เมื่อเขาบอกแบบนั้นอลิสก็เดินเข้าไปอย่างอารมณ์ดี มาเฟียหนุ่มจัดท่าเธอโดยให้วางเท้าห่างเท่ากับหัวไหล่ของเธอแล้วนำด้ามปืนสอดเข้าอุ้งมือของหญิงสาวโดยมีร่างกำยำยืนซ้อนอยู่ด้านหลัง“กำปืนแล้วเหยียดแขนให้ตรง อย่าเกร็ง ส่วนแขนที่ไม่ได้ใช้ให้ผ่อนคลาย สายตาจ้องไปยังเป้าหมาย”เคลย์ตันสอนเธอด้วยน้ำเสียงจริงจัง อลิสรับรู้ถึงลมหายใจอุ่นๆ ของเขาที่รินรดอยู่บริเวณศีรษะปัง! หญิงสาวลั่นไกปืนไปยังเป้าตรงหน้าเป็นนัดแรกแต่พลาดเป้าไปไกลมาก“หายใจเข้าลึกๆ ตอนยิงให้กลั้นหายใจแล้วผ่อนหายใจออกเมื่อยิงเสร็จ”อลิสพยักหน้าแล้วทำตามแต่โดยดีปัง! นัดที่สองขยับใกล้เป้าขึ้นจนหญิงสาวเงยหน้ามองเขาด้วยรอยยิ้ม“มีสมาธิหน่อย” เขาเตือนเธอปัง! นัดที่สามเข้าเป้าตรงกลางอย่างไม่น่าเชื่อ“เย่ ได้แล้ว” อลิสพูดอย่างดีใจพร้อมกับยิ้มกว้าง“คุณเคยเรียนยิงปืนมาก่อนเหรอ” เธอดูไม่เหมือนคนที่จับปืนแล้วยิงครั้งแรก“เคยเรียนไม่กี่ครั้ง”“ฝึกบ่อยๆ เดี๋ยวก็เก่งขึ้น” ถึงแม้คำพูดของเขาจะฟังดูธรรมดา แต่เมื่อเธอได้ยินกลับรู้สึกว่ามันคือการให้กำลังใจ เคลย์ตันพูดเสร็จก็เดินไปทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ตรงข้ามลูกน้องคนสนิทการซ้อมยิงปืนกินเวลาไปหลายช
“ฉันคิดถึงบ้านมากจริงๆ นะ” เธอพูดพร้อมน้ำตาปริ่มขอบตา เขามองลงไปในตาเธอก็รู้ว่าหญิงสาวคงผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักน่าจะคิดถึงบ้านมากจริงๆ เขาจึงพยักหน้าอย่างเข้าใจ“คุณอยากทานอะไรไหม เดี๋ยวฉันทำให้”เขามองเธอด้วยความแปลกใจอีกครั้ง“คุณไปทำอะไรผิดมาหรือเปล่า”“เปล่านิ ตกลงจะไม่กินใช่ไหม”“อร่อยไหมละ”“ถ้าคุณคิดว่าคนทำอร่อย อาหารก็อร่อยเหมือนคนทำนี่แหละ” เธอพูดแล้วขยิบตาส่งให้เขาจนเขาเองก็ตามอารมณ์เธอไม่ทันมาเฟียหนุ่มเอียงคอมองเธอด้วยความรู้สึกหลากหลายที่เกิดขึ้นในใจ“อยู่กับฉันยิ้มบ้างก็ได้ไม่ต้องทำหน้าเฉยชาตลอดหรอก”เมื่อเห็นคนตรงหน้ายืนเงียบอลิสจึงพูดต่อ“ฉันทำพาสต้าซอสเห็ดดีกว่า”“อืม”“ไปนั่งรอก่อนสิ ไม่นานหรอก”มาเฟียหนุ่มพยักหน้า เดินไปนั่งลงตรงเก้าอี้เคาน์เตอร์แล้วมองเธอที่กำลังเตรียมวัตถุดิบอย่างคล่องแคล่ว หญิงสาวทำอาหารให้เขาอย่างพิถีพิถันทุกขึ้นตอน แม้ในใจของเธอจะรู้สึกสับสนและอึดอัดกับความรู้สึกตอนนี้ก็ตาม “ลองชิมดู” เมื่อเธอปรุงซอสเสร็จก็ตักใส่ช้อนพร้อมเป่าให้หายร้อนแล้วเดินไปทางเขาที่นั่งอยู่มาเฟียหนุ่มชิมมันแล้วพยักหน้าเล็กน้อย“เป็นไง” อลิสถามอย่างรอคำตอบ“อร่อยดี”“งั้
