หลังจากที่ครามได้ข่าวของแพทว่าถูกรถชนจนแท้งลูกและไอ้คุณเอกดนัยก็เดี้ยงไปตามๆกัน เขากับป๊าเลยมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล เมื่อมาถึงเขาก็มาเจอท่านภพกูลและลูกชายอีกคนของท่าน ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วยพ่อเขาและเขาเข้าไปทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทีที่อ่อนน้อม ลูกชายคนเล็กของท่านภพกูลอายุน่าจะน้อยกว่าเขาสักสามถึงสี่ปี ท่าทางดูเป็นคนนิสัยดีไม่เหมือนคนเป็นพี่..." แพทเป็นยังไงบ้างครับ..." เพราะว่ายังไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้หลายๆคน เขาจึงต้องถามข่าวคราวจากท่านภพกูลแทน..." ยังทรงตัวน่ะ คงจะต้องรอให้ฟื้นก่อน แต่ก็ต้องรอดูสภาพจิตใจของหนูแพทด้วย ตอนนี้ทางผมก็กำลังให้คนไปตามสืบกันว่าคนขับรถน่ะเป็นคนทำเองคนเดียวหรือว่ามีใครว่าจ้างมา.. เพราะเท่าที่ดูมันเหมือนเป็นการจงใจเอามากๆ...." ภพกูลคิดในแง่ลบไว้ก่อน เขาไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง รอบตัวเขาต่างก็มีคนต้องการที่จะชิงดีชิงเด่น และต้องการที่จะโค่นล้มตระกูลพวกเขา... ดังนั้นคนที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก... หนูแพท แต่มันจะมีใครรู้กันเพราะการจดทะเบียนของสองคนนั้นมันคือการจดแค่เพียงในครอบครัวของเขา" ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะช่วยท่านอีกแร
หลังจากที่แพทตี้ไม่ได้สติไปเกือบสองอาทิตย์ เธอก็ตื่นมาพร้อมกับอาการเบลอๆ เธอไม่แน่ใจว่าเธอเป็นอะไร ร่างกายของเธอรู้สึกปวดร้าวไปหมด ตกลงแล้วเธอเป็นอะไรกันแน่....อือ...เอกดนัยที่เฝ้าพิมาญาตลอดทั้งวันทั้งคืนได้ยินเสียงครางเบาๆของใครบางคนมันก็ทำให้เขาลืมตาขึ้นมาและกวาดตามองหาเสียง แต่เขาก็ไม่พบอะไรผิดปกติเลยสักนิด...." คงแค่ฝันไป.... " เอกดนัยพึมพำอยู่คนเดียวแต่เพียงไม่นานเขาก็ได้ยินอีกครั้งและครั้งนี้มันก็ทำให้เขาดีใจจนน้ำตาไหลออกมา...หมับ!! ฮึก.... ฟอดดด" ตื่นแล้วเธอตื่นแล้วยัยผู้หญิงบ้า...ในที่สุดก็ตื่นสักที... รอแป๊บนึงนะ ฉันเรียกหมอก่อน รอแป๊บนึง..." เอกดนัยรีบกดเรียกพยาบาลและหมอให้เข้ามาในห้องของพิมาญาโดยเร็ว เพียงไม่นานทั้งหมอและพยาบาลก็มายืนเสนอหน้ากันเต็มห้องพักผู้ป่วยของพิมาญา....คุณหมอเล่าทุกอย่างให้พิมาญาฟัง เอกดนัยที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักเขาเห็นน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหล่ออกมาจากวงตากลมโตคู่นั้น... แววตาที่เคยเศร้าตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา.... เขาสงสารพิมาญา เขาจะต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้... เขาสัญญาเลย...เพียงแค่หมอและพยาบาลออกไปเขาก็รีบพาตัวเองที่ยังต้องนั่งรถเข
