แชร์

บทที่ 83

ผู้เขียน: เล่อเอิน
เขาชะงักเล้กน้อย "เรื่องที่บริษัท คุณ...รู้ด้วยหรอ?"

"ค่ะ ฉันเพิ่งทราบวันนี้"

ฉันอยากจะจกใจยักใหล่เบาๆ แต่พบว่าไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย "ดังนั้นคุณจะไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม?"

เขาจะทำใจให้ฟู่จินอันเป็นขี้ปากคนอื่นนินทาอีกครั้งได้ยังไง

และก็เป็นไปตามคาด สีหน้าเขาเย็นชาเล็กน้อย "เด็กในครรภ์ยังมีความเสี่ยง แม่เด็กไม่ควรได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจ แต่คุณวางใจ พออายุครรภ์ปลอดภัยแล้ว ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีก"

"..."

ทำอย่างกับฟังคุณพูดประโยคเดียว แล้วฉันจะใจเย็นได้นับสิบปี

ฉันอดกลั้นความรู้สึกอยากจะร้องไห้ มองเขาอย่างผิดหวัง "แล้วถ้าฉันท้องล่ะ? แล้วก็สุขภาพของฉันแย่ยิ่งกว่าเธอล่ะ?"

ทุกนาทีทุกวินาทีที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ฉันรู้สึกเจ็บปวดตรงท้องน้อย รู้สึกชื้นๆ ตรงช่วงล่าง

แต่สามีฉันกลับบอกกับฉัน คนรักของเธอไม่ควรได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจ ฉันเลยต้องทนเสียใจน้อยใจ

หมายความว่าสวรรค์ลิขิตให้ฉันต้องเป็นคนเสียใจใช่ไหม

ฟู่ฉีชวนแน่นิ่งไป จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ พร้อมกับกล่าว "ทำไมคุณถึงคิดมโนเหมือนกับเธอ?"

"อะไรนะ?"

"นอกจากระยะปลอดภัยแล้ว พวกเรามีครั้งไหนบ้างที่ไม่ได้สวมถุงยางป้องกัน? เป็นไปไม่ได้ท
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 84

    ฉันนิ่งชะงักไป เผลอหลือบมองฟู่ฉีชวนอย่างไม่รู้ตัวสีหน้าของเขาปกติ แววตาเป็นประกาย เขาประคองแขนของฉันอยู่ ดูไม่เหมือนว่าจะมาจดทะเบียนหย่าเลยจริงๆพื้นภายในห้องโถงกลับแห้งสนิท ฉันค่อยๆ ปัดมือเขาออกและเม้มปาก "ไม่ใช่ค่ะ พวกเรามาทำเรื่องหย่า""หรอ..."พนักงงานคนนั้นรู้สึกแอบเสียดาย "สองคนกว่าจะได้มาเดินเคียงคู่กันไม่ใช่เรื่องง่าย ดูแล้วพวกคุณก็ยังรักกันดี ทำไมถึงมาจดทะเบียนหย่าล่ะ? หย่ากันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อย่าวู่วามผลีผลาม แตกหักกันไปแล้ว ยากมากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม"ฉันพรุบสายตามองต่ำ ตอบอย่างไม่มีทางเลือก "คุณคงสลับลำดับผิด เราแตกหักกันไม่ใช่เพราะหย่าร้าง แต่เพราะเราแตกหักกันเลยต้องหย่าร้าง"ถ้าไม่ได้ถูกบีบจนไม่มีทางเลือก จะมีสามีภรรยาสักกี่คู่อยากจะหย่ากันเจ้าหน้าที่คนนั้นขี้เกียจพูดโน้มน้าวต่อ "เห้อ งั้นก็แล้วแต่พวกคุณ ฝนวันนี้ตกหนักมาก คงไม่ค่อยมีคน ช่องบริการตรงนั้นว่างอยู่ ยื่นเรื่องช่องไหนก็ได้""ค่ะ ขอบคุณ"หลังจากฉันกล่าวขอบคุณ ฉันเดินเข้าไปหาและนั่งลงตรงช่องบริการที่ใกล้ที่สุด "สวัสดีค่ะ มาทำเรื่องหย่า""เอกสารเอามาด้วยรึเปล่า?""เอามาค่ะ"ฉันเอาบัตรประจำตัวประชา

