“คนเราต้องเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเองไม่ใช่เหรอ ให้พวกเขาเลือกกันเองเถอะนะ”“คุณก็รู้ว่างานของผมมีอันตรายอยู่รอบด้าน คาเทียร์ต้องมีคนที่ปกป้องเธอได้และผมคิดว่าพี่ชายคุณไม่สามารถทำได้ ผมมีน้องสาวแค่คนเดียว ผมจะไม่ยอมเสียเธอไป”“ไม่มีใครชอบการสูญเสียหรอกนะ” เสียงของหญิงสาวสั่นเครือเล็กน้อยแต่เคลย์ตันก็รู้สึกได้“เป็นอะไรไป”“เปล่า” เธอตอบโดยหันหน้าไปมองชั้นหนังสือที่อยู่ด้านหลังของเขาพร้อมสลัดความคิดที่ติดอยู่ในหัวให้ออกไปครืด ครืด ~เสียงโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในมือของหญิงสาวสั่นอย่างต่อเนื่อง เธอจึงพลิกดูชื่อที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอพร้อมหันไปมองหน้ามาเฟียหนุ่มด้วยสีหน้าลำบากใจแล้วพูดออกไป“คุณแม่โทรมา ขอตัวก่อนนะ”อลิสเดินออกไปจากห้องทำงานของเขาแล้วกดรับสายผู้เป็นแม่ด้วยน้ำเสียงสดใส(เป็นไงบ้างลูก มัมคิดถึงหนูจังเลย) เอลิซาเบธผู้เป็นมารดาพูดกับลูกสาวของเธอด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“สบายดีค่ะ มัมกับแด๊ดเที่ยวสนุกไหม ทิ้งให้หนูอยู่บ้านเหง๊าเหงา”(จะเหงาได้ยังไง มีพี่ชายอยู่ด้วยทั้งคน) เธอชะงักไปชั่วขณะเมื่อแม่พูดถึงพี่ชายที่พึ่งก่อเรื่องไปหมาดๆ“ก็ไม่มีมัมอยู่ด้วยนี่คะ” อลิสพูดน้ำเสียงออดอ้อน(แหม ให้
เคลย์ตันลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมถอดกางเกงยีนออกจนเห็นแกนกายขนาดใหญ่ของเขาที่กำลังชูชันและพร้อมที่จะเข้าไปสำรวจภายในของเธอหญิงสาวมองมันแล้วเผลอกัดริมฝีปากอย่างลืมตัว เขาเห็นดังนั้นก็ก้มลงประกบจูบเธออีกครั้งแล้วดันแกนกายเข้าไปอย่างสุดแรงจนหญิงสาวร้องออกมาเพราะความเจ็บปนจุกจากการกระทำของเขา“อ๊ะ”หลังจากเห็นว่าร่างกายของเธอเริ่มผ่อนคลายเขาจึงขยับเอวอย่างเนิบนาบหากแต่หนักหน่วงทุกการเข้าออก มือหนาไม่ปล่อยว่างกอบกุมเต้าใหญ่ของเธอแล้วเคล้นมันอย่างเมามันภายในกายสาวตอดรัดแท่งร้อนจนต้องขบกรามเข้าหากันจนเกิดสันนูนเพื่อยับยั้งไม่ให้ถึงฝั่งปรารถนาเร็วเกินไปเขามองใบหน้าเหยเกของคนใต้ร่าง เธอดูทรมานและมีความสุขไปพร้อมๆกัน“อ๊าส์ อื้อ” ริมฝีปากเล็กส่งเสียงหวานออกมายิ่งเป็นการเร้าอารมณ์ของเขาให้เตลิด จังหวะการกระแทกเร็วขึ้นและดุดันขึ้นไปอีกเท่าตัว มาเฟียหนุ่มใช้นิ้วหัวแม่มือขยี้ไปยังเม็ดไตที่แข็งขึงตรงกลีบกุหลาบของเธอ หญิงสาวบิดกายเร่าด้วยความรัญจวนใจ ตอนนี้เธอรู้สึกราวกับว่าตัวเองได้ขึ้นสวรรค์จริงๆ“อื้มส์ อ๊าส์”มาเฟียหนุ่มรู้สึกถึงการตอดรัดรุนแรงจากภายในของเธอก็รีบเร่งจังหวะอีกครั้ง เสียงเนื้อก
