แชร์

บทที่ 89

ผู้เขียน: เล่อเอิน
ถึงแม้พวกเราปกติไม่ค่อยกลับมาอยู่ที่นี่ แต่คนใช้ดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่มีแม้แต่ฝุ่น

แม้แต่ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ก็เปลี่ยนทุกๆ 3 วัน

ตรงหัวเตียงมีภาพถ่ายเวดดิ้งแขวนเอาไว้ สไตล์ย้อนยุค ผลงานช่างแต่งภาพหลายคน ทว่าไม่มีร่องรอยการใช้โปรแกรมแต่งภาพ

พอฟู่ฉีชวนนั่งลงบนเตียง ฉันพยายามสะบัดข้อมือออก เขาจับข้อมือฉันไว้แน่นพร้อมกับขมวดคิ้ว "เรายังไม่ได้หย่ากันสมบูรณ์ ช่วยผมทายาหน่อยไม่ได้เลยหรอ?"

"...ฉันจะไปเอากล่องยา ไม่งั้นฉันจะเอาอะไรทายาให้คุณ?"

ฉันไม่มีทางเลือก เลยบอกกับเขา

เขาถึงปล่อยข้อมือฉัน "ครับ"

ฉันเจอกล่องปฐมพยาบาลตรงลิ้นชัก หยิบเบตาดีนและยาทาเดินมาหาและยืนอยู่ตรงหน้าเขา

แผลตรงหน้าผากทำเอาใจหายเมื่อเห็น ฉันค่อยๆ ก้มลงมา มือข้างหนึ่งช้อนหลังศีรษะเขา มืออีกข้างก็เช็ดคราบเลือดให้เขา

ท่านปู่ลงมือหนักมาก พอเช็ดคราบเลือดออก เลือดก็ไหลออกมาใหม่

ฉันเห็นก็รู้สึกเจ็บแล้ว "เจ็บไหม?"

"เจ็บ เจ็บมาก"

เขาเงยหน้ามามองฉัน ดวงตาสีดำราวกับหินออบซิเดียน สดใสสะดุดตา

ฉันรู้สึกใจอ่อนขึ้นมา ขณะฆ่าเชื้อตรงบาดแผลก็เป่าเบาๆ ตรงแผลไปด้วย เขาดูพออกพอใจจนเอ่ยออกมา "ไม่เจ็บแล้ว ขอบคุณครับ ที่รัก"

"พ
บทที่ถูกล็อก
อ่านต่อที่ GoodNovel
สแกนรหัสเพื่อดาวน์โหลดแอป

บทที่เกี่ยวข้อง

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 90

    ฉันอึดอัดใจทันใดนั้นก็รู้สึกอึดอัดไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดถาโถมเข้ามาทั้งตัวแหวนวงนี้เป็นแหวนแต่งงานของเรางานแต่งตอนนั้น เขาถึงแม้จะไม่ได้สนใจ แต่ท่านปู่กลับเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับหลานสะใภ้อย่างฉันสินสอดสิบล้าน ห้องหอราคาสูงลิบ รวมถึงหาช่างออกแบบเครื่องประดับชั้นเลิศทำแหวนคู่ให้กับพวกเราต่อมา สินสอดก็ยกให้กับท่านป้าเพื่อตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูมาห้องหอไม่มีที่ให้สำหรับฉันแต่ละวันก็มีเพียงแหวนวงนี้ซึ่งคอยอยู่เคียงข้างฉันช่วงแรกของชีวิตแต่งงาน ฉันพอใจจะสวมใส่มันเอาไว้บนนิ้วนาง หลังจากฟู่ฉีชวนรู้ว่าฉันก็ทำงานที่แซ่ฟู่กรุ๊ป เขาก็รีบเตือนฉันว่าอย่าทำตัวเป็นจุดสนใจฉันเลยถอดมันในวันนั้น คล้อยเอาไว้กับสร้อยเส้นเล็กและห้อยไว้ที่คอฉันสวมสร้อยนี้มาสามปีแล้วแหวนวงนี้ซึ่งเคยทำให้ฉันรู้สึกดีใจ ตอนนี้มันกลับเป็นคำเยาะเย้ยไร้เสียง ในสายตาของฟู่ฉีชวน ฉันก็เหมือนกับแหวนวงนี้ ตรงที่ไม่ควรออกไปเจอใครฉันหัวเราะเย้ยหยันให้กับตัวเอง "ก็แค่ลืมถอดออก"ลืมไปเลยจริงๆถ้าจะพูดให้ชัดก็คือคุ้นชิน ตอนอยู่คนเดียวหรือใจรู้สึกอ้างว้างก้มักจะเอื้อมมือไปลูบแหวนวงนี้จนคุ้นชิน...ฟู่ฉีชวนต

