“ผมได้ตัวเธอมาแล้วครับ” ชายในชุดสูทสีดำ เยื้องย่างเข้ามาอย่างมั่นคงแล้วรายงานผู้เป็นเจ้านายด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หลังจากทำงานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง
เจ้าของเรือนกายสมส่วนที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามอย่างคนดูแลสุขภาพยังคงยืนหันหลัง ทอดสายตามองวิวตระการตาของมหานครบนเพนต์เฮาส์หรู
แสงไฟระยิบระยับสะท้อนผ่านกระจกบานใหญ่ ขณะยกแก้วเหล้าขึ้นจิบ รสขมปร่าปะทะปลายลิ้นพลางกระตุกยิ้มมุมปากด้วยความพึงพอใจ
“ทำได้ดีมาก ไนล์”
“ให้พาเธอเข้ามาเลยมั้ยครับ”
“อืม”
ลูกน้องคนสนิททำตามอย่างรู้งาน หลังจากนั้นเพียงไม่กี่นาที ไนล์กลับเข้ามาพร้อมร่างเล็กอ่อนปวกเปียกที่สลบอยู่บนแขนแกร่ง
หญิงสาวมีผิวขาวละเอียดตัดกับชุดเดรสสีแดงสดที่สวมใส่ทำให้ดูโดดเด่นสะดุดตากำลังถูกวางลงบนโซฟาตัวใหญ่อย่างเบามือ
มาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาหยุดยืนข้างโซฟาพลางมองใบหน้าสวยหวานของผู้หลับใหล แล้วเลื่อนลงมายังทรวดทรงองค์เอวงดงามซึ่งสามารถดึงดูดบุรุษเพศได้อย่างง่ายดาย
ทว่าความสวยของเธอไม่สามารถทำให้คนอย่างเขาเมตตาแม้แต่น้อย…
“ไปเอาน้ำมา”
“ครับ” ไม่นานลูกน้องคนสนิทเดินมาพร้อมน้ำหนึ่งถังแล้วส่งให้เจ้านายเขาทันที ไม่รอช้ามาเฟียหนุ่มสาดเข้าไปยังร่างเล็กโดยไม่กลัวว่าโซฟาหรูของเขาจะเสียหาย
“แค่กๆ” หญิงสาวสำลักน้ำที่ไหลเข้าไปในจมูกแล้วลืมตาขึ้นมาก็พบกับคนที่เธอรู้สึกคุ้นหน้ากำลังยืนมองเธอด้วยสายตาโกรธแค้น แต่พอนึกดูดีๆ เธอก็จำได้ว่าชายผู้นี้เป็นใคร
“จับฉันมาทำไม” เธอมองชายทั้งสองคนสลับกันอย่างรอคำตอบ
“พี่ชายคุณอยู่ไหน” มาเฟียหนุ่มไม่ฟังคำถามของเธอแต่กลับถามสิ่งที่เขาอยากรู้ไปแทน
“ทำไมฉันต้องบอกคุณ” เธอพูดออกมาอย่างไม่เกรงกลัว
“อย่ามาปากดี” เขาเดินเข้าไปแล้วใช้มือหนาบีบคางเล็กอย่างแรง
“โอ๊ย เจ็บนะ” เธอร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะแรงที่ส่งมาจากคนตรงหน้าไม่ใช่น้อยๆ
“บอกมาว่าพี่ชายตัวดีของคุณมันไปมุดหัวอยู่ที่ไหน” เขาขบกรามแน่นอย่างข่มอารมณ์ที่กำลังเดือดดาลอยู่ในใจ
“ฉันไม่บอกคนอย่างคุณหรอก จับผู้หญิงที่ไม่มีทางสู้มาแบบนี้ สวะ” เธอพูดพร้อมจ้องหน้าเขาอย่างเกลียดชัง
“สวะเหรอ”
เพี้ยะ!! มาเฟียหนุ่มสะบัดมือลงบนแก้มขาวของเธอจนเกิดรอยแดงเป็นปื้น
หญิงสาวหน้าหันตามแรงตบและรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดในปาก จึงตวัดสายตามองเขาอย่างโกรธแค้น
“คุณมีสิทธิ์อะไรมาตบฉัน ไอ้สารเลว ถุย” เธอพ่นน้ำลายที่ผสมกับเลือดไปยังใบหน้าหล่อเหลาของเขา มาเฟียหนุ่มปาดมันออกพร้อมจ้องใบหน้าหวานของเธอด้วยสายตาโกรธจัดแต่หญิงสาวไม่ได้หยุดคำพูดแค่นั้น
“คนอย่างคุณมันก็ดีแต่ทำร้ายผู้หญิง สมแล้วที่คาเทียร์หนีไป”
“ผมบอกให้หุบปาก!! ถ้ายังไม่อยากตายอยู่ที่นี่”
เขาพูดแล้วปรี่เข้าไปกระชากคอเสื้อของเธออย่างแรง
“ทำไม จะฆ่าฉันเหรอ ก็เอาสิ” เธอสบตาเขาอย่างท้าทาย
“อย่ามาท้าทายคนอย่างผม”
“คุณคิดว่าถ้าฉันตายไป จะหาพี่ชายฉันกับน้องสาวของคุณเจอเหรอ ขนาดคุณมีอิทธิพลขนาดนี้ยังพาตัวน้องสาวกลับมาไม่ได้ เหอะ น่าสมเพช แต่ฉันก็พอจะเดาออกว่าทำไมถึงต้องหนี เพราะมีพี่เลวๆ แบบนี้นี่เอง ถ้าเป็นฉัน ฉันก็หนี”
เขายืนฟังคำพูดที่เธอพ่นออกมาแล้วขบกรามเข้าหากันแน่น มือหนาบีบลงไปยังลำคอเรียวขาวอย่างควบคุมไม่ได้
“อึก อ่อย” เธอรู้สึกทรมานเพราะขาดอากาศจึงพยายามแกะมือเขาออกแต่ก็ไม่เป็นผล