เอกดนัยมีเรื่องที่จะต้องไปจัดการดังนั้นเขาจึงฝากพิมาญาไว้กับยัยน้ำเน่าเอาไว้ เขาล่ะชังขี้หน้านัก ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องขอให้ยัยนี่อยู่เป็นเพื่อนพิมาญาล่ะก็ พอถีบออกจากบ้านไปนานแล่ว...." เดี๋ยวไปทำธุระก่อนนะยัยหน้าเงินเอ่อ.. พิ.. พิมาญา ฉันไปทำธุระข้างนอกแล้วจะรีบกลับ...." จุ๊บ....เอกดนัยจูบลงไปที่ริมฝีปากค่อนข้างแห้งของพิมาญาเป็นเพราะนอนโรงพยาบาลนานมันเลยทำให้ปากที่เคยอวบอิ่มถึงกับแตกแห้งเป็นขุย... น้ำขิงเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้.. โด่เธอก็ได้จุ๊บแพทตี้ของเธอแล้วเถอะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการขโมยจุ๊บก็ตามแต่เธอก็ได้จุ๊บแล้ว... แพทตี้พยักหน้ารับคำของคุณเอกดนัยส่งๆ เธอไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรมากนักว่าเขาจะไปไหนหรือทำอะไร ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอว่างเปล่าไปหมด ทั้งความคิดและการกระทำ...เพียงแค่เอกดนัยออกไปจากห้องนั่งเล่นน้ำขิงก็สรรหาคำพูดหรือเรื่องราวมาพูดคุยกับแพท แต่ดูเหมือนว่าแพทก็ยังคงไม่ยินดียินร้าย.. เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี เธอกลัวว่าถ้าเธอปล่อยให้แพทตี้คลาดสายตามันจะทำให้แพทตี้คิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเข้าห้องน้ำหรือหาของกินเธอก็จะลากแพทตี้ให้ต
แพทตี้พนักงานต้อนรับสาววัย24ปี เธอทำงานที่โรงแรม PP Group เธอทำงานที่นี่มาได้ 1ปีแล้ว เธอทุ่มเทแรงกายของเธออย่างเต็มที่ เธอและพ่อได้มีโอกาส มาทำงานที่นี่ เพราะว่าพ่อของเธอรู้จักกับเจ้าของโรงแรมนี้โดยบังเอิญ ที่ว่าบังเอิญก็คือพ่อของเธอรู้จักกับเจ้าของที่นี่ ท่านทั้งสองเป็นเพื่อนกัน คุณลุง ภพกูล ที่เป็นเจ้าของโรงแรมในเครือPP Group ท่านได้เจอรถเฉี่ยว มันเลยทำให้พ่อและเธอวิ่งเข้าไปช่วย รถมอร์ไซต์คันนั้นขับหนีหายไป แต่คุณลุงภพกูลเจ็บนิดหน่อย ถึงว่าท่านบอกว่านิดหน่อยแต่เธอก็ยังไม่ไว้ใจอยู่ดี เธอเลยพาคุณลุงภพกูลไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล เมื่อคุณลุงภพกูลมองเธอและพ่อดีๆ ท่านก็จำได้ว่าพ่อของเธอเป็นเพื่อนของท่าน ท่านทั้งสองจึงเริ่มพูดคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันตามประสาคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน และเป็นโชคดีของพ่อเธอ เพราะพ่อของเธอตกงานจากที่ทำงานเก่า และเธอก็กำลังหางานทำเช่นกันคุณลุงภพกูลเลยรับเธอเข้าทำงาน พ่อของเธอทำงานเป็นพนักงานบัญชีตำแหน่งเล็กๆ ส่วนเธอทำงานในตำแหน่งพนักงานต้อนรับหน้าเคาท์เตอร์ เธอชอบมาก เธอชอบพูดคุย และดูแลลูกค้า เธอมีเพื่อนสนิทในที่ทำงานหนึ่งคนชื่อน้ำขิง น้ำขิงเป็นสาวมั่นมาก สวยแซ่