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 91

    ฉันหัวเราะเบาๆ "ขอเพียงไม่ใช่แบบคุณตอนนี้ก็พอ"สีหน้าเขาเผยให้เห็นความรู้สึกเจ็บปวด "ผมแย่ในสายคุณขนาดนี้เลยหรอ?""ก็ไม่ได้แย่ เทียบกับพวกชอบใช้ความรุนแรง ติดยา ติดการพนันแล้ว พวกนั้นแย่ยิ่งกว่าคุณอีก""...หร่วนหนานจือ"สีหน้าเขาหมองหม่น ขณะกำลังจะพูดก็มีคนมาเคาะประตูห้องตามมาด้วยเสียงไพเราะของฟู่จินอัน "อาชวน ฉันเข้าไปนะ"ยังไม่มีใครขานรับ ประตูก็ส่งเสียง "คลิ๊ก" เธอผลักประตูเข้ามา"อาชวน เดี๋ยวฉันทา...."เสียงของเธอขาดหายตอนเห็นหน้าฉัน รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งเกร็งฉันกล่าวอย่างเฉยเมย "ฉันขอตัวออกไปก่อน""หนานจือ"ฟู่จินอันโมโหกล่าว "หย่ากันแล้ว ก็ทำตัวให้เหมือนหย่ากันหน่อย คุณอย่าเข้าใจผิด ฉันก็แค่กลัวคนไม่หวังดีรู้เข้า หากมีคนเอาไปพูดคงจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของเธอ""ราชการยังไม่ได้ส่งใบสำคัญหย่ามาให้เรา เธอก็ป่าวประกาศแล้วว่าพวกเราหย่ากันงั้นเหรอ?"ฉันอดทนไม่ไหวจริงๆ พร้อมกับกล่าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ "ชื่อเสียงฉันแย่สักแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับเธอขั้นเสนอหน้ามาแย่งของคนอื่นหรอก"พอพูดเสร็จฉันก็เดินออกไปยังไม่ทันเดินออกจากห้อง ฉันก็ได้ยินนางตีหน้าเศร้าพูดกับฟู่ฉีชวน "อาชวน คุณดูเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 92

    ท่านปู่มองได้เฉียบขาด ฉันก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและพยักหน้า "ใช่ค่ะ"ท่านปู่ยกมือขึ้นมา เป็นสัญญาณบอกให้ลุงเฉิงอาของบางอย่างเข้ามา มันเป็นแฟ้มประวัติผู้ป่วยสีเหลืองฉันรับเอามาอ่านดู หัวใจก็เหมือนถูกมือล่องหนข้างหนึ่งบีบรัดเอาไว้ฟู่ฉีชวนตอนเด็กไปพบแพทย์โรคหัวใจหลายครั้ง...ฉันเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ ราวกลับไม่เชื่อเรื่องนี้เขาผู้เป็นเหมือนลูกคนโปรด กลับกลายเป็นผู้ป่วยประจำของแผนกโรคหัวใจผ่านไปนานกว่าฉันจะขมวดความคิดของตนเองได้จนฉันเผลอกัดริมฝีปาก "เขา เข้าทำไมถึง..."พอลองคิดอีกด้าน ก็รู้สึกว่ามีเค้าลางเสียแม่มาตั้งแต่เกิด พ่อเขาเองทำให้ครอบครัววุ่นวายจนบ้านแตกเพราะผู้หญิงอื่นแค่คนเดียว อีกทั้งยังเอาแต่รักลูกต่างแม่เขาจะมีปัญหาสภาพจิตใจก็เป็นเรื่องปกติ"หลายปีมานี้ ปู่ก็เคยคิดว่าควรจะบอกเขาดีไหม"ท่านปู่ถอนหายใจ แววตาของคนผ่านโลกมานานก็ดูเฉียบคมขึ้นมาทันที "ทว่ายังไงก็ต้องมีสักวันที่เขาจะต้องรู้ ปิดบังเขาไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก"……ฉันออกมาจากบ้านตระกูลฟู่ด้วยอารมณ์ซับซ้อน บนถนนขณะกลับบ้าน ตาข้างขวาก็กระตุกไม่หยุดปกติฉันไม่เชื่อเรื่องโชคลางพวกนี้ ทว่าวันนี้ฉันรู้สึกอึดอั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 93

