แชร์

บทที่ 100

last update ปรับปรุงล่าสุด: 2025-02-10 14:56:22

ไป๋ฟางเซียนรู้สึกอึดอัดเป็นอย่างมาก นางเริ่มขยับตัวไปมาราวกับต้องการจะปลดปล่อย สายตาหวานช้อนขึ้นมองเขาอย่างอ้อนวอน

หลี่เหวินหลางยกมือเช็ดเหงื่อเม็ดเล็กที่ผุดซึมตามกรอบหน้าให้นางอย่างอ่อนโยน ดวงตาฉ่ำปรือที่มองมาทำให้เขาแทบหมดความอดกลั้นเผลอกระแทกหนัก ๆ ไปหนึ่งครั้ง

“อื้อ!” นางถลึงตามองเขาอย่างแง่งอน

“เซียนเซียนยังเจ็บอยู่หรือไม่” เขาถามเมื่อรู้สึกว่าความอดทนที่มีจะหมดลงแล้ว

“เจ็บเจ้าค่ะ” กรามแกร่งขบแน่นขึ้นกว่าเดิมจนเกิดเสียงดังกรอด ทว่าก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างรวดเร็วเมื่อได้ยินนางบอกว่า

“แต่ข้าก็เสียวด้วย เอ่อ อึดอัดด้วยเจ้าค่ะ ท่านพี่... ขยับได้หรือไม่เจ้าคะ”

“ตามแต่เจ้าต้องการ พี่ตามใจเซียนเซียนที่สุด”

แม่ทัพหนุ่มหยัดกายขึ้น สองมือนาบไปกับพื้นถ้ำ คร่อมตัวของไป๋ฟางเซียนไว้ ก่อนจะขยับกายเข้าออกอย่างเชื่องช้า แหงนเงยใบหน้าขบกรามแกร่ง เมื่อช่องทางรัดบีบรัดตัวตนเขาแน่นเกินไป

“อา... แน่นเหลือเกินเซียนเซียน แน่นจนพี่อยากรักเจ้าอย่างรุนแรง”

ได้ยินเขาพูดเช่นนั้นดวงหน้าหวานก็แดงก่ำ แต่ก็บอกเขาไปอย่างเขินอายว่า

“ท่านพี่อยากทำอันใดก็ทำสิเจ้าคะ ข้าไม่ได้ห้ามเสียหน่อย”

แม้นางจะพูดเสียงค่อยแต่เขากลับได
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 101

    ปลายยามเหม่า[1]รุ่งเช้าวันใหม่มาเยือน เสียงสัตว์เล็ก ๆ ร้องกระเซ็นแซ่ วิหคน้อยโผบินออกจากรัง เป็นสัญญาณการเริ่มต้นของวันใหม่ ทว่าภายในถ้ำกลางป่า มีสองร่างหนึ่งสตรีหนึ่งบุรุษนอนเคียงคู่ อิงแอบแนบชิดสนิทกันด้วยสภาพไม่เรียบร้อยนัก อาภรณ์หลุดลุ่ยเสียจนเปิดเปลือยผิวกายช่วงบนไป๋ฟางเซียนครางประท้วงด้วยน้ำเสียงยานคางเมื่อรู้สึกหนาว ก่อนจะตั้งใจเบียดตัวกระชับอ้อมแขนกอดเอวสอบไว้มั่น ใบหน้าซีกซ้ายแนบไปกับแผงอกกว้าง เมื่อได้รับไออุ่นที่ต้องการแล้วมุมปากบางจึงยกยิ้มอย่างพอใจพร้อมหลับตาพริ้มอย่างมีความสุขขณะเดียวกันหลี่เหวินหลางที่ถูกนางเบียดและกอดรัด ก็พยายามข่มใจอย่างหนัก ความเย็นของอากาศไม่ได้ทำให้เขาหนาวแต่อย่างใด ทว่าตามกรอบหน้ากลับปรากฏเหงื่อเม็ดเล็กผุดออกมา ต้นเหตุของความร้อนในกาย เกรงว่าจะเป็นเจ้าของร่างบอบบางที่ซุกซบบดเบียดเนื้อตัวนุ่มนิ่มเข้าหาเขากระมังหลี่เหวินหลางกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ข่มใจอย่างมากที่จะไม่จับนางมากระแทกกระทั้น ให้สาสมกับความต้องการ ที่ถูกปลุกขึ้นโดยไม่ตั้งใจนี้ “เซียนเซียน ตื่นเถิดเช้าแล้ว” แม้ไม่อยากปลุกเพราะอยากให้นางนอนพักผ่อนให้เพียงพอก็ทำไม่ได้ ด้วยเกรงว่าพว

