Share

บทที่ 116

Author: เล่อเอิน
ฟู่ฉีชวน!

ดวงตาสีอำพันของลู่สือเยี่ยนมองสบเข้ากับสายตาของเขาโดยตรง คนหนึ่งอ่อนโยนนุ่มนวลราวกับหยก อีกคนเคร่งขึมเย็นยา

ทันใดนั้นทำให้ฉันรู้สึกตึงเครียด

ราวกับว่าพวกเขาไม่ใช่เพื่อนที่โตมาด้วยกัน แต่คือคนทั้งสองที่ยืนเผชิญหน้ากัน

พอฉันไตร่ตรองดูก็พบว่าหลังจากลู่สือเยี่ยนกลับมาจากต่างประเทศ ฟู่ฉีชวนกับเขาก็ดูต่างไปจากสมัยในรั้วมหาลัย

ฟู่ฉีชวนเข้าใจผิดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของฉันกับลู่สือเยี่ยน ส่วนเหตุผลของลู่สือเยี่ยนล่ะ คืออะไร

เพียงแต่ นี่คงเป็นเรื่องระหว่างพวกเขา คงไม่เหมาะถ้าฉันละลาบละล้วง

ขาสูงเรียวของฟู่ฉีชวนเดินเข้ามา ฉันรู้สึกกดดันถึงขีดสุด เขาเหลือบมองเสื้อที่คลุมบนตัวของฉันและกล่าวอย่างถากถาง "สนิทกันขนาดนี้เลยหรอ?"

"เทียบพวกคุณไม่ได้หรอก"

ฉันพูดอย่างเย็นชาโดยแทบไม่ต้องคิด

ตั้งแต่เกิดเรื่องเมื่อวานจนถึงตอนนี้ ทุกประโยคที่เขาพูด ทุกสิ่งที่เขาทำ ทุกสิ่งล้วนเป็นการบั่นทอนความสัมพันธ์อันน้อยนิดที่เหลืออยู่ระหว่างเรา

สมองฉันคิดทบทวนนับครั้งไม่ถ้วน ตอนนั้นถ้าเขาเข้ามาคว้าฉันไว้ ฉันคงอาจจะไม่ต้องเสียลูกไป

แต่เขากลับไม่ทำ แม้ว่าจะห่างกันเพียงแค่เอื้อมมือ เรื่องจนถึงตอนนี้ ถ้า
Locked Chapter
Continue Reading on GoodNovel
Scan code to download App
Comments (1)
goodnovel comment avatar
Applejack
โอ้ย ถ้าสามีจะขนาดนี้แต่งงานใหม่กับรุ่นพี่เถอะ ดู eq จะฉลาดกว่าเยอะ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 117

    "ขอโทษที ผมเองก็ทราบมาโดยไม่ได้ตั้งใจ"เขาขอโทษอย่างนุ่มนวล จากนั้นก็อธิบายเหตุผลสาเหตุคือเจียงไหลโพสต์ว่าฉันเกิดอุบัติเหตุรถชนเข้าจนแอดมิทอยู่โรงพยาบาล เขาถามเลขห้องพักผู้ป่วย เตรียมจะมาเยี่ยมคืนนี้แต่วันนี้พอมาถึงโรงพยาบาล เขาก็บังเอิญได้ยินพยาบาลคุยกัน นอกจากบาดเจ็บทั้งตัวยังต้องมาแท้งลูกอีก ไม่คิดว่าจะออกจากโรงพยาบาลในวันนั้นฉันเม้มริมฝีปากเบาๆ "งั้นคุณกับเขาชกต่อยกัน...""ก็แค่โมโหหัวเสีย"ลู่สือเยี่ยนขับพาฉันไปส่งอย่างสบายอารมณ์ เขาหันมามองฉันด้วยแววตาอันอ่อนโยน "คุณล่ะ สองวันนี้สบายดีไหม?""จะว่ายังไงดี"ฉันพรุบสายตาลงพร้อมกับจู่ๆ ก็หลุดปากพูดออกไป "เมื่อก่อนตอนที่ชอบเขา ฉันหวังว่าชีวิตแต่งงานจะสมบูรณ์ ต่อมาพอตั้งท้อง วันๆ ก็เอาแต่เฝ้ารอให้ลูกมาเกิดบนโลกไวๆ เพื่อจะได้เป็นสายใยและครอบครัวเพียงหนึ่งเดียวของฉัน แต่ตอนนี้..."ฉันยิ้มอย่างขมขื่น "ไม่รู้ว่าจะยังมีอะไรมีค่าพอจะให้ฉันได้ระลึกถึงอีก"ทุกอย่างล้วนไร้ความหมายมือขวาของฉันกุมไปที่ท้องน้อย ในอนาคตอันใกล้ ตรงนี้จะไม่มีเจ้าตัวน้อยเรียกฉันว่า "แม่" ด้วยเสียงอ้อแอ้อีกแล้วลู่สือเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที เขาจอดร

