เดิมทีฟู่ฉีชวนท่าทางดูเย็นชาและกำลังกำลังก้่มหน้าเล่นมือถืออยู่ก็เงยหน้าขึ้นมามองทันทีฉันไม่ได้รู้สึกว่าต้องหลบซ่อนและได้แต่กัดฟันเดินสวนออกไปฟู่ฉีชวนสีหน้าชะงักเล็กน้อย เอ่ยถามอย่างเป็นห่วง "คุณมาโรงพยาบาลได้ไง?"ต่างอย่างสิ้นเชิงกับน้ำเสียงเย็นชาที่พูดกับฟู่จินอันเมื่อครู่หากเป็นเมื่อก่อน เกรงว่าฉันอาจรู้สึกว่าเขายังรักฉันเพราะความคลั่งรักของฉันเองตอนนี้เหลือแค่ความรู้สึกเยาะเย้ยถากถางฉันยังไม่ทันได้พูด ฟู่จินอันก็เหลือบมองรายละเอียดของแพทย์แสดงตรงหน้าห้องตรวจ ทันใดนั้นก็หัวเราะขึ้นมา กล่าวอย่างมีเลศนัย "เธอทำไมถึงมาหาแพทย์เฉพาะทางล่ะ คงไม่ใช่ว่าติดเชื้อ HPV อะไรหรอกใช่ไหม โรคนี้หากไม่มีอะไรกันไม่ได้ป้องกันก็คงจะติดเชื้อ"นางจงใจขึ้นเสียงเพื่อถากถาง ดึงดูดสายตาดูถูกหลายคนหันมามองฉันฉันกลับถอนหายใจ สายตาเหลือบมองป้าย พบว่าอาจเพราะช่วงเปลี่ยนเวรของหมอ ป้ายกำกับหน้าห้องเลยไม่ใช่แพทย์ที่ฉันนัดเข้าพบกว่ารู้สึกตัว แม้ฉันจะมาตรตวจครรภ์ แต่ว่ายังไม่ครบสามเดือนดี เลยได้แต่ต้องมาพบแผนกสูตินรีเวช ไม่ใช่สูติแพทย์ถ้าเป็นแผนกสูติแพทย์ ฉันตอนนี้คงไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้ ฟู่ฉีช
ไม่ไกลนัก เสียงที่ฉันคุ้นหูก็ดังขึ้นมาพ่อสามีฉันสวมแว่นกันแดดสะท้อนฉูดฉาด สวมเสื้อเชิ้ตลายดอก เห็นได้ชัดว่าเพิ่งกกสาวเสร็จกลับมาจากเกาะไหนสักแห่งเป็นหนุ่มเพลย์บอยทั่วไปซึ่งชอบถากถากคนอื่นตั้งแต่หนุ่มยันแก่ตอนนี้แก่แล้ว คงต้องเรียกคุณพ่อเพลย์บอยฟู่จินอันพอเห็นเขา น้ำตานองราวกับต้องหยาดฝนในทันที "คุณพ่อ...ในที่สุดท่านก็มา ฮือๆๆๆ หนูถูกคนอื่นรังแก""ฉีชวนรังแกงั้นรึ?"พ่อสามีฉันถอดแว่นถัดไว้บนหัวและหันไปมองฟู่ฉีชวน "พ่อพูดกับแกเป็นร้อยรอบ ให้แกดูแลจินอันให้ดี ฉันไม่อยู่แค่สองวัน เธอทำไมถึงมาโรงพยาบาล?"……ฉันอดกระวนกระวายใจไม่ได้ อยากอาศัยช่วงเวลานี้ปลีกตัวออกไปพ่อสามีฉันจู่ๆ ก็เห็นว่าฉันอยู่ด้วยพร้อมกับยิ้มอย่างพอใจ "หนานจือ? หนูก็มาด้วยหรอ""คุณพ่อ"เพื่อเป็นมารยาท ฉันเลยกล่าวทักเขาถึงแม้ว่าในสายตาฉัน เขาไม่เหมาะสมจะเป็นพ่อสามีของฟู่ฉีชวนก็ตามพ่อสามีฉันพยักหน้า "พวกเธอสมควรดูแลจินอัน""..."สำหรับฟู่จินอัน ฉันมีเหตุผลหนักแน่นมากพอจะเถียงแต่เขาก็เป็นผู้ใหญ่ฉันเลยได้แต่พูด "หนูยังมีธุระ งั้นขอตัวก่อน"พอฟู่ฉีชวนได้ยิน เขาก็ผลักฟู่จินอันไปให้พ่อของเขาและกล่าวน้ำเ