ทุกวันนี้เธอได้มาอยู่บ้านหลังเล็กที่ลูกชายของคุณภพกูลซื้อเอาไว้เพื่อที่เขาจะได้สามารถพาผู้หญิงของเขามาหลับนอนได้อย่างสะดวก เธอทำได้แค่มองทั้งสองคนเดินเข้าออกบ้านราวกับคู่รัก ส่วนเธอก็เป็นเหมือนแม่บ้านหรือคนใช้..." วันนี้แยมจะมากินข้าวที่บ้านทำกับข้าวรสชาติอ่อนๆไว้ด้วยแยมไม่กินเผ็ด" เอกดนัยสั่งผู้หญิงที่เขาเกลียดจนแทบอาเจียน เห็นหน้ากี่ครั้งก็ทำให้เขารู้สึกพะอืดพะอมทุกครั้ง.... เกลียดเขาเกลียดผู้หญิงคนนี้มาก เป็นเพราะยันผู้หญิงทุเรศคนนี้ทำให้เขาจำใจต้องแต่งงานด้วย เพราะคุณพ่อของเขาเอาเรื่องมรดกมาขู่ และมันทำให้น้องแยมถึงกับร้องไห้ออกมาด้วยความเสียใจเพราะเธอดันไปรู้ว่าเขากับยัยผู้หญิงน่าเกลียดคนนี้แต่งงานกัน..."มันคือเรื่องของพวกคุณค่ะ ไม่เกี่ยวกับฉัน พวกคุณอยากกินอะไรพวกคุณก็หากินกันเอาเอง ฉันขอตัว ฉันมีงานอย่างอื่นที่จะต้องทำ" แพทตี้กระชับกระเป๋าสะพายของเธอแล้วเดินออกไปจากบ้านที่ทุเรศทุรังหลังนี้ทันที เธอไม่กล้าบอกคุณลุง เพราะเธอยังเป็นห่วงพ่อของเธออยู่ เขาเอาพ่อของเธอมาขู่ ว่าถ้าเธอไปบอกคุณลุงเรื่องของเขา เขาจะให้คนมาเก็บพ่อของเธอ แล้วจากนิสัยและสันดานของเขาที่เธอเฝ้าระวังมาสักพักใ
แพทตี้รีบมาเข้างานอย่างเคย ไม่มีใครรู้ว่าเธอแต่งงานกับลูกชายคนโตของท่านประธานใหญ่ เธอไม่ใส่แหวนแต่งงาน เธอถูกเขาดึงแหวนแต่งงานออกจากนิ้วทิ้งตั้งแต่หลังจบพิธี พิธีแต่งงานของเธอและเขาไม่ได้จัดอะไรมาก นอกจากครอบครัวเขาและพ่อของเธอ ดังนั้นจึงไม่มีใครมางานแต่งที่โสมมครั้งนี้เธอคิดว่ามันก็ดีเหมือนกันที่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้ และสามีของเธอเขาก็ไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานและไม่เต็มใจที่จะเห็นเธออยู่ในบ้านหลังนั้น แต่แล้วยังไงล่ะไม่ใช่แค่เขาที่ไม่อยากเห็นเธอก็เหมือนกันเธอไม่อยากเห็นเขาและผู้หญิงของเขา ถามว่าเสียใจไหม ตอบตามตรงว่าเสียใจ แต่มากรึเปล่า ไม่มากนะ เพราะเธอไม่ได้รักเขาไง ถ้าเธอรักเขามันก็อีกเรื่องแต่เมื่อคนสองคนที่ไม่ชอบกันเกลียดขี้หน้ากันมาแต่งงานด้วยกัน มันเลยทำให้เธอและเขาเหมือนกับโลกขู่ขนาน.... " แพทตี้จ๋า...วันนี้ตอนเย็นแพทตี้จะไปไหนต่อรึเปล่าจ๊ะ" น้ำขิงถามเพื่อนสนิทในสายงานเดียวกับเธอ วันนี้เธออยากไปเดินตลาดนัดแต่เธอไม่อยากไปเดินคนเดียว เธอเลยอยากชวนแพทตี้ที่รักของเธอไปด้วย...." ไปได้ไม่นานน่ะขิง เพราะวันนี้ต้องไปเฝ้าพ่อน่ะ ไปได้แต่ห้ามดึกไม่งั้นไม่มีรถกลับแน่นอน.." อันที่จริงเธอไ
