เป็นแบบนี้อีกแล้วพอเถียงแพ้ก็จูบฉันเขาจับปลายคางของฉัน จูบดูดดื่มรุนแรง มือสองข้างลงมาจับเอวฉัน ลูบไล้จนสั่นไปทั้งตัวฉันรู้ดี หากขืนปล่อยให้เขาทำต่อไป ตอนฉันออกไปจากห้องนี้ สภาพฉันคงไปเจอใครไม่ได้แล้วแต่ว่า ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นกับฉันเขาเป็นคนจอมบงการ ชอบใช้กำลัง พละกำลังของผู้หญิงกับผู้ชายต่างกันราวฟ้ากับเหวพอขัดขืนสู้ไม่ไหว ฉันก็นึกได้เขาชอบไม้อ่อนไม่ชอบไม้แข็ง เลยได้แต่ก้มหน้าขอร้องเขา "ฟู่ฉีชวน คุณอย่าทำแบบนี้ ไม่งั้นฉันจะไปเจอคนอื่นยังไง...""เจอใคร? ลู่สือเยี่ยน?"เขาทั้งจูบและพูดไปด้วย เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากฟันและริมฝีปากช่างเซ็กซี่น่าค้นหามาถึงขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าฉันไม่ได้ขัดขืนเขา ได้แต่ถูกบังคับให้เขาจูบฉัน พยายามหาช่วงโอกาสพูดอธิบาย "ฉัน ฉันกับเขาไม่มีอะไรจริงๆ...ก็แค่การแข่งออกแบบของ MS เลยถึง....อื้อ....""คุณแค่ใช้ประโยชน์เขา?"ความคิดของเขาชัดเจนมาก ฉันได้ยินน้ำเสียงเขาฟังดูไม่ได้หงุดหงิดแล้วต้องรีบหนีออกจากที่นี่ ฉันเลยได้แต่ตามน้ำเขาไป "คุณจะเข้าใจแบบนั้นก็ได้..."เขาค่อยๆ คลายกอด ให้พื้นที่ฉันได้หายใจ แววตาดูอันตรายแต่อ่อนโยน นิ้วโป้งลูบไล้ตรงริมฝี
ที่แท้ฉันก็ไม่ได้คิดไปเอง และฉันก็ไม่ได้เข้าใจผิดแต่แม้กระทั่งสามีฉัน ยังทำเหมือนฉันไม่ควรออกไปเจอใครตลอดความสัมพันธ์นี้ทั้งสงสัยถามถึงความสัมพันธ์ของฉันกับลู่สือเยี่ยนทั้งให้ฉันแอบหลบหลังประตูไม่ให้ออกไปน่าขำสิ้นดี"ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด"ฟู่ฉีชวนยื่นมือมาจับใหล่ฉัน ฉันถอยห่างในทันที มองเขาอย่างว่างเปล่า ฉันไม่ได้อยากร้องไห้ แต่เพียงกระพริบตาหยาดน้ำตาก็รินไหล "อย่ามาจับฉัน"อย่ามาจับฉันฉันสับสนมึนงง ในหัวเหลือเพียงความคิดเดียว"หนานจือ คุณอย่าคิดฟุ้งซ่าน ผมแค่หวังว่า...""ปังๆๆ..."เสียงทุบประตูดังขึ้นเป็นไปตามคาด ขัดจังหวะพูดของเขาฟู่จินอันคงเข้าไปโวยวายในห้องวีไอพีทุกห้อง เธอยังไงก็ต้องหาฟู่ฉีชวนและฉันให้เจอไม่งั้นคงไม่ช้าขนาดนี้"กลับบ้านไปรอผม ผมจะอธิบายให้คุณฟัง"ฟู่ฉีชวนก่อนเปิดประตูออกไปก็พูดทิ้งท้ายด้วยเสียงทุ้มฉันตั้งสติได้อีกครั้ง ด้านนอกโวยวายเสียงดังขึ้นมา ประตูถูกปิดอย่างแรงและล็อคไว้ ข้างในออกไปไม่ได้ ด้านนอกก็ผลักเข้ามาไม่ได้ไม่ใช่แค่ฉันที่อยากออกไป แต่คนข้างนอกก็เข้ามาไม่ได้"คุณขวางฉันไว้ทำไม ฉันยังไม่ทำอะไรเลย! อาชวน คุณชอบเธอแล้วใช่ไหม? คุณ