ฉันใจหายวาบราวกับว่าไม่กล้าสมตาเขา กลัวว่าหมอจะเผลอปากพูดอะไรออกมาแบบนั้นคงแย่แน่ฉันเลยรีบชิงพูด "หมอคะ เขาวันนี้ไม่ได้มากับฉัน เขามาตรวจครรภ์กับผุ้หญิงอีกคนค่ะ"ฟู่ฉีชวนน้ำเสียงเคร่งขรึม "ผมไม่ได้ตั้งใจมากับผู้หญิงคนนั้น""แต่คุณก็มากับเธอจริงๆ ไม่ใช่หรือไง?"ฉันไม่อยากจมอยู่กับต้นตอสาเหตุในอดีตก็เหมือนกับการไล่ตามจับเมียน้อย ไม่มีใครอยากรู้ว่าสามีทำไมถึงไปมีผู้หญิงอื่น สนแค่ว่าเขาทรยศหักหลังส่วนว่ามีอะไรกันหลังเมา หรือว่าเป็นแผนการวางกันมานาน มันก็ไม่เห็นจะมีอะไรต่างแปดเปื้อนแล้วก็คือแปดเปื้อน ข้ออ้างถึงแม้จะสวยหรูแค่ไหน แต่ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่ามันคือของเสียฟู่ฉีชวนหมดคำจะพูด เขามองอย่างสงสัยและกล่าว "คุณยังไม่ได้บอกผมเลยว่าวันนี้คุณมาทำอะไรที่โรงพยาบาล?""ฉันบอกแล้วไม่ใช่หรอ...""อย่ามาปิดบังผม"เขาพูดตัดบทฉันอย่างไม่ใยดี ราวกับว่าต้องการถามทราบเหตุผลที่แท้จริงหมออัลตราซาวด์ยังไม่ได้ไปไหน "คุณนายฟู่ คุณไม่สบายตรงไหนงั้นหรอ?"พอไม่ได้คำตอบจากฉัน ฟู่ฉีชวนก็หัน ฟู่ฉีชวนก็ปลายหอกไปอีกทาง "หมอครับ ผลตรวจของภรรยาผมวันนั้น มีปัญหาอะไรงั้นหรอครับ?""หมอ..."ฉันเครียด
เขาชะงักเล้กน้อย "เรื่องที่บริษัท คุณ...รู้ด้วยหรอ?""ค่ะ ฉันเพิ่งทราบวันนี้"ฉันอยากจะจกใจยักใหล่เบาๆ แต่พบว่าไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย "ดังนั้นคุณจะไม่เปลี่ยนใจใช่ไหม?"เขาจะทำใจให้ฟู่จินอันเป็นขี้ปากคนอื่นนินทาอีกครั้งได้ยังไงและก็เป็นไปตามคาด สีหน้าเขาเย็นชาเล็กน้อย "เด็กในครรภ์ยังมีความเสี่ยง แม่เด็กไม่ควรได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจ แต่คุณวางใจ พออายุครรภ์ปลอดภัยแล้ว ผมจะไม่ทำให้คุณเสียใจอีก""..."ทำอย่างกับฟังคุณพูดประโยคเดียว แล้วฉันจะใจเย็นได้นับสิบปีฉันอดกลั้นความรู้สึกอยากจะร้องไห้ มองเขาอย่างผิดหวัง "แล้วถ้าฉันท้องล่ะ? แล้วก็สุขภาพของฉันแย่ยิ่งกว่าเธอล่ะ?"ทุกนาทีทุกวินาทีที่ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ฉันรู้สึกเจ็บปวดตรงท้องน้อย รู้สึกชื้นๆ ตรงช่วงล่างแต่สามีฉันกลับบอกกับฉัน คนรักของเธอไม่ควรได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจ ฉันเลยต้องทนเสียใจน้อยใจหมายความว่าสวรรค์ลิขิตให้ฉันต้องเป็นคนเสียใจใช่ไหมฟู่ฉีชวนแน่นิ่งไป จากนั้นก็หัวเราะเบาๆ พร้อมกับกล่าว "ทำไมคุณถึงคิดมโนเหมือนกับเธอ?""อะไรนะ?""นอกจากระยะปลอดภัยแล้ว พวกเรามีครั้งไหนบ้างที่ไม่ได้สวมถุงยางป้องกัน? เป็นไปไม่ได้ท
ฉันนิ่งชะงักไป เผลอหลือบมองฟู่ฉีชวนอย่างไม่รู้ตัวสีหน้าของเขาปกติ แววตาเป็นประกาย เขาประคองแขนของฉันอยู่ ดูไม่เหมือนว่าจะมาจดทะเบียนหย่าเลยจริงๆพื้นภายในห้องโถงกลับแห้งสนิท ฉันค่อยๆ ปัดมือเขาออกและเม้มปาก "ไม่ใช่ค่ะ พวกเรามาทำเรื่องหย่า""หรอ..."