หญิงสาวยังไม่คิดอยากจะขึ้นไปข้างบน ตอนที่คุยกันเธอรู้แล้วว่าพ่อกับแม่เตรียมเสื้อผ้าข้าวของที่จำเป็นมาให้หมดแล้ว มันอยู่ในห้องของสามีเธอ ..สามีงั้นเหรอ คิดไปก็ได้แต่สมเพชตัวเอง ไม่มีคำไหนเลยที่เขาต้องการอยากจะได้เธอเป็นภรรยาหญิงสาวร่างระหงเดินดูบรรยากาศรอบบ้านในยามราตรี เพื่อเป็นการฆ่าเวลาให้มันดึกหน่อย ขึ้นไปข้างบนเผื่อว่าเขาจะหลับไปแล้วที่นี่สวยจังเลย ทำไมมีสนามเด็กเล่นอยู่ตรงพุ่มไม้ มายมิ้นท์เดินไปนั่งม้าหมุนสำหรับเด็ก ถึงแม้ว่ามันจะเก่ามากแล้วแต่ก็ยังใช้การได้ดี คงจะเป็นสนามเด็กเล่นของเขาสินะ ..ใช่แล้วค่ะที่นี่มันคือพุ่มไม้ในตำนาน สำหรับราชสีห์และไออุ่น^__^นั่งคิดอะไรเพลินๆ อยู่แบบนั้น จนคิดว่ามันดึกมากพอแล้ว มายมิ้นท์ก็เลยกลับเข้ามาในบ้าน ซึ่งตอนนี้คนในบ้านคงจะนอนไปหมดแล้ว และทุกคนก็คิดว่าเธอขึ้นไปแล้วเช่นกันก็เลยไม่มีใครออกมาตามแกร็ก~ ประตูห้องของเขาได้ถูกเปิดเข้าไปเพียงเบาๆ..ทำไมมืดจังเลย แล้วที่เปิดไฟห้องนี้อยู่ตรงไหน เข้ามาในห้องเขาก็ปิดไฟปิดผ้าม่านจนมืดสนิท และเธอก็ไม่รู้ว่าห้องนี้เตียงนอนอยู่ตรงไหน โต๊ะอยู่ตรงไหน ที่สำคัญสวิตช์ไฟอยู่ตรงไหนเนี่ย?! หญิงสาวค่อยๆ คลำไป จนขา
"จะโทษใครได้วะ โทษตัวมึงนั่นแหละคนเดียว ถ้าเล่นเป็นทีมมันจะแพ้ไหม""เมื่อไรมึงจะหุบปากสักทีรำคาญ!!" ไต้ฝุ่นพูดพร้อมกับยกเหล้ากระดกใส่ปากจนหมดแก้ว"เออขอโทษแล้วกัน กีฬามันต้องมีแพ้มีชนะกันบ้างแหละ ยังดีที่เรายังได้ที่สอง""กูไม่ต้องการที่สอง!!""มึงจะอารมณ์เสียอะไรนักหนาวะปีหน้าค่อยเอาใหม่""ถ้ามึงพูดไม่สร้างสรรค์มึงหุบปากไปเลยไอ้ดัมมี่" แทนที่จะได้ปลอบกันกลับกลายเป็นการทะเลาะวันนี้พวกเขานัดกันมาดื่ม เพราะเครียดที่แข่งแพ้ทีมการโรงแรมของเจ้าขุนแค่ไม่กี่แต้ม"ฝุ่นดื่มเยอะเลยใช่ไหมคะเนี่ย" มันคือเสียงของสุชาดาที่เพิ่งเข้ามาพร้อมเพื่อนผู้หญิงอีกสองคนไต้ฝุ่นมองไปที่ดัมมี่ ทันทีที่เห็นสุชาดาเข้ามา"ก็กูเห็นมึงเครียดๆ ก็เลยชวนสาวๆ มาดื่มด้วย"เขาก็ไม่ว่าอะไร ยังยื่นมือไปโอบกอดสุชาดาเมื่อเธอนั่งซบลงมาที่ไหล่กว้าง"เมื่อไหร่พวกมึงจะเปิดตัวว่าเป็นแฟนกันสักทีวะ กูเห็นหวานแบบนี้นานแล้วนะ" นิกรเพื่อนอีกคนในกลุ่มสุชาดาแอบอมยิ้มเมื่อได้ยินแบบนั้น เพราะมันเป็นสิ่งที่เธอต้องการ ใครจะไม่ต้องการล่ะลูกชายคนเดียวของสายการบินใหญ่โต"แล้วน้องว่าไงล่ะจ๊ะอยากเป็นแฟนพี่ไหม" ด้วยความที่เมามากแล้ว เขาก็เลยแกล้