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 85

    เขาดูนิ่งไปเล็กน้อย "คุณรู้ได้ยังไง?"ชีวิตคู่เดินมาถึงปลายทาง ไม่มีอะไรต้องอายแล้ว ฉันเลยตอบไปตามตรง "วันนั้น คุณกับท่านปู่คุยกันในออฟฟิส ฉันอยู่ตรงประตูแล้วได้ยิน ตอนนั้นฉันได้ยินคุณยอมรับกับท่านปู่ คุณบอกไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันแล้ว อันที่จริง การแต่งครั้งนี้ อาจจะเป็นความผิดพลาดตั้งแต่แรก""ไม่ใช่แบบนั้น"เขาปฏิเสธในทันที คิ้วขมวดนึกย้อนกลับไปและพูดอธิบาย "ผมตอบสัญญาไปไม่ใช่เรื่องนี้ คุณเข้าใจผิดแล้ว..."ฉันไม่รีบร้อนโต้แย้ง ฉันมองเขาและกล่าวอย่างเรียบเฉย "งั้นคุณเคยรักฉันบ้างไหม?""..."ฟู่ฉีชวนช็อกไปครู่หนึ่ง คำถามนี้สำหรับเขาแล้วมันยากมากจริงๆ "หนานจือ...""ไม่ต้องอธิบาย มันยิ่งทำให้ฉันดูน่าสงสาร"ฉันหัวเราะเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว "คุณให้ฉินเจ๋อเอาสัญญาฉบับนั้นมาส่งเถอะ อนาคตคุณคงแต่งงานกับคนอื่น ฉันถือหุ้นไว้คงจะไม่เหมาะ..."เขาจู่ๆ ก็เสียงพูดขัดขึ้นมา กล่าวชัดถ้อยชัดคำ "ผมจะไปแต่งงานอีก"แววตาของฉันสั่นไหว "นั่น...มันเป็นเรื่องของคุณ เอาเป็นว่า ฉันไม่เหมาะจะถือหุ้นนี้ไว้"ฉันคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนตัดใจปล่อยวางง่ายถึงอย่างไรก็เป็นคนรักมาหลายปี หย่ากันไปแล้ว ไม่สมคว

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 86

    "กลัวผมเสียใจภายหลังหรอ?"น้ำเสียงเขาดูกลุ้มใจ "แต่ว่า ผมกลัวคุณจะเห็นผมเป็นคนแปลกหน้ามากกว่า"รอบๆ อากาศหนาว ทว่าอ้อมกอดของเขากลับอบอุ่นเหมือนวันเก่าๆคำพูดของเขา ทำเอาฉีันแน่นิ่งกว่าฉันจะรู้สึกตัว เขาก็เปิดประตูรถให้ฉันแล้ว หลังจากฉันขึ้นรถ ฉันก็ขับออกมาโดยไม่แม้หันกลับไปมองห่างเพียงสายฝนกั้น ฉันเหลือบเห็นแผ่นหลังสูงกว้างของเขาถูกฝนสาดไปจนทั่วหัวใจราวกับถูกมดนับสิบล้านตัวกัดกิน รู้สึกว่างเปล่าขึ้นเรื่อยๆที่แท้ การจบชีวิตสมรสมันก็ช่างแสนง่ายดายเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง มาที่อำเภอ ยื่นเอกสารแล้วก็เซ็นหลังนี้อีกเดือน ก็แค่มาอีกรอบ ทั้งสองก็จะบรรลุเป้าหมายร่วม ได้ใบสำคัญหย่าป้ายแดงเหมือนกับใบสมรสทั้งหมดทั้งมวลก็จะขาดออกจากันชีวิตร่วมหมอนนอนเสื่อ ช่วยเหลือเกื้อกูล จะกลายเป็นเพียงความฝันแน่นอนว่าเงื่อนไขคือฟู่ฉีชวนจะต้องรักษาคำพูดพอกลับมาถึงบ้านของเจียงไหล ฉันยังไม่ทันเปิดประตู เจียงไหลก็เปิดออกมาจากในบ้าน"กลับมาแล้วหรอ?""อืม"ฉันยิ้มเบาๆ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอมองฉันเดินเข้ามาในบ้าน เปลี่ยนรองเท้าและพูดกับฉันอย่างระวัง "ฟู่ฉีชวนส่งข้อความาหาฉันแล้ว พวกเธอ...ห