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 102

    “จื่อถิงเล่าเจ้าคะ เห็นจื่อถิงหรือไม่” นางถามด้วยความเป็นห่วงและกังวลกลัวว่าสาวใช้คนสนิทจะเป็นอันใดไป“เรียนคุณหนู”“อะแฮ่ม! ฮูหยิน” ยังไม่ทันที่ตงผิงจะพูดจบหลี่เหวินหลางก็กระแอมไอขัดขึ้น มองคนสนิทของตนด้วยความไม่พอใจ ตงผิงที่ถูกสายตาคมกริบจ้องมองก็กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก พลันคิดว่าเขาผิดอันใด เหตุใดท่านแม่ทัพจึงมองเช่นนั้น ทว่าไม่นานก็รู้ตัว เมื่อเจ้านายของเขาปรายสายตาไปยังไป๋ฟางเซียน บ่งบอกความผิดของเขากลาย ๆ ตงผิงพยักหน้ารับรู้ ก่อนจะหันไปพูดกับไป๋ฟางเซียนอีกครั้ง“เรียนฮูหยินน้อย จื่อถิงปลอดภัยดีขอรับ ยามนี้นางรออยู่ที่พักชั่วคราว คราแรกดื้อรั้นจะออกมาตามหานายหญิงเสียให้ได้ แต่เป็นข้าที่สั่งห้ามนาง เพราะเห็นว่านางเดินเหินไม่สะดวก เดี๋ยวจะเจ็บหนักกว่าเดิม เนื่องจากข้อเท้าแพลงขอรับ”“งั้นหรือ ดีแล้วที่นางปลอดภัย เจ้าทำถูกแล้วละที่ไม่ให้นางมา ไม่เช่นนั้นคงได้รักษาตัวอีกนานแน่” เมื่อรู้ว่าสาวใช้ของตนปลอดภัยดีก็ถอนหายใจโล่งอก พูดตอบกลับด้วยสีหน้าแจ่มใสขึ้นเมื่อหมดเรื่องแล้วทุกคนจึงเร่งเดินทางออกจากป่า หลี่เหวินหลางประคับประคองโอบอุ้มไป๋ฟางเซียนขึ้นหลังม้าด้วยความทะนุถนอม จนซูเฉินแ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 103

    ไป๋ฟางเซียนฟาดมือลงบนลำแขนแกร่งไม่เบานัก ถลึงตามองเขาเขียวปัด แทนที่หลี่เหวินหลางจะกลัวเขากลับระเบิดเสียงหัวเราะออกมาดังลั่น สร้างความสงสัยให้ผู้คนที่ร่วมเดินทางด้วยยิ่งครั้นเห็นว่านางยังไม่เลิกตีหน้ายุ่งจึงก้มลงไปหอมแก้มนวล พร้อมทั้งกระซิบเสียงทุ้มล่อลวงนางอย่างแสนไพเราะว่า“เซียนเซียน เจ้าสนใจแค่พี่ก็พอ ใครอยากมองก็ปล่อยไป เจ้ามิจำเป็นต้องสนใจหรือใส่ใจ เดี๋ยวพวกเขาทนมองมิได้ก็เลิกมองไปเอง เจ้าอย่าได้กังวลนัก สนใจเพียงพี่ และเรื่องของเราก็พอแล้ว”“สนใจเพียงท่านพี่กับข้าหรือเจ้าคะ” นางถามขึ้นอย่างไม่ค่อยมั่นใจนัก หลี่เหวินหลางดึงบังเหียนม้าบังคับให้เจ้าเสี่ยวเฮยเดินช้าลง ก่อนจะก้มหน้าลงไปใกล้คนตัวเล็ก มองสบตาด้วยสายตาหวานล้ำ ส่งผ่านความรู้สึกรักใคร่ให้นางรับรู้ แล้วจึงพูดว่า“ใช่ สนใจแค่เรา เพียงสองเราก็พอ”ไป๋ฟางเซียนที่ถูกสายตาหวานล้ำตรึงไว้ก็ไม่สามารถละสายตาได้ นางพยักหน้ารับคำช้า ๆ ในขณะที่แก้มทั้งสองข้างแดงปลั่งดังลูกตำลึงสุก และก่อนที่นางจะได้เขินอายไปมากกว่านี้ พวกเขาก็เดินทางมาถึงชายป่ายังจุดที่พักชั่วคราวที่ตงผิงบอกไว้แล้ว จื่อถิงยืนรอกลุ่มคนที่ไปตามหาเจ้านายสาวด้วยความกลัด

