แชร์

บทที่ 105

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-10 15:02:02

ใบหน้าของซูเฉินบูดบึ้งไม่น่ามอง ใบหน้าของเขาติดจะเบื่อหน่ายไม่พร้อมรับแขก ปรายตามองคนที่มากวนเวลาพักผ่อนของตนด้วยสายตาไม่พอใจนัก พลางถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด

“เจ้ารู้จักคำว่าเกรงใจบ้างหรือไม่อาเหวิน ทำไมไม่รอมาพรุ่งนี้เช้าเล่า เล่นเคาะประตูห้องปลุกข้าเช่นนี้ คือมารยาทควรทำหรือ ฮึ?”

หลี่เหวินหลางไม่สนใจกิริยาท่าทางโวยวายของสหาย ด้วยรู้ว่าสหายตนผู้นี้หาได้นอนหลับพักผ่อนอย่างที่เอ่ยอ้างไม่ รู้จักกันมาทั้งชีวิตมีหรือที่เขาจะดูไม่ออก ว่ายามนี้สหายตนรู้สึกเช่นไร แววตาตัดพ้อต่อว่ากึ่งหมั่นไส้ที่มองมานั้น แม้เพียงแวบเดียวแต่เขาก็จับสัมผัสได้

“อย่ามาพูดมาก เจ้ามิได้หลับนอนจริง ๆ เสียหน่อย”

“เหอะ ถึงมิได้หลับนอนแต่ข้าก็ต้องการเวลาส่วนตัวอยู่เงียบ ๆ คนเดียวบ้าง แล้วดูเจ้าสิมาเวลานี้ เพื่อ? เจ้าไม่รู้หรือว่านี่มันยามใดแล้ว”

“ต้นยามห้าย[1] แล้วอย่างไร”

เห็นท่าทางไม่สะทกสะท้านของสหาย กุนซือหนุ่มก็แทบเอามือกุมขมับ นี่มันยามห้ายนะ ยามห้าย! มันดึกมากแล้วและเลยเวลาพูดคุยมาแล้ว นี่ควรเป็นเวลาพักผ่อนของเขา! แต่สหายกลับมาเคาะประตูห้องเรียกด้วยท่าทีไร้ความรู้สึกผิดเช่นนี้ใช้ได้หรือ มันน่านัก!

“เอานา เ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 106

    ไป๋ฟางเซียนที่นอนหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียเล็กน้อย นางความมือไปทั่วเตียงกลับไม่พบร่างที่คุ้นเคยก็ขมวดคิ้ว เจ้าของร่างบอบบางหยัดกายขึ้นพิงหลังเตียงช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ ขยับเปิด ความเงียบสงัดยามค่ำคืนพานให้นางขบคิดว่ายามใดแล้ว ไม่นานก็คาดว่าตนเองเดาออก หญิงสาวนั่งนิ่งปรับตัวกับสภาวะการตื่นขึ้นมายามดึกเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาเสียเต็มตา กวาดตาอย่างสำรวจไปทั่วห้องนอนใบหน้างามฉายชัดถึงความสงสัยว่าเขาไปที่ใด เหตุใดจึงไม่นอนอยู่ที่เตียง นี่กลางยามจื่อ[1] แล้ว ดึกสงัดเช่นนี้เขาจะไปที่ใดได้อีก ไป๋ฟางเซียนพยายามคิดเช่นไรก็หาคำตอบไม่ได้ จึงได้เลิกคิดไป ตัดใจว่าจะนอนต่อก็กลายเป็นนอนไม่หลับ นางถอนหายใจออกมาพร้อมทั้งตั้งท่าผุดลุกขึ้นนั่งอย่างเต็มตัวอีกครั้งไม่นอนแล้ว นั่งรอจนกว่าเขาจะกลับมานี่แหละไป๋ฟางเซียนทำเช่นที่นางคิดจริง แม้จะง่วงงุน หาวนอนจนนับครั้งไปถ้วน ก็ไม่มีทีท่าจะเอนกายลงนอนเลยแม้แต่น้อย จากความสงสัยว่าเขาไปที่ใด อารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นหงุดหงิด ดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้ไม่ยอมอยู่ห้อง อย่าให้รู้เชียวว่าไปเถลไถล ไม่เช่นนั้นนางเอาตายแน่กระทั่งเข้าสู่ยามโฉ่ว[2] หลี่เหวินหลางถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 107