เอกดนัยบีบแขนของยัยปลิงดูดเลือดเอาไว้แน่น วันนี้เป็นครั้งที่สองแล้วที่เขาบีบมัน เขาอยากจะบีบให้มันเละคามือเขาไปเลย จองหองนัก "ปล่อยค่ะ " ถึงแม้ว่ามันจะเจ็บมากขนาดไหนแต่แพทตี้ไม่ยอมที่จะร้องขอ หรือส่งเสียงออกมา เธอพยายามเก็บกักความรู้สึกของเธอเอาไว้ เธอจะไม่ยอมให้ผู้ชายคนนี้หัวเราะเยาะเธอได้อีก..." ปล่อยงั้นเหรอ? ได้... ปล่อยแน่... " ไม่เพียงเขาไม่ปล่อยแขนเล็กนี้แล้ว เขายังฉุดกระชากร่างเล็กให้ถลาตามเขาไปอีก...เสียงโวยวายของแพทตี้ดังขึ้นเพราะอยู่ๆเขาก็ลากแขนของเธอให้ตามเขาไปยังที่ไหนก็ไม่รู้ แขนเธอมันเริ่มเจ็บมากกว่าเดิม แล้วการลากของเขามันก็คือการลากจริง เขาไม่สนใจเลยสักนิดว่าเธอจนชนอะไรหรือว่าหกล้ม ถึงแม้ว่าเธอจะล้มลงไปจริงๆ เขาก็ลากเธอไปตามกับพื้น ความรู้สึกที่มันทำให้เธอนึกสมเพชตัวเองมันได้เกิดขึ้นอีกครั้ง เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะตัดพ้อหรือร้องขอให้เขาหยุดการกระทำอันป่าเถื่อนนี้ได้ ปัง!!!!เอกดนัยลากยัยปลิงดูดเลือดเข้ามาในห้องของเขา เขาล็อกประตูเอาไว้เรียบร้อยแล้ว เพราะความโมโหและความเกลียดมันทำให้เขาต้องการที่จะลงโทษผู้หญิงคนนี้ การลงโทษของเขามันจะทำให้ผู้หญิงคนนี้เหมือนตายทั้งเป็น
แพทเองออกมาห้องน้ำเธอพยายามอย่างเป็นที่สุด ที่จะขจัดคราบโสโครกที่เขาทำกับเธอ เธออยากมอบร่างกายให้กับชายที่เธอรัก และเขาก็รักเธอแต่ตอนนี้... ทุกอย่างมันเปลี่ยนไปแล้วเธอมีราคีมีตราบาปที่เธอไม่สมยอม เธอเกลียดเขา ถ้าไม่ติดว่าคุณลุงเป็นผู้มีพระคุณ เธอฆ่าเขาแน่ เธอทำแน่ "คุณพ่อขา.... หนูจะทนได้อีกนานไหมคะคุณพ่อ" ร่างเล็กล้มตัวลงบนที่นอนขนาด 3ฟุต ห้องที่เล็กแคบมันยังไม่อึดอัดเท่ากับหัวใจที่มันคับแคบของเขา เธอสัญญาเลยเธอจะรีบหาเงินให้ได้เยอะๆ แล้วเอามาคืนให้กับคุณลุงภพกูลเธอไม่อยากอยู่ในสภาพแบบนี้แล้ว ไม่อยากอยู่แล้วด้วยร่างกายและหัวใจที่บอบช้ำของแพทตี้ มันทำให้เธอเผลอหลับลงไปโดยที่เธอไม่ได้ปิดไฟเอกดนัยมายืนอยู่ที่หน้าห้องเล็กๆคล้ายห้องเก็บของ ห้องที่เป็นที่สุดของบ้านแต่มันก็เหมาะกับผู้หญิงคนนี้แล้วแต่เพราะอะไร ทำไมเขาต้องมาอยู่ที่หน้าห้องของยัยปลิงดูดเงินนี้ด้วย....มือหนาจับไปที่ลูกบิดของห้องเล็กๆนั่น เขารู้ว่ายัยนี่ต้องล็อกประตูแน่นอน ดังนั้นเขาจึงใช้กุญแจไขเข้าไปเพื่อที่จะดูว่ายัยผู้หญิงหน้าเงินคนนี้ทำอะไรอยู่เพียงแค่เอกดนัยก้าวเข้าไปภายในเขาก็ต้องตกใจเพราะภายในห้องเล็กแคบนี้เปิดไฟทิ้
