Share

หญ้าตายฟื้น

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2025-02-12 23:13:21

"พวกท่านทนไหวหรือไม่ ข้าไม่มีสมุนไพรรักษามาเลยพวกท่านต้องรอกลุ่มถัดไปแล้วล่ะ"

ลี่หลินพูดขึ้นพลางเดินไปช่วยพยุงจินเป่าลงมานั่งข้างล่าง ห่าวอู๋อวี่จึงนำสมุนไพรมาอุ่นอีกรอบ เจ้ากระต่ายหยกในร่างเด็กน้อยคายบางสิ่งออกมาและส่งต่อให้ลี่หลิน เพื่อให้เขานำไปป้อนกับกินรีทั้งสอง ลี่หลินก็รับมามันเป็นสมุนไพรชนิดหนึ่ง ที่เป็นเส้นสีเขียวอ่อน นางจึงจับมันใส่ปากของกินรีทั้งสอง เมื่อทั้งสองได้กินสมุนไพรไปแล้วก็รู้สึกถึงพลังภายในที่เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สมุนไพรที่เจ้ากระต่ายหยกให้นั้นเป็นสมุนไพรรักษาภายในเท่านั้น ทำให้ภายนอกของกินรีทั้งสองยังคงมอมแมมอยู่เช่นเดิม แต่สำหรับทั้งสองนั้นก็ดีมากโขแล้วพอเดิมทีพวดเขาเหมือนคนที่กำลังจะหมดลมหายใจเลยรู้สึกข้างในมันปั่นป่วนไปหมด เพราะผลกระทบจากศาสตราวุธเหล่านั้น ไม่นานกลุ่มของซิงอีและจางหยงก็มาถึง พวกเขาบาดเจ็บหนักเลยทีเดียว สถานที่แห่งนี้ประหลาดเลยทีเดียว นางไม่สามารถนำสัตว์อสูรออกมาได้เลย ไม่สามารถสื่อสารกับมันได้ด้วยซ้ำเป็นเพราะเหตุใดกันนะ หากนางเรียกเจ้าจระเข้ตาไฟออกมาช่วยได้ล่ะก็ คงจะไม่เจ็บหนักขนาดนี้ แต่คนที่เจ็บหนักก็คือจางหยง เพราะเขาพยายามที่จะปกป้องนา
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ภาพลวงตา

    "ท่านอาจารย์ทำไมสถานที่แห่งนี้มันดูมีข้อจำกัดมากมายขนาดนี้ ข้าไม่สามารถนำสัตว์อสูรออกมาจากมิติเชื่อมอสูรได้เลย"ซิงอีถามขึ้น"เส้นทางสายนี้มีข้อจำกัดหลายอย่างเลยทีเดียว สัตว์อสูที่อยู่ในมิติแล้วไม่สามารถที่จะออกมาได้ในระหว่างทางที่เราเดิน ส่วนสัตว์ที่อยู่ด้านนอกแล้วจะไม่สามารถเข้าไปหลบซ่อนตัวด้านในได้ในระหว่างทางที่เราเดินในป่านี้ วรยุทธบางประเภทเราก็ไม่สามารถใช้ได้เช่นการเหาะการหายตัว แต่เรายังสามารถใช้พลังในการกระโดดได้ ถ้าพวกเจ้าเข้ามาบ่อยๆก็จะรู้เองและก็จะชินกับมัน ข้าไม่มีสัตว์อสูจึงไม่ได้คิดว่ามันจะเดือดร้อนมากนักที่ไม่มีสัตว์อสูรข้างกายเพราะในเวลาข้ามาข้าก็มาเพียงลำพัง"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น จางซินจึงพยายามเรียกสัตว์อสูรของตนเองบ้างแต่ก็ไร้หนทางเหมือนกัน แต่ยังดีหน่อยที่มีมิติติดกายของนางนั้นยังสามารถใช้การได้อยู่ นางจึงหยิบน้ำอมฤตในกระบอกมายื่นให้กับทุกๆคน"เส้นทางที่เราจะเดินต่อไปนี้ส่วนมากจะเป็นภาพลวงตา ตอนข้าเคยมานั้นมันจะเป็นภาพที่เรารู้สึกปรารถนาที่สุด และเรากลัวที่สุด ข้าเดินทางมาในหลายๆคร้งก็จะพบว่ามันเปลี่ยนแปลงไปในทุกๆครั้ง เราเดินไปเราต้องชนะความปรารถนาของเราและเอาชนะควา

    Last Updated : 2025-02-13
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สัตว์อสูรใต้ท้องทะเล

    หลังจากที่เดินทางมาเป็นเวลาสักพักที่พบเจอกับภาพลวงตาต่างๆนานาที่วนเวียนเข้ามาหาในแต่ละคน แต่พวกเขานั้นก็พยายามที่จะตั้งสติให้ได้ จนในที่สุดภาพลวงตานั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว"ซิงอีทำไมเจ้ามองข้าแปลกๆแล้วตอนที่เจ้าเกิดภาพลวงตานั้น มันเป็นอะไรหรือทำไมเจ้าเรียกชื่อข้าแล้วก็บอกว่าอย่า แล้วก็เรียกจินเป่าด้วยแต่ข้าเองก็ไม่กล้าถามต่อหน้าทุกคน"จางหยงกล่าวถามซิงอีเมื่อตอนที่ไม่มีใครอยู่กับพวกเขา"ที่ท่านเคยรับปากข้าไว้ แม้ว่าเราจะเจอบิดามารดาของพวกเราแล้วท่านจะไม่เปลี่ยนไปจริงๆใช่หรือไม่ อาจจะเป็นเพราะว่าข้าคิดกังวลเรื่องนี้จึงทำให้เกิดภาพลวงตาเรื่องนี้เกิดขึ้นมาแต่มันก็ฝังใจกับข้ายิ่งนัก จึงทำให้ข้ายากที่จะลืมเลือนว่าข้านั้นพบกับภาพลวงตาแบบใด ข้าพบว่าท่านหลอกลวงให้ข้ากับจินเป่าไปมิติเชื่อมจิตแล้วท่านก็ใช้กริชนั้นแทนพวกข้าทั้งสอง"ซิงอีถามขึ้นและเล่าให้เขาฟังว่าเขาพบเจอเรื่องใดบ้าง"จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไรเราก็คุยกันแล้วนี่ว่าข้าจะรักและปกป้องเจ้าตลอดเส้นทางสายนี้ ถึงแม้เราจะอยู่มิติเชื่องจิตแล้ว และหากพบกับมารดาของข้า ข้าก็ยังยืนยันคำเดิมว่าข้าจะช่วยบิดาของเราและมารดาของเจ้ากับจินเป่า"จางห

    Last Updated : 2025-02-15
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เต่ามังกร

    ห่าวอู๋อวี่แหวกสายน้ำทะเลลงไปในน้ำนั้นไม่ได้มีความเป็นน้ำอย่างที่คิดมันไม่ระคายเคืองสายตาเลยสักนิดแถมเขารู้สึกว่าเขาหายใจได้ดังอยู่บนพื้นดินธรรมดาด้วยซ้ำ เมื่อเขาไปเจอก็พบกับกระต่ายหยกของจินเป่าที่ตอนนี้กำลังพ่นน้ำสีเขียวใส่เจ้าเต่ามังกรตัวนึง ซึ่งตัวของทั้งสองก็พอๆกัน แถมสีของมันก็คล้ายๆกันหรือว่าเต่าตัวนี้จะเป็นเต่ามังกรหยกในตำนาน แต่อาจจะไม่ใช่เพราะว่าสีเขียวที่เจ้ากระต่ายพ่นออกไปอาจติดกับเต่ามังกรตัวนั้นก็ได้ เมื่อเต่ามังกรตัวนั้นเห็นผู้บุกรุกมาใหม่จึงผละออกจากการต่อสู้กับกระต่ายหยกนั้น มันคิดแต่ว่าทำไมอยู่ๆเจ้ากระต่ายถึงกระโดดลงมาหามันได้ และก็เข้าต่อสู้กับมันทันทีมันจึงต้องการที่จะสู้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่เมื่อมันเห็นมนุษย์บุกลงมามันก็รู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาแล้ว ที่อยู่ๆจะมีทั้งสัตว์มหาอสูรกับมนุษย์บุกลงมาถึงใต้ท้องทะเลของมัน"พวกมนุษย์กับสัตว์มหาอสูรตนนี้พวกเจ้ามาบุกรุกที่ข้า ด้วยเหตุอันใดข้าอยู่มาเป็นล้านๆปีไม่เคยพบเจอกับมนุษย์ และมหาอสูรแบบพวกเจ้า วันนี้มาถึงถิ่นข้าแล้ว ก็มอบชีวิตให้ข้าเถิด เพราะไม่มีใครผ่านเปลวคลื่นของข้าไปได้หรอก ข้างบนอาจจะมีมนุษย์มากมายแต่มันก็ต้องต

    Last Updated : 2025-02-16
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ไข่มุกลวี่