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 118

    "อืม...ฉันรู้แล้ว!"ดวงตาฉันร้อนผ่าว พอเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นดาวดวงหนึ่งสว่างมาก รู้สึกราวกับสามารถหลุดออกมาจากความรู้สึกที่แตกสลายได้ทุกเมื่อในทันทีลู่สือเยี่ยนหยิบทิชชู่ออกมาให้ฉัน "ร้องเลย ร้องวันนี้ให้จบ แล้วอย่าร้องไห้อีก เวลาแบบนี้ร้องไห้บ่อยจะมีผลต่อดวงตา"เขาไม่ได้ให้ฉันอยู่บนภูเขานานนักและพาฉันมาส่งที่เขตเมืองหลังจากฉันลังเลอยู่พักก็ลองหยั่งเชิงถาม "รุ่นพี่ ผู้หญิงที่พี่ชอบมาหลายปี คงจะเป็นผู้หญิงที่ดีมากๆ เลยใช่ไหม?""ครับ"เขาพยักหน้าอย่างไม่ลังเลและดวงตาอันอ่อนโยน "เธอก็คือเด็กผู้หญิงที่ผมเพิ่งเล่าให้คุณฟังไป"ฉันอดตกใจไม่ได้ "ถ้างั้น...ก็หลายปีแล้ว""ครับ 20 ปีได้แล้ว"เขาพูดออกมาตรงๆแม้จะพูดอย่างจริงใจ ทว่าเป็นความชอบที่หยั่งรากลึกจนถอนไม่ขึ้นฉันส่งเสียงอุทานและไม่ได้พูดอะไรอีก พอใกล้ถึงชั้นล่างของคอนโดเจียงไหล ฉันก็พูดขอบคุณกับเขาเบาๆ "วันนี้ขอบคุณมาก"อันที่จริง ตอนหัวค่ำที่เขาถามฉันว่าป่วยรึเปล่า ฉันลังเลอยู่พักหนึ่งแต่ตอนนี้ ฉันอารมณ์ดีขึ้นมากแล้วเขาเลิกคิ้ว "สัญญาอะไรกับผมไว้ จำได้ไหม?""เรื่องอื่นอาจไม่ต้องขอบคุณ แต่เรื่องวันนี้ต้องขอบคุณจริงๆ""

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 119

    ฉันรู้ว่าเขาไม่ได้ล้อเล่นและก็ไม่อยากให้เขาขึ้นมารบกวนเจียงไหลด้วย เลยได้แต่รับปาก "รู้แล้ว"ก่อนลงมา เจียงไหลกับลู่สือเยี่ยนทำเหมือนกันเลย เธอเอาเสื้อโค้ทมาคลุมให้กับฉัน แล้วก็ยังเอาหมวกมาสวมบนหัวให้ฉัน"อย่าหาว่าฉันโอเวอร์"เจียงไหลจิ้มหัวฉันเบาๆ "ในเน็ทบอกช่วงนี้ลมหนาวกำลังพัดผ่าน เดี๋ยวจะปวดหัว""อืมๆๆ เธอดีกับฉันที่สุดเลย"เธอหวังดีกับฉัน ฉันหลังจากรับพูดหับเธอก็เปลี่ยนรองเท้าและเดินลงมาจากตึกพอเห็นฉันเดินออกมาจากตึกคอนโด แววตาของฟู่ฉีชวนก็ลึกล้ำ "ทำไมสวมเยอะขนาดนี้ ไม่สบายหรอ?""เป็นห่วงฉันแล้วหรอ ?"ฉันพบว่าไม่สามารถจะพูดกับเขาดีๆ ได้อีกแล้วต่อให้เขาจะเป็นห่วงฉันจริงๆ ต่อให้เขาไม่รู้ว่าฉันท้อง เมื่อวานก็ควรถามสักหน่อยว่าฉันเป็นไงบ้างไม่ว่าจะรุนแรงหรือเล็กน้อย แต่ฉันก็ถูกรถชนมาฟู่ฉีชวน "เธอต้องพูดจาแดกดันแบบนี้ด้วยหรอ?"ฉันไม่อยากต่อความยาวสาวความยืด เลยพูดเข้าประเด็น "เรียกฉันลงมามีธุระอะไร?"ดึกดื่นขนาดนี้ ฉันไม่ได้มีอารมณ์มาถกเถียงเรื่องไร้สาระกับเขาเขาขมวดคิ้ว "ทำไมคุณไม่รอผม?""..."สายตาเย็นชาของฉันมองสบสายตาเขา "ทำไมฉันต้องรอคุณด้วย?"ส่วนฉันก็รู้สึ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 120