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 104

    ในที่สุดขบวนเดินทางของหลี่เหวินหลางก็มาถึงเมืองฉางโจว ตรงตามกำหนดเวลาที่คาดการณ์ไว้ เจ้าเมืองถึงขั้นออกมาต้อนรับด้วยตนเอง ด้วยฐานะของหลี่เหวินหลางที่เป็นถึงท่านแม่ทัพขึ้นตรงต่อฮ่องเต้เพียงผู้เดียว เจ้าเมืองฉางโจวเป็นเจ้าเมืองที่อยู่นอกวังหลวงฐานะจึงไม่สูงส่งเท่าอีกฝ่ายนัก นี่ยังไม่รวมถึงภูมิหลังของตระกูลหลี่อีก จะอย่างไรก็ตามไม่ว่าหลี่เหวินหลางจะเป็นแม่ทัพหรือไม่ แต่ขึ้นชื่อว่าเป็นคนตระกูลหลี่เขาย่อมต้องไว้หน้าหลายส่วน“โอ ท่านแม่ทัพ ข้ารอท่านอยู่พอดีเลย เหตุใดจึงมาเย็นย่ำเช่นนี้ เกิดอะไรขึ้นระหว่างทางหรือไม่” หวายอันเจ้าเมืองฉางโจวโค้งกายเพียงเล็กน้อยเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้ม การแสดงออกเต็มไปด้วยธรรมชาติ ไม่นอบน้อมเกินไป ไม่แข็งกระด้างเกินไป แม้จะบอกว่าตนต้องไว้หน้าคนตระกูลหลี่และท่านแม่ทัพผู้นี้หลายส่วน ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะต้องนอบน้อมจนเสียศักดิ์ศรีของเจ้าเมืองหลี่เหวินหลางไม่ได้ใส่ใจท่าทีของอีกฝ่ายมากนัก เขาตอบคำถามอย่างตรงประเด็นว่า “เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อย พวกข้าถูกกลุ่มโจรมืออาชีพดักซุ่มโจมตีเพื่อหวังปล้นชิง ทว่าตอนนี้โจรกลุ่มนั้นถูกจัดการเรียบร้อยแล้ว ดีที่ข้านำกำลังคนมามากพอค

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 105

    ใบหน้าของซูเฉินบูดบึ้งไม่น่ามอง ใบหน้าของเขาติดจะเบื่อหน่ายไม่พร้อมรับแขก ปรายตามองคนที่มากวนเวลาพักผ่อนของตนด้วยสายตาไม่พอใจนัก พลางถอนหายใจออกมาด้วยความหงุดหงิด“เจ้ารู้จักคำว่าเกรงใจบ้างหรือไม่อาเหวิน ทำไมไม่รอมาพรุ่งนี้เช้าเล่า เล่นเคาะประตูห้องปลุกข้าเช่นนี้ คือมารยาทควรทำหรือ ฮึ?”หลี่เหวินหลางไม่สนใจกิริยาท่าทางโวยวายของสหาย ด้วยรู้ว่าสหายตนผู้นี้หาได้นอนหลับพักผ่อนอย่างที่เอ่ยอ้างไม่ รู้จักกันมาทั้งชีวิตมีหรือที่เขาจะดูไม่ออก ว่ายามนี้สหายตนรู้สึกเช่นไร แววตาตัดพ้อต่อว่ากึ่งหมั่นไส้ที่มองมานั้น แม้เพียงแวบเดียวแต่เขาก็จับสัมผัสได้“อย่ามาพูดมาก เจ้ามิได้หลับนอนจริง ๆ เสียหน่อย”“เหอะ ถึงมิได้หลับนอนแต่ข้าก็ต้องการเวลาส่วนตัวอยู่เงียบ ๆ คนเดียวบ้าง แล้วดูเจ้าสิมาเวลานี้ เพื่อ? เจ้าไม่รู้หรือว่านี่มันยามใดแล้ว”“ต้นยามห้าย[1] แล้วอย่างไร”เห็นท่าทางไม่สะทกสะท้านของสหาย กุนซือหนุ่มก็แทบเอามือกุมขมับ นี่มันยามห้ายนะ ยามห้าย! มันดึกมากแล้วและเลยเวลาพูดคุยมาแล้ว นี่ควรเป็นเวลาพักผ่อนของเขา! แต่สหายกลับมาเคาะประตูห้องเรียกด้วยท่าทีไร้ความรู้สึกผิดเช่นนี้ใช้ได้หรือ มันน่านัก!“เอานา เ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 106

    ไป๋ฟางเซียนที่นอนหลับไปเพราะความอ่อนเพลีย ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียเล็กน้อย นางความมือไปทั่วเตียงกลับไม่พบร่างที่คุ้นเคยก็ขมวดคิ้ว เจ้าของร่างบอบบางหยัดกายขึ้นพิงหลังเตียงช้า ๆ เปลือกตาค่อย ๆ ขยับเปิด ความเงียบสงัดยามค่ำคืนพานให้นางขบคิดว่ายามใดแล้ว ไม่นานก็คาดว่าตนเองเดาออก หญิงสาวนั่งนิ่งปรับตัวกับสภาวะการตื่นขึ้นมายามดึกเล็กน้อย ก่อนจะลืมตาเสียเต็มตา กวาดตาอย่างสำรวจไปทั่วห้องนอนใบหน้างามฉายชัดถึงความสงสัยว่าเขาไปที่ใด เหตุใดจึงไม่นอนอยู่ที่เตียง นี่กลางยามจื่อ[1] แล้ว ดึกสงัดเช่นนี้เขาจะไปที่ใดได้อีก ไป๋ฟางเซียนพยายามคิดเช่นไรก็หาคำตอบไม่ได้ จึงได้เลิกคิดไป ตัดใจว่าจะนอนต่อก็กลายเป็นนอนไม่หลับ นางถอนหายใจออกมาพร้อมทั้งตั้งท่าผุดลุกขึ้นนั่งอย่างเต็มตัวอีกครั้งไม่นอนแล้ว นั่งรอจนกว่าเขาจะกลับมานี่แหละไป๋ฟางเซียนทำเช่นที่นางคิดจริง แม้จะง่วงงุน หาวนอนจนนับครั้งไปถ้วน ก็ไม่มีทีท่าจะเอนกายลงนอนเลยแม้แต่น้อย จากความสงสัยว่าเขาไปที่ใด อารมณ์ก็เปลี่ยนเป็นหงุดหงิด ดึกดื่นค่อนคืนเช่นนี้ไม่ยอมอยู่ห้อง อย่าให้รู้เชียวว่าไปเถลไถล ไม่เช่นนั้นนางเอาตายแน่กระทั่งเข้าสู่ยามโฉ่ว[2] หลี่เหวินหลางถึ