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 87

    ลุงเฉิงรีบพูด "นายหญิง! รีบกลับมาเถอะครับ คุณท่านโมโหใหญ่แล้ว ทะเลาะกับนายน้อยแล้ว! มีแต่ท่านเขาถึงจะยอมฟัง""อะไรนะ?"ฟังถึงแค่ท่อนประโยคแรก ฉันก็ลุกขึ้นมาแล้ว ฉันคว้าเสื้อคลุมตัวนอกและออกไปทันทีฉันไม่ได้เป็นห่วงฟู่ฉีชวนท่านปู่แม้ไม่ได้มีฟู่ฉีชวนเป็นหลานคนเดียว แต่ถึงกระนั้น คนเจ็บที่สุดก็ยังเป็นเขา หากลงไม้ลงมือ อย่างมากห็แค่หนักเบา คงไม่ถึงกับชีวิตเพียงแต่สุขภาพของท่านปู่ ทางที่ดีไม่ควรให้โมโหอารมณ์เสีย ไม่งั้นอาจเป็นอะไรไป ถ้าไม่จวนตัวจริงๆ คงไม่โทรมา น้ำเสียงลุงเฉิงคงไม่กระวนกระวายขนาดนี้ลุงเฉิงกล่าว "ท่านกลับมาดูเองเถอะครับ!"ไม่ว่าเตรียมใจไว้ยังไง พอไปถึงบ้านของท่านปู่ ฉันถึงกับแน่นิ่งภายในห้องหนังสือ ฟู่ฉีชวนมักดูสง่าสุขุมเหมือนฟ้าหลังฝน ตอนนี้กลับกองอยู่บนพื้น ถูกทุบตีจนลุกขึ้นไม่ไหว ปวดจนเส้นเลือดปูดขึ้นตรงขมับ ใช้มือเกาะตรงขอบโต๊ะน้ำชชาสีดำเพื่อพยุงร่างกาย เพื่อไม่ให้ล้มลงกับพื้นเหนือความคาดหมายกว่านั้นคือฟู่จินอันก็อยู่ด้วยฉันอยากจะเอ่ยปากพูด ทว่าท่านปู่วึ่งมักใจดีกับฉันมาตลอดก็หันมองลุงเฉิงอย่างเย็นชา "แกโทรเรียกหนานจืองั้นเรอะ?""....ครับ"ลุงเฉิงได้แต่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 88

    ถึงแม้ฉันไม่ได้คิดจะใช้ชีวิตสมรสกับฟู่ฉีชวนต่อแต่พอได้ยินท่านปู่พูดออกหน้าปกป้อง ฉันก็รู้สึกอุ่นใจขึ้นมาฟู่ฉีชวนเม้มริมฝีปาก "ผมเป้นคนทำให้หนานจือผิดหวัง แต่ผมก็ไม่เคยคิดจะแต่งงานกับผู้หญิงอื่นเลย""ไม่เคยคิดหรอ? ถ้าแกไม่เคยคิด หนานจือทำไมถึงได้หย่ากับแก ไม่ใช่เพราะแกรึไงทำให้หนานจือต้องยอมหย่า?" ท่านปู่ไม่เชื่อเขาแม้แต่คำเดียวฟู่ฉีชวนยันโต๊ะชาสีดำค่อยๆ ลุกขึ้นมา "ผมไม่เคยคิดจริงๆ แต่ว่า ผมก็ไม่สามารถปล่อยฟู่จินอันไปได้ ยังไงเธอก็ท้องอยู่""แกมันหลายใจ!"ท่านปู่โยนถ้วยชาใส่เขาเขาไม่หลบ ไม่แม้แต่จะเบี่ยงตัวถูกถ้วยชากระแทกตรงๆ เลือดสดๆ ไหลออกจากหน้าผากอย่างรวดเร็วสีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนพร้อมกล่าวอย่างจริงจัง "ผมสัญญากับป้าเวินแล้วว่าผมจะดูแลเธอ""แล้วหนานจือล่ะ ข่าวอื้อฉาวในบริษัทลือกันสนั่น เจ้าย้ายฟู่จินอันมาอยู่ชิดข้างกาย ทำให้ทุกคนเข้าใจผิดคิดว่าหนานจือเป็นคนเข้ามาแทรกครอบครัวคนอื่น แกไม่ละอายใจต่อหนานจือบางหรอ?""เธอ...แข็งแกร่งเด็ดเดี่ยวมากกว่าฟู่จินอัน คนอื่นพูดยังไงเธอก็คงไม่สะทกสะท้าน เธอคงไม่สนใจคำพูดไม่มีมูลพวกนั้นฉันไม่คาดคิดว่าจะถูกฟู่ฉีชวนชมภายใต้สถานการณ์เช่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 89