    เมื่อห่าวอู๋อวี่อุ้มจินเป่ามาวางไว้ข้างต้นไม้ใหญ่แล้ว เขาก็ถ่ายทอดวรยุทธรักษาให้จินเป่าเจ้ากระต่ายหยกจึงเปิดปากจินเป่าออก แล้วใส่อะไรสักอย่างที่เป็นเม็ดกลมๆสีเขียวเข้ม เข้าไปด้านในปากขิงนางและปิดปากพร้อมกับลูบคอให้นางกลืนของชิ้นั้น ไม่นานจินเป่าก็ลืมตาขึ้นมา นางไอ สามครั้งก็รู้สึกถึงวรยุทธ์ที่ไหลเวียนเข้ามาในร่างกาย ซิงอีเห็นก็ดีใจมากที่จินเป่าฟื้น"เจ้าเอาอะไรให้นางกินหรือเจ้าจิ๋ว ทำไมนางกินแล้วถึงขึ้นได้หละ"จางซินถามขึ้น เจ้ากระต่ายลุกไม่ได้กล่าวสิ่งใดมันมองหน้าจังซิมแล้วก็ทำหน้าบูดบึ้งแล้วก็ไปยืนข้างๆซิงอีที่ตอนนี้กำลังใช้ผ้าชุบน้ำอมฤตใบหน้าให้จินเป่าอยู่"เจ้าชู้นี้อารมณ์ไม่ดีง่ายมากเลยนะเจ้าน่ะข้าชอบเจ้าจะตายดูเจ้าทำสีหน้าที่มองข้าเหมือนเจ้าชังค่ามากเสียเหลือเกิน"จางซินกล่าวอีก"มาหาอสูรนั้นไม่ได้ชังมนุษย์หรอกแต่เจ้าก็ชอบไปวุ่นวายกับมันเสียเหลือเกินถามนู่นถามนี่มันให้อะไรจริงเปล่ากินจะไปอยากรู้ทำไมอย่างน้อยมันก็รักสาให้จริงเปล่าดีขึ้นในทันตาและอีกอย่างมันเป็นสัตว์มหาสมนต์ของจริงเปล่ามันไม่สามารถทำร้ายเจ้านายมันได้หรอก"จางหยงพูดขึ้น พลางไปช่วยไป๋อวิ้นดูแผนที่ที่หลิวเหยียนกางออก

    Last Updated : 2025-02-17
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สตรีที่หายตัวไป

    เมื่อจินเป่าเกินไข่มุกลวี่ลงไปแล้วได้พักผ่อนเต็มที่ ตอนนี้ตัวนางนั้นก็ดีขึ้นมากแล้ว ในการเดินทางต่อไปนางไม่จำเป็นจะต้องให้ห่าวอู๋อวี่แบกนางอีกแล้ว จางซินจึงจับชีพจรให้จริงเปล่าก็รู้ว่าภายในของนางนั้นดีขึ้นมากแล้วแต่ก็ยังไม่ได้หายเป็นเปิดทิ้ง"ข้าว่าเจ้าดีมากแล้วนะหรือว่าไข่มุกละวีนั้นรักษาโรคที่เจ้าเป็นได้แล้วแล้วเราก็ไม่ต้องไปหาเขากวางสามร้อยยอดอีกแล้วกระมัง"จางซินกล่าวขึ้น"ไม่หรอกโรคหยินหยางที่จินเป่าเป็นนั้นต้องรักษาด้วยเขากวางสามร้อยยอดเท่านั้น แต่ที่ตอนนี้ยังไม่มีอาการเหนื่อยเหมือนเดิมแล้ว เป็นเพราะว่าตอนนี้ร่างกายมีไข่มุกลวี่อยู่ หากร่างกายนี้ดูดซับไข่มุกลวี่หมดไปแล้วก็จะมีอาการเหมือนเดิมรักษาไม่หายแต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากเพราะฤทธิ์ของไข่มุกลวี่เพียงเท่านั้นเอง"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น ทำให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้นว่าไข่มุกลวี่ดีขนาดไหน ทุกคนจึงออกเดินทางต่อไปทางทิศที่แผนที่บอกว่าจะพบกับต้นไม้กินคนเมื่อเดินต่อไปก็พบกับบรรยากาศที่ต่างไปเล็กน้อยิอากาศเย็นตัวลงจนทำให้เสียวสันหลังไปหมด ถึงแม้จินเป่าจะเดินได้เองแต่เขาก็เดินอยู่ในตำแหน่งกลางเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นได้ทุกมื่อเพราะร่างกายไม่สู้

    Last Updated : 2025-02-18
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นไม้กินคน

    อยู่ดีๆจินเป่าก็รู้สึกวุบขึ้นมา นางไม่ได้มีความเจ็บปวด ถึงแม้ความรู้สึกว่าถูกลากเลย เป็นความรู้สึกวุบอย่างเดียวเท่านั้น แต่อยู่ๆก็เหมือนอยู่ในอะไรสักอย่างที่เป็นสีเขียวๆ จินเป่ามองซ้ายมองขวาก็พบว่าเหมือนตัวเองอยู่ในหม้อปรุงสมุนไพร เหมือนตอนที่นางอยู่เมืองหลวงนั้น แต่สีนั้นกลับแตกต่างกันไป ตรงพื้นด้านล่างที่เป็นเมือกๆเหมือนเป็นสีเขียวเข้มด้านข้างๆเป็นสีเขียวอ่อน นางมองซ้ายมองขวา ก็พบกับบรรยากาศที่เปลี่ยนไป เหมือนกำลังจะครึ้มฟาครึ้มฝน อยู่ดีๆทำไมครึ้มฟ้าครึ้มฝนได้นะ นางจึงมองไปด้านบนก็พบว่าเหมือนมีแผ่นบางๆกลมๆเลื่อนลงมาปิดปากหม้อที่นางยืนอยู่ลักษณะเป็นดังวงกลมแล้วมีหนามแหลมๆอยู่รอบด้าน สีของฝานั้นเป็นสีน้ำตาลอมเขียวลายเหมือนกับพืชชนิดหนึ่ง ที่เธอเคยเห็นในตำรามา มันคือซิวกั่วพืชกินแมลงชนิดหนึ่ง นางกินรีหว่าฮว่าได้เขียนในแผนที่ว่าต้นไม้กินคน ที่แท้เขาไม่รู้ว่ามันไม่ใช่ต้นไม้อย่างเดียว แต่มันมีพืชชนิดนี้ด้วย นางได้แต่ขบคิดว่าคนที่มาด้วยกันนั้นจะถูกลากไปขังอยู่ในซิวกั่วเหมือนนางหรือไม่นะ แม่นางกำลังที่จะหาวิธีออกจากซิวกั่วนี้ นางหยิบกริชออกจากมิติ ซึ่งตอนนี้นางมีพลังพอที่จะเปิดมิติได้ แต่ใ

