ” พอมาถึงบริเวณที่ใช้ก่อสร้างคอนโดหรูริมแม่น้ำของเจ้าสัวเรวัฒน์ชายหนุ่มก็จอดที่ด้านหน้าและบอกให้หญิงสาวนั่งรอ “พี่ภู หนูขอไปเดินริมแม่น้ำได้ไหม พี่คุยงานเสร็จตอนไหนก็ค่อยโทรตาม” “ได้สิ แต่หนูอย่าไปไกลมากนะ” “ไม่ไกลหรอกค่ะ ตรงนู้นมีเก้าอี้ด้วยหนูว่าจะเดินไปนั่งรอ” กัญญ์วราเดินมาไม่นานก็มาถึงเก้าอี้ไม้ตัวยาวริมแม่น้ำ มองไปข้างหน้าก็เป็นทางเดินเล็กๆ ที่ปูด้วยอิฐตัวหนอน ซึ่งเวลานี้ยังไม่สายเท่าไหร่จึงยังมีคนมาวิ่งและเดินออกกำลังกายอยู่บ้าง ระหว่างกำลังมองบรรยากาศโดยรอบเธอก็สะดุดตากับชายสูงวัยคนหนึ่งที่น่าจะมาเดินออกกำลังกายแต่ยิ่งดูก็ยิ่งรู้สึกถึงความผิดปกติเพราะจู่ๆ ชายสูงวัยก็นั่งลงกับพื้นทั้งที่อีกนิดเดียวก็จะถึงเก้าอี้ไม้อีกตัว หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้ด้วยความเป็นห่วงและเมื่อเห็
มาถึงหัวหินในเวลาเที่ยงพอดี ทั้งสองคนเลยแวะทานอาหารกลางวันก่อนจะพากันเข้าที่พัก “ห้องที่นี่สวยมากเลยนะคะพี่ภู สระว่ายน้ำรอบๆ ด้วย” กัญญ์วราเปิดประตูกระจกที่กันระหว่างห้องนอนกับสระว่ายน้ำส่วนตัวรูปตัวแอลที่ยาวขนานไปกับห้องนอน มองออกไปด้านหน้าเป็นวิวทะเลและด้านข้างสระน้ำยังมีชุดโซฟาและหมอนใบเล็กซึ่งเหมาะสำหรับหาออกไปนั่งอ่านหนังสือหรือนอนดูดาวอีกด้วย “ชอบไหม” “ชอบมากค่ะ ใบตองขอลงไปเล่นน้ำนะคะ” “หมายถึงน้ำในสระหรือในทะเลล่ะ” “น้ำในสระค่ะ ส่วนน้ำทะเลค่อยไปตอนเย็น พี่ภูขับรถมาเหนื่อยๆ จะนอนพักก็ได้นะคะ” กัญญ์วรารีบเปลี่ยนชุดอย่างรวดเร็วก่อนจะนั่งทาครีมกันแดดขณะที่ภูเมฆานั้นหยิบแท็บเล็ตออกเพื่อจะทำงาน “พี่ภูขา ทาครีมให้หนูหน่อยได้ไหมคะ” เสียงหวานอ้อนพร้อมทั้งเดินมานั่งหันหลังและส่งครีมกันแดดให้ ภูเมฆาทาครีมไปบนผิวเนียนนุ่มให้อย่างรวดเร็วเขาไม่อยากสัมผัสกับตัวหญิงสาวเกินไปเพราะแค่เพียงเห็นเธอสวมชุดว่ายน้ำเขาก็แทบไม่มีสมาธิทำงาน “เสร็จแล้วครับ” “ขอบคุณค่ะ พี่ภูว่าหนูใส่ชุดนี้สวยไหมคะ”
กัญญ์วราเลือกซื้ออาหารและเดินทานไปด้วยบางครั้งก็หันมาป้อนให้คนตัวโตที่เดินอยู่ข้างๆ การเดินเที่ยวแบบนี้ให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับคู่รักที่มาออกเดตและนั่นก็ทำให้หญิงสาวเดินยิ้มอย่างมีความสุข แต่คงเพราะเอาแต่ยิ้มและอยู่กับความคิดของตัวเองมากไปหน่อยเธอเลยเดินชนกับคนที่เดินสวนมาอย่างจัง “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” กัญญ์วรารีบขอโทษ “ไม่เป็นไรค่ะ” อีกคนก็เดินเหม่อมาเหมือนกันเลยไม่ติดใจอะไร “เป็นอะไรไหมคะ” “พี่ไม่เป็นไรค่ะ แต่เสื้อน้องเลอะไปหมดแล้ว ไปหาที่เปลี่ยนก่อนดีไหมคะ เดี๋ยวพี่ซื้อตัวใหม่ให้” พอหญิงสาวคนนั้นพูดกัญญ์วราเลยก้มหน้ามองก็เห็นว่าเสื้อยืดของตัวเองนั้นเปื้อนไปด้วยคราบไอติมเต็มไปหมด “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง” “ใบตองมันยืนทำอะไรอยู่” ภูเมฆาที่เดินล่วงหน้าไปแล้วย้อนกลับมาตามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่เดินตามเขาไปที่รถ “บอส” “คุณดา” “บอสมาเที่ยวเหรอคะ” “ครับ” กัญญ์วรามองหน้าคนรักสลับกับผู้หญิงที่เธอเดินชนแล้วก็พอจะเดาออกว่าเธอน่าจะเป็นเลขาของภูเมฆาเพราะเคยได้ย
กลับมาถึงห้องพักกัญญ์วราก็รีบขอตัวไปอาบน้ำเพราะรู้สึกเหนียวตัวจากไอศกรีมที่เปื้อนตอนที่ชนกับเลขาของภูเมฆา อาบน้ำเสร็จเธอก็ออกมายังมุมของระเบียงเพื่อนอนดูดาวและฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ไม่นานนักภูเมฆาก็ตามออกมานั่งด้วย “ชอบที่นี่ไหม” “ค่ะ บรรยากาศดีมาก วิวกลางคืนก็สวยค่ะ” เพราะคืนนี้เป็นคืนเดือนมืดเธอจึงมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน “ระหว่างทะเลกับภูเขาใบตองชอบอะไรมากกว่ากัน” “ชอบทะเลค่ะ เพราะตอนที่ยังเป็นเด็ก หนูอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ก็เลยเห็นภูเขามาเยอะแล้ว” “พี่ภูล่ะคะ” “พี่ก็ชอบทะเลนะ พี่ได้เที่ยวทะเลครั้งแรกก็ตอนเรียนอยู่ ม.4 ถ้าคุณครูที่โรงเรียนไม่ให้มีการจัดทัศนศึกษาพี่ก็คงไม่มีโอกาสหรอก เรื่องเที่ยวสำหรับพี่ตอนนั้นมันไกลตัวมาก” “ตอนนี้พี่ภูมีทุกอย่างแล้วพี่เที่ยวบ่อยไหมคะ” “ไม่นะ ส่วนใหญ่ก็จะทำงานแล้วถือโอกาสเที่ยว ถ้าตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ น้อยมาก” “ทำไมล่ะคะ พี่ภูมีเงินตั้งเยอะ” “ไปเที่ยวคนเดียวมันไม่สนุกหรอกนะใบตอง” น้ำเสียงของเขาฟังดูเศร้าและตัดพ
ภูเมฆากึ่งหลับกึ่งตื่นเมื่อหลานสาวเจ้าสัวมาเรียกให้เขาไปทานอาหารเย็น “ใบตอง” ชายหนุ่มรู้สึกราวกับตนเองกำลังฝัน ผู้หญิงคนที่เขาตามหามาตลอดยืนอยู่ตรงหน้าและเธอกำลังยิ้มให้เขา ภูเมฆาสลัดศีรษะไปมาและตบหน้าตัวเองเพื่อเรียกสติของตนกลับมา “ตบตัวเองแบบนั้นไม่เจ็บเหรอคะ” “ใบตอง นี่ใบตองจริงๆ ใช่ไหม พี่ไม่ได้ฝันใช่ไหม” ภูเมฆารีบลุกขึ้นแล้วดึงตัวหญิงสาวเข้ามากอดด้วยความรักและความคิดถึง “เบาๆ สิคะกอดแบบนี้หนูก็หายใจไม่ออกกันพอดี” “พี่ดีใจที่เจอหนู หนูไปอยู่ไหนมา สบายดีไหม แพ้ท้องหรือเปล่า หนูลำบากไหม แล้วมาที่นี่ได้ยังไง” “ใจเย็นๆ สิคะ ถามรัวแบบนั้นหนูคิดคำตอบไม่ทัน” “ใบตองหนูจะไม่ทิ้งพี่ไปอีกแล้วใช่ไหม พี่รักหนูนะ รักลูกของเราด้วย พี่ขอโทษที่ทำให้หนูรู้สึกแย่ ขอโทษที่บอกหนูช้าไปหนูให้อภัยพี่ได้ไหมคะ” “หนูก็ต้องขอโทษพี่ภูด้วยที่ใจร้อนและหนีมา” “ไม่เลยหนูไม่ผิดอะไรเรื่องนี้พี่ผิดคนเดียว พี่สัญญาจะไม่ทำให้หนูต้องน้อยใจอีก เรากลับมาอยู่กันเหมือนเดิมนะคะ”“ไปอยู่ที่คอนโดเหรอคะหรือที่บ้านหลังใหม่ล่ะคะ
ผ่านอีกเดือนที่ภูเมฆาต้องอยู่คนเดียวในคอนโด เขารอเธอกลับมาแม้ว่าความหวังจะค่อนข้างจะริบหรี่ลงไปทีละนิด “กูว่ามึงเลิกรอเหอะภู” “นั่นสิ นี่มันสองเดือนแล้วนะ ภูกูว่ามึงทำใจเถอะ” เมคินก็เห็นด้วยกับคำพูดของธนสิทธิ์ “ลูกกับเมียกูนะเว้ย นานแค่ไหนกูก็จะรอ” “แล้วถ้าเขาไม่กลับมาล่ะ มึงจะจมอยู่กับความทุกข์แบบนี้ตลอดเหรอ” เมคินเห็นใจเพื่อนที่ดูไม่มีความสุขเลย “พวกมึงว่ากูประกาศตามหาดีไหมหรือไม่แจ้งความคนหาย” “มึงอย่าเชียวนะไอ้ภู แบบนั้นเขาจะยิ่งโกรธไปอีก” ธนสิทธิ์รีบห้ามเพื่อน “กูหมดหนทางแล้วจริงๆ” ภูเมฆาถอนหายใจยาว “เอาน่า กูว่าถ้าเขารักมึงยังไงวันหนึ่งเขาก็ต้องกลับมา” เมคินได้แต่ให้กำลังใจเพื่อนไปแบบนั้นทั้งที่เขาก็นึกไม่ออกเลยว่าเธอคนนั้นของภูเมฆาจะกลับมาหรือเปล่า ภูเมฆาดื่มกับเพื่อนจนถึงเวลาร้านปิดก็กลับมานั่งดื่มต่อที่คอนโดต่อเพราะอยากให้ตัวเองเมาและจะได้ลืมเรื่องที่กำลังทุกข์ใจอยู่แม้จะรู้ว่าตื่นมาเรื่องทุกอย่างก็ยังคงเหมือนก็ตาม เพราะเมื่อกว่าจะนอนก็เกือบจะเช้า วันนี้ภูเมฆาเ
การมีชีวิตอยู่โดยไม่เหลือใครมันเป็นอะไรที่ทรมานมากๆ ไม่ว่าจะมองไปทางในเขาก็เห็นแต่เงาของกัญญ์วราอยู่เต็มห้องไปหมด และพอหลับตาภาพความทรงจำก็แจ่มชัดขึ้น “เฮ้อ หนูหายไปไหนพี่จะต้องแจ้งความไหมว่าเมียหาย” เขาบ่นไปเรื่อยเปื่อย เกือบหนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาพยายามตามหาแต่ก็ยังมีวี่แววของเธอเลย เขาโทรไปที่โมเดลลิ่งแต่ทางนั้นบอกว่าหญิงสาวไม่ได้รับงานที่นี่แล้วและเพื่อสนิทของเธอทั้งสองคนก็ยังไม่มีใครติดต่อกับกัญญ์วราได้เลย ชายหนุ่ม พยายามข่มตานอนเพราะพรุ่งนี้เป็นวันพฤหัสบดีซึ่งตรงกับวันที่เธอไปตรวจที่โรงพยาบาลครั้งสุดท้ายและมันก็ครบหนึ่งเดือนพอดี