ฉันหวังดีแนะนำให้เธอ "ถ้าเธอหวังให้ลูกเธอเป็นลูกในสมรส เธอก็ไปหาฟู่ฉีชวน ให้เขามารีบหย่ากับฉัน เข้าใจไหม?""อย่ามาโวยวายที่นี่ เดี๋ยวเด็กก็แท้งพอดี แบบนั้นเธอคงขาดแต้มต่อในการแต่งเข้าตระกูลฟู่""พาบอสคุณออกไปได้แล้ว"ตอนท้ายฉันหันไปบอกกับผู้ช่วยเธอฟู่จินอันโกรธกระทืบเท้า แต่เธอคงรู้ว่าฉันพูดมีเหตุผล เธอเลยกลับไปอีกอย่างคำแนะนำของฉันได้ผลมากส่วนถ้าถามฉันว่ารู้ได้ไง ก้เพราะตอนบ่ายฉันได้รับสายของฟู่ฉีชวน"คุณไปพูดยั่วโมโหอะไรเธอ?"พอรับสายเขาก็ซักถามฉันฉันหยุดมือทำงาน "ไม่ได้พูดอะไร เธอแค่เร่งฉันให้หย่า ฉันก็เลยให้เธอไปหาคุณ"น้ำเสียงเขาทุ้มเล็กน้อย "คุณไม่ได้บอกให้เธอไปตายหรอ?""..."ใส่ร้ายฉันงั้นหรอฉันไม่แปลกใจฟู่จินอันจะทำแบบนี้ น้ำเสียงฉันเปลี่ยนเป็นนุ่มนวล "ฉันถูกบีบบังคับเลยต้องพูดแบบนั้น เธอด่าฉันว่าเป็นผู้หญิงขายตัวยังจะมีหน้ามาสลอน ตัวซวยทำให้พ่อแม่ต้องตาย ยังบอกด้วยว่าฉันตื้อผู้ชายไม่เลิก เธอจะหาคนมาทำร้ายฉัน..."พูดจบ ฉันก็นึกถึงคำพูดฟู่จินอันก่อนหน้านี้อืม เหมือนฉันก็ไม่ได้พูดมั่วปะ?ดีกว่าเธอกุเรื่องขึ้นมาตั้งเยอะ ฉันก็แค่ใส่สีตีไข่เท่านั้นฟู่ฉีชวนตกต
รอจนให้น้ำเกลือเสร็จ ขณะฉันกลับบ้านพร้อมเธอ ตอนนั้นฟ้าก็มืดสนิทแล้วฉันเป็นห่วงว่าเธอสองวันนี้จะดูแลตัวเองไม่ดี เลยตัดสินใจอยู่ที่บ้านเธอวันต่อมา ตอนทานอาหารเช้า เจียงไหลเหลือบมองฉันลับๆ ล่อๆ หลายครั้งฉันหัวเราะ "มีอะไร?""แค่กๆ ก็คือ คือว่า..."เจียงไหลลังเล ไม่กล้าพูดต่อ เธอทำสีหน้าจริงจัง "ก็คืนที่ฟู่ฉีชวนกินยาปลุกเซ็กส์ จู่ๆ มือถือของเธอก็ดับไป หลังจากนั้นฉันไม่ได้มีโอกาสถามเธอเลย"ฉันไม่เข้าใจ "เธอจะถามอะไร?"เธอเผยรอยยิ้ม เขยิบเข้ามาใกล้พร้อมกับถาม "ได้มีอะไรกันรึเปล่า? โดนยาแบบนั้นเข้าไป เขาคงทั้งอึดทั้งทนมากใช่ไหม?""..."ฉันกำลังกินวุ้นเส้นอยู่ถึงกับสำลัก แม้จะรู้นางมีนิสัยชอบพูดโผงผางไม่หยุดพัก แต่มักโพล่งขึ้นมาไม่ทันตั้งตัวทุกทีฉันสำลักไอหลายครั้ง แกล้งตีหน้าซื่อ "เปล่า ไม่ได้มีอะไรกัน"เธอสะกิดมือฉันหลายครั้งพร้อมสีหน้าสงสัย "ไม่มีอะไรกันจริงเหรอ?""ไม่มีจริงๆ ฉันท้องสามเดือนแล้วนะ จะมีอะไรกันได้ไง?"ฉันเช็ดปากและตอบกลับไปแบบไม่รู้ร้อนรู้หนาวเพียงแต่ พอคิดถึงภาพเหตุการณ์ในคืนนั้น ใบหน้าก็ร้อนผ่าวขึ้นมาเจียงไหลยิ้มมีเลศนัย "แล้วมันยังไงล่ะ ถ้าอยากจะทำ ก็ม