“ก็ไม่คิดว่ามันจะขนาดนี้นี่” เธอเบะปากมองเขามาเฟียหนุ่มสวมเสื้อกล้ามสีดำโชว์กล้ามเนื้อบริเวณแขนและแผงอกกว้างกับกางเกงขายาวลายทหาร กลางหลังมีเป้สีน้ำตาลใบใหญ่ ด้านหน้าก็มีกระเป๋าอีกใบ แต่ที่ขัดกันคือเป้สีเหลืองมัสตาร์ดของเธอผมของเขาเปียกชุ่มเหงื่อเล็กน้อยแต่กลับดูหล่อไปอีกแบบ หญิงสาวมองเขาแล้วแอบอมยิ้มเช่นเดียวกันแต่นึกขึ้นได้ก็ปรับสีหน้าให้ปกติเคลย์ตันดูไม่เหนื่อยแม้แต่น้อยอาจเพราะเขาออกกำลังกายเป็นประจำ มาเฟียหนุ่มหันหลังแล้วเริ่มเดินอีกครั้ง อลิสจึงรีบก้าวเท้าแล้วเดินตามเขาไปครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสองก็ถึงจุดหมายที่จะกางเต็นท์ซึ่งเป็นภูเขาติดกับทะเลสาบและมีบ้านเรือนเล็กๆ ไม่ไกลออกไปมากอยู่ตรงข้ามโดยมีทะเลสาบกั้นระหว่างกลาง บริเวณนี้มีความเป็นส่วนตัวเหมาะแก่การมาพักผ่อนอีกทั้งสามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาได้เคลย์ตันหลงใหลความเงียบสงบของที่นี่จึงมาปีละครั้งโดยไม่มีลูกน้องคอยติดตาม แม้กลางคืนจะดูเงียบเหงาแต่กลับมีเสียงธรรมชาติอยู่เป็นเพื่อนเขาให้ได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง วินาทีแรกที่อลิสเห็นวิวถึงกับอ้าปากค้าง หยุดยืนมองวิวอยู่หลายนาที ความเหนื่อยที่มีก่อนหน้าพลันหายไปเหมือนไม่เคยรู้สึกมาก
“คุณเหมือนเทียร์มาก ไม่อยากได้อะไรสักอย่าง”เคลย์ตันมองหญิงสาวตรงหน้าซึ่งอายุเท่ากันกับน้องสาวที่เขารักมาก ทุกครั้งที่เขาเห็นอลิสเขามักจะคิดถึงคาเทียร์เสมอและตอนนี้ไม่รู้ว่าเธอจะเป็นยังไงบ้างคาเทียร์จะนิสัยดื้อเงียบส่วนอลิสค่อนข้างเป็นคนตรงไปตรงมา แต่ทั้งสองคนทำให้เขาอารมณ์เดือดง่ายไม่ต่างกัน“ก็สิ่งที่เทียร์ต้องการ คุณกลับไม่ให้” อลิสมองใบหน้าของเคลย์ตันที่กำลังมองเธออยู่เหมือนคิดอะไรบางอย่าง “อย่างเช่น”“ความอิสระและฉันก็ต้องการแบบนั้นเหมือนกัน”“ผมบอกคุณแล้ว ถ้าเทียร์กลับมาผมจะปล่อยคุณไป”คำว่าปล่อยที่หลุดจากปากของมาเฟียหนุ่มทำเอาหัวใจของเธอกระตุกและรู้สึกโหวงเหวงอย่างบอกไม่ถูก ความเงียบเข้าปกคลุมบริเวณนั้นจนแทบจะได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน ต่างฝ่ายกำลังตกอยู่ในความคิดของตนเองตกกลางคืนบรรยากาศเงียบสงบได้กลิ่นอายของธรรมชาติ มีแสงสว่างตามจุดต่าง ๆ และจากบ้านเรือนบนภูเขาฝั่งตรงข้ามโดยมีทะเลสาบกั้นอยู่ระหว่างกลางจึงทำให้บริเวณนั้นไม่ได้มืดมากอากาศตอนกลางคืนค่อนข้างหนาวต่างจากตอนกลางวันที่ร้อนอบอ้าว หลังจากทั้งสองนั่งดูพระอาทิตย์ตกดินเสร็จก็เตรียมอาหารไว้ทานเล่นในตอนกลางคืนหญิงส