เขาหวังว่าเธอจะมาตรวจตามที่ได้สอบถามจากพยาบาลว่าหญิงตั้งครรภ์ไตรมาสแรกจะต้องมาตรวจทุกเดือน ภูเมฆามาดักรอที่หน้าห้องตรวจตั้งแต่เช้าและหวังว่าจะเจอกับกัญญ์วราแต่รอจนกระทั่งหมดเวลาตรวจของแผนกผู้ป่วยนอกแต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเธอเลย ที่นี่คือความหวังสุดท้ายที่เขาคิดว่าจะเจอเธอแต่ตอนนี้ความหวังของเขามันไม่เหลืออีกต่อไปแล้ว เขาเดินคอตกออกมาจากโรงพยาบาลก่อนจะขับรถกลับไปยังคอนโดซึ่งครั้งหนึ่งมันเต็มไปด้ว
ภูเมฆากลับเข้ามาที่คอนโดในเวลาเกือบหนึ่งทุ่ม เขาเดินหากัญญ์วราไปทั่วห้องแต่ก็เหมือนว่าเธอจะไม่อยู่ และน่าแปลกใจที่เธอไม่ได้เตรียมอาหารเย็นไว้รอ เขานึกถึงคำพูดของเธอที่บอกว่าไม่สบายก็รู้สึกเป็นห่วงจึงรีบโทรหาแต่โทรเท่าไหร่ก็โทรไม่ติด ถ้างานไม่เร่งเขาคงมีเวลาพาเธอไปหาหมอและให้เวลากับเธอได้มากกว่านี้ แต่ภูเมฆาเชื่อว่าเชื่อว่ากัญญ์วราจะเข้าใจถึงเหตุผลที่เขาทำลงไป ชายหนุ่มทั้งโทรหาและทิ้งข้อความให้โทรกลับแต่ผ่านไปเกือบชั่วโมงทุกอย่างก็ยังเงียบสนิท เขาเริ่มกังวลมากขึ้นครั้นจะโทรถามเพื่อนของเธอก็ไม่มีเบอร์ติดต่อใครเลย ถ้าหากยังติดต่อไม่ได้จริงๆ ก็คงจะต้องโทรไปถามฝ่ายบุคคลซึ่งน่าจะมีข้อมูลติดต่อเพื่อนของเธอบ้าง แต่ถ้าโทรไปเวลานี้คงไม่ได้เรื่องเนื่องจากเป็นวันหยุด เขาเดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้นขณะที่มือก็กดโทรออกอย่างไม่พัก แต่ทุกอย่างก็เหมือนเดิมเขาเดินเข้ามายังห้องนอนจากนั้นก็โทรหาเธออีกครั้งแล้วสายตาของเขาก็สะดุดดับกระดาษแผ่นเล็กและแหวนเพชรที่เขาซื้อให้เธอซึ่งวางทับกันอยู่ ภูเมฆารีบหยิบขึ้นมาแล้วก็รู้สึกเหมือนตัวเองไม่มีเรี่ยวแรงเอาเสียเลยเมื่ออ่านข้อค
เวลาในแต่ละวันผ่านไปอย่างรวดเร็ว กัญญ์วราเรียนจบและเริ่มทำงานได้เกือบหนึ่งสัปดาห์ หญิงสาวได้ทำงานในบริษัทเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลจากคอนโด พอเริ่มทำงานชีวิตก็เปลี่ยนไป เพราะในแต่ละวันเธอต้องทำงานอย่างหนักและพอกลับถึงบ้านก็เหนื่อยจนแทบไม่มีเวลาให้กับภูเมฆา ทางด้านชายหนุ่มก็ไม่ต่างกันช่วงนี้เขามีงานด่วนเข้ามาทำให้ในแต่ละวันจะกลับค่อนข้างดึก พอมาถึงคอนโดก็รีบอาบน้ำเข้านอน พอเข้าเดือนที่สองงานของกัญญ์วราก็เริ่มลงตัวมากขึ้นแต่ดูเหมือนว่างานของภูเมฆานั้นจะยังคงยุ่งอยู่จนเธออดน้อยใจไม่ได้ที่เขาไม่มีเวลาให้ “พี่ภูคะ วันหยุดนี้เราไปเที่ยวกันดีไหมคะ” “พี่ไม่ว่างเลยน่ะสิ” “แล้วอาทิตย์หน้าล่ะคะ ว่างไหม” “ต้องรอดูอีกทีนะ พี่ขอโทษนะที่ไม่มีเวลาให้หนูเลย” “หนูเข้าใจค่ะ” กัญญ์วราได้แต่ฝืนยิ้มให้กับสิ่งที่เขากำลังโกหก วันนี้หญิงสาวบังเอิญเจอกับเลขาของแฟนหนุ่มจึงถามว่างานยุ่งไหม แต่คำตอบที่ได้คือไม่มีงานยุ่งหรืองานเร่งอะไรและยังบอกเธอว่ารู้สึกอิจฉาที่ภูเมฆารีบกลับก่อนเวลาทุกวัน ซึ่งมันตรงกันข้ามกับสิ่งที่เธอรู้จากภูเมฆา
ความกังวลของกัญญ์วราหมดไปพร้อมกับการฝึกงานที่จบลง เธอบอกความจริงกับหัวหน้าแผนกในวันสุดท้ายที่ทำงานด้วยกัน และพรกมลก็ไม่ได้โกรธหรือไม่พอใจแต่กลับชื่นชมที่หญิงสาวไม่อ้างตัวว่าตนเองเป็นใครอีกทั้งยังตั้งใจฝึกงานอย่างเต็มที่ “พี่ภูคะ พรุ่งนี้ใบตองจะเข้าไปมหาวิทยาลัยนะคะ” “พี่นึกว่าฝึกงานเสร็จแล้วจะจบเลย นี่ยังต้องไปเรียนอีกเหรอ” “ยังต้องเรียนเพิ่มอีกนิดหน่อย แต่ไม่ได้เรียนทั้งวันค่ะ” “ส่งตารางเรียนให้พี่ด้วยนะ” กัญญ์วราส่งตารางเรียนให้กับภูเมฆาเพราะจะได้ไม่ต้องตอบเขาว่าในแต่ละวันเธอต้องไปเรียนและเลิกเรียนเวลาไหน “พรุ่งนี้พี่ไปส่งนะ” “ไม่ต้องหรอกค่ะ ทางไปมหาวิทยาลัยกับทางไปบริษัทคนละทางกันเลยนะคะ หนูไม่อยากให้พี่เสียเวลา” “พี่ไปดูไซต์งานของเจ้าสัว มันผ่านทางนั้นพอดี” “อ้อ” กัญญวราเคยไปที่นั่นมาแล้วหนึ่งเธอจึงไม่ปฏิเสธที่เขาจะไปส่ง “แต่ตอนเย็นไปรับไม่ได้ เดี๋ยวพี่ให้คนขับรถไปรับนะคะ” “ไม่เป็นไรค่ะหนูคิดว่าเลิกเรียนแล้วจะไปเดินเที่ยวห้างแล้วก็หาอะไรกินกับเพื่อนค่ะ”
เช้าวันจันทร์กัญญ์วราก็มาทำงานตั้งแต่เช้าเหมือนอย่างทุกครั้งแต่พอมาถึงแผนกก็อดแปลกใจไม่ได้ เพราะพี่ฟ้ามาถึงที่ทำงานก่อนทั้งพี่ปกติแล้วพี่ฟ้าจะเข้ามาทำงานทีหลังเธอครึ่งชั่วโมง “สวัสดีค่ะพี่ฟ้า วันนี้มาแต่เช้าเลยนะคะ” “สวัสดีจ้ะใบตอง” “พี่ฟ้ามองหน้าใบตองแปลกๆ มีอะไรหรือเปล่า” “อันที่จริงพี่ก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ แต่ถ้าไม่ถามก็คงไม่สบายใจและระแวงอยู่แบบนี้แน่ๆ เอาเป็นว่าพี่จะถามคำถามใบตองสักคำถามหนึ่งถ้าคำตอบคือไม่ใช่ใบตองต้องสัญญาว่าจะไม่ถามอะไรเพิ่มเติม” “พี่ฟ้า ทำไมมันซับซ้อนจังคะ ใบตองชักจะกลัวกับคำถามของพี่แล้วนะคะ” “คำถามง่ายเองๆ”“อย่าเพิ่งถามได้ไหม รอให้มะเหมี่ยวมาก่อน” “เรื่องนี้มันเป็นความลับพี่ไม่อยากให้คนอื่นรู้พี่ถึงต้องมาคุยกับใบตองตั้งแต่เช้าไงล่ะ” “ใบตองใจคอไม่ค่อยดีเลยค่ะ พี่ฟ้าจะถามอะไรคะ แล้วถ้าคำตอบไม่ดี พี่จะฟ้าจะประเมินให้ใบตองผ่านงานไหม” “คะแนนประเมินของใบตองกับมะเหมี่ยวพี่ส่งให้พี่พรตั้งแต่วันศุกร์แล้วเพราะฉะนั้นเรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับคะแนนเลย” “แบบนี้ค่อย