    Last Updated : 2025-02-19
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   การจัดการกับพืชกินคน

    "เหมือนข้าจะได้กลิ่นไอวิเศษที่คุ้นๆ เหมือนกับกลิ่นปลาทำนองนั้น น่าจะเป็นปลาเผาที่หอมกรุ่นด้วยกลิ่นไอวิเศษ มันอยู่ทิศเหนือโน้นเราไปดูกันดีหรือไม่"หลู่ฮาลากล่าวขึ้น เมื่อนางได้สัมผัสถึงกลิ่นปลาที่สุกแล้วและทำให้นางนั้นน้ำลายสออยู่"เจ้าจะบอกว่าเจ้าหิวแล้วกระมังแค่ได้กลิ่นไอวิเศษของปลาเผาก็ทำให้เจ้าน้ำลายสอแล้ว เรารีบตามหาคนเราไม่ได้ต้องการที่จะรีบไปกินเสียหน่อย"หลินเหยียนกล่าวขึ้น"แต่ข้าว่าใครกันจะมาเผาปลาให้เจ้าได้รับรู้กลิ่นขนาดนั้น มันไม่ใช่กับดักหรอกหรือ"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้นเพราะเขารู้อยู่แล้วว่ากินรีตระกูลหลู่จมูกดีเรื่องของกิน"กลิ่นนั้นอยู่ทิศทางใดล่ะเราตามมันไปเถอะ มันอาจจะเป็นกลลวงแต่เราก็จะได้รู้ว่ากลลวงนั้นคือสิ่งใด ถ้าเราไม่เข้าไปหาจุดที่อันตรายที่สุดเราก็จะไม่สามารถหาคนทั้งสามพบ หากเราเจอกลลวงนั้นแล้วหากเราแก้ไขปริศนาของกลลวงได้ เราก็น่าจะตามหาคนได้สำเร็จเร็วขึ้น"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น เมื่อได้ยินเขาพูดทุกคนก็คล้อยตาม ถึงแม้นจะเป็นกลลวงจริงๆเขาก็ต้องเข้าไปดูเสียหน่อย หลู่ฮาลาจึงพาทั้งแปดเดินไปทิศทางที่ตนได้กลิ่นปลาเผานั้น ไม่นานพวกเขาก็พบสิ่งที่น่าประหลาดก็คือกลุ่มของพืชชนิ

    Last Updated : 2025-02-20
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้องเผามัน

    เมื่อองค์ชายหกถูกเถาวัลย์กะชากลงไปในต้นซิวกั่ว เขาก็ตกใจมากเพราะตอนที่เถาวัลย์กะชากเขาไปนั้น เขาไม่รู้สึกอะไรเลย แต่อยู่ๆเหมือนมายืนอยู่ในหม้อที่เป็นสีเขียว แล้วตอนนี้ฝาก็กำลังจะปิด เขารู้ได้ทันทีว่าเขาอยู่ในพืชกินคนแล้ว ที่เมื่อสักครู่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ เมื่อเขาเข้ามาแล้วก็ตกใจกลัว พอตั้งสติได้เขาก็ใช้วรยุทธกระแทกเข้ากับผนังของหม้อนั้น แต่ก็ไม่เป็นผลน้ำย่อยสีเขียวๆที่แฉะๆอยู่ด้านล่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขายังไม่แน่ใจว่ามีสิ่งใดที่ต้นนี้มันกลัว เพราะจากที่เขาฟังบุรุษที่อยู่มิติสามัญพูดคุย ยังจับใจความไม่ได้เลยว่าพืชชนิดนี้ต้องจัดการอย่างไร และในชีวิตนี้เขาไม่เคยได้ยินสมุนไพรที่ชื่อว่าซิวกั่วนี้เลย เขานึกเสียใจกับตัวเองที่ศึกษาตำราไม่มากพอ ขนาดแค่พืชชนิดหนึ่งยังไม่รู้เลยว่าจะเอาตัวรอดจากมันได้อย่างไร ขนาดเข้ามาเพียงแป๊บเดียวน้ำย่อยนั้นก็ขึ้นมาสูงแล้ว เขาจึงไม่แน่ใจว่าสตรีทั้งสามจะยังมีชีวิตรอดอยู่หรือไม่เพราะจากที่เขามาถึงจุดนี้ก็ใช้เวลาเกือบค่อนวันเสียแล้ว เหลืออีกไม่กี่ชั่วยามก็จะค่ำแล้ว ทางด้านนอกเมื่อห่าวอู๋อวี่รับรู้ว่าปกติหากไม่มีสิ่งใดอยู่ในซิวกั่วตอนกลางวันมันจะอ้าปากออกแต่หากว