หลังจากตรวจดูความเรียบร้อยเสร็จและเห็นว่าถึงเวลาที่ต้องเดินทางเพื่อไปทำภารกิจ เธอจึงเดินออกจากห้องก็เห็นมาเฟียหนุ่มกำลังยืนคุยกับลูกน้องคนสนิท เขาหันมองเธอพร้อมกับเดินเข้าไปหยุดยืนอยู่ตรงหน้าและยื่นของบางอย่างให้“เอานี่ ใส่ไว้ในกระเป๋าเผื่อมีเกิดอะไรขึ้นพวกนี้จะเข้าไปช่วยคุณ”หญิงสาวรับเครื่องดักฟังที่เขายื่นให้พร้อมใส่มันลงไปในกระเป๋าแล้วเงยหน้าถามเขาอีกครั้ง“จนถึงตอนนี้ ฉันก็ยังไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นฉัน”“เพราะคุณสวยและผมเชื่อว่าคนอย่างมันต้องยอมเสี่ยงเพื่อที่จะได้คุณ”“ความซวยเลยตกอยู่ที่ฉัน”เคลย์ตันเห็นใบหน้าสวยบูดบึ้งก็ยักไหล่ขึ้นอย่างช่วยไม่ได้“แล้วทำไมคุณไม่จับตัวเขาไปเลยล่ะ จะได้ไม่เสียเวลา”“ช่วงนี้มันไม่ออกจากโรงแรมและผมก็ไม่อยากทำอะไรในพื้นที่ของมัน”“หืม?”“แม่ของมันเป็นเจ้าของมูลนิธิช่วยเหลือผู้หญิง แต่ลูกชายกลับชอบทำร้ายร่างกายและมีรสนิยมป่าเถื่อนกับพวกผู้หญิง จนเกิดข่าวเสียหายหลายครั้ง พวกเขาก็ตามเคลียร์ให้ทุกครั้ง แต่มาช่วงนี้พ่อของมันกำลังลงเล่นการเมืองจึงต้องกักบริเวณลูกชายตัวดีไว้ก่อน”“อ๋อ เป็นคนสร้างแต่ปัญหา ว่าแต่เขาไปทำอะไรให้หรือว่าไปยุ่งกับผู้หญิงของคุณ”
“โอ๊ย มึงเป็นใครวะ มาต่อยกูทำไม” ตอนนี้แดเนียลกำลังงุนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมากเคลย์ตันไม่พูดอะไร เขาเดินเข้าไปประคองอลิสที่กำลังหอบหายใจอย่างรุนแรงไม่นานไนล์และบอดี้การ์ดคนอื่นๆก็ตามเข้ามา แต่สิ่งที่เธอสนใจมากที่สุดคือ หญิงสาวหน้าตาสวยอายุไม่น่าจะเกินยี่สิบกำลังเดินเข้าไปหาแดเนียลและเขาดูตกใจมากที่เห็นเธอ“มิเกลคือ...ผม” แดเนียลเบิกตาโพลงพูดตะกุกตะกัก“หุบปาก!” คนที่ถูกเรียกว่ามิเกลเดินไปดึงกระบอกปืนจากบอดี้การ์ดคนหนึ่งแล้วเล็งไปที่ชายหนุ่มอย่างไม่ลังเล"ผะ...ผมขอโทษ" เขาเริ่มมองไปยังบุคคลภายในห้องก็รู้ได้ทันทีว่าเกิดอะไรขึ้น พ่อเขาเคยย้ำมาตลอดว่าให้ระวังตัวเพราะมันจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นสักวัน ตอนนี้เขาเข้าใจความหวังดีของผู้เป็นพ่อแล้วแม้ว่ามันจะสายไป“ขอโทษเหรอ มันสายไปแล้ว” มิเกลพูดน้ำเสียงสั่น ความโกรธแค้นเจ็บปวดถาโถมพร้อมๆกัน“คิดถึงลูกไว้สิเกล ผมเป็นพ่อของเขานะ” แดเนียลพยายามพูดให้หญิงสาวใจเย็นลง“ก็เพราะฉันคิดถึงลูกไงและคนอย่างแกไม่สมควรเป็นพ่อใครด้วยซ้ำ”มือของเธอที่ถือปืนอยู่สั่นเทา แม้เสียงที่เปล่งออกมาจะมีความเจ็บปวดปะปนอยู่แต่กลับไม่มีน้ำตาสักหยดในดวงตาคู่นั้น"หยุ
เคลย์ตันเดินไปหยิบกระเป๋าให้เธออย่างเลี่ยงไม่ได้แล้วปรายตามองอย่างไม่พอใจพร้อมกับโยนกระเป๋าลงตรงหน้าเธอพลางคิดในใจ‘กล้าดียังไงมาชี้นิ้วสั่งเขา’อลิสเปิดกระเป๋าแล้วรีบชงนมแบบเก้ๆ กังๆ เธอเองก็ไม่เคยเลี้ยงเด็กมาก่อน การกระทำที่ดูตั้งใจของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของมาเฟียหนุ่มตลอดเวลาเมื่อได้นมแล้วหนูน้อยก็นอนดูดอย่างหิวโหย เปลือกตากำลังจะปิดลงในไม่ช้า“ผมจะมาบอกว่า…” เคลย์ตันนึกขึ้นได้ว่าที่เข้ามาเพราะมีเรื่องจะคุยกับเธอ“ชู่ว์” หญิงสาวยกนิ้วชี้ขึ้นแตะริมฝีปากตนเองเพื่อส่งสัญญาณให้มาเฟียหนุ่มเงียบเนื่องจากเด็กชายกำลังจะหลับในไม่ช้าเคลย์ตันเห็นดังนั้นก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาแล้วมองหญิงสาวที่มีเด็กน้อยนอนอยู่บนตัก