[ได้อยู่แล้ว ได้ยินว่าเธอเดินไปกับฟู่ฉีชวน เกิดอะไรขึ้น? เขารังแกเธออีกแล้วเหรอ?]เธอสติ๊กเกอร์หน้าโมโหมาให้ฉันยังไม่ทันส่งข้อความกลับ หน้าจอโทรแชทก็เด้งขึ้นมา ฉันตัดสายทิ้ง [ฉันไม่เป็นไร ตอนนี้อยู่บนรถ เธอกลับมาแล้วค่อยคุย]ตลอดทาง ลู่สือเยี่ยนรู้ว่าฉันอึดอัดใจ เลยปล่อยให้ฉันอยู่อย่างเงียบๆ ไม่พยายามหาเรื่องคุยกับฉันให้พื้นที่ฉันได้ปลบปล่อยอารมณ์ความคิดก่อนลงจากรถ ฉันปลดเข็มขัดนิรภัย "รุ่นพี่ คำพูดของเขาวันนี้ คุณอย่าไปใส่ใจ"เขาค่อยๆ แตะเบรคจนสุดพร้อมกับยิ้ม "ไม่หรอก ผมดีใจมากกว่า""หือ?"ฉันไม่เข้าใจลู่สือเยี่ยนหันหน้ามามองฉันพร้อมกับพูดหยอกล้อ "คุณไม่รู้ตัวหรอ วันนี้คุณไม่ได้พูดคำว่าขอบคุณกับผม"ฉันเม้มปาก "อันที่จริงวันนี้ฉันควรพูด...""ผมไม่ได้เจตนาเตือนคุณให้ขอบคุณผม"เขายิ้มกล่าวขัดจังหวะฉัน จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล "เป็นเพื่อนกัน ทำไมต้องพูดเกรงใจขนาดนั้น?"ฉันหัวเราะ "งั้นหลังจากนั้นหากอยากให้ฉันช่วยอะไร ก็มาหาฉันได้ ฉันขอตัวก่อน""อืม"เขาพยักหน้า จนฉันเดินเข้าไปในตึก ก็ได้ยินเสียงรถเคลื่อนตัวออกไปฉันกลับมาถึงบ้านของเจียงไหล ขนาดไฟยังไม่อยากเปิด ฉ
ฉันเดาว่าคนที่คุยกับเจียงไหลคือเฮ่อถิงความโมโหของเจียงไหลยังระบายออกมาไม่หมด"อ๋อ ใช่สิ ฟู่จินอันเป็นผู้หญิงท้อง! หรวนหร่วนเป็นไอรอนแมนฟันแทงไม่เข้า หัวใจของเธอบอบช้ำมานานแล้ว พวกนายทำไมยังทำร้ายหัวใจของเธออีก""อ้าว ได้สิ หวังว่าจากนี้ฟู่ฉีชวนจะไม่เสียใจแล้วกัน""ถ้าลูกหลานในครอบครัวพึ่งพาคนนอกให้ช่วย จากนี้ถ้าเขาเสียใจก็สมควรแล้ว""ไปให้พ้น อย่าหวังว่าฉันจะช่วยเขาพูดกับหรวนหร่วน หรวนหร่วนหย่ากับเขา มันก็ไม่ได้หนักหัวฉัน"……ฉันหายใจเข้าลึก ฉันยันพิงกำแพงและนั่งใต้หน้าต่างฉันหยิบมือถือส่งไลน์ไปหาหลินเนี่ยนหลินเนี่ยนตอบกลับในเสี้ยววิ [พี่หนานจือ พี่รู้แล้วสินะ...ใช่ครับ เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสองวันก่อนตอนบ่าย ท่านพ่อของรองประธานฟู่มาที่บริษัท ย้ายผอ.ฟู่ไปทำหน้าที่รองประธาน][ขอโทษด้วย ฉันไม่รู้จะบอกกับเธออย่างไร เธอกับรองประธานฟู่ดีกันอยู่ใช่ไหม...]ฉันอดกลั้นความรู้สึกเจ็บปวดในใจ ขณะกำลังตอบกลับเธอ เจียงไหลจู่ๆ ก็เปิดประตูเข้ามา เธอแสร้งทำเป็นเหมือนไม่ได้เกิดอะไรขึ้นพร้อมกับยิ้มให้ฉัน "หรวนหร่วน เธอทำอะไรอยู่? อยู่บ้านอุดอู้มาสองวันแล้ว ออกไปข้างนอกกันไหม?"ฉันรีบล็อคหน้าจ
ด้วยเหตุนี้ต้นทุนการรักษาผู้ป่วยจึงสูงกว่าโรงพยาบาลรัฐดังนั้น คนที่มาพบแพทย์จึงไม่ได้เยอะมากขณะรอเรียกพบแพทย์ ฉันรู้สึกว่าช่วงล่างมีอะไรไหลออกมา "ไหลไหล เธอช่วยไปซื้อผ้าอนามัยให้หน่อยสิ""เลือดไหลอีกแล้ว?"