    Last Updated : 2025-02-21

Latest chapter

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แหวน

    เพื่อพวกเขาเข้ามาเสร็จแล้วก็ต้องพบกับความประหลาด ด้านในนี้มีแก้วแหวนเงินทองอยู่มากมาย ตรงกลางโถงกว้างมีไข่ขนาดใหญ่หนึ่งใบวางอยู่ ลวดลายของใข่ใบนั้นมีลวดลายที่งามวิจิตรยิ่งนัก และไอวิเศษที่เข้มข้นก็ไหลออกมาจากไข่ใบนี้นี้เอง แต่ช่างแปลกเมื่อพวกเขาทั้งเจ็ดเข้ามาในนี้แล้ว ไอวิเศษนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายใดๆกับพวกเขาทั้งเจ็ดนั้นได้ "ไข่นั้นมันเป็นไข่อะไรกัน ลวดลายแปลกตาจัง"ซิงอีถามขึ้นเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน"มันน่าจะเป็นไข่มังกรข้าเคยศึกษามา น่าจะเป็นไข่มังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่ รวดลายของมันช่างมากมายขนาดนี้ มันน่าจะเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในขั้นที่สูงๆเป็นแน่ แต่เราจะนำมันออกจากไข่ได้อย่างไรกัน หรือว่าเราจะพามันออกจากถ้ำนี้ได้อย่างไร"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น ซิงอีจึงพยายามลองเก็บของที่อยู่ในนี้ดู เหมือนของเหล่านี้จะไม่ยอมเข้ามาในมิติของนางเลยสักชิ้น รวมถึงไข่ที่ต้าเหว่ยบอกว่าเป็นไข่มังกรด้วย มันไม่ยอมเข้ามาเลยสักนิด "ข้าเกรงว่าสมบัติที่อยู่ในนี้พวกเราไม่สามารถที่จะครอบครองมันได้ รวมทั้งไข่มังกรที่เจ้าว่าด้วย"จางซินกล่าวขึ้น ด้านข้างนอกนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงของพญาวานรนั้นกำลังอาละวาดอยู่ เพร

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ช่องลับ

    ความเคลื่อนไหวของสัตว์อสูรตัวใหญ่นั้นเงียบลงแล้ว แสดงว่ามันน่าจะสงบลงพวกเขาจึงวางแผนกันใหม่ว่าจะเข้าไปยังถิ่นที่อยู่ของมันได้อย่างไรเนื่องจากไอวิเศษที่เข้มข้นพวกเขาไม่สามารถที่จะทนกลับไอวิเศษที่อยู่รอบๆตัวของมันได้เลย "ข้าว่าหากพวกเราเข้าไปใกล้ๆมันแล้วไอวิเศษนั้นมันเข้มข้นมากพวกเราจะไม่ตายเพราะไอวิเศษนั้นหรอกหรือ มันมีสิ่งใดบ้างที่จะทำให้ไอวิเศษนั้นลดน้อยลงได้หรือว่าเราสัมผัสกับไอวิเศษนั้นได้น้อยลงล่ะ"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น"มันไม่น่าจะลดไอวิเศษนั้นได้เนื่องจากว่าเรานั่งเสพไอวิเศษนั้นอยู่สามวันมันก็ยังไม่ลดเลยใครมีวิธีดีๆบ้างล่ะ"ไป๋อวิ้นกล่าวถามคนอื่น"เราใช้วิธีหลอกล่อดีหรือไม่ ให้คนกลุ่มนึงอยู่ฝั่งด้านในโน้น หากว่าคนกลุ่มหนึ่งหลอกล่อมันออกไปยังจุดนี้แล้ว คนกลุ่มที่อยู่ด้านในนั้นก็เคลื่อนตัวเข้าไปดูว่าข้างในมีสิ่งใด วิธีนี้พวกเราจะแบ่งกันเป็นสามคนและสี่คนดีหรือไม่"จางหยงกล่าวขึ้น"แล้วมันจะไม่รู้หรือว่ายังมีอีกกลุ่มที่อยู่ด้านในถ้ำนี้ไม่ได้หลอกล่อมันออกไปนอกถ้ำ"ต้าเหว่ยถามขึ้น"ท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่ามันตาบอดเพียงแค่เราอยู่ด้านไหนและกบกินกายของเราแล้วเราอยู่เฉยๆอะไรการเคลื่อนไหว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาวานร

    ทางด้านทั้งหกและสัตว์อสูรหนึ่งตนที่ตอนนี้กำลังนั่งบำเพ็ญอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขารับรู้ได้ถึงพลังงานภายในห่างพวกเขาออกไปหากเดินทางเข้าไปไม่เกินครึ่งก้านผู้พวกเขาต้องเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่มีแรงกดดันมหาศาล อยู่ในนั้นพวกเขาเลือกจุดนี้เพราะว่าไอวิเศษนั้นมาถึงกลุ่มของพวกเขาทำให้พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากไอวิเศษของสิ่งเหล่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปส่มวันจู่ๆก็รู้สึกว่าตัวของเขานั้นเย็นวูบน่าจะสามครั้งได้ นางยิ้มด้วยความดีใจเพราะวรยุทธของนางอยู่เฉยๆก็เพิ่มขึ้น อาจจะเป็นเพราะผู้เป็นนายของเขานั้นมีวรยุทธเพิ่มขึ้นก็ได้ ทุกคนมองหันมาที่ลี่หลินเพียงคนเดียวเพราะพวกเขาทุกคนสามารถรับรู้ถึงแรงกดดันก่อนที่วรยุทธนั้นจะเพิ่มขึ้น"ไม่ใช่ว่าเจ้าจะบรรลุวรยุทธอีก 3 ขั้นแล้วหรือ"ไป๋อวิ้นถามขึ้น"ข้านั่งฝึกวรยุทธภายในอยู่สามวัน ข้าไม่คิดว่าร่างกายของข้าจะเพิ่มวรยุทธขึ้นได้มากขนากนี้ ข้าคิดว่าผู้เป็นนายของข้าน่าจะมีวรยุทธเพิ่มขึ้นข้าถึงได้ผลประโยชน์ขนาดนี้"ลี่หลินพูดด้วยความดีใจ"ลี่หลินเจ้าเสื่อกับผู้เป็นนายของเจ้าได้แล้วหรือ พวกเขาอยู่ที่ใดกัน พวกเราจะรีบตามพวกเขาไป"ซิงอีกล่าวขึ้น ลี่หลินได้แต่ส่ายหัวมันรับ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ผลขจี

    หลังจากกลุ่มของจินเป่าไปตกอยู่สถานที่หนึ่งนั้นราวๆสามวันพวกเขาทั้งสามนั้นก็รู้สึกตัว พวกเขาเหี่ยวสถานที่หนึ่งเหมือนเป็นกองฟางและมีแอ่งตรงกลางแต่กองฟางที่พวกเขานอนนั้นมองแล้วลักษณะเป็นสีขาวไข่มุก ซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ใด ห่าวอู๋อวี่ลุกขึ้นได้จึงนั่งขับเคลื่อนวรยุทธของตัวเอง เส้นลมปานของเขานั้นเสียหายไปสามส่วน เลือดยังคลั่งอยู่ที่สมองเขาก็กระอักเลือดออกมาคำตอบ เจ้าอีกาดำสามขาจื่ออี้เฉินงั้นถึงกับปีกหักและขาที่สามของมันก็หักเลยทีเดียว ร่างกายของมันกระทบกับของแข็งประเภทใดตัวมันเองก็ยังไม่รู้ จินเป่าเมื่อลืมตาขึ้นมาก็รับรู้ได้ถึงคลื่นมหาศาลถาโถมเข้าตัวของตัวนางเอง นางรู้สึกเย็นวูบวาบสามครา นางลืมตาแล้วมองมือของตัวเองทั้งสองข้างวรยุทธของนางนั้นเพิ่มขึ้นอีกแล้วตั้งสามขั้น แต่นางสงสัยยิ่งนักวรยุทธของผู้อื่นนั้นสูงขึ้นนั้นจะเกิดทัฑคาด แต่ทำไมนางซึ่งวรยุทธสูงเลยระดับมามหาศักดิ์สิทธิ์มาเกินสามขั้นแล้ว นางยังไม่ถูกทัณฑฆาตเสียเลย นางมองไปรอบๆก็เห็นเจ้าอีกาดำสามขาที่นอนหมดแรงอยู่กับฟางสีขาวไข่มุกนั้น นางจึงหยิบยาสมุนไพรรักษาเส้นลมปราณธรรมดาออกมาให้มันกินไปพลางๆ และยื่นน้ำอมฤตให้ นางมองดูหน้าข