เคลย์ตันพยายามข่มน้ำเสียงไม่ให้สั่น ตาสีน้ำตาลเข้มของเขาฉายความเจ็บปวดออกมาอย่างเห็นได้ชัด “ไม่จำเป็นต้องเข้มแข็งตลอดเวลาหรอก คุณเองก็มีความรู้สึกเหมือนกัน”เธอพูดพลางสวมกอดเขาแน่นเป็นเชิงปลอบ “เราจะไม่พูดเรื่องนี้แล้ว ไว้คุณพร้อมก็ค่อยระบายออกมา ฉันจะรับฟังคุณเอง” เธอกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้นราวกับว่าส่งพลังให้เขาจนมาเฟียหนุ่มรู้สึกได้ทั้งสองผละออกจากอ้อมกอดของกันและกันอย่างแผ่วเบา สายตาสบประสานกันอยู่ชั่วครู่ แสงไฟสลัวๆสร้างบรรยากาศสุดโรแมนติกได้เป็นอย่างดี ใบหน้าของทั้งสองค่อยๆเลื่อนเข้าหากันจนสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของอีกฝ่ายอย่างชัดเจนมาเฟียหนุ่มประกบปากบางของหญิงสาวอย่างแผ่วเบาแล้วใช้ลิ้นร้อนสอดแทรกควานหาความหอมในโพรงปากนุ่ม เธอให้ความร่วมมือเขาโดยการสะบัดลิ้นแล้วดูดดึงกันอย่างนุ่มนวลมือหนาประคองท้ายทอยของเธอไว้ สัมผัสหวานละมุนที่เขามอบให้ทำให้สมองของเธอขาวโพลนหัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะเขาผละออกจากริมฝีปากบางแล้วส่งรอยยิ้มอบอุ่นให้เธอ หญิงสาวชะงักเล็กน้อย เธอไม่เคยเห็นรอยยิ้มแบบนี้จากเขามาก่อนซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกหวั่นไหวเป็นอย่างมากเธอจึงใช้แขนเรียวยาวโอบคอเขาแล้วประกบริมฝีป
“ผมมาแล้ว อลิส ผมอยู่นี่แล้ว” เขาพูดพลางเช็ดน้ำตาให้เธอพร้อมกับลูบหัวเบาๆ เพื่อให้เธอคลายกังวลใจ“ฉันคิดว่าจะไม่ได้เจอคุณแล้ว” เธอยังคงสะอื้นแล้วโผเข้ากอดเขาอีกครั้ง“คุณปลอดภัยแล้ว ไม่เป็นไรนะเด็กดี” เขาพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนพลางลูบหลังเธอเบาๆ“ฉันคิดว่าเสือมันจะขย้ำฉันแล้วฉีกเนื้อออกมาเป็นชิ้นๆ” เธอเล่าสิ่งที่เธอคิดให้เขาฟัง“เสือตัวไหนมันกล้าฉีกเนื้อคุณ ผมจะยิงแม่งให้หมด มาสิ” เขาพูดแล้วหันมองซ้ายขวาเพื่อหาเสือตัวนั้น เมื่อเธอเห็นจึงรีบปราม“คุณอย่าท้าสิ เดี๋ยวก็มาจริงหรอก” เธอเงยหน้ามองเขาแล้วปาดน้ำตาลวกๆ เชิงบอกว่าดีขึ้นแล้ว“เรารีบกลับกันดีกว่า เผื่อมันมาจริงๆ ผมไม่มีปืนหรอกนะ” เขาแกล้งหยอกเธอ หญิงสาวหันมองไปรอบๆ แล้วแล้วพยักหน้าอย่างเห็นด้วย“วันนี้ผมให้สิทธิพิเศษ ขี่หลังฟรีหนึ่งวัน”อลิสยิ้มด้วยความรู้สึกแปลกใจไม่คิดว่าการเจอสถานการณ์แบบนี้ทำให้คนที่พูดน้อยอย่างเขา กลับมาพูดมากได้ถึงขนาดนี้ เธอคิดว่าเขาคงจะดุด่าว่าเธอเสียอีกแต่นี่กลับตรงกันข้ามทั้งหมดหญิงสาวเกาะหลังของเขาราวกับลูกลิงแล้วใช้มือรัดคอเขาแน่นอย่างลืมตัว “ถ้าคุณรัดคอขนาดนี้ ผมเกรงว่าจะสิ้นใจก่อนถึงที่พักนะ”“ขะ..
