Accueil / แฟนตาซี / ให้ชะตากรรมนำทาง / สัตว์อสูรใต้ท้องทะเล

Share

สัตว์อสูรใต้ท้องทะเล

Auteur: Sanassetong
last update Dernière mise à jour: 2025-02-15 23:53:28

หลังจากที่เดินทางมาเป็นเวลาสักพักที่พบเจอกับภาพลวงตาต่างๆนานาที่วนเวียนเข้ามาหาในแต่ละคน แต่พวกเขานั้นก็พยายามที่จะตั้งสติให้ได้ จนในที่สุดภาพลวงตานั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นอีกแล้ว

"ซิงอีทำไมเจ้ามองข้าแปลกๆแล้วตอนที่เจ้าเกิดภาพลวงตานั้น มันเป็นอะไรหรือทำไมเจ้าเรียกชื่อข้าแล้วก็บอกว่าอย่า แล้วก็เรียกจินเป่าด้วยแต่ข้าเองก็ไม่กล้าถามต่อหน้าทุกคน"

จางหยงกล่าวถามซิงอีเมื่อตอนที่ไม่มีใครอยู่กับพวกเขา

"ที่ท่านเคยรับปากข้าไว้ แม้ว่าเราจะเจอบิดามารดาของพวกเราแล้วท่านจะไม่เปลี่ยนไปจริงๆใช่หรือไม่ อาจจะเป็นเพราะว่าข้าคิดกังวลเรื่องนี้จึงทำให้เกิดภาพลวงตาเรื่องนี้เกิดขึ้นมาแต่มันก็ฝังใจกับข้ายิ่งนัก จึงทำให้ข้ายากที่จะลืมเลือนว่าข้านั้นพบกับภาพลวงตาแบบใด ข้าพบว่าท่านหลอกลวงให้ข้ากับจินเป่าไปมิติเชื่อมจิตแล้วท่านก็ใช้กริชนั้นแทนพวกข้าทั้งสอง"

ซิงอีถามขึ้นและเล่าให้เขาฟังว่าเขาพบเจอเรื่องใดบ้าง

"จะเป็นแบบนั้นได้อย่างไรเราก็คุยกันแล้วนี่ว่าข้าจะรักและปกป้องเจ้าตลอดเส้นทางสายนี้ ถึงแม้เราจะอยู่มิติเชื่องจิตแล้ว และหากพบกับมารดาของข้า ข้าก็ยังยืนยันคำเดิมว่าข้าจะช่วยบิดาของเราและมารดาของเจ้ากับจินเป่า"

จางห
Continuez à lire ce livre gratuitement
Scanner le code pour télécharger l'application
Chapitre verrouillé

Related chapter

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เต่ามังกร

    ห่าวอู๋อวี่แหวกสายน้ำทะเลลงไปในน้ำนั้นไม่ได้มีความเป็นน้ำอย่างที่คิดมันไม่ระคายเคืองสายตาเลยสักนิดแถมเขารู้สึกว่าเขาหายใจได้ดังอยู่บนพื้นดินธรรมดาด้วยซ้ำ เมื่อเขาไปเจอก็พบกับกระต่ายหยกของจินเป่าที่ตอนนี้กำลังพ่นน้ำสีเขียวใส่เจ้าเต่ามังกรตัวนึง ซึ่งตัวของทั้งสองก็พอๆกัน แถมสีของมันก็คล้ายๆกันหรือว่าเต่าตัวนี้จะเป็นเต่ามังกรหยกในตำนาน แต่อาจจะไม่ใช่เพราะว่าสีเขียวที่เจ้ากระต่ายพ่นออกไปอาจติดกับเต่ามังกรตัวนั้นก็ได้ เมื่อเต่ามังกรตัวนั้นเห็นผู้บุกรุกมาใหม่จึงผละออกจากการต่อสู้กับกระต่ายหยกนั้น มันคิดแต่ว่าทำไมอยู่ๆเจ้ากระต่ายถึงกระโดดลงมาหามันได้ และก็เข้าต่อสู้กับมันทันทีมันจึงต้องการที่จะสู้ให้รู้แล้วรู้รอดไปเลย แต่เมื่อมันเห็นมนุษย์บุกลงมามันก็รู้ว่าเป็นสิ่งที่ไม่ธรรมดาแล้ว ที่อยู่ๆจะมีทั้งสัตว์มหาอสูรกับมนุษย์บุกลงมาถึงใต้ท้องทะเลของมัน"พวกมนุษย์กับสัตว์มหาอสูรตนนี้พวกเจ้ามาบุกรุกที่ข้า ด้วยเหตุอันใดข้าอยู่มาเป็นล้านๆปีไม่เคยพบเจอกับมนุษย์ และมหาอสูรแบบพวกเจ้า วันนี้มาถึงถิ่นข้าแล้ว ก็มอบชีวิตให้ข้าเถิด เพราะไม่มีใครผ่านเปลวคลื่นของข้าไปได้หรอก ข้างบนอาจจะมีมนุษย์มากมายแต่มันก็ต้องต

    Dernière mise à jour : 2025-02-16
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ไข่มุกลวี่