    ฉันเกือบจะพูดประโยคนี้ออกมา แต่ว่าฉันฝืนที่จะไม่พูดพูดออกมาก็ไม่มีประโยชน์ฉันเผยอยิ้มมุมปาก "คุณช่างจิตใจสูงส่งเหมือนกับเหลยเฟิงตอนมีชีวิตอยู่เลย เดือนหน้าฉันขอไหว้วานคุณช่วยฉันสักเรื่องได้ไหม?""ว่ามาสิ"ฉันกล่าวอย่างเรียบเฉย "ไปเอาใบสำคัญหย่ากับฉันที"แรงที่จับข้อมือของฉันแน่นเหมือนกับโซ่กุญแจมือ ฉันสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นตรงปลายนิ้วของเขา จากนั้นก็ยังคงดึงดันโดยไม่พูดอะไรผ่านไปนาน ประตูลิฟต์ได้เปิดออก คู่สามีภรรยาที่รักใครก็เดินสวนออกมาฟู่ฉีชวนเหม่อลอยไปเสี้ยววิ ฉันอาศัยจังหวะดึงข้อมือออกและเดินเข้าไปในลิฟต์ฉันกดปุ่มปิดประตูลิฟต์ ขณะประตูลิฟต์กำลังปิด ฉันก็รู้สึกผ่อนคลายอย่างไม่เคยมีมาก่อนการแยกทางคือตัวเลือกที่ดีที่สุดคงต้องแยกทาง……คืนนั้น ไม่รู้ว่าเพราะข้อสรุปของเรื่องเดินมาถึงจุดสิ้นสุด หรือว่าเพราะฉันเหนื่อยเกินไป ฉันหลับไปจนถึงเก้าโมงกว่าขนาดตอนเจียงไหลไปทำงาน ฉันก็ยังไม่รู้สึกตัวตื่นภายในหม้อหุงข้าว เป็นโจ๊กหมูไข่เยี่ยวม้าที่เจียงไหลตั้งเวลาทำอาหารเอาไว้ฉันทานไปสองชาม ไม่รู้ว่าความอยากอาหารของตัวเองดีขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ ทันใดนั้นก็ฉุกคิดได้ จริงสิ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 121

    แต่เพราะว่าเขาเป็นลุงเขยของฉัน!เขาใช้ความเป็นลุงเขยของฉันพูดจาส่งเดชต่อหน้าฟู่ฉีชวน!"พี่ครับ พี่พูดแบบนี้ มันหักหามน้ำใจกันเกินไปแล้ว"หลินเฟิงเอาเมล็กทานตะวันที่ยังทานไม่เสร็จใส่ถุง ทำน้ำเสียงเหมือนเข้าใจทุกอย่าว "ผมรู้ครับ พี่เขยนอกใจใช่ไหมล่ะ? ผมเมื่อกี้ไปเจอมาแล้ว ผู้หญิงคนนั้นขี้เหล่กว่าพี่มาก หน้าตาเหมือนพวกอินฟลู พี่ก็ให้พี่เขยได้สนุกสักพัก พอเบื่อเดี๋ยวก็กลับมาเอง"เรื่องนอกใจในสายตาของผู้ชายที่ไม่มีศีลธรรม ก็เหมือนเป็นเรื่องไม่หนักหนาอะไรฉันพยายามข่มไฟความโกรธเอาไว้ "ฉันบอกแล้ว เรื่องนี้พวกคุณไม่จำเป็นต้องเข้ามายุ่ง ฟังเข้าใจไหม?""เข้าใจแล้ว“หลินกั๋วอันคือตัวอย่างของคนเลวที่แก่ตัวลงซึ่งเป็นหัวข้อในโลกออนไลน์ เขายิ้มโชว์ฟันเหลืองจากการสูบบุหรี่จัด เรียกร้องจากฉันสูงเกินไป "ถ้าไม่อยากให้ฉันไปพบรองประธานฟู่ งั้นเธอหลังจากนี้ก็ต้องให้เงินฉันสามหมื่นทุกเดือน และก็จัดการเรื่องตำแหน่งงานให้หลินเฟิงด้วย ฉันถึงจะไม่ยื่นมือเข้าไปยุ่ง""ลุงไม่ปล้นเลยล่ะ"ฉันระงับอารมณ์ไว้ไม่อยู่ "ลุงฟังให้ดี หลังจากนี้หนูจะไม่ให้ลุงสักแดงเดียว""ฉันจะไปศาลฟ้องแก! ไม่จ่ายค่าเลี้ยงดูคนแก่