“ลงมาสิ ไม่ลึกเหมาะกับคนตัวเตี้ยแบบคุณ” “ชิ แต่ฉันว่ายน้ำเก่งนะ”เธอพูดพร้อมกระโดดลงไป น้ำเย็นที่ปะทะผิวกายทำให้รู้สึกสดชื่นและผ่อนคลาย หญิงสาวว่ายน้ำไปมาดำผุดดำว่ายอยู่สักพักก็ไปโผล่ตรงหน้าของมาเฟียหนุ่มที่ยืนอยู่เสื้อตัวใหญ่บางๆของเธอแนบชิดไปกับผิวขาวใสจนเผยให้เห็นเนินอกอวบอิ่ม มีบราสีดำปิดอยู่แค่ครึ่งเต้าภายใต้เสื้อตัวนั้นเมื่อเห็นสายตามองต่ำของเขาเธอรีบว่ายน้ำหนีแต่มีหรือที่มาเฟียหนุ่มจะปล่อยเธอให้หลุดรอดไป เขารวบหญิงสาวเข้ามาในอ้อมกอดอย่างง่ายดายทำให้แผ่นหลังบางสัมผัสกับอกแกร่งของเขา มาเฟียหนุ่มกอดเธอจากด้านหลังหลวมๆ เขาก้มหน้าลงซุกไซ้กับซอกคอขาวพร้อมขบเม้มติ่งหูเบาๆเหมือนที่เธอเคยแกล้งเขาก่อนหน้าจนหญิงสาวขนลุกขนชันเขาคลายอ้อมกอดแล้วใช้มือหนาล้วงเข้าไปในเสื้อสีขาวของเธอลูบไล้หน้าท้องแบนราบขึ้นไปยังหน้าอกอวบอิ่ม เขาบีบเคล้นหน้าอกของเธออย่างเบามือ“อื้ม” หญิงสาวส่งเสียงหวานเมื่อรู้สึกถึงความต้องการที่เกิดขึ้นกับร่างกาย ความเย็นของน้ำไม่สามารถทำให้ร่างกายที่ร้อนรุ่มของเธอดีขึ้นแม้แต่น้อยมาเฟียหนุ่มปลดบราสีดำของเธอออกทั้งบนและล่างพร้อมโยนมันขึ้นไปบนโขดหินราวกับของไร้ค่าแล้วจับเ
“ฉันแค่ทำแก้วหลุดมือ” เธอกำลังเดินออกจากตรงนั้นเพื่อไปหาอุปกรณ์มาทำความสะอาด“หยุดอยู่ตรงนั้น” มาเฟียหนุ่มใช้มือเชิงห้ามเธอแล้วมองเศษแก้วและน้ำเปียกๆที่กระจัดกระจายอยู่ตามพื้น เธอชะงักเท้าหยุดยืนอย่างว่าง่าย เขาจึงเดินเข้าไปช้อนร่างของเธอขึ้นบนแขนแกร่งพร้อมอุ้มออกมายังห้องรับแขก เขาวางหญิงสาวลงบนโซฟาอย่างเบามือ อลิสมองเขาด้วยความไม่เข้าใจ “ฉันไม่เป็นอะไรซะหน่อย”“คุณซุ่มซ่าม เดี๋ยวจะโดนแก้วบาดอีก”“ฉันไม่ใช่เด็กนะ”“คุณเหมือนเด็ก”“ชิ” อลิสกอดอกมองหน้าเขาการสนทนาของทั้งสองตกอยู่ในสายตาของลูกน้องคนสนิทตลอดเวลา ไนล์รู้ว่าความสัมพันธ์ของพวกเขาดีขึ้นจริงๆ“ไปนอนได้แล้ว”“ก็ยังไม่ง่วง”“หรือคุณอยากนอนใกล้ผม”“หลงตัวเอง”“หรืออยากให้ผมหลงคุณ”“แฮ่ม” ลูกน้องคนสนิทกระแอมเบาๆเมื่อได้ยินสิ่งที่ผู้เป็นนายพูดกับหญิงสาว“ตีนติดคอ?” เขาหันไปถามไนล์เสียงราบเรียบผิดกับตอนคุยกับอลิสอย่างเห็นได้ชัด“ผมขอตัวก่อนนะครับ” หลังจากไนล์เดินออกไปเขาก็หันไปคุยกับอลิสที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่“พรุ่งนี้ผมต้องไปทำธุระ เฮ้” เขาเรียกหญิงสาวเมื่อเห็นว่าเธอแทบจะไม่ได้สนใจเขา“ห๊ะ ว่าไงนะ” อลิสได้สติก็ถามสิ่งที่เขาพูด