พนักงงานคนนั้นรู้สึกแอบเสียดาย "สองคนกว่าจะได้มาเดินเคียงคู่กันไม่ใช่เรื่องง่าย ดูแล้วพวกคุณก็ยังรักกันดี ทำไมถึงมาจดทะเบียนหย่าล่ะ? หย่ากันไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อย่าวู่วามผลีผลาม แตกหักกันไปแล้ว ยากมากจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม"ฉันพรุบสายตามองต่ำ ตอบอย่างไม่มีทางเลือก "คุณคงสลับลำดับผิด เราแตกหักกันไม่ใช่เพราะหย่าร้าง แต่เพราะเราแตกหักกันเลยต้องหย่าร้าง"ถ้าไม่ได้ถูกบีบจนไม่มีทางเลือก จะมีสามีภรรยาสักกี่คู่อยากจะหย่ากันเจ้าหน้าที่คนนั้นขี้เกียจพูดโน้มน้าวต่อ "เห้อ งั้นก็แล้วแต่พวกคุณ ฝนวันนี้ตกหนักมาก คงไม่ค่อยมีคน ช่องบริการตรงนั้นว่างอยู่ ยื่นเรื่องช่องไหนก็ได้""ค่ะ ขอบคุณ"หลังจากฉันกล่าวขอบคุณ ฉันเดินเข้าไปหาและนั่งลงตรงช่องบริการที่ใกล้ที่สุด "สวัสดีค่ะ มาทำเรื่องหย่า""เอกสารเอามาด้วยรึเปล่า?""เอามาค่ะ"ฉันเอาบัตรประจำตัวประชา
เขาดูนิ่งไปเล็กน้อย "คุณรู้ได้ยังไง?"ชีวิตคู่เดินมาถึงปลายทาง ไม่มีอะไรต้องอายแล้ว ฉันเลยตอบไปตามตรง "วันนั้น คุณกับท่านปู่คุยกันในออฟฟิส ฉันอยู่ตรงประตูแล้วได้ยิน ตอนนั้นฉันได้ยินคุณยอมรับกับท่านปู่ คุณบอกไม่ได้รู้สึกอะไรกับฉันแล้ว อันที่จริง การแต่งครั้งนี้ อาจจะเป็นความผิดพลาดตั้งแต่แรก""ไม่ใช่แบบนั้น"เขาปฏิเสธในทันที คิ้วขมวดนึกย้อนกลับไปและพูดอธิบาย "ผมตอบสัญญาไปไม่ใช่เรื่องนี้ คุณเข้าใจผิดแล้ว..."ฉันไม่รีบร้อนโต้แย้ง ฉันมองเขาและกล่าวอย่างเรียบเฉย "งั้นคุณเคยรักฉันบ้างไหม?""..."ฟู่ฉีชวนช็อกไปครู่หนึ่ง คำถามนี้สำหรับเขาแล้วมันยากมากจริงๆ "หนานจือ...""ไม่ต้องอธิบาย มันยิ่งทำให้ฉันดูน่าสงสาร"ฉันหัวเราะเหมือนไม่รู้ร้อนรู้หนาว "คุณให้ฉินเจ๋อเอาสัญญาฉบับนั้นมาส่งเถอะ อนาคตคุณคงแต่งงานกับคนอื่น ฉันถือหุ้นไว้คงจะไม่เหมาะ..."เขาจู่ๆ ก็เสียงพูดขัดขึ้นมา กล่าวชัดถ้อยชัดคำ "ผมจะไปแต่งงานอีก"แววตาของฉันสั่นไหว "นั่น...มันเป็นเรื่องของคุณ เอาเป็นว่า ฉันไม่เหมาะจะถือหุ้นนี้ไว้"ฉันคิดว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนตัดใจปล่อยวางง่ายถึงอย่างไรก็เป็นคนรักมาหลายปี หย่ากันไปแล้ว ไม่สมคว
"กลัวผมเสียใจภายหลังหรอ?"น้ำเสียงเขาดูกลุ้มใจ "แต่ว่า ผมกลัวคุณจะเห็นผมเป็นคนแปลกหน้ามากกว่า"รอบๆ อากาศหนาว ทว่าอ้อมกอดของเขากลับอบอุ่นเหมือนวันเก่าๆคำพูดของเขา ทำเอาฉีันแน่นิ่งกว่าฉันจะรู้สึกตัว เขาก็เปิดประตูรถให้ฉันแล้ว หลังจากฉันขึ้นรถ ฉันก็ขับออกมาโดยไม่แม้หันกลับไปมองห่างเพียงสายฝนกั้น ฉันเหลือบเห็นแผ่นหลังสูงกว้างของเขาถูกฝนสาดไปจนทั่วหัวใจราวกับถูกมดนับสิบล้านตัวกัดกิน รู้สึกว่างเปล่าขึ้นเรื่อยๆที่แท้ การจบชีวิตสมรสมันก็ช่างแสนง่ายดายเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง มาที่อำเภอ ยื่นเอกสารแล้วก็เซ็นหลังนี้อีกเดือน ก็แค่มาอีกรอบ ทั้งสองก็จะบรรลุเป้าหมายร่วม ได้ใบสำคัญหย่าป้ายแดงเหมือนกับใบสมรสทั้งหมดทั้งมวลก็จะขาดออกจากันชีวิตร่วมหมอนนอนเสื่อ ช่วยเหลือเกื้อกูล จะกลายเป็นเพียงความฝันแน่นอนว่าเงื่อนไขคือฟู่ฉีชวนจะต้องรักษาคำพูดพอกลับมาถึงบ้านของเจียงไหล ฉันยังไม่ทันเปิดประตู เจียงไหลก็เปิดออกมาจากในบ้าน"กลับมาแล้วหรอ?""