มาเฟียหนุ่มยกยิ้มมุมปากมองเธอด้วยแววตาแฝงรอยยิ้มไม่นานเปลือกตาเล็กของแมกซ์เวลล์ก็ปิดลงพร้อมเสียงหายใจสม่ำเสมอที่มั่นใจได้ว่าเขาหลับสนิทแล้วจริงๆ อลิสจึงเงยหน้ามองเคลย์ตันแล้วถามถึงสิ่งที่เขาจะพูดก่อนหน้านี้“คุณจะพูดอะไรเหรอ”“คุณออกจากโรงพยาบาลได้แล้วและเราจะเดินทางกลับกันเลย”“อือ” เธอมองหน้าเขาแล้วหวนนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงถามเขา“คุณบินมาถึงที่นี่เพื่อมาช่วยมิเกล แค
เมื่อเขาบอกแบบนั้นอลิสก็เดินเข้าไปอย่างอารมณ์ดี มาเฟียหนุ่มจัดท่าเธอโดยให้วางเท้าห่างเท่ากับหัวไหล่ของเธอแล้วนำด้ามปืนสอดเข้าอุ้งมือของหญิงสาวโดยมีร่างกำยำยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง“กำปืนแล้วเหยียดแขนให้ตรง อย่าเกร็ง ส่วนแขนที่ไม่ได้ใช้ให้ผ่อนคลาย สายตาจ้องไปยังเป้าหมาย”เคลย์ตันสอนเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง อลิสรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขาที่รินรดอยู่บริเวณศีรษะปัง! หญิงสาวลั่นไกปืนไปยังเป้าตรงหน้าเป็นนัดแรกแต่พลาดเป้าไปไกลมาก“หายใจเข้าลึกๆ ตอนยิงให้กลั้นหายใจแล้วผ่อนหายใจออกเมื่อยิงเสร็จ”อลิสพยักหน้าแล้วทำตามแต่โดยดีปัง! นัดที่สองขยับใกล้เป้าขึ้นจนหญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยรอยยิ้ม“มีสมาธิหน่อย” เขาเตือนเธอปัง! นัดที่สามเข้าเป้าตรงกลางอย่างไม่น่าเชื่อ“เย่ ได้แล้ว” อลิสพูดอย่างดีใจพร้อมกับยิ้มกว้าง“คุณเคยเรียนยิงปืนมาก่อนเหรอ” เธอดูไม่เหมือนคนที่จับปืนแล้วยิงครั้งแรก“เคยเรียนไม่กี่ครั้ง”“ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งขึ้น” ถึงแม้คำพูดของเขาจะฟังดูธรรมดา แต่เมื่อเธอได้ยินกลับรู้สึกว่ามันคือการให้กำลังใจ เคลย์ตันพูดเสร็จก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามลูกน้องคนสนิทการซ้อมยิงปืนกินเวลาไปหลายช
“ฉันคิดถึงบ้านมากจริงๆ นะ” เธอพูดพร้อมน้ำตาปริ่มขอบตา เขามองลงไปในตาเธอก็รู้ว่าหญิงสาวคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักน่าจะคิดถึงบ้านมากจริงๆ เขาจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ“คุณอยากทานอะไรไหม เดี๋ยวฉันทำให้”เขามองเธอด้วยความแปลกใจอีกครั้ง“คุณไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า”“เปล่านิ ตกลงจะไม่กินใช่ไหม”“อร่อยไหมละ”“ถ้าคุณคิดว่าคนทำอร่อย อาหารก็อร่อยเหมือนคนทำนี่แหละ” เธอพูดแล้วขยิบตาส่งให้เขาจนเขาเองก็ตามอารมณ์เธอไม่ทันมาเฟียหนุ่มเอียงคอมองเธอด้วยความรู้สึกหลากหลายที่เกิดขึ้นในใจ“อยู่กับฉันยิ้มบ้างก็ได้ไม่ต้องทำหน้าเฉยชาตลอดหรอก”เมื่อเห็นคนตรงหน้ายืนเงียบอลิสจึงพูดต่อ“ฉันทำพาสต้าซอสเห็ดดีกว่า”“อืม”“ไปนั่งรอก่อนสิ ไม่นานหรอก”มาเฟียหนุ่มพยักหน้า เดินไปนั่งลงตรงเก้าอี้เคาน์เตอร์แล้วมองเธอที่กำลังเตรียมวัตถุดิบอย่างคล่องแคล่ว หญิงสาวทำอาหารให้เขาอย่างพิถีพิถันทุกขึ้นตอน แม้ในใจของเธอจะรู้สึกสับสนและอึดอัดกับความรู้สึกตอนนี้ก็ตาม “ลองชิมดู” เมื่อเธอปรุงซอสเสร็จก็ตักใส่ช้อนพร้อมเป่าให้หายร้อนแล้วเดินไปทางเขาที่นั่งอยู่มาเฟียหนุ่มชิมมันแล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เป็นไง” อลิสถามอย่างรอคำตอบ“อร่อยดี”“งั้
“ก็ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้นี่” เธอเบะปากมองเขามาเฟียหนุ่มสวมเสื้อกล้ามสีดำโชว์กล้ามเนื้อบริเวณแขนและแผงอกกว้างกับกางเกงขายาวลายทหาร กลางหลังมีเป้สีน้ำตาลใบใหญ่ ด้านหน้าก็มีกระเป๋าอีกใบ แต่ที่ขัดกันคือเป้สีเหลืองมัสตาร์ดของเธอผมของเขาเปียกชุ่มเหงื่อเล็กน้อยแต่กลับดูหล่อไปอีกแบบ หญิงสาวมองเขาแล้วแอบอมยิ้มเช่นเดียวกันแต่นึกขึ้นได้ก็ปรับสีหน้าให้ปกติเคลย์ตันดูไม่เหนื่อยแม้แต่น้อยอาจเพราะเขาออกกำลังกายเป็นประจำ มาเฟียหนุ่มหันหลังแล้วเริ่มเดินอีกครั้ง อลิสจึงรีบก้าวเท้าแล้วเดินตามเขาไปครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสองก็ถึงจุดหมายที่จะกางเต็นท์ซึ่งเป็นภูเขาติดกับทะเลสาบและมีบ้านเรือนเล็กๆ ไม่ไกลออกไปมากอยู่ตรงข้ามโดยมีทะเลสาบกั้นระหว่างกลาง บริเวณนี้มีความเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การมาพักผ่อนอีกทั้งสามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาได้เคลย์ตันหลงใหลความเงียบสงบของที่นี่จึงมาปีละครั้งโดยไม่มีลูกน้องคอยติดตาม แม้กลางคืนจะดูเงียบเหงาแต่กลับมีเสียงธรรมชาติอยู่เป็นเพื่อนเขาให้ได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง วินาทีแรกที่อลิสเห็นวิวถึงกับอ้าปากค้าง หยุดยืนมองวิวอยู่หลายนาที ความเหนื่อยที่มีก่อนหน้าพลันหายไปเหมือนไม่เคยรู้สึกมาก
“แล้วอลิสไม่พยายามตรงไหน มึงสองคนก็พยายามด้วยกันทั้งนั้น และตอนนี้พวกมึงควรคุยและเป็นกำลังใจให้กันและกันมากกว่าจะมาใส่อารมณ์กันแบบนี้” อาร์เดลพยายามพูดให้มาเฟียหนุ่มได้คิดตามทั้งสองจะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน“มึงไม่ใช่กู มึงก็พูดได้สิ” เขามองสองหนุ่มด้วยใบหน้าบึ้งตึง“ไอ้นี่แม่ง” อาร์เดลเห็นท่าทางของเขาก็รู้สึกเหนื่อยหน่าย“กูไม่อยากคุยกับพวกมึงแล้ว”เคลย์ตันพูดเสร็จก็เดินไปทันทีโดยไม่สนใจอาร์เดลและไนล์ที่มองตามเขาไปพร้อมกับส่ายหัว“เดี๋ยวมันก็เป็นหมา เชื่อเถอะ” ไนล์หัวเราะในลำคอเบาๆอลิสใส่ชุดนอนสายเดี่ยวสีดำสุดเซ็กซี่เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง หญิงสาวใช้ครีมบำรุงผิวลูบไล้ไปทั่วผิวกายเนียนละเอียดของเธอ จากนั้นก็หยิบชุดคลุมขึ้นมาสวมใส่การกระทำของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของมาเฟียหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เขาเหลือบมองหญิงสาวตั้งแต่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว และเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเปิดประตูห้องออกไปเขาจึงถามขึ้นเสียงราบเรียบ“จะไปไหน”“ไปนอนห้องอื่น”“ไม่ให้ไป” เขารีบลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วไปยืนขวางประตูไว้“หลีกไป” เธอพยายามดันตัวเขาให้ถอยออกไป แต่แรงที่เธอม
“มิเกล แม็กซ์เวลล์” อลิสเรียกคนทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามาแล้วรีบลุกขึ้นไปรับเด็กชายมาอุ้มด้วยความคิดถึง คาเทียร์ที่เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างก็พอจะรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร“สวัสดีค่ะ เกลพาแม็กซ์มาหาอลิสและเห็นว่ามาร์ตินคลอดแล้วจึงซื้อของเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก” เธอหันไปทักทายคุณแม่มือใหม่อย่างเป็นมิตรแล้วเดินไปวางของที่นำมาให้ลงข้างๆ พร้อมนั่งลง“ไม่เห็นต้องลำบากเลย ขอบคุณนะคะ” คาเทียร์ตอบกลับเธอด้วยความเกรงใจ“ไม่ลำบากเลยค่ะ” เธอส่งยิ้มให้กับคาเทียร์“คิดถึงแม็กซ์จังเลย” เธอกดจมูกลงบนแก้มป่องๆ ของเด็กน้อย ทำให้เขาหัวเราะร่วนด้วยความชอบใจ“เกลมีของมาฝากอลิสกับคุณเคลย์ตันด้วยนะ” เธอวางถุงผ้าไว้ตรงหน้าพร้อมกับหยิบขวดใสที่บรรจุน้ำสีอำพันออกมา“ยาสมุนไพร เห็นว่ากำลังพยายามมีเบบี้กันอยู่ใช่มั้ย พอดีเกลไปได้สูตรมาจากคนรู้จักที่เขาก็อยากมีลูกและตอนนี้พวกเขาสมหวังไปแล้ว”“ขอบคุณมากเลยนะ”อลิสพูดอย่างซาบซึ้งใจเพราะตั้งแต่พวกเขาพยายามที่จะมีลูกน้อย คนรอบข้างก็คอยให้คำแนะนำและซื้อนั่นซื้อนี่มาฝากเป็นประจำ แม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอที่ส่งยาสมุนไพรมาให้จากไทยตลอด พวกท่านพึ่งกลับไปเมื่ออาทิตย์ก่อนและอีกไม่นานก็คงจะก
เสียงของคาเทียร์ที่ดังขึ้นทำให้พวกเขารีบหันไปมองพร้อมกัน“ที่รักเป็นอะไร ปวดท้องจะคลอดเหรอ” อาร์เดลถามอย่างตกใจ“ลูกดิ้นแรงไปหน่อยค่ะ” คุณแม่ยังสาวพูดแล้วยิ้มแหยๆเพราะทำให้คนอื่นตกใจ“เบาๆกับคุณแม่หน่อยสิครับเจ้าลูกชาย” อาร์เดลใช้มือสัมผัสกับหน้าท้องของผู้เป็นภรรยาเบาๆและรับรู้ได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่ดิ้นอยู่ในนั้น เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุขมาเฟียหนุ่มมองว่าที่คุณพ่อคุณแม่ตรงหน้าแล้วหันไปพูดกับหญิงสาวข้างกาย“ผมอยากมีความรู้สึกแบบนั้นบ้าง เรารีบไปกันเถอะ” เขาลุกขึ้นแล้วกระตุกมืออลิสเบาๆ เธอทำตามอย่างว่าง่าย ทั้งสองเดินออกไปจากตรงนั้นโดยมีอาร์เดลตะโกนไล่หลังไป“ขอให้สมหวังนะเว้ย”เมื่อเข้าไปในห้องพักของโรงแรมหรู พวกเขาต่างถอดเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างรู้หน้าที่ จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็ต้อนร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอไปยังเตียงนอนเขาขึ้นคร่อมร่างเล็กแล้วโน้มตัวลงไปชิมริมฝีปากหวานและซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นพร้อมขบเม้มมันเบาๆ จากนั้นเขาเลื่อนลงมาใช้ลิ้นร้อนแตะลงไปบนยอดถันสีชมพูอ่อนแล้วดูดดึงมันอย่างหิวโหยจนหญิงสาวบิดกายเร่าพร้อมความต้องการที่มากล้นจนต้องส่งเสียงออกมา“อ๊าส์”เสียงหวานที่เปล่งออกมาจากปา
ลูกน้องคนสนิทที่หลับใหลไปหลายชั่วโมงลืมตาขึ้นมาก็เห็นเจ้านายของเขานั่งคิ้วขมวด ส่วนหญิงสาวข้างๆ ก็มีใบหน้ากังวลไม่ต่างกัน“หมอบอกว่าผมรอดตายแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมทำหน้าแบบนั้นกัน เอ๊ะ หรือผมตายไปแล้ว” ไนล์พูดอย่างล้อเล่น เมื่อมองอาการของคนทั้งสอง“ไนล์ ฮึก” อลิสที่ได้ยินรีบเดินเข้าไปหาเขาแล้วปล่อยโฮอีกครั้งตามด้วยเคลย์ตันที่เดินมาหยุดยืนข้างๆ เตียง“ทำไมถึงทำแบบนั้น” เคลย์ตันถามลูกน้องคนสนิทออกไป“ถ้าผมไม่ทำแบบนั้นกระสุนคงจะฝังไปที่คุณอลิสแทนนะสิครับ”“แล้วนายมาบังฉันไว้ทำไม ดูสิต้องมาเจ็บแบบนี้” หญิงสาวปาดน้ำตาออกลวกๆ“ก็ถ้าคุณอลิสเป็นอะไรไป เพื่อนของผมคงอยู่ไม่ได้” คำว่าเพื่อนที่หลุดออกมาจากปากของไนล์ ทำให้เคลย์ตันถึงกับชะงักแม้ทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่ไนล์มักจะปฏิบัติกับมาเฟียหนุ่มแบบเจ้านายกับลูกน้องตั้งแต่เหตุการณ์ของโลแกนในครั้งนั้น เพราะเขารู้ว่าเคลย์ตันเป็นคนอ่อนไหวกับคำว่าเพื่อนมากขนาดไหน มาเฟียหนุ่มกลัวว่าเมื่อใช้คำนี้เขาจะสูญเสียคนๆ นั้นไปและเขาไม่อยากเสียเพื่อนอย่างไนล์ไปอีกคน“ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกกูว่านายแล้ว เรียกเหมือนเมื่อก่อนได้เลย” อลิสยืนมองทั้งสองคุยกันอย่างแป
สายลมพัดผ่านปะทะใบหน้าของหญิงสาวทำให้เธอหยุดพูดครู่หนึ่งหลังจากนั้นก็พูดต่อ“ตอนที่ฉันรู้ความจริงจากปากเคลย์ตัน ฉันตกใจมากเพราะไม่คิดว่าคุณจะทำถึงขนาดนั้น ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาเป็นคนทำให้ฉันสูญเสียคุณไป แต่ฉันไม่เคยรับรู้เลยว่าเขาเองได้สูญเสียอะไรไปบ้างในชีวิต ฉันเข้าใจเขาผิดมาตลอดและเรื่องที่คุณทำกับฉัน ฉันยกโทษให้คุณทุกอย่าง เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ลาก่อน โลแกน”หญิงสาวพูดเสร็จก็วางดอกไม้ลงแล้วหันหลังเดินไปที่รถ เธอรู้สึกผิดกับมาเฟียหนุ่มอย่างสุดหัวใจ หญิงสาวเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนลืมสังเกตว่ามีคนกำลังเดินตามเธอมา อยู่ดีๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งๆ ปะทะเข้าที่ก้านคอแล้วเธอก็สลบไปเอี๊ยดดดมาเฟียหนุ่มที่กำลังขับรถไปธุระข้างนอกเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทรายงานให้ฟัง เขารีบวนรถกลับไปแล้วเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ไนล์บอก เขาขับรถไปด้วยหัวใจสั่นระรัวหลังจากรับรู้ว่าหญิงสาวถูกผู้เป็นพ่อของแดเนียลจับตัวไปที่บ้านหลังหนึ่งเส้นทางที่เข้าไปล้วนเป็นป่าและดูน่ากลัว เขาจอดรถยังหน้าบ้านขนาดเล็ก แม้ว่าไนล์จะกำชับว่าให้คนของพวกเขามาก