    "แล้วฟู่จินอันล่ะ?"ฉันปัดมือเขาออกพร้อมกับสะอึกสะอื้นถามท่านปู่หมดสติตอนอยู่กับฟู่จินอัน ฟู่จินอันทำไมถึงไม่อยู่นี่?พอฉันถาม เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นตรงทางเดิน ดูกระวนกระวายชัดเจน ฟู่จินอันวิ่งพรวดเข้ามา ทำท่าตกใจ "อาชวน ท่านปู่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ฉันขอโทษ ตรงนั้นฉันเรียกรถไม่ได้เลย ฉันเลยมาช้า..."ฉันพูดขัดในทันที "ท่านปู่ทำไมถึงหมดสติ?"ฟู่จินอันเผยสีหน้าวิตกกังวลจากนั้นก็พูด "ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ จู่ๆ ท่านปู่ก็หายใจหอบขึ้นมาแล้วก็หมดสติไป""จู่ๆ ก็เป็นแบบนี้เลยหรอ? เธอไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นหรอ?" ฉันไม่เชื่อนางสองปีมานี้ ท่านปู่ดูแลสุขภาพตัวเองดีมาก ตรวจสุขภาพตรงตตามนัดขนาดตอนเขาลงมือทำร้ายฟู่ฉีชวนก็ยังไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งไม่มีทางจะล้มป่วยอย่างไม่มีสาเหตุ"เธอหมายความว่าไง? หนานจือ หรือว่าเธอสงสัยว่าฉันทำให้ท่านปู่โมโหจนล้มป่วยงั้นเหรอ?"ฟู่จินอันสีหน้าสับสน ทันใดนั้นเธอก็กุมท้อง หันไปมองฟู่ฉีชวนอย่างเจ็บปวด "อาชวน ฉันเจ็บท้อง..."ฟู่ฉีชวนสีหน้าสงสัย "เจ็บท้อง?""อืม!"พอเห็นฟู่จินอันตอบกลับเขาอย่างมั่นใจ เขาก็รีบอุ้มนางขึ้นมาและรีบเดินออกไป "หมอครับ! เธอต

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 94

    "ผิดปกติ..."ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติฟู่ฉีชวนถามต่อ "ตรงไหนผิดปกติ?"ฉันครุ่นคิดอย่างสงสัย "ท่านปู่ปกติตอนอาการกำเริบจะต้องทานยาทันที ปกติอาการจะทุเลาลง ทำไมครั้งนี้ถึงหมดสติไปเลย?""ใช่ครับ แต่ก่อนคุณท่านตอนมาตรวจสุขภาพ ผมสังเกตเห็นกระเป๋าเสื้อคุณท่านจะเตรียมยาไว้ตลอด แต่สถานการณ์วันนี้ หากท่านทานยาได้ทันเวลา อาการคงไม่สาหัส" ผอ.กล่าวฉันเหลือบมองฟู่ฉีชวน "ฟู่จินอันล่ะ?""เธอพักอยู่ในห้องผู้ป่วย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเคร่งขรึมหลังจากตอบ จากนั้นก็กล่าวอย่างมั่นใจ "คุณสงสัยเธอหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก แม้นิสัยเธอจะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่เธอก็เป็นคนจิตใจดี อีกอย่างเธอก็เชื่อฟังคุณปู่ตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้า"พอฉันฟังจบ ฉันกลับรู้สึกโมโหอย่างควบคุมไม่ได้เป็นครั้งแรกคนจิตใจดี คงไม่พยายามมาตอแยแย่งผัวชาวบ้านหรอกแต่ว่าคงไม่มีใครไปปลุกฟู่จินอันที่แกล้งหลับหรอก ตรงจุดนี้ฉันเข้าใจดีขี้เกียจจะไปเถียงอะไรกับเขา ฉันหันไปหาผอ. "เสื้อผ้าตอนท่านปู่มาถึงโรงพยาบาลยังอยู่ไหมคะ? รบกวนช่วยดูให้ฉันทีว่ากระเป๋าเสื้อมียารึเปล่า""ได้ครับ"ผอ.รีบสั่งให้แพทย์ด้านหลังไปตรวจดูเสื้อผ้าผานไปอึดใจหมอก็เดินกลับม

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 95

    "ไม่ต้อง..."ฟู่จินอันดึงแขนเสื้อของเขา "ฉันอยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉัน ครู่เดียวก็พอแล้ว ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ งั้นก็ปล่อยให้ฉันทนเจ็บจนตายเถอะ!""งั้นก็ทนเจ็บจะตายไปเลย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเย็นชา แม้เขาจะพูดแบบนั้น แต่ก็ยังรินน้ำอุ่นให้กับเธอพร้อมกับพูดห้วนๆ "ดื่มน้ำอุ่นมากๆ"ฟู่จินอันไม่พอใจ "น้ำอุ่นไม่ได้ช่วยให้หายปวด"ฉันถูกเขากระแทกตัวเซ อีกนิดก้เกือบจะล้ม พอเงยหน้าขึ้นก็เห็พวกเขาทำเหมือนเป็นปกติอีกคนเสแสร้ง อีกคนก็พร้อมเชื่อหลังจากท่านปู่ส่งตัวเข้า ICU หมอไม่แนะนำให้เข้าเยี่ยม เพื่อจะพิจารณาสุขภาพของคุณท่านพวกเราเลยได้แต่ยืนอยู่หน้าประตู มองเข้าไปด้านในโดยมีเพียงแค่กระจกกั้นท่านปู่ซึ่งมักเมตตาและอัธยาศัยดี ตอนนี้กลับต้องพึ่งหน้ากากออกซิเจนหายใจ ฉันเสียใจอยากมากเกินกว่าจะบรรยาทันใดนั้น ฉันก็เห็นท่านปู่เหมือนขยับนิ้วมือฉันดีใจจนหันไปหาลุงเฉิง "ลุงเฉิง ท่านปู่ขยับนิ้วใช่ไหม?""ใช่ ใช่ครับ! คุณไม่ได้ตาฝาด ตอนนี้กำลังขยับนิ้ว"ลุงเฉิงตื่นเต้นมากเดิมทีไม่รู้ว่าท่านปู่จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่คาดคิดว่าจะฟื้นได้สติเร็วขนาดนี้ฉันทั้งตื่นเต้นและดีใจ รีบร้อนรีบออกไปตามหมอ ก้า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 96

