แชร์

บทที่ 112

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-10 15:05:08

ขบวนสินค้าที่มีสวีข่านนำมานั้นเริ่มเคลื่อนผ่านเส้นทางเข้ามาใกล้จุดดักซุ่มของหลี่เหวินหลางเรื่อย ๆ มองด้วยสายตาก็รู้ว่าคนคุ้มกันขบวนทั้งหมดเป็นคนมีฝีมือ ทั้งยังเกือบร่วมร้อย หลี่เหวินหลางมุ่นคิ้ว มองขบวนที่อยู่ไม่ไกลจากตนเท่าไรอย่างสงสัย

ไหนในจดหมายของซูเฉินบอกว่าคนกลุ่มนี้เคลื่อนไหวตัวอย่างระมัดระวัง และพยายามหลีกเลี่ยงสายตาผู้คนไงเล่า? แล้วที่เขาเห็นตรงหน้านี่คือสิ่งใด หากไม่ต้องการให้ผู้คนพบเห็น จะใช้ผู้คนและรถม้าที่บรรทุกสินค้าเยอะมากขนาดนี้หรือ อย่างน้อยก็แบ่งขนส่งสินค้าเป็นรอบก็ได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคงไม่สะดุดตาเท่ากับขบวนสินค้าตรงหน้าแน่นอน ผู้คุมนับร้อย รถนับสิบ มองอย่างไรก็สะดุดตามาก มากเกินไปจริง ๆ

สิ่งนี้จะโทษใครได้ถ้าไม่ใช่ความประมาทของสวีข่าน เดิมทีเสนาบดีโจวเหลียงเกาคิดเห็นอยากให้แบ่งการเดินทาง และขนส่งสินค้าเป็นรอบ ๆ แต่สวีข่านเห็นว่าหลี่เหวินหลางหาได้อยู่ในเมืองหลวง ทั้งยังติดภารกิจว่าราชการแทนองค์ฮ่องเต้ จึงตัดสินใจเดินทางในครั้งเดียว ใช้ผู้คุ้มกันมากหน่อยก็นับว่าคุ้มค่า หากมีคนสงสัยและเอ่ยถาม ก็บอกว่าสินค้าเหล่านี้ถูกส่งไปช่วยชาวเมืองที่ชายแดน พูดแค่นี้ผู้คนก็เชื่อแ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 113

    สวีข่านรู้สึกยินดีมากที่ตนออกห่างจากจุดเกิดเหตุมาได้แล้ว เขาหายใจเหนื่อยหอบยืนพิงต้นไม้อย่างคนหมดแรง มุมปากยกสูงเพราะคิดว่าตนหลบหนีเอาชีวิตรอดมาได้แล้ว แต่จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ หลี่เหวินหลางจะปล่อยปลิงตัวใหญ่ไปได้เช่นไร ยังไม่ทันจะหายเหนื่อย ร่างองอาจของแม่ทัพหนุ่มก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ยังไม่ทันจะได้พูดคุยดาบคู่กายของเขาก็จ้วงแทนลูกน้องโจรของอีกฝ่ายที่พาคหบดีผู้นี้หนีมาตกตายเสียแล้วตั้งแต่ที่หลี่เหวินหลางให้สัญญาณในการบุกโจมตี แม่ทำหนุ่มไม่ได้ออกไปร่วมรบแสดงฝีมือแต่อย่างใด เพราะวิเคราะห์มาดีแล้วด้วยจำนวนเพียงร้อยนายของอีกฝ่าย จะสู้กำลังทหารร่วมสองร้อยชีวิตของฝ่ายเขาได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงไม่คิดเข้าร่วมประชันดาบตั้งแต่แรก แม่ทัพหนุ่มเพียงจับจ้องกวาดสายตาไปยังสนามรบขนาดย่อมตรงหน้าอย่างละเอียด เพื่อดูว่าการต่อสู้เป็นเช่นไรเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเห็นชายผู้หนึ่งวิ่งไปยังรถม้าที่ดูใหญ่ที่สุดอย่างสนใจ ครั้นเห็นว่าเป็นสวีข่านคหบดีวัยกลางคนผู้นี้ก้าวลงมา มุมปากของเขาก็แย้มยิ้มยกสูงอย่างสมใจแล้วมองหาตั้งนานว่าอยู่ที่ใด ที่แท้ก็หลบอยู่ในรถม้า เมื่อเจอเป้าหมายที่ตนต้องจับเป็นไปดำเนินคดี เขาก็ไม่ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 114

    ขบวนทหารที่คุมเหล่านักโทษกองโจรที่สวีข่านชุบเลี้ยงใช้งานนั้น ออกเดินทางจากเมืองผิงโจวในเช้าวันถัดมา ด้วยสินค้าที่เป็นของกลางใช้เป็นหลักฐานชั้นดีถูกบรรทุกในรถม้าเป็นจำนวนมาก ทำให้ไม่สามารถเดินทางเร็วเกินไปได้ ต้องหยุดพักเป็นระยะ เพื่อให้ม้าที่ลากรถม้าและนักโทษเหล่านั้น รวมถึงกำลังทหารที่ทำหน้าที่คุ้มกันได้หยุดพักเท้าให้หายเหนื่อยด้วย พวกเขาเดินทางออกจากเมืองผิงโจวตามเส้นทางปกติ เป็นไปไม่ได้ที่การเดินทางของพวกเขาจะไม่เป็นจุดสนใจ มีบ้างบางคนที่ใจกล้าเข้ามาถาม ครั้นพอรู้ว่าเป็นนักโทษที่จะนำตัวไปลงอาญาที่เมืองหลวง ก็ตื่นตกใจกลัวถอยห่างออกไปอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ข่าวกำลังทหารมากกว่าร้อยนายคุ้มกันนักโทษเดินทางเข้าเมืองหลวงจะแพร่สะพัดออกไป สภาพของโจรร้ายรวมถึงสวีข่านนั้นไม่ดีนัก ต่างสะบักสะบอมเพราะความเหนื่อยล้าจากการเดินทาง ข้าวปลาอาหารรวมถึงน้ำก็กินไม่เคยอิ่ม ทหารเหล่านี้ทำตามคำสั่งของแม่ทัพหลี่เหวินหลางดียิ่ง ข้าวเพียงวันละมื้อ และน้ำเพียงน้อยนิดเท่านั้นที่จะตกถึงท้อง หากใครคิดหนีหรือขัดขืนรวมถึงประวิงเวลาทำให้การเดินทางล่าช้า ก็สั่งงดข้าวน้ำเสีย วันแรก ๆ มีคนลองดีอยู่บ้าง แต่เมื่อต้องพบเจอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 115

    “แค่ก แค่ก! เป็นแม่ทัพหลี่เหวินหลางขอรับ ก่อนหลบหนีมาหาท่านเพื่อบอกข่าว ข้ารู้มาว่าค่ายโจรของท่านสวีข่านที่อยู่ตามชายแดนและเมืองต่าง ๆ ต่างถูกท่านแม่ทัพกวาดล้างหมดแล้วขอรับ คาดว่าที่มาบุกล้อมโจมตีค่ายลับของเราเป็นที่สุดท้ายขอรับ แค่กแค่ก!” ชายหนุ่มคนดังกล่าวรายงานจบก็กระอักเลือด มองคนให้ชีวิตฉุดดึงตนเองมาจากข้างทางด้วยแววตาเทิดทูนและห่วงใย สำหรับเขาเสนาบดีโจวเหลียงเกาก็เหมือนพ่อ มีหลายอย่างที่เขาไม่เห็นด้วยที่อีกฝ่ายกระทำ ทว่าด้วยบุญคุณต่าง ๆ ทำให้เขาไม่เคยห้ามปราม และถึงให้ห้ามคงห้ามไม่ได้ ทำได้เพียงก้มหน้าทำตามคำสั่งต่อไป ยามนี้ลมหายใจของตนจะปลิดปลิวแล้วจึงอดไม่ได้ที่จะเสียใจ เสียใจที่ไม่อาจตอบแทนบุญคุณคนตรงหน้าได้อีกกลับกัน เสนาบดีโจวเหลียงเกาโกรธแค้นอย่างสุดแสน เมื่อรู้ว่าที่ทุกอย่างต้องผิดพลาดเสียหายเช่นนี้ มีสาเหตุมาจากคนคนเดียว นั่นก็คือหลี่เหวินหลาง!“มันจองล้างจองผลาญข้าจริง ๆ ไหนว่ามันอยู่ที่ฉางโจวไง เหตุใดจึงมาโผล่ที่ค่ายลับของข้าได้เล่า”“เรื่องนี้ข้าก็ไม่ทราบเช่นกันขอรับ แต่ถ้าให้เดา ข้าคิดว่าการที่ท่านแม่ทัพไปเมืองฉางโจวเกรงว่าจะเป็นแผนลวง ตบตาให้เราตายใจมากกว่าขอรับ หล