ฉันประหลาดใจ "ทุกคนรู้ไงเธอท้อง?"เรื่องนี้ หากอ้างตามเหตุผลควรจะมีไม่กี่คนที่รู้"ใครจะไปรู้"เจียงไหลยกขาขึ้นมานั่งขัด "หลายคนพร้อมรุมประนามเมียน้อย คาดว่าทางฝั่งเธอคงเผยพิรุธจนเรื่องแดงขึ้นมา""เธอแค่ดูก็พอ อย่าเข้าไปยุ่ง"นางไม่ใช่พระแม่มาโปรดฟู่จินอันกับฟู่ฉีชวนนอกใจทั้งที่แต่งงานอยู่ ต่อให้พวกเขาเป็นใคร โดนด่าแบบนี้ก็ถือว่าสมควรแล้วเพียงแต่ ฟู่ฉีชวนคนนั้นนิสัยแย่มากหากเขาอยากจะปกป้องความถูกต้องให้กับฟู่จินอัน เกรงว่าเจียงไหลคงถูกลากเข้าไปเกี่ยวเจียงไหลเธอตัวคนเดียว การใช้ชีวิตรอดในเมืองเจียงเฉิงได้นับว่าพยายามเต็มที่แล้วคงรับแรงกดดันจากฟู่ฉีชวนไม่ไหวเจียงไหลคลำหูของเธอพร้อมกับตอบไม่คิด "ฉันรู้แล้ว"เธอพูดเร็วจนฉันฟังไม่ชัดหลังจากอื่มท้อง พอเห็นเธอทานยาเสร็จ เธอก็ไปหมกตัวบนโซฟาเล่นเกมส่วนฉันหมอบตรงโต๊ะชาออกแบบผลงานเข้าแข่งขันอย่างทรมานMS ให้เวลาออกแบบกระชั้นชิดมาก ส่วนไอเดียในหัวของฉัน ยังไม่เป็นรูปเป็นร่าง คงต้องรีบคิดตอนบ่าย มือถือซึ่งวางบนโต๊ะอาหารก็ดังขึ้นมาเจียงไหลเหลือบมองชื่อตรงหน้าจอ "เขาโทรหาเธอทำไม?""ไม่รู้"ฉันรับสายด้วยความอยากรู้ ปลายสาย
เจียงไหลอดทนฟังมานาน เธอคว้ามือถือในมือของฉันไป อาการป่วยไม่ได้ทำให้พลังด่าของเธอลดลงเลย"ฟู่จินอัน ถ้าไม่มีกระจก เธอก็ใช้ปัสสาวะตัวเองส่องแทนได้นะ คำว่า 'เมียน้อย' บนหน้าเธอมันกลบไม่มิดแล้ว ไม่เห็นรึไง?""แล้วก็ฟู่ฉีชวน ไอชาติหมาอย่างคุณ...."ฉันได้ยินจนขนลุกชันไปทั้งตัว ปลายสายยังไม่ทันได้ตอบโต้ ฉันก็กระโจนเข้าไปตัดสายทิ้ง!เจียงไหลด่ายังไม่สมใจ เธอยังหงุดหงิดฉุนเฉียว "เธอตัดสายทำไม ฉันจะด่าไอสองผัวเมียนั่นให้ยับเลย!""เธอใจเย็น"ฉันเดิมทีรู้สึกอัดอั้นตันใจ ตอนนี้ใจเย็นลงแล้ว ฉันเทน้ำให้เจียงไหล "อันที่จริง ฟู่ฉีชวนฟังฟู่จินอันบอกก็ดีเหมือนกัน พอหย่าแล้ว ทุกคนจะได้เลิกตึงเครียด"สถานการณ์ของฉันกับฟู่ฉีชวนตอนนี้ การปล่อยอีกฝ่ายไปถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด"เธอรับได้หรอ?"เจียงไหลดื่มน้ำอุ่นไปอึกใหญ่ ยิ่งดื่มก็ยิ่งโมโห "ฉันสนับสนุนให้เธอหย่า แต่ไม่ได้สนับสนุนให้เธอหย่าแบบแพ้หมดรูป เมียน้อยกล้าดียังไงมาเหยียบหัวเมียหลวง ยอมได้ที่ไหน!""ทำไมฉันต้องรับได้หรือรับไม่ได้ดด้วย?"ฉันพิงเบาะพนักโซฟาและยื่นมือกุมท้องของตัวเอง ราวกับรับพลังงานพร้อมกับกล่าวเรียบเฉย "ขอเพียงแค่ลูกปลอดภัย
