Share

บทที่ 89

Author: เล่อเอิน
ถึงแม้พวกเราปกติไม่ค่อยกลับมาอยู่ที่นี่ แต่คนใช้ดูแลทำความสะอาดเป็นอย่างดี ไม่มีแม้แต่ฝุ่น

แม้แต่ผ้าปูเตียง ผ้าห่ม ก็เปลี่ยนทุกๆ 3 วัน

ตรงหัวเตียงมีภาพถ่ายเวดดิ้งแขวนเอาไว้ สไตล์ย้อนยุค ผลงานช่างแต่งภาพหลายคน ทว่าไม่มีร่องรอยการใช้โปรแกรมแต่งภาพ

พอฟู่ฉีชวนนั่งลงบนเตียง ฉันพยายามสะบัดข้อมือออก เขาจับข้อมือฉันไว้แน่นพร้อมกับขมวดคิ้ว "เรายังไม่ได้หย่ากันสมบูรณ์ ช่วยผมทายาหน่อยไม่ได้เลยหรอ?"

"...ฉันจะไปเอากล่องยา ไม่งั้นฉันจะเอาอะไรทายาให้คุณ?"

ฉันไม่มีทางเลือก เลยบอกกับเขา

เขาถึงปล่อยข้อมือฉัน "ครับ"

ฉันเจอกล่องปฐมพยาบาลตรงลิ้นชัก หยิบเบตาดีนและยาทาเดินมาหาและยืนอยู่ตรงหน้าเขา

แผลตรงหน้าผากทำเอาใจหายเมื่อเห็น ฉันค่อยๆ ก้มลงมา มือข้างหนึ่งช้อนหลังศีรษะเขา มืออีกข้างก็เช็ดคราบเลือดให้เขา

ท่านปู่ลงมือหนักมาก พอเช็ดคราบเลือดออก เลือดก็ไหลออกมาใหม่

ฉันเห็นก็รู้สึกเจ็บแล้ว "เจ็บไหม?"

"เจ็บ เจ็บมาก"

เขาเงยหน้ามามองฉัน ดวงตาสีดำราวกับหินออบซิเดียน สดใสสะดุดตา

ฉันรู้สึกใจอ่อนขึ้นมา ขณะฆ่าเชื้อตรงบาดแผลก็เป่าเบาๆ ตรงแผลไปด้วย เขาดูพออกพอใจจนเอ่ยออกมา "ไม่เจ็บแล้ว ขอบคุณครับ ที่รัก"

"พ
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 90

    ฉันอึดอัดใจทันใดนั้นก็รู้สึกอึดอัดไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดถาโถมเข้ามาทั้งตัวแหวนวงนี้เป็นแหวนแต่งงานของเรางานแต่งตอนนั้น เขาถึงแม้จะไม่ได้สนใจ แต่ท่านปู่กลับเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับหลานสะใภ้อย่างฉันสินสอดสิบล้าน ห้องหอราคาสูงลิบ รวมถึงหาช่างออกแบบเครื่องประดับชั้นเลิศทำแหวนคู่ให้กับพวกเราต่อมา สินสอดก็ยกให้กับท่านป้าเพื่อตอบแทนบุญคุณที่เลี้ยงดูมาห้องหอไม่มีที่ให้สำหรับฉันแต่ละวันก็มีเพียงแหวนวงนี้ซึ่งคอยอยู่เคียงข้างฉันช่วงแรกของชีวิตแต่งงาน ฉันพอใจจะสวมใส่มันเอาไว้บนนิ้วนาง หลังจากฟู่ฉีชวนรู้ว่าฉันก็ทำงานที่แซ่ฟู่กรุ๊ป เขาก็รีบเตือนฉันว่าอย่าทำตัวเป็นจุดสนใจฉันเลยถอดมันในวันนั้น คล้อยเอาไว้กับสร้อยเส้นเล็กและห้อยไว้ที่คอฉันสวมสร้อยนี้มาสามปีแล้วแหวนวงนี้ซึ่งเคยทำให้ฉันรู้สึกดีใจ ตอนนี้มันกลับเป็นคำเยาะเย้ยไร้เสียง ในสายตาของฟู่ฉีชวน ฉันก็เหมือนกับแหวนวงนี้ ตรงที่ไม่ควรออกไปเจอใครฉันหัวเราะเย้ยหยันให้กับตัวเอง "ก็แค่ลืมถอดออก"ลืมไปเลยจริงๆถ้าจะพูดให้ชัดก็คือคุ้นชิน ตอนอยู่คนเดียวหรือใจรู้สึกอ้างว้างก้มักจะเอื้อมมือไปลูบแหวนวงนี้จนคุ้นชิน...ฟู่ฉีชวนต