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 116

    “ทำไมเล่าเจ้าคะ! ทำไมข้าจะกลับมาที่นี่ไม่ได้ บ้านของเราอยู่ที่เมืองหลวง จวนของเราตั้งอยู่ที่นี่ แล้วทำไมถึงจะกลับมาไม่ได้ มันเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเรากันแน่เจ้าคะท่านพ่อ” โจวเฟิ่งจิ่วยังคงไม่หายสงสัย เร่งถามเพื่อให้บิดาบอกกล่าวทุกอย่างกับตน แต่ไม่ว่านางจะเอ่ยถามกี่ครั้งบิดาก็ไม่ยอมตอบสิ่งใดเลย“ฮูหยิน เจ้ารีบพาบุตรสาวไปอยู่ที่ห่างไกลเถิด และอย่าได้ย้อนกลับมาที่นี่อีก ข้าขอโทษพวกเจ้าด้วยที่ทำให้ลำบาก อย่านึกโกรธเคืองข้ากันเลยนะ” โจวฮูหยินเข้าใจได้โดยง่าย นี่คงเกี่ยวกับงานที่สามีนางลอบพูดคุยกับคหบดีสวีข่านยามค่ำคืนในช่วงหลังแน่“ท่านพี่” โจวฮูหยินเรียกสามีของตนเสียงค่อย หยาดน้ำตารินไหล รู้แล้วว่าหลังจากนี้จะเกิดสิ่งใดขึ้น“ข้าขอโทษ อภัยให้ข้าด้วย ไปเถอะ รีบไป ก่อนที่จะสายเกินไป”“แล้วท่านพ่อเล่าเจ้าคะ เหตุใดจึงไม่ไปกับพวกข้า” แม้จะยังไม่ค่อยเข้าใจเรื่องราวนัก แต่โจวเฟิ่งจิ่วก็พอจะคาดเดาได้ราง ๆ ว่าสิ่งที่ครอบครัวของนางเผชิญในตอนนี้ไม่ใช่เรื่องดีแน่ เพราะถ้าเป็นเรื่องดีพวกตนคงไม่ต้องหนี แล้วถ้าหนี เหตุใดบิดาของนางไม่ไปด้วยกันเล่าเสนาบดีโจวเหลียงเกายิ้มเศร้ายกมือขึ้นลูบหัวบุตรสาวด้วย

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 117

    เสนาบดีกรมคลังโจวเหลียงเกามองทิศทางที่ร่างบุตรสาวและฮูหยินเอกของตน หายลับจากสายตาไปด้วยแววตาเลื่อนลอย เศร้าสลดใจอย่างสุดซึ้ง ไม่มีอีกแล้วครอบครัวที่เขารักและเฝ้าทะนุถนอม จบสิ้นเพียงเท่านี้สินะ...ร่างของชายวัยกลางคนขยับอย่างเชื่องช้า เขาไม่ได้ไปที่ใด มุ่งหน้าตรงไปยังห้องหนังสือของตนตามเดิม จนกว่าจะมั่นใจว่าฮูหยินและบุตรสาวออกนอกกำแพงเมืองไปแล้ว เขาต้องยื้อเวลาให้นานที่สุดให้ได้ครั้นมาถึงห้องหนังสือก็เห็นร่างชายหนุ่มที่มาแจ้งข่าวทรุดกายนั่งลงที่หน้าประตูด้วยท่าทีอิดโรย ใบหน้าไร้สีเลือด ซีดเสียจนเขาคิดว่าเสียชีวิตไปแล้ว หากไม่เห็นหน้าอกที่ขยับเพียงแผ่วเบา เขาคงคิดเช่นนั้นไปจริง ๆ“เหตุใดเจ้ายังอยู่ที่นี่” เขาถามอีกฝ่ายอย่างสงสัย คิดว่ามาแจ้งข่าวแล้วจะออกจากจวนไปเสียอีก“ข้าหนีไปก็ไม่รอดหรอกขอรับนายท่าน ข้าถูกทำร้ายบาดเจ็บเป็นอย่างมาก แค่มีลมหายใจถึงตอนนี้ก็นับว่าเก่งแล้วขอรับ”“แต่ถ้าเจ้าเสี่ยงจากไปตั้งแต่ที่บอกข้าเจ้าก็อาจมีชีวิตรอด”“ข้ารู้ขีดจำกัดร่างกายตนเองดีขอรับ อีกอย่างถ้าการตายของข้ามันช่วยประวิงเวลาให้ท่านและครอบครัวหนีไปได้ก็นับว่าเป็นประโยชน์ยิ่งแล้วขอรับ”เสนาบดีโจวเหลียงเ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 118