เอกดนัยมีเรื่องที่จะต้องไปจัดการดังนั้นเขาจึงฝากพิมาญาไว้กับยัยน้ำเน่าเอาไว้ เขาล่ะชังขี้หน้านัก ถ้าไม่ติดว่าเขาต้องขอให้ยัยนี่อยู่เป็นเพื่อนพิมาญาล่ะก็ พอถีบออกจากบ้านไปนานแล่ว...." เดี๋ยวไปทำธุระก่อนนะยัยหน้าเงินเอ่อ.. พิ.. พิมาญา ฉันไปทำธุระข้างนอกแล้วจะรีบกลับ...." จุ๊บ....เอกดนัยจูบลงไปที่ริมฝีปากค่อนข้างแห้งของพิมาญาเป็นเพราะนอนโรงพยาบาลนานมันเลยทำให้ปากที่เคยอวบอิ่มถึงกับแตกแห้งเป็นขุย... น้ำขิงเบ้ปากใส่ด้วยความหมั่นไส้.. โด่เธอก็ได้จุ๊บแพทตี้ของเธอแล้วเถอะ ถึงแม้ว่าจะเป็นการขโมยจุ๊บก็ตามแต่เธอก็ได้จุ๊บแล้ว... แพทตี้พยักหน้ารับคำของคุณเอกดนัยส่งๆ เธอไม่ได้ยินดียินร้ายอะไรมากนักว่าเขาจะไปไหนหรือทำอะไร ตอนนี้เธอไม่รู้ว่าเธอจะทำอะไร เธอรู้สึกว่าตอนนี้เธอว่างเปล่าไปหมด ทั้งความคิดและการกระทำ...เพียงแค่เอกดนัยออกไปจากห้องนั่งเล่นน้ำขิงก็สรรหาคำพูดหรือเรื่องราวมาพูดคุยกับแพท แต่ดูเหมือนว่าแพทก็ยังคงไม่ยินดียินร้าย.. เธอไม่รู้ว่าจะทำยังไงต่อไปดี เธอกลัวว่าถ้าเธอปล่อยให้แพทตี้คลาดสายตามันจะทำให้แพทตี้คิดอะไรไม่ดีขึ้นมา ดังนั้นไม่ว่าเธอจะเข้าห้องน้ำหรือหาของกินเธอก็จะลากแพทตี้ให้ต
หลังจากที่แพทตี้ไม่ได้สติไปเกือบสองอาทิตย์ เธอก็ตื่นมาพร้อมกับอาการเบลอๆ เธอไม่แน่ใจว่าเธอเป็นอะไร ร่างกายของเธอรู้สึกปวดร้าวไปหมด ตกลงแล้วเธอเป็นอะไรกันแน่....อือ...เอกดนัยที่เฝ้าพิมาญาตลอดทั้งวันทั้งคืนได้ยินเสียงครางเบาๆของใครบางคนมันก็ทำให้เขาลืมตาขึ้นมาและกวาดตามองหาเสียง แต่เขาก็ไม่พบอะไรผิดปกติเลยสักนิด...." คงแค่ฝันไป.... " เอกดนัยพึมพำอยู่คนเดียวแต่เพียงไม่นานเขาก็ได้ยินอีกครั้งและครั้งนี้มันก็ทำให้เขาดีใจจนน้ำตาไหลออกมา...หมับ!! ฮึก.... ฟอดดด" ตื่นแล้วเธอตื่นแล้วยัยผู้หญิงบ้า...ในที่สุดก็ตื่นสักที... รอแป๊บนึงนะ ฉันเรียกหมอก่อน รอแป๊บนึง..." เอกดนัยรีบกดเรียกพยาบาลและหมอให้เข้ามาในห้องของพิมาญาโดยเร็ว เพียงไม่นานทั้งหมอและพยาบาลก็มายืนเสนอหน้ากันเต็มห้องพักผู้ป่วยของพิมาญา....คุณหมอเล่าทุกอย่างให้พิมาญาฟัง เอกดนัยที่ยืนอยู่ไม่ไกลนักเขาเห็นน้ำตาหยดแล้วหยดเล่าที่ไหล่ออกมาจากวงตากลมโตคู่นั้น... แววตาที่เคยเศร้าตอนนี้เปรอะเปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตา.... เขาสงสารพิมาญา เขาจะต้องเอาตัวคนร้ายมาลงโทษให้ได้... เขาสัญญาเลย...เพียงแค่หมอและพยาบาลออกไปเขาก็รีบพาตัวเองที่ยังต้องนั่งรถเข
หลังจากที่ครามได้ข่าวของแพทว่าถูกรถชนจนแท้งลูกและไอ้คุณเอกดนัยก็เดี้ยงไปตามๆกัน เขากับป๊าเลยมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล เมื่อมาถึงเขาก็มาเจอท่านภพกูลและลูกชายอีกคนของท่าน ทั้งสองคนนั่งอยู่ที่หน้าห้องผู้ป่วยพ่อเขาและเขาเข้าไปทักทายทั้งสองคนด้วยท่าทีที่อ่อนน้อม ลูกชายคนเล็กของท่านภพกูลอายุน่าจะน้อยกว่าเขาสักสามถึงสี่ปี ท่าทางดูเป็นคนนิสัยดีไม่เหมือนคนเป็นพี่..." แพทเป็นยังไงบ้างครับ..." เพราะว่ายังไม่สามารถเข้าไปเยี่ยมได้หลายๆคน