    วันต่อมาหลี่เหวินหลางเร่งดำเนินการ ทำตามแผนการที่ได้วางไว้ทันที เขาไปเยี่ยมเยือนจวนขุนนางต่าง ๆ ที่อยู่ในเมืองหลวง ตรวจสอบกิจการรวมถึงการทำงานของแต่ละฝ่ายอย่างเคร่งเครียด แม่ทัพหนุ่มทำหน้าที่ของตนได้ดียิ่ง ระหว่างการตรวจสอบหากพบว่าผู้ใดกระทำผิดก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของแคว้น เรียกได้ว่า การทำงานของเขาทำให้เหล่าขุนนางที่มีความผิดหวาดผวาไปเลยทีเดียวอย่างไรก็ตาม ขุนนางกังฉินในเมืองฉางโจวมีไม่มากมายนัก ส่วนใหญ่ล้วนมีแต่คนที่ทำหน้าที่ของตนได้ดี เรื่องขาวดำที่ซุกซ่อนไว้หากไม่เป็นอันตรายต่อแว่นแคว้นและราชวงศ์ หลี่เหวินหลางก็ยินดีมองข้ามแสร้งปิดตาข้างหนึ่งไม่รู้ไม่เห็นไปหลายวันติดกันที่เขาออกไปยังจวนขุนนางต่าง ๆ การแสดงละครตบตาของเขาทำให้ฝ่ายของเสนาบดีโจวเหลียงเกาวางใจขึ้นมาก คนตระกูลโจวที่แอบแฝงลักลอบติดตามแม่ทัพหนุ่ม คอยรายงานข่าวคราวและการกระทำของหลี่เหวินหลางให้เสนาบดีโจวเหลียงเกาทราบเป็นระยะ ๆเสนาบดีโจวเหลียงเกาไม่ใช่คนโง่ปานนั้น เป็นถึงคนหนึ่งในตระกูลใหญ่จะไร้พิษสงและเล่ห์เหลี่ยมได้เช่นไร แม้จะเสียดายที่นักฆ่าทำงานผิดพลาด หลี่เหวินหลางไม่ได้ตกตายตามคำสั่ง ใช่ว่าเขาจะไม่มีวิธีเล่นงา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 108

    เมืองผิงโจวเมืองผิงโจวเป็นเมืองชายขอบ อยู่ทางตอนใต้ของเมืองหลวง ระยะทางไกลอยู่มาก เพราะอยู่เกือบติดเมืองชายแดน หากเดินทางจากเมืองหลวงโดยม้าเร็วคงใช้ระยะเวลา 10-15 วันถึง หากเป็นรถม้าก็ร่วมเดือนได้หลี่เหวินหลางที่ต้นทางอยู่เมืองฉางโจว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือคนละทิศกับเมืองผิงโจว จึงต้องใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน แม่ทัพหนุ่มเดินทางโดยเจ้าเสี่ยวเฮยคู่ใจ เร่งเดินทางแทบไม่หยุดพัก ในที่สุดก็เห็นประตูเมืองอยู่ตรงหน้า เขามาถึงแล้ว โดยใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นสิบกว่าวันได้ หากเป็นการเดินทางปรกติคงไม่รวดเร็วเท่านี้ แต่นี่คือการเดินทางที่เร่งถึงขีดสุดจึงใช้เวลาไม่นานเท่าผู้อื่นนั่นเอง“ท่านแม่ทัพจะเข้าไปเลยหรือไม่ขอรับ” องครักษ์ข้างกายเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเห็นว่าเจ้านายของตนมองประตูเมืองผิงโจวอยู่นานแล้ว“ยังก่อน พวกเราเข้าไปอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ มิเช่นนั้นคนที่กระทำความผิดได้ไหวตัวทันแน่” เขาตอบโดยที่ไม่ละสายตาไปจากประตูเมืองเลยสักนิด“เช่นนั้นท่านแม่ทัพจะเข้าไปอย่างไรเล่าขอรับ เกรงว่าหากไม่ปิดบังใบหน้าจะยังมีคนจำท่านได้ ถึงที่นี่จะห่างไกลจากเมืองหลวงค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคยมีใครเห็นห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 109