"อย่าทำทุเรศอุจจาดตา!""เอ๋?"เฮ่อถิงลืมตาขึ้นมอง สีหน้าตกใจ "พี่สะใภ้ ? ! เป็นพี่ได้ไง แค่ก..."จากนั้นก็เกาหัวแก้เขิน "พี่ พี่ก็มาเยี่ยมด้วยเหรอ""อืม ฉันมาขอหอมแก้มเจียงไหล"ฉันแซวเขา จากนั้นก็ชี้ไปที่ตู้รองเท้า "ตามสบายเลยนะ"เห็นท่าทีของเขา เขาคงไม่ได้มาครั้งแรก ไม่จำเป็นต้องหยิบรองเท้าให้เขาพอหันกลับมา ฉันก็ส่งสายตาสงสัยไปให้เจียงไหลเจียงไหลยักใหล่ "ไม่ใช่อย่างที่เะอคิดแน่นอน ฉันยังเป็นผู้หญิงโสดจ๊ะ""พี่สะใภ้ พี่รอฟังข่าวดีของผมได้เลย!"เฮ่อถิงจากท่าทางขวยเขินกลับมาเป็นปกติ เปลี่ยนรองเท้าเสร็จก็ฉีกยิ้มรับไม้พูดต่อจากฉันเจียงไหล "บ้าเอ๊ย นายมาได้ไง?""เธอบอกว่าป่วยไม่ใช่เหรอ ฉันก็มาเยี่ยมเธอไง""มาเยี่ยมมือเปล่าเนี่ยนะ?""เธอบอกฉัน ฉันก็ไม่ทันตั้งตัว เลยไม่ได้ซื้ออะไรติดมือมา เดี๋ยวฉันสั่งตอนนี้เลย"……ฉันขนเอากระดานวาดภาพย้ายเข้าไปในห้องนอน นั่งลงตรงหน้าต่างจดจ่อกับงานอีกครั้งตอนนี้เป็นช่วงปิดเทอมของเด็กอนุบาล ชั้นที่อยู่ไม่สูงนัก เสียงเด็กวิ่งเล่นดังขึ้นมาทำฉันเสียสมาธิอยู่บ่อยๆอดคิดไม่ได้ว่าลูกของฉันเองอนาคตจะเป็นยังไงหากเป็นเด็กผู้ชาย หน้าตาขอเหมือน
ฉันอึ้งเล็กน้อย "ก็อาจจะ"โตเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว อีกทั้งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ การกระทำคำพูดของอีกฝ่าย ใครต่างก็รู้แก่ใจเพียงแต่ สิ่งที่ฉันต้องการไม่ใช่การตบหัวลูบหลังมันน่าเบื่อไม่อาจเข้าใจกันและกันได้ งั้นก็ต่างคนต่างอยู่ นี่คือทางเลือกที่ดีที่สุดวันนี้เราไม่ได้นัดดื่ม แต่นัดเล่นไพ่ตอนไปถึงหน้าห้องวีไอพี ฉันอยากเข้าห้องน้ำ เลยบอกกับเจียงไหล จากนั้นก็เดินไปเข้าห้องน้ำหลังจากจัดการธุระส่วนตัว ขณะเดินออกจากห้องน้ำเลี้ยวตรงมุมก็หันไปเห็นลู่สือเยี่ยนเขาก็บังเอิญเห็นฉันพอดีและเลิกคิ้วยิ้มกล่าว "ผมเห็นแซ่ฟู่กรุ๊ปเสนอรายชื่อเข้าแข่งแล้ว มีคุณอยู่ด้วย ผมรอวันที่เราจะได้ทำงานด้วยกันอยู่นะ"ฉันรู้สึกเกรงใจและยิ้มกลับ "รุ่นพี่ ฉันแค่ได้มีโอกาสเข้าแข่ง ส่วนจะได้หรือไม่..."พูดมาได้ครึ่งนึง มือใหญ่ข้างหนึ่งจู่ๆ ก็โอบวางบนไหล่ฉัน กอดฉันไว้แน่นชายคนนั้นจ้องลู่สือเยี่ยนด้วยแววตาดุดันแข็งกร้าว แสร้งทำเป็นยิ้ม"คุณมีนิสัยชอบร่วมงานกับภรรยาคนอื่นหรอ?""คุณพูดบ้าอะไร?"ฉันถลึงตามองเขา มองลู่สือเยี่ยนอย่างขอโทษ "รุ่นพี่ เขาแค่ล้อเล่น อย่าเอาไปใส่ใจ""ผมล้อเล่นรึเปล่า เรารู้ดีแก่ใจ"
เป็นแบบนี้อีกแล้วพอเถียงแพ้ก็จูบฉันเขาจับปลายคางของฉัน จูบดูดดื่มรุนแรง มือสองข้างลงมาจับเอวฉัน ลูบไล้จนสั่นไปทั้งตัวฉันรู้ดี หากขืนปล่อยให้เขาทำต่อไป ตอนฉันออกไปจากห้องนี้ สภาพฉันคงไปเจอใครไม่ได้แล้วแต่ว่า ทุกอย่างไม่ได้ขึ้นกับฉันเขาเป็นคนจอมบงการ ชอบใช้กำลัง พละกำลังของผู้หญิงกับผู้ชายต่างกันราวฟ้ากับเหวพอขัดขืนสู้ไม่ไหว ฉันก็นึกได้เขาชอบไม้อ่อนไม่ชอบไม้แข็ง เลยได้แต่ก้มหน้าขอร้องเขา "ฟู่ฉีชวน คุณอย่าทำแบบนี้ ไม่งั้นฉันจะไปเจอคนอื่นยังไง...""เจอใคร? ลู่สือเยี่ยน?"เขาทั้งจูบและพูดไปด้วย เสียงที่เล็ดลอดออกมาจากฟันและริมฝีปากช่างเซ็กซี่น่าค้นหามาถึงขนาดนี้แล้ว แน่นอนว่าฉันไม่ได้ขัดขืนเขา ได้แต่ถูกบังคับให้เขาจูบฉัน พยายามหาช่วงโอกาสพูดอธิบาย "ฉัน ฉันกับเขาไม่มีอะไรจริงๆ...ก็แค่การแข่งออกแบบของ MS เลยถึง....อื้อ....""คุณแค่ใช้ประโยชน์เขา?"ความคิดของเขาชัดเจนมาก ฉันได้ยินน้ำเสียงเขาฟังดูไม่ได้หงุดหงิดแล้วต้องรีบหนีออกจากที่นี่ ฉันเลยได้แต่ตามน้ำเขาไป "คุณจะเข้าใจแบบนั้นก็ได้..."เขาค่อยๆ คลายกอด ให้พื้นที่ฉันได้หายใจ แววตาดูอันตรายแต่อ่อนโยน นิ้วโป้งลูบไล้ตรงริมฝี
ที่แท้ฉันก็ไม่ได้คิดไปเอง และฉันก็ไม่ได้เข้าใจผิดแต่แม้กระทั่งสามีฉัน ยังทำเหมือนฉันไม่ควรออกไปเจอใครตลอดความสัมพันธ์นี้ทั้งสงสัยถามถึงความสัมพันธ์ของฉันกับลู่สือเยี่ยนทั้งให้ฉันแอบหลบหลังประตูไม่ให้ออกไปน่าขำสิ้นดี"ไม่ใช่อย่างที่คุณคิด"ฟู่ฉีชวนยื่นมือมาจับใหล่ฉัน ฉันถอยห่างในทันที มองเขาอย่างว่างเปล่า ฉันไม่ได้อยากร้องไห้ แต่เพียงกระพริบตาหยาดน้ำตาก็รินไหล "อย่ามาจับฉัน"อย่ามาจับฉันฉันสับสนมึนงง ในหัวเหลือเพียงความคิดเดียว"หนานจือ คุณอย่าคิดฟุ้งซ่าน ผมแค่หวังว่า...""ปังๆๆ..."เสียงทุบประตูดังขึ้นเป็นไปตามคาด ขัดจังหวะพูดของเขาฟู่จินอันคงเข้าไปโวยวายในห้องวีไอพีทุกห้อง เธอยังไงก็ต้องหาฟู่ฉีชวนและฉันให้เจอไม่งั้นคงไม่ช้าขนาดนี้"กลับบ้านไปรอผม ผมจะอธิบายให้คุณฟัง"ฟู่ฉีชวนก่อนเปิดประตูออกไปก็พูดทิ้งท้ายด้วยเสียงทุ้มฉันตั้งสติได้อีกครั้ง ด้านนอกโวยวายเสียงดังขึ้นมา ประตูถูกปิดอย่างแรงและล็อคไว้ ข้างในออกไปไม่ได้ ด้านนอกก็ผลักเข้ามาไม่ได้ไม่ใช่แค่ฉันที่อยากออกไป แต่คนข้างนอกก็เข้ามาไม่ได้"คุณขวางฉันไว้ทำไม ฉันยังไม่ทำอะไรเลย! อาชวน คุณชอบเธอแล้วใช่ไหม? คุณ
พอฟังจบ ฉันก็รู้สึกถูกอกถูกใจ ทว่าไม่นานฉันก็เข้าใจเหตุผลเจียงไหลขมวดคิ้วแน่น มองมาที่ฉันอย่างไม่เข้าใจและพูดเสียงเบา "ฟู่ฉีชวนจู่ๆ ก็เป็นคนละคนเลย?""ไม่ใช่หรอก"ฉันมองฟู่จินอันถูกบอดี้การ์ดลากตัวไปและเม้มปากเบาๆ "เขาก้แค่ได้รับการกระทบกระเทือนจิตใจ เลยแค่อยากชดเชย"ก่อนท่านปู่จะจากไป เขาในฐานะหลากรักของท่านปู่กลับไม่ได้อยู่ข้างกาย อีกทั้งยังทำให้ท่านปู่โมโหวันเดียวกันกับที่ท่านปู่เสียเขาจะไม่รู้สึกผิด ไม่เสียใจ ไม่โทษตัวเองได้ไงเพื่อแสดงให้เห็นในตอนสุดท้าย เขาเลือกจะฟังท่านปู่ ให้ฉันเป็นนายหญิงตระกูลฟู่ตลอดไปส่วนสำหรับฉัน ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกันเลยหลังจากพิธีศพของท่านปู่ ฉันกลับไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ช่วยลุงเฉิงจัดเก็บข้าวของของท่านปู่คนรับใช้จัดเก็บให้แล้ว ส่วนที่เหลือจะเป็นพวกเสื้อที่มักใส่ประจำของท่านปู่เสื้อผ้าแต่ละตัวที่ฉันหยิบมา ทำให้รู้สึกเหมือนท่านปู่ไม่ได้ไปไหนขณะฉันเก็บข้าวของ ฉันก็ครุ่นคิดและพูดออกมา "ลุงเฉิง คุณมั่นใจไหมว่าสองวันก่อนในกระเป๋าเสื้อของท่านปู่มียาใส่ไว้จริงๆ?""มีแน่นอนครับ คุณสั่งกับผมเอาไว้ โดยเฉพาะตอนอากาศเปลี่ยน ต้องเตรียมยาไว้ให้คุณท่า
เขากลัวว่าฉันจะแจ้งความอีก เขาเลยไม่ไปบริษัท เลยประชุมออนไลน์ที่ห้องหนังสือแทนฉันถูกเขาเฝ้าเหมือนกับตัวเองนั่งอยู่บนพรมเข็ม ฉันนั่งเหม่อลอยอยู่ในบ้าน……วันต่อมา เป็นงานพิธีศพของท่านปู่ บรรยากาศอึมครึมโศกเศร้าฝนตกลงมาโปรยปราย หอบลมหนาวพัดผ่านลึกถึงใจกลางทรวงส่วนฉันก็ต้องออกจากคฤหาสน์หลังเก่านี้ไปงานกับฟู่ฉีชวน ถูกเขาลากอย่างกับเป็นหุ่นเชิดให้คอยรับแขกภายในงานศพเขาสองวันนี้อารมณ์หงุดหงิดมาก ถึงจะบอกว่านิสัยเปลี่ยนไป แต่เหมือนเผยธาตุแท้ออกมามากกว่าฉันขัดขืนไม่ได้เลยเมื่อคืนฉันพูดกับเขาอีกครั้ง ก่อนท่านปู่จากไปไม่ได้ขอร้องว่าห้ามพวกเราหย่า ก็แค่ห้ามไม่ให้ฟู่จินอันแต่งเข้ามาในตระกูลฟู่เขาไม่เชื่อบอกว่าฉันโกหกส่วนฉันเหนื่อยมาก ไม่มีอารมณ์มาเถียงกับเขาตอนพิธีศพเริ่มขึ้น ฉันสวมเสื้อโค๊ทสีดำ ยืนเงียบๆ อยู่ข้างๆ ฟังบทสวดให้ท่านปู่ไปสู่สุขติเขาอายุ 80 ปี บทสรุปสุดท้ายของชีวิตกลับแสนง่ายดายสองวันก่อนเขายังยิ้มให้กับฉันอยู่เลย ตอนนี้กลับกลายเป็นเพียงแค่ธุลี"คุณปู่!"ฟู่จินอันจู่ๆ ก็โผล่เข้ามาในงาน สีหน้าเศร้าสร้อยคุกเข่าตรงหน้าป้ายศพ "คุณปู่...ทำไมท่านถึงจากไปกระทันหัน
วันต่อมา ฉันถูกคนใช้ขวางเอาไว้ตรงหน้าประตูคฤหาสน์หลังเก่า ไม่ให้ฉันออกไปแม้แต่ก้าว ฉันเข้าใจแล้วเมื่อคืน ที่แท้แค่แจ้งให้ฉันทราบฉันรู้ว่านี่คือความคิดของฟู่ฉีชวน ไม่เกี่ยวอะไรกับคนใช้ ฉันเลยได้แต่ถาม "ฟู่ฉีชวนล่ะ?""นายน้อยออกไปตั้งแต่ฟ้ายังไม่สว่างเลยค่ะ""ลุงเฉิงกลับมาแล้วหรือยัง?""ยังเจ้าค่ะ ลุงเฉิงกำลังยุ่งกับพิธีศพของคุณท่าน""..."ฉันกล่าวน้ำเสียงเรียบๆ "แล้วถ้าหาก ฉันต้องออกไปข้างนอกตอนนี้ล่ะ?""นายหญิง ท่านออกไปไม่ได้"คนใช้ชี้ออกไปด้านนอกหน้าต่าง บอดี้การ์ดยืนกันอยู่หลายคนฉันอดตกใจไม่ได้สามปีมานี้ นิสัยโกหกของฟู่ฉีชวนยังคงเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนจริงๆบอกกับฉันว่าอยู่ที่นี่แค่คืนเดียว ตอนนี้กลับไม่ให้ฉันออกจากบ้านด้วยซ้ำฉันมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา เขาอาจไม่ได้ใจดีเหมือนตอนนั้นที่ส่งฉันไปโรงพยาบาล เขาตอนนั้นระวังดูแลความนับถือในตัวเองของฉัน พยายามคิดหาวิธีเชิญฉันไปทานอาหารระยะแปดปี เพียงพอจะเปลี่ยนให้คนจากอีกคนเป็นอีกคนได้เลยหรอ?