เขาจึงต้องถามข่าวคราวจากท่านภพกูลแทน..." ยังทรงตัวน่ะ คงจะต้องรอให้ฟื้นก่อน แต่ก็ต้องรอดูสภาพจิตใจของหนูแพทด้วย ตอนนี้ทางผมก็กำลังให้คนไปตามสืบกันว่าคนขับรถน่ะเป็นคนทำเองคนเดียวหรือว่ามีใครว่าจ้างมา.. เพราะเท่าที่ดูมันเหมือนเป็นการจงใจเอามากๆ...." ภพกูลคิดในแง่ลบไว้ก่อน เขาไม่รู้หรอกว่าเรื่องราวมันเป็นมายังไง รอบตัวเขาต่างก็มีคนต้องการที่จะชิงดีชิงเด่น และต้องการที่จะโค่นล้มตระกูลพวกเขา... ดังนั้นคนที่อ่อนแอที่สุดก็เป็นใครไปไม่ได้นอกจาก... หนูแพท แต่มันจะมีใครรู้กันเพราะการจดทะเบียนของสองคนนั้นมันคือการจดแค่เพียงในครอบครัวของเขา" ไม่ต้องห่วงนะครับ ผมจะช่วยท่านอีกแร
เอกดนัยโทรบอกคนเป็นพ่อเขาว่าเขาเจอลูกสะใภ้ของท่านแล้ว และตอนนี้ก็อยู่กับเขาด้วยที่สำคัญท้องด้วย พ่อเขาถึงกับดีใจยกใหญ่ บอกว่าจะบินมาหา เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร ตอนแรกพ่อบอกว่าจะมาตอนนั้นเลย แต่เขาบอกว่าพรุ่งนี้ค่อยมาก็แล้วกัน เพราะมันก็เย็นมากแล้ว ไปไหนมาไหนลำบาก พ่อเขาจึงยอม...." ยัยหน้าเงิน.. พรุ่งนี้พ่อจะมา มาหาเธอมาหาหลาน... แต่งตัวสวยๆนะ เสื้อผ้าฉันจัดไว้ให้เต็มตู้หมดแล้วเลือกใส่ได้เลย กางเกงชั้นในลายสวยๆ เสื้อชั้นในลายสวยก็มี ชุดนอนไม่ได้นอนก็เยอะ เลือกเอาเลยว่าจะใส่อะไร เพราะฉันได้หมดไม่ติด...." เอกดนัยขยิบตาให้กับพิมาญาหนึ่งครั้งเขาขยิบตาได้ไม่นานเขาก็โดนฝ่ามืออรหันต์ทันทีเพี๊ยะ..."โอ๊ยยยย ยัยนี่นิ.. ฟาดลงมาได้ แขนฉันหลุดแล้วเนี่ย.." เสียงเอะอะโวยวายพร้อมกับการเล่นเกินเบอร์ของเอกดนัยดังขึ้นมาทันทีที่พิมาญาตีลงมาที่แขนล่ำๆของเขา" เวอร์แล้วค่ะคุณเอกดนัย... คุณนี่ทุเรศน่าเกลียด คิดได้แต่เรื่องอย่างว่า..." " ก็ไม่ได้ทำนานแล้วนี่.. ครั้งก่อนนู้นนนนน ก่อนที่จะเจอเธอฉันก็ไม่ได้ปลดปล่อยมันออกมาเกือบสามเดือนเลยนะยัยหน้าเงิน.... และครั้งสุดท้ายก็วันนั้น นี่มันก็จะเดือนหนึ่งแล้วไหม... ส
เอกดนัยถึงกับตกใจที่ยัยหน้าเงินตะโกนใส่หน้าเขาต่อคนหมู่มาก... คอยดูเถอะรอให้คนพวกนี้กลับไปก่อนเขาจะชำระแค้นนี้ให้ดู...แต่สิ่งที่เขาคิดไว้มันคือ... ผิดพลาดไปหมด ไม่เพียงคนพวกนี้จะไม่กลับแต่ยังหน้าหนาหน้าทนนั่งเล่นอยู่ในบ้านของเขาราวกับว่าตัวเองไม่มีศาลให้ประจำเป็นหลักเป็นแหล่ง ราวกับเป็นผีไร้ศาลให้ตายเถอะวะ " คุณป๊าลองทานนี่ดูค่ะ แพททำเอง..." แพทตี้ขอให้คนของคุณเอกดนัยไปซื้อของมาให้เธอเพื่อทำกับข้าว เธออยากกินต้มยำกุ้งเปรี้ยวๆ อยากกินยำวุ้นเส้นรสจัดๆ เธออยากกินไก่ผัดพริกแกง... และข้าวสวยร้อนๆ แกงจืดไข่เจียว และในที่สุดเธอก็ได้ทำมันกิน เมื่อก่อนเธอยอมรับว่าเธอต้องประหยัดและอดออม