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 122

    ชายร่างสูงในชุดสูทรสีเข้ม สีหน้าเย็นชาเคร่งขรึม แววตาเรียบเฉย รู้สึกถึงแรงกดดันมหาศาล มีออร่าของผู้มีอำนาจมาตั้งแต่เกิดฉันตกใจเล็กน้อยเห็นหลินกั๋วอันหยุดบ่นในทันที ไม่มีพฤติกรรมหยาบกระด้างเมื่อครู่แม้แต่น้อย เขาถูมือและปั้นหน้าเดินเข้าไปหาฟู่ฉีชวนค้อมตัวหัวเราะ "รองประธานฟู่ ท่านมาได้ยังไง? ผมกำลังสั่งสอนหลานสาวอยู่พอดี"ศักดิ์ศรีของฉันเหมือนถูกหลินกั๋วอันเหยียบไว้ใต้เท้า แม้เราจะเดินมาถึงขั้นที่ต้องหย่าร้างกันแล้ว แต่ฉันก็ไม่อยากให้ฟู่ฉีชวนเห็นด้านสมเพชของฉันหรือจะพูดว่าญาติผู้น่าสมเพชดี"คุณออกไปเถอะ เรื่องนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ"ฉันผลักฟู่ฉีชวนออกไปนอกห้องฉันไม่อยากให้ลุงเขยสอดมือมายุ่งเรื่องระหว่างฉันกับเขา ขณะเดียวกัน ฉันก็ไม่ได้หวังให้เขามายุ่งเรื่องสกปรก"แกกลัวแล้วหรอ?"หลินกั๋วอันบืนขวางตรงประตูพร้อมกับพูดตะคอดเสียงดัง "กลัวว่าหลานเขยฉันจะรู้ว่าแกเป็นคนเนรคุณแค่ไหนงั้นหรอ?"ฉันโมโหจนหมดคำจะพูดยังไม่ทันได้พูดอะไร เขาก็เริ่มตำหนิอ้างเหตุผลวาทกรรม "ไม่โทษคุณหรอกที่ไปหาความสุขทางอื่น อันที่จริงหลานสาวฉันก็ไม่ได้รู้ประสาเลย ไม่เคยเอาใจใส่! อารมณ์เสียยิ่งกว่าอะไร คนอ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 123

    ฟังจบ หลินกั๋วอันก็หน้าเปลี่ยนสี ดูลำบากใจอย่างมาก "คือ...คือว่า...คนบ้านเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องคิดถี่ถ้วนขนาดนั้นเลย?"ฟู่ฉีชวนท่าทางผ่อนคลายและพูดปลอบเขาอย่างจริงจัง "จำเป็นสิครับ คุณลุง บุญคุณควรตอบแทน ไม่ต้องเกรงใจครับ ตัดเรื่องเงินที่เธอส่งให้ช่วงไม่กี่ปีนี้ออกไป พวกคุณเลี้ยงดูเธอมาจนเติบใหญ่ อย่างน้อยก็ต้องมีสักห้าหมื่นหยวน งั้นผมก็ควรตอบแทนคืนสักห้าสิบล้าน""ประเด็นคือ..."หลินกั๋วอันสีหน้ากระอักกระอ่วน หน้าแดงขึ้นมาในตอนสุดท้าย "ประเด็นคือผ่านไปหลายปีแล้ว ครับ คงคิดตีเป็นตัวเลขชัดๆ ไม่ได้หรอก?""ไม่ยากครับ พวกคุณถือบัตรธนาคารอะไรไว้? ผมแค่โทรศัพท์คุยไม่กี่นาทีก็ทราบแล้ว" ฟู่ฉีชวนทำท่าเอามือถือออกมาหลินกั๋วอันตกใจจนคุกเข่ากับพื้นตรงนั้นและพยายามพูดหลายครั้ง "ท่านรองประธานฟู่ อย่าตรวจสอบเลย อย่าตรวจสอบเลยครับ!"เขากลัวฟู่ฉีชวนจะตรวจสอบพบว่าเขาปฏิบัติกับฉันอย่างกดขี่ แบบนั้นเขาก็จะซวยสภาพน่าสมเพชแบบนั้น เหลือจะเชื่อเลยจริงๆ"ทำไม?"ฟู่ฉีชวนเลิกคิ้วขึ้นเบาๆ และถามอย่างไม่เข้าใจ "คุณลุงบอกว่าหนานจือเนรคุณไม่ใช่หรอ? พวกเราอยากจะตอบแทนบุณคุณคืนให้เป็นทวีคูน คุณลุงไม่เอาแล้วห

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 124

    น้ำเสียงเรียบเฉย ทว่ากับแฝงไปด้วยความเย็นเยือกอันน่าขนลุกราวกับว่าขอแค่หลินกั๋วอันกล้าลงมือ เขาก็จะหักแขนของหลินกั๋วอันนี่เหมือนกับเป็นครั้งแรกที่ฉันรู้สึกได้ถึงการถูกปกป้องจากเขาเพียงแต่ มันสายเกินไปหน่อยก็เท่านั้น ในใจไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวหลินกั๋วอันขยับแขนของเขาและพบว่าชายอกสามศอกอย่างเขากลับพบว่าแขนของเขาในมือของฟู่ฉีชวนขยับไม่ได้เลยแม้แต่น้อย เขาอดตัวสั่นไม่ได้และรีบอธิบาย"รองประธานฟู่ ไม่ได้ตั้งใจ ผมไม่ได้ตั้งใจ!"คุณป้าเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย "หนานจือ..."ฉันอยากจะสั่งสอนหลินกั๋วอัน แต่คุณป้าป่วยอยู่ในภาพนี้ คงไม่เหมาะฉันเลยคว้าแขนของฟู่ฉีชวน "พอเถอะ ปล่อยเขาไป"ฟู่ฉีชวนตัวหัวเสีย เขามักจะไม่ฟังใครง่ายๆ เขาเหลือบมองหลินกั๋วอันอย่างสงสัย "ถ้าคุณแตะต้องเธอ ผมจะตัดมือคุณทิ้งซะ เข้าใจไหม?""เข้า เข้าใจแล้วครับ! ผมไม่กล้าแล้ว...คุณวางใจได้เลย!"หลินกั๋วอันสีหน้าซีดเผือดและรีบรับปากเขาจนกระทั่งฟู่ฉีชวนสะบัดแขนเขาออกไป ฉันก็หันมองหลินกั๋วอันอย่างเหนื่อยหน่าย"ค่ารักษาของคุณป้า ฉันได้จ่ายในส่วนที่ควรจ่ายให้ไปแล้ว ส่วนเรื่องอื่น คุณลุงเลิกหวังเถอะ""แก..."แ