    “กระจายกำลังค้นหาต่อไป ทั้งภายในจวนและนอกจวน ไม่แน่ว่าอาจจะยังไม่ออกนอกกำแพงเมืองหลวงไปก็ได้”“ขอรับ”“เอาละ คุมตัวเสนาบดีโจวเหลียงเกา และบรรดาบ่าวไพร่ไปยังคุกหลวงได้”ซูเฉินขี่ม้านำหน้าขบวนคุ้มกันเสนาบดีโจวเหลียงเกา และบ่าวไพร่ออกไปเป็นคนแรก บ้านใกล้เรือนเคียงที่ได้ยินเสียงร้องและประดาบในจวนตระกูลโจว ต่างโผล่หน้าออกมาสอดส่องอย่างอยากรู้อยากเห็นว่าเกิดอันใดขึ้น ครั้นเมื่อเห็นเสนาบดีใหญ่ขุนนางคนสำคัญถูกกุมตัวก็ต่างตกใจ เรื่องนี้ทำให้เกิดคลื่นใต้น้ำของเหล่าขุนนางเป็นอย่างมากเสนาบดีกรมคลังถูกคุมตัวไปยังคุกหลวงมิใช่กระทำความผิดหรือ?ทุกคนต่างคิดเป็นเสียงเดียวกันพร้อมทั้งพยายามอยู่ให้เงียบที่สุด คนที่ไม่ได้กระทำความผิดเพียงแค่ตกใจเท่านั้น แต่คนที่มีส่วนรู้เห็นในสิ่งที่เสนาบดีโจวเหลียงเกากระทำต่างร้อนรนนั่งไม่ติดเก้าอี้ เร่งทำลายหลักฐานต่าง ๆ ที่จะสาวมาถึงตัวตนเป็นว่าเล่นไหนเลยการกระทำของพวกเขาจะเป็นผล ภายในวันเดียวกันจะมีทหารไปยังจวนผู้คนเหล่านั้น และคุมตัวผู้มีส่วนรู้เห็นออกมาด้วยทั้งสิ้นและด้วยขบวนทหารที่เดินสวนกันไปมาในวันนี้ล้วนสร้างความแตกตื่นและสงสัยต่อชาวเมืองเป็นอย่างมาก พวกเขาต

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 119

    สวีข่านมาชักชวนให้เขาทำกิจการด้วย ทั้งยังบอกวิธีการหาเงินด้วยวิธีที่ง่าย ๆ และได้เงินเร็ว ทั้งยังหาได้เป็นจำนวนมาก มีหรือที่เขาจะไม่สนใจ แต่เสนาบดีโจวเหลียงเกาไม่ได้รับปากกระทำการรวดเร็วปานนั้น เขานั่งไตร่ตรองกับตนเองอยู่นานนับสัปดาห์ ด้วยรู้ว่างานที่สวีข่านชักชวนนั้นเป็นงานสีดำและอันตราย หากข่าวหลุดรอดออกไปคงได้จบสิ้นกันแน่ จึงเป็นธรรมดาที่เขาจะขบคิดให้มากหน่อยหลังจากขบคิดอย่างถี่ถ้วนดีแล้ว เสนาบดีโจวเหลียงเกาก็คิดที่จะปฏิเสธ แต่แล้วความคิดปฏิเสธนั้นของเขาก็หายไปเมื่อตนได้รู้ว่า องค์ฮ่องเต้ทรงพระราชทานรางวัลให้กับหลี่เหวินชิงที่ชนะศึกกลับมาเป็นจำนวนมาก เสนาบดีโจวเหลียงเการู้สึกว่าตนไม่ได้รับความยุติธรรม ตนนั่งทำงานมือเป็นระวิง ทำงานด้วยใจบริสุทธิ์มาโดยตลอด รางวัลที่ผู้เป็นใหญ่ทรงพระราชทานให้เพียงน้อยนิด ไม่ถึงครึ่งหนึ่งที่หลี่เหวินชิงได้เลยสักครั้ง จากที่คิดว่าจะไม่ร่วมมือกับสวีข่าน เสนาบดีโจวเหลียงเกาก็เปลี่ยนความคิดโดยพลัน ร่วมมือลักลอบขนสินค้าเถื่อนนำเข้าและออกขายกับสวีข่านทันที“หึหึ” คิดย้อนกลับไปแล้วก็อดหัวเราะตนเองไม่ได้“เจ้าหัวเราะอันใด”“กระหม่อมเพียงตลกในชะตาชีวิตของตัวกร