    เมื่อห่าวอู๋อวี่อุ้มจินเป่ามาวางไว้ข้างต้นไม้ใหญ่แล้ว เขาก็ถ่ายทอดวรยุทธรักษาให้จินเป่าเจ้ากระต่ายหยกจึงเปิดปากจินเป่าออก แล้วใส่อะไรสักอย่างที่เป็นเม็ดกลมๆสีเขียวเข้ม เข้าไปด้านในปากขิงนางและปิดปากพร้อมกับลูบคอให้นางกลืนของชิ้นั้น ไม่นานจินเป่าก็ลืมตาขึ้นมา นางไอ สามครั้งก็รู้สึกถึงวรยุทธ์ที่ไหลเวียนเข้ามาในร่างกาย ซิงอีเห็นก็ดีใจมากที่จินเป่าฟื้น"เจ้าเอาอะไรให้นางกินหรือเจ้าจิ๋ว ทำไมนางกินแล้วถึงขึ้นได้หละ"จางซินถามขึ้น เจ้ากระต่ายลุกไม่ได้กล่าวสิ่งใดมันมองหน้าจังซิมแล้วก็ทำหน้าบูดบึ้งแล้วก็ไปยืนข้างๆซิงอีที่ตอนนี้กำลังใช้ผ้าชุบน้ำอมฤตใบหน้าให้จินเป่าอยู่"เจ้าชู้นี้อารมณ์ไม่ดีง่ายมากเลยนะเจ้าน่ะข้าชอบเจ้าจะตายดูเจ้าทำสีหน้าที่มองข้าเหมือนเจ้าชังค่ามากเสียเหลือเกิน"จางซินกล่าวอีก"มาหาอสูรนั้นไม่ได้ชังมนุษย์หรอกแต่เจ้าก็ชอบไปวุ่นวายกับมันเสียเหลือเกินถามนู่นถามนี่มันให้อะไรจริงเปล่ากินจะไปอยากรู้ทำไมอย่างน้อยมันก็รักสาให้จริงเปล่าดีขึ้นในทันตาและอีกอย่างมันเป็นสัตว์มหาสมนต์ของจริงเปล่ามันไม่สามารถทำร้ายเจ้านายมันได้หรอก"จางหยงพูดขึ้น พลางไปช่วยไป๋อวิ้นดูแผนที่ที่หลิวเหยียนกางออก

    Dernière mise à jour : 2025-02-17
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สตรีที่หายตัวไป

    เมื่อจินเป่าเกินไข่มุกลวี่ลงไปแล้วได้พักผ่อนเต็มที่ ตอนนี้ตัวนางนั้นก็ดีขึ้นมากแล้ว ในการเดินทางต่อไปนางไม่จำเป็นจะต้องให้ห่าวอู๋อวี่แบกนางอีกแล้ว จางซินจึงจับชีพจรให้จริงเปล่าก็รู้ว่าภายในของนางนั้นดีขึ้นมากแล้วแต่ก็ยังไม่ได้หายเป็นเปิดทิ้ง"ข้าว่าเจ้าดีมากแล้วนะหรือว่าไข่มุกละวีนั้นรักษาโรคที่เจ้าเป็นได้แล้วแล้วเราก็ไม่ต้องไปหาเขากวางสามร้อยยอดอีกแล้วกระมัง"จางซินกล่าวขึ้น"ไม่หรอกโรคหยินหยางที่จินเป่าเป็นนั้นต้องรักษาด้วยเขากวางสามร้อยยอดเท่านั้น แต่ที่ตอนนี้ยังไม่มีอาการเหนื่อยเหมือนเดิมแล้ว เป็นเพราะว่าตอนนี้ร่างกายมีไข่มุกลวี่อยู่ หากร่างกายนี้ดูดซับไข่มุกลวี่หมดไปแล้วก็จะมีอาการเหมือนเดิมรักษาไม่หายแต่ตอนนี้ก็ดีขึ้นมากเพราะฤทธิ์ของไข่มุกลวี่เพียงเท่านั้นเอง"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น ทำให้ทุกคนเข้าใจมากขึ้นว่าไข่มุกลวี่ดีขนาดไหน ทุกคนจึงออกเดินทางต่อไปทางทิศที่แผนที่บอกว่าจะพบกับต้นไม้กินคนเมื่อเดินต่อไปก็พบกับบรรยากาศที่ต่างไปเล็กน้อยิอากาศเย็นตัวลงจนทำให้เสียวสันหลังไปหมด ถึงแม้จินเป่าจะเดินได้เองแต่เขาก็เดินอยู่ในตำแหน่งกลางเพื่อป้องกันอันตรายที่เกิดขึ้นได้ทุกมื่อเพราะร่างกายไม่สู้

    Dernière mise à jour : 2025-02-18
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นไม้กินคน