    เดิมคิดว่า ท่านคงอยากจะบอกให้ฉันอย่าหย่ากับฟู่ฉีชวนแต่ว่า ท่านปู่ไม่ได้พูดแบบนั้นฉันสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าชีวิตของท่านปู่ค่อยๆ ริบหรี่ น้ำเสียงอ่อนแรงอย่างที่สุด "ไม่ว่า...ยังไง...ก็อย่าให้ฟู่จินอันแต่งเข้าตระกูลของเรา ปกป้องตระกูลฟู่แทนปู่ด้วย""ค่ะ ท่านปู่..."ฉันใกล้จะทนรับไม่ไหวแล้ว ฉันทั้งร้องไห้และพยักหน้าไม่หยุด "ท่านปู่ ฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านใช่ไหม ไม่งั้นอาการท่านคงไม่กำเริบแบบนี้...""นาง..."แววตาของท่านสะท้อนความเกลียดแค้นและโทสะ จนสุดท้ายท่านก็ถอนหายใจ "หนูจำคำพูดของปู่เอาไว้ให้ดีก็พอ""ค่ะ...หรวนหร่วนจะจำเอาไว้ หนูจะจดจำเอาไว้ทุกคำ"ฉันพูดสะอึกสะอื้น ไม่กล้าถามอีกแม้แต่คำเดียว กลัวว่าท่านปู่จะโมโหอีกทว่าในใจกลับได้ฝังเมล็ดความสงสัยเอาไว้ฟู่จินอันจะต้องพูดอะไรกับท่านปู่แน่นอน"ยัยหนู อย่าเสียใจเลย ดูแลลูกในท้องของหนูให้ดีๆ"ท่านปู่พยายามใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย หันมองและยิ้มให้กับฉัน "เท่านี้ ปู่ก็จะได้ตายตาหลับสักที....""ตี๊ด——"เครื่องตรวจชีพจรส่งเสียงแหลมดังยาว!ฉันมองท่านปู่หลับตาสนิททั้งสองข้างพร้อมกับรอยยิ้มตรงมุมปาก ทันใดนั้นทุกอย่างพังทลายลงมาใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 97

    ฉันคิดถึงสิ่งที่ท่านปู่บอกซ้ำไปซ้ำมาก่อนหน้านี้ท่านปู่ไม่ยอมรับให้ฟู่ฉีชวนและฟู่จินอันอยู่ด้วยกัน รู้แค่ว่านางดูเป็นคนซับซ้อน แต่วันนี้...แตกต่างอย่างสิ้นเชิงฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านปู่ขณะรถค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ฉันเปิดประตูลงจากรถเพื่อจะเดิน ฟู่ฉีชวนรีบวิ่งตามฉันมาและคว้าฉันเข้าไปกอดฉันนิ่งไม่ขยับ ศีรษะของเขาซุกเข้ามาตรงไหล่ฉันพร้อมกับกล่าวขอร้อง "หนานจือ อยุ่กับผมคืนนึงได้ไหม""แค่คืนเดียว""ผมขอร้อง"พอได้ฟัง ประวัติผู้ป่วยในแฟ้มสีเหลืองตอนอยู่ในห้องหนังสือเมื่อตอนกลางวันก้ปรากฎขึ้นในหัวฉัน จนฉันรู้สึกเห็นใจ "ได้"บรรยากาศในคฤหาสน์หลังเก่าหนักอึ้งขึ้นอย่างมาก แต่ท่านปู่ไม่อยู่ คฤหาสน์ทั้งหลังกลับดูว่างเปล่าขึ้นมาพอมาถึงห้องนอน ฉันก็ไปอาบน้ำร้อน พอออกมาก้ไม่เห็นฟู่ฉีชวนแล้วจนฉันนอนหลับจนถึงกลางดึก ด้านหลังก็ค่อยๆ มีคนขยับเข้ามาใกล้ ฉันไม่ต้องพลิกตัวก็รู้ว่าเป็นใครไม่รู้ว่าทำไม ท่าทางของฟู่ฉีชวนทุกอย่างในคืนนี้ ฉันกลับรู้สึกได้ถึงความเสียใจ"คุณหลับหรือยัง?"หน้าผากของเขาแนบกับหัวของฉัน พร้อมกับถามอย่างเแผ่วเบาฉันไม่ตอบ และก็ไม่ได้ขยับ ไม่นานนัก