เจียงไหลตื่นตระหนกลุกจากเก้าอี้ในทันที "ฉันไปซื้อให้ ถ้ามีเรื่องด่วนรีบโทรหาฉัน เข้าใจไหม? ถ้าเธอพบแพทย์เสร็จแล้วฉันยังไม่กลับมา เธอก็นั่งรอฉันอยู่ตรงนี้ อย่าไปไหนล่ะ""อืม"ฉันพยักหน้าอย่างอ่อนแรงก่อนอาการตกเลือด รู้สึกว่าตัวเองไม่ต่างอะไรจากตอนไม่ตั้งครรภ์ เว้นเสียแต่อาการแพ้ท้องตอนนี้ถึงมารู้สึกว่าเหนื่อยจนทนไม่ไหว ไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย"บัตรคิว 36 หร่วนหนานจือ เชิญพบแพทย์ห้อง 3 ค่ะ"ฉันนั่งตรงหน้าห้อง ลุกขึ้นเดินเข้าไปและยื่นผลตรวจให้กับหมอ "หมอคะ รบกวนช่วยดูให้ที วันนี้ฉันจู่ๆ ก็ตกเลือด""ตกเลือด?"หมอก้มมองผลการตรวจ สีหน้าหมอวิตกกังวล จากนั้นก็ง่วนอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ "สองวันก่อนรายงายผลการตรวจของคุณก็ปกติดีไม่ใช่หรอ ทำไมวันนี้ถึงเป็นแบบนี้ ทำไมตกเลือด? คุณทำงานเหนื่อยเกินไปรึเปล่า? หรือทานของช่วยระบายเลือดลมรึเปล่า? หรือว่ามีเพศสัมพันธ์กันรุนแรง ตึงเค
เดิมทีฟู่ฉีชวนท่าทางดูเย็นชาและกำลังกำลังก้่มหน้าเล่นมือถืออยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองทันทีฉันไม่ได้รู้สึกว่าต้องหลบซ่อนและได้แต่กัดฟันเดินสวนออกไปฟู่ฉีชวนสีหน้าชะงักเล็กน้อย เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง "คุณมาโรงพยาบาลได้ไง?"ต่างอย่างสิ้นเชิงกับน้ำเสียงเย็นชาที่พูดกับฟู่จินอันเมื่อครู่หากเป็นเมื่อก่อน เกรงว่าฉันอาจรู้สึกว่าเขายังรักฉันเพราะความคลั่งรักของฉันเองตอนนี้เหลือแค่ความรู้สึกเยาะเย้ยถากถางฉันยังไม่ทันได้พูด ฟู่จินอันก็เหลือบมองรายละเอียดของแพทย์แสดงตรงหน้าห้องตรวจ ทันใดนั้นก็หัวเราะขึ้นมา กล่าวอย่างมีเลศนัย "เธอทำไมถึงมาหาแพทย์เฉพาะทางล่ะ คงไม่ใช่ว่าติดเชื้อ HPV อะไรหรอกใช่ไหม โรคนี้หากไม่มีอะไรกันไม่ได้ป้องกันก็คงจะติดเชื้อ"นางจงใจขึ้นเสียงเพื่อถากถาง ดึงดูดสายตาดูถูกหลายคนหันมามองฉันฉันกลับถอนหายใจ สายตาเหลือบมองป้าย พบว่าอาจเพราะช่วงเปลี่ยนเวรของหมอ ป้ายกำกับหน้าห้องเลยไม่ใช่แพทย์ที่ฉันนัดเข้าพบกว่ารู้สึกตัว แม้ฉันจะมาตรตวจครรภ์ แต่ว่ายังไม่ครบสามเดือนดี เลยได้แต่ต้องมาพบแผนกสูตินรีเวช ไม่ใช่สูติแพทย์ถ้าเป็นแผนกสูติแพทย์ ฉันตอนนี้คงไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้ ฟู่ฉีช
ไม่ไกลนัก เสียงที่ฉันคุ้นหูก็ดังขึ้นมาพ่อสามีฉันสวมแว่นกันแดดสะท้อนฉูดฉาด สวมเสื้อเชิ้ตลายดอก เห็นได้ชัดว่าเพิ่งกกสาวเสร็จกลับมาจากเกาะไหนสักแห่งเป็นหนุ่มเพลย์บอยทั่วไปซึ่งชอบถากถากคนอื่นตั้งแต่หนุ่มยันแก่ตอนนี้แก่แล้ว คงต้องเรียกคุณพ่อเพลย์บอยฟู่จินอันพอเห็นเขา น้ำตานองราวกับต้องหยาดฝนในทันที "คุณพ่อ...ในที่สุดท่านก็มา ฮือๆๆๆ หนูถูกคนอื่นรังแก""ฉีชวนรังแกงั้นรึ?"พ่อสามีฉันถอดแว่นถัดไว้บนหัวและหันไปมองฟู่ฉีชวน "พ่อพูดกับแกเป็นร้อยรอบ ให้แกดูแลจินอันให้ดี ฉันไม่อยู่แค่สองวัน เธอทำไมถึงมาโรงพยาบาล?"