    อยู่ดีๆจินเป่าก็รู้สึกวุบขึ้นมา นางไม่ได้มีความเจ็บปวด ถึงแม้ความรู้สึกว่าถูกลากเลย เป็นความรู้สึกวุบอย่างเดียวเท่านั้น แต่อยู่ๆก็เหมือนอยู่ในอะไรสักอย่างที่เป็นสีเขียวๆ จินเป่ามองซ้ายมองขวาก็พบว่าเหมือนตัวเองอยู่ในหม้อปรุงสมุนไพร เหมือนตอนที่นางอยู่เมืองหลวงนั้น แต่สีนั้นกลับแตกต่างกันไป ตรงพื้นด้านล่างที่เป็นเมือกๆเหมือนเป็นสีเขียวเข้มด้านข้างๆเป็นสีเขียวอ่อน นางมองซ้ายมองขวา ก็พบกับบรรยากาศที่เปลี่ยนไป เหมือนกำลังจะครึ้มฟาครึ้มฝน อยู่ดีๆทำไมครึ้มฟ้าครึ้มฝนได้นะ นางจึงมองไปด้านบนก็พบว่าเหมือนมีแผ่นบางๆกลมๆเลื่อนลงมาปิดปากหม้อที่นางยืนอยู่ลักษณะเป็นดังวงกลมแล้วมีหนามแหลมๆอยู่รอบด้าน สีของฝานั้นเป็นสีน้ำตาลอมเขียวลายเหมือนกับพืชชนิดหนึ่ง ที่เธอเคยเห็นในตำรามา มันคือซิวกั่วพืชกินแมลงชนิดหนึ่ง นางกินรีหว่าฮว่าได้เขียนในแผนที่ว่าต้นไม้กินคน ที่แท้เขาไม่รู้ว่ามันไม่ใช่ต้นไม้อย่างเดียว แต่มันมีพืชชนิดนี้ด้วย นางได้แต่ขบคิดว่าคนที่มาด้วยกันนั้นจะถูกลากไปขังอยู่ในซิวกั่วเหมือนนางหรือไม่นะ แม่นางกำลังที่จะหาวิธีออกจากซิวกั่วนี้ นางหยิบกริชออกจากมิติ ซึ่งตอนนี้นางมีพลังพอที่จะเปิดมิติได้ แต่ใ

    Dernière mise à jour : 2025-02-19
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   การจัดการกับพืชกินคน

    "เหมือนข้าจะได้กลิ่นไอวิเศษที่คุ้นๆ เหมือนกับกลิ่นปลาทำนองนั้น น่าจะเป็นปลาเผาที่หอมกรุ่นด้วยกลิ่นไอวิเศษ มันอยู่ทิศเหนือโน้นเราไปดูกันดีหรือไม่"หลู่ฮาลากล่าวขึ้น เมื่อนางได้สัมผัสถึงกลิ่นปลาที่สุกแล้วและทำให้นางนั้นน้ำลายสออยู่"เจ้าจะบอกว่าเจ้าหิวแล้วกระมังแค่ได้กลิ่นไอวิเศษของปลาเผาก็ทำให้เจ้าน้ำลายสอแล้ว เรารีบตามหาคนเราไม่ได้ต้องการที่จะรีบไปกินเสียหน่อย"หลินเหยียนกล่าวขึ้น"แต่ข้าว่าใครกันจะมาเผาปลาให้เจ้าได้รับรู้กลิ่นขนาดนั้น มันไม่ใช่กับดักหรอกหรือ"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้นเพราะเขารู้อยู่แล้วว่ากินรีตระกูลหลู่จมูกดีเรื่องของกิน"กลิ่นนั้นอยู่ทิศทางใดล่ะเราตามมันไปเถอะ มันอาจจะเป็นกลลวงแต่เราก็จะได้รู้ว่ากลลวงนั้นคือสิ่งใด ถ้าเราไม่เข้าไปหาจุดที่อันตรายที่สุดเราก็จะไม่สามารถหาคนทั้งสามพบ หากเราเจอกลลวงนั้นแล้วหากเราแก้ไขปริศนาของกลลวงได้ เราก็น่าจะตามหาคนได้สำเร็จเร็วขึ้น"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น เมื่อได้ยินเขาพูดทุกคนก็คล้อยตาม ถึงแม้นจะเป็นกลลวงจริงๆเขาก็ต้องเข้าไปดูเสียหน่อย หลู่ฮาลาจึงพาทั้งแปดเดินไปทิศทางที่ตนได้กลิ่นปลาเผานั้น ไม่นานพวกเขาก็พบสิ่งที่น่าประหลาดก็คือกลุ่มของพืชชนิ

    Dernière mise à jour : 2025-02-20
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้องเผามัน