    จวนเจ้าเมืองตรงหน้าของหลี่เหวินหลางมีชายวัยกลางคนรูปร่างสันทัดเล็กน้อยนั่งอยู่ แม่ทัพหนุ่มหรี่ตามองคนตรงหน้าพลางครุ่นคิด เหตุใดคนที่สมควรมีสง่าราศีของการเป็นเจ้าเมือง ตอนนี้ถึงได้มีใบหน้าอมทุกข์นักเล่า ทั้งยังดูเหมือนไม่ค่อยได้พักผ่อน หรือจะเป็นเพราะการมาของเขาจึงทำให้อีกฝ่ายเป็นเช่นนี้ แม่ทัพหนุ่มสำรวจคนตรงหน้าตรง ๆ อย่างไม่ปิดบัง ก็เห็นว่าเจ้าเมืองผู้นี้นอกจากจะหน้าตาอมทุกข์แล้ว ยามนี้ยังนั่งหน้าถอดสี หัวคิ้วย่นเข้าหากัน จะว่าเคร่งเครียดก็ไม่ใช่กลัดกลุ้มก็ไม่เชิง อาการของคนตรงหน้าพาให้คนที่มารบกวนถึงกับขมวดคิ้ว นี่เขาน่ากลัวปานนั้น?ผิงอานเจ้าเมืองผิงโจวกำลังกลัดกลุ้มอย่างยิ่งยวด คนมาเยือนเป็นถึงคนสนิทขององค์ฮ่องเต้ที่ดำรงตำแหน่งแม่ทัพ ตนเป็นแค่เจ้าเมืองเมืองชายขอบจะไม่ให้กังวลได้เช่นไร เมื่อถูกอีกฝ่ายมาหาถึงที่จวนโดยไม่บอกไม่กล่าวเช่นนี้ ความคิดของเจ้าเมืองตีกันยุ่งเหยิงเป็นอย่างมาก“ข้าน่ากลัวปานนั้นเชียวรึ”“ไม่ใช่ ๆ ข้าเพียงแค่ทำตัวไม่ถูก เพราะไม่คิดว่าท่านแม่ทัพจะมาที่จวนอย่างกระทันหันเช่นนี้ จึงกังวลว่าจะต้อนรับได้ไม่ดีพอ”หลี่เหวินหลางหรี่ตามองคนพูด ก่อนจะถามเข้าประเด็นทันที

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 110

    “เป็นอย่างไรบ้างขอรับท่านแม่ทัพ” องครักษ์ผู้หนึ่งเอ่ยถามที่เห็นเจ้านายตนกลับมาด้วยใบหน้าเคร่งเครียด“ไปเรียกคนของเรามา ข้าจะพูดคุยแผนการให้ฟัง”“ขอรับ”ไม่นานคนที่มีตำแหน่งหัวหน้าก็มารวมกันอยู่ในบ้านของนายทหารนับรวมแล้วได้นับสิบคนเลยทีเดียว“เอาละมากันครบแล้วนะ”“ขอรับ”“เส้นทางที่ให้พวกเจ้าไปสำรวจเป็นเช่นไรบ้าง”“มีสามเส้นทางที่สามารถไปยังชายแดนได้ขอรับ หนึ่งคือเส้นทางหลักทั่วไปที่เหล่าพ่อค้าและผู้คนส่วนใหญ่ใช้สัญจรกัน สองเป็นเส้นทางสายรองที่ไม่ค่อยมีคนใช้มากนัก เนื่องจากเส้นทางสายนี้มักถูกโจรปล้นชิงเป็นระยะ ๆ ส่วนเส้นทางที่สาม เป็นเส้นทางลับใช้กันเฉพาะคนขอรับ”หลี่เหวินหลางพยักหน้ารับ ข้อมูลที่คนของเขากล่าวมาตรงกับที่เจ้าเมืองบอกไม่มีผิด เขาเคาะมือลงบนโต๊ะอย่างคนใช้ความคิด พลางวิเคราะห์เส้นทางที่เป็นไปได้ ที่คนของเสนาบดีโจวเหลียงเกาจะใช้ในการเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างเคร่งเครียด“เป็นสามเส้นทางที่น่าสนใจทั้งสิ้น หากใช้เส้นทางหลักก็จะกลายเป็นขบวนสินค้าปรกติ หรือจะใช้เส้นทางรองเพื่อหลีกเลี่ยงกลุ่มคน แล้วถ้าใช้เส้นทางลับที่สะดวกและปลอดหูตาคนมากกว่าล่ะ นับว่าไม่มีเส้นทางใดตัดทิ้งได้เลยนะขอ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 111