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 91

    ฉันหัวเราะเบาๆ "ขอเพียงไม่ใช่แบบคุณตอนนี้ก็พอ"สีหน้าเขาเผยให้เห็นความรู้สึกเจ็บปวด "ผมแย่ในสายคุณขนาดนี้เลยหรอ?""ก็ไม่ได้แย่ เทียบกับพวกชอบใช้ความรุนแรง ติดยา ติดการพนันแล้ว พวกนั้นแย่ยิ่งกว่าคุณอีก""...หร่วนหนานจือ"สีหน้าเขาหมองหม่น ขณะกำลังจะพูดก็มีคนมาเคาะประตูห้องตามมาด้วยเสียงไพเราะของฟู่จินอัน "อาชวน ฉันเข้าไปนะ"ยังไม่มีใครขานรับ ประตูก็ส่งเสียง "คลิ๊ก" เธอผลักประตูเข้ามา"อาชวน เดี๋ยวฉันทา...."เสียงของเธอขาดหายตอนเห็นหน้าฉัน รอยยิ้มบนใบหน้าแข็งเกร็งฉันกล่าวอย่างเฉยเมย "ฉันขอตัวออกไปก่อน""หนานจือ"ฟู่จินอันโมโหกล่าว "หย่ากันแล้ว ก็ทำตัวให้เหมือนหย่ากันหน่อย คุณอย่าเข้าใจผิด ฉันก็แค่กลัวคนไม่หวังดีรู้เข้า หากมีคนเอาไปพูดคงจะส่งผลเสียต่อชื่อเสียงของเธอ""ราชการยังไม่ได้ส่งใบสำคัญหย่ามาให้เรา เธอก็ป่าวประกาศแล้วว่าพวกเราหย่ากันงั้นเหรอ?"ฉันอดทนไม่ไหวจริงๆ พร้อมกับกล่าวต่ออย่างไม่ใส่ใจ "ชื่อเสียงฉันแย่สักแค่ไหน ก็ไม่เท่ากับเธอขั้นเสนอหน้ามาแย่งของคนอื่นหรอก"พอพูดเสร็จฉันก็เดินออกไปยังไม่ทันเดินออกจากห้อง ฉันก็ได้ยินนางตีหน้าเศร้าพูดกับฟู่ฉีชวน "อาชวน คุณดูเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 92