12 : 20 น. ที่โรงอาหาร..สิ่งที่สุชาดาพยายามทำก็ได้ผล ซึ่งตอนนี้เป็นที่กล่าวขานกันทั่วมหาวิทยาลัยจะไม่ให้กล่าวขานกันได้ยังไง ก็ลูกชายคนเดียวของสายการบินใหญ่โต เศรษฐีระดับต้นๆ ของประเทศ แค่มาเรียนมหาวิทยาลัยนี้เพื่อนๆ ก็จับตามองกันอยู่แล้ว ไม่ว่าไต้ฝุ่นกระดิกตัวทำอะไร ก็เป็นที่พูดคุยกันไปทั่ว"เสียดายรุ่นพี่นะ รูปหล่อพ่อรวยขนาดนั้นไม่น่าตาต่ำไปเอา..""มึงหยุดพูดเดี๋ยวนี้เลยนะเนย" แก้วใสรีบห้ามปรามเพื่อนไว้ก่อนที่จะปากพล่อยพูดอะไรออกไป"เราพูดจริงนี่หว่า ผู้หญิงคนนั้นไม่เห็นเหมาะสมกับพี่ไต้ฝุ่นเลย ถ้าเป็นเพื่อนของเราก็ว่าไปอย่าง" เนยพูดทิ้งช่วงไว้ แล้วก็มองมาที่มายมิ้นท์ ซึ่งตอนนี้กำลังสนใจข้าวในชามมาก เพราะเธอเขี่ยมันจนจะกระเด็นออกจากชามหมดแล้วความรู้สึกที่มันกำลังประดังเข้ามาในเวลานี้..เหมือนถูกตบหน้า ทั้งๆ ที่ เธอเป็นภรรยาของเขา แถมถูกต้องตามกฎหมายด้วย แต่พอได้ยินว่าสามีมีแฟนที่เป็นเพื่อนเรียนด้วยกัน ถึงแม้ว่าเธอไม่มีใจให้เขาเลย แต่มันก็ต้องมีบ้างที่คิด"มายแกเป็นอะไร""ห๊ะ" ได้ยินเพื่อนเรียก มายมิ้นท์ก็ตื่นจากภวังค์ที่กำลังคิดอยู่"ข้าวจะกระเด็นออกจากชามหมดแล้ว""เราอิ่มแล้ว" หญิง
"แม่ล่ะครับพ่อ" กลับมาถึงบ้านก็ไม่เจอผู้เป็นแม่ ที่จริงก็ไม่เจอผู้หญิงคนนั้นด้วยแหละ แต่เขาก็ไม่สนใจที่จะถามหา"ก็ไปเยี่ยมเมียลูกนั่นแหละ" ราชสีห์กลับมาก็ไม่เจอภรรยาเหมือนกัน แต่นางฝากความกับแม่บ้านไว้"เมียผม? เออ..เธอเป็นอะไร" เขายังไม่ชินกับคำนี้ และคิดว่าคงจะไม่ชินง่ายด้วย"เห็นฝากข้อความไว้ว่าเมียของลูกไม่สบาย" ราชสีห์กลับมาถึงก็นั่งดูข่าวธุรกิจ จนลูกชายกลับมา"ไม่สบาย?" ..ทำร้ายร่างกายคนอื่นมา แต่ตัวเองกลับไม่สบายเนี่ยนะ เขายังคิดว่าเธอทำร้ายสุชาดาก่อน"เราก็น่าจะไปเยี่ยมหน่อยนะ" ผู้เป็นพ่อละสายตาออกจากหน้าจอแล้วหันมาพูดกับลูกชาย"แม่ไปแล้วทำไมผมต้องไปด้วยล่ะ" จบคำพูดก็เดินขึ้นบ้านไปแบบไม่สนใจบ้านปรัชญานนท์.. "แม่ว่าน่าจะไปหาหมอหน่อยนะ" ไออุ่นขึ้นมาเยี่ยมลูกสะใภ้บนห้องก็เห็นว่านอนซมอยู่ ที่นางรู้ เพราะแม่ของมายมิ้นท์โทรไปส่งข่าวว่าลูกสาวขอนอนค้างที่นี่ เพราะไม่ค่อยสบาย"กินยาแล้วเดี๋ยวก็หายค่ะ" เรื่องเป็นไข้ไม่ค่อยเท่าไรหรอก แต่ที่ร่างกายของเธอไม่ไหวก็เพราะเจอเรื่องหนักๆ มาสองวันติดๆ กันที่จริงไออุ่นอยากจะพามายมิ้นท์กลับไปดูแลที่บ้าน แต่พิมลแม่ของมายมิ้นท์อยากจะดูแลลูกสาวเอง
พอเห็นว่าเป็นรถของไต้ฝุ่น เจ้าขุนก็รีบออกมาข้างนอก"มึงอยู่ที่นี่ได้ยังไง" ไต้ฝุ่นลงมาจากรถก็เห็นเจ้าขุนยืนอยู่ทางเข้าบ้าน"กูควรถามมึงมากกว่าไหม ว่ามึงมาที่นี่ทำไม แล้วมึงรู้จักบ้านของมายได้ยังไง" เจ้าขุนก็ไม่ยอมแพ้ค่อยๆ ก้าวเดินเข้ามาประจันหน้ากัน"หึ!!.น่าสมเพช" คำนี้ไต้ฝุ่นพูดไม่ค่อยแรง ให้ได้ยินแค่เจ้าขุนคนเดียว เพราะตอนนี้พ่อกับแม่ของเธอก็เดินออกมา"ไต้ฝุ่น" พ่อของมายมิ้นท์ทักขึ้นก่อน "มาหามายเหรอลูก""ใช่" เขาตอบออกไปเหมือนกับถูกบังคับมา แต่ที่จริงก็ถูกบังคับให้มานั่นแหละ"มึงมาหามายทำไม" เจ้าขุนหันขวับไปถามไต้ฝุ่นแบบไม่พอใจ"แล้วมึงคิดว่ากูมาทำไมล่ะ..