อืม"ฉันยิ้มเบาๆ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นเธอมองฉันเดินเข้ามาในบ้าน เปลี่ยนรองเท้าและพูดกับฉันอย่างระวัง "ฟู่ฉีชวนส่งข้อความาหาฉันแล้ว พวกเธอ...ห
ลุงเฉิงรีบพูด "นายหญิง! รีบกลับมาเถอะครับ คุณท่านโมโหใหญ่แล้ว ทะเลาะกับนายน้อยแล้ว! มีแต่ท่านเขาถึงจะยอมฟัง""อะไรนะ?"ฟังถึงแค่ท่อนประโยคแรก ฉันก็ลุกขึ้นมาแล้ว ฉันคว้าเสื้อคลุมตัวนอกและออกไปทันทีฉันไม่ได้เป็นห่วงฟู่ฉีชวนท่านปู่แม้ไม่ได้มีฟู่ฉีชวนเป็นหลานคนเดียว แต่ถึงกระนั้น คนเจ็บที่สุดก็ยังเป็นเขา หากลงไม้ลงมือ อย่างมากห็แค่หนักเบา คงไม่ถึงกับชีวิตเพียงแต่สุขภาพของท่านปู่ ทางที่ดีไม่ควรให้โมโหอารมณ์เสีย ไม่งั้นอาจเป็นอะไรไป ถ้าไม่จวนตัวจริงๆ คงไม่โทรมา น้ำเสียงลุงเฉิงคงไม่กระวนกระวายขนาดนี้ลุงเฉิงกล่าว "ท่านกลับมาดูเองเถอะครับ!"ไม่ว่าเตรียมใจไว้ยังไง พอไปถึงบ้านของท่านปู่ ฉันถึงกับแน่นิ่งภายในห้องหนังสือ ฟู่ฉีชวนมักดูสง่าสุขุมเหมือนฟ้าหลังฝน ตอนนี้กลับกองอยู่บนพื้น ถูกทุบตีจนลุกขึ้นไม่ไหว ปวดจนเส้นเลือดปูดขึ้นตรงขมับ ใช้มือเกาะตรงขอบโต๊ะน้ำชชาสีดำเพื่อพยุงร่างกาย เพื่อไม่ให้ล้มลงกับพื้นเหนือความคาดหมายกว่านั้นคือฟู่จินอันก็อยู่ด้วยฉันอยากจะเอ่ยปากพูด ทว่าท่านปู่วึ่งมักใจดีกับฉันมาตลอดก็หันมองลุงเฉิงอย่างเย็นชา "แกโทรเรียกหนานจืองั้นเรอะ?""....ครับ"ลุงเฉิงได้แต่
พอฟังจบ ฉันก็รู้สึกถูกอกถูกใจ ทว่าไม่นานฉันก็เข้าใจเหตุผลเจียงไหลขมวดคิ้วแน่น มองมาที่ฉันอย่างไม่เข้าใจและพูดเสียงเบา "ฟู่ฉีชวนจู่ๆ ก็เป็นคนละคนเลย?""ไม่ใช่หรอก"ฉันมองฟู่จินอันถูกบอดี้การ์ดลากตัวไปและเม้มปากเบาๆ "เขาก้แค่ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจ เลยแค่อยากชดเชย"ก่อนท่านปู่จะจากไป เขาในฐานะหลากรักของท่านปู่กลับไม่ได้อยู่ข้างกาย อีกทั้งยังทำให้ท่านปู่โมโหวันเดียวกันกับที่ท่านปู่เสียเขาจะไม่รู้สึกผิด ไม่เสียใจ ไม่โทษตัวเองได้ไงเพื่อแสดงให้เห็นในตอนสุดท้าย เขาเลือกจะฟังท่านปู่ ให้ฉันเป็นนายหญิงตระกูลฟู่ตลอดไปส่วนสำหรับฉัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยหลังจากพิธีศพของท่านปู่ ฉันกลับไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ช่วยลุงเฉิงจัดเก็บข้าวของของท่านปู่คนรับใช้จัดเก็บให้แล้ว ส่วนที่เหลือจะเป็นพวกเสื้อที่มักใส่ประจำของท่านปู่เสื้อผ้าแต่ละตัวที่ฉันหยิบมา ทำให้รู้สึกเหมือนท่านปู่ไม่ได้ไปไหนขณะฉันเก็บข้าวของ ฉันก็ครุ่นคิดและพูดออกมา "ลุงเฉิง คุณมั่นใจไหมว่าสองวันก่อนในกระเป๋าเสื้อของท่านปู่มียาใส่ไว้จริงๆ?""มีแน่นอนครับ คุณสั่งกับผมเอาไว้ โดยเฉพาะตอนอากาศเปลี่ยน ต้องเตรียมยาไว้ให้คุณท่า