Latest chapter

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 340

    สีหน้าของเขากลายเป็นเคร่งขรึม และเสียงของเขาที่ฟังดูแหบแห้งและหยาบกระด้าง "ฉันให้หุ้นแก่คุณเพื่อให้คุณใช้ชีวิตได้ดีขึ้น ไม่ใช่เพื่อให้คุณมาต่อรองกับฉัน""ประธานฟู่ คุณเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย?""......"เขาเยาะเย้ยและพูดอย่างเย็นชา "งั้นคุณก็ลองดูสิ ฉันจะฆ่าใครก็ตามที่คุณขายให้ ถ้าคุณอยากทำร้ายใครก็เชิญเลย""......"เขายังคงหวาดระแวงอย่างมาก เกือบจะเหมือนโรคจิตในเรื่องของการข่มขู่ คือการแข่งขันกันว่าใครจะยอมทำสิ่งที่ต่ำที่สุดมากกว่ากันฉันไม่สามารถเปรียบเทียบกับเขาได้ พูดมากเกินไปก็ไร้ประโยชน์ฉันกัดฟันแล้วเดินไปหาเจียงไหลเจียงไหลและเฉินเย่กำลังคุยกันเรื่องทั่วไปบางอย่างเมื่อเห็นฉันมา เจียงไหลยกริมฝีปากแดงของเธอไปทางเฉินเย่และพูดว่า "คุณเฉิน ฉันจะเชิญคุณไปทานอาหารเย็นเมื่อฉันกลับไปเมืองเจียงเฉิงหลังตรุษจีน""ได้"เฉินเย่พยักหน้าเล็กน้อยหลังจากทักทายเขาแล้ว ฉันก็ไปกับเจียงไหล"ประธานหร่วน!"เฉินเย่หยุดฉันไว้ทันที ก่อนจะเปิดปากถามอย่างระมัดระวังว่า: "คุณและพี่ชวนต้องหย่ากัน มันเกี่ยวข้องกับการลักพาตัวและการหมั้นหมายของเขากับเสิ่นซิงหยูหรือเปล่า?"ฉันพูดตามตรงว่า "ใช่ แ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 339

    ฉันเงียบไปและพูดเบาๆ ว่า "ทำไมฉันถึงไม่รู้มาก่อนว่าคุณมีความอดทนสูงขนาดนั้น"คืนนั้น ฉันจูบโจวฟางต่อหน้าเขาแม้ว่าฉันจะเมามากเกินไป แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริงๆด้วยบุคลิกของเขา แบบที่ยอมให้ตัวเองทำผิดกฎได้แต่ห้ามคนอื่น เขาน่าจะหยุดมองมาทางฉันนานแล้วทันทีที่ฉันพูดจบ เสียงที่ดังขึ้นกลับไม่ใช่เสียงของฟู่ฉีชวน แต่เป็นเสียงที่มาจากทางกลางห้องจัดงานเลี้ยงเสิ่นชิงหลี่เปลี่ยนเสื้อผ้าและสวมชุดสีขาวล้วนสุดหรู เธอถือไมโครโฟนไว้ตรงกลางห้อง ดูขี้อายเล็กน้อย แต่ดวงตาสีเช้มของเธอกลับเปล่งประกายด้วยความมุ่งมั่นในขณะที่เธอจ้องไปที่ทิศทางหนึ่งโดยเฉพาะทิศทางที่โจวฟางอยู่"ตลอดหลายปีที่ผ่านมาตั้งแต่ฉัน จากอ้อมอกของคุณย่า คุณพ่อและคุณแม่ไป ฉัน... ฉันต้องทนทุกข์ทรมานมากมาย ทนทุกข์ทรมานจากวิธีที่ผู้คนปฏิบัติต่อฉัน แต่ด้วยช่วงเวลาที่สวยงามที่เหลืออยู่ในความทรงจำ ฉันกัดฟันและอดทนต่อไป"เสียงของเธอสั่นเล็กน้อยขณะที่เธอสะอื้น “แต่ฉันโชคดี ครอบครัวของฉัน… และพี่อาฟางไม่เคยยอมแพ้ในการตามหาฉัน เช้านี้คุณย่าถามฉันว่าความปรารถนาของฉันคืออะไร ตอนนั้น ฉันนึกอะไรไม่ออก เพราะแค่การได้กลับไปยังตระกูลเสิ่นก็ถือเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 338