“ผู้หญิงเขาบอกให้ปล่อย หูหนวกหรือไง” เสียงทุ้มต่ำที่แสนจะคุ้นเคยทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักแล้วหันไปมองคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆ“เคลย์ตัน” หญิงสาวเรียกเขาเสียงแผ่ว“มึงเป็นใคร แล้วมาเสือกอะไรด้วย” ชายคนนั้นปลดปล่อยอลิสให้เป็นอิสระแล้วหันไปทางเคลย์ตันอย่างเอาเรื่อง“มึงคงไม่อยากรู้หรอกว่ากูเป็นใคร” มาเฟียหนุ่มพูดเสียงเย็นแล้วหันไปสั่งลูกน้องที่อยู่ไม่ไกล“เอามันไปจัดการ”หลังจากลูกน้องของเขาได้พาชายหนุ่มคนนั้นออกไป มาเฟียหนุ่มก็ปรายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดขึ้น “แต่งตัวขนาดนี้มันคงคิดว่า..ขาย”“เคลย์” อลิสเรียกเขาเสียงเบาหวิว เธอไม่สนใจคำพูดเจ็บแสบของเขาก่อนหน้านี้ เธอเดินเข้าไปแล้วเตรียมจะกอดเขาด้วยความคิดถึงแต่มาเฟียหนุ่มเบี่ยงตัวหลบอย่างไร้เยื่อใย“เลิกเรียกผมแบบนั้นได้แล้ว”“ฉันพยายามโทรหาคุณ คุณก็ไม่รับ ไปหาที่เพนต์เฮาส์คนพวกนั้นก็ไม่ให้ฉันเข้าไป ตอนนี้ฉันได้กลับไปทำงานที่เดิมแล้วนะ”“อืม ดีใจด้วย” เขามองหน้าเธอแล้วพูดเสียงเรียบจากนั้นก็หันหลังให้เตรียมจะเดินออกไป แต่อลิสนึกขึ้นได้จึงถามเขาและคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะตามเธอมา“คุณมาที่นี่ทำไม นัดเพื่อนไว้เหรอ”“มาธุระ” เขา
เคลย์ตันมองหน้าน้องสาวแล้วพยักหน้าจากนั้นก็เดินออกมาจากห้อง เขาหันหลังไปมองบานประตูห้องของน้องสาวอยู่เป็นเวลาหลายนาที จากนั้นก็เดินไปหาไนล์ที่อยู่ในห้องทำงานของเขาแล้วตัดสินใจพูดขึ้น“ไปตามไอ้เดลมา”“ครับ?” ลูกน้องคนสนิทมองมาเฟียหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ“บอกให้มันมาดูแลเมียกับลูกมัน” เขาเอ่ยเสียงเรียบ“เข้าใจแล้วครับ” ไนล์เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการและเดินออกไปด้วยความรู้สึกดีใจเพราะเขาเองก็ทนเห็นคุณหนูของเขาเป็นแบบนี้แทบจะไม่ไหวแล้วเช่นกันคาเทียร์นั่งรับประทานอาหารเย็นอยู่กับเคลย์ตันมาพักใหญ่แต่เธอไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว หญิงสาวนั่งเขี่ยอาหารในจานของตนเองอย่างเลื่อนลอยเคลย์ตันเห็นดังนั้นก็พูดขึ้น“กินเยอะๆสิ ลูกจะได้แข็งแรง”เธอพยักหน้ารับรู้แต่ก็ไม่พูดอะไร“โกรธพี่ใช่มั้ย” เขามองน้องสาวที่กำลังเงยหน้ามองเขาอย่างช้าๆ“เทียร์โกรธที่พี่ไม่เคยฟังในสิ่งที่เทียร์ต้องการบ้างเลย” เธอพูดเสียงแผ่ว“แล้วถ้าให้สิ่งที่เทียร์ต้องการ เทียร์จะเลิกโกรธพี่และกลับมาเป็นน้องสาวที่สดใสและน่ารักเหมือนเดิมได้หรือเปล่า”เธอมองหน้าพี่ชายด้วยความแปลกใจ สายตาของเขามองไปด้านหลังของคาเทียร์ จนเธอต้องมอง