    ถึงแม้พวกเราปกติไม่ค่อยกลับมาอยู่ที่นี่ แต่คนใช้ดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่มีแม้แต่ฝุ่นแม้แต่ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ก็เปลี่ยนทุกๆ 3 วันตรงหัวเตียงมีภาพถ่ายเวดดิ้งแขวนเอาไว้ สไตล์ย้อนยุค ผลงานช่างแต่งภาพหลายคน ทว่าไม่มีร่องรอยการใช้โปรแกรมแต่งภาพพอฟู่ฉีชวนนั่งลงบนเตียง ฉันพยายามสะบัดข้อมือออก เขาจับข้อมือฉันไว้แน่นพร้อมกับขมวดคิ้ว "เรายังไม่ได้หย่ากันสมบูรณ์ ช่วยผมทายาหน่อยไม่ได้เลยหรอ?""...ฉันจะไปเอากล่องยา ไม่งั้นฉันจะเอาอะไรทายาให้คุณ?"ฉันไม่มีทางเลือก เลยบอกกับเขาเขาถึงปล่อยข้อมือฉัน "ครับ"ฉันเจอกล่องปฐมพยาบาลตรงลิ้นชัก หยิบเบตาดีนและยาทาเดินมาหาและยืนอยู่ตรงหน้าเขาแผลตรงหน้าผากทำเอาใจหายเมื่อเห็น ฉันค่อยๆ ก้มลงมา มือข้างหนึ่งช้อนหลังศีรษะเขา มืออีกข้างก็เช็ดคราบเลือดให้เขาท่านปู่ลงมือหนักมาก พอเช็ดคราบเลือดออก เลือดก็ไหลออกมาใหม่ฉันเห็นก็รู้สึกเจ็บแล้ว "เจ็บไหม?""เจ็บ เจ็บมาก"เขาเงยหน้ามามองฉัน ดวงตาสีดำราวกับหินออบซิเดียน สดใสสะดุดตาฉันรู้สึกใจอ่อนขึ้นมา ขณะฆ่าเชื้อตรงบาดแผลก็เป่าเบาๆ ตรงแผลไปด้วย เขาดูพออกพอใจจนเอ่ยออกมา "ไม่เจ็บแล้ว ขอบคุณครับ ที่รัก""พ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 90

    ฉันอึดอัดใจทันใดนั้นก็รู้สึกอึดอัดไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดถาโถมเข้ามาทั้งตัวแหวนวงนี้เป็นแหวนแต่งงานของเรางานแต่งตอนนั้น เขาถึงแม้จะไม่ได้สนใจ แต่ท่านปู่กลับเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับหลานสะใภ้อย่างฉันสินสอดสิบล้าน ห้องหอราคาสูงลิบ รวมถึงหาช่างออกแบบเครื่องประดับชั้นเลิศทำแหวนคู่ให้กับพวกเราต่อมา สินสอดก็ยกให้กับท่านป้าเพื่อตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูมาห้องหอไม่มีที่ให้สำหรับฉันแต่ละวันก็มีเพียงแหวนวงนี้ซึ่งคอยอยู่เคียงข้างฉันช่วงแรกของชีวิตแต่งงาน ฉันพอใจจะสวมใส่มันเอาไว้บนนิ้วนาง หลังจากฟู่ฉีชวนรู้ว่าฉันก็ทำงานที่แซ่ฟู่กรุ๊ป เขาก็รีบเตือนฉันว่าอย่าทำตัวเป็นจุดสนใจฉันเลยถอดมันในวันนั้น คล้อยเอาไว้กับสร้อยเส้นเล็กและห้อยไว้ที่คอฉันสวมสร้อยนี้มาสามปีแล้วแหวนวงนี้ซึ่งเคยทำให้ฉันรู้สึกดีใจ ตอนนี้มันกลับเป็นคำเยาะเย้ยไร้เสียง ในสายตาของฟู่ฉีชวน ฉันก็เหมือนกับแหวนวงนี้ ตรงที่ไม่ควรออกไปเจอใครฉันหัวเราะเย้ยหยันให้กับตัวเอง "ก็แค่ลืมถอดออก"ลืมไปเลยจริงๆถ้าจะพูดให้ชัดก็คือคุ้นชิน ตอนอยู่คนเดียวหรือใจรู้สึกอ้างว้างก้มักจะเอื้อมมือไปลูบแหวนวงนี้จนคุ้นชิน...ฟู่ฉีชวนต