    "คุณนายเสิ่น"ฟู่ฉีชวนขมวดคิ้วอย่างใจเย็นและพูดด้วยเสียงต่ำ "คุณไม่จำเป็นต้องอธิบายอะไรกับฉันเกี่ยวกับการถอนหมั้น"เพราะนั่นเป็นส่วนหนึ่งของแผนของเขาแม่เสิ่นไม่รู้ว่าเธอไม่เข้าใจจริงๆ หรือว่าเธอจงใจแกล้งทำเป็นสับสน "แน่นอนว่าฉันต้องอธิบาย ทันทีที่คุณได้ยินว่าวันนี้เป็นซิงหยูของเราที่มารับคุณ คุณก็มาพร้อมกับประธานเสิ่นโดยเฉพาะ ฉันเข้าใจแล้ว...."ปากของเฉินเย่กระตุกเมื่อเขาฟัง และเขาไม่สามารถทนขัดจังหวะได้ "ความมั่นใจของคุณนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่ฉันยังต้องแทรกอยู่ดี ประธานฟู่มาที่นี่วันนี้และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับคุณหนูเสิ่นแม้แต่สลึงเดียว โอ้ ไม่ มันไม่เกี่ยวข้องแม้แต่สตางต์เดียว""มันจะไม่เกี่ยวข้องกับซิงหยูได้ยังไง ประธานฟู่าหาครอบครัวเสิ่นของเรา ถ้าไม่ใช่เพราะซิงหยู....."เมื่อพูดไปได้ครึ่งทาง แม่เสิ่นก็คิดได้และสีหน้าของเธอก็มืดมนลง ทันใดนั้นก็มองไปในทิศทางที่ฉันอยู่!ฟู่ฉีชวนก้มตาลงและปรับแขนเสื้อ เสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย "พูดตามตรงนะ คุณนายเสิ่น วันนี้ฉันมาที่นี่เพื่อตามง้อภรรยาของฉัน"เสียงของเขาไม่ได้ดังเป็นพิเศษ แต่ทุกคำก็ตั้งใจทำเพื่อให้ทุกคนรอบข้างได้ยินเขาอย่างชัดเจน

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 337

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ แม่เสิ่นก็กวาดสายตาไปรอบๆ ห้องอย่างรวดเร็ว แล้วก็ล็อกเป้าหมายไปที่คุณพ่อของเสิ่น แล้วดึงเขาออกไปด้วยกันเพื่อไปต้อนรับไม่นาน ก็เกิดความโกลาหลขึ้นจากทางเข้าห้องจัดเลี้ยงเป็นฟู่ฉีชวน เฉินเย่แลตระกูลเสิ่นจำนวนสามคนที่เดินเข้ามาฟู่ฉีชวนสวมเสื้อคลุมสีดำ มีคิ้วกับดวงตาที่สง่างามและเย็นชา ก้าวเดินอย่างมั่นคง และมีรัศมีแห่งอำนาจที่แข็งแกร่งเฉินเย่เหมือนกับครั้งที่แล้ว เมื่อเขาไปที่หนานซี เขาอยู่ห่างจากฟู่ฉีชวนครึ่งก้าว แต่ทั้งสองดูคุ้นเคยกันดีเมื่อมองดูครั้งแรกเมื่อรวมกับสิ่งที่แม่เสิ่นพูดก่อนจะออกไปรับเขาคนที่อยู่ที่นี่ล้วนเป็นจิ้งจอกเจ้าเล่ห์ที่ผ่านโลกมานาน แค่มองแวบเดียวก็เข้าใจทุกอย่างแล้วฟู่ฉีชวนเป็นบอสใหญ่ของRF กรุ๊ปไม่ใช่ใครอื่นฟู่ฉีชวนคือชายคนเดียวกันที่ตระกูลเสิ่นเคยถอนหมั้นด้วยแต่ตอนนี้ ในชั่วพริบตา พวกเขากลับปฏิบัติกับเขาเหมือนแขกผู้มีเกียรติของตระกูลเสิ่นอีกครั้ง ไม่กล้าแสดงความละเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหน ก็ต้องทนต่อไปโดยไม่สามารถแสดงออกมาได้ความสัมพันธ์นี้ ส่งผลให้บรรยากาศก็ตึงเครียดอย่างประหลาด และไม่มีใครกล้าเข้าใกล้และพูดคุยส

