"แม่" ถึงแม้ว่าแม่ของเขาจะมือไวชอบตี แต่ก็ไม่เคยจริงจังเหมือนครั้งนี้มาก่อน
"แม่สอนลูกให้เป็นลูกผู้ชาย ไม่เคยสอนให้ทำแบบนี้กับผู้หญิง" ทำไมไออุ่นจะไม่เสียใจที่ตบหน้าลูกแบบนั้น แต่ที่ทำไปเพราะอยากลงโทษให้ลูกรู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิด
"แม่เชื่อผู้หญิงคนนี้มากกว่าลูกของแม่งั้นเหรอ"
"แม่เชื่อสิ่งที่แม่มองเห็น..เมื่อกี้ลูกทำอะไร?!" กระจกรถของเขาไม่ได้มืดจนมองเข้าไปไม่เห็น พอนางเห็นว่าลูกชายกำลังล่วงละเมิดทางเพศผู้หญิงอยู่ นางก็รีบเคาะกระจกรถ
"ผมแค่ลงโทษ"
"ลงโทษ? ลูกเป็นใครทำไมลงโทษผู้หญิงแบบนี้"
ในขณะที่แม่กำลังต่อว่าให้ลูกอยู่นั้น มายมิ้นท์ก็ร้องไห้ไม่หยุด เธอตกใจมากก็จริง แต่จะให้ร้องไห้แบบนี้คงไม่ มันคือมารยาของเธอที่ดึงออกมาลงโทษผู้ชายใจร้าย
"หนูหยุดร้องก่อนนะ แม่สัญญาว่าจะให้ความเป็นธรรมกับหนู"
"ตอแหล" จังหวะที่ไออุ่นหันไปปลอบใจมายมิ้นท์อยู่นั้น ไต้ฝุ่นได้พูดออกมาแค่เบาๆ เพราะเห็นว่าเธอมองมา
"คุณน้าจะให้ความเป็นธรรมกับหนูด้วยวิธีไหนล่ะคะ" ปากพูดกับผู้เป็นแม่ แต่สายตามองไปที่ลูกชายของนาง
"เราไปหาที่คุยกันก่อนดีกว่า" เพราะคุยข้างถนนแบบนี้คงไม่เหมาะแน่
"แม่ไม่ต้องคุยหรอก"
"ไต้ฝุ่น!"
"ถ้าแม่จะคุยแม่ก็คุยไปเลย ผมไม่เอาด้วย!" จบคำพูดเขาก็รีบเดินอ้อมไปขึ้นฝั่งคนขับ แล้วก็เหยียบคันเร่งออกตัวรถอย่างเร็ว
[โรงแรม]
"คุณน้ามาที่นี่ทำไมคะ" พอเห็นโรงแรมที่แม่ของเขาพามา มายมิ้นท์ถึงกับตกใจ
"เราต้องหาที่คุยกันจ้า ลงรถก่อน" ไออุ่นแค่ต้องการพาเธอมาคุยที่ดีหน่อย เพราะยืนคุยกันอยู่ข้างถนนแบบนั้นคงไม่เหมาะ และโรงแรมนี้มันก็ใกล้ที่สุดแล้ว
มายมิ้นท์เดินตามหญิงวัยกลางคนเข้ามาในโรงแรมแบบหวาดหวั่น เพราะโรงแรมนี้มันเป็นโรงแรมของพ่อเธอ ซึ่งเรื่องนั้นไออุ่นไม่ทราบ
"นั่งก่อนจ้า"
"ค่ะ" มายมิ้นท์มองซ้ายมองขวาก่อนที่จะนั่งลง..มุมนี้มันเป็นโซน VIP ของห้องอาหาร
"แม่อยากจะคุยเรื่องลูกชายของแม่ แม่รู้เรื่องทั้งหมดแล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น"
"รู้เรื่องทั้งหมดหมายความว่ายังไงคะ?"