    ท่านปู่มองได้เฉียบขาด ฉันก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและพยักหน้า "ใช่ค่ะ"ท่านปู่ยกมือขึ้นมา เป็นสัญญาณบอกให้ลุงเฉิงอาของบางอย่างเข้ามา มันเป็นแฟ้มประวัติผู้ป่วยสีเหลืองฉันรับเอามาอ่านดู หัวใจก็เหมือนถูกมือล่องหนข้างหนึ่งบีบรัดเอาไว้ฟู่ฉีชวนตอนเด็กไปพบแพทย์โรคหัวใจหลายครั้ง...ฉันเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ ราวกลับไม่เชื่อเรื่องนี้เขาผู้เป็นเหมือนลูกคนโปรด กลับกลายเป็นผู้ป่วยประจำของแผนกโรคหัวใจผ่านไปนานกว่าฉันจะขมวดความคิดของตนเองได้จนฉันเผลอกัดริมฝีปาก "เขา เข้าทำไมถึง..."พอลองคิดอีกด้าน ก็รู้สึกว่ามีเค้าลางเสียแม่มาตั้งแต่เกิด พ่อเขาเองทำให้ครอบครัววุ่นวายจนบ้านแตกเพราะผู้หญิงอื่นแค่คนเดียว อีกทั้งยังเอาแต่รักลูกต่างแม่เขาจะมีปัญหาสภาพจิตใจก็เป็นเรื่องปกติ"หลายปีมานี้ ปู่ก็เคยคิดว่าควรจะบอกเขาดีไหม"ท่านปู่ถอนหายใจ แววตาของคนผ่านโลกมานานก็ดูเฉียบคมขึ้นมาทันที "ทว่ายังไงก็ต้องมีสักวันที่เขาจะต้องรู้ ปิดบังเขาไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก"……ฉันออกมาจากบ้านตระกูลฟู่ด้วยอารมณ์ซับซ้อน บนถนนขณะกลับบ้าน ตาข้างขวาก็กระตุกไม่หยุดปกติฉันไม่เชื่อเรื่องโชคลางพวกนี้ ทว่าวันนี้ฉันรู้สึกอึดอั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 93

    "แล้วฟู่จินอันล่ะ?"ฉันปัดมือเขาออกพร้อมกับสะอึกสะอื้นถามท่านปู่หมดสติตอนอยู่กับฟู่จินอัน ฟู่จินอันทำไมถึงไม่อยู่นี่?พอฉันถาม เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นตรงทางเดิน ดูกระวนกระวายชัดเจน ฟู่จินอันวิ่งพรวดเข้ามา ทำท่าตกใจ "อาชวน ท่านปู่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ฉันขอโทษ ตรงนั้นฉันเรียกรถไม่ได้เลย ฉันเลยมาช้า..."ฉันพูดขัดในทันที "ท่านปู่ทำไมถึงหมดสติ?"ฟู่จินอันเผยสีหน้าวิตกกังวลจากนั้นก็พูด "ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ จู่ๆ ท่านปู่ก็หายใจหอบขึ้นมาแล้วก็หมดสติไป""จู่ๆ ก็เป็นแบบนี้เลยหรอ? เธอไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นหรอ?" ฉันไม่เชื่อนางสองปีมานี้ ท่านปู่ดูแลสุขภาพตัวเองดีมาก ตรวจสุขภาพตรงตตามนัดขนาดตอนเขาลงมือทำร้ายฟู่ฉีชวนก็ยังไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งไม่มีทางจะล้มป่วยอย่างไม่มีสาเหตุ"เธอหมายความว่าไง? หนานจือ หรือว่าเธอสงสัยว่าฉันทำให้ท่านปู่โมโหจนล้มป่วยงั้นเหรอ?"ฟู่จินอันสีหน้าสับสน ทันใดนั้นเธอก็กุมท้อง หันไปมองฟู่ฉีชวนอย่างเจ็บปวด "อาชวน ฉันเจ็บท้อง..."ฟู่ฉีชวนสีหน้าสงสัย "เจ็บท้อง?""อืม!"พอเห็นฟู่จินอันตอบกลับเขาอย่างมั่นใจ เขาก็รีบอุ้มนางขึ้นมาและรีบเดินออกไป "หมอครับ! เธอต