“แล้วอลิสไม่พยายามตรงไหน มึงสองคนก็พยายามด้วยกันทั้งนั้น และตอนนี้พวกมึงควรคุยและเป็นกำลังใจให้กันและกันมากกว่าจะมาใส่อารมณ์กันแบบนี้” อาร์เดลพยายามพูดให้มาเฟียหนุ่มได้คิดตามทั้งสองจะได้ไม่ต้องมีปัญหากัน“มึงไม่ใช่กู มึงก็พูดได้สิ” เขามองสองหนุ่มด้วยใบหน้าบึ้งตึง“ไอ้นี่แม่ง” อาร์เดลเห็นท่าทางของเขาก็รู้สึกเหนื่อยหน่าย“กูไม่อยากคุยกับพวกมึงแล้ว”เคลย์ตันพูดเสร็จก็เดินไปทันทีโดยไม่สนใจอาร์เดลและไนล์ที่มองตามเขาไปพร้อมกับส่ายหัว“เดี๋ยวมันก็เป็นหมา เชื่อเถอะ” ไนล์หัวเราะในลำคอเบาๆอลิสใส่ชุดนอนสายเดี่ยวสีดำสุดเซ็กซี่เดินออกมาจากห้องน้ำแล้วนั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง หญิงสาวใช้ครีมบำรุงผิวลูบไล้ไปทั่วผิวกายเนียนละเอียดของเธอ จากนั้นก็หยิบชุดคลุมขึ้นมาสวมใส่การกระทำของหญิงสาวตกอยู่ในสายตาของมาเฟียหนุ่มที่นั่งอ่านหนังสืออยู่บนเตียง เขาเหลือบมองหญิงสาวตั้งแต่เธอเดินออกมาจากห้องน้ำแล้ว และเมื่อเห็นว่าเธอกำลังจะเปิดประตูห้องออกไปเขาจึงถามขึ้นเสียงราบเรียบ“จะไปไหน”“ไปนอนห้องอื่น”“ไม่ให้ไป” เขารีบลุกขึ้นมาจากเตียงแล้วไปยืนขวางประตูไว้“หลีกไป” เธอพยายามดันตัวเขาให้ถอยออกไป แต่แรงที่เธอม
“มิเกล แม็กซ์เวลล์” อลิสเรียกคนทั้งสองที่กำลังเดินเข้ามาแล้วรีบลุกขึ้นไปรับเด็กชายมาอุ้มด้วยความคิดถึง คาเทียร์ที่เคยได้ยินเรื่องนี้มาบ้างก็พอจะรู้ว่าพวกเขาเป็นใคร“สวัสดีค่ะ เกลพาแม็กซ์มาหาอลิสและเห็นว่ามาร์ตินคลอดแล้วจึงซื้อของเล็กๆ น้อยๆ มาฝาก” เธอหันไปทักทายคุณแม่มือใหม่อย่างเป็นมิตรแล้วเดินไปวางของที่นำมาให้ลงข้างๆ พร้อมนั่งลง“ไม่เห็นต้องลำบากเลย ขอบคุณนะคะ” คาเทียร์ตอบกลับเธอด้วยความเกรงใจ“ไม่ลำบากเลยค่ะ” เธอส่งยิ้มให้กับคาเทียร์“คิดถึงแม็กซ์จังเลย” เธอกดจมูกลงบนแก้มป่องๆ ของเด็กน้อย ทำให้เขาหัวเราะร่วนด้วยความชอบใจ“เกลมีของมาฝากอลิสกับคุณเคลย์ตันด้วยนะ” เธอวางถุงผ้าไว้ตรงหน้าพร้อมกับหยิบขวดใสที่บรรจุน้ำสีอำพันออกมา“ยาสมุนไพร เห็นว่ากำลังพยายามมีเบบี้กันอยู่ใช่มั้ย พอดีเกลไปได้สูตรมาจากคนรู้จักที่เขาก็อยากมีลูกและตอนนี้พวกเขาสมหวังไปแล้ว”“ขอบคุณมากเลยนะ”อลิสพูดอย่างซาบซึ้งใจเพราะตั้งแต่พวกเขาพยายามที่จะมีลูกน้อย คนรอบข้างก็คอยให้คำแนะนำและซื้อนั่นซื้อนี่มาฝากเป็นประจำ แม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอที่ส่งยาสมุนไพรมาให้จากไทยตลอด พวกท่านพึ่งกลับไปเมื่ออาทิตย์ก่อนและอีกไม่นานก็คงจะก
เสียงของคาเทียร์ที่ดังขึ้นทำให้พวกเขารีบหันไปมองพร้อมกัน“ที่รักเป็นอะไร ปวดท้องจะคลอดเหรอ” อาร์เดลถามอย่างตกใจ“ลูกดิ้นแรงไปหน่อยค่ะ” คุณแม่ยังสาวพูดแล้วยิ้มแหยๆเพราะทำให้คนอื่นตกใจ“เบาๆกับคุณแม่หน่อยสิครับเจ้าลูกชาย” อาร์เดลใช้มือสัมผัสกับหน้าท้องของผู้เป็นภรรยาเบาๆและรับรู้ได้ถึงสิ่งมีชีวิตที่ดิ้นอยู่ในนั้น เขายิ้มออกมาอย่างมีความสุขมาเฟียหนุ่มมองว่าที่คุณพ่อคุณแม่ตรงหน้าแล้วหันไปพูดกับหญิงสาวข้างกาย“ผมอยากมีความรู้สึกแบบนั้นบ้าง