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 336

    "ผลตรวจ DNA ออกมาแล้ว"ฉันจนปัญญาเขาพูดอย่างหนักแน่นว่า "ผลตรวจ DNA ต้องมีปัญหาแน่ หร่วนหนานจือ ฉันอาจเข้าใจผิดคิดว่าคนอื่นเป็นเธอ"ฉันรู้ดีว่า "คนอื่น" นั้นหมายถึงฉันจากนั้น เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่สงบ "แต่ฉันจะจำเธอได้เสมอ""......"ฉันเม้มริมฝีปาก "นั่นเป็นเรื่องระหว่างคุณกับตระกูลเสิ่น โจวฟาง เราควรจะรักษาระยะห่างไว้บ้าง"ฉันไม่อยากทำให้ตัวเองเดือดร้อนอีกจริงๆพูดจบ ฉันไม่แม้แต่จะมองสีหน้าของเขา ดึงเจียงไหล แล้วเดินเข้าไปในห้องจัดเลี้ยงทันทีแม้ว่างานเลี้ยงต้อนรับนี้จะจัดขึ้นอย่างกะทันหัน แต่ก็ไม่ได้จัดแบบลวกๆ เลยแสงไฟที่ระยิบระยับและบรรยากาศที่หรูหรา บ่งบอกอย่างชัดเจนว่างานนี้ยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางชนชั้นสูงผู้มั่งคั่งหลังจากรับเครื่องดื่มจากถาดของพนักงานเสิร์ฟ เจียงไหลมองมาที่ฉันด้วยความประหลาดใจ "เธอกลายเป็นคนไร้ความปรานีตั้งแต่เมื่อไหร่?""เจ๊คะ"ฉันยิ้มอย่างช่วยไม่ได้ให้เธอ "แม้แต่คนโง่ที่สุดก็ยังเรียนรู้จากประสบการณ์ นอกจากนี้ สิ่งต่างๆ ก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป""ไม่เหมือนเดิมยังไง?""เมื่อก่อนฉันเคยถลำลึกลงไปแล้ว กว่าจะดึงตัวเองกลับมาได้ มันทั้งยากและเจ็บปวด

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 335

    "แค่ก..."เจียงไหลเห็นว่าฉันยังรับมือได้ แต่เธอเกรงว่าจะทำให้เกิดปัญหากับฉันจึงเงียบอยู่ตลอดในขณะนี้ คำพูดของโจวฟาง ทำให้ฉันอดไม่ได้และสำลักน้ำลายของตัวเองสำหรับฉันแล้ว แม่เสิ่นสามารถพูดจาเหน็บแนมฉันได้แม่ของเสินรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกเมื่ออยู่ต่อหน้าโจวฟางกับคุณย่าโจว เธอไม่สามารถแสดงความไม่พอใจออกมาได้ เพราะต้องระวังมารยาทกับผู้ใหญ่ และทำให้ใบหน้าของเธอแดงก่ำด้วยความหงุดหงิด“ไอ้เด็กเวร!”ไม่ว่าคุณย่าโจวจะตามใจโจวฟางมากเพียงใด เธอก็ยังต้องรักษาภาพลักษณ์เอาไว้ เธอจ้องเขม็งไปที่เขา “ใครสอนให้แกพูดแบบนั้น?”"ก็คุณย่าสอนผมนั่นแหละ"โจวฟางไม่ได้ใส่ใจและพูดว่า "เมื่อคุณเห็นความอยุติธรรม จงยื่นมือเข้ามาช่วย""......"คุณย่าโจวโกรธมากจนจ้องมองเขา แต่เธอไม่สามารถหาคำพูดมาโต้ตอบได้ใครก็ตามที่อยู่ตรงนั้น สามารถได้ยินว่าแม่เสิ่นตั้งใจหาเรื่อง และคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นร้ายกาจเกินไปเสิ่นชิงหลี่ผู้ซึ่งเคยเงียบและขี้อายเสมอมา พูดด้วยน้ำเสียงไร้เดียงสาและเบาบาง เมื่อถึงเวลาที่ต้องหยุดพูดถึงเรื่องนี้"แต่พี่อาฟาง คุณแม่ของฉันก็พูดไม่ผิดนะ เด็กผู้หญิงควรรักษาความบริสุทธิ์และซื่อสั

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 334

    เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าฉันนั้น อันตรายยิ่งกว่าฟู่จินอันที่เคยเจอเสียอีกฉันไม่อยากสร้างปัญหา[ทำไมคุณไม่ไปตรวจ DNA ด้วยล่ะ][หร่วนหนานจือ ตอบฉันหน่อย][หนีอีกแล้วเหรอ?]……บรรยากาศในห้องยังคงดูผ่อนคลายเหมือนเดิม แต่โทรศัพท์ของฉันยังคงส่งเสียงแจ้งเตือนข้อความไม่หยุดฉันขมวดคิ้ว เปลี่ยนการตั้งค่าแชทของโจวฟางเป็นห้ามรบกวนแม้เสิ่นชิงหลี่ที่ยืนอยู่ตรงนี้ แต่เขาก็ยังคิดว่าฉันคือตัวจริงอยู่ดี“คุณหร่วน คุณเพิ่งหย่า แต่โทรศัพท์ของคุณกลับไม่หยุดสั่น”แม่เสิ่นสังเกตเห็นการกระทำของฉัน และพูดด้วยน้ำเสียงที่ประชดประชัน "มูฟออนได้เร็วจริง ๆ เลยนะ"โจวฟางส่งเสียงเฮอะออกมา และกำลังจะระเบิดความโกรธออกมาในทันทีฉันไม่อยากยุ่งกับเขาในตอนนี้ ฉันจึงชิงพูดก่อน "โดยทั่วไปแล้ว ฉันไม่สามารถเทียบกับความเร็วของเสิ่นซิงหยูได้ พอฉันเพิ่งหย่าเสร็จ เธอก็หมั้นหมายกับอดีตสามีของฉันไปแล้ว"“…เธอ!”แม่เสิ่นจ้องฉันอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเธอจงใจจงใจทำให้ฉันอับอายต่อหน้าคนจำนวนมากการใช้คำพูดทำให้ผู้อื่นเจ็บปวด มีใครบ้างที่ทำไม่ได้?คุณย่าโจวสังเกตเห็นบางอย่างและขมวดคิ้ว "หนานจือ งั้นอดีตสามีของเ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 333