    ในที่สุดวันที่หลี่เหวินหลางตั้งตารอคอยก็มาถึง อ้อ ไม่ใช่เพียงหลี่เหวินหลางคนเดียวเท่านั้นที่รอคอย เหล่าองครักษ์ประจำกายและทหารใต้อาณัติของเขาก็ตั้งตารอคอยเช่นกัน มิใช่อยากทำภารกิจให้เสร็จสิ้นโดยเร็วแล้วกลับไปหาครอบครัว แต่เป็นการรอคอยที่จะทำภารกิจให้ดีเรียบร้อยไร้ความผิดพลาด เพราะพวกเขาเกินที่จะทนแม่ทัพหนุ่มผู้นี้ได้แล้วคนอะไร นอกจากจะคิดถึงภรรยาอย่างมาก เอาพวกเขามาเป็นข้ออ้างแล้วไม่พอ ตนเองยังมากดดันผู้อื่นโดยการฝึกซ้อมอย่างหนักเพราะกลัวการผิดพลาดอีก ฝึกซ้อมหนักเพียงใดนั้นไม่เป็นปัญหา ปัญหาอยู่ที่ว่าถึงเวลาหยุดพักคราใด แม่ทัพหนุ่มผู้นี้เป็นต้องพูดถึงภรรยาของตนเองทุกที คำก็ดีอย่างนั้น สองคำก็น่ารักอย่างนี้ บ้างก็เอ่ยชมว่านางเก่งกาจถึงที่สุดให้พวกเขาฟังอย่างไม่อายปาก พวกเขาอยากจะบอกเหลือเกินว่ารู้แล้วขอรับว่าท่านคิดถึงภรรยามากเพียงใด แต่ช่วยหยุดพูดสักทีได้หรือไม่ พวกข้าทนฟังการเอื้อนเอ่ยชมภรรยาของท่านไม่ไหวแล้ว!“อย่าให้มีอันใดผิดพลาด ทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่ แล้วรักษาชีวิตตัวเองให้ดี ทราบไม่ทราบ”“ขอรับ!”“ดี! แยกย้ายไปประจำจุดได้” จบคำพูดคนที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับหลี่เหวินหลางก็แยกไ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 112

    ขบวนสินค้าที่มีสวีข่านนำมานั้นเริ่มเคลื่อนผ่านเส้นทางเข้ามาใกล้จุดดักซุ่มของหลี่เหวินหลางเรื่อย ๆ มองด้วยสายตาก็รู้ว่าคนคุ้มกันขบวนทั้งหมดเป็นคนมีฝีมือ ทั้งยังเกือบร่วมร้อย หลี่เหวินหลางมุ่นคิ้ว มองขบวนที่อยู่ไม่ไกลจากตนเท่าไรอย่างสงสัยไหนในจดหมายของซูเฉินบอกว่าคนกลุ่มนี้เคลื่อนไหวตัวอย่างระมัดระวัง และพยายามหลีกเลี่ยงสายตาผู้คนไงเล่า? แล้วที่เขาเห็นตรงหน้านี่คือสิ่งใด หากไม่ต้องการให้ผู้คนพบเห็น จะใช้ผู้คนและรถม้าที่บรรทุกสินค้าเยอะมากขนาดนี้หรือ อย่างน้อยก็แบ่งขนส่งสินค้าเป็นรอบก็ได้ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นคงไม่สะดุดตาเท่ากับขบวนสินค้าตรงหน้าแน่นอน ผู้คุมนับร้อย รถนับสิบ มองอย่างไรก็สะดุดตามาก มากเกินไปจริง ๆสิ่งนี้จะโทษใครได้ถ้าไม่ใช่ความประมาทของสวีข่าน เดิมทีเสนาบดีโจวเหลียงเกาคิดเห็นอยากให้แบ่งการเดินทาง และขนส่งสินค้าเป็นรอบ ๆ แต่สวีข่านเห็นว่าหลี่เหวินหลางหาได้อยู่ในเมืองหลวง ทั้งยังติดภารกิจว่าราชการแทนองค์ฮ่องเต้ จึงตัดสินใจเดินทางในครั้งเดียว ใช้ผู้คุ้มกันมากหน่อยก็นับว่าคุ้มค่า หากมีคนสงสัยและเอ่ยถาม ก็บอกว่าสินค้าเหล่านี้ถูกส่งไปช่วยชาวเมืองที่ชายแดน พูดแค่นี้ผู้คนก็เชื่อแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 113

    สวีข่านรู้สึกยินดีมากที่ตนออกห่างจากจุดเกิดเหตุมาได้แล้ว เขาหายใจเหนื่อยหอบยืนพิงต้นไม้อย่างคนหมดแรง มุมปากยกสูงเพราะคิดว่าตนหลบหนีเอาชีวิตรอดมาได้แล้ว แต่จะเป็นเช่นนั้นจริงหรือ หลี่เหวินหลางจะปล่อยปลิงตัวใหญ่ไปได้เช่นไร ยังไม่ทันจะหายเหนื่อย ร่างองอาจของแม่ทัพหนุ่มก็ปรากฏอยู่ตรงหน้า ยังไม่ทันจะได้พูดคุยดาบคู่กายของเขาก็จ้วงแทนลูกน้องโจรของอีกฝ่ายที่พาคหบดีผู้นี้หนีมาตกตายเสียแล้วตั้งแต่ที่หลี่เหวินหลางให้สัญญาณในการบุกโจมตี แม่ทำหนุ่มไม่ได้ออกไปร่วมรบแสดงฝีมือแต่อย่างใด เพราะวิเคราะห์มาดีแล้วด้วยจำนวนเพียงร้อยนายของอีกฝ่าย จะสู้กำลังทหารร่วมสองร้อยชีวิตของฝ่ายเขาได้อย่างไร ดังนั้นเขาจึงไม่คิดเข้าร่วมประชันดาบตั้งแต่แรก แม่ทัพหนุ่มเพียงจับจ้องกวาดสายตาไปยังสนามรบขนาดย่อมตรงหน้าอย่างละเอียด เพื่อดูว่าการต่อสู้เป็นเช่นไรเท่านั้น ก่อนที่เขาจะเห็นชายผู้หนึ่งวิ่งไปยังรถม้าที่ดูใหญ่ที่สุดอย่างสนใจ ครั้นเห็นว่าเป็นสวีข่านคหบดีวัยกลางคนผู้นี้ก้าวลงมา มุมปากของเขาก็แย้มยิ้มยกสูงอย่างสมใจแล้วมองหาตั้งนานว่าอยู่ที่ใด ที่แท้ก็หลบอยู่ในรถม้า เมื่อเจอเป้าหมายที่ตนต้องจับเป็นไปดำเนินคดี เขาก็ไม่ค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10