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 120

    “โจวเหลียงเกา เจ้าอย่าได้โทษเรา ทุกอย่างที่ทำให้เจ้าเป็นเช่นนี้เป็นเพราะเจ้ากระทำตนเอง เจ้าเลือกที่จะไม่ทำได้ แต่เจ้าก็ยังทำ คิดอิจฉาริษยาหลี่เหวินชิงจนเกิดความดำมืดในจิตใจ ละโมบอยากมีอยากได้เช่นผู้อื่น เจ้าจึงได้เป็นเช่นนี้ อย่าได้โทษใคร เพราะทุกอย่างเป็นเจ้าที่เลือกเอง”“ฮะฮะ ฮ่าฮ่าฮ่า ไม่พ่ะย่ะค่ะ ทุกอย่างเป็นเพราะพระองค์กับหลี่เหวินชิง กระหม่อมเป็นผู้ถูกกระทำ ถูกบีบบังคับให้ทำต่างหาก” เสนาบดีโจวเหลียงเกาหัวเราะหยันก่อนจะยังพูดด้วยประโยคเดิม ๆโอรสสวรรค์เห็นอดีตศิษย์น้องของตนไม่มีท่าทีสำนึกผิดก็อดโกรธไม่ได้ พระองค์สูดลมหายใจระงับความโกรธ ก่อนจะพูดออกมาอย่างราบเรียบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า“เจ้าอ้างว่าตัวเจ้าเองลำบาก ความจำเป็นบีบคั้นให้เจ้าต้องกระทำเช่นนั้น พร่ำบอกตนเองว่ามีเพียงสวีข่านที่ยื่นความช่วยเหลือให้ โจวเหลียงเกา เจ้าเคยถามตนเองบ้างหรือไม่ ว่าหากเจ้าเอ่ยขอความช่วยเหลือจากเราสักครึ่งคำ เจ้าคิดจริง ๆ หรือว่าเราจะใจจืดใจดำไม่ช่วยศิษย์น้องของตน นี่นอกเจ้าไม่เอ่ยกับเราแล้ว เจ้ายังโทษว่าทั้งหมดเป็นความผิดของเรา เป็นความผิดของผู้อื่น โดยที่ไม่ย้อนกลับไปดูเลยว่าสิ่งที่ตัวเจ้าเองทำม

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10

บทล่าสุด

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 134 จบ

    ไป๋ฟางเซียนที่รับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นเบื้องหลังจึงหันกลับไปมอง ก็พบเห็นสามีของตนใบหน้าเขียวคล้ำสลับแดง เขาหรี่ตามองราวกับคนกำลังจับผิด สายตาของเขาทำเอานางรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เสียงลมหายใจหอบถี่ของผู้เป็นสามีทำให้นางเข้าใจได้ทันทีว่านางทำให้เขาไม่พอใจแล้ว ขณะที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย ร่างของผู้เป็นสามีก็สะบัดชายอาภรณ์ตรงกลับไปยังห้องนอน ไป๋ฟางเซียนนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะผุดลุกตามไปขณะเดินไปยังห้องนอนของตน นางก็ขบคิดกับตนเองว่าจะง้องอนเขาเช่นไรดี เขาจึงจะหายจากท่าทางปั้นปึ่งเช่นนั้น แต่คิดไปคิดมาพลันนึกขึ้นได้ว่า ตัวนางเองไม่ได้ผิดอันใดเสียหน่อย คนที่มาหานางในวันนี้ล้วนเป็นสหายนางทั้งนั้น ให้ตายนางก็ไม่ยอมง้อเขาหรอกแน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ความคิด เพราะทันทีที่เข้ามาในห้องนอนเห็นสีหน้าปั้นปึ่งมองนางตาขวางด้วยแล้ว ไป๋ฟางเซียนก็รีบก้าวเท้าเดินไปเบื้องหน้าตรงเข้าหาเขาอย่างเร็วรี่ พลางลอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ “ท่านพี่เจ้าขา เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนี้เล่าเจ้าคะ ประเดี๋ยวจะไม่หล่อเอานา” นางเอ่ยเสียงหวานหยอกเย้าเขา หวังให้เขาโต้แย้งเช่นทุกครั้ง แต่กลับได้ความเงียบตอบมาแทนดวงตากลมโตช้อนสายตาหวานขึ้นมองอ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 133

    หนึ่งเดือนผ่านไปนับจากวันที่ไป๋ฟางเซียนฟื้นขึ้นมา ทุกอย่างในชีวิตของนางและหลี่เหวินหลางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความรักของคนทั้งสองต่างผลิบานและสุกงอมเต็มที่ หลี่เหวินหลางกระทำอย่างปากว่า เขาไม่เคยปล่อยให้นางห่างจากตัวหรือห่างจากสายตาอีกเลย ไม่รู้เช่นกันว่าเขาไปทำเช่นไร จึงสามารถทำให้องค์ฮ่องเต้พระราชทานวันหยุดมาให้ถึงสองเดือนด้วยกัน ทว่าจะบอกว่าหยุดเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะระหว่างนี้หลี่เหวินหลางก็ต้องไปดูระเบียบในค่ายทหารเป็นครั้งคราวด้วยเช่นกัน กระนั้นเขาก็มีเวลาอยู่กับนางมากขึ้นอยู่ดี และนอกจากชีวิตของนางและเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตของผู้อื่นก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันยามนี้สาวใช้ตัวน้อยของนางและคนสนิทของหลี่เหวินหลาง จื่อถิงกับตงผิง ต่างก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งคู่ ตลอดหนึ่งเดือนมานี้นางจึงไม่เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทเลย แต่ก็เป็นนางอีกนั่นแหละที่ให้จื่อถิงหยุดและใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานบ้าง แน่นอนว่าคำของนางทำให้ตงผิงมีความสุขอย่างมาก เพราะถ้านางบอกให้จื่อถิงหยุด หลี่เหวินหลางก็จะบอกให้ตงผิงหยุดงานชั่วคราวเช่นเดียวกัน แต่นี่ก็ครบกำหนดเวลาที่นางให้ไปแล้ว คาดว่าไม่เกินสองวันนี้คงได้เห็นห