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ภาพเหมือน

    พญาหงส์ขาวที่กำลังต่อสู้นั้นหยุดชะงักและม้วนตัวพุ่งไปหาต้นขจีทันที ห่าวอู๋อวี่เองยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ พญาหงส์ขาวที่ต่อสู้กันอยู่ดีๆก็พุ่งไปหาจินเป่า จินเป่าที่ตอนนี้เห็นท่าไม่ดีเขากำลังอยู่ใกล้ต้นขจีเพียงนิดเดียวหากเขาหลบก็ไม่ทันเสียแล้ว เจ้าต้นขจีก็มัวแต่พลักดันนักยุทธให้ถ่อยกลับไปแต่มันไม่ได้ใช้ตามองจินเป่า เนื่องจากว่ากลิ่นอายของนางนั้นเป็นต้นหลิวต้องแสงจันทร์ในเมื่อนางนั้นได้กลืนกินพลังของต้นหลิวต้องแสงจันทร์แล้ว นางก็ปล่อยพลังของมันออกมา จึงทำให้ต้นขจีซึ่งเป็นพืชวิเศษเหมือนกันไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นมนุษย์มันจึงไม่ได้ระวังตัวจากจินเป่าเลย แต่พญาหงส์ขาวรับรู้การไปของจินเป่าดีจึงพุ่งไปหานางและพ่นไฟใสทันที นางแบมือเก็บไฟดังเดิม แต่คราวนี้เจ้าพญาหงส์ขาวนั้นพุ่งเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันระวังและเก็บมันเข้าไปในมิติทันที หลังจากที่มันเข้าไปในมิติแล้วจินเป่าจึงใช้กริชที่กรีดเลือดของตัวเองนั้นแทงเข้าไปยังรากของต้นขจีทันที "วี้ดๆๆๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆๆ"เสี่ยงต้นขจีกรีดร้องและเอนไปเอนมาตอนนี้รากของมันถอนขึ้นจากดินเสียแล้ว จินเป่าได้ทีจึงโบกมือและเก็บต้นขจีก่อนที่มันจากอาละ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาหงส์ขาว

    ทั้งสองคุยกันอยู่สักพักก็เข้าใจกันส่าตะจัดการเช่นไร"นั่นไงทั้งสองคนอยู่ตรงนั้นกำลังคุยกันอยู่แล้วแผนของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อล่ะลี่หลิน"จางซินกล่าวถาม"แผนของพวกเขาคือให้พวกเราทุกคนระวังตัวเองและแก้ไขสถานการณ์ไปตามเหตุการณ์ต่างๆ"ลี่หลินกล่าวขึ้น ทุกคนก็มองไปยังลี่หลินเพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่านางได้สื่อสารกับผู้เป็นนายจริงหรือไม่ เนื่องจากพอถามพบนางก็ตอบทันที "งั้นพวกเราก็ต้องดูแลตัวเองและปกป้องด้วยให้ได้ เพื่อที่จะไม่เป็นตัวถ่วงของพวกสองคนนั้น"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น"แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ข้าสงสัยยิ่งนัก ทำไมข้าที่อยู่มิติแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้เลยล่ะ เรื่องที่มีผลขจีสุกอะไรนั่น ทำไมหรือพอดูดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะสัตว์อสูรต่างๆก็รายล้อมเข้ามา และนักยุทธต่างๆก็เหมือนสนใจสิ่งเหล่านี้ ข้าอยากรู้เหลือเกินว่ามันเป็นสิ่งใด"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น"ข้าเองก็สงสัยว่าทางราชสำนักไม่ได้ส่งผู้ใดมาเข้าชิงผลขจีเลย เป็นไปได้หรือไม่ว่าทางราชสำนักนั้นไม่สนใจกับสมุนไพรชนิดนี้ เจ้าที่อยู่ในเมืองหลวงนั้นจึงไม่รู้ว่ามีของดีแบบนี้"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น ทุกคนขอพยักหน้าพร้อมที่จ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นขจี

    เมื่อถึงยามเที่ยงคืนแล้วสัตว์อสูรตนนั้นก็ออกมาจากต้นขจีมันเป็นสัตว์อสูรสีขาวสว่างไสว มองไกลๆราวกลับนกกินรีสีขาวแต่พอมองดีๆก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่กินรีแต่อย่างใด"นั่นมันพญาหงส์นิสัตว์มหาอสูรที่เฝ้าอยู่ต้นขจีมันคือพญาหงส์นี่เอง"บุรุษกลุ่มที่จับตัวทั้งสองคนมากล่าวขึ้น "พวกเจ้าแกะมัดมือข้าทั้งสองได้แล้วกระมังข้าจะได้หาวิธีที่จะเอาชนะสัตว์มหาอสูรตนนั้น"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น กลุ่มคนที่จับตัวพวกเขามาจึงปรึกษากันไม่นานเขาก็แกะเชือกวิญญาณนั้นออก "ข้าทั้งสองจำเป็นที่จะต้องโจมตีพร้อมๆกันแล้วพวกเจ้ามีใครที่ต้องการที่จะลงมือบ้าง ข้าจะได้วางแผนเผื่อพวกเจ้า"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น ทั้งหมดที่จับตัวทั้งสองคนมานั่นนั่งเงียบทันทีไม่มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดเพราะไม่มีใครต้องการที่จะลงมือ "ทำไมพวกท่านไม่คิดที่จะลงมือเลยหรอ ในเมื่อต้องการของแต่ถ้าไม่ลงมือพวกท่านจะมีหน้ารับของพวกนี้ได้อย่างไร"จินเป่าถามขึ้ม"เอาเป็นว่าพวกข้าไม่ลงมือต่อสู้กับสัตว์มหาสูรแต่พวกข้าจะลงมือแย่งชิงกับผู้มียุทธเหล่านั้นเอง ถ้าพวกข้าได้ผลขจีมามากพอพวกข้าจะแบ่งให้พวกเจ้า "บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น"ข้าเองจะไปสู้กับสัตว์อสูรเหล่านั้นแต่ข้าเอง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตอบแทน

    เมื่อยามค่ำคืนเข้ามากล้ำกรายในห้องห่าวอู๋อวี่กับจินเป่านอนด้วยกันบนเตียงนอน"ข้าอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไปจังที่เราสองคนได้นอนกอดกันบนเตียงนุ่มแบบนี้ หากเราช่วยท่านพ่อตากับแม่ยายได้แล้วเราแต่งงานกันนะ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวออกมาอย่างหยอกล่อและจิงจังในท่าที จินเป่าไม่ได้กล่าวอะไรนางได้ยินเสียงกุกกักนอกประตูนางรู้ดีว่าห่าวอู่อวี่รับรู้ได้ก่อนนางเสียอีกแต่เขาก็แกล้งพูดไปต่างๆนานา เมื่อด้านนอกได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน เขาก็ไม่กล้าที่จะบุกเข้ามา ห่าวอู๋อวี่สังเกตเห็นถึงข้อนี้"ข้านอนแล้วนะเจ้าเองก็นอนเถอะ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น เพื่อจะได้เดินตามแผนของกลุ่มคนที่มาดักจับสองคนเขา สักพักใหญ่ๆเสียงเคลื่อนไหวภายในห้องก็สงบลง บุรุษผู้หนึ่งโบกมือเป็นสัญญาณให้ผู้ที่อยู่ด้านหลังค่อยๆเปิดประตูโรงเตี้ยมให้ แล้วค่อยๆบุกเข้าไปจับตัวทั้งสองได้ เมื่อถูกจับทั้งสองคนก็แกล้งทำเป็นหลับไหลไม่ได้สติ จินเป่าทำท่าทางตกใจตื่นขึ้นมา"หวกเจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงมาจับพวกข้าเช่นนี้ พวกข้าทั้งสองไปทำอะไรให้พวกเจ้าโกรธเคืองกัน"จินเป่าพูดขึ้น"แม่นางอย่าดิ้นรนเลย อย่าต่อรองกับการจับกุมในครั้งนี้ พวกเราวางแผนมานานแล้ว แล้วคนที่จับต

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แผน

    ป่ากระดังงาที่พวกเขาเดินทางเข้าไปนั้นร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่เล็กประปรายกันอยู่ มีโขดหินใหญ่โขดหินเล็กและมีเสียงสัตว์เล็กสัตว์น้อยมากมาย เสียงนกร้องสักพักและบินจากไปเพื่อหาอาหาร"เราจะอยู่ผจญภัยอยู่ที่ป่าอัสดงกันจนจะมีวรยุทธเพิ่มขึ้นเท่าใดดี เราต้องตั้งเป้าหมายและล่ะ"จางซินกล่าวขึ้น"ข้าไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่าจนกว่าพวกเราทั้งจะพอใจกันดีกว่า"ห่าวอู๋มูลี่กล่าวขึ้น"แล้วต้าเสว่ยล่ะท่านคิดว่ามาผจญภัยยังภายนอกแล้วท่านยังคิดว่ายังอยากติดตามพวกเราต่อหรือไม่"จินเป่าถามขึ้น"ถ้าไปกับพวกเจ้าแน่นอน ข้ารู้สึกสนุกรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกท้าทายแล้วพวกเจ้าก็มีจิตใจที่ดีช่วยเหลือชาวบ้านถ้าคิดว่าข้าต้องติดตามพวกเจ้าไปให้ถึงที่สุด"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น พวกเขาเดินทางในป่ากระดังงาราวๆเจ็ดวันก็ออกจากป่ากระดังงา เดินทางด้วยความราบรื่นตอนกลางวันเดิน กลางคืนก็พักผ่อนพวกเขาไปถึงหมู่บ้านอัสดงในเวลาเที่ยงของวันที่เจ็ด เมื่อพวกเขาไปถึงก็หาโรงเตี้ยมเพื่อนั่งกินอาหารกัน และจะได้ฟังข่าวจากนักยุทฑท่านอื่นด้วย พวกเขาเลือกนั่งโต๊ะกลางสุดเพราะจะได้ฟังเสียงข้างๆได้สะดวกยิ่งขึ้น "ป่าอัสดงทุกวันนี้ทำไมข้าไม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status