บทล่าสุด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 296

    "แม่...มีสิทธิ์อะไร...หนูเป็นลูกค้านะ!""ทำตามที่บอก!"แม่เสิ่นกลืนน้ำลายแล้วส่งโทรศัพท์คืนให้โจวฟาง มองมาที่ฉันด้วยรอยยิ้มแห้งๆ “คุณหร่วน ในฐานะดีไซเนอร์ชุด โปรดอย่าลืมไปร่วมงานเลี้ยงหมั้นในสัปดาห์หน้าด้วย หากมีปัญหาใดๆ เกี่ยวกับชุด ก็สามารถแก้ไขได้อย่างทันท่วงที”“เดินทางปลอดภัย ไม่ไปส่งค่ะ”ฉันทำท่าส่งแขก จากนั้นจึงพูดว่า "ส่วนเงินที่ยังค้างอยู่ ก็โอนเข้าบัญชีเดียวกับครั้งที่แล้ว ขอบคุณ"……เรื่องตลกจบลงแล้ว ก็เกือบหนึ่งทุ่มแล้วฉันเลยตัดสินใจเสนอพาพวกเขาไปกินหม้อไฟเมื่อเพิ่งมาถึงที่จอดรถใต้ดิน เจียงไหลได้รับโทรศัพท์เกี่ยวกับงานปาร์ตี้สังสรรค์และตัดสินใจทิ้งฉันไว้เหลือแค่ฉัน โจวฟาง และโจวโม่โจวฟางชูคอ หันหน้ามาทางฉัน แล้วพูดว่า "ไปนั่งรถฉันมา พรุ่งนี้จะไปส่งโมโม่ที่ทำงาน""โอเค"ขณะที่ฉันเดินไปเปิดประตูเบาะหลัง โจวโม่ก็ผลักฉันให้ไปนั่งที่เบาะผู้โดยสารด้านหน้า "พี นั่งเบาะหน้าเถอะ เบาะหลังแคบเกินไป"นั่นคือข้อเสียของรถสปอร์ต ดูดีแต่ไม่สบายตอนนั่งฉันเปิดแอพอาหารแล้วคิดว่าจะไปที่ไหน โจวฟางก็หาวแล้วพูดว่า "ฉันเหนื่อยแล้ว กลับบ้านไปกินข้าวเถอะ สั่งเดลิเวอรี่ก็ได้"ไม่ใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 295

    ลูกวัวแรกเกิดอย่างโจวโม่ไม่กลัวเสือ ซึ่งทำให้เจียงไหลและฉันต่างจ้องมองกันหลังจากที่รู้ตัว ฉันก็กลัวว่าแม่เสิ่นจะลากเธอไปเอี่ยว ดังนั้นฉันจึงดึงเธอไว้ข้างหลัง“ถ้ามีปัญหาอะไรก็เอามาคุยกับฉันสิ”"พี่!”โจวโม่ไม่กลัวเลยและมองไปที่แม่เสิ่น "คุณไม่ได้บอกว่าคุณไม่ต้องการชุดนี้แล้วเหรอ? งั้นก็ให้เสิ่นซิงหยูออกมา ไม่ต้องไปลองมันแล้ว""ฮ่า!"แม่เสิ่นยิ้มเยาะหลายครั้ง น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความดูถูก “คำพูดของเธอนี่ช่างขำจริงๆ เธอก็แค่พนักงานธรรมดาๆ เธอคิดว่าเจ้านายของเธอจะเห็นด้วยกับเธอไหม? เธอรู้ไหมว่าชุดนี้ราคาเท่าไหร่....”"ฉันซื้อได้!”โจวโม่พองหน้าเล็กๆ และพูดประโยคนี้ออกมาอย่างเย่อหยิ่งฉันแกล้งทำเป็นไม่ได้ยินคำกล่าวที่เกินจริงของเธอใบหน้าของแม่เสิ่นเปลี่ยนเป็นสีเขียวอย่างน่าตกใจ สั่นเทาด้วยความโกรธ “หร่วนหนานจือ นี่ก็เป็นจุดยืนของเธองั้นเหรอ?”“ถ้าคุณไม่พอใจกับชุดนี้ นั่นก็เป็นทางเลือกที่ดี”ฉันยิ้มอย่างสุภาพ น้ำเสียงของฉันสงบและนิ่งแม่เสิ่นกัดฟันและจ้องไปที่โจวโม่ “เธอแน่ใจนะว่า ซื้อมันได้ ชุดนี้ราคาเกิน 25 ล้าน!”“แค่ 25 ล้านเอง คุณป้า คุณไม่มีเงินหรือไง?”โจวโม่เอีย