แต่ในเมื่อมีคนหน้าใหญ่พยายามอวดรวยดีนัก เธอก็สนองให้ตามแรงศรัทธา " ตักอันนั้นให้หน่อยสิอยากกิน..." เอกดนัยถึงกับหน้าตึงที่ยัยหน้าเงินตักกับข้าวให้กับคนอื่นโดยที่ไม่ตักให้เขาเลยสักนิด...." ตักเองสิคะ คุณก็น่าจะตักถึง..." อยู่ใกล้แค่นี้ยังจะมาใช้เธออีกบ้าป่ะ..." ตักให้หน่อยสิ... อยากกินอันนั้นอ่ะ " เอกดนัยชี้ไปยังแกงจืดที่ใช้ไข่เจียวทำ เขาไม่เคยกินเลยสักครั้งยัยนี่ตอนอยู่บ้านไม่ยอมทำให้กินเลยสักครั้ง หรือว่าทำ
และสุดท้ายแพทตี้ก็ไม่ได้กลับบ้านจนตอนนี้2ทุ่มเข้าไปแล้วเธอก็ยังตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา เขาไม่ได้ทำอะไรเธอ การที่เขาไม่ทำอะไรเธอหรือต่อว่าเธอแรงๆมันทำให้เธอรู้สึกกลัวเขาพิลึก เพราะเธอไม่สามารถรู้ได้ว่าเขาคิดยังไงกันแน่เธอเดาไม่ถูกจริง เขาทำแบบนี้เธอไม่ชินเลยสักนิด..." ยัยหน้าเงินมานี่หน่อยอ๋อไม่สิ ฉันจะต้องเดินไปหาเธอเองถ้ารอให้เธอมาคงจะไม่มีทางเป็นไปได้..." เอกดนัยเดินเข้ามาหาพิมาญาพร้อมด้วยกล่องพัสดุกล่องใหญ่ ซึ่งของพวกนั้นเขาสั่งออนไลน์แบบรวดเร็วทันใจ และที่สำคัญเขาสามารถเช็กระยะการส่งของได้ด้วยแบบนี้สิมันถึงจะดีแพทตี้ก็ยังคงรู้สึกเกร็งทุกครั้งที่อยู่กับเขาขนาดตอนนี้แล้วเธอก็ยังไม่รู้ว่าจะต้องทำตัวยังไงเลย...เอกดนัยยกชุดเอี้ยมที่ดูน่ารัก(สำหรับเขา)ขึ้นมา ราคาก็ไม่ใช่บาทสองบาท เขาสั่งจากร้านที่เป็นเสื้อผ้านำเข้า ดังนั้นคุณภาพและการตัดมักจะสวยเป็นธรรมดา เขายกขึ้นมาแล้วเอาไปทาบไว้ที่ตัวของพิมาญาทันที"เอาไปใส่ให้ดูหน่อย.. เร็วสิถ้าชักช้าฉันจะใส่ให้เธอเองเลือกเอาว่าจะเอาแบบไหน ใส่เองหรือฉันใส่ให้..." และเขาก็คงเป็นเขาเหมือนเดิม ดังนั้นเธอจึงขอทำเลือกที่จะใส่เองดีกว่า... ก๊อกๆๆ"เสร็จ
ครามโทรหาแพทตี้หลายต่อหลายครั้ง เขารู้สึกเป็นห่วงแพทตี้เป็นอย่างมาก แต่ทำยังไงแพทก็ไม่รับ..มันยิ่งทำให้เขารู้สึกเป็นห่วงแพทมากขึ้นและทำให้เขาต้องรับพาตัวเองไปยังโรงพยาบาลที่แพทตี้ไปฝากครรภ์ตู๊ดดดดด กริ๊ก.." แพท... แพทอยู่ไหน... พี่โทรหาตั้งนานทำไมไม่รับ รู้ไหมพี่กับป๊าเป็นห่วง.." เพียงแค่ปลายสายกดรับเท่านั้นครามก็พรั่งพรูคำพูดต่างๆนาๆออกมาเสียยาวยืด..."เมียกูหลับอยู่ มึงอย่ามาจุ้นจ้านกับเมียกูให้มากนัก..ระวังตัวมึงเอาไว้ให้ดี..." "คุณ... แพทอยู่ไหนคุณทำอะไรแพท แพทท้องอยู่ คุณอย่างทำอะไรบ้าๆนะ... ถ้าคุณทำร้ายแพทอีกครั้ง ผมจะแจ้งความจับคุณ หลักฐานผมมีทุกอย่าง" อันที่จริงเขาไม่มีอะไรหรอกแค่ขู่ไปงั้นเอง..." ชู้แบบมึงไม่มีสิทธิ์ เอาสิแจ้งเลยกูจะได้ฟ้องชู้แบบมึงด้วยที่มายุ่งกับเมียกู และทำให้เมียกูท้อง กูจะพาเมียกูไปเอาลูกของมึงออกเองมึงไม่ต้องห่วง..."" คุณมันบ้า ถ้าคุณทำอะไรแพทกับเด็กในท้องคุณจะเสียใจไปตลอดชีวิตผมบอกคุณเอาไว้เลย และที่สำคัญถ้าแพทยินดีให้ผมเป็นพ่อของเด็กในท้องผมก็เต็มใจในเมื่อเด็กมันทีพ่อเลวแบบคุณแล้วมันไม่ดี งั้นผมก็จะเป็นพ่อให้แทน.. " ตู๊ดๆๆ" ไอ้เวรเอ๊ย... ทำไมมัน