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 94

    "ผิดปกติ..."ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติฟู่ฉีชวนถามต่อ "ตรงไหนผิดปกติ?"ฉันครุ่นคิดอย่างสงสัย "ท่านปู่ปกติตอนอาการกำเริบจะต้องทานยาทันที ปกติอาการจะทุเลาลง ทำไมครั้งนี้ถึงหมดสติไปเลย?""ใช่ครับ แต่ก่อนคุณท่านตอนมาตรวจสุขภาพ ผมสังเกตเห็นกระเป๋าเสื้อคุณท่านจะเตรียมยาไว้ตลอด แต่สถานการณ์วันนี้ หากท่านทานยาได้ทันเวลา อาการคงไม่สาหัส" ผอ.กล่าวฉันเหลือบมองฟู่ฉีชวน "ฟู่จินอันล่ะ?""เธอพักอยู่ในห้องผู้ป่วย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเคร่งขรึมหลังจากตอบ จากนั้นก็กล่าวอย่างมั่นใจ "คุณสงสัยเธอหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก แม้นิสัยเธอจะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่เธอก็เป็นคนจิตใจดี อีกอย่างเธอก็เชื่อฟังคุณปู่ตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้า"พอฉันฟังจบ ฉันกลับรู้สึกโมโหอย่างควบคุมไม่ได้เป็นครั้งแรกคนจิตใจดี คงไม่พยายามมาตอแยแย่งผัวชาวบ้านหรอกแต่ว่าคงไม่มีใครไปปลุกฟู่จินอันที่แกล้งหลับหรอก ตรงจุดนี้ฉันเข้าใจดีขี้เกียจจะไปเถียงอะไรกับเขา ฉันหันไปหาผอ. "เสื้อผ้าตอนท่านปู่มาถึงโรงพยาบาลยังอยู่ไหมคะ? รบกวนช่วยดูให้ฉันทีว่ากระเป๋าเสื้อมียารึเปล่า""ได้ครับ"ผอ.รีบสั่งให้แพทย์ด้านหลังไปตรวจดูเสื้อผ้าผานไปอึดใจหมอก็เดินกลับม

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 95

    "ไม่ต้อง..."ฟู่จินอันดึงแขนเสื้อของเขา "ฉันอยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉัน ครู่เดียวก็พอแล้ว ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ งั้นก็ปล่อยให้ฉันทนเจ็บจนตายเถอะ!""งั้นก็ทนเจ็บจะตายไปเลย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเย็นชา แม้เขาจะพูดแบบนั้น แต่ก็ยังรินน้ำอุ่นให้กับเธอพร้อมกับพูดห้วนๆ "ดื่มน้ำอุ่นมากๆ"ฟู่จินอันไม่พอใจ "น้ำอุ่นไม่ได้ช่วยให้หายปวด"ฉันถูกเขากระแทกตัวเซ อีกนิดก้เกือบจะล้ม พอเงยหน้าขึ้นก็เห็พวกเขาทำเหมือนเป็นปกติอีกคนเสแสร้ง อีกคนก็พร้อมเชื่อหลังจากท่านปู่ส่งตัวเข้า ICU หมอไม่แนะนำให้เข้าเยี่ยม เพื่อจะพิจารณาสุขภาพของคุณท่านพวกเราเลยได้แต่ยืนอยู่หน้าประตู มองเข้าไปด้านในโดยมีเพียงแค่กระจกกั้นท่านปู่ซึ่งมักเมตตาและอัธยาศัยดี ตอนนี้กลับต้องพึ่งหน้ากากออกซิเจนหายใจ ฉันเสียใจอยากมากเกินกว่าจะบรรยาทันใดนั้น ฉันก็เห็นท่านปู่เหมือนขยับนิ้วมือฉันดีใจจนหันไปหาลุงเฉิง "ลุงเฉิง ท่านปู่ขยับนิ้วใช่ไหม?""ใช่ ใช่ครับ! คุณไม่ได้ตาฝาด ตอนนี้กำลังขยับนิ้ว"ลุงเฉิงตื่นเต้นมากเดิมทีไม่รู้ว่าท่านปู่จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่คาดคิดว่าจะฟื้นได้สติเร็วขนาดนี้ฉันทั้งตื่นเต้นและดีใจ รีบร้อนรีบออกไปตามหมอ ก้า