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 132

    หลี่เหวินหลางกอดร่างบางแนบแน่น คางสากเกยไหล่มนของนางไว้พร่ำบอกแนบชิดริมหู จนคนป่วยที่เพิ่งฟื้นอดหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้ มือบางยกมือขึ้นโอบกอดบุรุษร่างโตด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน ความรู้สึกรักและห่วงหาทว่าดูเหมือนพวกเขาจะหลงลืมไปว่าในห้องนี้หาได้มีพวกเขาไม่ ยามนี้ทั้งท่านหมอชรา หลี่เหวินชิง เหลียนฮวา จื่อถิงและตงผิงต่างมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำหน้าไม่ถูกกันแทบทั้งสิ้น ก่อนจะเป็นไป๋ฟางเซียนที่ตั้งสติได้ นางมีกิริยาเลิ่กลั่ก พยายามดันตัวตนเองออกจากอ้อมกอดของหลี่เหวินหลาง แต่เจ้าของอ้อมกอดแสนอบอุ่นหาได้ยินยอมไม่“เซียนเซียน พี่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่กลัวมากเพียงใด กลัวว่าเจ้าจะจากพี่ไป กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมาหาพี่อีก พี่คิดไปต่าง ๆ นานา นอนก็ไม่เคยหลับ กินก็ไม่เคยอิ่ม ใจภวงคิดถึงเป็นกังวลแต่เรื่องของเจ้า เซียนเซียน ขอบคุณที่เจ้ากลับมาหาพี่ นับว่าการรอคอยที่แสนทรมานของพี่สิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ”“เอ่อ ท่านปล่อยข้าก่อนดีไหมเจ้าคะ”“ไม่! จากนี้ไปพี่จะไม่ยอมห่างเจ้าอีกแล้ว ทั้งยังไม่ยอมให้เจ้าห่างสายตาจากพี่อีกด้วย”“ท่านพี่ ปล่อยข้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 131

    “ข้าขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด เจ้าของร่างตัวจริงทำเพียงยิ้มรับ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ สุดท้ายแล้วข้าและเจ้าก็คือคนคนเดียวกัน เจ้าคิดว่าจะมีใครที่ไหนจะมีชื่อแซ่เดียวกับตนเองบ้างเล่า สิ่งที่เจ้าควรรู้คือ เจ้าคือข้า ข้าคือเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด”“แต่ว่า...”“ตอนแรกข้าก็สงสัยเหมือนเจ้า ในยามที่ข้าตกตายเพราะจมน้ำ ข้าก็ถูกพามายังสถานที่แห่งนี้ เฝ้ามองดูเจ้าเข้าไปในร่างของข้าอย่างไม่ยินยอมนัก หลายครั้งที่ข้าคิดทำร้ายเจ้า หากแต่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะทุกครั้งที่คิด ข้าจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเช่นกัน ข้าไม่เข้าใจและเฝ้าถามตนเองมาตลอดว่าทำไม กระทั่งวันหนึ่งข้าก็ได้คำตอบจากคนผู้หนึ่ง”“ผู้ใดรึ”“คนผู้นั้นบอกกับข้าว่า แท้จริงแล้วทั้งข้าและเจ้าต่างเป็นคนคนเดียวกัน เพียงแต่ว่าตอนเกิด ดวงจิตของเราได้แยกเป็นสอง หนึ่งคือข้า สองคือเจ้า เมื่อดวงจิตแยกไม่รวมเป็นหนึ่งชะตาชีวิตของคนผู้นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือ ว่าทำไมตอนที่อยู่ในโลกเดิมทั้ง ๆ ที่เจ้ามีทุกอย่าง มีครอบครัวที่ดีพร้อมและอบอุ่น แต่เจ้ากลับรู้สึกมีความสุขได้ไม่เต็มที่นัก เ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 130