……ฉันอดกระวนกระวายใจไม่ได้ อยากอาศัยช่วงเวลานี้ปลีกตัวออกไปพ่อสามีฉันจู่ๆ ก็เห็นว่าฉันอยู่ด้วยพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ "หนานจือ? หนูก็มาด้วยหรอ""คุณพ่อ"เพื่อเป็นมารยาท ฉันเลยกล่าวทักเขาถึงแม้ว่าในสายตาฉัน เขาไม่เหมาะสมจะเป็นพ่อสามีของฟู่ฉีชวนก็ตามพ่อสามีฉันพยักหน้า "พวกเธอสมควรดูแลจินอัน""..."สำหรับฟู่จินอัน ฉันมีเหตุผลหนักแน่นมากพอจะเถียงแต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่ฉันเลยได้แต่พูด "หนูยังมีธุระ งั้นขอตัวก่อน"พอฟู่ฉีชวนได้ยิน เขาก็ผลักฟู่จินอันไปให้พ่อของเขาและกล่าวน้ำเ
ฉันใจหายวาบราวกับว่าไม่กล้าสมตาเขา กลัวว่าหมอจะเผลอปากพูดอะไรออกมาแบบนั้นคงแย่แน่ฉันเลยรีบชิงพูด "หมอคะ เขาวันนี้ไม่ได้มากับฉัน เขามาตรวจครรภ์กับผุ้หญิงอีกคนค่ะ"ฟู่ฉีชวนน้ำเสียงเคร่งขรึม "ผมไม่ได้ตั้งใจมากับผู้หญิงคนนั้น""แต่คุณก็มากับเธอจริงๆ ไม่ใช่หรือไง?"ฉันไม่อยากจมอยู่กับต้นตอสาเหตุในอดีตก็เหมือนกับการไล่ตามจับเมียน้อย ไม่มีใครอยากรู้ว่าสามีทำไมถึงไปมีผู้หญิงอื่น สนแค่ว่าเขาทรยศหักหลังส่วนว่ามีอะไรกันหลังเมา หรือว่าเป็นแผนการวางกันมานาน มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรต่างแปดเปื้อนแล้วก็คือแปดเปื้อน ข้ออ้างถึงแม้จะสวยหรูแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันคือของเสียฟู่ฉีชวนหมดคำจะพูด เขามองอย่างสงสัยและกล่าว "คุณยังไม่ได้บอกผมเลยว่าวันนี้คุณมาทำอะไรที่โรงพยาบาล?""ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอ...""อย่ามาปิดบังผม"เขาพูดตัดบทฉันอย่างไม่ใยดี ราวกับว่าต้องการถามทราบเหตุผลที่แท้จริงหมออัลตราซาวด์ยังไม่ได้ไปไหน "คุณนายฟู่ คุณไม่สบายตรงไหนงั้นหรอ?"พอไม่ได้คำตอบจากฉัน ฟู่ฉีชวนก็หัน ฟู่ฉีชวนก็ปลายหอกไปอีกทาง "หมอครับ ผลตรวจของภรรยาผมวันนั้น มีปัญหาอะไรงั้นหรอครับ?""หมอ..."ฉันเครียด
พอฟังจบ ฉันก็รู้สึกถูกอกถูกใจ ทว่าไม่นานฉันก็เข้าใจเหตุผลเจียงไหลขมวดคิ้วแน่น มองมาที่ฉันอย่างไม่เข้าใจและพูดเสียงเบา "ฟู่ฉีชวนจู่ๆ ก็เป็นคนละคนเลย?""ไม่ใช่หรอก"ฉันมองฟู่จินอันถูกบอดี้การ์ดลากตัวไปและเม้มปากเบาๆ "เขาก้แค่ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจ เลยแค่อยากชดเชย"ก่อนท่านปู่จะจากไป เขาในฐานะหลากรักของท่านปู่กลับไม่ได้อยู่ข้างกาย อีกทั้งยังทำให้ท่านปู่โมโหวันเดียวกันกับที่ท่านปู่เสียเขาจะไม่รู้สึกผิด ไม่เสียใจ ไม่โทษตัวเองได้ไงเพื่อแสดงให้เห็นในตอนสุดท้าย เขาเลือกจะฟังท่านปู่ ให้ฉันเป็นนายหญิงตระกูลฟู่ตลอดไปส่วนสำหรับฉัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยหลังจากพิธีศพของท่านปู่ ฉันกลับไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ช่วยลุงเฉิงจัดเก็บข้าวของของท่านปู่คนรับใช้จัดเก็บให้แล้ว ส่วนที่เหลือจะเป็นพวกเสื้อที่มักใส่ประจำของท่านปู่เสื้อผ้าแต่ละตัวที่ฉันหยิบมา ทำให้รู้สึกเหมือนท่านปู่ไม่ได้ไปไหนขณะฉันเก็บข้าวของ ฉันก็ครุ่นคิดและพูดออกมา "ลุงเฉิง คุณมั่นใจไหมว่าสองวันก่อนในกระเป๋าเสื้อของท่านปู่มียาใส่ไว้จริงๆ?""