เขากลัวว่าฉันจะแจ้งความอีก เขาเลยไม่ไปบริษัท เลยประชุมออนไลน์ที่ห้องหนังสือแทนฉันถูกเขาเฝ้าเหมือนกับตัวเองนั่งอยู่บนพรมเข็ม ฉันนั่งเหม่อลอยอยู่ในบ้าน……วันต่อมา เป็นงานพิธีศพของท่านปู่ บรรยากาศอึมครึมโศกเศร้าฝนตกลงมาโปรยปราย หอบลมหนาวพัดผ่านลึกถึงใจกลางทรวงส่วนฉันก็ต้องออกจากคฤหาสน์หลังเก่านี้ไปงานกับฟู่ฉีชวน ถูกเขาลากอย่างกับเป็นหุ่นเชิดให้คอยรับแขกภายในงานศพเขาสองวันนี้อารมณ์หงุดหงิดมาก ถึงจะบอกว่านิสัยเปลี่ยนไป แต่เหมือนเผยธาตุแท้ออกมามากกว่าฉันขัดขืนไม่ได้เลยเมื่อคืนฉันพูดกับเขาอีกครั้ง ก่อนท่านปู่จากไปไม่ได้ขอร้องว่าห้ามพวกเราหย่า ก็แค่ห้ามไม่ให้ฟู่จินอันแต่งเข้ามาในตระกูลฟู่เขาไม่เชื่อบอกว่าฉันโกหกส่วนฉันเหนื่อยมาก ไม่มีอารมณ์มาเถียงกับเขาตอนพิธีศพเริ่มขึ้น ฉันสวมเสื้อโค๊ทสีดำ ยืนเงียบๆ อยู่ข้างๆ ฟังบทสวดให้ท่านปู่ไปสู่สุขติเขาอายุ 80 ปี บทสรุปสุดท้ายของชีวิตกลับแสนง่ายดายสองวันก่อนเขายังยิ้มให้กับฉันอยู่เลย ตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงแค่ธุลี"คุณปู่!"ฟู่จินอันจู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในงาน สีหน้าเศร้าสร้อยคุกเข่าตรงหน้าป้ายศพ "คุณปู่...ทำไมท่านถึงจากไปกระทันหัน
วันต่อมา ฉันถูกคนใช้ขวางเอาไว้ตรงหน้าประตูคฤหาสน์หลังเก่า ไม่ให้ฉันออกไปแม้แต่ก้าว ฉันเข้าใจแล้วเมื่อคืน ที่แท้แค่แจ้งให้ฉันทราบฉันรู้ว่านี่คือความคิดของฟู่ฉีชวน ไม่เกี่ยวอะไรกับคนใช้ ฉันเลยได้แต่ถาม "ฟู่ฉีชวนล่ะ?""นายน้อยออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลยค่ะ""ลุงเฉิงกลับมาแล้วหรือยัง?""ยังเจ้าค่ะ ลุงเฉิงกำลังยุ่งกับพิธีศพของคุณท่าน""..."ฉันกล่าวน้ำเสียงเรียบๆ "แล้วถ้าหาก ฉันต้องออกไปข้างนอกตอนนี้ล่ะ?""นายหญิง ท่านออกไปไม่ได้"คนใช้ชี้ออกไปด้านนอกหน้าต่าง บอดี้การ์ดยืนกันอยู่หลายคนฉันอดตกใจไม่ได้สามปีมานี้ นิสัยโกหกของฟู่ฉีชวนยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆบอกกับฉันว่าอยู่ที่นี่แค่คืนเดียว ตอนนี้กลับไม่ให้ฉันออกจากบ้านด้วยซ้ำฉันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา เขาอาจไม่ได้ใจดีเหมือนตอนนั้นที่ส่งฉันไปโรงพยาบาล เขาตอนนั้นระวังดูแลความนับถือในตัวเองของฉัน พยายามคิดหาวิธีเชิญฉันไปทานอาหารระยะแปดปี เพียงพอจะเปลี่ยนให้คนจากอีกคนเป็นอีกคนได้เลยหรอ?ตอนเช้า มือถือมีข้อความไลน์ส่งมามากมาย พวกเขาคงรู้เรื่องการจากไปของท่านปู่ เลยมาปลอบใจฉันเจียงไหล ลู่สือเยี่ยน ทั้งสองคนแตกต่างกันอ