“คิดว่าผมไม่กล้าฆ่าคุณจริงๆ สินะ” เขายิ้มเย็นพร้อมส่งแรงไปยังลำคอเธอเพิ่มขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
หญิงสาวรู้สึกราวจะขาดใจตายจนต้องหาทางรอด เธอเหลือบไปเห็นปืนพกเหน็บอยู่ที่เอวของเขา จากนั้นพยายามตั้งสติพร้อมดึงมันมาด้วยความเร็วและเหนี่ยวไกปืนลงไปยังหน้าท้องของเขา แต่เพราะความไม่ชำนาญ ลูกกระสุนกลับโดนสีข้างของเขาแค่ถากๆ เท่านั้น
ปัง!! เพล้ง
แต่กลับไปโดนแจกันด้านหลังของเขา ซึ่งเป็นของเก่าแก่ของตระกูลที่ประเมินมูลค่าไม่ได้
“นาย!!” ลูกน้องคนสนิทอุทานอย่างตกใจพร้อมเดินเข้าไปหาเจ้านายหนุ่ม
เมื่อรู้สึกแสบบริเวณสีข้างเขาจึงปล่อยมือจากลำคอที่แดงเถือกของเธอแล้วใช้มือสัมผัสเลือดที่ซึมออกมาจากเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเอง
“ไปทำแผลก่อนดีกว่าครับนาย”
“แผลแค่นี้ไม่เป็นอะไรหรอก ฤทธิ์เยอะดีนิ ผมจะทำให้คุณหมดพิษสงเอง” มาเฟียหนุ่มจ้องมองใบหน้าเธอที่มีแววตาแตกตื่นจากสิ่งที่เธอได้ทำพลาดไปแล้วพูดกับลูกน้องคนสนิท
“ถ้าไม่อยากดูหนังสดก็ออกไปก่อน”
เมื่อเห็นว่ามาเฟียหนุ่มตรงหน้าไล่ลูกน้องของเขาออกไปแล้ว ความกลัวของหญิงสาวก็เริ่มคืบคลานเข้ามาอีกเป็นเท่าตัวเพราะรู้ดีว่ามาเฟียหนุ่มคิดจะทำอะไรกับเธอ
“อย่านะ” เธอส่ายหน้าพร้อมเดินถอยหลัง
“ไม่เก่งเหมือนก่อนหน้านี้แล้วเหรอ”
เขาเดินย่างสามขุมเข้าไปหาหญิงสาวที่พยายามจะถอยหลังหนีเขา
“ไม่ต้องหนีหรอก รู้ใช่ไหมว่ายังไงก็ไม่รอด ในเมื่ออยากจะลองดี ผมก็จะจัดให้เอาให้เดินขาถ่างเลยเป็นไง”
“สกปรก เลว ต่ำช้า เดรัจฉาน”
“ด่ามาเลยผมไม่เจ็บหรอก ในเมื่อผมถามคุณดีๆ แต่คุณไม่ยอมบอกว่าพี่ชายคุณมันพาน้องสาวผมไปหลบที่ไหน ถ้าอย่างนั้นขอเอาคุณหน่อยแล้วกัน เผื่อความลับจะหลุดออกมาพร้อมเสียงคราง”“บอกว่าไม่รู้ไง!”“คิดว่าผมจะเชื่อ? ถ้าคำตอบที่ผมต้องการไม่หลุดออกมาจากปากคุณ อย่างน้อยๆ ก็ยังมีเสียงครางหลุดลอดให้ได้ฟัง แต่ไม่ว่าเสียงอะไรจะหลุดออกมาตอนอยู่บนเตียงผมก็ชอบทั้งนั้นแหละ ยิ่งร้องดังๆ ผมยิ่งชอบ”“ไอ้โรคจิต วิปริตเกินมนุษย์ ชิงโคตรพ่อโคตรแม่หมามาเกิดหรือไง”เธอพ่นคำด่าออกมาไม่ขาดปาก มาเฟียหนุ่มไม่รอช้าอุ้มเธอขึ้นบนแขนแกร่งเดินออกไปจากห้องรับรองแขกแล้วมุ่งหน้าไปยังห้องนอนซึ่งอยู่ติดกับห้องของเขาพร้อมโยนเธอลงบนเตียงใหญ่อย่างแรง“อ๊ะ ไอ้ F***”เขามองหญิงสาวตรงหน้าพลางถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกจนหมด แล้วเดินเข้าไปหาเธอพลางรูดแกนกายที่กำลังขึงขังใหญ่โตของเขาให้เธอเห็น“อุบาทว์ที่สุด” เธอพูดพร้อมยกมือเล็กขึ้นปิดตา“เดี๋ยวคุณก็หลงรักมัน เก็บแรงไว้เด้งเอวรับการกระทำของผมดีกว่า”เขาพูดพลางกระชากเสื้อผ้าของเธอจนขาดวิ่นแล้วโยนมันทิ้งลงพื้นไม่พอแค่นั้นเขาปลดชุดชั้นในสีดำของเธอออกอย่างง่ายดายแม้ว่าเธอจะพยายามผลักเขายังไง แต
(เมืองเนเปิลส์ ประเทศอิตาลี)เหตุการณ์ก่อนหน้าKK.HOTELหญิงสาวรูปร่างสันทัด สวมชุดยูนิฟอร์มเรียบหรูใบหน้ารูปไข่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางราคาแพง ดวงตากลมโตสีน้ำตาลอ่อนแฝงรอยยิ้มจาง จมูกเชิดรั้นเล็กน้อยรับกับริมฝีปากกระจับอมชมพูกำลังส่งรอยยิ้มชวนมองและเปล่งเสียงหวานออกมาทำให้บรรดาผู้มาใช้บริการโรงแรมแห่งนี้ต่างชื่นชอบและพึงพอใจกันถ้วนหน้าช่วงนี้เป็นช่วงซัมเมอร์จึงมีนักท่องเที่ยวหลากหลายประเทศเดินทางเข้ามาเที่ยวอย่างไม่ขาดสายหญิงสาวได้เข้ามาทำงานที่โรงแรมแห่งนี้ตำแหน่งพนักงานต้อนรับหลังจากเรียนจบ เธอเชื่อมาตลอดว่าตนเองเข้ามาด้วยความสามารถที่มีจึงตั้งใจทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายด้วยความกระตือรือร้นให้สมกับการที่ได้รับโอกาสในครั้งนี้ตัวเธอเองชื่นชอบที่ได้ดูแลและสร้างความประทับใจให้กับบรรดานักท่องเที่ยวที่ไว้วางใจในการเลือกมาใช้บริการที่นี่“ไม่สบายหรือเปล่า อลิส” เพื่อนร่วมงานของเธอถามขึ้นหลังจากบริเวณล็อบบี้ไม่มีแขกแล้วและเห็นว่าใบหน้าหวานมีเหงื่อเม็ดเล็กผุดขึ้นมาจากไรผม“เปล่าหรอก ช่วงนี้อากาศมันร้อนด้วยแหละ”อลิสตอบเพื่อนสาวตรงหน้าแล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อที่ซึมออกมาเบาๆ พร้อมยิ้มแห
“หมอ?” เธอเลิกคิ้วอย่างสงสัย“นายจะบอกคุณเอง ขอตัวก่อนนะครับ”หญิงสาวมองตามเขาแล้วถอนหายใจออกมาและคิดหาทางหนีออกจากที่นี่อีกครั้ง เธอไม่รู้ว่าคนพวกนี้จะทำอะไรกับเธอบ้างตอนนี้จึงจำใจแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่ไนล์นำมาให้ เสื้อผ้าในถุงมีหลากหลายแบบให้เลือกซึ่งล้วนเป็นสไตล์ที่เธอชอบใส่อยู่เป็นประจำก็คือชุดเดรสยาวสีขาวคลุมเข่ากับรองเท้าผ้าใบสีขาวเพราะเธอรู้สึกว่ามันคล่องตัวหลังจากแต่งตัวเสร็จเธอเดินมุ่งหน้าไปยังห้องรับแขกโดยมีไนล์เดินนำหน้าอยู่ ระหว่างทางก็แอบมองเฟอร์นิเจอร์ที่ตกแต่งด้วยโทนสีดำสลับทองดูหรูหราแต่ลึกลับไปพร้อมๆ กันห้องที่นี่ดูเหมือนว่าจะมีหลายห้องและระบบความปลอดภัยก็หนาแน่น หากจะหนีออกไปคงไม่ง่ายอย่างแน่นอน แต่มันคงต้องมีสักวิธีที่จะออกไปได้ เธอคิดอย่างไม่ยอมแพ้ครั้นมาถึงห้องรับแขกก็เห็นว่าคุณหมอมาดเข้มกำลังนั่งคุยกับมาเฟียหนุ่มอยู่บนโซฟาตัวหรูและมีบอดี้การ์ดของเขาอีกสิบกว่าคนยืนอยู่ทั่วทุกมุมห้อง'คนพวกนี้ถูกคัดหน้าตาเข้ามาหรือยังไง 'เธอคิดแล้วไล่สายตามองคนเหล่านั้นที่มีใบหน้าหล่อคมคายแต่ยืนเรียงรายกันเหมือนคนไร้ชีวิตจิตใจมาเฟียหนุ่มปรายตามองหญิงสาวที่กำลังใช้สายตาใสซื่อม
หญิงสาวเดินออกมาพร้อมชุดราตรีสีครีมโชว์ทรวดทรงสวยงามและสวมรองเท้าส้นสูงสีเดียวกัน ผมประบ่าของเธอถูกรวบขึ้นและจัดทรงอย่างดูดี เคลย์ตันปรายตามองใบหน้าหวานครู่หนึ่งแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา ทั้งคู่จึงเดินออกไปขึ้นรถที่เตรียมไว้แล้วมุ่งหน้าไปยังโรงแรมหรูซึ่งเป็นสถานที่จัดงานในคืนนี้ เคลย์ตันยกแขนให้เธอควงหลังออกมาจากรถแต่หญิงสาวกลับนิ่งเฉยจนเขาต้องกระชากแขนเล็กให้ทำตามและใช้สายตาเป็นเชิงขู่อลิสเห็นดังนั้นก็ทำตามอย่างเลี่ยงไม่ได้ เมื่อทั้งคู่เดินเข้าไปในงานเกือบทุกสายตาจับจ้องไปทางคนทั้งสอง เหล่าบรรดาสาวๆ แผ่รังสีความอิจฉาริษยาส่งไปทางอลิสอย่างเปิดเผยจนเธอรู้สึกประหม่าหลังจากเคลย์ตันเดินไปทักทายนักธุรกิจคนอื่นๆ อลิสจึงขอตัวไปเข้าห้องน้ำโดยมีไนล์คอยดูแลอยู่ไม่ห่าง“จะเข้าไปกับฉันด้วยไหมล่ะ” เมื่อมาถึงหน้าห้องน้ำเธอหันไปถามไนล์อย่างประชดบอดี้การ์ดหนุ่มจึงเดินไปหยุดอยู่อีกมุมหนึ่งเพื่อรอเธออลิสเดินเข้าไปในห้องน้ำแล้วพยายามคิดหาทางหนี จึงเดินออกไปมองหาไนล์ที่ยืนอยู่ไม่ไกลเห็นว่าเขายืนหันหลังคุยโทรศัพท์อยู่ เธอเห็นดังนั้นก็รีบใช้สายตากวาดมองยังประตูที่สามารถหนีออกไปได้ สายตาเหลือบไปเห็นบันได