มายอยู่ข้างบนเหรอครับ" ประโยคแรกไต้ฝุ่นพูดกับเจ้าขุน ส่วนประโยคต่อมาชายหนุ่มหันไปมองที่พ่อและแม่ของเธอ "ใช่จ้า" พิมลเป็นคนตอบ นางเห็นแล้วไม่ค่อยสบายใจเท่าไร"ถ้างั้นผมขึ้นไปหา..." เขาพูดทิ้งช่วงแล้วกรอกสายตาไปมองเจ้าขุนแบบกวนบาทา "..นะครับ" "เดี๋ยวก่อน" เจ้าขุนเดินตามไปแล้วกระชากคอเสื้อไต้ฝุ่นไว้ก่อนที่จะก้าวเข้าประตูบ้าน"ปล่อย!!" ไต้ฝุ่นสะบัดอย่างแรง แต่เขาก็ยังไม่ทำอะไร เพราะเกมนี้เขาคือผู้ชนะ"คุณพ่อกับคุณแม่จะปล่อยมันขึ้นไป
ริมฝีปากทั้งสองแนบชิดแทบจะเป็นเนื้อเดียวกัน เรื่องที่อยากรู้ว่าเจ้าขุนลุ่มหลงอะไรในตัวของเธอบ้างนั้น มันยังน้อยกว่าเรื่องที่เขาต้องการอยากจะทำให้เจ้าขุนคลั่งตาย และตอนนี้เขาก็คิดว่าเจ้าขุนคงกำลังคลั่งอยู่ด้านล่าง เพราะบนเตียงนอนของเธอมีเขาอยู่มายมิ้นท์ไม่ได้ต่อสู้ดิ้นรนอะไร ถึงจะสู้ไปก็คงไม่ไหว เก็บแรงไว้หายใจดีกว่า เพราะร่างกายก็ยังบอบช้ำอยู่มากจากที่จูบด้วยความโมโห จนมาถึงตอนนี้จูบของเขาเปลี่ยนไป เพราะริมฝีปากบางมันช่างหอมหวาน จนทำให้ชายหนุ่มเผลอไผลไปกับรสจูบ"คุณพ่อพูดอะไร" เจ้าขุนเรียกพ่อกับแม่ของเธอแบบนี้ตั้งแต่ที่ทั้งสองตระกูลรู้จักกัน ยาวนานมาจนถึงสิบกว่าปี"มันเป็นความต้องการของฝ่ายชายที่ไม่อยากให้เปิดเผยเรื่องนี้ พ่อต้องขอโทษเราด้วยที่ไม่ได้เชิญมาร่วมงานแต่งด้วย" พอได้ยินไต้ฝุ่นพูดออกมาคงไม่ต้องปิดบังอะไรกันอีกต่อไปแล้ว อิทธิก็เลยพูดให้เจ้าขุนฟัง"แต่ง?" ความรู้สึกของเขายากที่จะบรรยาย เจ้าขุนก้าวเดินออกมาที่หน้าบ้านแบบไม่รู้ตัว สายตาคมมองขึ้นไปที่ชั้นสองห้องนอนของเธอ ซึ่งตอนนี้มีไต้ฝุ่นอยู่ในนั้นเขารู้ดีว่าสิ่งที่ไต้ฝุ่นทำไป ไม่ได้ทำเพราะรักในตัวเธอเลย ..ที่ทำไปคงเพราะอยาก
"มีอะไรทำไมเสียงดังกันจังเลย เดี๋ยวอาจารย์ก็เข้ามาด่ากันหรอก" สุชาดาเดินเข้ามาแบบไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร"มาแล้ววว.." เพื่อนผู้ชายหลายคนต่างก็หันไปพูดกัน แต่ไม่มีใครกล้าเย้ยเหมือนไต้ฝุ่น เพราะยังไงสุชาดาก็เป็นผู้หญิง"มีอะไรกันคะฝุ่น.....?" ดวงตาสุชาดามองไปเจอรอยกัดที่ซอกคอของไต้ฝุ่น.แล้วเธอก็มองไปรอบๆ ห้อง ตอนนี้กลุ่มเพื่อนมองมาที่เธอและไต้ฝุ่น ต่างคนก็ต่างอมยิ้ม เพราะคิดว่ามันเป็นฝีมือของสุชาดาไต้ฝุ่นรีบจับพลาสเตอร์ที่เพื่อนดึงออกมาแปะไว้ แล้วก็หยิบโทรศัพท์มากดเล่นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นสุชาดาก็ทำหน้าไม่ถูกเหมือนกัน แต่ที่แน่ๆ ตอนนี้เธอคิดว่าเพื่อนในห้องคงคิดว่าเป็นฝีมือของเธอ สุชาดาก็เลยเงียบไว้ เพราะถ้าพูดไปคนที่เสียหน้าก็คือเธอมากกว่า"เที่ยงนี้เราไปกินอะไรกันดีคะฝุ่น" สถานะของเธอยังไม่มั่นคง จะออกตัวแรงก็ไม่ได้ ต้องค่อยๆ พูดกับเขาแบบอ่อนหวาน แบบนี้ถึงจะมัดใจผู้ชายได้"ไม่รู้เหมือนกัน" เขายังจับจ้องที่หน้าจอโทรศัพท์ โดยไม่ได้มองคนที่ถามเลย ทั้งๆ ที่ หน้าจอนั้นไม่มีอะไรสำคัญคณะการโรงแรม "พวกฉันคิดว่าถ้าวันนี้แกไม่มาเรียน เย็นนี้จะไปเยี่ยมที่บ้าน ที่จริงก็ว่าจะไปตั้งแต่เมื่อวานแ
พอหญิงสาวทานยาเข้าไปแล้วก็เกิดทำให้ง่วงนอน เธอลืมไปเลยว่ายาอีกเม็ดมันทำให้ง่วง"มายแกเป็นอะไร" เพื่อนตกใจอยู่ดีๆมายมิ้นท์ก็ฟุบลงกับโต๊ะเรียน เธอพยายามจะบังคับตัวเองไม่ให้หลับแล้วแต่ก็สู้ฤทธิ์ยาไม่ไหว"อาจารย์คะไม่รู้มายมิ้นท์เป็นอะไรค่ะ" เพื่อนตะโกนไปหาอาจารย์"ไหนดูซิ" อาจารย์ผู้สอนรีบเดินเข้ามาดู "พาไปห้องพยาบาลดีกว่า"ผู้ชายในห้องรีบลุกขึ้นแล้วเดินมาอุ้ม พาเธอออกมา ห้องพยาบาลอยู่คนละตึกกับคณะการโรงแรม ก็เลยต้องได้อุ้มลงบันไดมาแล้วเดินตรงไปอีกตึกหนึ่งเพื่อนผู้ชายอีกคนวิ่งตามมาหวังจะเปลี่ยนอุ้ม แต่คนที่อุ้มอยู่ไม่ยอมวาง เพราะโอกาสแบบนี้หายากมากที่จะได้แตะเนื้อตัวของสาวสวยคนนี้"ใครเป็นอะไร" เจ้าขุนเดินผ่านมากับเพื่อนพอดีก็เลยรีบวิ่งตามหลังมาดู พอเห็นว่าเป็นมายมิ้นท์เขาก็ตกใจมาก "มายเป็นอะไรส่งมานี่!" เขาลืมเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้จนหมดสิ้นเมื่อเห็นว่าเธอหมดสติไปเพื่อนผู้ชายจำเป็นต้องได้ส่งร่างระหงของหญิงสาวที่อยู่ในอ้อมกอดไปให้กับรุ่นพี่"มาย! มาย!!" เจ้าขุนรีบอุ้มวิ่งมาอีกตึก ที่ใช้เป็นห้องพยาบาล"อาจารย์หมอครับช่วยด้วย" เขาทั้งตะโกนและก็วิ่งมา"นักศึกษาเป็นอะไร" อาจารย์หมอก็เ
[มหาวิทยาลัย]"จะไปไหน" พอเข้ามาถึงห้องเรียน หนามเตยก็เดินตรงไปที่โต๊ะเรียนเดิม โต๊ะที่ขอแลกกับกล้าหาญ"ก็ไปที่นั่งไง""มานั่งด้วยกันตรงนี้""จะบ้าเหรอนั่นมันที่ของกล้าหาญ""เดี๋ยวให้มันไปนั่งข้างหลัง""ไม่เอาเปลี่ยนมาครั้งหนึ่งแล้วจะเปลี่ยนกลับได้ยังไง" ว่าแล้วหญิงสาวก็เดินไปนั่งที่เดิม ..เพียงไม่นานอาจารย์ก็เดินเข้ามาในห้องในขณะที่นั่งเรียนอยู่เจ้าขุนก็มองกลับหลังบ่อยครั้งมาก"มึงเป็นอะไรนักหนาวะ" กล้าหาญซึ่งนั่งอยู่ด้านข้างก็ไม่เป็นอันเรียนไปด้วย พอเพื่อนมองกลับหลัง เขาก็ต้องได้มองตามแบบสงสัยว่าเพื่อนมองอะไร พอรู้แล้ว..แต่เวลาที่เจ้าขุนมองกลับไปอีกที เขาก็ต้องมองตามอีก..เพราะมันเป็นสัญชาตญาณ"กูว่ามึงย้ายเถอะว่ะ""ย้ายไม่ได้เดี๋ยวเมียด่า" ชายหนุ่มกระซิบพูดกับเพื่อนเบาๆ"มึงกลัวด้วยเหรอวะ""ใครบอกว่ากูกลัว..กูแค่เกรงใจ""นั่นแหละที่เขาเรียกว่ากลัว""มึงไม่เคยมีเมียมึงจะรู้ได้ยังไง""ด้านหลังช่วยสนใจอาจารย์หน่อยนะคะ" เพียงไม่นานอาจารย์ก็ส่งเสียงมา และเพื่อนๆ ที่นั่งอยู่ด้านหน้าต่างก็หันกลับมามองที่เจ้าขุนเป็นห่วงเพราะคนที่นั่งอยู่ข้างหนามเตยเป็นเพื่อนผู้ชาย"ไปไหนแล้ว""หาอะไร""ปา