ฉันคิดถึงสิ่งที่ท่านปู่บอกซ้ำไปซ้ำมาก่อนหน้านี้ท่านปู่ไม่ยอมรับให้ฟู่ฉีชวนและฟู่จินอันอยู่ด้วยกัน รู้แค่ว่านางดูเป็นคนซับซ้อน แต่วันนี้...แตกต่างอย่างสิ้นเชิงฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านปู่ขณะรถค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ฉันเปิดประตูลงจากรถเพื่อจะเดิน ฟู่ฉีชวนรีบวิ่งตามฉันมาและคว้าฉันเข้าไปกอดฉันนิ่งไม่ขยับ ศีรษะของเขาซุกเข้ามาตรงไหล่ฉันพร้อมกับกล่าวขอร้อง "หนานจือ อยุ่กับผมคืนนึงได้ไหม""แค่คืนเดียว""ผมขอร้อง"พอได้ฟัง ประวัติผู้ป่วยในแฟ้มสีเหลืองตอนอยู่ในห้องหนังสือเมื่อตอนกลางวันก้ปรากฎขึ้นในหัวฉัน จนฉันรู้สึกเห็นใจ "ได้"บรรยากาศในคฤหาสน์หลังเก่าหนักอึ้งขึ้นอย่างมาก แต่ท่านปู่ไม่อยู่ คฤหาสน์ทั้งหลังกลับดูว่างเปล่าขึ้นมาพอมาถึงห้องนอน ฉันก็ไปอาบน้ำร้อน พอออกมาก้ไม่เห็นฟู่ฉีชวนแล้วจนฉันนอนหลับจนถึงกลางดึก ด้านหลังก็ค่อยๆ มีคนขยับเข้ามาใกล้ ฉันไม่ต้องพลิกตัวก็รู้ว่าเป็นใครไม่รู้ว่าทำไม ท่าทางของฟู่ฉีชวนทุกอย่างในคืนนี้ ฉันกลับรู้สึกได้ถึงความเสียใจ"คุณหลับหรือยัง?"หน้าผากของเขาแนบกับหัวของฉัน พร้อมกับถามอย่างเแผ่วเบาฉันไม่ตอบ และก็ไม่ได้ขยับ ไม่นานนัก
เดิมคิดว่า ท่านคงอยากจะบอกให้ฉันอย่าหย่ากับฟู่ฉีชวนแต่ว่า ท่านปู่ไม่ได้พูดแบบนั้นฉันสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าชีวิตของท่านปู่ค่อยๆ ริบหรี่ น้ำเสียงอ่อนแรงอย่างที่สุด "ไม่ว่า...ยังไง...ก็อย่าให้ฟู่จินอันแต่งเข้าตระกูลของเรา ปกป้องตระกูลฟู่แทนปู่ด้วย""ค่ะ ท่านปู่..."ฉันใกล้จะทนรับไม่ไหวแล้ว ฉันทั้งร้องไห้และพยักหน้าไม่หยุด "ท่านปู่ ฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านใช่ไหม ไม่งั้นอาการท่านคงไม่กำเริบแบบนี้...""นาง..."แววตาของท่านสะท้อนความเกลียดแค้นและโทสะ จนสุดท้ายท่านก็ถอนหายใจ "หนูจำคำพูดของปู่เอาไว้ให้ดีก็พอ""ค่ะ...หรวนหร่วนจะจำเอาไว้ หนูจะจดจำเอาไว้ทุกคำ"ฉันพูดสะอึกสะอื้น ไม่กล้าถามอีกแม้แต่คำเดียว กลัวว่าท่านปู่จะโมโหอีกทว่าในใจกลับได้ฝังเมล็ดความสงสัยเอาไว้ฟู่จินอันจะต้องพูดอะไรกับท่านปู่แน่นอน"ยัยหนู อย่าเสียใจเลย ดูแลลูกในท้องของหนูให้ดีๆ"ท่านปู่พยายามใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย หันมองและยิ้มให้กับฉัน "เท่านี้ ปู่ก็จะได้ตายตาหลับสักที....""ตี๊ด——"เครื่องตรวจชีพจรส่งเสียงแหลมดังยาว!ฉันมองท่านปู่หลับตาสนิททั้งสองข้างพร้อมกับรอยยิ้มตรงมุมปาก ทันใดนั้นทุกอย่างพังทลายลงมาใ