มีแน่นอนครับ คุณสั่งกับผมเอาไว้ โดยเฉพาะตอนอากาศเปลี่ยน ต้องเตรียมยาไว้ให้คุณท่า
เขากลัวว่าฉันจะแจ้งความอีก เขาเลยไม่ไปบริษัท เลยประชุมออนไลน์ที่ห้องหนังสือแทนฉันถูกเขาเฝ้าเหมือนกับตัวเองนั่งอยู่บนพรมเข็ม ฉันนั่งเหม่อลอยอยู่ในบ้าน……วันต่อมา เป็นงานพิธีศพของท่านปู่ บรรยากาศอึมครึมโศกเศร้าฝนตกลงมาโปรยปราย หอบลมหนาวพัดผ่านลึกถึงใจกลางทรวงส่วนฉันก็ต้องออกจากคฤหาสน์หลังเก่านี้ไปงานกับฟู่ฉีชวน ถูกเขาลากอย่างกับเป็นหุ่นเชิดให้คอยรับแขกภายในงานศพเขาสองวันนี้อารมณ์หงุดหงิดมาก ถึงจะบอกว่านิสัยเปลี่ยนไป แต่เหมือนเผยธาตุแท้ออกมามากกว่าฉันขัดขืนไม่ได้เลยเมื่อคืนฉันพูดกับเขาอีกครั้ง ก่อนท่านปู่จากไปไม่ได้ขอร้องว่าห้ามพวกเราหย่า ก็แค่ห้ามไม่ให้ฟู่จินอันแต่งเข้ามาในตระกูลฟู่เขาไม่เชื่อบอกว่าฉันโกหกส่วนฉันเหนื่อยมาก ไม่มีอารมณ์มาเถียงกับเขาตอนพิธีศพเริ่มขึ้น ฉันสวมเสื้อโค๊ทสีดำ ยืนเงียบๆ อยู่ข้างๆ ฟังบทสวดให้ท่านปู่ไปสู่สุขติเขาอายุ 80 ปี บทสรุปสุดท้ายของชีวิตกลับแสนง่ายดายสองวันก่อนเขายังยิ้มให้กับฉันอยู่เลย ตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงแค่ธุลี"คุณปู่!"ฟู่จินอันจู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในงาน สีหน้าเศร้าสร้อยคุกเข่าตรงหน้าป้ายศพ "คุณปู่...ทำไมท่านถึงจากไปกระทันหัน
วันต่อมา ฉันถูกคนใช้ขวางเอาไว้ตรงหน้าประตูคฤหาสน์หลังเก่า ไม่ให้ฉันออกไปแม้แต่ก้าว ฉันเข้าใจแล้วเมื่อคืน ที่แท้แค่แจ้งให้ฉันทราบฉันรู้ว่านี่คือความคิดของฟู่ฉีชวน ไม่เกี่ยวอะไรกับคนใช้ ฉันเลยได้แต่ถาม "ฟู่ฉีชวนล่ะ?""นายน้อยออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลยค่ะ""ลุงเฉิงกลับมาแล้วหรือยัง?""ยังเจ้าค่ะ ลุงเฉิงกำลังยุ่งกับพิธีศพของคุณท่าน""..."ฉันกล่าวน้ำเสียงเรียบๆ "แล้วถ้าหาก ฉันต้องออกไปข้างนอกตอนนี้ล่ะ?""นายหญิง ท่านออกไปไม่ได้"คนใช้ชี้ออกไปด้านนอกหน้าต่าง บอดี้การ์ดยืนกันอยู่หลายคนฉันอดตกใจไม่ได้สามปีมานี้ นิสัยโกหกของฟู่ฉีชวนยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆบอกกับฉันว่าอยู่ที่นี่แค่คืนเดียว ตอนนี้กลับไม่ให้ฉันออกจากบ้านด้วยซ้ำฉันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา เขาอาจไม่ได้ใจดีเหมือนตอนนั้นที่ส่งฉันไปโรงพยาบาล เขาตอนนั้นระวังดูแลความนับถือในตัวเองของฉัน พยายามคิดหาวิธีเชิญฉันไปทานอาหารระยะแปดปี เพียงพอจะเปลี่ยนให้คนจากอีกคนเป็นอีกคนได้เลยหรอ?ตอนเช้า มือถือมีข้อความไลน์ส่งมามากมาย พวกเขาคงรู้เรื่องการจากไปของท่านปู่ เลยมาปลอบใจฉันเจียงไหล ลู่สือเยี่ยน ทั้งสองคนแตกต่างกันอ