ตอนเช้า มือถือมีข้อความไลน์ส่งมามากมาย พวกเขาคงรู้เรื่องการจากไปของท่านปู่ เลยมาปลอบใจฉันเจียงไหล ลู่สือเยี่ยน ทั้งสองคนแตกต่างกันอ
ฉันคิดถึงสิ่งที่ท่านปู่บอกซ้ำไปซ้ำมาก่อนหน้านี้ท่านปู่ไม่ยอมรับให้ฟู่ฉีชวนและฟู่จินอันอยู่ด้วยกัน รู้แค่ว่านางดูเป็นคนซับซ้อน แต่วันนี้...แตกต่างอย่างสิ้นเชิงฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านปู่ขณะรถค่อยๆ เคลื่อนตัวเข้าไปยังคฤหาสน์หลังเก่า ฉันเปิดประตูลงจากรถเพื่อจะเดิน ฟู่ฉีชวนรีบวิ่งตามฉันมาและคว้าฉันเข้าไปกอดฉันนิ่งไม่ขยับ ศีรษะของเขาซุกเข้ามาตรงไหล่ฉันพร้อมกับกล่าวขอร้อง "หนานจือ อยุ่กับผมคืนนึงได้ไหม""แค่คืนเดียว""ผมขอร้อง"พอได้ฟัง ประวัติผู้ป่วยในแฟ้มสีเหลืองตอนอยู่ในห้องหนังสือเมื่อตอนกลางวันก้ปรากฎขึ้นในหัวฉัน จนฉันรู้สึกเห็นใจ "ได้"บรรยากาศในคฤหาสน์หลังเก่าหนักอึ้งขึ้นอย่างมาก แต่ท่านปู่ไม่อยู่ คฤหาสน์ทั้งหลังกลับดูว่างเปล่าขึ้นมาพอมาถึงห้องนอน ฉันก็ไปอาบน้ำร้อน พอออกมาก้ไม่เห็นฟู่ฉีชวนแล้วจนฉันนอนหลับจนถึงกลางดึก ด้านหลังก็ค่อยๆ มีคนขยับเข้ามาใกล้ ฉันไม่ต้องพลิกตัวก็รู้ว่าเป็นใครไม่รู้ว่าทำไม ท่าทางของฟู่ฉีชวนทุกอย่างในคืนนี้ ฉันกลับรู้สึกได้ถึงความเสียใจ"คุณหลับหรือยัง?"หน้าผากของเขาแนบกับหัวของฉัน พร้อมกับถามอย่างเแผ่วเบาฉันไม่ตอบ และก็ไม่ได้ขยับ ไม่นานนัก
เดิมคิดว่า ท่านคงอยากจะบอกให้ฉันอย่าหย่ากับฟู่ฉีชวนแต่ว่า ท่านปู่ไม่ได้พูดแบบนั้นฉันสัมผัสได้อย่างชัดเจน ว่าชีวิตของท่านปู่ค่อยๆ ริบหรี่ น้ำเสียงอ่อนแรงอย่างที่สุด "ไม่ว่า...ยังไง...ก็อย่าให้ฟู่จินอันแต่งเข้าตระกูลของเรา ปกป้องตระกูลฟู่แทนปู่ด้วย""ค่ะ ท่านปู่..."ฉันใกล้จะทนรับไม่ไหวแล้ว ฉันทั้งร้องไห้และพยักหน้าไม่หยุด "ท่านปู่ ฟู่จินอันพูดอะไรกับท่านใช่ไหม ไม่งั้นอาการท่านคงไม่กำเริบแบบนี้...""นาง..."แววตาของท่านสะท้อนความเกลียดแค้นและโทสะ จนสุดท้ายท่านก็ถอนหายใจ "หนูจำคำพูดของปู่เอาไว้ให้ดีก็พอ""ค่ะ...หรวนหร่วนจะจำเอาไว้ หนูจะจดจำเอาไว้ทุกคำ"ฉันพูดสะอึกสะอื้น ไม่กล้าถามอีกแม้แต่คำเดียว กลัวว่าท่านปู่จะโมโหอีกทว่าในใจกลับได้ฝังเมล็ดความสงสัยเอาไว้ฟู่จินอันจะต้องพูดอะไรกับท่านปู่แน่นอน"ยัยหนู อย่าเสียใจเลย ดูแลลูกในท้องของหนูให้ดีๆ"ท่านปู่พยายามใช้ลมหายใจเฮือกสุดท้าย หันมองและยิ้มให้กับฉัน "เท่านี้ ปู่ก็จะได้ตายตาหลับสักที....""ตี๊ด——"เครื่องตรวจชีพจรส่งเสียงแหลมดังยาว!ฉันมองท่านปู่หลับตาสนิททั้งสองข้างพร้อมกับรอยยิ้มตรงมุมปาก ทันใดนั้นทุกอย่างพังทลายลงมาใ