"ไม่ต้อง..."ฟู่จินอันดึงแขนเสื้อของเขา "ฉันอยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉัน ครู่เดียวก็พอแล้ว ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ งั้นก็ปล่อยให้ฉันทนเจ็บจนตายเถอะ!""งั้นก็ทนเจ็บจะตายไปเลย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเย็นชา แม้เขาจะพูดแบบนั้น แต่ก็ยังรินน้ำอุ่นให้กับเธอพร้อมกับพูดห้วนๆ "ดื่มน้ำอุ่นมากๆ"ฟู่จินอันไม่พอใจ "น้ำอุ่นไม่ได้ช่วยให้หายปวด"ฉันถูกเขากระแทกตัวเซ อีกนิดก้เกือบจะล้ม พอเงยหน้าขึ้นก็เห็พวกเขาทำเหมือนเป็นปกติอีกคนเสแสร้ง อีกคนก็พร้อมเชื่อหลังจากท่านปู่ส่งตัวเข้า ICU หมอไม่แนะนำให้เข้าเยี่ยม เพื่อจะพิจารณาสุขภาพของคุณท่านพวกเราเลยได้แต่ยืนอยู่หน้าประตู มองเข้าไปด้านในโดยมีเพียงแค่กระจกกั้นท่านปู่ซึ่งมักเมตตาและอัธยาศัยดี ตอนนี้กลับต้องพึ่งหน้ากากออกซิเจนหายใจ ฉันเสียใจอยากมากเกินกว่าจะบรรยาทันใดนั้น ฉันก็เห็นท่านปู่เหมือนขยับนิ้วมือฉันดีใจจนหันไปหาลุงเฉิง "ลุงเฉิง ท่านปู่ขยับนิ้วใช่ไหม?""ใช่ ใช่ครับ! คุณไม่ได้ตาฝาด ตอนนี้กำลังขยับนิ้ว"ลุงเฉิงตื่นเต้นมากเดิมทีไม่รู้ว่าท่านปู่จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่คาดคิดว่าจะฟื้นได้สติเร็วขนาดนี้ฉันทั้งตื่นเต้นและดีใจ รีบร้อนรีบออกไปตามหมอ ก้า
"ผิดปกติ..."ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติฟู่ฉีชวนถามต่อ "ตรงไหนผิดปกติ?"ฉันครุ่นคิดอย่างสงสัย "ท่านปู่ปกติตอนอาการกำเริบจะต้องทานยาทันที ปกติอาการจะทุเลาลง ทำไมครั้งนี้ถึงหมดสติไปเลย?""ใช่ครับ แต่ก่อนคุณท่านตอนมาตรวจสุขภาพ ผมสังเกตเห็นกระเป๋าเสื้อคุณท่านจะเตรียมยาไว้ตลอด แต่สถานการณ์วันนี้ หากท่านทานยาได้ทันเวลา อาการคงไม่สาหัส" ผอ.กล่าวฉันเหลือบมองฟู่ฉีชวน "ฟู่จินอันล่ะ?""เธอพักอยู่ในห้องผู้ป่วย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเคร่งขรึมหลังจากตอบ จากนั้นก็กล่าวอย่างมั่นใจ "คุณสงสัยเธอหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก แม้นิสัยเธอจะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่เธอก็เป็นคนจิตใจดี อีกอย่างเธอก็เชื่อฟังคุณปู่ตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้า"พอฉันฟังจบ ฉันกลับรู้สึกโมโหอย่างควบคุมไม่ได้เป็นครั้งแรกคนจิตใจดี คงไม่พยายามมาตอแยแย่งผัวชาวบ้านหรอกแต่ว่าคงไม่มีใครไปปลุกฟู่จินอันที่แกล้งหลับหรอก ตรงจุดนี้ฉันเข้าใจดีขี้เกียจจะไปเถียงอะไรกับเขา ฉันหันไปหาผอ. "เสื้อผ้าตอนท่านปู่มาถึงโรงพยาบาลยังอยู่ไหมคะ? รบกวนช่วยดูให้ฉันทีว่ากระเป๋าเสื้อมียารึเปล่า""ได้ครับ"ผอ.รีบสั่งให้แพทย์ด้านหลังไปตรวจดูเสื้อผ้าผานไปอึดใจหมอก็เดินกลับม