ฉันคิดถึงสิ่งที่ท่านปู่บอกซ้ำไปซ้ำมาก่อนหน้านี้ท่านปู่ไม่ยอมรับให้ฟู่ฉีชวนและฟู่จินอันอยู่ด้วยกัน รู้แค่ว่านางดูเป็นคนซับซ้อน แต่วันนี้...แตกต่างอย่างสิ้นเชิงฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านปู่ขณะรถค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ฉันเปิดประตูลงจากรถเพื่อจะเดิน ฟู่ฉีชวนรีบวิ่งตามฉันมาและคว้าฉันเข้าไปกอดฉันนิ่งไม่ขยับ ศีรษะของเขาซุกเข้ามาตรงไหล่ฉันพร้อมกับกล่าวขอร้อง "หนานจือ อยุ่กับผมคืนนึงได้ไหม""แค่คืนเดียว""ผมขอร้อง"พอได้ฟัง ประวัติผู้ป่วยในแฟ้มสีเหลืองตอนอยู่ในห้องหนังสือเมื่อตอนกลางวันก้ปรากฎขึ้นในหัวฉัน จนฉันรู้สึกเห็นใจ "ได้"บรรยากาศในคฤหาสน์หลังเก่าหนักอึ้งขึ้นอย่างมาก แต่ท่านปู่ไม่อยู่ คฤหาสน์ทั้งหลังกลับดูว่างเปล่าขึ้นมาพอมาถึงห้องนอน ฉันก็ไปอาบน้ำร้อน พอออกมาก้ไม่เห็นฟู่ฉีชวนแล้วจนฉันนอนหลับจนถึงกลางดึก ด้านหลังก็ค่อยๆ มีคนขยับเข้ามาใกล้ ฉันไม่ต้องพลิกตัวก็รู้ว่าเป็นใครไม่รู้ว่าทำไม ท่าทางของฟู่ฉีชวนทุกอย่างในคืนนี้ ฉันกลับรู้สึกได้ถึงความเสียใจ"คุณหลับหรือยัง?"หน้าผากของเขาแนบกับหัวของฉัน พร้อมกับถามอย่างเแผ่วเบาฉันไม่ตอบ และก็ไม่ได้ขยับ ไม่นานนัก
เดิมคิดว่า ท่านคงอยากจะบอกให้ฉันอย่าหย่ากับฟู่ฉีชวนแต่ว่า ท่านปู่ไม่ได้พูดแบบนั้นฉันสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าชีวิตของท่านปู่ค่อยๆ ริบหรี่ น้ำเสียงอ่อนแรงอย่างที่สุด "ไม่ว่า...ยังไง...ก็อย่าให้ฟู่จินอันแต่งเข้าตระกูลของเรา ปกป้องตระกูลฟู่แทนปู่ด้วย""ค่ะ ท่านปู่..."ฉันใกล้จะทนรับไม่ไหวแล้ว ฉันทั้งร้องไห้และพยักหน้าไม่หยุด "ท่านปู่ ฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านใช่ไหม ไม่งั้นอาการท่านคงไม่กำเริบแบบนี้...""นาง..."แววตาของท่านสะท้อนความเกลียดแค้นและโทสะ จนสุดท้ายท่านก็ถอนหายใจ "หนูจำคำพูดของปู่เอาไว้ให้ดีก็พอ""ค่ะ...หรวนหร่วนจะจำเอาไว้ หนูจะจดจำเอาไว้ทุกคำ"ฉันพูดสะอึกสะอื้น ไม่กล้าถามอีกแม้แต่คำเดียว กลัวว่าท่านปู่จะโมโหอีกทว่าในใจกลับได้ฝังเมล็ดความสงสัยเอาไว้ฟู่จินอันจะต้องพูดอะไรกับท่านปู่แน่นอน"ยัยหนู อย่าเสียใจเลย ดูแลลูกในท้องของหนูให้ดีๆ"ท่านปู่พยายามใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย หันมองและยิ้มให้กับฉัน "เท่านี้ ปู่ก็จะได้ตายตาหลับสักที....""ตี๊ด——"เครื่องตรวจชีพจรส่งเสียงแหลมดังยาว!ฉันมองท่านปู่หลับตาสนิททั้งสองข้างพร้อมกับรอยยิ้มตรงมุมปาก ทันใดนั้นทุกอย่างพังทลายลงมาใ