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 294

    ฉันไม่ได้คิดอะไรมากและหัวเราะ “เราออกไปนานแล้ว ฉันถึงบ้านแล้วและอาบน้ำแล้ว”"งั้นก็ดีแล้ว"“หลิน… ลุงของหลาน เขาไม่ได้ก่อเรื่องอีกแล้วใช่ไหม?”ก่อนที่ฉันจะไปกับลู่สือเยี่ยน เขาเตือนหลินกั๋วอันหลินกั๋วอันพยักหน้าซ้ำแล้วซ้ำเล่า เกือบจะคุกเข่าลงคุณป้าพยักหน้าแล้วพูดว่า "ไม่ ไม่ต้องห่วง เขาใบหย่าไปแล้วและเพิ่งกลับไป"ฉันแปลกใจเล็กน้อย "เซ็นต์ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?"ดูเหมือนว่าเขาจะกลัวลู่สือเยี่ยนในระดับหนึ่งเมื่อคืนนี้เอง ยัวยืนกรานที่จะแบ่งทรัพย์สินของฉันคุณป้าถอนหายใจด้วยความโล่งใจ “ใช่แล้ว หลานต้องขอบคุณประธานลู่นะ เขาเป็นคนดีมาก”"โอเค ไม่ต้องกังวล ฉันจะหาโอกาสขอบคุณเขาเอง"ถ้าคุณป้าสามารถหย่าร้างได้อย่างราบรื่น ก็ถือว่าเป็นการแก้ไขความกังวลในใจของฉันไปได้หนึ่งเปาะด้วยวิธีนี้ ฉันจะต้องดูแลคุณป้าของฉันเท่านั้นในอนาคต โดยไม่ต้องรับมือกับคนชั่วคนนี้……หนานซีเป็นแบรนด์ใหม่ที่เพิ่งเปิดตัว และธุรกิจของเราก็อยู่ในระดับปานกลางตามธรรมชาติแต่สิ่งนี้ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อตารางงานที่ยุ่งของฉันฉันใช้เวลาเกือบครึ่งเดือนในการทำชุดหมั้นของเสิ่นซิงหยูในที่สุดเพชร ไข่มุก ทับทิมตร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 293

    ฉันหันกลับมาทันทีและกำลังจะถาม แต่ลู่สือเยี่ยนเดินเข้ามาด้วยท่าทางไม่พอใจ"หนานจือ"ฉันพยักหน้าและพูดว่า "รุ่นพี่"ทันทีที่หลินกั๋วอันเห็นเขา สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปทันที เขาตัวสั่นและพูดว่า "ประธานลู่ ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้?"เห็นได้ชัดว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนสายตาของลู่สือเยี่ยนมองมาที่ฉัน และหลังจากยืนยันว่าฉันปลอดภัยดี สายตาของเขาก็จับจ้องไปที่หลินกั๋วอัน “ลืมไปแล้วเหรอว่าฉันบอกคุณอะไรไปเมื่อครั้งก่อน?”“ไม่ ไม่ ฉันไม่กล้า!”หลินกั๋วอันปฏิเสธอย่างตรงไปตรงมา โดยแสดงรอยยิ้มประจบประแจงและระมัดระวัง "ฉัน... ฉันเพียงมาพบภรรยาของฉัน บังเอิญว่าผู้หญิงคนนี้มาพอดี"ฉันเห็นว่าเขากลัวลู่สือเยี่ยนมาก ฉันจึงใช้โอกาสนี้ถามว่า "เกิดอะไรขึ้นกับสิ่งที่คุณเพิ่งพูดไป? คุณเอาเรื่องนี้มาพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่า อย่ามาบอกฉันนะ มันเป็นแค่การพูดลอยๆ"ประโยคนี้ ลู่สือเยี่ยนก็ได้ยินเช่นกันหลินกั๋วอันหดตัวลงชั่วขณะ หลบตาคุณป้าของฉัน กัดฟันแล้วพูดขึ้นมาว่า "ฉัน..."“คุณควรพูดความจริงดีกว่า”ลู่สือเยี่ยนขัดจังหวะด้วยน้ำเสียงที่สงบแต่หนักแน่น ยิ้มอย่างสุภาพแต่แฝงไปด้วยความคุกคาม "ตอนที่ฉันยังเป็นเด็ก ฉันมัก