เอกดนัยเลือกที่จะไม่ตอบโต้ผู้หญิงบ้าคนนี้ แต่เขาเลือกพายัยบ้านี่เข้ามาในตัวบ้านของเขา..." คุณเอกดนัย... ได้โปรดเถอะนะคะ ปล่อยฉันเถอะนะคะ... ฉันต้องไปแล้ว ฉันต้องกลับแล้ว ฉันต้องไปทำงาน" ถึงแม้ว่าเธอจะขอร้องเขายังไงแต่เขากลับไม่ฟังเธอเลย และที่สำคัญเขายังไม่ยอมเปิดปากคุยกับเธอเลยสักคำตั้งแต่บนรถ...ขวับ!!! ว๊ายยยยแพทตี้ถึงกับตกใจ... เพียงแค่เขาหันกลับมาหาเธอ เธอก็ต้องตกใจร้องออกมา อยู่ๆเขาก็หันกลับมาหาเธอ พร้อมกับกระชากตัวเธอเอาไปพิงกับกำแพง... เอกดนัยกักขังพิมาญาเอาไว้ในอ้อมแขนแกร่ง เขาต้องรู้ให้ได้ว่ายัยบ้านี่ท้องได้ยังไง.... ท้องกับใคร....สมองของเขามันตีกันไปหมด ใจหนึ่งก็กลัวว่ายัยนี่จะสวมเขาให้เขา แต่อีกใจก็ยังคงสับสนว่าถ้าเกิดเด็กคนนี้เป็นลูกของเขาจริง เขาควรจะรู้สึกอย่างไรดี.. ดีใจไหม หรือว่าเขาควรจะทำยังไงดี..." ท้อง... เธอท้อง... ลูกของใคร ของฉันหรือของมัน..." เขาพอจะนึกได้ถึงไอ้ผู้ชายคนนั้น ที่มันจับแขนของยัยผู้หญิงหน้าเงินในครั้งนั้น...." ไม่ใช่ลูกคุณ ไม่ใช่.... " แพทตี้ไม่มีทางที่จะให้เขารู้ได้ว่าเด็กคนนี้เป็นลูกของใคร..." มองตาฉันแล้วตอบพิมาญา.... ตอบ!!" เอกดนัยตะโกนอ
หนึ่งอาทิตย์แล้วที่เอกดนัยมาอยู่ที่ภูเก็ต ถึงแม้ว่ามันจะทำให้เขาเบื่อหน่ายในการใช้ชีวิตอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีกว่าการที่เขาต้องคอยรับมือกับแยมในทุกๆวัน เขายอมรับว่าช่วงที่เขามาอยู่ที่นี่ มันคือสิ่งที่ทำให้เขามีความสุขแปลกๆ เขาไม่ต้องการแยมในเรื่องอย่างว่า เขาไม่ต้องการเรื่องอย่างว่าตั้งแต่ยัยผู้หญิงคนนั้นหนีเขาไป เขาไม่ต้องการเลย ดูสินี่ก็จะเข้าเดือนที่สามแล้ว เพียงแค่เขาต้องการหาใครสักคนมารองรับอารมณ์เปลี่ยวของเขา เพียงแค่พวกหล่อนก้าวเท้าเข้ามายืนใกล้ๆมันก็ทำให้เขาต้องรีบพุ่งตัวเข้าไปยังห้องน้ำทันที บางคนถึงกับพูดแซวว่าเขาทำเหมือนกับคนที่แพ้ท้องแทนเมีย เขาก็คิดตามนะ แต่จะเป็นไปได้ยังไงในเมื่อเขาเป็นคนยื่นยาคุมให้ยัยนั่นกับมือ และที่สำคัญถ้าแยมท้อง แยมก็ไม่เก็บเงียบเอาไว้แบบนี้แน่.. ดังนั้นไม่มีทางที่จะเป็นไปได้...ตึกตึกตึก..." คุณเอกครับ... แฮ่กๆ.. เกิดเรื่องครับ เกิดเรื่องแล้ว.." ลูกน้องคนสนิทของเขาวิ่งหน้าตื่นมาหาเขา ตอนนี้เขานั่งอยู่ในห้องทำงานที่แยกส่วนออกมาจากโรงแรม เขาเป็นคนเสนอให้พ่อของเขาสร้างมันเป็นสำนักงานแยกออกมาจากโรงแรม.. เพื่อที่พื้นที่ของโรงแรมจะได้มีเอาไว้ใช้สอยได้เต็ม