"ไม่ต้อง..."ฟู่จินอันดึงแขนเสื้อของเขา "ฉันอยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉัน ครู่เดียวก็พอแล้ว ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ งั้นก็ปล่อยให้ฉันทนเจ็บจนตายเถอะ!""งั้นก็ทนเจ็บจะตายไปเลย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเย็นชา แม้เขาจะพูดแบบนั้น แต่ก็ยังรินน้ำอุ่นให้กับเธอพร้อมกับพูดห้วนๆ "ดื่มน้ำอุ่นมากๆ"ฟู่จินอันไม่พอใจ "น้ำอุ่นไม่ได้ช่วยให้หายปวด"ฉันถูกเขากระแทกตัวเซ อีกนิดก้เกือบจะล้ม พอเงยหน้าขึ้นก็เห็พวกเขาทำเหมือนเป็นปกติอีกคนเสแสร้ง อีกคนก็พร้อมเชื่อหลังจากท่านปู่ส่งตัวเข้า ICU หมอไม่แนะนำให้เข้าเยี่ยม เพื่อจะพิจารณาสุขภาพของคุณท่านพวกเราเลยได้แต่ยืนอยู่หน้าประตู มองเข้าไปด้านในโดยมีเพียงแค่กระจกกั้นท่านปู่ซึ่งมักเมตตาและอัธยาศัยดี ตอนนี้กลับต้องพึ่งหน้ากากออกซิเจนหายใจ ฉันเสียใจอยากมากเกินกว่าจะบรรยาทันใดนั้น ฉันก็เห็นท่านปู่เหมือนขยับนิ้วมือฉันดีใจจนหันไปหาลุงเฉิง "ลุงเฉิง ท่านปู่ขยับนิ้วใช่ไหม?""ใช่ ใช่ครับ! คุณไม่ได้ตาฝาด ตอนนี้กำลังขยับนิ้ว"ลุงเฉิงตื่นเต้นมากเดิมทีไม่รู้ว่าท่านปู่จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่คาดคิดว่าจะฟื้นได้สติเร็วขนาดนี้ฉันทั้งตื่นเต้นและดีใจ รีบร้อนรีบออกไปตามหมอ ก้า
"ผิดปกติ..."ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติฟู่ฉีชวนถามต่อ "ตรงไหนผิดปกติ?"ฉันครุ่นคิดอย่างสงสัย "ท่านปู่ปกติตอนอาการกำเริบจะต้องทานยาทันที ปกติอาการจะทุเลาลง ทำไมครั้งนี้ถึงหมดสติไปเลย?""ใช่ครับ แต่ก่อนคุณท่านตอนมาตรวจสุขภาพ ผมสังเกตเห็นกระเป๋าเสื้อคุณท่านจะเตรียมยาไว้ตลอด แต่สถานการณ์วันนี้ หากท่านทานยาได้ทันเวลา อาการคงไม่สาหัส" ผอ.กล่าวฉันเหลือบมองฟู่ฉีชวน "ฟู่จินอันล่ะ?""เธอพักอยู่ในห้องผู้ป่วย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเคร่งขรึมหลังจากตอบ จากนั้นก็กล่าวอย่างมั่นใจ "คุณสงสัยเธอหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก แม้นิสัยเธอจะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่เธอก็เป็นคนจิตใจดี อีกอย่างเธอก็เชื่อฟังคุณปู่ตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้า"พอฉันฟังจบ ฉันกลับรู้สึกโมโหอย่างควบคุมไม่ได้เป็นครั้งแรกคนจิตใจดี คงไม่พยายามมาตอแยแย่งผัวชาวบ้านหรอกแต่ว่าคงไม่มีใครไปปลุกฟู่จินอันที่แกล้งหลับหรอก ตรงจุดนี้ฉันเข้าใจดีขี้เกียจจะไปเถียงอะไรกับเขา ฉันหันไปหาผอ. "เสื้อผ้าตอนท่านปู่มาถึงโรงพยาบาลยังอยู่ไหมคะ? รบกวนช่วยดูให้ฉันทีว่ากระเป๋าเสื้อมียารึเปล่า""ได้ครับ"ผอ.รีบสั่งให้แพทย์ด้านหลังไปตรวจดูเสื้อผ้าผานไปอึดใจหมอก็เดินกลับม