"ไม่ต้อง..."ฟู่จินอันดึงแขนเสื้อของเขา "ฉันอยากให้คุณอยู่เป็นเพื่อนฉัน ครู่เดียวก็พอแล้ว ได้ไหม? ถ้าไม่ได้ งั้นก็ปล่อยให้ฉันทนเจ็บจนตายเถอะ!""งั้นก็ทนเจ็บจะตายไปเลย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเย็นชา แม้เขาจะพูดแบบนั้น แต่ก็ยังรินน้ำอุ่นให้กับเธอพร้อมกับพูดห้วนๆ "ดื่มน้ำอุ่นมากๆ"ฟู่จินอันไม่พอใจ "น้ำอุ่นไม่ได้ช่วยให้หายปวด"ฉันถูกเขากระแทกตัวเซ อีกนิดก้เกือบจะล้ม พอเงยหน้าขึ้นก็เห็พวกเขาทำเหมือนเป็นปกติอีกคนเสแสร้ง อีกคนก็พร้อมเชื่อหลังจากท่านปู่ส่งตัวเข้า ICU หมอไม่แนะนำให้เข้าเยี่ยม เพื่อจะพิจารณาสุขภาพของคุณท่านพวกเราเลยได้แต่ยืนอยู่หน้าประตู มองเข้าไปด้านในโดยมีเพียงแค่กระจกกั้นท่านปู่ซึ่งมักเมตตาและอัธยาศัยดี ตอนนี้กลับต้องพึ่งหน้ากากออกซิเจนหายใจ ฉันเสียใจอยากมากเกินกว่าจะบรรยาทันใดนั้น ฉันก็เห็นท่านปู่เหมือนขยับนิ้วมือฉันดีใจจนหันไปหาลุงเฉิง "ลุงเฉิง ท่านปู่ขยับนิ้วใช่ไหม?""ใช่ ใช่ครับ! คุณไม่ได้ตาฝาด ตอนนี้กำลังขยับนิ้ว"ลุงเฉิงตื่นเต้นมากเดิมทีไม่รู้ว่าท่านปู่จะฟื้นขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่คาดคิดว่าจะฟื้นได้สติเร็วขนาดนี้ฉันทั้งตื่นเต้นและดีใจ รีบร้อนรีบออกไปตามหมอ ก้า
"ผิดปกติ..."ฉันรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติฟู่ฉีชวนถามต่อ "ตรงไหนผิดปกติ?"ฉันครุ่นคิดอย่างสงสัย "ท่านปู่ปกติตอนอาการกำเริบจะต้องทานยาทันที ปกติอาการจะทุเลาลง ทำไมครั้งนี้ถึงหมดสติไปเลย?""ใช่ครับ แต่ก่อนคุณท่านตอนมาตรวจสุขภาพ ผมสังเกตเห็นกระเป๋าเสื้อคุณท่านจะเตรียมยาไว้ตลอด แต่สถานการณ์วันนี้ หากท่านทานยาได้ทันเวลา อาการคงไม่สาหัส" ผอ.กล่าวฉันเหลือบมองฟู่ฉีชวน "ฟู่จินอันล่ะ?""เธอพักอยู่ในห้องผู้ป่วย"ฟู่ฉีชวนสีหน้าเคร่งขรึมหลังจากตอบ จากนั้นก็กล่าวอย่างมั่นใจ "คุณสงสัยเธอหรอ? เป็นไปไม่ได้หรอก แม้นิสัยเธอจะเป็นคนเอาแต่ใจ แต่เธอก็เป็นคนจิตใจดี อีกอย่างเธอก็เชื่อฟังคุณปู่ตลอดเมื่ออยู่ต่อหน้า"พอฉันฟังจบ ฉันกลับรู้สึกโมโหอย่างควบคุมไม่ได้เป็นครั้งแรกคนจิตใจดี คงไม่พยายามมาตอแยแย่งผัวชาวบ้านหรอกแต่ว่าคงไม่มีใครไปปลุกฟู่จินอันที่แกล้งหลับหรอก ตรงจุดนี้ฉันเข้าใจดีขี้เกียจจะไปเถียงอะไรกับเขา ฉันหันไปหาผอ. "เสื้อผ้าตอนท่านปู่มาถึงโรงพยาบาลยังอยู่ไหมคะ? รบกวนช่วยดูให้ฉันทีว่ากระเป๋าเสื้อมียารึเปล่า""ได้ครับ"ผอ.รีบสั่งให้แพทย์ด้านหลังไปตรวจดูเสื้อผ้าผานไปอึดใจหมอก็เดินกลับม