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 107

    วันต่อมาหลี่เหวินหลางเร่งดำเนินการ ทำตามแผนการที่ได้วางไว้ทันที เขาไปเยี่ยมเยือนจวนขุนนางต่าง ๆ ที่อยู่ในเมืองหลวง ตรวจสอบกิจการรวมถึงการทำงานของแต่ละฝ่ายอย่างเคร่งเครียด แม่ทัพหนุ่มทำหน้าที่ของตนได้ดียิ่ง ระหว่างการตรวจสอบหากพบว่าผู้ใดกระทำผิดก็จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของแคว้น เรียกได้ว่า การทำงานของเขาทำให้เหล่าขุนนางที่มีความผิดหวาดผวาไปเลยทีเดียวอย่างไรก็ตาม ขุนนางกังฉินในเมืองฉางโจวมีไม่มากมายนัก ส่วนใหญ่ล้วนมีแต่คนที่ทำหน้าที่ของตนได้ดี เรื่องขาวดำที่ซุกซ่อนไว้หากไม่เป็นอันตรายต่อแว่นแคว้นและราชวงศ์ หลี่เหวินหลางก็ยินดีมองข้ามแสร้งปิดตาข้างหนึ่งไม่รู้ไม่เห็นไปหลายวันติดกันที่เขาออกไปยังจวนขุนนางต่าง ๆ การแสดงละครตบตาของเขาทำให้ฝ่ายของเสนาบดีโจวเหลียงเกาวางใจขึ้นมาก คนตระกูลโจวที่แอบแฝงลักลอบติดตามแม่ทัพหนุ่ม คอยรายงานข่าวคราวและการกระทำของหลี่เหวินหลางให้เสนาบดีโจวเหลียงเกาทราบเป็นระยะ ๆเสนาบดีโจวเหลียงเกาไม่ใช่คนโง่ปานนั้น เป็นถึงคนหนึ่งในตระกูลใหญ่จะไร้พิษสงและเล่ห์เหลี่ยมได้เช่นไร แม้จะเสียดายที่นักฆ่าทำงานผิดพลาด หลี่เหวินหลางไม่ได้ตกตายตามคำสั่ง ใช่ว่าเขาจะไม่มีวิธีเล่นงา

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10
  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 108

    เมืองผิงโจวเมืองผิงโจวเป็นเมืองชายขอบ อยู่ทางตอนใต้ของเมืองหลวง ระยะทางไกลอยู่มาก เพราะอยู่เกือบติดเมืองชายแดน หากเดินทางจากเมืองหลวงโดยม้าเร็วคงใช้ระยะเวลา 10-15 วันถึง หากเป็นรถม้าก็ร่วมเดือนได้หลี่เหวินหลางที่ต้นทางอยู่เมืองฉางโจว ซึ่งอยู่ทางตอนเหนือคนละทิศกับเมืองผิงโจว จึงต้องใช้เวลาเดินทางค่อนข้างนาน แม่ทัพหนุ่มเดินทางโดยเจ้าเสี่ยวเฮยคู่ใจ เร่งเดินทางแทบไม่หยุดพัก ในที่สุดก็เห็นประตูเมืองอยู่ตรงหน้า เขามาถึงแล้ว โดยใช้เวลาเดินทางทั้งสิ้นสิบกว่าวันได้ หากเป็นการเดินทางปรกติคงไม่รวดเร็วเท่านี้ แต่นี่คือการเดินทางที่เร่งถึงขีดสุดจึงใช้เวลาไม่นานเท่าผู้อื่นนั่นเอง“ท่านแม่ทัพจะเข้าไปเลยหรือไม่ขอรับ” องครักษ์ข้างกายเอ่ยถามอย่างสงสัย เพราะเห็นว่าเจ้านายของตนมองประตูเมืองผิงโจวอยู่นานแล้ว“ยังก่อน พวกเราเข้าไปอย่างโจ่งแจ้งไม่ได้ มิเช่นนั้นคนที่กระทำความผิดได้ไหวตัวทันแน่” เขาตอบโดยที่ไม่ละสายตาไปจากประตูเมืองเลยสักนิด“เช่นนั้นท่านแม่ทัพจะเข้าไปอย่างไรเล่าขอรับ เกรงว่าหากไม่ปิดบังใบหน้าจะยังมีคนจำท่านได้ ถึงที่นี่จะห่างไกลจากเมืองหลวงค่อนข้างมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าจะไม่เคยมีใครเห็นห