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 91

    ฉันหัวเราะเบาๆ "ขอเพียงไม่ใช่แบบคุณตอนนี้ก็พอ"สีหน้าเขาเผยให้เห็นความรู้สึกเจ็บปวด "ผมแย่ในสายคุณขนาดนี้เลยหรอ?""ก็ไม่ได้แย่ เทียบกับพวกชอบใช้ความรุนแรง ติดยา ติดการพนันแล้ว พวกนั้นแย่ยิ่งกว่าคุณอีก""...หร่วนหนานจือ"สีหน้าเขาหมองหม่น ขณะกำลังจะพูดก็มีคนมาเคาะประตูห้องตามมาด้วยเสียงไพเราะของฟู่จินอัน "อาชวน ฉันเข้าไปนะ"ยังไม่มีใครขานรับ ประตูก็ส่งเสียง "คลิ๊ก" เธอผลักประตูเข้ามา"อาชวน เดี๋ยวฉันทา...."เสียงของเธอขาดหายตอนเห็นหน้าฉัน รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งเกร็งฉันกล่าวอย่างเฉยเมย "ฉันขอตัวออกไปก่อน""หนานจือ"ฟู่จินอันโมโหกล่าว "หย่ากันแล้ว ก็ทำตัวให้เหมือนหย่ากันหน่อย คุณอย่าเข้าใจผิด ฉันก็แค่กลัวคนไม่หวังดีรู้เข้า หากมีคนเอาไปพูดคงจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของเธอ""ราชการยังไม่ได้ส่งใบสำคัญหย่ามาให้เรา เธอก็ป่าวประกาศแล้วว่าพวกเราหย่ากันงั้นเหรอ?"ฉันอดทนไม่ไหวจริงๆ พร้อมกับกล่าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ "ชื่อเสียงฉันแย่สักแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับเธอขั้นเสนอหน้ามาแย่งของคนอื่นหรอก"พอพูดเสร็จฉันก็เดินออกไปยังไม่ทันเดินออกจากห้อง ฉันก็ได้ยินนางตีหน้าเศร้าพูดกับฟู่ฉีชวน "อาชวน คุณดูเ

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 296

    "แม่...มีสิทธิ์อะไร...หนูเป็นลูกค้านะ!""ทำตามที่บอก!"แม่เสิ่นกลืนน้ำลายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โจวฟาง มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “คุณหร่วน ในฐานะดีไซเนอร์ชุด โปรดอย่าลืมไปร่วมงานเลี้ยงหมั้นในสัปดาห์หน้าด้วย หากมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับชุด ก็สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที”“เดินทางปลอดภัย ไม่ไปส่งค่ะ”ฉันทำท่าส่งแขก จากนั้นจึงพูดว่า "ส่วนเงินที่ยังค้างอยู่ ก็โอนเข้าบัญชีเดียวกับครั้งที่แล้ว ขอบคุณ"……เรื่องตลกจบลงแล้ว ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้วฉันเลยตัดสินใจเสนอพาพวกเขาไปกินหม้อไฟเมื่อเพิ่งมาถึงที่จอดรถใต้ดิน เจียงไหลได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับงานปาร์ตี้สังสรรค์และตัดสินใจทิ้งฉันไว้เหลือแค่ฉัน โจวฟาง และโจวโม่โจวฟางชูคอ หันหน้ามาทางฉัน แล้วพูดว่า "ไปนั่งรถฉันมา พรุ่งนี้จะไปส่งโมโม่ที่ทำงาน""โอเค"ขณะที่ฉันเดินไปเปิดประตูเบาะหลัง โจวโม่ก็ผลักฉันให้ไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า "พี นั่งเบาะหน้าเถอะ เบาะหลังแคบเกินไป"นั่นคือข้อเสียของรถสปอร์ต ดูดีแต่ไม่สบายตอนนั่งฉันเปิดแอพอาหารแล้วคิดว่าจะไปที่ไหน โจวฟางก็หาวแล้วพูดว่า "ฉันเหนื่อยแล้ว กลับบ้านไปกินข้าวเถอะ สั่งเดลิเวอรี่ก็ได้"ไม่ใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 295

    ลูกวัวแรกเกิดอย่างโจวโม่ไม่กลัวเสือ ซึ่งทำให้เจียงไหลและฉันต่างจ้องมองกันหลังจากที่รู้ตัว ฉันก็กลัวว่าแม่เสิ่นจะลากเธอไปเอี่ยว ดังนั้นฉันจึงดึงเธอไว้ข้างหลัง“ถ้ามีปัญหาอะไรก็เอามาคุยกับฉันสิ”"พี่!”โจวโม่ไม่กลัวเลยและมองไปที่แม่เสิ่น "คุณไม่ได้บอกว่าคุณไม่ต้องการชุดนี้แล้วเหรอ? งั้นก็ให้เสิ่นซิงหยูออกมา ไม่ต้องไปลองมันแล้ว""ฮ่า!"แม่เสิ่นยิ้มเยาะหลายครั้ง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก “คำพูดของเธอนี่ช่างขำจริงๆ เธอก็แค่พนักงานธรรมดาๆ เธอคิดว่าเจ้านายของเธอจะเห็นด้วยกับเธอไหม? เธอรู้ไหมว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่....”"ฉันซื้อได้!”โจวโม่พองหน้าเล็กๆ และพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเย่อหยิ่งฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำกล่าวที่เกินจริงของเธอใบหน้าของแม่เสิ่นเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างน่าตกใจ สั่นเทาด้วยความโกรธ “หร่วนหนานจือ นี่ก็เป็นจุดยืนของเธองั้นเหรอ?”“ถ้าคุณไม่พอใจกับชุดนี้ นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดี”ฉันยิ้มอย่างสุภาพ น้ำเสียงของฉันสงบและนิ่งแม่เสิ่นกัดฟันและจ้องไปที่โจวโม่ “เธอแน่ใจนะว่า ซื้อมันได้ ชุดนี้ราคาเกิน 25 ล้าน!”“แค่ 25 ล้านเอง คุณป้า คุณไม่มีเงินหรือไง?”โจวโม่เอีย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 294