"แม่จะยังไม่กล่าวหาใคร" ไออุ่นล้วงเอาอะไรบางอย่างออกมาจากกระเป๋าสะพาย แล้วยื่นมันไปวางลงตรงหน้าของมายมิ้นท์
"รูปนี่?!" หญิงสาวหน้าถอดสี เมื่อมองเห็นรูปภาพที่แม่ของเขายื่นมา ทำไมมันยังหลงเหลืออยู่ ในเมื่อเธอบอกให้พวกนั้นทำลายไปแล้ว แถมเงินก็จ่ายไปสองเท่าตัว
"พ่อได้ยินพนักงานบอกว่าลูกเข้ามา..?" อิทธิเดินมาทางด้านหลังของลูกสาวที่นั่งอยู่ ..พนักงานที่นี่รู้จักมายมิ้นท์เป็นอย่างดี และเห็นว่าเธอเข้ามากับผู้หญิงแปลกหน้า กลัวว่าจะถูกหลอก ก็เลยรีบติดต่อขึ้นไปหาท่านประธาน
"คุณพ่อ!?" หญิงสาวรีบซ่อนรูปนั้นทันที แต่ไม่ทันแล้ว..เพราะว่าพ่อของเธอเห็นตั้งแต่ตอนหยุดพูดคำสุดท้าย
"คุณพ่อ!?""ซ่อนอะไรไว้เอาออกมา""ไม่มีอะไรค่ะ""จะไม่มีได้ยังไง เอาออกมา!" อิทธิคว้ารูปนั้นออกมาจากมือลูกสาว ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ยินยอมให้ดูก็ตามที"พ่อคะ ฟังมายก่อนนะ"พออิทธิเห็นภาพนั้นชัดแล้ว ดวงตาคมของเขา เพ่งเล็งไปที่ผู้หญิงอีกคนที่นั่งอยู่กับลูกสาว"มันเรื่องอะไรกัน..เธอเป็นใคร" เขาพยายามใจเย็นที่สุด เพราะเห็นว่านางเป็นผู้หญิง"ฉันอยากจะขอคุยในที่ส่วนตัวกว่านี้หน่อย" ไออุ่นรู้แล้วว่าคนนี้คงจะเป็นพ่อของเธอ และโรงแรมนี้คงจะเป็นโรงแรมพวกเขา อะไรจะจุดใต้ตำตอขนาดนี้"เชิญ" อิทธิเดินนำหน้าไป ในมือขยี้รูปภาพนั้นจนแทบจะแหลกคามือ ซึ่งมายมิ้นท์ก็มองเห็น และรู้ดีว่าตอนนี้พ่อโมโหมากอิทธิพาทั้งสองมาที่ห้องทำงานของตัวเอง"ว่ามา""ก่อนอื่นฉันขอแนะนำตัวก่อนนะคะ ฉันชื่อไออุ่นเป็นภรรยาของคุณราชสีห์ อัครไพศาล""อะไรนะ?!" ดวงตาคมมองหน้าผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า เพื่อความแน่ชัดอีกครั้ง ราชสีห์ อัครไพศาล มีใครไม่รู้จักบ้างในแวดวงนี้"คุณอาจจะไม่เคยเห็นหน้าฉัน เพราะฉันไม่เคยออกงานกับสามี แต่คุณสามารถเช็คได้ หรือว่าจะถามคุณทศกัณฐ์กับคุณเจ้าขาดูก็ได้" ไออุ่นไม่ชอบออกงานสังคม ยิ่งเป็นงานราตรีนางไม่ออกเลย ส่วน
"นี่มันเรื่องอะไรกันครับแม่" ไต้ฝุ่นหันกลับไปถามผู้เป็นแม่ที่เดินตามหลังเข้ามา"เข้ามานั่งก่อน" ราชสีห์สั่งให้ลูกชายเข้ามานั่งโต๊ะที่เตรียมไว้ ..ไต้ฝุ่นจำเป็นต้องได้ทำตาม เพราะรู้ดีถ้าพ่อโมโหน่ากลัวกว่าแม่เยอะส่วนทางด้านอิทธิยังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับภรรยา เพราะกลัวว่าจะไม่สบายใจร่างหนาทิ้งตัวลงนั่งที่เก้าอี้ตรงหน้าของหญิงสาว สายตาของเขามองจ้องมาที่เธอแบบเอาเรื่อง"ทำไมลูกถึงไม่พูดเรื่องยานั่น" ไออุ่นเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าบรรยากาศเริ่มจะเงียบ และนี่คือเหตุผลที่ต้องได้นัดคุยกันอีกครั้ง เพราะถ้าลูกชายของนางให้ผู้หญิงกินยาแบบนั้นจริง นางก็ไม่สามารถที่จะปล่อยไปได้"ครับ?!" ไต้ฝุ่นหันกลับมองผู้เป็นแม่ แล้วหันกลับไปมองที่เธออีกครั้ง เขาเล่าทุกอย่างก็จริง แต่ยกเว้นเรื่องนี้ "เธอ!!""หยุดนะไต้ฝุ่น!" ราชสีห์ห้ามลูกชายไว้เมื่อเห็นว่าลูกชายลุกขึ้น กลัวว่าจะทำร้ายผู้หญิงเอา"เธอก็เอายานอนหลับให้ผมกินเหมือนกัน" ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าที่เขาหลับเป็นตายแบบนั้นเพราะฤทธิ์ยา เรื่องนี้เขาก็ยังไม่ได้เล่าให้พ่อกับแม่ฟังเหมือนกันทุกคนต่างก็หันไปมองที่มายมิ้นท์อีกครั้ง"เรื่องยาถือว่าเจ๊ากัน แต่มายเป็นฝ่ายเสียหาย