    ปรับปรุงล่าสุด : 2025-02-10

บทล่าสุด

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 134 จบ

    ไป๋ฟางเซียนที่รับรู้ได้ถึงความเยือกเย็นเบื้องหลังจึงหันกลับไปมอง ก็พบเห็นสามีของตนใบหน้าเขียวคล้ำสลับแดง เขาหรี่ตามองราวกับคนกำลังจับผิด สายตาของเขาทำเอานางรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ เสียงลมหายใจหอบถี่ของผู้เป็นสามีทำให้นางเข้าใจได้ทันทีว่านางทำให้เขาไม่พอใจแล้ว ขณะที่กำลังจะเอื้อนเอ่ย ร่างของผู้เป็นสามีก็สะบัดชายอาภรณ์ตรงกลับไปยังห้องนอน ไป๋ฟางเซียนนิ่งคิดเล็กน้อย ก่อนจะผุดลุกตามไปขณะเดินไปยังห้องนอนของตน นางก็ขบคิดกับตนเองว่าจะง้องอนเขาเช่นไรดี เขาจึงจะหายจากท่าทางปั้นปึ่งเช่นนั้น แต่คิดไปคิดมาพลันนึกขึ้นได้ว่า ตัวนางเองไม่ได้ผิดอันใดเสียหน่อย คนที่มาหานางในวันนี้ล้วนเป็นสหายนางทั้งนั้น ให้ตายนางก็ไม่ยอมง้อเขาหรอกแน่นอนว่านั่นเป็นเพียงแค่ความคิด เพราะทันทีที่เข้ามาในห้องนอนเห็นสีหน้าปั้นปึ่งมองนางตาขวางด้วยแล้ว ไป๋ฟางเซียนก็รีบก้าวเท้าเดินไปเบื้องหน้าตรงเข้าหาเขาอย่างเร็วรี่ พลางลอบกลืนน้ำลายเงียบ ๆ “ท่านพี่เจ้าขา เหตุใดถึงทำหน้าเช่นนี้เล่าเจ้าคะ ประเดี๋ยวจะไม่หล่อเอานา” นางเอ่ยเสียงหวานหยอกเย้าเขา หวังให้เขาโต้แย้งเช่นทุกครั้ง แต่กลับได้ความเงียบตอบมาแทนดวงตากลมโตช้อนสายตาหวานขึ้นมองอ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 133

    หนึ่งเดือนผ่านไปนับจากวันที่ไป๋ฟางเซียนฟื้นขึ้นมา ทุกอย่างในชีวิตของนางและหลี่เหวินหลางก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ความรักของคนทั้งสองต่างผลิบานและสุกงอมเต็มที่ หลี่เหวินหลางกระทำอย่างปากว่า เขาไม่เคยปล่อยให้นางห่างจากตัวหรือห่างจากสายตาอีกเลย ไม่รู้เช่นกันว่าเขาไปทำเช่นไร จึงสามารถทำให้องค์ฮ่องเต้พระราชทานวันหยุดมาให้ถึงสองเดือนด้วยกัน ทว่าจะบอกว่าหยุดเลยก็คงไม่ถูกนัก เพราะระหว่างนี้หลี่เหวินหลางก็ต้องไปดูระเบียบในค่ายทหารเป็นครั้งคราวด้วยเช่นกัน กระนั้นเขาก็มีเวลาอยู่กับนางมากขึ้นอยู่ดี และนอกจากชีวิตของนางและเขาจะเปลี่ยนไปแล้ว ชีวิตของผู้อื่นก็เปลี่ยนไปด้วยเช่นกันยามนี้สาวใช้ตัวน้อยของนางและคนสนิทของหลี่เหวินหลาง จื่อถิงกับตงผิง ต่างก็กราบไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้วทั้งคู่ ตลอดหนึ่งเดือนมานี้นางจึงไม่เห็นหน้าสาวใช้คนสนิทเลย แต่ก็เป็นนางอีกนั่นแหละที่ให้จื่อถิงหยุดและใช้ชีวิตคู่หลังแต่งงานบ้าง แน่นอนว่าคำของนางทำให้ตงผิงมีความสุขอย่างมาก เพราะถ้านางบอกให้จื่อถิงหยุด หลี่เหวินหลางก็จะบอกให้ตงผิงหยุดงานชั่วคราวเช่นเดียวกัน แต่นี่ก็ครบกำหนดเวลาที่นางให้ไปแล้ว คาดว่าไม่เกินสองวันนี้คงได้เห็นห