    ฉันไม่ได้คิดอะไรมากและหัวเราะ “เราออกไปนานแล้ว ฉันถึงบ้านแล้วและอาบน้ำแล้ว”"งั้นก็ดีแล้ว"“หลิน… ลุงของหลาน เขาไม่ได้ก่อเรื่องอีกแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะไปกับลู่สือเยี่ยน เขาเตือนหลินกั๋วอันหลินกั๋วอันพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบจะคุกเข่าลงคุณป้าพยักหน้าแล้วพูดว่า "ไม่ ไม่ต้องห่วง เขาใบหย่าไปแล้วและเพิ่งกลับไป"ฉันแปลกใจเล็กน้อย "เซ็นต์ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวลู่สือเยี่ยนในระดับหนึ่งเมื่อคืนนี้เอง ยัวยืนกรานที่จะแบ่งทรัพย์สินของฉันคุณป้าถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ใช่แล้ว หลานต้องขอบคุณประธานลู่นะ เขาเป็นคนดีมาก”"โอเค ไม่ต้องกังวล ฉันจะหาโอกาสขอบคุณเขาเอง"ถ้าคุณป้าสามารถหย่าร้างได้อย่างราบรื่น ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขความกังวลในใจของฉันไปได้หนึ่งเปาะด้วยวิธีนี้ ฉันจะต้องดูแลคุณป้าของฉันเท่านั้นในอนาคต โดยไม่ต้องรับมือกับคนชั่วคนนี้……หนานซีเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว และธุรกิจของเราก็อยู่ในระดับปานกลางตามธรรมชาติแต่สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตารางงานที่ยุ่งของฉันฉันใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนในการทำชุดหมั้นของเสิ่นซิงหยูในที่สุดเพชร ไข่มุก ทับทิมตร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 293

    ฉันหันกลับมาทันทีและกำลังจะถาม แต่ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาด้วยท่าทางไม่พอใจ"หนานจือ"ฉันพยักหน้าและพูดว่า "รุ่นพี่"ทันทีที่หลินกั๋วอันเห็นเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาตัวสั่นและพูดว่า "ประธานลู่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้?"เห็นได้ชัดว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนสายตาของลู่สือเยี่ยนมองมาที่ฉัน และหลังจากยืนยันว่าฉันปลอดภัยดี สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินกั๋วอัน “ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันบอกคุณอะไรไปเมื่อครั้งก่อน?”“ไม่ ไม่ ฉันไม่กล้า!”หลินกั๋วอันปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา โดยแสดงรอยยิ้มประจบประแจงและระมัดระวัง "ฉัน... ฉันเพียงมาพบภรรยาของฉัน บังเอิญว่าผู้หญิงคนนี้มาพอดี"ฉันเห็นว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนมาก ฉันจึงใช้โอกาสนี้ถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป? คุณเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่ามาบอกฉันนะ มันเป็นแค่การพูดลอยๆ"ประโยคนี้ ลู่สือเยี่ยนก็ได้ยินเช่นกันหลินกั๋วอันหดตัวลงชั่วขณะ หลบตาคุณป้าของฉัน กัดฟันแล้วพูดขึ้นมาว่า "ฉัน..."“คุณควรพูดความจริงดีกว่า”ลู่สือเยี่ยนขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่สงบแต่หนักแน่น ยิ้มอย่างสุภาพแต่แฝงไปด้วยความคุกคาม "ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมัก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 292