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 96

    เดิมคิดว่า ท่านคงอยากจะบอกให้ฉันอย่าหย่ากับฟู่ฉีชวนแต่ว่า ท่านปู่ไม่ได้พูดแบบนั้นฉันสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าชีวิตของท่านปู่ค่อยๆ ริบหรี่ น้ำเสียงอ่อนแรงอย่างที่สุด "ไม่ว่า...ยังไง...ก็อย่าให้ฟู่จินอันแต่งเข้าตระกูลของเรา ปกป้องตระกูลฟู่แทนปู่ด้วย""ค่ะ ท่านปู่..."ฉันใกล้จะทนรับไม่ไหวแล้ว ฉันทั้งร้องไห้และพยักหน้าไม่หยุด "ท่านปู่ ฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านใช่ไหม ไม่งั้นอาการท่านคงไม่กำเริบแบบนี้...""นาง..."แววตาของท่านสะท้อนความเกลียดแค้นและโทสะ จนสุดท้ายท่านก็ถอนหายใจ "หนูจำคำพูดของปู่เอาไว้ให้ดีก็พอ""ค่ะ...หรวนหร่วนจะจำเอาไว้ หนูจะจดจำเอาไว้ทุกคำ"ฉันพูดสะอึกสะอื้น ไม่กล้าถามอีกแม้แต่คำเดียว กลัวว่าท่านปู่จะโมโหอีกทว่าในใจกลับได้ฝังเมล็ดความสงสัยเอาไว้ฟู่จินอันจะต้องพูดอะไรกับท่านปู่แน่นอน"ยัยหนู อย่าเสียใจเลย ดูแลลูกในท้องของหนูให้ดีๆ"ท่านปู่พยายามใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย หันมองและยิ้มให้กับฉัน "เท่านี้ ปู่ก็จะได้ตายตาหลับสักที....""ตี๊ด——"เครื่องตรวจชีพจรส่งเสียงแหลมดังยาว!ฉันมองท่านปู่หลับตาสนิททั้งสองข้างพร้อมกับรอยยิ้มตรงมุมปาก ทันใดนั้นทุกอย่างพังทลายลงมาใ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 97

    ฉันคิดถึงสิ่งที่ท่านปู่บอกซ้ำไปซ้ำมาก่อนหน้านี้ท่านปู่ไม่ยอมรับให้ฟู่ฉีชวนและฟู่จินอันอยู่ด้วยกัน รู้แค่ว่านางดูเป็นคนซับซ้อน แต่วันนี้...แตกต่างอย่างสิ้นเชิงฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านปู่ขณะรถค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ฉันเปิดประตูลงจากรถเพื่อจะเดิน ฟู่ฉีชวนรีบวิ่งตามฉันมาและคว้าฉันเข้าไปกอดฉันนิ่งไม่ขยับ ศีรษะของเขาซุกเข้ามาตรงไหล่ฉันพร้อมกับกล่าวขอร้อง "หนานจือ อยุ่กับผมคืนนึงได้ไหม""แค่คืนเดียว""ผมขอร้อง"พอได้ฟัง ประวัติผู้ป่วยในแฟ้มสีเหลืองตอนอยู่ในห้องหนังสือเมื่อตอนกลางวันก้ปรากฎขึ้นในหัวฉัน จนฉันรู้สึกเห็นใจ "ได้"บรรยากาศในคฤหาสน์หลังเก่าหนักอึ้งขึ้นอย่างมาก แต่ท่านปู่ไม่อยู่ คฤหาสน์ทั้งหลังกลับดูว่างเปล่าขึ้นมาพอมาถึงห้องนอน ฉันก็ไปอาบน้ำร้อน พอออกมาก้ไม่เห็นฟู่ฉีชวนแล้วจนฉันนอนหลับจนถึงกลางดึก ด้านหลังก็ค่อยๆ มีคนขยับเข้ามาใกล้ ฉันไม่ต้องพลิกตัวก็รู้ว่าเป็นใครไม่รู้ว่าทำไม ท่าทางของฟู่ฉีชวนทุกอย่างในคืนนี้ ฉันกลับรู้สึกได้ถึงความเสียใจ"คุณหลับหรือยัง?"หน้าผากของเขาแนบกับหัวของฉัน พร้อมกับถามอย่างเแผ่วเบาฉันไม่ตอบ และก็ไม่ได้ขยับ ไม่นานนัก

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status