คืนเดียวกันนั้น.."ไปอาบน้ำกัน" พอขึ้นมาถึงด้านบน เขาก็ชวนเธอ"จะอาบก็ไปอาบเองสิ""แน่ใจนะว่าลูกจะไม่คิดถึงพ่อ" ชายหนุ่มพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์จริงด้วยถ้าเขากลับห้องไปมีหวังเราต้องได้ไปคุยกับชักโครกอีกแน่เลย หญิงสาวลืมไป เพราะวันนี้ไม่คลื่นไส้มาทั้งวัน จนถึงเวลานี้ก็มืดค่ำมากแล้ว"ไปด้วยกัน" มือหนาคว้าเอาคนตัวเล็กให้เดินตามมาที่ห้องของตัวเอง"ฉันไม่อาบกับคุณนะ" หญิงสาวพยายามจะหยุดไม่เดินตาม"ไม่อาบก็ไม่อาบ แต่ไปด้วยกัน" เขาไม่อยากจะปล่อยให้เธออยู่ห้องคนเดียว "รออยู่ตรงนี้" ชายหนุ่มเข้าไปอาบน้ำโดยไม่ปิดประตูห้องน้ำ ส่วนเธอก็ยืนหันหลังให้ ไม่กล้าหันไปมองเราต้องทำแบบนี้อีกนานแค่ไหนเนี่ย..ลูกนะลูก หญิงสาวบ่นพึมพำที่ต้องได้มายืนเฝ้าเขาอาบน้ำอยู่แบบนี้ตุ๊บ.."อะไร" คนตัวเล็กรีบหันเข้าไปดู เพราะได้ยินเสียง ทีแรกคิดว่าเป็นเสียงเขาล้ม แต่พอหันเข้าไปแล้วเธอต้องได้รีบหันกลับออกมาพร้อมกับใบหน้าที่แดงกล่ำ"ตกใจเหรอ มือผมไปถูกฝาชักโครก" ตอนที่เขากำลังเช็ดตัวอยู่นั้น มือได้ไปโดนฝาชักโครกที่เปิดอยู่มันก็เลยปิดลงมีเสียงดัง"อาบเสร็จหรือยัง""จะอายทำไมผมยังไม่อายเลย" เขารู้ดีว่าเธอคงจะอายตอนที่หันม
สายตาของทั้งสองจ้องมองซึ่งกันและกัน แบบไม่มีใครยอมหลบให้ใคร"ผมเห็นเจ้าของไม่ต้องการมันอีกแล้ว ก็เลยเก็บมันเอาไว้" เขาพูดในขณะที่ยังมองสบตาเธออยู่"คุณต่างหากที่ไม่ต้องการ" คำพูดนี้ มันได้ออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลริน ของเจ้าของใบหน้าหวาน กว่าเธอจะตัดสินใจทิ้งมันได้ เพราะมันอยู่กับเธอมาตลอดระยะเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ"ผมขอโทษ ผมมันโง่เอง มีสมองแต่ไม่คิดไตร่ตรองให้ดี ว่าทำไมคุณถึงหายไปในวันนั้น""คุณยังรอฉันอยู่เหรอคะ""รอสิ ไม่ได้รอแค่วันนั้นนะ รอจนย้ายโรงเรียน ขนาดย้ายโรงเรียนแล้วผมยังให้คนขับรถพากลับมาเผื่อว่าคุณยังอยู่ที่เดิม" วันไหนที่มีแต่แม่บ้านและคนขับรถมารับ เขาชอบให้ผ่านไปทางโรงเรียนเดิม จอดรอดูว่าเธอจะออกมาจากในนั้นไหม..แต่ก็ไม่มี"วันนั้นพ่อกับแม่ของฉัน..ท่านทั้งสอง.." คำพูดของเธอมันถูกกลืนหายเข้าไป พร้อมกับเสียงสะอื้น"ผมรู้แล้ว..ถ้าผมรู้ว่าอะไรเกิดขึ้นกับคุณบ้าง และตอนนั้นคุณอยู่ที่ไหนผมจะตามไป" ถ้าเขารู้สักนิดว่าเธอไปเรียนต่อที่ต่างประเทศ เขาจะไม่รีรอที่จะตามไปเลย"คุณไม่รู้เหรอคะว่าคุณตา.." ตอนนั้นเธอยังเด็กมาก ทำอะไรไม่ถูก อยากจะพูดอยากจะถามหาเขา แต่ก็ไม่รู้จะเริ่ม