"แล้วฟู่จินอันล่ะ?"ฉันปัดมือเขาออกพร้อมกับสะอึกสะอื้นถามท่านปู่หมดสติตอนอยู่กับฟู่จินอัน ฟู่จินอันทำไมถึงไม่อยู่นี่?พอฉันถาม เสียงรองเท้าส้นสูงก็ดังขึ้นตรงทางเดิน ดูกระวนกระวายชัดเจน ฟู่จินอันวิ่งพรวดเข้ามา ทำท่าตกใจ "อาชวน ท่านปู่ไม่เป็นอะไรใช่ไหม? ฉันขอโทษ ตรงนั้นฉันเรียกรถไม่ได้เลย ฉันเลยมาช้า..."ฉันพูดขัดในทันที "ท่านปู่ทำไมถึงหมดสติ?"ฟู่จินอันเผยสีหน้าวิตกกังวลจากนั้นก็พูด "ฉัน ฉันเองก็ไม่รู้ จู่ๆ ท่านปู่ก็หายใจหอบขึ้นมาแล้วก็หมดสติไป""จู่ๆ ก็เป็นแบบนี้เลยหรอ? เธอไม่ได้พูดอะไร ไม่ได้ทำอะไรเลยงั้นหรอ?" ฉันไม่เชื่อนางสองปีมานี้ ท่านปู่ดูแลสุขภาพตัวเองดีมาก ตรวจสุขภาพตรงตตามนัดขนาดตอนเขาลงมือทำร้ายฟู่ฉีชวนก็ยังไม่เป็นอะไรเลย ยิ่งไม่มีทางจะล้มป่วยอย่างไม่มีสาเหตุ"เธอหมายความว่าไง? หนานจือ หรือว่าเธอสงสัยว่าฉันทำให้ท่านปู่โมโหจนล้มป่วยงั้นเหรอ?"ฟู่จินอันสีหน้าสับสน ทันใดนั้นเธอก็กุมท้อง หันไปมองฟู่ฉีชวนอย่างเจ็บปวด "อาชวน ฉันเจ็บท้อง..."ฟู่ฉีชวนสีหน้าสงสัย "เจ็บท้อง?""อืม!"พอเห็นฟู่จินอันตอบกลับเขาอย่างมั่นใจ เขาก็รีบอุ้มนางขึ้นมาและรีบเดินออกไป "หมอครับ! เธอต
ท่านปู่มองได้เฉียบขาด ฉันก็ไม่ลังเลอีกต่อไปและพยักหน้า "ใช่ค่ะ"ท่านปู่ยกมือขึ้นมา เป็นสัญญาณบอกให้ลุงเฉิงอาของบางอย่างเข้ามา มันเป็นแฟ้มประวัติผู้ป่วยสีเหลืองฉันรับเอามาอ่านดู หัวใจก็เหมือนถูกมือล่องหนข้างหนึ่งบีบรัดเอาไว้ฟู่ฉีชวนตอนเด็กไปพบแพทย์โรคหัวใจหลายครั้ง...ฉันเงยหน้าขึ้นมองอย่างช้าๆ ราวกลับไม่เชื่อเรื่องนี้เขาผู้เป็นเหมือนลูกคนโปรด กลับกลายเป็นผู้ป่วยประจำของแผนกโรคหัวใจผ่านไปนานกว่าฉันจะขมวดความคิดของตนเองได้จนฉันเผลอกัดริมฝีปาก "เขา เข้าทำไมถึง..."พอลองคิดอีกด้าน ก็รู้สึกว่ามีเค้าลางเสียแม่มาตั้งแต่เกิด พ่อเขาเองทำให้ครอบครัววุ่นวายจนบ้านแตกเพราะผู้หญิงอื่นแค่คนเดียว อีกทั้งยังเอาแต่รักลูกต่างแม่เขาจะมีปัญหาสภาพจิตใจก็เป็นเรื่องปกติ"หลายปีมานี้ ปู่ก็เคยคิดว่าควรจะบอกเขาดีไหม"ท่านปู่ถอนหายใจ แววตาของคนผ่านโลกมานานก็ดูเฉียบคมขึ้นมาทันที "ทว่ายังไงก็ต้องมีสักวันที่เขาจะต้องรู้ ปิดบังเขาไม่ได้ตลอดชีวิตหรอก"……ฉันออกมาจากบ้านตระกูลฟู่ด้วยอารมณ์ซับซ้อน บนถนนขณะกลับบ้าน ตาข้างขวาก็กระตุกไม่หยุดปกติฉันไม่เชื่อเรื่องโชคลางพวกนี้ ทว่าวันนี้ฉันรู้สึกอึดอั