    "หนานจือ ลุงของคุณได้รับจดหมายแจ้งการฟ้องหย่าของเราแล้ว"ทนายฟางอดไม่ได้ที่จะเตือนฉันว่า "แต่ตอนที่ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ไปเจอลุงของคุณเข้า เขาหน้าซีดมาก และอาจทำให้คุณป้าของคุณเดือดร้อนได้""โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ! ฉันจะไปดูทันที"คุณป้าของฉันอยู่ในระยะวิกฤตของการรักษา และกระเพาะอาหารเป็นอวัยวะที่อ่อนไหวและเต็มไปด้วยอารมณ์การทะเลาะกันใหญ่โต ไม่ดีต่อการฟื้นฟูร่างกายของเธอฉันวางสายโทรศัพท์และกลับไปที่ห้องส่วนตัว ฉันเอนตัวไปที่หูของเจียงไหลและพูด "ไหลไหล ฉันจะฝากเรื่องนี้ไว้กับเธอนะ มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านคุณป้า ฉันต้องลองไปดู"สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและเธอพูดอย่างวิตกกังวล "เป็นอะไรหรือเปล่า? ฉันพาเธอไปเอง""ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่"ฉันตบไหล่เธอ “เธออยู่ที่นี่และทำให้ทุกคนสนุกสนาน อย่าปล่อยให้เรื่องนี้มาทำให้เสียบรรยากาศ”เมื่อพูดจบ ฉันก็คว้ากระเป๋าและบอกลาทุกคนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินออกไปลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นทันทีเช่นกัน “คุณดื่มแอลกอฮอล์มา ฉันจะพาคุณไปเอง”"โอเค"ฉันรู้ว่าเขามาทานอาหารเย็นนี้เพราะฉันเท่านั้น ถ้าฉันออกไป เขาก็คงไม่อยากอยู่เหมือนกันขณะที่ดินออกไป

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 291

    ในขณะนั้นเอง มีคนจากภายในห้องดึงประตูเปิดออกพอดีตอนที่ฉันกำลังจะแอบดู พนักงานเสิร์ฟก้าวเข้ามา ทำให้ฉันไม่สามารถมองอะไรได้เลยสถานที่แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของแขกเป็นอย่างยิ่งพนักงานเสิร์ฟถามว่า “สวัสดี คุณเป็นเพื่อนของคุณเซียวและกลุ่มของเขาหรือเปล่า?”แซ่นี้ฟังดูไม่คุ้นเลยฉันต้องส่ายหัวและบอกว่า "ไม่ ฉันเข้าห้องส่วนตัวผิด"เมื่อฉันหันหลังกลับและออกไป ดูเหมือนว่าใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้ขนที่คอของฉันลุกชันเมื่อหันกลับไปมอง สิ่งที่ฉันเห็นก็คือประตูห้องส่วนตัวที่ปิดสนิทแล้วเมื่อกลับมาที่ห้องส่วนตัว เจียงไหลสั่งอาหารเสร็จแล้ว “เอาล่ะ เธอมีอะไรอยากสั่งไหม?”"ฉันไม่เลือกหรอก สั่งมาเลย"เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ฉันรู้สึกหนักใจเล็กน้อยไม่ใช่ใครที่ฉันรู้จัก แต่สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันมากแทบจะเป็นสถานการณ์เดียวกันฉันไม่เคยได้ยินว่ามีเพื่อนสนิทแซ่เซียวจากฟู่ฉีชวนเลยเจียงไหลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและโน้มตัวเข้ามาที่หูของฉัน "เธอกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"ฉันยิ้มอย่างอ่อนโยนตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่อ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 290

    เจียงไหลไม่เห็นด้วยกับความคิดของฉัน "อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็หย่าแล้ว เธอคิดว่าเขาจะยอมแพ้ได้แค่พูดไม่กี่คำเหรอ? จะดีกว่าไหมที่จะกำหนดเส้นตายแบบนี้"ตอนนั้น ฉันก็คิดเหมือนกันตอนที่ฉันรู้ว่าลู่สือเยี่ยนแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเวลา 20 ปี ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นโชคดีมากแต่เมื่อฉันรู้ว่าเป็นฉัน ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมากกว่าเป็นหนี้บุญคุณ....ยากที่จะตอบแทนในช่วงเวลาที่ฉันเงียบๆ เจียงไหลนอนลงบนโต๊ะ เขย่าต่างหูของฉันด้วยนิ้วของเธอ "อาหร่วน ทำไมเธอไม่ลองคบกับลู่สือเยี่ยนดูล่ะ มีผู้ชายที่ทุ่มเทขนาดนี้เพียงไม่กี่คนในสมัยนี้""ก็เพราะว่าเขาดีมาก ฉันจึงต้องระมัดระวังมากขึ้น"ไม่เช่นนั้น มันก็จะกลายเป็นการเล่นกับอารมณ์ของคนอื่นเมื่อมีคนมอบใจให้ 100% ก็ควรให้ใจกลับไป100% ด้วยถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันก็ควรปล่อยเขาไปเร็วกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้หาคนที่ทำได้เจียงไหลไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้ เธอจึงยอมแพ้และพูดว่า "เอาล่ะ คืนนี้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านประจำกันเถอะ"ร้านประจำที่เธอพูดถึงเป็นคลับเฮาส์ที่เธอเคยไปบ่อยๆฉันเดาะลิ้น “มันจะแพงเกินไปไหม?”“ไม่ต้องห่วง ฉันเลี้ยงเอง”"เงินขอเธอหล่นลงมาจากฟ้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 289