"แล้วฟู่จินอันล่ะ?"ฉันปัดมือเขาออกพร้อมกับสะอึกสะอื้นถามท่านปู่หมดสติตอนอยู่กับฟู่จินอัน ฟู่จินอันทำไมถึงไม่อยู่นี่?พอฉันถาม เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นตรงทางเดิน ดูกระวนกระวายชัดเจน ฟู่จินอันวิ่งพรวดเข้ามา ทำท่าตกใจ "อาชวน ท่านปู่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ฉันขอโทษ ตรงนั้นฉันเรียกรถไม่ได้เลย ฉันเลยมาช้า..."ฉันพูดขัดในทันที "ท่านปู่ทำไมถึงหมดสติ?"ฟู่จินอันเผยสีหน้าวิตกกังวลจากนั้นก็พูด "ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ จู่ๆ ท่านปู่ก็หายใจหอบขึ้นมาแล้วก็หมดสติไป""จู่ๆ ก็เป็นแบบนี้เลยหรอ? เธอไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นหรอ?" ฉันไม่เชื่อนางสองปีมานี้ ท่านปู่ดูแลสุขภาพตัวเองดีมาก ตรวจสุขภาพตรงตตามนัดขนาดตอนเขาลงมือทำร้ายฟู่ฉีชวนก็ยังไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งไม่มีทางจะล้มป่วยอย่างไม่มีสาเหตุ"เธอหมายความว่าไง? หนานจือ หรือว่าเธอสงสัยว่าฉันทำให้ท่านปู่โมโหจนล้มป่วยงั้นเหรอ?"ฟู่จินอันสีหน้าสับสน ทันใดนั้นเธอก็กุมท้อง หันไปมองฟู่ฉีชวนอย่างเจ็บปวด "อาชวน ฉันเจ็บท้อง..."ฟู่ฉีชวนสีหน้าสงสัย "เจ็บท้อง?""อืม!"พอเห็นฟู่จินอันตอบกลับเขาอย่างมั่นใจ เขาก็รีบอุ้มนางขึ้นมาและรีบเดินออกไป "หมอครับ! เธอต
ท่านปู่มองได้เฉียบขาด ฉันก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและพยักหน้า "ใช่ค่ะ"ท่านปู่ยกมือขึ้นมา เป็นสัญญาณบอกให้ลุงเฉิงอาของบางอย่างเข้ามา มันเป็นแฟ้มประวัติผู้ป่วยสีเหลืองฉันรับเอามาอ่านดู หัวใจก็เหมือนถูกมือล่องหนข้างหนึ่งบีบรัดเอาไว้ฟู่ฉีชวนตอนเด็กไปพบแพทย์โรคหัวใจหลายครั้ง...ฉันเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ ราวกลับไม่เชื่อเรื่องนี้เขาผู้เป็นเหมือนลูกคนโปรด กลับกลายเป็นผู้ป่วยประจำของแผนกโรคหัวใจผ่านไปนานกว่าฉันจะขมวดความคิดของตนเองได้จนฉันเผลอกัดริมฝีปาก "เขา เข้าทำไมถึง..."พอลองคิดอีกด้าน ก็รู้สึกว่ามีเค้าลางเสียแม่มาตั้งแต่เกิด พ่อเขาเองทำให้ครอบครัววุ่นวายจนบ้านแตกเพราะผู้หญิงอื่นแค่คนเดียว อีกทั้งยังเอาแต่รักลูกต่างแม่เขาจะมีปัญหาสภาพจิตใจก็เป็นเรื่องปกติ"หลายปีมานี้ ปู่ก็เคยคิดว่าควรจะบอกเขาดีไหม"ท่านปู่ถอนหายใจ แววตาของคนผ่านโลกมานานก็ดูเฉียบคมขึ้นมาทันที "ทว่ายังไงก็ต้องมีสักวันที่เขาจะต้องรู้ ปิดบังเขาไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก"……ฉันออกมาจากบ้านตระกูลฟู่ด้วยอารมณ์ซับซ้อน บนถนนขณะกลับบ้าน ตาข้างขวาก็กระตุกไม่หยุดปกติฉันไม่เชื่อเรื่องโชคลางพวกนี้ ทว่าวันนี้ฉันรู้สึกอึดอั