พลั่ก! กริ๊กมาเฟียหนุ่มได้ยินคำด่าที่ออกมาจากปากของหญิงสาวก็ชักปืนที่เหน็บออกมาแล้วจ่อไปยังขมับของเธอด้วยแววตาเหี้ยมเกรียมไฟโทสะลุกโหมท่วมตัวเขาหญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อเมื่อเห็นว่าเขากำลังทำอะไรแต่เธอแสร้งทำเป็นใจดีสู้เสือแม้นัยน์ตาจะสั่นไหวหัวใจจะเต้นโครมครามก็ตามเธอจ้องมองลึกลงไปในตาเขาแม้จะมีสายตาโกรธแค้นแต่มันมีอะไรที่มากกว่านั้น มือหนาของเขากำปืนแน่น“ยิงสิ ฆ่าฉันสิ” เธอท้าทายเขาอีกครั้งคนทั้งสองยืนมองหน้ากันอย่างไม่มีใครยอมใคร“นายครับ” ไนล์เรียกสติเจ้านายหนุ่มแล้วใช้มือของเขาเข้าไปแตะเบาๆที่ข้อศอกผู้เป็นนาย เคลย์ตันสะบัดมือของลูกน้องคนสนิทออกแล้วยิงไปทางด้านขวาของตนเองรัวๆ อย่างระบายอารมณ์ที่เดือดดาลอยู่ในใจปัง! ปัง! ปัง!หญิงสาวตกใจปิดตาแล้วใช้มือเล็กปิดหูของตัวเองก้มหน้าลงกับพื้น หลังจากมาเฟียหนุ่มระบายความอัดแน่นที่อยู่ในใจเสร็จและเริ่มมีสติเขาก็ปรายตามองเธออีกครั้งอย่างตักเตือนแล้วเดินเข้าห้องนอนของตัวเองไป โดยมีไนล์มองตามมาเฟียหนุ่มไปด้วยแววตายากจะอธิบายหลังจากเคลย์ตันเดินเข้าห้องไป อลิสเองก็เดินเข้าไปยังห้องตัวเองเช่นเดียวกัน เธอล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างหมดแรงเพราะตอนนี้
เขาตวัดสายตาคมมองใบหน้าของเธอ รังสีน่าสะพรึงกลัวแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณ เขาลุกขึ้นยืนพร้อมเดินช้าๆ ไปหาหญิงสาวที่นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ สายตาของเธอตื่นกลัวกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำลงไป“คุณคิดจะฆ่าผมเป็นครั้งที่สอง” เขาก้มหน้าลงไปใกล้ๆ ใบหน้าหวานที่ตอนนี้ซีดราวกับไก่ต้มแล้วบีบคางเธออย่างแรง“ฉะ..ฉัน อื้อ” เธอพยายามหาข้อแก้ตัวแต่มาเฟียหนุ่มกลับใช้ช้อนตักอาหารพร้อมกับจ่อไปยังปากของเธออลิสพยายามขัดขืนพร้อมกับแกะมือของเขาออก มือของเธอที่ปัดป่ายเป็นพัลวันเผลอไปโดนหน้ามาเฟียหนุ่มอย่างแรงด้วยความไม่ได้ตั้งใจ เขาปล่อยช้อนลงพื้นพร้อมกับยกมือขึ้นเตรียมจะฟาดลงบนใบหน้าขาวแต่เขาชะงักค้างกลางอากาศพร้อมกำมันไว้แน่นแล้วผละออกจากตัวเธอ“พาเข้าห้องแล้วล็อกประตูไม่ต้องให้ออกมาและไม่ต้องให้กินอะไรทั้งนั้น”อลิสถูกขังไว้ในห้องตั้งแต่เช้าจนตอนนี้เวลาล่วงเลยมาถึงช่วงค่ำ เธอเริ่มรู้สึกหิวจนตาลายหลังจากไม่มีอะไรตกถึงท้องมาทั้งวันจึงนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงพร้อมกับพยายามโทรหาพี่ชายสุดที่รักเธอได้ยินเสียงดังมาจากหน้าประตูห้องพร้อมกับร่างของไนล์ที่เปิดเข้ามาและมีอาหารหลากหลายเมนูหน้าตาน่ารับประทานส่งกลิ่นหอมชวนน้ำลายไหล ท้อ
ความเย็นของน้ำสัมผัสผิวขาวละเอียดของเธอทำให้รู้สึกผ่อนคลาย วิวเมืองเบื้องหน้าก็น่ามองไม่น้อย อลิสสนุกอยู่กับการเล่นน้ำอยู่สักพักก็เห็นมาเฟียหนุ่มเดินเข้ามาหาเธอด้วยใบหน้าไม่ค่อยพอใจพร้อมออกคำสั่งกับลูกน้อง“ออกไปให้หมด” หลังจากลูกน้องออกไป เขาตวัดสายตามองอลิสที่ยืนเกาะขอบสระมองเขาด้วยแววตาไม่เข้าใจ จึงเอ่ยเตือนเธอเสียงเรียบ“แต่งตัวให้มันดีหน่อย ที่นี่มีแต่ผู้ชาย”“จะให้นุ่งขาวห่มขาวว่ายน้ำเหรอ” เธอพูดยียวน“ปากดี” เขาพูดพร้อมกับนั่งยองๆ ตรงหน้าเธอ“ไม่หนาวหรือไง”“อากาศร้อนจะตายชัก เอาที่ไหนมาหนาวก่อน” เธอพึมพำเบาๆ แล้วจ้องหน้าเขาอีกครั้ง“คุณนี่ไว้ใจไม่ได้จริงๆ” เธอหมายถึงเรื่องยาที่เขาใส่ลงไปในอาหาร“คุณก็ไม่เคยไว้ใจผมอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ”“ก็ไม่คิดว่าจะเล่นสกปรกแบบนี้”เขายักไหล่ไม่รู้สึกอะไร เธอเห็นดังนั้นก็สั่งอย่างไม่สบอารมณ์“ออกไป”“ที่นี่มันบ้านผม”“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ เกลียด”“ไม่ต่างกัน ถ้าอย่างนั้นผมไปทำงานดีกว่า”“งาน..ฆ่าคนนะเหรอ” เธอถามเสียงแผ่วแล้วก้มหน้าลง“ทำไมคิดแบบนั้น” เขาเหล่ตามองเธออย่างสงสัย“ก็คุณเป็นมาเฟีย”“แต่ผมไม่ฆ่าใครพร่ำเพรื่อ”“จริงเหรอ”“อืม”หลังจาก