กลับมาถึงห้องพักกัญญ์วราก็รีบขอตัวไปอาบน้ำเพราะรู้สึกเหนียวตัวจากไอศกรีมที่เปื้อนตอนที่ชนกับเลขาของภูเมฆา อาบน้ำเสร็จเธอก็ออกมายังมุมของระเบียงเพื่อนอนดูดาวและฟังเสียงคลื่นกระทบฝั่ง ไม่นานนักภูเมฆาก็ตามออกมานั่งด้วย “ชอบที่นี่ไหม” “ค่ะ บรรยากาศดีมาก วิวกลางคืนก็สวยค่ะ” เพราะคืนนี้เป็นคืนเดือนมืดเธอจึงมองเห็นดวงดาวบนท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน “ระหว่างทะเลกับภูเขาใบตองชอบอะไรมากกว่ากัน” “ชอบทะเลค่ะ เพราะตอนที่ยังเป็นเด็ก หนูอยู่ต่างจังหวัดค่ะ ก็เลยเห็นภูเขามาเยอะแล้ว” “พี่ภูล่ะคะ” “พี่ก็ชอบทะเลนะ พี่ได้เที่ยวทะเลครั้งแรกก็ตอนเรียนอยู่ ม.4 ถ้าคุณครูที่โรงเรียนไม่ให้มีการจัดทัศนศึกษาพี่ก็คงไม่มีโอกาสหรอก เรื่องเที่ยวสำหรับพี่ตอนนั้นมันไกลตัวมาก” “ตอนนี้พี่ภูมีทุกอย่างแล้วพี่เที่ยวบ่อยไหมคะ” “ไม่นะ ส่วนใหญ่ก็จะทำงานแล้วถือโอกาสเที่ยว ถ้าตั้งใจไปเที่ยวจริงๆ น้อยมาก” “ทำไมล่ะคะ พี่ภูมีเงินตั้งเยอะ” “ไปเที่ยวคนเดียวมันไม่สนุกหรอกนะใบตอง” น้ำเสียงของเขาฟังดูเศร้าและตัดพ
กัญญ์วราเลือกซื้ออาหารและเดินทานไปด้วยบางครั้งก็หันมาป้อนให้คนตัวโตที่เดินอยู่ข้างๆ การเดินเที่ยวแบบนี้ให้ความรู้สึกไม่ต่างอะไรกับคู่รักที่มาออกเดตและนั่นก็ทำให้หญิงสาวเดินยิ้มอย่างมีความสุข แต่คงเพราะเอาแต่ยิ้มและอยู่กับความคิดของตัวเองมากไปหน่อยเธอเลยเดินชนกับคนที่เดินสวนมาอย่างจัง “อุ๊ย! ขอโทษค่ะ” กัญญ์วรารีบขอโทษ “ไม่เป็นไรค่ะ” อีกคนก็เดินเหม่อมาเหมือนกันเลยไม่ติดใจอะไร “เป็นอะไรไหมคะ” “พี่ไม่เป็นไรค่ะ แต่เสื้อน้องเลอะไปหมดแล้ว ไปหาที่เปลี่ยนก่อนดีไหมคะ เดี๋ยวพี่ซื้อตัวใหม่ให้” พอหญิงสาวคนนั้นพูดกัญญ์วราเลยก้มหน้ามองก็เห็นว่าเสื้อยืดของตัวเองนั้นเปื้อนไปด้วยคราบไอติมเต็มไปหมด “ไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้เอง” “ใบตองมันยืนทำอะไรอยู่” ภูเมฆาที่เดินล่วงหน้าไปแล้วย้อนกลับมาตามเมื่อเห็นว่าหญิงสาวไม่เดินตามเขาไปที่รถ “บอส” “คุณดา” “บอสมาเที่ยวเหรอคะ” “ครับ” กัญญ์วรามองหน้าคนรักสลับกับผู้หญิงที่เธอเดินชนแล้วก็พอจะเดาออกว่าเธอน่าจะเป็นเลขาของภูเมฆาเพราะเคยได้ย