"กลับมาแล้วเหรอลูก" เจ้าขาถามขึ้นเมื่อเห็นลูกชายเข้ามา"ครับ""มันจะรีบไปไหน แล้วมันมาจากไหน" ทศกัณฐ์ได้แต่มองตามหลังคนที่วิ่งขึ้นไปบนบ้าน แทบจะไม่รู้ว่าคนที่เข้ามาเป็นลูกชายของตัวเอง เพราะมองไม่ทัน"วันนี้วันเกิดของกล้าหาญค่ะ" เจ้าขาพูดพร้อมกับเอานมอุ่นๆ มาให้สามีได้ทาน เพราะเขาเพิ่งกลับมาจากที่ทำงาน"วันเกิดกล้าหาญ?" พอรู้ว่าวันเกิดเพื่อนสนิทของลูกชาย ทศกัณฐ์ก็ยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาดู สองทุ่มกว่า?" ธรรมดาวันเกิดเพื่อน ถ้าไม่เช้าก็คงจะเป็นเย็นวันต่อไปถึงจะเห็นหน้าลูกชายโผล่กลับบ้าน"เห็นหนามขอเบอร์โทรไป สงสัยจะโทรตามมั้งคะ""โทรตามงั้นเหรอ?" มันยิ่งสร้างความงุนงงให้กับทศกัณฐ์ เพราะทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะเป็นมิตรกันเลยแกร่ก~ กลับมาถึงชายหนุ่มก็ตรงเข้าห้องของเธอ"หนาม" มองดูบนเตียงนอนไม่มี เขาก็เลยรีบเข้าไปดูในห้องน้ำ "เป็นยังไงบ้าง"พอเห็นเขาเข้ามาอาการคลื่นไส้เวียนหัวก็หายไปสิ้น หญิงสาวลุกขึ้นแบบหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จาแล้วเดินออกมาจากห้องน้ำ"...?..." ชายหนุ่มงงกับท่าทาง..เนี่ยเหรอคนที่โทรตามเขากลับบ้าน อุตส่าห์ดีใจว่าเธอโทรหา แต่พอกลับมาหน้าตาของเธอไม่รับแขกเลยจะให้ยิ้มระรื่นได้ยังไง
เขานั่งเป็นเพื่อนเธออยู่แบบนั้นจนคิดว่าเธอนอนหลับสนิทแล้ว ถึงออกมาจากห้องเพื่อไปอาบน้ำออกไปอาบน้ำยังไม่เสร็จก็ได้ยินเสียงคนข้างห้องอาเจียน ชายหนุ่มรีบล้างตัว แล้วออกมาจากห้องน้ำด้วยผ้าเช็ดตัวผืนเดียวที่พันรอบท่อนล่างอยู่"ผมนึกว่าคุณหลับไปแล้ว" เขารีบเดินเข้าไปลูบหลังให้ "ออกหมดเลยเหรอ" ชายหนุ่มมองลงไปดูในชักโครก..อาหารที่เธอกินเข้าไปเมื่อตอนเย็นออกไปหมดเลย"คุณจะมองอะไรสกปรกจะตาย" หญิงสาวรีบกดน้ำให้ไหลลง"ไปที่เตียงดีกว่า" มือหนาโอบร่างบางให้เดินตามมาที่เตียง ถ้าเป็นเมื่อหลายชั่วโมงก่อนเธอคงจะไล่ตะเพิดเขาไปแล้ว แต่นี่..รู้แล้วว่าทำไมเวลาเขาอยู่ใกล้อาการพวกนั้นมันถึงหายไปใบหน้างามมองต่ำลงไปที่ท้องของตัวเอง ไอ้ตัวเล็กต้องแผลงฤทธิ์แน่"นอนก่อนนะเดี๋ยวผมขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้า" จังหวะที่เขากำลังจะออกจากห้อง มือเรียวรีบคว้าแขนของเขาไว้"คุณจะกลับเข้ามาอีกไหม" หญิงสาวถามไปโดยที่ไม่ได้เงยหน้ามองใบหน้าหล่อคมยกยิ้มขึ้นเมื่อได้ยินคำถาม "มาสิ" ว่าแล้วเขาก็รีบออกจากห้องไปก่อนที่เธอจะเปลี่ยนใจไปไม่ถึงห้านาทีก็รีบกลับเข้ามา แต่ตอนนี้เธออยู่ในห้องน้ำ"หนาม"พอเห็นเขากลับมาเธอก็ออกจากห้องน้ำ ..หึ!!