"มาย""คะ" ระหว่างทางที่เดินออกมาจาก สนามกีฬา มายมิ้นท์ก็ได้ยินเสียงคนเรียก ถึงแม้จะยังไม่หันกลับไปก็รู้แล้วว่าเป็นใคร"พี่ไม่คิดว่ามายจะมาดูการแข่งขัน" เจ้าขุนอยากจะมาถามเรื่องวันนั้นว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่พอไปที่คณะเพื่อนบอกว่าเธอมาที่สนามกีฬา"คือว่า.." ไม่รู้ว่าจะบอกกับเขายังไงดีเกี่ยวกับเรื่องวันนั้น วันที่เธอถูกไต้ฝุ่นลากขึ้นรถไป"ถ้ามายลำบากใจที่จะพูดก็ไม่เป็นไร พี่เป็นห่วงเพราะโทรไปหาแล้วมายไม่รับสาย"ไม่รับสายสิโทรศัพท์หายไปแล้วนี่ ..หญิงสาวได้แต่คิดในใจ เธอยังไม่มีเวลาไปซื้อเครื่องใหม่เลย"วันนี้เราไปทานข้าวเย็นด้วยกันไหม""เย็นนี้มายไม่ว่างค่ะ""ไม่เป็นไรจ้า งั้นพี่ไปนะ" เจ้าขุนกลับหลังหันทันทีที่พูดจบมายมิ้นท์ได้แต่มองตามหลังพี่ชายคนนี้ไป ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเจ้าขุนคิดยังไงกับเธอ แต่ใจคนมันก็บังคับกันไม่ได้ เพราะเธอไม่เคยมีใจให้กับเจ้าขุนเลย แม้แต่คนที่เธอจะแต่งงานด้วยมายมิ้นท์ยังไม่มีใจด้วยเลยเย็นวันเดียวกัน.. ที่บ้านของมายมิ้นท์"ทำไมแม่ถึงไม่รู้เรื่องนี้" เมื่อได้ยิน เรื่องที่ลูกสาวจะแต่งงาน ผู้เป็นแม่แทบรับไม่ทัน"ผมกำลังเล่าให้คุณฟังอยู่นี่ไง" อิทธิไม่รู้ว่าจะเริ่มยังไ
มายมิ้นท์ได้แต่มองตามหลังผู้ชายที่ได้ชื่อว่าเป็นสามี ที่เดินออกจากห้องหอไปในวันแต่งงานแต่เรื่องนั้นยังไม่น่าเจ็บใจเท่า ..ไอ้ชุดที่มันถอดไม่ได้ ตัดให้ขาดเลยดีไหมเนี่ย!!หญิงสาวเดินมาทิ้งกายลงนอนที่เตียงมันทั้งชุดนั้นเลย ถึงแม้ว่าเธอจะไม่ได้ทำอะไรมากมายในงานแต่งของตัวเอง แต่ก็เหนื่อยมาก คนร่างเล็กนอนลงเพียงไม่นานก็หลับไปเช้าวันต่อมา.."....??..." มายมิ้นท์ตื่นขึ้นมาก็พบว่าไต้ฝุ่นนอนอยู่ข้างกาย ก็เมื่อคืนนี้เขาออกไปแล้วไม่ใช่เหรอทำไมยังนอนอยู่ตรงนี้หญิงสาวลุกขึ้นแล้วเดินมาเปิดประตู เพราะได้ยินเสียงแม่บ้านทำความสะอาดด้านนอก"ป้าคะ""คะ""ช่วยมายแกะกระดุมด้านหลังที" แล้วเธอก็หันหลังให้คนทำความสะอาดช่วย"ขอบคุณค่ะ" พอกระดุมเม็ดสุดท้ายหลุดออกหญิงสาวก็เดินกลับเข้ามาในห้องมายมิ้นท์เอาเสื้อผ้าที่เตรียมมาด้วยเดินเข้าห้องน้ำ เมื่อคืนนี้ก็ไม่ได้อาบ..จึงใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำพอสมควร แล้วเธอก็แง้มประตูออกมาดู ตอนนี้ไม่เห็นเขานอนอยู่ที่เตียงแล้ว.."ไปซะได้ก็ดี" พูดออกมาเบาๆ กับตัวเอง แล้วก้าวออกจากห้องน้ำ "กรี๊ดดด" เธอตกใจเมื่อออกมาจากห้องน้ำก็พบว่าเขายืนพิงผนังหน้าห้องน้ำอยู่อีกมุมหนึ่งซึ่งเธอมองไ
หญิงสาวยังไม่คิดอยากจะขึ้นไปข้างบน ตอนที่คุยกันเธอรู้แล้วว่าพ่อกับแม่เตรียมเสื้อผ้าข้าวของที่จำเป็นมาให้หมดแล้ว มันอยู่ในห้องของสามีเธอ ..สามีงั้นเหรอ คิดไปก็ได้แต่สมเพชตัวเอง ไม่มีคำไหนเลยที่เขาต้องการอยากจะได้เธอเป็นภรรยาหญิงสาวร่างระหงเดินดูบรรยากาศรอบบ้านในยามราตรี เพื่อเป็นการฆ่าเวลาให้มันดึกหน่อย ขึ้นไปข้างบนเผื่อว่าเขาจะหลับไปแล้วที่นี่สวยจังเลย ทำไมมีสนามเด็กเล่นอยู่ตรงพุ่มไม้ มายมิ้นท์เดินไปนั่งม้าหมุนสำหรับเด็ก ถึงแม้ว่ามันจะเก่ามากแล้วแต่ก็ยังใช้การได้ดี คงจะเป็นสนามเด็กเล่นของเขาสินะ ..ใช่แล้วค่ะที่นี่มันคือพุ่มไม้ในตำนาน สำหรับราชสีห์และไออุ่น^__^นั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่แบบนั้น จนคิดว่ามันดึกมากพอแล้ว มายมิ้นท์ก็เลยกลับเข้ามาในบ้าน ซึ่งตอนนี้คนในบ้านคงจะนอนไปหมดแล้ว และทุกคนก็คิดว่าเธอขึ้นไปแล้วเช่นกันก็เลยไม่มีใครออกมาตามแกร็ก~ ประตูห้องของเขาได้ถูกเปิดเข้าไปเพียงเบาๆ..ทำไมมืดจังเลย แล้วที่เปิดไฟห้องนี้อยู่ตรงไหน เข้ามาในห้องเขาก็ปิดไฟปิดผ้าม่านจนมืดสนิท และเธอก็ไม่รู้ว่าห้องนี้เตียงนอนอยู่ตรงไหน โต๊ะอยู่ตรงไหน ที่สำคัญสวิตช์ไฟอยู่ตรงไหนเนี่ย?! หญิงสาวค่อยๆ คลำไป จนขา
"จะโทษใครได้วะ โทษตัวมึงนั่นแหละคนเดียว ถ้าเล่นเป็นทีมมันจะแพ้ไหม""เมื่อไรมึงจะหุบปากสักทีรำคาญ!!" ไต้ฝุ่นพูดพร้อมกับยกเหล้ากระดกใส่ปากจนหมดแก้ว"เออขอโทษแล้วกัน กีฬามันต้องมีแพ้มีชนะกันบ้างแหละ ยังดีที่เรายังได้ที่สอง""กูไม่ต้องการที่สอง!!""มึงจะอารมณ์เสียอะไรนักหนาวะปีหน้าค่อยเอาใหม่""ถ้ามึงพูดไม่สร้างสรรค์มึงหุบปากไปเลยไอ้ดัมมี่" แทนที่จะได้ปลอบกันกลับกลายเป็นการทะเลาะวันนี้พวกเขานัดกันมาดื่ม เพราะเครียดที่แข่งแพ้ทีมการโรงแรมของเจ้าขุนแค่ไม่กี่แต้ม"ฝุ่นดื่มเยอะเลยใช่ไหมคะเนี่ย" มันคือเสียงของสุชาดาที่เพิ่งเข้ามาพร้อมเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนไต้ฝุ่นมองไปที่ดัมมี่ ทันทีที่เห็นสุชาดาเข้ามา"ก็กูเห็นมึงเครียดๆ ก็เลยชวนสาวๆ มาดื่มด้วย"เขาก็ไม่ว่าอะไร ยังยื่นมือไปโอบกอดสุชาดาเมื่อเธอนั่งซบลงมาที่ไหล่กว้าง"เมื่อไหร่พวกมึงจะเปิดตัวว่าเป็นแฟนกันสักทีวะ กูเห็นหวานแบบนี้นานแล้วนะ" นิกรเพื่อนอีกคนในกลุ่มสุชาดาแอบอมยิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ใครจะไม่ต้องการล่ะลูกชายคนเดียวของสายการบินใหญ่โต"แล้วน้องว่าไงล่ะจ๊ะอยากเป็นแฟนพี่ไหม" ด้วยความที่เมามากแล้ว เขาก็เลยแกล้
12 : 20 น. ที่โรงอาหาร..สิ่งที่สุชาดาพยายามทำก็ได้ผล ซึ่งตอนนี้เป็นที่กล่าวขานกันทั่วมหาวิทยาลัยจะไม่ให้กล่าวขานกันได้ยังไง ก็ลูกชายคนเดียวของสายการบินใหญ่โต เศรษฐีระดับต้นๆ ของประเทศ แค่มาเรียนมหาวิทยาลัยนี้เพื่อนๆ ก็จับตามองกันอยู่แล้ว ไม่ว่าไต้ฝุ่นกระดิกตัวทำอะไร ก็เป็นที่พูดคุยกันไปทั่ว"เสียดายรุ่นพี่นะ รูปหล่อพ่อรวยขนาดนั้นไม่น่าตาต่ำไปเอา..""มึงหยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะเนย" แก้วใสรีบห้ามปรามเพื่อนไว้ก่อนที่จะปากพล่อยพูดอะไรออกไป"เราพูดจริงนี่หว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่เห็นเหมาะสมกับพี่ไต้ฝุ่นเลย ถ้าเป็นเพื่อนของเราก็ว่าไปอย่าง" เนยพูดทิ้งช่วงไว้ แล้วก็มองมาที่มายมิ้นท์ ซึ่งตอนนี้กำลังสนใจข้าวในชามมาก เพราะเธอเขี่ยมันจนจะกระเด็นออกจากชามหมดแล้วความรู้สึกที่มันกำลังประดังเข้ามาในเวลานี้..เหมือนถูกตบหน้า ทั้งๆ ที่ เธอเป็นภรรยาของเขา แถมถูกต้องตามกฎหมายด้วย แต่พอได้ยินว่าสามีมีแฟนที่เป็นเพื่อนเรียนด้วยกัน ถึงแม้ว่าเธอไม่มีใจให้เขาเลย แต่มันก็ต้องมีบ้างที่คิด"มายแกเป็นอะไร""ห๊ะ" ได้ยินเพื่อนเรียก มายมิ้นท์ก็ตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่"ข้าวจะกระเด็นออกจากชามหมดแล้ว""เราอิ่มแล้ว" หญิง