    ฉันสับสนมากไม่ใช่เขา แล้วใครส่งมา?การติดต่อครั้งเดียวที่เรามีกับRF กรุ๊ปก็ผ่านเขาเท่านั้น…ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เสียงของเฉินเย่ที่นึกขึ้นได้ก็ดังขึ้นที่ปลายสาย "ใช่ ๆ ฉันจำได้แล้ว เป็นฉันเอง! จริงๆ แล้ว ฉันขอให้ผู้ช่วยของฉันสั่งให้ แต่เขาอาจจะสั่งผิด ฉันขอให้เขาสั่งตระกร้าดอกไม้ 99 ใบเพื่อบริษัทของคุณประสบความสำเร็จและรุ่งเรือง"เฉินเย่รู้สึกเสียใจเล็กน้อยและพูดว่า "ตะกร้าดอกไม้ 999 ใบมันมากเกินไปจริงๆ มันทำให้คุณเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า?"“เข้าใจแล้ว…”ฉันยิ้มแห้งๆ เมื่อมองไปที่ช่อดอกไม้ที่เรียงรายเต็มไปหมดจนเต็มพื้นที่ตั้งแต่ลิฟต์ไปจนถึงออฟฟิศของเรา “ไม่ใช่ปัญหาจริงๆ… แต่บางทีฉันควรคุยกับร้านดอกไม้เกี่ยวกับการคืนดอกไม้บ้าง? ไม่งั้นมันจะฟุ่มเฟือยเกินไป”“ไม่จำเป็น ฉันไม่สนใจเรื่องค่าใช้จ่าย”เฉินเย่พูดออกไป แล้วกระแอมอีกครั้งแล้วพูดเสริมว่า "ผู้ช่วยของฉัน เขาแค่มาทำงาน เพื่อต้องการเปิดประสบการณ์ชีวิต เขาเป็นคนร่ำรวยมาก และฉันจะหักเงินนี้จากโบนัสของเขา"“…โอเค”ฉันขอบคุณอีกครั้ง แพูดคุยอย่างสุภาพอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสายเจียงไหลเอนตัวเข้ามาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น เขาให้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 288

    ฉันรู้ดีว่าคงไม่ใช่ฉันหรอก แค่การตอบกลับตามวามเคยชินเขาหรี่ตาอย่างอันตราย แสดงให้เห็นถึงความไม่ต่อรับ "พวกที่รังแกคุณต้องชดใช้ยังไง"ฉันหัวเราะเบาๆ “แล้วไงต่อ”“ไม่มีแล้วไงต่อ”โจวฟางเม้มปากและเอนหลังพิงพนักพิงศีรษะ ขนตาของเขาปิดบังอารมณ์ทั้งหมดของเขาไว้ "ชื่อคุณอยู่ในสมุดทะเบียนบ้านของตระกูลหร่วน และก่อนที่ชิงหลี่จะจากไป คุณก็เป็นหร่วนหนานจือของตระกูลหร่วนไปแล้ว""แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันเหมือนคุณย่าเลย บางครั้งก็ถูกดึงดูด""......"ฉันเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที และฉันก็เฝ้าดูเขาอย่างระมัดระวังเขาหัวเราะอย่างไม่เชื่อและกดลิ้นทับฟันกรามของเขา “ทำไมถึงมองแบบนั้น คุณคิดว่าฉันสิ้นหวังขนาดจะยอมคบกับใครก็ได้งั้นเหรอ?”“นั่นพูดยาก”ฉันยิ้มและดึงเสื้อโค้ทให้กระชับขึ้นโดยตั้งใจ หวังว่าจะช่วยคลายความตึงเครียดในรถได้เขาหาวและพูดออกมาสองคำอย่างไม่ใส่ใจว่า “เด็กน้อยจัง”จากนั้น เขาก็หยิบผ้าปิดตาออกมาจากที่ไหนสักแห่งโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และหลับไปอย่างสงบ……วันรุ่งขึ้นเป็นวันเปิดตัวหนานซีอย่างเป็นทางการพนักงานใหม่หลายคนมาแต่เช้า เต็มไปด้วยพลังงาน ทำให้บรรยากาศของบริษัทดีขึ้นท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status