เรารีบไปกันเถอะ” เขาลุกขึ้นแล้วกระตุกมืออลิสเบาๆ เธอทำตามอย่างว่าง่าย ทั้งสองเดินออกไปจากตรงนั้นโดยมีอาร์เดลตะโกนไล่หลังไป“ขอให้สมหวังนะเว้ย”เมื่อเข้าไปในห้องพักของโรงแรมหรู พวกเขาต่างถอดเสื้อผ้าของตนเองออกอย่างรู้หน้าที่ จากนั้นมาเฟียหนุ่มก็ต้อนร่างกายที่เปลือยเปล่าของเธอไปยังเตียงนอนเขาขึ้นคร่อมร่างเล็กแล้วโน้มตัวลงไปชิมริมฝีปากหวานและซุกไซ้ซอกคอหอมกรุ่นพร้อมขบเม้มมันเบาๆ จากนั้นเขาเลื่อนลงมาใช้ลิ้นร้อนแตะลงไปบนยอดถันสีชมพูอ่อนแล้วดูดดึงมันอย่างหิวโหยจนหญิงสาวบิดกายเร่าพร้อมความต้องการที่มากล้นจนต้องส่งเสียงออกมา“อ๊าส์”เสียงหวานที่เปล่งออกมาจากปา
ลูกน้องคนสนิทที่หลับใหลไปหลายชั่วโมงลืมตาขึ้นมาก็เห็นเจ้านายของเขานั่งคิ้วขมวด ส่วนหญิงสาวข้างๆ ก็มีใบหน้ากังวลไม่ต่างกัน“หมอบอกว่าผมรอดตายแล้วไม่ใช่เหรอ ทำไมทำหน้าแบบนั้นกัน เอ๊ะ หรือผมตายไปแล้ว” ไนล์พูดอย่างล้อเล่น เมื่อมองอาการของคนทั้งสอง“ไนล์ ฮึก” อลิสที่ได้ยินรีบเดินเข้าไปหาเขาแล้วปล่อยโฮอีกครั้งตามด้วยเคลย์ตันที่เดินมาหยุดยืนข้างๆ เตียง“ทำไมถึงทำแบบนั้น” เคลย์ตันถามลูกน้องคนสนิทออกไป“ถ้าผมไม่ทำแบบนั้นกระสุนคงจะฝังไปที่คุณอลิสแทนนะสิครับ”“แล้วนายมาบังฉันไว้ทำไม ดูสิต้องมาเจ็บแบบนี้” หญิงสาวปาดน้ำตาออกลวกๆ“ก็ถ้าคุณอลิสเป็นอะไรไป เพื่อนของผมคงอยู่ไม่ได้” คำว่าเพื่อนที่หลุดออกมาจากปากของไนล์ ทำให้เคลย์ตันถึงกับชะงักแม้ทั้งสองจะเป็นเพื่อนกันก็จริง แต่ไนล์มักจะปฏิบัติกับมาเฟียหนุ่มแบบเจ้านายกับลูกน้องตั้งแต่เหตุการณ์ของโลแกนในครั้งนั้น เพราะเขารู้ว่าเคลย์ตันเป็นคนอ่อนไหวกับคำว่าเพื่อนมากขนาดไหน มาเฟียหนุ่มกลัวว่าเมื่อใช้คำนี้เขาจะสูญเสียคนๆ นั้นไปและเขาไม่อยากเสียเพื่อนอย่างไนล์ไปอีกคน“ต่อไปนี้ไม่ต้องเรียกกูว่านายแล้ว เรียกเหมือนเมื่อก่อนได้เลย” อลิสยืนมองทั้งสองคุยกันอย่างแป
สายลมพัดผ่านปะทะใบหน้าของหญิงสาวทำให้เธอหยุดพูดครู่หนึ่งหลังจากนั้นก็พูดต่อ“ตอนที่ฉันรู้ความจริงจากปากเคลย์ตัน ฉันตกใจมากเพราะไม่คิดว่าคุณจะทำถึงขนาดนั้น ตอนนั้นฉันคิดว่าเขาเป็นคนทำให้ฉันสูญเสียคุณไป แต่ฉันไม่เคยรับรู้เลยว่าเขาเองได้สูญเสียอะไรไปบ้างในชีวิต ฉันเข้าใจเขาผิดมาตลอดและเรื่องที่คุณทำกับฉัน ฉันยกโทษให้คุณทุกอย่าง เราจะได้ไม่มีอะไรติดค้างกันอีก ลาก่อน โลแกน”หญิงสาวพูดเสร็จก็วางดอกไม้ลงแล้วหันหลังเดินไปที่รถ เธอรู้สึกผิดกับมาเฟียหนุ่มอย่างสุดหัวใจ หญิงสาวเดินคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยจนลืมสังเกตว่ามีคนกำลังเดินตามเธอมา อยู่ดีๆ เธอก็รู้สึกเหมือนมีอะไรแข็งๆ ปะทะเข้าที่ก้านคอแล้วเธอก็สลบไปเอี๊ยดดดมาเฟียหนุ่มที่กำลังขับรถไปธุระข้างนอกเหยียบเบรกอย่างกะทันหัน