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 292

    "หนานจือ ลุงของคุณได้รับจดหมายแจ้งการฟ้องหย่าของเราแล้ว"ทนายฟางอดไม่ได้ที่จะเตือนฉันว่า "แต่ตอนที่ฉันเพิ่งออกจากโรงพยาบาล ฉันก็ไปเจอลุงของคุณเข้า เขาหน้าซีดมาก และอาจทำให้คุณป้าของคุณเดือดร้อนได้""โอเค ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณ! ฉันจะไปดูทันที"คุณป้าของฉันอยู่ในระยะวิกฤตของการรักษา และกระเพาะอาหารเป็นอวัยวะที่อ่อนไหวและเต็มไปด้วยอารมณ์การทะเลาะกันใหญ่โต ไม่ดีต่อการฟื้นฟูร่างกายของเธอฉันวางสายโทรศัพท์และกลับไปที่ห้องส่วนตัว ฉันเอนตัวไปที่หูของเจียงไหลและพูด "ไหลไหล ฉันจะฝากเรื่องนี้ไว้กับเธอนะ มีบางอย่างเกิดขึ้นที่บ้านคุณป้า ฉันต้องลองไปดู"สีหน้าของเธอเปลี่ยนไปและเธอพูดอย่างวิตกกังวล "เป็นอะไรหรือเปล่า? ฉันพาเธอไปเอง""ไม่น่าจะใช่เรื่องใหญ่"ฉันตบไหล่เธอ “เธออยู่ที่นี่และทำให้ทุกคนสนุกสนาน อย่าปล่อยให้เรื่องนี้มาทำให้เสียบรรยากาศ”เมื่อพูดจบ ฉันก็คว้ากระเป๋าและบอกลาทุกคนอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเดินออกไปลู่สือเยี่ยนลุกขึ้นทันทีเช่นกัน “คุณดื่มแอลกอฮอล์มา ฉันจะพาคุณไปเอง”"โอเค"ฉันรู้ว่าเขามาทานอาหารเย็นนี้เพราะฉันเท่านั้น ถ้าฉันออกไป เขาก็คงไม่อยากอยู่เหมือนกันขณะที่ดินออกไป

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 291

    ในขณะนั้นเอง มีคนจากภายในห้องดึงประตูเปิดออกพอดีตอนที่ฉันกำลังจะแอบดู พนักงานเสิร์ฟก้าวเข้ามา ทำให้ฉันไม่สามารถมองอะไรได้เลยสถานที่แห่งนี้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัวของแขกเป็นอย่างยิ่งพนักงานเสิร์ฟถามว่า “สวัสดี คุณเป็นเพื่อนของคุณเซียวและกลุ่มของเขาหรือเปล่า?”แซ่นี้ฟังดูไม่คุ้นเลยฉันต้องส่ายหัวและบอกว่า "ไม่ ฉันเข้าห้องส่วนตัวผิด"เมื่อฉันหันหลังกลับและออกไป ดูเหมือนว่าใครบางคนกำลังจ้องมองฉันอยู่ครู่หนึ่ง ทำให้ขนที่คอของฉันลุกชันเมื่อหันกลับไปมอง สิ่งที่ฉันเห็นก็คือประตูห้องส่วนตัวที่ปิดสนิทแล้วเมื่อกลับมาที่ห้องส่วนตัว เจียงไหลสั่งอาหารเสร็จแล้ว “เอาล่ะ เธอมีอะไรอยากสั่งไหม?”"ฉันไม่เลือกหรอก สั่งมาเลย"เมื่อคิดถึงสิ่งที่เพิ่งเกิดขึ้น ฉันรู้สึกหนักใจเล็กน้อยไม่ใช่ใครที่ฉันรู้จัก แต่สิ่งที่พวกเขาพูดนั้นคล้ายกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันมากแทบจะเป็นสถานการณ์เดียวกันฉันไม่เคยได้ยินว่ามีเพื่อนสนิทแซ่เซียวจากฟู่ฉีชวนเลยเจียงไหลรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติและโน้มตัวเข้ามาที่หูของฉัน "เธอกำลังคิดอะไรอยู่""ไม่มีอะไร"ฉันยิ้มอย่างอ่อนโยนตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะพูดถึงเรื่อ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 290

    เจียงไหลไม่เห็นด้วยกับความคิดของฉัน "อีกอย่าง ตอนนี้เธอก็หย่าแล้ว เธอคิดว่าเขาจะยอมแพ้ได้แค่พูดไม่กี่คำเหรอ? จะดีกว่าไหมที่จะกำหนดเส้นตายแบบนี้"ตอนนั้น ฉันก็คิดเหมือนกันตอนที่ฉันรู้ว่าลู่สือเยี่ยนแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งมาเป็นเวลา 20 ปี ฉันคิดว่าผู้หญิงคนนั้นโชคดีมากแต่เมื่อฉันรู้ว่าเป็นฉัน ฉันรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณมากกว่าเป็นหนี้บุญคุณ....ยากที่จะตอบแทนในช่วงเวลาที่ฉันเงียบๆ เจียงไหลนอนลงบนโต๊ะ เขย่าต่างหูของฉันด้วยนิ้วของเธอ "อาหร่วน ทำไมเธอไม่ลองคบกับลู่สือเยี่ยนดูล่ะ มีผู้ชายที่ทุ่มเทขนาดนี้เพียงไม่กี่คนในสมัยนี้""ก็เพราะว่าเขาดีมาก ฉันจึงต้องระมัดระวังมากขึ้น"ไม่เช่นนั้น มันก็จะกลายเป็นการเล่นกับอารมณ์ของคนอื่นเมื่อมีคนมอบใจให้ 100% ก็ควรให้ใจกลับไป100% ด้วยถ้าฉันทำไม่ได้ ฉันก็ควรปล่อยเขาไปเร็วกว่านี้ เพื่อที่เขาจะได้หาคนที่ทำได้เจียงไหลไม่สามารถโน้มน้าวฉันได้ เธอจึงยอมแพ้และพูดว่า "เอาล่ะ คืนนี้ไปกินข้าวเย็นที่ร้านประจำกันเถอะ"ร้านประจำที่เธอพูดถึงเป็นคลับเฮาส์ที่เธอเคยไปบ่อยๆฉันเดาะลิ้น “มันจะแพงเกินไปไหม?”“ไม่ต้องห่วง ฉันเลี้ยงเอง”"เงินขอเธอหล่นลงมาจากฟ้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 289