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 132

    หลี่เหวินหลางกอดร่างบางแนบแน่น คางสากเกยไหล่มนของนางไว้พร่ำบอกแนบชิดริมหู จนคนป่วยที่เพิ่งฟื้นอดหัวเราะน้อย ๆ ไม่ได้ มือบางยกมือขึ้นโอบกอดบุรุษร่างโตด้วยความรู้สึกไม่ต่างกัน ความรู้สึกรักและห่วงหาทว่าดูเหมือนพวกเขาจะหลงลืมไปว่าในห้องนี้หาได้มีพวกเขาไม่ ยามนี้ทั้งท่านหมอชรา หลี่เหวินชิง เหลียนฮวา จื่อถิงและตงผิงต่างมีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก ทำหน้าไม่ถูกกันแทบทั้งสิ้น ก่อนจะเป็นไป๋ฟางเซียนที่ตั้งสติได้ นางมีกิริยาเลิ่กลั่ก พยายามดันตัวตนเองออกจากอ้อมกอดของหลี่เหวินหลาง แต่เจ้าของอ้อมกอดแสนอบอุ่นหาได้ยินยอมไม่“เซียนเซียน พี่คิดถึงเจ้าเหลือเกิน คิดถึงเหลือเกิน เจ้ารู้หรือไม่ว่าพี่กลัวมากเพียงใด กลัวว่าเจ้าจะจากพี่ไป กลัวว่าเจ้าจะไม่กลับมาหาพี่อีก พี่คิดไปต่าง ๆ นานา นอนก็ไม่เคยหลับ กินก็ไม่เคยอิ่ม ใจภวงคิดถึงเป็นกังวลแต่เรื่องของเจ้า เซียนเซียน ขอบคุณที่เจ้ากลับมาหาพี่ นับว่าการรอคอยที่แสนทรมานของพี่สิ้นสุดลงแล้ว ขอบคุณ ขอบคุณจริง ๆ”“เอ่อ ท่านปล่อยข้าก่อนดีไหมเจ้าคะ”“ไม่! จากนี้ไปพี่จะไม่ยอมห่างเจ้าอีกแล้ว ทั้งยังไม่ยอมให้เจ้าห่างสายตาจากพี่อีกด้วย”“ท่านพี่ ปล่อยข้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 131

    “ข้าขอโทษ” น้ำเสียงแผ่วเบาเอื้อนเอ่ยออกมาอย่างรู้สึกผิด เจ้าของร่างตัวจริงทำเพียงยิ้มรับ ก่อนจะส่ายหน้าช้า ๆ“เจ้าไม่จำเป็นต้องขอโทษ สุดท้ายแล้วข้าและเจ้าก็คือคนคนเดียวกัน เจ้าคิดว่าจะมีใครที่ไหนจะมีชื่อแซ่เดียวกับตนเองบ้างเล่า สิ่งที่เจ้าควรรู้คือ เจ้าคือข้า ข้าคือเจ้า ดังนั้นเจ้าไม่จำเป็นต้องรู้สึกผิด”“แต่ว่า...”“ตอนแรกข้าก็สงสัยเหมือนเจ้า ในยามที่ข้าตกตายเพราะจมน้ำ ข้าก็ถูกพามายังสถานที่แห่งนี้ เฝ้ามองดูเจ้าเข้าไปในร่างของข้าอย่างไม่ยินยอมนัก หลายครั้งที่ข้าคิดทำร้ายเจ้า หากแต่ไม่สามารถกระทำได้ เพราะทุกครั้งที่คิด ข้าจะรู้สึกเจ็บไปด้วยเช่นกัน ข้าไม่เข้าใจและเฝ้าถามตนเองมาตลอดว่าทำไม กระทั่งวันหนึ่งข้าก็ได้คำตอบจากคนผู้หนึ่ง”“ผู้ใดรึ”“คนผู้นั้นบอกกับข้าว่า แท้จริงแล้วทั้งข้าและเจ้าต่างเป็นคนคนเดียวกัน เพียงแต่ว่าตอนเกิด ดวงจิตของเราได้แยกเป็นสอง หนึ่งคือข้า สองคือเจ้า เมื่อดวงจิตแยกไม่รวมเป็นหนึ่งชะตาชีวิตของคนผู้นั้นย่อมเปลี่ยนแปลงไป เจ้าไม่สงสัยบ้างหรือ ว่าทำไมตอนที่อยู่ในโลกเดิมทั้ง ๆ ที่เจ้ามีทุกอย่าง มีครอบครัวที่ดีพร้อมและอบอุ่น แต่เจ้ากลับรู้สึกมีความสุขได้ไม่เต็มที่นัก เ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 130