บทล่าสุด

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 134 จบ

    ไป๋ฟางเซียนที่รับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นเบื้องหลังจึงหันกลับไปมอง ก็พบเห็นสามีของตนใบหน้าเขียวคล้ำสลับแดง เขาหรี่ตามองราวกับคนกำลังจับผิด สายตาของเขาทำเอานางรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เสียงลมหายใจหอบถี่ของผู้เป็นสามีทำให้นางเข้าใจได้ทันทีว่านางทำให้เขาไม่พอใจแล้ว ขณะที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย ร่างของผู้เป็นสามีก็สะบัดชายอาภรณ์ตรงกลับไปยังห้องนอน ไป๋ฟางเซียนนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะผุดลุกตามไปขณะเดินไปยังห้องนอนของตน นางก็ขบคิดกับตนเองว่าจะง้องอนเขาเช่นไรดี เขาจึงจะหายจากท่าทางปั้นปึ่งเช่นนั้น แต่คิดไปคิดมาพลันนึกขึ้นได้ว่า ตัวนางเองไม่ได้ผิดอันใดเสียหน่อย คนที่มาหานางในวันนี้ล้วนเป็นสหายนางทั้งนั้น ให้ตายนางก็ไม่ยอมง้อเขาหรอกแน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ความคิด เพราะทันทีที่เข้ามาในห้องนอนเห็นสีหน้าปั้นปึ่งมองนางตาขวางด้วยแล้ว ไป๋ฟางเซียนก็รีบก้าวเท้าเดินไปเบื้องหน้าตรงเข้าหาเขาอย่างเร็วรี่ พลางลอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ “ท่านพี่เจ้าขา เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนี้เล่าเจ้าคะ ประเดี๋ยวจะไม่หล่อเอานา” นางเอ่ยเสียงหวานหยอกเย้าเขา หวังให้เขาโต้แย้งเช่นทุกครั้ง แต่กลับได้ความเงียบตอบมาแทนดวงตากลมโตช้อนสายตาหวานขึ้นมองอ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 133

    หนึ่งเดือนผ่านไปนับจากวันที่ไป๋ฟางเซียนฟื้นขึ้นมา ทุกอย่างในชีวิตของนางและหลี่เหวินหลางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความรักของคนทั้งสองต่างผลิบานและสุกงอมเต็มที่ หลี่เหวินหลางกระทำอย่างปากว่า เขาไม่เคยปล่อยให้นางห่างจากตัวหรือห่างจากสายตาอีกเลย ไม่รู้เช่นกันว่าเขาไปทำเช่นไร จึงสามารถทำให้องค์ฮ่องเต้พระราชทานวันหยุดมาให้ถึงสองเดือนด้วยกัน ทว่าจะบอกว่าหยุดเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะระหว่างนี้หลี่เหวินหลางก็ต้องไปดูระเบียบในค่ายทหารเป็นครั้งคราวด้วยเช่นกัน กระนั้นเขาก็มีเวลาอยู่กับนางมากขึ้นอยู่ดี และนอกจากชีวิตของนางและเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตของผู้อื่นก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันยามนี้สาวใช้ตัวน้อยของนางและคนสนิทของหลี่เหวินหลาง จื่อถิงกับตงผิง ต่างก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งคู่ ตลอดหนึ่งเดือนมานี้นางจึงไม่เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทเลย แต่ก็เป็นนางอีกนั่นแหละที่ให้จื่อถิงหยุดและใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานบ้าง แน่นอนว่าคำของนางทำให้ตงผิงมีความสุขอย่างมาก เพราะถ้านางบอกให้จื่อถิงหยุด หลี่เหวินหลางก็จะบอกให้ตงผิงหยุดงานชั่วคราวเช่นเดียวกัน แต่นี่ก็ครบกำหนดเวลาที่นางให้ไปแล้ว คาดว่าไม่เกินสองวันนี้คงได้เห็นห