เมื่อได้ยินสิ่งที่ลูกน้องคนสนิทรายงานให้ฟัง เขารีบวนรถกลับไปแล้วเหยียบคันเร่งด้วยความเร็วเพื่อมุ่งหน้าไปยังสถานที่ที่ไนล์บอก เขาขับรถไปด้วยหัวใจสั่นระรัวหลังจากรับรู้ว่าหญิงสาวถูกผู้เป็นพ่อของแดเนียลจับตัวไปที่บ้านหลังหนึ่งเส้นทางที่เข้าไปล้วนเป็นป่าและดูน่ากลัว เขาจอดรถยังหน้าบ้านขนาดเล็ก แม้ว่าไนล์จะกำชับว่าให้คนของพวกเขามาก
“ผู้หญิงเขาบอกให้ปล่อย หูหนวกหรือไง” เสียงทุ้มต่ำที่แสนจะคุ้นเคยทำให้หญิงสาวถึงกับชะงักแล้วหันไปมองคนที่เดินเข้ามาใกล้ๆ“เคลย์ตัน” หญิงสาวเรียกเขาเสียงแผ่ว“มึงเป็นใคร แล้วมาเสือกอะไรด้วย” ชายคนนั้นปลดปล่อยอลิสให้เป็นอิสระแล้วหันไปทางเคลย์ตันอย่างเอาเรื่อง“มึงคงไม่อยากรู้หรอกว่ากูเป็นใคร” มาเฟียหนุ่มพูดเสียงเย็นแล้วหันไปสั่งลูกน้องที่อยู่ไม่ไกล“เอามันไปจัดการ”หลังจากลูกน้องของเขาได้พาชายหนุ่มคนนั้นออกไป มาเฟียหนุ่มก็ปรายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วพูดขึ้น “แต่งตัวขนาดนี้มันคงคิดว่า..ขาย”“เคลย์” อลิสเรียกเขาเสียงเบาหวิว เธอไม่สนใจคำพูดเจ็บแสบของเขาก่อนหน้านี้ เธอเดินเข้าไปแล้วเตรียมจะกอดเขาด้วยความคิดถึงแต่มาเฟียหนุ่มเบี่ยงตัวหลบอย่างไร้เยื่อใย“เลิกเรียกผมแบบนั้นได้แล้ว”“ฉันพยายามโทรหาคุณ คุณก็ไม่รับ ไปหาที่เพนต์เฮาส์คนพวกนั้นก็ไม่ให้ฉันเข้าไป ตอนนี้ฉันได้กลับไปทำงานที่เดิมแล้วนะ”“อืม ดีใจด้วย” เขามองหน้าเธอแล้วพูดเสียงเรียบจากนั้นก็หันหลังให้เตรียมจะเดินออกไป แต่อลิสนึกขึ้นได้จึงถามเขาและคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาอาจจะตามเธอมา“คุณมาที่นี่ทำไม นัดเพื่อนไว้เหรอ”“มาธุระ” เขา
เคลย์ตันมองหน้าน้องสาวแล้วพยักหน้าจากนั้นก็เดินออกมาจากห้อง เขาหันหลังไปมองบานประตูห้องของน้องสาวอยู่เป็นเวลาหลายนาที จากนั้นก็เดินไปหาไนล์ที่อยู่ในห้องทำงานของเขาแล้วตัดสินใจพูดขึ้น“ไปตามไอ้เดลมา”“ครับ?” ลูกน้องคนสนิทมองมาเฟียหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ“บอกให้มันมาดูแลเมียกับลูกมัน” เขาเอ่ยเสียงเรียบ“เข้าใจแล้วครับ” ไนล์เข้าใจในสิ่งที่เขาต้องการและเดินออกไปด้วยความรู้สึกดีใจเพราะเขาเองก็ทนเห็นคุณหนูของเขาเป็นแบบนี้แทบจะไม่ไหวแล้วเช่นกันคาเทียร์นั่งรับประทานอาหารเย็นอยู่กับเคลย์ตันมาพักใหญ่แต่เธอไม่ยอมปริปากพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว หญิงสาวนั่งเขี่ยอาหารในจานของตนเองอย่างเลื่อนลอยเคลย์ตันเห็นดังนั้นก็พูดขึ้น“กินเยอะๆสิ ลูกจะได้แข็งแรง”เธอพยักหน้ารับรู้แต่ก็ไม่พูดอะไร“โกรธพี่ใช่มั้ย” เขามองน้องสาวที่กำลังเงยหน้ามองเขาอย่างช้าๆ“เทียร์โกรธที่พี่ไม่เคยฟังในสิ่งที่เทียร์ต้องการบ้างเลย” เธอพูดเสียงแผ่ว“แล้วถ้าให้สิ่งที่เทียร์ต้องการ เทียร์จะเลิกโกรธพี่และกลับมาเป็นน้องสาวที่สดใสและน่ารักเหมือนเดิมได้หรือเปล่า”เธอมองหน้าพี่ชายด้วยความแปลกใจ สายตาของเขามองไปด้านหลังของคาเทียร์ จนเธอต้องมอง