    สภาพของหลี่เหวินหลางทำให้ผู้เป็นใหญ่ของจวนตระกูลหลี่รู้สึกเป็นห่วงอย่างมาก หากจะบอกว่าอาการของไป๋ฟางเซียนน่าเป็นห่วง สภาพของผู้เป็นบุตรชายก็น่าเป็นห่วงไม่ต่างกันหลี่เหวินชิงและเหลียนฮวามองสภาพบุตรชายที่หน้าประตูด้วยสายตาเป็นห่วงอย่างสุดแสน คิ้วของคนทั้งคู่ขยับเข้าหากันจนแน่นขนัด ใบหน้าที่ร่วงโรยไปตามวัยฉายความกังวลออกมาอย่างมาก ก่อนจะเป็นหลี่ฮูหยินที่ทนไม่ไหวพูดมันออกมา“ท่านพี่ น้องเป็นห่วงบุตรของเราจังเลยเจ้าค่ะ อาเหวินแทบไม่ออกจากห้องนอนของเซียนเอ๋อร์เลยนะเจ้าคะ เห็นอาการของลูกเราตอนนี้แล้ว น้องกลัวเหลือเกินเจ้าค่ะ น้องกลัวว่าลูกจะล้มป่วยไปอีกคน” เหลียนฮวาเอ่ยขึ้นอย่างหนักอกหนักใจ มองหลี่เหวินหลางที่กอบกุมมือไป๋ฟางเซียนด้วยความห่วงใยอย่างถึงที่สุด ด้วยไม่เคยเห็นบุตรชายของตนมีสภาพซึมเศร้าเช่นนี้มาก่อน“ไม่ต้องกังวลหรอกน้องหญิง อาเหวินรู้ขีดจำกัดของร่างกายตนเองดี เราแค่อยู่ข้าง ๆ เขาในยามที่เขาต้องการก็พอ ตอนนี้เราไปนั่งรับลมที่ศาลากันก่อนเถิด อยู่ตรงนี้ไปก็ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้นมา ประเดี๋ยวน้องหญิงจะเป็นกังวลห่วงคนนั้นคนนี้จนพานจะไม่สบายไปอีกคน”“ท่านพี่”แม้จะเป็นห่วงบุตรชายแต่ก

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 129

    “เซียนเซียน ตื่นขึ้นมาเถิดนะคนดี พี่คิดถึงเจ้า อยากได้ยินเสียงของเจ้าจนแทบจะทานทนไม่ไหวแล้ว หรือที่เจ้าไม่ยอมตื่นขึ้นมาเพราะอยากลงโทษที่พี่เคยพูดไม่ดีกับเจ้าในวันแรกที่เจ้าลืมตาขึ้นมาที่จวนเรือนหลังนี้ใช่หรือไม่ เซียนเซียน พี่ขอโทษเจ้า กลับมาเถิดนะคนดี กลับมาหาพี่ พี่รักเจ้า รักเจ้าเหลือเกิน” หลี่เหวินหลางทอดสายตาแห่งความคะนึงหาไปยังดวงหน้างาม ก่อนที่ชั่วพริบตาแววตาของเขาจะมีความโกรธแค้นวาบผ่าน หากแล้วก็ปล่อยวางลงอย่างรวดเร็ว เพราะคนที่ทำให้คนรักของเขาต้องเป็นเช่นนี้ได้ตกตายไปแล้ว เขาจึงไม่รู้ว่าต้องจ้องเวรไปเพื่อสิ่งใดแท้จริงแล้วการตกน้ำของนางอันเป็นที่รักใช่ว่าเขาไม่คิดติดใจสงสัย เขาย่อมต้องสงสัยแน่นอน และมั่นใจมากว่านางคงไม่กระโดดน้ำฆ่าตัวตายแน่ ที่ไม่ได้สืบหาตั้งแต่วันแรกเพราะเป็นห่วงนางจนไม่เป็นอันทำสิ่งใด พอตั้งสติกับตนเองได้เขาจึงเริ่มสอบถามเรื่องราวคาดคั้นกับจื่อถิงอีกครั้ง แต่นางก็ตอบสิ่งใดไม่ได้ ทั้งยังไม่รู้ว่าว่ามันเกิดสิ่งใดขึ้นกันแน่ นอกจากร่ำไห้ด้วยความรู้สึกผิดและโทษว่าที่ไป๋ฟางเซียนเป็นเช่นนี้ ทั้งหมดเป็นความผิดของตน หลี่เหวินหลางจึงสั่งให้ตงผิงและจื่อถิงกลับไปที่สร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 128

    “เซียนเซียน! เซียนเซียน ฟื้นสิเซียนเซียน” หลี่เหวินหลางร้องเรียกชื่อภรรยาด้วยความกระวนกระวายใจ ภายในอกของเขาร้อนรุ่มเต็มไปด้วยความวิตกกังวล กลัวเหลือเกินว่านางจะเป็นอันใดไป กลัวสูญเสียนางอย่างไม่มีวันหวนกลับ ความกังวลฉายชัดทั้งสีหน้าและแววตา โชคยังดีที่เขามาได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นเขาคงเป็นกังวลมากกว่านี้“พาคุณหนุกลับจวนก่อนเถิดเจ้าค่ะท่านแม่ทัพ จะได้รีบตามท่านหมอมาดูอาการ” จื่อถิงบอกอย่างร้อนรนและกระวนกระวายใจไม่แพ้กัน พลางมองเจ้านายสาวด้วยความเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุด น้ำตาเอ่อคลอไปทั่วดวงตาสวย เหตุใดจึงเกิดเรื่องกับคุณหนูทุกครั้งที่นางไม่ได้อยู่ด้วยก็ไม่รู้ โชคดีที่ทั้งนางและท่านแม่ทัพมาได้ทันท่วงที ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้ว่าคุณหนูของนางจะเป็นเช่นไร“รีบกลับจวนให้เร็วที่สุด!” หลี่เหวินหลางบอกคนขับรถม้าพร้อมทั้งอุ้มนางเข้าไปนั่งภายใน โอบกอดนางไว้อย่างหวงแหน มองดวงหน้าหวานด้วยสายตาเป็นห่วงเป็นใยอย่างถึงที่สุดก่อนหน้านี้หลี่เหวินหลางกลับมาถึงเมืองหลวงแล้ว และได้เข้าไปรายงานทุกอย่างให้องค์ฮ่องเต้รับรู้เรียบร้อยถึงการปราบโจรของตน หลังจากนั้นก็รีบพาตนเองออกจากวังหลวงอย่างรวดเร็ว ด้วยคิดถ