ตุ๊บ!! เสียงเจ้าขุนถีบเก้าอี้ออกจากตรงที่กีดขวาง"เมื่อกี้เธอว่าอะไร" แล้วเขาก็เดินตรงเข้าไปหายี่หวา เพราะเมื่อสักครู่ที่ยี่หวาพูดแล้วเดินเข้ามาในห้องเขาได้ยินชัดเจน"เราพูดถึงเรื่องละครที่ดูกับแม่เมื่อคืนนี้" ยี่หวาหน้าเปลี่ยนสีเมื่อเห็นว่าเจ้าขุนเอาจริงสายตาคมจ้องมองแบบเอาเรื่อง จนเพื่อนในห้องรีบเข้ามาช่วยกันขวางไว้"ไม่เอาน่า ผู้หญิงนะ" กล้าหาญก็เข้ามาช่วยพูด ถึงแม้ยี่หวาจะแก้ตัวไปแต่ทุกคนที่อยู่ในห้องก็ได้ยินหมด..ที่เธอพูดว่าหนามเตยสำส่อน"ผู้หญิงแล้วไง สักแต่มีปากจะพูด" จบคำพูดเจ้าขุนก็ถีบเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างจนลมกระจายส่วนยี่หวา..ตอนนี้ถอยออกไปจนจะชนผนังห้อง ..ถ้าคนที่พูดเป็นผู้ชายสงสัยฟันคงได้ร่วงออกจากปาก แต่เจ้าขุนก็ยังไม่สงบ ดวงตาของเขายังจ้องมองพร้อมกับขาที่ก้าวเดินเข้าไป"พอแล้ว" หนามเตยเป็นคนพูดขึ้น..เขาถึงได้หยุดที่หยุดเพราะได้ยินเสียงคนห้ามเหมือนจะร้องไห้"หนาม" เจ้าขุนเดินกลับเข้ามาหาเธอส่วนพวกเพื่อนๆ กำลังเก็บสิ่งที่เขาทำกระจัดกระจายไว้หนามเตยไม่มองหน้าเจ้าขุนเลยด้วยซ้ำ เธอนั่งลงที่เก้าอี้ของตัวเอง จากที่คิดว่าจะเข้มแข็ง เพราะคนรอสมน้ำหน้าก็มีมาก แต่ตอนนี้มันเข้
ก๊อก ก๊อก หลังจากที่เจ้าขุนออกจากห้องไปได้เพียงไม่นาน ก็ได้ยินเสียงคนมาเคาะประตูเรียกที่หน้าห้องหญิงสาวเงียบฟังว่าเป็นใครที่มาเคาะ"หนามจ๊ะ""คะ" หนามเตยรีบมาเปิดประตู"แม่ทำข้าวต้มร้อนๆ ขึ้นมาให้จะได้มีอะไรรองท้องก่อนนอนบ้าง" เมื่อประตูเปิดออกนางก็ได้ถือข้าวต้มเดินเข้าไปในห้อง"คุณแม่ไม่ต้องลำบากก็ได้ค่ะ หนามยังไม่หิว""ไม่หิวก็ต้องกิน" เจ้าขาดูแล้วเธอคงจะยังไม่ทานข้าวเย็น และตอนนี้มันก็ดึกมากแล้วด้วย"ขอบคุณค่ะ" หญิงสาวไหว้พร้อมกับกล่าวคำขอบคุณ จะทานได้หรือไม่ได้ค่อยว่ากันอีกที เพราะตอนนี้แค่ได้กลิ่นก็ชวนให้อาเจียนแล้ว"ว่าไงครับแม่" เจ้าขุนถามขึ้นทันทีที่เห็นแม่ออกมาจากห้องนั้น เขายืนรออยู่ด้านหน้าแบบเงียบๆ แถมยังหลบด้วยเพราะกลัวเธอมองออกมาเห็น"แม่ว่าลูกก็ไปพักผ่อนได้แล้วดึกแล้วนะ"แม่ตอบผมก่อนสิครับ"จะให้แม่ตอบอะไร""เธอจะกินข้าวไหมครับ""แม่ไม่รู้""ทำไมแม่ไม่อยู่รอจนกว่าเธอจะกินล่ะครับ""ลูกก็ไปรอเองสิ" เจ้าขาแค่พูดอยากจะเห็นกิริยาของลูกชายพอแม่กลับเข้าห้อง เจ้าขุนก็เดินกลับมาที่หน้าห้องของเธอ แนบหูฟัง ว่ามีเสียงช้อนกระทบกับถ้วยไหม"อ้วกกกกก""หนาม" แต่เสียงที่ได้ยินก็คือเส