“คนเราต้องเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ ให้พวกเขาเลือกกันเองเถอะนะ”“คุณก็รู้ว่างานของผมมีอันตรายอยู่รอบด้าน คาเทียร์ต้องมีคนที่ปกป้องเธอได้และผมคิดว่าพี่ชายคุณไม่สามารถทำได้ ผมมีน้องสาวแค่คนเดียว ผมจะไม่ยอมเสียเธอไป”“ไม่มีใครชอบการสูญเสียหรอกนะ” เสียงของหญิงสาวสั่นเครือเล็กน้อยแต่เคลย์ตันก็รู้สึกได้“เป็นอะไรไป”“เปล่า” เธอตอบโดยหันหน้าไปมองชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหลังของเขาพร้อมสลัดความคิดที่ติดอยู่ในหัวให้ออกไปครืด ครืด ~เสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือของหญิงสาวสั่นอย่างต่อเนื่อง เธอจึงพลิกดูชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอพร้อมหันไปมองหน้ามาเฟียหนุ่มด้วยสีหน้าลำบากใจแล้วพูดออกไป“คุณแม่โทรมา ขอตัวก่อนนะ”อลิสเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาแล้วกดรับสายผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงสดใส(เป็นไงบ้างลูก มัมคิดถึงหนูจังเลย) เอลิซาเบธผู้เป็นมารดาพูดกับลูกสาวของเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“สบายดีค่ะ มัมกับแด๊ดเที่ยวสนุกไหม ทิ้งให้หนูอยู่บ้านเหง๊าเหงา”(จะเหงาได้ยังไง มีพี่ชายอยู่ด้วยทั้งคน) เธอชะงักไปชั่วขณะเมื่อแม่พูดถึงพี่ชายที่พึ่งก่อเรื่องไปหมาดๆ“ก็ไม่มีมัมอยู่ด้วยนี่คะ” อลิสพูดน้ำเสียงออดอ้อน(แหม ให้
“แล้วอลิสไม่พยายามตรงไหน มึงสองคนก็พยายามด้วยกันทั้งนั้น และตอนนี้พวกมึงควรคุยและเป็นกำลังใจให้กันและกันมากกว่าจะมาใส่อารมณ์กันแบบนี้” อาร์เดลพยายามพูดให้มาเฟียหนุ่มได้คิดตามทั้งสองจะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน“มึงไม่ใช่กู มึงก็พูดได้สิ” เขามองสองหนุ่มด้วยใบหน้าบึ้งตึง“ไอ้นี่แม่ง” อาร์เดลเห็นท่าทางของเขาก็รู้สึกเหนื่อยหน่าย“กูไม่อยากคุยกับพวกมึงแล้ว”เคลย์ตันพูดเสร็จก็เดินไปทันทีโดยไม่สนใจอาร์เดลและไนล์ที่มองตามเขาไปพร้อมกับส่ายหัว“เดี๋ยวมันก็เป็นหมา เชื่อเถอะ” ไนล์หัวเราะในลำคอเบาๆอลิสใส่ชุดนอนสายเดี่ยวสีดำสุดเซ็กซี่เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง หญิงสาวใช้ครีมบำรุงผิวลูบไล้ไปทั่วผิวกายเนียนละเอียดของเธอ จากนั้นก็หยิบชุดคลุมขึ้นมาสวมใส่การกระทำของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของมาเฟียหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เขาเหลือบมองหญิงสาวตั้งแต่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว และเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเปิดประตูห้องออกไปเขาจึงถามขึ้นเสียงราบเรียบ“จะไปไหน”“ไปนอนห้องอื่น”“ไม่ให้ไป” เขารีบลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วไปยืนขวางประตูไว้“หลีกไป” เธอพยายามดันตัวเขาให้ถอยออกไป แต่แรงที่เธอม
“มิเกล แม็กซ์เวลล์” อลิสเรียกคนทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามาแล้วรีบลุกขึ้นไปรับเด็กชายมาอุ้มด้วยความคิดถึง คาเทียร์ที่เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างก็พอจะรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร“สวัสดีค่ะ เกลพาแม็กซ์มาหาอลิสและเห็นว่ามาร์ตินคลอดแล้วจึงซื้อของเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก” เธอหันไปทักทายคุณแม่มือใหม่อย่างเป็นมิตรแล้วเดินไปวางของที่นำมาให้ลงข้างๆ พร้อมนั่งลง“ไม่เห็นต้องลำบากเลย ขอบคุณนะคะ” คาเทียร์ตอบกลับเธอด้วยความเกรงใจ“ไม่ลำบากเลยค่ะ” เธอส่งยิ้มให้กับคาเทียร์“คิดถึงแม็กซ์จังเลย” เธอกดจมูกลงบนแก้มป่องๆ ของเด็กน้อย ทำให้เขาหัวเราะร่วนด้วยความชอบใจ“เกลมีของมาฝากอลิสกับคุณเคลย์ตันด้วยนะ” เธอวางถุงผ้าไว้ตรงหน้าพร้อมกับหยิบขวดใสที่บรรจุน้ำสีอำพันออกมา“ยาสมุนไพร เห็นว่ากำลังพยายามมีเบบี้กันอยู่ใช่มั้ย พอดีเกลไปได้สูตรมาจากคนรู้จักที่เขาก็อยากมีลูกและตอนนี้พวกเขาสมหวังไปแล้ว”“ขอบคุณมากเลยนะ”อลิสพูดอย่างซาบซึ้งใจเพราะตั้งแต่พวกเขาพยายามที่จะมีลูกน้อย คนรอบข้างก็คอยให้คำแนะนำและซื้อนั่นซื้อนี่มาฝากเป็นประจำ แม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอที่ส่งยาสมุนไพรมาให้จากไทยตลอด พวกท่านพึ่งกลับไปเมื่ออาทิตย์ก่อนและอีกไม่นานก็คงจะก
เสียงของคาเทียร์ที่ดังขึ้นทำให้พวกเขารีบหันไปมองพร้อมกัน“ที่รักเป็นอะไร ปวดท้องจะคลอดเหรอ” อาร์เดลถามอย่างตกใจ“ลูกดิ้นแรงไปหน่อยค่ะ” คุณแม่ยังสาวพูดแล้วยิ้มแหยๆเพราะทำให้คนอื่นตกใจ“เบาๆกับคุณแม่หน่อยสิครับเจ้าลูกชาย” อาร์เดลใช้มือสัมผัสกับหน้าท้องของผู้เป็นภรรยาเบาๆและรับรู้ได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่ดิ้นอยู่ในนั้น เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุขมาเฟียหนุ่มมองว่าที่คุณพ่อคุณแม่ตรงหน้าแล้วหันไปพูดกับหญิงสาวข้างกาย“ผมอยากมีความรู้สึกแบบนั้นบ้าง เรารีบไปกันเถอะ” เขาลุกขึ้นแล้วกระตุกมืออลิสเบาๆ เธอทำตามอย่างว่าง่าย ทั้งสองเดินออกไปจากตรงนั้นโดยมีอาร์เดลตะโกนไล่หลังไป“ขอให้สมหวังนะเว้ย”เมื่อเข้าไปในห้องพักของโรงแรมหรู พวกเขาต่างถอดเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างรู้หน้าที่ จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็ต้อนร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอไปยังเตียงนอนเขาขึ้นคร่อมร่างเล็กแล้วโน้มตัวลงไปชิมริมฝีปากหวานและซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นพร้อมขบเม้มมันเบาๆ จากนั้นเขาเลื่อนลงมาใช้ลิ้นร้อนแตะลงไปบนยอดถันสีชมพูอ่อนแล้วดูดดึงมันอย่างหิวโหยจนหญิงสาวบิดกายเร่าพร้อมความต้องการที่มากล้นจนต้องส่งเสียงออกมา“อ๊าส์”เสียงหวานที่เปล่งออกมาจากปา
ลูกน้องคนสนิทที่หลับใหลไปหลายชั่วโมงลืมตาขึ้นมาก็เห็นเจ้านายของเขานั่งคิ้วขมวด ส่วนหญิงสาวข้างๆ ก็มีใบหน้ากังวลไม่ต่างกัน“หมอบอกว่าผมรอดตายแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมทำหน้าแบบนั้นกัน เอ๊ะ หรือผมตายไปแล้ว” ไนล์พูดอย่างล้อเล่น เมื่อมองอาการของคนทั้งสอง“ไนล์ ฮึก” อลิสที่ได้ยินรีบเดินเข้าไปหาเขาแล้วปล่อยโฮอีกครั้งตามด้วยเคลย์ตันที่เดินมาหยุดยืนข้างๆ เตียง“ทำไมถึงทำแบบนั้น” เคลย์ตันถามลูกน้องคนสนิทออกไป“ถ้าผมไม่ทำแบบนั้นกระสุนคงจะฝังไปที่คุณอลิสแทนนะสิครับ”“แล้วนายมาบังฉันไว้ทำไม ดูสิต้องมาเจ็บแบบนี้” หญิงสาวปาดน้ำตาออกลวกๆ“ก็ถ้าคุณอลิสเป็นอะไรไป เพื่อนของผมคงอยู่ไม่ได้” คำว่าเพื่อนที่หลุดออกมาจากปากของไนล์ ทำให้เคลย์ตันถึงกับชะงักแม้ทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่ไนล์มักจะปฏิบัติกับมาเฟียหนุ่มแบบเจ้านายกับลูกน้องตั้งแต่เหตุการณ์ของโลแกนในครั้งนั้น เพราะเขารู้ว่าเคลย์ตันเป็นคนอ่อนไหวกับคำว่าเพื่อนมากขนาดไหน มาเฟียหนุ่มกลัวว่าเมื่อใช้คำนี้เขาจะสูญเสียคนๆ นั้นไปและเขาไม่อยากเสียเพื่อนอย่างไนล์ไปอีกคน“ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกกูว่านายแล้ว เรียกเหมือนเมื่อก่อนได้เลย” อลิสยืนมองทั้งสองคุยกันอย่างแป