    เมื่อองค์ชายหกถูกเถาวัลย์กะชากลงไปในต้นซิวกั่ว เขาก็ตกใจมากเพราะตอนที่เถาวัลย์กะชากเขาไปนั้น เขาไม่รู้สึกอะไรเลย แต่อยู่ๆเหมือนมายืนอยู่ในหม้อที่เป็นสีเขียว แล้วตอนนี้ฝาก็กำลังจะปิด เขารู้ได้ทันทีว่าเขาอยู่ในพืชกินคนแล้ว ที่เมื่อสักครู่พวกเขากำลังคุยกันอยู่ เมื่อเขาเข้ามาแล้วก็ตกใจกลัว พอตั้งสติได้เขาก็ใช้วรยุทธกระแทกเข้ากับผนังของหม้อนั้น แต่ก็ไม่เป็นผลน้ำย่อยสีเขียวๆที่แฉะๆอยู่ด้านล่างเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เขายังไม่แน่ใจว่ามีสิ่งใดที่ต้นนี้มันกลัว เพราะจากที่เขาฟังบุรุษที่อยู่มิติสามัญพูดคุย ยังจับใจความไม่ได้เลยว่าพืชชนิดนี้ต้องจัดการอย่างไร และในชีวิตนี้เขาไม่เคยได้ยินสมุนไพรที่ชื่อว่าซิวกั่วนี้เลย เขานึกเสียใจกับตัวเองที่ศึกษาตำราไม่มากพอ ขนาดแค่พืชชนิดหนึ่งยังไม่รู้เลยว่าจะเอาตัวรอดจากมันได้อย่างไร ขนาดเข้ามาเพียงแป๊บเดียวน้ำย่อยนั้นก็ขึ้นมาสูงแล้ว เขาจึงไม่แน่ใจว่าสตรีทั้งสามจะยังมีชีวิตรอดอยู่หรือไม่เพราะจากที่เขามาถึงจุดนี้ก็ใช้เวลาเกือบค่อนวันเสียแล้ว เหลืออีกไม่กี่ชั่วยามก็จะค่ำแล้ว ทางด้านนอกเมื่อห่าวอู๋อวี่รับรู้ว่าปกติหากไม่มีสิ่งใดอยู่ในซิวกั่วตอนกลางวันมันจะอ้าปากออกแต่หากว

    Dernière mise à jour : 2025-02-21
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ส่วนแบ่ง

    "เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่พวกข้าหาเจ้าจนเจอนั้นเป็นเพราะอะไร"หลู่ฮาลาถาจินเป่าขึ้นพลางมานั่งใกล้นางเพราะนางต้องการส่วนแบ่งในครั้งนี้ ปลาหลี่ที่จินเป่ากินอยู่นั้นหอมตลบอบอวลไปด้วยไอวิเศษ ทำให้นางน้ำลายสอเป็นอย่างมาก"เป็นเพราะอะไรหรือ พวกเจ้าจึงหาข้าพบได้อย่างไรข้าเองก็อยากรู้"จินเป่ากล่าวขึ้นเพราะสงสัย "ก็เป็นเพราะว่าเจ้ากินปลาหลี่เผาแล้วแม่นางหลู่ได้กลิ่นของมันพวกเราเลยตามกลิ่นนั้นไป ก็พบเจ้านั่นแหละ เพราะฉะนั้นเจ้าจงแบ่งปลาแก่แม่นางหลู่ด้วย เพราะเขาเหมือนจะอยากกินมาก"หลิวเหยียนตอบพรางมองดูท่าทีของหลู่ฮาลา"มีแบบนี้ด้วยหรือ งั้นเจ้าก็กินสิแม่นางหลู่แล้วก็ทุกคนด้วยนะข้ายังมีปลาหลี่อีกมากมาย จินเป่าเอาปลาหลี่ออกมาใส่ถุงมิติให้ซิงอี เพราะถ้าหมดฤทธิ์ของไข่มุกลวี่แล้วนางก็จะไม่สามารถเปิดมิติได้จึงเตรียมการไว้ล่วงหน้า เมื่อทุกคนอิ่มหนำสำราญแล้วก็พักผ่อนแต่คราวนี้พวกเขารู้แล้วว่าต้องห่อหุ้มร่างกายด้วยธาตุไฟ ห่าวอู๋มู๋ลี่มีปัญหากับการเรียกไฟมากที่สุดห่าวอู๋อวี่ก็แบ่งวรยุทธของตัวเองก่อเป็นเกาะคลุมพวกเขาทั้งสิบเอ็ดไว้ ไม่นานแสงตะวันก็ค่อยๆเลือนหายไป ต้นซิวกั่วค่อยๆปิดปากลงเรื่อยๆ"เราน่าจะถึงเว

    Dernière mise à jour : 2025-02-22
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นอ่อนของซิวกั่ว

    หลังจากตกลงกันแล้วว่าจะต้องหาโอกาสนำสมุนไพรชนิดนี้มากลั่นเป็นสมุนไพรบำรุงให้จินเป่าแล้ว ในการเดินทางจึงสังเกตพฤติกรรมของต้นซิวกั่วเป็นพิเศษ"แล้วปกติเจ้านำส่วนใดของมันไปหรือ ที่ไปทำสมุนไพรที่เจ้าเคยใช้"จินเป่าถามจางซิน"ข้าเคยเก็บมันไปแล้วไปผ่าเอาตรงกลางเหมือนจะเป็นวุ้นๆที่อยู่ข้างในของมัน ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าต้นใหญ่จะมีหรือไม่ "จางซินตอบ"งั้นก็ไปดูต้นที่เจ้ากระต่ายหยกช่วยข้าออกมาต้นนั้นมันปริแตกแล้วเราลองไปดูว่าข้างในนั้นเป็นอะไร"จินเป่ากล่าขึ้น ทุกคนจึงเร่งเดินทางไปยังต้นที่ช่วยจินเป่าออกมาก็พบว่าอยู่ข้างๆจะมีต้นเล็กเกิดขึ้นเป็นหัวนูนออกมาเหมือนมันกำลังจะเกิดใหม่ ต้นเล็กของมันนั้นก็เท่ากับเด็กทารกคนหนึ่งคนได้เลยทีเดียว "เราจะผ่าดูด้านในได้อย่างไรในเมื่อไม่มีสิ่งใดแข็งแรงพอที่จะผ่ามันได้ เพราะตอนที่ข้าอยู่ข้างในข้าพยายามใช้กริชกรีดมันออกมาแล้วก็ไม่สามารถที่จะกรีดมันออกมาได้แต่ตอนนี้เจ้าใช้อะไรถึงได้ขาดครึ่งได้ขนาดนี้"จางซินถามขึ้น"ข้าไม่ได้ใช้อะไรหรอกเป็นเจ้ากระต่ายหยกที่มันกรีดให้ข้าออกมา"จินเป่าพูดขึ้นพลางมองไปที่มัน กระต่ายหยกก็มองกลับคืนมามันไม่ได้ใช้สิ่งใดกรีดเลยมัน

    Dernière mise à jour : 2025-02-23

Latest chapter

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แหวน

    เพื่อพวกเขาเข้ามาเสร็จแล้วก็ต้องพบกับความประหลาด ด้านในนี้มีแก้วแหวนเงินทองอยู่มากมาย ตรงกลางโถงกว้างมีไข่ขนาดใหญ่หนึ่งใบวางอยู่ ลวดลายของใข่ใบนั้นมีลวดลายที่งามวิจิตรยิ่งนัก และไอวิเศษที่เข้มข้นก็ไหลออกมาจากไข่ใบนี้นี้เอง แต่ช่างแปลกเมื่อพวกเขาทั้งเจ็ดเข้ามาในนี้แล้ว ไอวิเศษนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายใดๆกับพวกเขาทั้งเจ็ดนั้นได้ "ไข่นั้นมันเป็นไข่อะไรกัน ลวดลายแปลกตาจัง"ซิงอีถามขึ้นเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน"มันน่าจะเป็นไข่มังกรข้าเคยศึกษามา น่าจะเป็นไข่มังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่ รวดลายของมันช่างมากมายขนาดนี้ มันน่าจะเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในขั้นที่สูงๆเป็นแน่ แต่เราจะนำมันออกจากไข่ได้อย่างไรกัน หรือว่าเราจะพามันออกจากถ้ำนี้ได้อย่างไร"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น ซิงอีจึงพยายามลองเก็บของที่อยู่ในนี้ดู เหมือนของเหล่านี้จะไม่ยอมเข้ามาในมิติของนางเลยสักชิ้น รวมถึงไข่ที่ต้าเหว่ยบอกว่าเป็นไข่มังกรด้วย มันไม่ยอมเข้ามาเลยสักนิด "ข้าเกรงว่าสมบัติที่อยู่ในนี้พวกเราไม่สามารถที่จะครอบครองมันได้ รวมทั้งไข่มังกรที่เจ้าว่าด้วย"จางซินกล่าวขึ้น ด้านข้างนอกนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงของพญาวานรนั้นกำลังอาละวาดอยู่ เพร

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ช่องลับ

    ความเคลื่อนไหวของสัตว์อสูรตัวใหญ่นั้นเงียบลงแล้ว แสดงว่ามันน่าจะสงบลงพวกเขาจึงวางแผนกันใหม่ว่าจะเข้าไปยังถิ่นที่อยู่ของมันได้อย่างไรเนื่องจากไอวิเศษที่เข้มข้นพวกเขาไม่สามารถที่จะทนกลับไอวิเศษที่อยู่รอบๆตัวของมันได้เลย "ข้าว่าหากพวกเราเข้าไปใกล้ๆมันแล้วไอวิเศษนั้นมันเข้มข้นมากพวกเราจะไม่ตายเพราะไอวิเศษนั้นหรอกหรือ มันมีสิ่งใดบ้างที่จะทำให้ไอวิเศษนั้นลดน้อยลงได้หรือว่าเราสัมผัสกับไอวิเศษนั้นได้น้อยลงล่ะ"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น"มันไม่น่าจะลดไอวิเศษนั้นได้เนื่องจากว่าเรานั่งเสพไอวิเศษนั้นอยู่สามวันมันก็ยังไม่ลดเลยใครมีวิธีดีๆบ้างล่ะ"ไป๋อวิ้นกล่าวถามคนอื่น"เราใช้วิธีหลอกล่อดีหรือไม่ ให้คนกลุ่มนึงอยู่ฝั่งด้านในโน้น หากว่าคนกลุ่มหนึ่งหลอกล่อมันออกไปยังจุดนี้แล้ว คนกลุ่มที่อยู่ด้านในนั้นก็เคลื่อนตัวเข้าไปดูว่าข้างในมีสิ่งใด วิธีนี้พวกเราจะแบ่งกันเป็นสามคนและสี่คนดีหรือไม่"จางหยงกล่าวขึ้น"แล้วมันจะไม่รู้หรือว่ายังมีอีกกลุ่มที่อยู่ด้านในถ้ำนี้ไม่ได้หลอกล่อมันออกไปนอกถ้ำ"ต้าเหว่ยถามขึ้น"ท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่ามันตาบอดเพียงแค่เราอยู่ด้านไหนและกบกินกายของเราแล้วเราอยู่เฉยๆอะไรการเคลื่อนไหว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาวานร

    ทางด้านทั้งหกและสัตว์อสูรหนึ่งตนที่ตอนนี้กำลังนั่งบำเพ็ญอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขารับรู้ได้ถึงพลังงานภายในห่างพวกเขาออกไปหากเดินทางเข้าไปไม่เกินครึ่งก้านผู้พวกเขาต้องเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่มีแรงกดดันมหาศาล อยู่ในนั้นพวกเขาเลือกจุดนี้เพราะว่าไอวิเศษนั้นมาถึงกลุ่มของพวกเขาทำให้พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากไอวิเศษของสิ่งเหล่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปส่มวันจู่ๆก็รู้สึกว่าตัวของเขานั้นเย็นวูบน่าจะสามครั้งได้ นางยิ้มด้วยความดีใจเพราะวรยุทธของนางอยู่เฉยๆก็เพิ่มขึ้น อาจจะเป็นเพราะผู้เป็นนายของเขานั้นมีวรยุทธเพิ่มขึ้นก็ได้ ทุกคนมองหันมาที่ลี่หลินเพียงคนเดียวเพราะพวกเขาทุกคนสามารถรับรู้ถึงแรงกดดันก่อนที่วรยุทธนั้นจะเพิ่มขึ้น"ไม่ใช่ว่าเจ้าจะบรรลุวรยุทธอีก 3 ขั้นแล้วหรือ"ไป๋อวิ้นถามขึ้น"ข้านั่งฝึกวรยุทธภายในอยู่สามวัน ข้าไม่คิดว่าร่างกายของข้าจะเพิ่มวรยุทธขึ้นได้มากขนากนี้ ข้าคิดว่าผู้เป็นนายของข้าน่าจะมีวรยุทธเพิ่มขึ้นข้าถึงได้ผลประโยชน์ขนาดนี้"ลี่หลินพูดด้วยความดีใจ"ลี่หลินเจ้าเสื่อกับผู้เป็นนายของเจ้าได้แล้วหรือ พวกเขาอยู่ที่ใดกัน พวกเราจะรีบตามพวกเขาไป"ซิงอีกล่าวขึ้น ลี่หลินได้แต่ส่ายหัวมันรับ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ผลขจี

    หลังจากกลุ่มของจินเป่าไปตกอยู่สถานที่หนึ่งนั้นราวๆสามวันพวกเขาทั้งสามนั้นก็รู้สึกตัว พวกเขาเหี่ยวสถานที่หนึ่งเหมือนเป็นกองฟางและมีแอ่งตรงกลางแต่กองฟางที่พวกเขานอนนั้นมองแล้วลักษณะเป็นสีขาวไข่มุก ซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ใด ห่าวอู๋อวี่ลุกขึ้นได้จึงนั่งขับเคลื่อนวรยุทธของตัวเอง เส้นลมปานของเขานั้นเสียหายไปสามส่วน เลือดยังคลั่งอยู่ที่สมองเขาก็กระอักเลือดออกมาคำตอบ เจ้าอีกาดำสามขาจื่ออี้เฉินงั้นถึงกับปีกหักและขาที่สามของมันก็หักเลยทีเดียว ร่างกายของมันกระทบกับของแข็งประเภทใดตัวมันเองก็ยังไม่รู้ จินเป่าเมื่อลืมตาขึ้นมาก็รับรู้ได้ถึงคลื่นมหาศาลถาโถมเข้าตัวของตัวนางเอง นางรู้สึกเย็นวูบวาบสามครา นางลืมตาแล้วมองมือของตัวเองทั้งสองข้างวรยุทธของนางนั้นเพิ่มขึ้นอีกแล้วตั้งสามขั้น แต่นางสงสัยยิ่งนักวรยุทธของผู้อื่นนั้นสูงขึ้นนั้นจะเกิดทัฑคาด แต่ทำไมนางซึ่งวรยุทธสูงเลยระดับมามหาศักดิ์สิทธิ์มาเกินสามขั้นแล้ว นางยังไม่ถูกทัณฑฆาตเสียเลย นางมองไปรอบๆก็เห็นเจ้าอีกาดำสามขาที่นอนหมดแรงอยู่กับฟางสีขาวไข่มุกนั้น นางจึงหยิบยาสมุนไพรรักษาเส้นลมปราณธรรมดาออกมาให้มันกินไปพลางๆ และยื่นน้ำอมฤตให้ นางมองดูหน้าข