“คุณเลยมั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นเป็นผม”“เพราะฉันมีรูปพวกคุณสามคนและวันนั้นที่ฉันกลับไปบ้านฉันแวะไปเยี่ยมเขาที่สุสานและฉันเห็นไนล์กำลังยืนอยู่หน้าหลุมศพเขา”เคลย์ตันนึกถึงวันที่เธอขอเขากลับไปบ้านและใส่ชุดสีชมพูออกไป เขาพึ่งจำได้ว่าโลแกนมักจะซื้อชุดสีชมพูให้เธอใส่ เพราะแบบนี้เองสินะ เขานึกแล้วแค่นยิ้มพร้อมพูดออกมา “ผมเป็นคนยิงเอง ผมฆ่ามันเองกับมือ” เขาบอกเธอเสียงเย็น“คุณทำแบบนั้นทำไม” ใบหน้าเปรอะน้ำตามองเขาอย่างเจ็บปวด“เพราะมันฆ่าพ่อแม่ของผม”“ว่าไงนะ!” อลิสโพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ“พวกเราสามคนเป็นเพื่อนที่ผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย แต่แล้ววันหนึ่งหลังจากพ่อแม่ของผมเสีย ผมกลับรู้ว่าเป็นฝีมือของมัน มันวางแผนไว้ทุกอย่างและทำให้ดูเหมือนว่าเป็นเพราะระบบขัดข้องจึงทำให้เครื่องบินลำนั้นตกมันเข้ามาตีสนิทผมเพื่อเอาข้อมูลต่างๆไปให้ฝ่ายตรงข้าม มันทำได้แนบเนียนมาก ตัวผมเองเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แต่งงานกันเพราะผลประโยชน์และต่างฝ่ายต่างก็พาคนอื่นมานอนแทบจะทุกวัน จนผมคิดว่าบ้านหลังนั้นไม่ต่างอะไรกับพื้นที่โสมม ผมไม่เคยได้รับความรักจากพวกท่านเลย ตอนนั้นผมคิดว่าถ้ามีเพื่อนอาจจะทำให้ผมรู้สึกไม่
เคลย์ตันถูกพาส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว กระสุนเฉียดจุดสำคัญของเขาไปเล็กน้อย เนื่องจากร่างกายเสียเลือดมากจึงต้องให้เลือดและรอดูอาการอีกครั้งแม้ว่าจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วก็ตามเปลือกตาของคนที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆ เปิดขึ้น หลังจากสลบไปเพราะฤทธิ์ยาถึงหนึ่งวันเต็ม เขามีความรู้สึกปวดตึงๆ บริเวณหน้าท้องเล็กน้อย หากเทียบกับความเจ็บปวดที่อยู่ลึกภายในจิตใจแผลบนร่างกายที่เกิดขึ้นมันแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย มาเฟียหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นลูกน้องคนสนิทนั่งอยู่คนเดียว ไนล์เห็นเคลย์ตันกำลังมองเขาอยู่จึงรีบเดินเข้าไปใกล้“เทียร์อยู่ไหน” เขาเลือกที่จะถามหาน้องสาวเป็นคนแรก“เป็นยังไงบ้างครับนาย อ้อ คุณหนูพึ่งกลับไปครับ เดี๋ยวเธอจะมาอีกครั้ง ส่วนคุณอลิสก็กลับไปพร้อมคุณหนูเช่นกัน”“อย่าพูดชื่อผู้หญิงคนนั้นให้กูได้ยินอีก”“ผมอยากให้ลองคุยกับเธออีกครั้ง” ไนล์มองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง “มึงก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยากฟังคำอธิบายของกู”“ตอนนั้นเธออาจจะโกรธเลยพูดไปแบบนั้น” ไนล์พยายามพูดให้ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันเพราะเรื่องนี้มันมีอะไรที่มากกว่านั้น“ออกไปก่อน กูขออยู่คนเดียวและไม่ต้องให้ใครเข้ามา”“ครับ”ไนล์เดินอ