"แม่ล่ะครับพ่อ" กลับมาถึงบ้านก็ไม่เจอผู้เป็นแม่ ที่จริงก็ไม่เจอผู้หญิงคนนั้นด้วยแหละ แต่เขาก็ไม่สนใจที่จะถามหา"ก็ไปเยี่ยมเมียลูกนั่นแหละ" ราชสีห์กลับมาก็ไม่เจอภรรยาเหมือนกัน แต่นางฝากความกับแม่บ้านไว้"เมียผม? เออ..เธอเป็นอะไร" เขายังไม่ชินกับคำนี้ และคิดว่าคงจะไม่ชินง่ายด้วย"เห็นฝากข้อความไว้ว่าเมียของลูกไม่สบาย" ราชสีห์กลับมาถึงก็นั่งดูข่าวธุรกิจ จนลูกชายกลับมา"ไม่สบาย?" ..ทำร้ายร่างกายคนอื่นมา แต่ตัวเองกลับไม่สบายเนี่ยนะ เขายังคิดว่าเธอทำร้ายสุชาดาก่อน"เราก็น่าจะไปเยี่ยมหน่อยนะ" ผู้เป็นพ่อละสายตาออกจากหน้าจอแล้วหันมาพูดกับลูกชาย"แม่ไปแล้วทำไมผมต้องไปด้วยล่ะ" จบคำพูดก็เดินขึ้นบ้านไปแบบไม่สนใจบ้านปรัชญานนท์.. "แม่ว่าน่าจะไปหาหมอหน่อยนะ" ไออุ่นขึ้นมาเยี่ยมลูกสะใภ้บนห้องก็เห็นว่านอนซมอยู่ ที่นางรู้ เพราะแม่ของมายมิ้นท์โทรไปส่งข่าวว่าลูกสาวขอนอนค้างที่นี่ เพราะไม่ค่อยสบาย"กินยาแล้วเดี๋ยวก็หายค่ะ" เรื่องเป็นไข้ไม่ค่อยเท่าไรหรอก แต่ที่ร่างกายของเธอไม่ไหวก็เพราะเจอเรื่องหนักๆ มาสองวันติดๆ กันที่จริงไออุ่นอยากจะพามายมิ้นท์กลับไปดูแลที่บ้าน แต่พิมลแม่ของมายมิ้นท์อยากจะดูแลลูกสาวเอง
[มหาวิทยาลัย]"จะไปไหน" พอเข้ามาถึงห้องเรียน หนามเตยก็เดินตรงไปที่โต๊ะเรียนเดิม โต๊ะที่ขอแลกกับกล้าหาญ"ก็ไปที่นั่งไง""มานั่งด้วยกันตรงนี้""จะบ้าเหรอนั่นมันที่ของกล้าหาญ""เดี๋ยวให้มันไปนั่งข้างหลัง""ไม่เอาเปลี่ยนมาครั้งหนึ่งแล้วจะเปลี่ยนกลับได้ยังไง" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปนั่งที่เดิม ..เพียงไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องในขณะที่นั่งเรียนอยู่เจ้าขุนก็มองกลับหลังบ่อยครั้งมาก"มึงเป็นอะไรนักหนาวะ" กล้าหาญซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็ไม่เป็นอันเรียนไปด้วย พอเพื่อนมองกลับหลัง เขาก็ต้องได้มองตามแบบสงสัยว่าเพื่อนมองอะไร พอรู้แล้ว..แต่เวลาที่เจ้าขุนมองกลับไปอีกที เขาก็ต้องมองตามอีก..เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ"กูว่ามึงย้ายเถอะว่ะ""ย้ายไม่ได้เดี๋ยวเมียด่า" ชายหนุ่มกระซิบพูดกับเพื่อนเบาๆ"มึงกลัวด้วยเหรอวะ""ใครบอกว่ากูกลัว..กูแค่เกรงใจ""นั่นแหละที่เขาเรียกว่ากลัว""มึงไม่เคยมีเมียมึงจะรู้ได้ยังไง""ด้านหลังช่วยสนใจอาจารย์หน่อยนะคะ" เพียงไม่นานอาจารย์ก็ส่งเสียงมา และเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างก็หันกลับมามองที่เจ้าขุนเป็นห่วงเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างหนามเตยเป็นเพื่อนผู้ชาย"ไปไหนแล้ว""หาอะไร""ปา
คืนเดียวกันนั้น.."ไปอาบน้ำกัน" พอขึ้นมาถึงด้านบน เขาก็ชวนเธอ"จะอาบก็ไปอาบเองสิ""แน่ใจนะว่าลูกจะไม่คิดถึงพ่อ" ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จริงด้วยถ้าเขากลับห้องไปมีหวังเราต้องได้ไปคุยกับชักโครกอีกแน่เลย หญิงสาวลืมไป เพราะวันนี้ไม่คลื่นไส้มาทั้งวัน จนถึงเวลานี้ก็มืดค่ำมากแล้ว"ไปด้วยกัน" มือหนาคว้าเอาคนตัวเล็กให้เดินตามมาที่ห้องของตัวเอง"ฉันไม่อาบกับคุณนะ" หญิงสาวพยายามจะหยุดไม่เดินตาม"ไม่อาบก็ไม่อาบ แต่ไปด้วยกัน" เขาไม่อยากจะปล่อยให้เธออยู่ห้องคนเดียว "รออยู่ตรงนี้" ชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ปิดประตูห้องน้ำ ส่วนเธอก็ยืนหันหลังให้ ไม่กล้าหันไปมองเราต้องทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนเนี่ย..ลูกนะลูก หญิงสาวบ่นพึมพำที่ต้องได้มายืนเฝ้าเขาอาบน้ำอยู่แบบนี้ตุ๊บ.."อะไร" คนตัวเล็กรีบหันเข้าไปดู เพราะได้ยินเสียง ทีแรกคิดว่าเป็นเสียงเขาล้ม แต่พอหันเข้าไปแล้วเธอต้องได้รีบหันกลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงกล่ำ"ตกใจเหรอ มือผมไปถูกฝาชักโครก" ตอนที่เขากำลังเช็ดตัวอยู่นั้น มือได้ไปโดนฝาชักโครกที่เปิดอยู่มันก็เลยปิดลงมีเสียงดัง"อาบเสร็จหรือยัง""จะอายทำไมผมยังไม่อายเลย" เขารู้ดีว่าเธอคงจะอายตอนที่หันม
สายตาของทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน แบบไม่มีใครยอมหลบให้ใคร"ผมเห็นเจ้าของไม่ต้องการมันอีกแล้ว ก็เลยเก็บมันเอาไว้" เขาพูดในขณะที่ยังมองสบตาเธออยู่"คุณต่างหากที่ไม่ต้องการ" คำพูดนี้ มันได้ออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ของเจ้าของใบหน้าหวาน กว่าเธอจะตัดสินใจทิ้งมันได้ เพราะมันอยู่กับเธอมาตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ"ผมขอโทษ ผมมันโง่เอง มีสมองแต่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดี ว่าทำไมคุณถึงหายไปในวันนั้น""คุณยังรอฉันอยู่เหรอคะ""รอสิ ไม่ได้รอแค่วันนั้นนะ รอจนย้ายโรงเรียน ขนาดย้ายโรงเรียนแล้วผมยังให้คนขับรถพากลับมาเผื่อว่าคุณยังอยู่ที่เดิม" วันไหนที่มีแต่แม่บ้านและคนขับรถมารับ เขาชอบให้ผ่านไปทางโรงเรียนเดิม จอดรอดูว่าเธอจะออกมาจากในนั้นไหม..แต่ก็ไม่มี"วันนั้นพ่อกับแม่ของฉัน..ท่านทั้งสอง.." คำพูดของเธอมันถูกกลืนหายเข้าไป พร้อมกับเสียงสะอื้น"ผมรู้แล้ว..ถ้าผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง และตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหนผมจะตามไป" ถ้าเขารู้สักนิดว่าเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจะไม่รีรอที่จะตามไปเลย"คุณไม่รู้เหรอคะว่าคุณตา.." ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ทำอะไรไม่ถูก อยากจะพูดอยากจะถามหาเขา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่ม
"กลับมาแล้วเหรอลูก" เจ้าขาถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเข้ามา"ครับ""มันจะรีบไปไหน แล้วมันมาจากไหน" ทศกัณฐ์ได้แต่มองตามหลังคนที่วิ่งขึ้นไปบนบ้าน แทบจะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นลูกชายของตัวเอง เพราะมองไม่ทัน"วันนี้วันเกิดของกล้าหาญค่ะ" เจ้าขาพูดพร้อมกับเอานมอุ่นๆ มาให้สามีได้ทาน เพราะเขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน"วันเกิดกล้าหาญ?" พอรู้ว่าวันเกิดเพื่อนสนิทของลูกชาย ทศกัณฐ์ก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู สองทุ่มกว่า?" ธรรมดาวันเกิดเพื่อน ถ้าไม่เช้าก็คงจะเป็นเย็นวันต่อไปถึงจะเห็นหน้าลูกชายโผล่กลับบ้าน"เห็นหนามขอเบอร์โทรไป สงสัยจะโทรตามมั้งคะ""โทรตามงั้นเหรอ?" มันยิ่งสร้างความงุนงงให้กับทศกัณฐ์ เพราะทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะเป็นมิตรกันเลยแกร่ก~ กลับมาถึงชายหนุ่มก็ตรงเข้าห้องของเธอ"หนาม" มองดูบนเตียงนอนไม่มี เขาก็เลยรีบเข้าไปดูในห้องน้ำ "เป็นยังไงบ้าง"พอเห็นเขาเข้ามาอาการคลื่นไส้เวียนหัวก็หายไปสิ้น หญิงสาวลุกขึ้นแบบหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ"...?..." ชายหนุ่มงงกับท่าทาง..เนี่ยเหรอคนที่โทรตามเขากลับบ้าน อุตส่าห์ดีใจว่าเธอโทรหา แต่พอกลับมาหน้าตาของเธอไม่รับแขกเลยจะให้ยิ้มระรื่นได้ยังไง