    สภาพของหลี่เหวินหลางทำให้ผู้เป็นใหญ่ของจวนตระกูลหลี่รู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก หากจะบอกว่าอาการของไป๋ฟางเซียนน่าเป็นห่วง สภาพของผู้เป็นบุตรชายก็น่าเป็นห่วงไม่ต่างกันหลี่เหวินชิงและเหลียนฮวามองสภาพบุตรชายที่หน้าประตูด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างสุดแสน คิ้วของคนทั้งคู่ขยับเข้าหากันจนแน่นขนัด ใบหน้าที่ร่วงโรยไปตามวัยฉายความกังวลออกมาอย่างมาก ก่อนจะเป็นหลี่ฮูหยินที่ทนไม่ไหวพูดมันออกมา“ท่านพี่ น้องเป็นห่วงบุตรของเราจังเลยเจ้าค่ะ อาเหวินแทบไม่ออกจากห้องนอนของเซียนเอ๋อร์เลยนะเจ้าคะ เห็นอาการของลูกเราตอนนี้แล้ว น้องกลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ น้องกลัวว่าลูกจะล้มป่วยไปอีกคน” เหลียนฮวาเอ่ยขึ้นอย่างหนักอกหนักใจ มองหลี่เหวินหลางที่กอบกุมมือไป๋ฟางเซียนด้วยความห่วงใยอย่างถึงที่สุด ด้วยไม่เคยเห็นบุตรชายของตนมีสภาพซึมเศร้าเช่นนี้มาก่อน“ไม่ต้องกังวลหรอกน้องหญิง อาเหวินรู้ขีดจำกัดของร่างกายตนเองดี เราแค่อยู่ข้าง ๆ เขาในยามที่เขาต้องการก็พอ ตอนนี้เราไปนั่งรับลมที่ศาลากันก่อนเถิด อยู่ตรงนี้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ประเดี๋ยวน้องหญิงจะเป็นกังวลห่วงคนนั้นคนนี้จนพานจะไม่สบายไปอีกคน”“ท่านพี่”แม้จะเป็นห่วงบุตรชายแต่ก

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 129

    “เซียนเซียน ตื่นขึ้นมาเถิดนะคนดี พี่คิดถึงเจ้า อยากได้ยินเสียงของเจ้าจนแทบจะทานทนไม่ไหวแล้ว หรือที่เจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาเพราะอยากลงโทษที่พี่เคยพูดไม่ดีกับเจ้าในวันแรกที่เจ้าลืมตาขึ้นมาที่จวนเรือนหลังนี้ใช่หรือไม่ เซียนเซียน พี่ขอโทษเจ้า กลับมาเถิดนะคนดี กลับมาหาพี่ พี่รักเจ้า รักเจ้าเหลือเกิน” หลี่เหวินหลางทอดสายตาแห่งความคะนึงหาไปยังดวงหน้างาม ก่อนที่ชั่วพริบตาแววตาของเขาจะมีความโกรธแค้นวาบผ่าน หากแล้วก็ปล่อยวางลงอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่ทำให้คนรักของเขาต้องเป็นเช่นนี้ได้ตกตายไปแล้ว เขาจึงไม่รู้ว่าต้องจ้องเวรไปเพื่อสิ่งใดแท้จริงแล้วการตกน้ำของนางอันเป็นที่รักใช่ว่าเขาไม่คิดติดใจสงสัย เขาย่อมต้องสงสัยแน่นอน และมั่นใจมากว่านางคงไม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายแน่ ที่ไม่ได้สืบหาตั้งแต่วันแรกเพราะเป็นห่วงนางจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด พอตั้งสติกับตนเองได้เขาจึงเริ่มสอบถามเรื่องราวคาดคั้นกับจื่อถิงอีกครั้ง แต่นางก็ตอบสิ่งใดไม่ได้ ทั้งยังไม่รู้ว่าว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ นอกจากร่ำไห้ด้วยความรู้สึกผิดและโทษว่าที่ไป๋ฟางเซียนเป็นเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของตน หลี่เหวินหลางจึงสั่งให้ตงผิงและจื่อถิงกลับไปที่สร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 128

    “เซียนเซียน! เซียนเซียน ฟื้นสิเซียนเซียน” หลี่เหวินหลางร้องเรียกชื่อภรรยาด้วยความกระวนกระวายใจ ภายในอกของเขาร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความวิตกกังวล กลัวเหลือเกินว่านางจะเป็นอันใดไป กลัวสูญเสียนางอย่างไม่มีวันหวนกลับ ความกังวลฉายชัดทั้งสีหน้าและแววตา โชคยังดีที่เขามาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นกังวลมากกว่านี้“พาคุณหนุกลับจวนก่อนเถิดเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ จะได้รีบตามท่านหมอมาดูอาการ” จื่อถิงบอกอย่างร้อนรนและกระวนกระวายใจไม่แพ้กัน พลางมองเจ้านายสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุด น้ำตาเอ่อคลอไปทั่วดวงตาสวย เหตุใดจึงเกิดเรื่องกับคุณหนูทุกครั้งที่นางไม่ได้อยู่ด้วยก็ไม่รู้ โชคดีที่ทั้งนางและท่านแม่ทัพมาได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางจะเป็นเช่นไร“รีบกลับจวนให้เร็วที่สุด!” หลี่เหวินหลางบอกคนขับรถม้าพร้อมทั้งอุ้มนางเข้าไปนั่งภายใน โอบกอดนางไว้อย่างหวงแหน มองดวงหน้าหวานด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุดก่อนหน้านี้หลี่เหวินหลางกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว และได้เข้าไปรายงานทุกอย่างให้องค์ฮ่องเต้รับรู้เรียบร้อยถึงการปราบโจรของตน หลังจากนั้นก็รีบพาตนเองออกจากวังหลวงอย่างรวดเร็ว ด้วยคิดถ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 127