“คุณเลยมั่นใจว่าผู้ชายคนนั้นเป็นผม”“เพราะฉันมีรูปพวกคุณสามคนและวันนั้นที่ฉันกลับไปบ้านฉันแวะไปเยี่ยมเขาที่สุสานและฉันเห็นไนล์กำลังยืนอยู่หน้าหลุมศพเขา”เคลย์ตันนึกถึงวันที่เธอขอเขากลับไปบ้านและใส่ชุดสีชมพูออกไป เขาพึ่งจำได้ว่าโลแกนมักจะซื้อชุดสีชมพูให้เธอใส่ เพราะแบบนี้เองสินะ เขานึกแล้วแค่นยิ้มพร้อมพูดออกมา “ผมเป็นคนยิงเอง ผมฆ่ามันเองกับมือ” เขาบอกเธอเสียงเย็น“คุณทำแบบนั้นทำไม” ใบหน้าเปรอะน้ำตามองเขาอย่างเจ็บปวด“เพราะมันฆ่าพ่อแม่ของผม”“ว่าไงนะ!” อลิสโพล่งออกมาอย่างไม่อยากจะเชื่อ“พวกเราสามคนเป็นเพื่อนที่ผ่านเรื่องราวต่างๆมามากมาย แต่แล้ววันหนึ่งหลังจากพ่อแม่ของผมเสีย ผมกลับรู้ว่าเป็นฝีมือของมัน มันวางแผนไว้ทุกอย่างและทำให้ดูเหมือนว่าเป็นเพราะระบบขัดข้องจึงทำให้เครื่องบินลำนั้นตกมันเข้ามาตีสนิทผมเพื่อเอาข้อมูลต่างๆไปให้ฝ่ายตรงข้าม มันทำได้แนบเนียนมาก ตัวผมเองเติบโตมาในครอบครัวที่พ่อแม่แต่งงานกันเพราะผลประโยชน์และต่างฝ่ายต่างก็พาคนอื่นมานอนแทบจะทุกวัน จนผมคิดว่าบ้านหลังนั้นไม่ต่างอะไรกับพื้นที่โสมม ผมไม่เคยได้รับความรักจากพวกท่านเลย ตอนนั้นผมคิดว่าถ้ามีเพื่อนอาจจะทำให้ผมรู้สึกไม่
เคลย์ตันถูกพาส่งโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว กระสุนเฉียดจุดสำคัญของเขาไปเล็กน้อย เนื่องจากร่างกายเสียเลือดมากจึงต้องให้เลือดและรอดูอาการอีกครั้งแม้ว่าจะไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วก็ตามเปลือกตาของคนที่นอนอยู่บนเตียงค่อยๆ เปิดขึ้น หลังจากสลบไปเพราะฤทธิ์ยาถึงหนึ่งวันเต็ม เขามีความรู้สึกปวดตึงๆ บริเวณหน้าท้องเล็กน้อย หากเทียบกับความเจ็บปวดที่อยู่ลึกภายในจิตใจแผลบนร่างกายที่เกิดขึ้นมันแทบจะไม่รู้สึกอะไรเลย มาเฟียหนุ่มกวาดตามองไปรอบๆ ก็เห็นลูกน้องคนสนิทนั่งอยู่คนเดียว ไนล์เห็นเคลย์ตันกำลังมองเขาอยู่จึงรีบเดินเข้าไปใกล้“เทียร์อยู่ไหน” เขาเลือกที่จะถามหาน้องสาวเป็นคนแรก“เป็นยังไงบ้างครับนาย อ้อ คุณหนูพึ่งกลับไปครับ เดี๋ยวเธอจะมาอีกครั้ง ส่วนคุณอลิสก็กลับไปพร้อมคุณหนูเช่นกัน”“อย่าพูดชื่อผู้หญิงคนนั้นให้กูได้ยินอีก”“ผมอยากให้ลองคุยกับเธออีกครั้ง” ไนล์มองเขาด้วยสายตาเป็นห่วง “มึงก็รู้ว่าเขาไม่ได้อยากฟังคำอธิบายของกู”“ตอนนั้นเธออาจจะโกรธเลยพูดไปแบบนั้น” ไนล์พยายามพูดให้ทั้งสองได้ปรับความเข้าใจกันเพราะเรื่องนี้มันมีอะไรที่มากกว่านั้น“ออกไปก่อน กูขออยู่คนเดียวและไม่ต้องให้ใครเข้ามา”“ครับ”ไนล์เดินอ