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ภาพเหมือน

    พญาหงส์ขาวที่กำลังต่อสู้นั้นหยุดชะงักและม้วนตัวพุ่งไปหาต้นขจีทันที ห่าวอู๋อวี่เองยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ พญาหงส์ขาวที่ต่อสู้กันอยู่ดีๆก็พุ่งไปหาจินเป่า จินเป่าที่ตอนนี้เห็นท่าไม่ดีเขากำลังอยู่ใกล้ต้นขจีเพียงนิดเดียวหากเขาหลบก็ไม่ทันเสียแล้ว เจ้าต้นขจีก็มัวแต่พลักดันนักยุทธให้ถ่อยกลับไปแต่มันไม่ได้ใช้ตามองจินเป่า เนื่องจากว่ากลิ่นอายของนางนั้นเป็นต้นหลิวต้องแสงจันทร์ในเมื่อนางนั้นได้กลืนกินพลังของต้นหลิวต้องแสงจันทร์แล้ว นางก็ปล่อยพลังของมันออกมา จึงทำให้ต้นขจีซึ่งเป็นพืชวิเศษเหมือนกันไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นมนุษย์มันจึงไม่ได้ระวังตัวจากจินเป่าเลย แต่พญาหงส์ขาวรับรู้การไปของจินเป่าดีจึงพุ่งไปหานางและพ่นไฟใสทันที นางแบมือเก็บไฟดังเดิม แต่คราวนี้เจ้าพญาหงส์ขาวนั้นพุ่งเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันระวังและเก็บมันเข้าไปในมิติทันที หลังจากที่มันเข้าไปในมิติแล้วจินเป่าจึงใช้กริชที่กรีดเลือดของตัวเองนั้นแทงเข้าไปยังรากของต้นขจีทันที "วี้ดๆๆๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆๆ"เสี่ยงต้นขจีกรีดร้องและเอนไปเอนมาตอนนี้รากของมันถอนขึ้นจากดินเสียแล้ว จินเป่าได้ทีจึงโบกมือและเก็บต้นขจีก่อนที่มันจากอาละ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาหงส์ขาว

    ทั้งสองคุยกันอยู่สักพักก็เข้าใจกันส่าตะจัดการเช่นไร"นั่นไงทั้งสองคนอยู่ตรงนั้นกำลังคุยกันอยู่แล้วแผนของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อล่ะลี่หลิน"จางซินกล่าวถาม"แผนของพวกเขาคือให้พวกเราทุกคนระวังตัวเองและแก้ไขสถานการณ์ไปตามเหตุการณ์ต่างๆ"ลี่หลินกล่าวขึ้น ทุกคนก็มองไปยังลี่หลินเพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่านางได้สื่อสารกับผู้เป็นนายจริงหรือไม่ เนื่องจากพอถามพบนางก็ตอบทันที "งั้นพวกเราก็ต้องดูแลตัวเองและปกป้องด้วยให้ได้ เพื่อที่จะไม่เป็นตัวถ่วงของพวกสองคนนั้น"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น"แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ข้าสงสัยยิ่งนัก ทำไมข้าที่อยู่มิติแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้เลยล่ะ เรื่องที่มีผลขจีสุกอะไรนั่น ทำไมหรือพอดูดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะสัตว์อสูรต่างๆก็รายล้อมเข้ามา และนักยุทธต่างๆก็เหมือนสนใจสิ่งเหล่านี้ ข้าอยากรู้เหลือเกินว่ามันเป็นสิ่งใด"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น"ข้าเองก็สงสัยว่าทางราชสำนักไม่ได้ส่งผู้ใดมาเข้าชิงผลขจีเลย เป็นไปได้หรือไม่ว่าทางราชสำนักนั้นไม่สนใจกับสมุนไพรชนิดนี้ เจ้าที่อยู่ในเมืองหลวงนั้นจึงไม่รู้ว่ามีของดีแบบนี้"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น ทุกคนขอพยักหน้าพร้อมที่จ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นขจี

    เมื่อถึงยามเที่ยงคืนแล้วสัตว์อสูรตนนั้นก็ออกมาจากต้นขจีมันเป็นสัตว์อสูรสีขาวสว่างไสว มองไกลๆราวกลับนกกินรีสีขาวแต่พอมองดีๆก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่กินรีแต่อย่างใด"นั่นมันพญาหงส์นิสัตว์มหาอสูรที่เฝ้าอยู่ต้นขจีมันคือพญาหงส์นี่เอง"บุรุษกลุ่มที่จับตัวทั้งสองคนมากล่าวขึ้น "พวกเจ้าแกะมัดมือข้าทั้งสองได้แล้วกระมังข้าจะได้หาวิธีที่จะเอาชนะสัตว์มหาอสูรตนนั้น"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น กลุ่มคนที่จับตัวพวกเขามาจึงปรึกษากันไม่นานเขาก็แกะเชือกวิญญาณนั้นออก "ข้าทั้งสองจำเป็นที่จะต้องโจมตีพร้อมๆกันแล้วพวกเจ้ามีใครที่ต้องการที่จะลงมือบ้าง ข้าจะได้วางแผนเผื่อพวกเจ้า"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น ทั้งหมดที่จับตัวทั้งสองคนมานั่นนั่งเงียบทันทีไม่มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดเพราะไม่มีใครต้องการที่จะลงมือ "ทำไมพวกท่านไม่คิดที่จะลงมือเลยหรอ ในเมื่อต้องการของแต่ถ้าไม่ลงมือพวกท่านจะมีหน้ารับของพวกนี้ได้อย่างไร"จินเป่าถามขึ้ม"เอาเป็นว่าพวกข้าไม่ลงมือต่อสู้กับสัตว์มหาสูรแต่พวกข้าจะลงมือแย่งชิงกับผู้มียุทธเหล่านั้นเอง ถ้าพวกข้าได้ผลขจีมามากพอพวกข้าจะแบ่งให้พวกเจ้า "บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น"ข้าเองจะไปสู้กับสัตว์อสูรเหล่านั้นแต่ข้าเอง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตอบแทน

    เมื่อยามค่ำคืนเข้ามากล้ำกรายในห้องห่าวอู๋อวี่กับจินเป่านอนด้วยกันบนเตียงนอน"ข้าอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไปจังที่เราสองคนได้นอนกอดกันบนเตียงนุ่มแบบนี้ หากเราช่วยท่านพ่อตากับแม่ยายได้แล้วเราแต่งงานกันนะ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวออกมาอย่างหยอกล่อและจิงจังในท่าที จินเป่าไม่ได้กล่าวอะไรนางได้ยินเสียงกุกกักนอกประตูนางรู้ดีว่าห่าวอู่อวี่รับรู้ได้ก่อนนางเสียอีกแต่เขาก็แกล้งพูดไปต่างๆนานา เมื่อด้านนอกได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน เขาก็ไม่กล้าที่จะบุกเข้ามา ห่าวอู๋อวี่สังเกตเห็นถึงข้อนี้"ข้านอนแล้วนะเจ้าเองก็นอนเถอะ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น เพื่อจะได้เดินตามแผนของกลุ่มคนที่มาดักจับสองคนเขา สักพักใหญ่ๆเสียงเคลื่อนไหวภายในห้องก็สงบลง บุรุษผู้หนึ่งโบกมือเป็นสัญญาณให้ผู้ที่อยู่ด้านหลังค่อยๆเปิดประตูโรงเตี้ยมให้ แล้วค่อยๆบุกเข้าไปจับตัวทั้งสองได้ เมื่อถูกจับทั้งสองคนก็แกล้งทำเป็นหลับไหลไม่ได้สติ จินเป่าทำท่าทางตกใจตื่นขึ้นมา"หวกเจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงมาจับพวกข้าเช่นนี้ พวกข้าทั้งสองไปทำอะไรให้พวกเจ้าโกรธเคืองกัน"จินเป่าพูดขึ้น"แม่นางอย่าดิ้นรนเลย อย่าต่อรองกับการจับกุมในครั้งนี้ พวกเราวางแผนมานานแล้ว แล้วคนที่จับต

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แผน

    ป่ากระดังงาที่พวกเขาเดินทางเข้าไปนั้นร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่เล็กประปรายกันอยู่ มีโขดหินใหญ่โขดหินเล็กและมีเสียงสัตว์เล็กสัตว์น้อยมากมาย เสียงนกร้องสักพักและบินจากไปเพื่อหาอาหาร"เราจะอยู่ผจญภัยอยู่ที่ป่าอัสดงกันจนจะมีวรยุทธเพิ่มขึ้นเท่าใดดี เราต้องตั้งเป้าหมายและล่ะ"จางซินกล่าวขึ้น"ข้าไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่าจนกว่าพวกเราทั้งจะพอใจกันดีกว่า"ห่าวอู๋มูลี่กล่าวขึ้น"แล้วต้าเสว่ยล่ะท่านคิดว่ามาผจญภัยยังภายนอกแล้วท่านยังคิดว่ายังอยากติดตามพวกเราต่อหรือไม่"จินเป่าถามขึ้น"ถ้าไปกับพวกเจ้าแน่นอน ข้ารู้สึกสนุกรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกท้าทายแล้วพวกเจ้าก็มีจิตใจที่ดีช่วยเหลือชาวบ้านถ้าคิดว่าข้าต้องติดตามพวกเจ้าไปให้ถึงที่สุด"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น พวกเขาเดินทางในป่ากระดังงาราวๆเจ็ดวันก็ออกจากป่ากระดังงา เดินทางด้วยความราบรื่นตอนกลางวันเดิน กลางคืนก็พักผ่อนพวกเขาไปถึงหมู่บ้านอัสดงในเวลาเที่ยงของวันที่เจ็ด เมื่อพวกเขาไปถึงก็หาโรงเตี้ยมเพื่อนั่งกินอาหารกัน และจะได้ฟังข่าวจากนักยุทฑท่านอื่นด้วย พวกเขาเลือกนั่งโต๊ะกลางสุดเพราะจะได้ฟังเสียงข้างๆได้สะดวกยิ่งขึ้น "ป่าอัสดงทุกวันนี้ทำไมข้าไม

Découvrez et lisez de bons romans gratuitement
Accédez gratuitement à un grand nombre de bons romans sur GoodNovel. Téléchargez les livres que vous aimez et lisez où et quand vous voulez.
Lisez des livres gratuitement sur l'APP
Scanner le code pour lire sur l'application
DMCA.com Protection Status