    “ไม่จริง! ข้าไม่เชื่อ เจ้าอย่ามาโกหกข้า ข้าไม่สนว่าใครจะเป็นคนคิด ในเมื่อพี่เหวินเป็นคนทำเขาก็ต้องรับผิดชอบ เจ้าก็ด้วย ในเมื่อวันนี้ข้าสูญสิ้นไม่เหลืออะไร พวกเจ้าก็ต้องสูญสิ้นไม่เหลือสิ่งใดเช่นเดียวกัน อย่างไรวันนี้ทุกอย่างก็ต้องจบลง ไม่ข้าและเจ้าก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ครั้งที่แล้วข้าหวังให้เจ้าจมน้ำตายที่นี่ เพราะต้องการให้เจ้าทรมานถึงที่สุด กระทั่งหลังความตายก็ยังคงทุกข์ทรมานเพราะความเย็นของกระแสน้ำ ได้แต่เหน็บหนาวแต่เพียงผู้เดียวไร้ซึ่งคนเหลียวแล ครั้งที่แล้วเป็นโชคดีของเจ้าที่ข้าทำไม่สำเร็จ แต่ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม เจ้าต้องตาย ตายเพราะข้า!” โจวเฟิ่งจิ่วตวาดกร้าว ไป๋ฟางเซียนได้ฟังแล้วรู้ว่าถึงเจรจาต่อไปย่อมไม่เป็นผล ดังนั้นจึงโพล่งไปอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน เช่นไรนางก็เคยตายมาแล้ว ตายอีกสักครั้งจะเป็นไรไป ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเลยสักนิด ห่วงก็แต่หลี่เหวินหลาง หากนางจากไปเขาจะรู้สึกเช่นไร จะเสียใจหรือคิดถึงนางบ้างหรือไม่เท่านั้นเอง “ตายก็ตายสิ คนอย่างไป๋ฟางเซียนไม่เคยกลัวตายอยู่แล้ว หากข้าตาย เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน” จบคำพูดของไป๋ฟางเซียนร่างของโจวเฟิ่วจิ่วก็พุ่งตรงเข้ามาหวังจะกร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 126

    “ข้าไปทำอะไรให้เจ้านักหนาจึงได้คิดทำร้ายข้า”“ฮ่าฮ่า เพราะเจ้ามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของข้าไปไงเล่า! คนไม่มีบิดามารดาเป็นกำพร้าเช่นเจ้า กล้าดีอย่างไรลงประกวดสาวงาม แย่งชิงตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงจากข้าไป เท่านั้นยังไม่พอเจ้ายังเป็นคู่หมั้นของพี่เหวิน คิดอยากได้และครอบครองเขา เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดว่าตนเองเหมาะสมกับบุรุษเก่งกล้าและรูปงามเช่นเขา แทนที่เจ้าจะสำนึกในบุญคุณของบิดามารดาของพี่เหวิน กล่าวยกเลิกงานหมั้นนั่นเสีย เจ้ากลับเร่งรัดให้ทุกอย่างเร็วขึ้นกว่าเดิม ทั้ง ๆ ที่เจ้าก็รู้ตนเองดี ว่าพี่เหวินมิได้รักเจ้าเลยแม้แต่น้อย แล้วข้าจะให้คนหน้าด้านเช่นเจ้าเชิดหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับข้าได้เช่นไร คิดว่าข้าไม่รู้รึว่าเจ้าคิดเทียบเคียงข้ามาโดยตลอด หวังใช้ฐานะฮูหยินแม่ทัพตีเสมอข้าน่ะสิ หึ ไม่เจียมตน”“เจ้าบ้าไปแล้วโจวเฟิ่งจิ่ว ข้าไม่เคยคิดตีตนเสมอเจ้า ข้ารู้ตนเองดี เจ้าเอาแต่ว่าข้าแล้วเจ้าเล่าดีตรงไหน วัน ๆ ตามแต่คู่หมั้นของสหาย นอกจากไม่รู้สึกผิดแล้ว ยังคิดทำร้ายผู้อื่น นี่มันไม่น่ารังเกียจกว่าข้ารึ” ไป๋ฟางเซียนย้อนกลับทันควัน เพราะนางไม่ชอบให้ใครมาว่านางเช่นกัน แม้ว่าคนที่ถูก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status