    ฉันสับสนมากไม่ใช่เขา แล้วใครส่งมา?การติดต่อครั้งเดียวที่เรามีกับRF กรุ๊ปก็ผ่านเขาเท่านั้น…ขณะที่เขากำลังครุ่นคิด เสียงของเฉินเย่ที่นึกขึ้นได้ก็ดังขึ้นที่ปลายสาย "ใช่ ๆ ฉันจำได้แล้ว เป็นฉันเอง! จริงๆ แล้ว ฉันขอให้ผู้ช่วยของฉันสั่งให้ แต่เขาอาจจะสั่งผิด ฉันขอให้เขาสั่งตระกร้าดอกไม้ 99 ใบเพื่อบริษัทของคุณประสบความสำเร็จและรุ่งเรือง"เฉินเย่รู้สึกเสียใจเล็กน้อยและพูดว่า "ตะกร้าดอกไม้ 999 ใบมันมากเกินไปจริงๆ มันทำให้คุณเดือดร้อนอะไรหรือเปล่า?"“เข้าใจแล้ว…”ฉันยิ้มแห้งๆ เมื่อมองไปที่ช่อดอกไม้ที่เรียงรายเต็มไปหมดจนเต็มพื้นที่ตั้งแต่ลิฟต์ไปจนถึงออฟฟิศของเรา “ไม่ใช่ปัญหาจริงๆ… แต่บางทีฉันควรคุยกับร้านดอกไม้เกี่ยวกับการคืนดอกไม้บ้าง? ไม่งั้นมันจะฟุ่มเฟือยเกินไป”“ไม่จำเป็น ฉันไม่สนใจเรื่องค่าใช้จ่าย”เฉินเย่พูดออกไป แล้วกระแอมอีกครั้งแล้วพูดเสริมว่า "ผู้ช่วยของฉัน เขาแค่มาทำงาน เพื่อต้องการเปิดประสบการณ์ชีวิต เขาเป็นคนร่ำรวยมาก และฉันจะหักเงินนี้จากโบนัสของเขา"“…โอเค”ฉันขอบคุณอีกครั้ง แพูดคุยอย่างสุภาพอีกสองสามคำ จากนั้นก็วางสายเจียงไหลเอนตัวเข้ามาและถามว่า "เกิดอะไรขึ้น เขาให้

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 288

    ฉันรู้ดีว่าคงไม่ใช่ฉันหรอก แค่การตอบกลับตามวามเคยชินเขาหรี่ตาอย่างอันตราย แสดงให้เห็นถึงความไม่ต่อรับ "พวกที่รังแกคุณต้องชดใช้ยังไง"ฉันหัวเราะเบาๆ “แล้วไงต่อ”“ไม่มีแล้วไงต่อ”โจวฟางเม้มปากและเอนหลังพิงพนักพิงศีรษะ ขนตาของเขาปิดบังอารมณ์ทั้งหมดของเขาไว้ "ชื่อคุณอยู่ในสมุดทะเบียนบ้านของตระกูลหร่วน และก่อนที่ชิงหลี่จะจากไป คุณก็เป็นหร่วนหนานจือของตระกูลหร่วนไปแล้ว""แต่ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันเหมือนคุณย่าเลย บางครั้งก็ถูกดึงดูด""......"ฉันเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที และฉันก็เฝ้าดูเขาอย่างระมัดระวังเขาหัวเราะอย่างไม่เชื่อและกดลิ้นทับฟันกรามของเขา “ทำไมถึงมองแบบนั้น คุณคิดว่าฉันสิ้นหวังขนาดจะยอมคบกับใครก็ได้งั้นเหรอ?”“นั่นพูดยาก”ฉันยิ้มและดึงเสื้อโค้ทให้กระชับขึ้นโดยตั้งใจ หวังว่าจะช่วยคลายความตึงเครียดในรถได้เขาหาวและพูดออกมาสองคำอย่างไม่ใส่ใจว่า “เด็กน้อยจัง”จากนั้น เขาก็หยิบผ้าปิดตาออกมาจากที่ไหนสักแห่งโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า และหลับไปอย่างสงบ……วันรุ่งขึ้นเป็นวันเปิดตัวหนานซีอย่างเป็นทางการพนักงานใหม่หลายคนมาแต่เช้า เต็มไปด้วยพลังงาน ทำให้บรรยากาศของบริษัทดีขึ้นท

สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status