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 132

    หลี่เหวินหลางกอดร่างบางแนบแน่น คางสากเกยไหล่มนของนางไว้พร่ำบอกแนบชิดริมหู จนคนป่วยที่เพิ่งฟื้นอดหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้ มือบางยกมือขึ้นโอบกอดบุรุษร่างโตด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน ความรู้สึกรักและห่วงหาทว่าดูเหมือนพวกเขาจะหลงลืมไปว่าในห้องนี้หาได้มีพวกเขาไม่ ยามนี้ทั้งท่านหมอชรา หลี่เหวินชิง เหลียนฮวา จื่อถิงและตงผิงต่างมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำหน้าไม่ถูกกันแทบทั้งสิ้น ก่อนจะเป็นไป๋ฟางเซียนที่ตั้งสติได้ นางมีกิริยาเลิ่กลั่ก พยายามดันตัวตนเองออกจากอ้อมกอดของหลี่เหวินหลาง แต่เจ้าของอ้อมกอดแสนอบอุ่นหาได้ยินยอมไม่“เซียนเซียน พี่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่กลัวมากเพียงใด กลัวว่าเจ้าจะจากพี่ไป กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมาหาพี่อีก พี่คิดไปต่าง ๆ นานา นอนก็ไม่เคยหลับ กินก็ไม่เคยอิ่ม ใจภวงคิดถึงเป็นกังวลแต่เรื่องของเจ้า เซียนเซียน ขอบคุณที่เจ้ากลับมาหาพี่ นับว่าการรอคอยที่แสนทรมานของพี่สิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ”“เอ่อ ท่านปล่อยข้าก่อนดีไหมเจ้าคะ”“ไม่! จากนี้ไปพี่จะไม่ยอมห่างเจ้าอีกแล้ว ทั้งยังไม่ยอมให้เจ้าห่างสายตาจากพี่อีกด้วย”“ท่านพี่ ปล่อยข้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 131

    “ข้าขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด เจ้าของร่างตัวจริงทำเพียงยิ้มรับ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ สุดท้ายแล้วข้าและเจ้าก็คือคนคนเดียวกัน เจ้าคิดว่าจะมีใครที่ไหนจะมีชื่อแซ่เดียวกับตนเองบ้างเล่า สิ่งที่เจ้าควรรู้คือ เจ้าคือข้า ข้าคือเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด”“แต่ว่า...”“ตอนแรกข้าก็สงสัยเหมือนเจ้า ในยามที่ข้าตกตายเพราะจมน้ำ ข้าก็ถูกพามายังสถานที่แห่งนี้ เฝ้ามองดูเจ้าเข้าไปในร่างของข้าอย่างไม่ยินยอมนัก หลายครั้งที่ข้าคิดทำร้ายเจ้า หากแต่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะทุกครั้งที่คิด ข้าจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเช่นกัน ข้าไม่เข้าใจและเฝ้าถามตนเองมาตลอดว่าทำไม กระทั่งวันหนึ่งข้าก็ได้คำตอบจากคนผู้หนึ่ง”“ผู้ใดรึ”“คนผู้นั้นบอกกับข้าว่า แท้จริงแล้วทั้งข้าและเจ้าต่างเป็นคนคนเดียวกัน เพียงแต่ว่าตอนเกิด ดวงจิตของเราได้แยกเป็นสอง หนึ่งคือข้า สองคือเจ้า เมื่อดวงจิตแยกไม่รวมเป็นหนึ่งชะตาชีวิตของคนผู้นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือ ว่าทำไมตอนที่อยู่ในโลกเดิมทั้ง ๆ ที่เจ้ามีทุกอย่าง มีครอบครัวที่ดีพร้อมและอบอุ่น แต่เจ้ากลับรู้สึกมีความสุขได้ไม่เต็มที่นัก เ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 130