สายลมพัดผ่านปะทะใบหน้าของหญิงสาวทำให้เธอหยุดพูดครู่หนึ่งหลังจากนั้นก็พูดต่อ“ตอนที่ฉันรู้ความจริงจากปากเคลย์ตัน ฉันตกใจมากเพราะไม่คิดว่าคุณจะทำถึงขนาดนั้น ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาเป็นคนทำให้ฉันสูญเสียคุณไป แต่ฉันไม่เคยรับรู้เลยว่าเขาเองได้สูญเสียอะไรไปบ้างในชีวิต ฉันเข้าใจเขาผิดมาตลอดและเรื่องที่คุณทำกับฉัน ฉันยกโทษให้คุณทุกอย่าง เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ลาก่อน โลแกน”หญิงสาวพูดเสร็จก็วางดอกไม้ลงแล้วหันหลังเดินไปที่รถ เธอรู้สึกผิดกับมาเฟียหนุ่มอย่างสุดหัวใจ หญิงสาวเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนลืมสังเกตว่ามีคนกำลังเดินตามเธอมา อยู่ดีๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งๆ ปะทะเข้าที่ก้านคอแล้วเธอก็สลบไปเอี๊ยดดดมาเฟียหนุ่มที่กำลังขับรถไปธุระข้างนอกเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทรายงานให้ฟัง เขารีบวนรถกลับไปแล้วเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ไนล์บอก เขาขับรถไปด้วยหัวใจสั่นระรัวหลังจากรับรู้ว่าหญิงสาวถูกผู้เป็นพ่อของแดเนียลจับตัวไปที่บ้านหลังหนึ่งเส้นทางที่เข้าไปล้วนเป็นป่าและดูน่ากลัว เขาจอดรถยังหน้าบ้านขนาดเล็ก แม้ว่าไนล์จะกำชับว่าให้คนของพวกเขามาก
“ผู้หญิงเขาบอกให้ปล่อย หูหนวกหรือไง” เสียงทุ้มต่ำที่แสนจะคุ้นเคยทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักแล้วหันไปมองคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆ“เคลย์ตัน” หญิงสาวเรียกเขาเสียงแผ่ว“มึงเป็นใคร แล้วมาเสือกอะไรด้วย” ชายคนนั้นปลดปล่อยอลิสให้เป็นอิสระแล้วหันไปทางเคลย์ตันอย่างเอาเรื่อง“มึงคงไม่อยากรู้หรอกว่ากูเป็นใคร” มาเฟียหนุ่มพูดเสียงเย็นแล้วหันไปสั่งลูกน้องที่อยู่ไม่ไกล“เอามันไปจัดการ”หลังจากลูกน้องของเขาได้พาชายหนุ่มคนนั้นออกไป มาเฟียหนุ่มก็ปรายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดขึ้น “แต่งตัวขนาดนี้มันคงคิดว่า..ขาย”“เคลย์” อลิสเรียกเขาเสียงเบาหวิว เธอไม่สนใจคำพูดเจ็บแสบของเขาก่อนหน้านี้ เธอเดินเข้าไปแล้วเตรียมจะกอดเขาด้วยความคิดถึงแต่มาเฟียหนุ่มเบี่ยงตัวหลบอย่างไร้เยื่อใย“เลิกเรียกผมแบบนั้นได้แล้ว”“ฉันพยายามโทรหาคุณ คุณก็ไม่รับ ไปหาที่เพนต์เฮาส์คนพวกนั้นก็ไม่ให้ฉันเข้าไป ตอนนี้ฉันได้กลับไปทำงานที่เดิมแล้วนะ”“อืม ดีใจด้วย” เขามองหน้าเธอแล้วพูดเสียงเรียบจากนั้นก็หันหลังให้เตรียมจะเดินออกไป แต่อลิสนึกขึ้นได้จึงถามเขาและคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะตามเธอมา“คุณมาที่นี่ทำไม นัดเพื่อนไว้เหรอ”“มาธุระ” เขา
เคลย์ตันมองหน้าน้องสาวแล้วพยักหน้าจากนั้นก็เดินออกมาจากห้อง เขาหันหลังไปมองบานประตูห้องของน้องสาวอยู่เป็นเวลาหลายนาที จากนั้นก็เดินไปหาไนล์ที่อยู่ในห้องทำงานของเขาแล้วตัดสินใจพูดขึ้น“ไปตามไอ้เดลมา”“ครับ?” ลูกน้องคนสนิทมองมาเฟียหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ“บอกให้มันมาดูแลเมียกับลูกมัน” เขาเอ่ยเสียงเรียบ“เข้าใจแล้วครับ” ไนล์เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการและเดินออกไปด้วยความรู้สึกดีใจเพราะเขาเองก็ทนเห็นคุณหนูของเขาเป็นแบบนี้แทบจะไม่ไหวแล้วเช่นกันคาเทียร์นั่งรับประทานอาหารเย็นอยู่กับเคลย์ตันมาพักใหญ่แต่เธอไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว หญิงสาวนั่งเขี่ยอาหารในจานของตนเองอย่างเลื่อนลอยเคลย์ตันเห็นดังนั้นก็พูดขึ้น“กินเยอะๆสิ ลูกจะได้แข็งแรง”เธอพยักหน้ารับรู้แต่ก็ไม่พูดอะไร“โกรธพี่ใช่มั้ย” เขามองน้องสาวที่กำลังเงยหน้ามองเขาอย่างช้าๆ“เทียร์โกรธที่พี่ไม่เคยฟังในสิ่งที่เทียร์ต้องการบ้างเลย” เธอพูดเสียงแผ่ว“แล้วถ้าให้สิ่งที่เทียร์ต้องการ เทียร์จะเลิกโกรธพี่และกลับมาเป็นน้องสาวที่สดใสและน่ารักเหมือนเดิมได้หรือเปล่า”เธอมองหน้าพี่ชายด้วยความแปลกใจ สายตาของเขามองไปด้านหลังของคาเทียร์ จนเธอต้องมอง
“คุณเลยมั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นเป็นผม”“เพราะฉันมีรูปพวกคุณสามคนและวันนั้นที่ฉันกลับไปบ้านฉันแวะไปเยี่ยมเขาที่สุสานและฉันเห็นไนล์กำลังยืนอยู่หน้าหลุมศพเขา”เคลย์ตันนึกถึงวันที่เธอขอเขากลับไปบ้านและใส่ชุดสีชมพูออกไป เขาพึ่งจำได้ว่าโลแกนมักจะซื้อชุดสีชมพูให้เธอใส่ เพราะแบบนี้เองสินะ เขานึกแล้วแค่นยิ้มพร้อมพูดออกมา “ผมเป็นคนยิงเอง ผมฆ่ามันเองกับมือ” เขาบอกเธอเสียงเย็น“คุณทำแบบนั้นทำไม” ใบหน้าเปรอะน้ำตามองเขาอย่างเจ็บปวด“เพราะมันฆ่าพ่อแม่ของผม”“ว่าไงนะ!” อลิสโพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ“พวกเราสามคนเป็นเพื่อนที่ผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย แต่แล้ววันหนึ่งหลังจากพ่อแม่ของผมเสีย ผมกลับรู้ว่าเป็นฝีมือของมัน มันวางแผนไว้ทุกอย่างและทำให้ดูเหมือนว่าเป็นเพราะระบบขัดข้องจึงทำให้เครื่องบินลำนั้นตกมันเข้ามาตีสนิทผมเพื่อเอาข้อมูลต่างๆไปให้ฝ่ายตรงข้าม มันทำได้แนบเนียนมาก ตัวผมเองเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แต่งงานกันเพราะผลประโยชน์และต่างฝ่ายต่างก็พาคนอื่นมานอนแทบจะทุกวัน จนผมคิดว่าบ้านหลังนั้นไม่ต่างอะไรกับพื้นที่โสมม ผมไม่เคยได้รับความรักจากพวกท่านเลย ตอนนั้นผมคิดว่าถ้ามีเพื่อนอาจจะทำให้ผมรู้สึกไม่
เคลย์ตันถูกพาส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว กระสุนเฉียดจุดสำคัญของเขาไปเล็กน้อย เนื่องจากร่างกายเสียเลือดมากจึงต้องให้เลือดและรอดูอาการอีกครั้งแม้ว่าจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วก็ตามเปลือกตาของคนที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆ เปิดขึ้น หลังจากสลบไปเพราะฤทธิ์ยาถึงหนึ่งวันเต็ม เขามีความรู้สึกปวดตึงๆ บริเวณหน้าท้องเล็กน้อย หากเทียบกับความเจ็บปวดที่อยู่ลึกภายในจิตใจแผลบนร่างกายที่เกิดขึ้นมันแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย มาเฟียหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นลูกน้องคนสนิทนั่งอยู่คนเดียว ไนล์เห็นเคลย์ตันกำลังมองเขาอยู่จึงรีบเดินเข้าไปใกล้“เทียร์อยู่ไหน” เขาเลือกที่จะถามหาน้องสาวเป็นคนแรก“เป็นยังไงบ้างครับนาย อ้อ คุณหนูพึ่งกลับไปครับ เดี๋ยวเธอจะมาอีกครั้ง ส่วนคุณอลิสก็กลับไปพร้อมคุณหนูเช่นกัน”“อย่าพูดชื่อผู้หญิงคนนั้นให้กูได้ยินอีก”“ผมอยากให้ลองคุยกับเธออีกครั้ง” ไนล์มองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง “มึงก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยากฟังคำอธิบายของกู”“ตอนนั้นเธออาจจะโกรธเลยพูดไปแบบนั้น” ไนล์พยายามพูดให้ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันเพราะเรื่องนี้มันมีอะไรที่มากกว่านั้น“ออกไปก่อน กูขออยู่คนเดียวและไม่ต้องให้ใครเข้ามา”“ครับ”ไนล์เดินอ