"แล้วฟู่จินอันล่ะ?"ฉันปัดมือเขาออกพร้อมกับสะอึกสะอื้นถามท่านปู่หมดสติตอนอยู่กับฟู่จินอัน ฟู่จินอันทำไมถึงไม่อยู่นี่?พอฉันถาม เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นตรงทางเดิน ดูกระวนกระวายชัดเจน ฟู่จินอันวิ่งพรวดเข้ามา ทำท่าตกใจ "อาชวน ท่านปู่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ฉันขอโทษ ตรงนั้นฉันเรียกรถไม่ได้เลย ฉันเลยมาช้า..."ฉันพูดขัดในทันที "ท่านปู่ทำไมถึงหมดสติ?"ฟู่จินอันเผยสีหน้าวิตกกังวลจากนั้นก็พูด "ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ จู่ๆ ท่านปู่ก็หายใจหอบขึ้นมาแล้วก็หมดสติไป""จู่ๆ ก็เป็นแบบนี้เลยหรอ? เธอไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นหรอ?" ฉันไม่เชื่อนางสองปีมานี้ ท่านปู่ดูแลสุขภาพตัวเองดีมาก ตรวจสุขภาพตรงตตามนัดขนาดตอนเขาลงมือทำร้ายฟู่ฉีชวนก็ยังไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งไม่มีทางจะล้มป่วยอย่างไม่มีสาเหตุ"เธอหมายความว่าไง? หนานจือ หรือว่าเธอสงสัยว่าฉันทำให้ท่านปู่โมโหจนล้มป่วยงั้นเหรอ?"ฟู่จินอันสีหน้าสับสน ทันใดนั้นเธอก็กุมท้อง หันไปมองฟู่ฉีชวนอย่างเจ็บปวด "อาชวน ฉันเจ็บท้อง..."ฟู่ฉีชวนสีหน้าสงสัย "เจ็บท้อง?""อืม!"พอเห็นฟู่จินอันตอบกลับเขาอย่างมั่นใจ เขาก็รีบอุ้มนางขึ้นมาและรีบเดินออกไป "หมอครับ! เธอต
ท่านปู่มองได้เฉียบขาด ฉันก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและพยักหน้า "ใช่ค่ะ"ท่านปู่ยกมือขึ้นมา เป็นสัญญาณบอกให้ลุงเฉิงอาของบางอย่างเข้ามา มันเป็นแฟ้มประวัติผู้ป่วยสีเหลืองฉันรับเอามาอ่านดู หัวใจก็เหมือนถูกมือล่องหนข้างหนึ่งบีบรัดเอาไว้ฟู่ฉีชวนตอนเด็กไปพบแพทย์โรคหัวใจหลายครั้ง...ฉันเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ ราวกลับไม่เชื่อเรื่องนี้เขาผู้เป็นเหมือนลูกคนโปรด กลับกลายเป็นผู้ป่วยประจำของแผนกโรคหัวใจผ่านไปนานกว่าฉันจะขมวดความคิดของตนเองได้จนฉันเผลอกัดริมฝีปาก "เขา เข้าทำไมถึง..."พอลองคิดอีกด้าน ก็รู้สึกว่ามีเค้าลางเสียแม่มาตั้งแต่เกิด พ่อเขาเองทำให้ครอบครัววุ่นวายจนบ้านแตกเพราะผู้หญิงอื่นแค่คนเดียว อีกทั้งยังเอาแต่รักลูกต่างแม่เขาจะมีปัญหาสภาพจิตใจก็เป็นเรื่องปกติ"หลายปีมานี้ ปู่ก็เคยคิดว่าควรจะบอกเขาดีไหม"ท่านปู่ถอนหายใจ แววตาของคนผ่านโลกมานานก็ดูเฉียบคมขึ้นมาทันที "ทว่ายังไงก็ต้องมีสักวันที่เขาจะต้องรู้ ปิดบังเขาไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก"……ฉันออกมาจากบ้านตระกูลฟู่ด้วยอารมณ์ซับซ้อน บนถนนขณะกลับบ้าน ตาข้างขวาก็กระตุกไม่หยุดปกติฉันไม่เชื่อเรื่องโชคลางพวกนี้ ทว่าวันนี้ฉันรู้สึกอึดอั