    สภาพของหลี่เหวินหลางทำให้ผู้เป็นใหญ่ของจวนตระกูลหลี่รู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก หากจะบอกว่าอาการของไป๋ฟางเซียนน่าเป็นห่วง สภาพของผู้เป็นบุตรชายก็น่าเป็นห่วงไม่ต่างกันหลี่เหวินชิงและเหลียนฮวามองสภาพบุตรชายที่หน้าประตูด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างสุดแสน คิ้วของคนทั้งคู่ขยับเข้าหากันจนแน่นขนัด ใบหน้าที่ร่วงโรยไปตามวัยฉายความกังวลออกมาอย่างมาก ก่อนจะเป็นหลี่ฮูหยินที่ทนไม่ไหวพูดมันออกมา“ท่านพี่ น้องเป็นห่วงบุตรของเราจังเลยเจ้าค่ะ อาเหวินแทบไม่ออกจากห้องนอนของเซียนเอ๋อร์เลยนะเจ้าคะ เห็นอาการของลูกเราตอนนี้แล้ว น้องกลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ น้องกลัวว่าลูกจะล้มป่วยไปอีกคน” เหลียนฮวาเอ่ยขึ้นอย่างหนักอกหนักใจ มองหลี่เหวินหลางที่กอบกุมมือไป๋ฟางเซียนด้วยความห่วงใยอย่างถึงที่สุด ด้วยไม่เคยเห็นบุตรชายของตนมีสภาพซึมเศร้าเช่นนี้มาก่อน“ไม่ต้องกังวลหรอกน้องหญิง อาเหวินรู้ขีดจำกัดของร่างกายตนเองดี เราแค่อยู่ข้าง ๆ เขาในยามที่เขาต้องการก็พอ ตอนนี้เราไปนั่งรับลมที่ศาลากันก่อนเถิด อยู่ตรงนี้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ประเดี๋ยวน้องหญิงจะเป็นกังวลห่วงคนนั้นคนนี้จนพานจะไม่สบายไปอีกคน”“ท่านพี่”แม้จะเป็นห่วงบุตรชายแต่ก

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 129

    “เซียนเซียน ตื่นขึ้นมาเถิดนะคนดี พี่คิดถึงเจ้า อยากได้ยินเสียงของเจ้าจนแทบจะทานทนไม่ไหวแล้ว หรือที่เจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาเพราะอยากลงโทษที่พี่เคยพูดไม่ดีกับเจ้าในวันแรกที่เจ้าลืมตาขึ้นมาที่จวนเรือนหลังนี้ใช่หรือไม่ เซียนเซียน พี่ขอโทษเจ้า กลับมาเถิดนะคนดี กลับมาหาพี่ พี่รักเจ้า รักเจ้าเหลือเกิน” หลี่เหวินหลางทอดสายตาแห่งความคะนึงหาไปยังดวงหน้างาม ก่อนที่ชั่วพริบตาแววตาของเขาจะมีความโกรธแค้นวาบผ่าน หากแล้วก็ปล่อยวางลงอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่ทำให้คนรักของเขาต้องเป็นเช่นนี้ได้ตกตายไปแล้ว เขาจึงไม่รู้ว่าต้องจ้องเวรไปเพื่อสิ่งใดแท้จริงแล้วการตกน้ำของนางอันเป็นที่รักใช่ว่าเขาไม่คิดติดใจสงสัย เขาย่อมต้องสงสัยแน่นอน และมั่นใจมากว่านางคงไม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายแน่ ที่ไม่ได้สืบหาตั้งแต่วันแรกเพราะเป็นห่วงนางจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด พอตั้งสติกับตนเองได้เขาจึงเริ่มสอบถามเรื่องราวคาดคั้นกับจื่อถิงอีกครั้ง แต่นางก็ตอบสิ่งใดไม่ได้ ทั้งยังไม่รู้ว่าว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ นอกจากร่ำไห้ด้วยความรู้สึกผิดและโทษว่าที่ไป๋ฟางเซียนเป็นเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของตน หลี่เหวินหลางจึงสั่งให้ตงผิงและจื่อถิงกลับไปที่สร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 128

    “เซียนเซียน! เซียนเซียน ฟื้นสิเซียนเซียน” หลี่เหวินหลางร้องเรียกชื่อภรรยาด้วยความกระวนกระวายใจ ภายในอกของเขาร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความวิตกกังวล กลัวเหลือเกินว่านางจะเป็นอันใดไป กลัวสูญเสียนางอย่างไม่มีวันหวนกลับ ความกังวลฉายชัดทั้งสีหน้าและแววตา โชคยังดีที่เขามาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นกังวลมากกว่านี้“พาคุณหนุกลับจวนก่อนเถิดเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ จะได้รีบตามท่านหมอมาดูอาการ” จื่อถิงบอกอย่างร้อนรนและกระวนกระวายใจไม่แพ้กัน พลางมองเจ้านายสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุด น้ำตาเอ่อคลอไปทั่วดวงตาสวย เหตุใดจึงเกิดเรื่องกับคุณหนูทุกครั้งที่นางไม่ได้อยู่ด้วยก็ไม่รู้ โชคดีที่ทั้งนางและท่านแม่ทัพมาได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางจะเป็นเช่นไร“รีบกลับจวนให้เร็วที่สุด!” หลี่เหวินหลางบอกคนขับรถม้าพร้อมทั้งอุ้มนางเข้าไปนั่งภายใน โอบกอดนางไว้อย่างหวงแหน มองดวงหน้าหวานด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุดก่อนหน้านี้หลี่เหวินหลางกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว และได้เข้าไปรายงานทุกอย่างให้องค์ฮ่องเต้รับรู้เรียบร้อยถึงการปราบโจรของตน หลังจากนั้นก็รีบพาตนเองออกจากวังหลวงอย่างรวดเร็ว ด้วยคิดถ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 127