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 127

    “ไม่จริง! ข้าไม่เชื่อ เจ้าอย่ามาโกหกข้า ข้าไม่สนว่าใครจะเป็นคนคิด ในเมื่อพี่เหวินเป็นคนทำเขาก็ต้องรับผิดชอบ เจ้าก็ด้วย ในเมื่อวันนี้ข้าสูญสิ้นไม่เหลืออะไร พวกเจ้าก็ต้องสูญสิ้นไม่เหลือสิ่งใดเช่นเดียวกัน อย่างไรวันนี้ทุกอย่างก็ต้องจบลง ไม่ข้าและเจ้าก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง ครั้งที่แล้วข้าหวังให้เจ้าจมน้ำตายที่นี่ เพราะต้องการให้เจ้าทรมานถึงที่สุด กระทั่งหลังความตายก็ยังคงทุกข์ทรมานเพราะความเย็นของกระแสน้ำ ได้แต่เหน็บหนาวแต่เพียงผู้เดียวไร้ซึ่งคนเหลียวแล ครั้งที่แล้วเป็นโชคดีของเจ้าที่ข้าทำไม่สำเร็จ แต่ครั้งนี้มันจะไม่เหมือนเดิม เจ้าต้องตาย ตายเพราะข้า!” โจวเฟิ่งจิ่วตวาดกร้าว ไป๋ฟางเซียนได้ฟังแล้วรู้ว่าถึงเจรจาต่อไปย่อมไม่เป็นผล ดังนั้นจึงโพล่งไปอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน เช่นไรนางก็เคยตายมาแล้ว ตายอีกสักครั้งจะเป็นไรไป ไม่มีสิ่งใดน่ากลัวเลยสักนิด ห่วงก็แต่หลี่เหวินหลาง หากนางจากไปเขาจะรู้สึกเช่นไร จะเสียใจหรือคิดถึงนางบ้างหรือไม่เท่านั้นเอง “ตายก็ตายสิ คนอย่างไป๋ฟางเซียนไม่เคยกลัวตายอยู่แล้ว หากข้าตาย เจ้าก็ต้องตายเช่นกัน” จบคำพูดของไป๋ฟางเซียนร่างของโจวเฟิ่วจิ่วก็พุ่งตรงเข้ามาหวังจะกร

  • ไป๋ฟางเซียน ภรรยาข้ามภพ   บทที่ 126

    “ข้าไปทำอะไรให้เจ้านักหนาจึงได้คิดทำร้ายข้า”“ฮ่าฮ่า เพราะเจ้ามาแย่งทุกสิ่งทุกอย่างของข้าไปไงเล่า! คนไม่มีบิดามารดาเป็นกำพร้าเช่นเจ้า กล้าดีอย่างไรลงประกวดสาวงาม แย่งชิงตำแหน่งสาวงามอันดับหนึ่งของเมืองหลวงจากข้าไป เท่านั้นยังไม่พอเจ้ายังเป็นคู่หมั้นของพี่เหวิน คิดอยากได้และครอบครองเขา เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงคิดว่าตนเองเหมาะสมกับบุรุษเก่งกล้าและรูปงามเช่นเขา แทนที่เจ้าจะสำนึกในบุญคุณของบิดามารดาของพี่เหวิน กล่าวยกเลิกงานหมั้นนั่นเสีย เจ้ากลับเร่งรัดให้ทุกอย่างเร็วขึ้นกว่าเดิม ทั้ง ๆ ที่เจ้าก็รู้ตนเองดี ว่าพี่เหวินมิได้รักเจ้าเลยแม้แต่น้อย แล้วข้าจะให้คนหน้าด้านเช่นเจ้าเชิดหน้าอยู่ในระดับเดียวกันกับข้าได้เช่นไร คิดว่าข้าไม่รู้รึว่าเจ้าคิดเทียบเคียงข้ามาโดยตลอด หวังใช้ฐานะฮูหยินแม่ทัพตีเสมอข้าน่ะสิ หึ ไม่เจียมตน”“เจ้าบ้าไปแล้วโจวเฟิ่งจิ่ว ข้าไม่เคยคิดตีตนเสมอเจ้า ข้ารู้ตนเองดี เจ้าเอาแต่ว่าข้าแล้วเจ้าเล่าดีตรงไหน วัน ๆ ตามแต่คู่หมั้นของสหาย นอกจากไม่รู้สึกผิดแล้ว ยังคิดทำร้ายผู้อื่น นี่มันไม่น่ารังเกียจกว่าข้ารึ” ไป๋ฟางเซียนย้อนกลับทันควัน เพราะนางไม่ชอบให้ใครมาว่านางเช่นกัน แม้ว่าคนที่ถูก

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status