เขานั่งเป็นเพื่อนเธออยู่แบบนั้นจนคิดว่าเธอนอนหลับสนิทแล้ว ถึงออกมาจากห้องเพื่อไปอาบน้ำออกไปอาบน้ำยังไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงคนข้างห้องอาเจียน ชายหนุ่มรีบล้างตัว แล้วออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบท่อนล่างอยู่"ผมนึกว่าคุณหลับไปแล้ว" เขารีบเดินเข้าไปลูบหลังให้ "ออกหมดเลยเหรอ" ชายหนุ่มมองลงไปดูในชักโครก..อาหารที่เธอกินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกไปหมดเลย"คุณจะมองอะไรสกปรกจะตาย" หญิงสาวรีบกดน้ำให้ไหลลง"ไปที่เตียงดีกว่า" มือหนาโอบร่างบางให้เดินตามมาที่เตียง ถ้าเป็นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเธอคงจะไล่ตะเพิดเขาไปแล้ว แต่นี่..รู้แล้วว่าทำไมเวลาเขาอยู่ใกล้อาการพวกนั้นมันถึงหายไปใบหน้างามมองต่ำลงไปที่ท้องของตัวเอง ไอ้ตัวเล็กต้องแผลงฤทธิ์แน่"นอนก่อนนะเดี๋ยวผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" จังหวะที่เขากำลังจะออกจากห้อง มือเรียวรีบคว้าแขนของเขาไว้"คุณจะกลับเข้ามาอีกไหม" หญิงสาวถามไปโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม "มาสิ" ว่าแล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจไปไม่ถึงห้านาทีก็รีบกลับเข้ามา แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องน้ำ"หนาม"พอเห็นเขากลับมาเธอก็ออกจากห้องน้ำ ..หึ!!
ตุ๊บ!! เสียงเจ้าขุนถีบเก้าอี้ออกจากตรงที่กีดขวาง"เมื่อกี้เธอว่าอะไร" แล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปหายี่หวา เพราะเมื่อสักครู่ที่ยี่หวาพูดแล้วเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินชัดเจน"เราพูดถึงเรื่องละครที่ดูกับแม่เมื่อคืนนี้" ยี่หวาหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าเจ้าขุนเอาจริงสายตาคมจ้องมองแบบเอาเรื่อง จนเพื่อนในห้องรีบเข้ามาช่วยกันขวางไว้"ไม่เอาน่า ผู้หญิงนะ" กล้าหาญก็เข้ามาช่วยพูด ถึงแม้ยี่หวาจะแก้ตัวไปแต่ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ได้ยินหมด..ที่เธอพูดว่าหนามเตยสำส่อน"ผู้หญิงแล้วไง สักแต่มีปากจะพูด" จบคำพูดเจ้าขุนก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างจนลมกระจายส่วนยี่หวา..ตอนนี้ถอยออกไปจนจะชนผนังห้อง ..ถ้าคนที่พูดเป็นผู้ชายสงสัยฟันคงได้ร่วงออกจากปาก แต่เจ้าขุนก็ยังไม่สงบ ดวงตาของเขายังจ้องมองพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไป"พอแล้ว" หนามเตยเป็นคนพูดขึ้น..เขาถึงได้หยุดที่หยุดเพราะได้ยินเสียงคนห้ามเหมือนจะร้องไห้"หนาม" เจ้าขุนเดินกลับเข้ามาหาเธอส่วนพวกเพื่อนๆ กำลังเก็บสิ่งที่เขาทำกระจัดกระจายไว้หนามเตยไม่มองหน้าเจ้าขุนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง จากที่คิดว่าจะเข้มแข็ง เพราะคนรอสมน้ำหน้าก็มีมาก แต่ตอนนี้มันเข้
ก๊อก ก๊อก หลังจากที่เจ้าขุนออกจากห้องไปได้เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูเรียกที่หน้าห้องหญิงสาวเงียบฟังว่าเป็นใครที่มาเคาะ"หนามจ๊ะ""คะ" หนามเตยรีบมาเปิดประตู"แม่ทำข้าวต้มร้อนๆ ขึ้นมาให้จะได้มีอะไรรองท้องก่อนนอนบ้าง" เมื่อประตูเปิดออกนางก็ได้ถือข้าวต้มเดินเข้าไปในห้อง"คุณแม่ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ หนามยังไม่หิว""ไม่หิวก็ต้องกิน" เจ้าขาดูแล้วเธอคงจะยังไม่ทานข้าวเย็น และตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วย"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวไหว้พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ จะทานได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที เพราะตอนนี้แค่ได้กลิ่นก็ชวนให้อาเจียนแล้ว"ว่าไงครับแม่" เจ้าขุนถามขึ้นทันทีที่เห็นแม่ออกมาจากห้องนั้น เขายืนรออยู่ด้านหน้าแบบเงียบๆ แถมยังหลบด้วยเพราะกลัวเธอมองออกมาเห็น"แม่ว่าลูกก็ไปพักผ่อนได้แล้วดึกแล้วนะ"แม่ตอบผมก่อนสิครับ"จะให้แม่ตอบอะไร""เธอจะกินข้าวไหมครับ""แม่ไม่รู้""ทำไมแม่ไม่อยู่รอจนกว่าเธอจะกินล่ะครับ""ลูกก็ไปรอเองสิ" เจ้าขาแค่พูดอยากจะเห็นกิริยาของลูกชายพอแม่กลับเข้าห้อง เจ้าขุนก็เดินกลับมาที่หน้าห้องของเธอ แนบหูฟัง ว่ามีเสียงช้อนกระทบกับถ้วยไหม"อ้วกกกกก""หนาม" แต่เสียงที่ได้ยินก็คือเส
"ขอฉันไปด้วยคนนะคะ" เจ้าขารีบเดินตามสามีออกมาที่รถ"ผมว่าคุณไม่ต้องไปหรอก รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านดีกว่า""แต่ฉันเป็นห่วงนี่คะ""ถ้างั้นก็ขึ้นรถ" ทศกัณฐ์ไม่เคยทนลูกอ้อนของภรรยาคนสวยได้สักครั้งเจ้าขาก็รีบเดินอ้อมไปขึ้นนั่งข้างสามี ส่วนตอนนี้เจ้าขุนขับรถของตัวเองออกไปตั้งแต่รู้ว่าเธอซื้อตั๋วเพื่อที่จะเดินทาง"หนามรอผมก่อนนะอย่าเพิ่งไปไหน" คันเร่งถูกเหยียบเกือบมิดไมล์ รถคันไหนที่ขวางหน้าเขาบีบแตรไล่ที่เจ้าขาตามสามีมาส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงหนามเตย แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือลูกชายสนามบินสุวรรณภูมิชายหนุ่มมาถึงสนามบินโดยปลอดภัย เขาจอดรถได้ก็รีบวิ่งตรงเข้าไป โดยที่ทิ้งรถไว้ในที่ห้ามจอด แต่เจ้าขุนก็ไม่สนใจชายหนุ่มร่างสูงวิ่งฝ่าผู้คนที่กำลัง เดินกันให้วุ่น สายตาของเขามองไปที่ผู้โดยสารขาเข้า"เข้าไม่ได้ครับ" พนักงานด้านหน้าที่คอยตรวจเช็คตั๋วเดินทาง ไม่เห็นเขามีตั๋วติดมือมาด้วยก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าไป"ผมแค่อยากจะเข้าไปหาคน""หาใครก็ไม่ได้ครับ""ผมต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปได้""คุณต้องมีตั๋วเดินทางครับ"ชายหนุ่มรีบวิ่งกลับมาตรงที่ซื้อตั๋ว"เราปิดการขายไปแล้วค่ะ ไฟท์นี้เครื่องกำลังจะขึ้นค่ะ" และก็เ
ห้องพยาบาลของทางมหาวิทยาลัย"เพื่อนเราเหรอจ๊ะ" อาจารย์หมอเห็นมายมิ้นท์ก็นึกขำ เพราะจำได้แม่น"ไม่ใช่เพื่อนค่ะ รุ่นพี่ที่คณะ" หญิงสาวตอบออกไปแบบเอียงอาย เพราะหลายครั้งที่เธอได้มาใช้บริการห้องนี้อาจารย์หมอตรวจดูอาการอยู่พักหนึ่งวัดความดัน และตรวจคลื่นหัวใจ"คงเป็นเพราะความเครียดพักผ่อนไม่เพียงพอ เดี๋ยวรอให้เพื่อนฟื้นก่อนนะ" เพราะว่าตอนนี้หนามเตยยังไม่ได้สติ แต่ชีพจรของเธอก็ปกติ อาจารย์หมอก็เลยไม่เป็นห่วงเท่าไรเวลาเข้าเรียน.."รู้หรือยังว่าหนามเตยเป็นลมตอนนี้อยู่ห้องพยาบาล" เพื่อนที่รู้ข่าวเข้ามาพูดกันอยู่ในห้อง"เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?!" เจ้าขุนรีบหันกลับไปมอง และตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้ามาในห้อง ที่เขาไม่รู้เรื่องเพราะวันนี้ไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหาร"ก็น้าของมึงน่ะสิอยู่ห้องพยาบาลโน่น" ได้ยินแค่นั้นแหละ เจ้าขุนก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ซึ่งมีกล้าหาญวิ่งตามมาติดๆ"หนาม.." พอเจ้าขุนมาถึงก็เห็นเธอนั่งอยู่บนเตียง ซึ่งมีไต้ฝุ่น และมายมิ้นท์อยู่ในห้องนั้นด้วย "เธอเป็นอะไรครับ" เจ้าขุนถามอาจารย์หมอที่นั่งอยู่โต๊ะประจำของห้องนี้ทุกคนในห้องต่างก็มองหน้ากันไปมา ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน ..มันยิ่งทำให้