    “ไม่จริง! ข้าไม่เชื่อ เจ้าอย่ามาโกหกข้า ข้าไม่สนว่าใครจะเป็นคนคิด ในเมื่อพี่เหวินเป็นคนทำเขาก็ต้องรับผิดชอบ เจ้าก็ด้วย ในเมื่อวันนี้ข้าสูญสิ้นไม่เหลืออะไร พวกเจ้าก็ต้องสูญสิ้นไม่เหลือสิ่งใดเช่นเดียวกัน อย่างไรวันนี้ทุกอย่างก็ต้องจบลง ไม่ข้าและเจ้าก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ครั้งที่แล้วข้าหวังให้เจ้าจมน้ำตายที่นี่ เพราะต้องการให้เจ้าทรมานถึงที่สุด กระทั่งหลังความตายก็ยังคงทุกข์ทรมานเพราะความเย็นของกระแสน้ำ ได้แต่เหน็บหนาวแต่เพียงผู้เดียวไร้ซึ่งคนเหลียวแล ครั้งที่แล้วเป็นโชคดีของเจ้าที่ข้าทำไม่สำเร็จ แต่ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม เจ้าต้องตาย ตายเพราะข้า!” โจวเฟิ่งจิ่วตวาดกร้าว ไป๋ฟางเซียนได้ฟังแล้วรู้ว่าถึงเจรจาต่อไปย่อมไม่เป็นผล ดังนั้นจึงโพล่งไปอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน เช่นไรนางก็เคยตายมาแล้ว ตายอีกสักครั้งจะเป็นไรไป ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเลยสักนิด ห่วงก็แต่หลี่เหวินหลาง หากนางจากไปเขาจะรู้สึกเช่นไร จะเสียใจหรือคิดถึงนางบ้างหรือไม่เท่านั้นเอง “ตายก็ตายสิ คนอย่างไป๋ฟางเซียนไม่เคยกลัวตายอยู่แล้ว หากข้าตาย เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน” จบคำพูดของไป๋ฟางเซียนร่างของโจวเฟิ่วจิ่วก็พุ่งตรงเข้ามาหวังจะกร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 126

    “ข้าไปทำอะไรให้เจ้านักหนาจึงได้คิดทำร้ายข้า”“ฮ่าฮ่า เพราะเจ้ามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของข้าไปไงเล่า! คนไม่มีบิดามารดาเป็นกำพร้าเช่นเจ้า กล้าดีอย่างไรลงประกวดสาวงาม แย่งชิงตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงจากข้าไป เท่านั้นยังไม่พอเจ้ายังเป็นคู่หมั้นของพี่เหวิน คิดอยากได้และครอบครองเขา เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดว่าตนเองเหมาะสมกับบุรุษเก่งกล้าและรูปงามเช่นเขา แทนที่เจ้าจะสำนึกในบุญคุณของบิดามารดาของพี่เหวิน กล่าวยกเลิกงานหมั้นนั่นเสีย เจ้ากลับเร่งรัดให้ทุกอย่างเร็วขึ้นกว่าเดิม ทั้ง ๆ ที่เจ้าก็รู้ตนเองดี ว่าพี่เหวินมิได้รักเจ้าเลยแม้แต่น้อย แล้วข้าจะให้คนหน้าด้านเช่นเจ้าเชิดหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับข้าได้เช่นไร คิดว่าข้าไม่รู้รึว่าเจ้าคิดเทียบเคียงข้ามาโดยตลอด หวังใช้ฐานะฮูหยินแม่ทัพตีเสมอข้าน่ะสิ หึ ไม่เจียมตน”“เจ้าบ้าไปแล้วโจวเฟิ่งจิ่ว ข้าไม่เคยคิดตีตนเสมอเจ้า ข้ารู้ตนเองดี เจ้าเอาแต่ว่าข้าแล้วเจ้าเล่าดีตรงไหน วัน ๆ ตามแต่คู่หมั้นของสหาย นอกจากไม่รู้สึกผิดแล้ว ยังคิดทำร้ายผู้อื่น นี่มันไม่น่ารังเกียจกว่าข้ารึ” ไป๋ฟางเซียนย้อนกลับทันควัน เพราะนางไม่ชอบให้ใครมาว่านางเช่นกัน แม้ว่าคนที่ถูก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status