    แต่ทำไมฉันต้องรู้สึกผิดด้วยล่ะตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันไม่ได้ทำผิดอะไรเลยด้วยความคิดนี้ ฉันเงยหน้าขึ้นมองไปในทิศทางที่พวกเขาอยู่ หลังจากที่เสิ่นชิงหลี่กระโจนเข้าหาเขา เขาก็ลังเลเล็กน้อย ดูเหมือนไม่สบายใจและกลัวที่จะทำให้เสิ่นชิงหลี่เศร้าเขาจับแขนของเธอแล้วดึงออก เสียงของเขากลับเย็นชาเหมือนเดิม ไม่มีอารมณ์อะไร "วิ่งช้าๆ หน่อย""แต่ฉันคิดถึงคุณนะ"เสิ่นชิงหลี่เงยหน้าขึ้นมองเขา กระพริบตาปริบๆ ใบหน้าซีดขาวและท่าทางเหมือนกระต่ายตัวน้อย "เมื่อวานคุณออกไปแต่เช้า และฉันไม่ได้เจอคุณมาเกือบยี่สิบชั่วโมงแล้ว"นับกระทั่งชั่วโมงฉันรวบรวมความคิด ยิ้มมุมปากเล็กน้อย และเห็นสายตาของโจวฟางจ้องมองมาที่ฉันอีกครั้ง เมื่อเขาเห็นว่าฉันสงบและไม่มีอารมณ์ใดๆ ดูเหมือนจะโกรธเล็กน้อยเขาปล่อยมือของเสิ่นชิงหลี่ แล้วยิ้มกวนๆ ทักทายกับคุณยายทั้งสองก่อน จากนั้นก็นั่งลงบนโซฟาตรงข้ามฉันอย่างขี้เกียจคุณย่าโจวมองเขาด้วยสายตาโกรธเคืองและพูด “ไอ้เด็กเวร ดูแลชิงหลี่ให้ดีกว่านี้ไม่ได้เหรอ เธอเพิ่งกลับมา...”"โอ้ย เธอกำลังพูดอะไรอยู่? ชิงหลี่อยู่ที่บ้านของเธอเอง เธอยังต้องการให้อาฟางดูแลเธออีกเหรอ?"คุณย่าเสิ่นยิ้มตอบ

  • ให้ตายเถอะ โยนอดีตสามีไปข้างหลังคนรักที่มิอาจเอื้อม เขาคลั่งไปแล้ว   บทที่ 332

    ฉันปลอบใจว่า "อาจจะเป็นเพราะเธอค่อนข้างขี้อาย? ในอนาคตยังมีเวลาอีกเยอะ ถ้าได้ใช้เวลาร่วมกันมากขึ้น คงจะดีขึ้นเอง""แต่ฉันรู้สึกเสมอว่ามีบางอย่างผิดปกติ"หญิงชรารู้สึกเสียใจเล็กน้อย “เด็กสาวคนนั้น ตอนเด็กๆ เป็นเด็กที่เอาแต่ใจตัวเอง ไม่ว่าคนคนหนึ่งจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรกลายเป็นคนขี้อายได้ขนาดนี้…”ขณะที่ฉันกำลังจะพูด หญิงชราถอนหายใจและพูดว่า "ไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้ ก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดีอยู่ดี เธอยังอยู่เมืองจิ่งเฉิงอยู่ไหม?"ฉันตอบตามตรง “อืม ฉันยังอยู่ค่ะ”“ดีมากเลย! ฉันจะส่งคนขับรถไปรับเธอ”หญิงชรากล่าวด้วยรอยยิ้ม "คืนนี้ฉันกำลังวางแผนจัดงานเลี้ยงต้อนรับชิงหลี่ และฉันต้องการให้เธอมา ไม่ว่าเธอจะพูดอะไรก็ตาม ฉันกับย่าโจวสวมเสื้อผ้าที่เธอออกแบบให้เราสำหรับช่วงตรุษจีน และหลายคนถามว่าสั่งจากที่ไหน ฉันจะใช้โอกาสนี้แนะนำเธอ สัญญาว่าเธอจะไม่ขาดลูกค้าไปทั้งปี!!"".....ดีจังค่ะ ขอบคุณล่วงหน้า"ฉันลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนตกลงทำข้อตกลงทางธุรกิจตั้งแต่ที่เลือกทำงานออกแบบชุดที่สั่งทำพิเศษแบบนี้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องติดต่อกับคุณหญิงคุณนายจากตระกูลใหญ่ แม้ตอนนี

Scan code to read on App
DMCA.com Protection Status