"ขอฉันไปด้วยคนนะคะ" เจ้าขารีบเดินตามสามีออกมาที่รถ"ผมว่าคุณไม่ต้องไปหรอก รอฟังข่าวอยู่ที่บ้านดีกว่า""แต่ฉันเป็นห่วงนี่คะ""ถ้างั้นก็ขึ้นรถ" ทศกัณฐ์ไม่เคยทนลูกอ้อนของภรรยาคนสวยได้สักครั้งเจ้าขาก็รีบเดินอ้อมไปขึ้นนั่งข้างสามี ส่วนตอนนี้เจ้าขุนขับรถของตัวเองออกไปตั้งแต่รู้ว่าเธอซื้อตั๋วเพื่อที่จะเดินทาง"หนามรอผมก่อนนะอย่าเพิ่งไปไหน" คันเร่งถูกเหยียบเกือบมิดไมล์ รถคันไหนที่ขวางหน้าเขาบีบแตรไล่ที่เจ้าขาตามสามีมาส่วนหนึ่งเพราะเป็นห่วงหนามเตย แต่ที่เป็นห่วงมากที่สุดก็คือลูกชายสนามบินสุวรรณภูมิชายหนุ่มมาถึงสนามบินโดยปลอดภัย เขาจอดรถได้ก็รีบวิ่งตรงเข้าไป โดยที่ทิ้งรถไว้ในที่ห้ามจอด แต่เจ้าขุนก็ไม่สนใจชายหนุ่มร่างสูงวิ่งฝ่าผู้คนที่กำลัง เดินกันให้วุ่น สายตาของเขามองไปที่ผู้โดยสารขาเข้า"เข้าไม่ได้ครับ" พนักงานด้านหน้าที่คอยตรวจเช็คตั๋วเดินทาง ไม่เห็นเขามีตั๋วติดมือมาด้วยก็เลยไม่อนุญาตให้เข้าไป"ผมแค่อยากจะเข้าไปหาคน""หาใครก็ไม่ได้ครับ""ผมต้องทำยังไงถึงจะเข้าไปได้""คุณต้องมีตั๋วเดินทางครับ"ชายหนุ่มรีบวิ่งกลับมาตรงที่ซื้อตั๋ว"เราปิดการขายไปแล้วค่ะ ไฟท์นี้เครื่องกำลังจะขึ้นค่ะ" และก็เ
ห้องพยาบาลของทางมหาวิทยาลัย"เพื่อนเราเหรอจ๊ะ" อาจารย์หมอเห็นมายมิ้นท์ก็นึกขำ เพราะจำได้แม่น"ไม่ใช่เพื่อนค่ะ รุ่นพี่ที่คณะ" หญิงสาวตอบออกไปแบบเอียงอาย เพราะหลายครั้งที่เธอได้มาใช้บริการห้องนี้อาจารย์หมอตรวจดูอาการอยู่พักหนึ่งวัดความดัน และตรวจคลื่นหัวใจ"คงเป็นเพราะความเครียดพักผ่อนไม่เพียงพอ เดี๋ยวรอให้เพื่อนฟื้นก่อนนะ" เพราะว่าตอนนี้หนามเตยยังไม่ได้สติ แต่ชีพจรของเธอก็ปกติ อาจารย์หมอก็เลยไม่เป็นห่วงเท่าไรเวลาเข้าเรียน.."รู้หรือยังว่าหนามเตยเป็นลมตอนนี้อยู่ห้องพยาบาล" เพื่อนที่รู้ข่าวเข้ามาพูดกันอยู่ในห้อง"เมื่อกี้มึงว่าอะไรนะ?!" เจ้าขุนรีบหันกลับไปมอง และตอนนี้เธอก็ยังไม่เข้ามาในห้อง ที่เขาไม่รู้เรื่องเพราะวันนี้ไม่ได้ไปทานข้าวที่โรงอาหาร"ก็น้าของมึงน่ะสิอยู่ห้องพยาบาลโน่น" ได้ยินแค่นั้นแหละ เจ้าขุนก็รีบวิ่งออกจากห้องไป ซึ่งมีกล้าหาญวิ่งตามมาติดๆ"หนาม.." พอเจ้าขุนมาถึงก็เห็นเธอนั่งอยู่บนเตียง ซึ่งมีไต้ฝุ่น และมายมิ้นท์อยู่ในห้องนั้นด้วย "เธอเป็นอะไรครับ" เจ้าขุนถามอาจารย์หมอที่นั่งอยู่โต๊ะประจำของห้องนี้ทุกคนในห้องต่างก็มองหน้ากันไปมา ไม่มีใครพูดอะไรออกมาสักคน ..มันยิ่งทำให้