Home / แฟนตาซี / ให้ชะตากรรมนำทาง / ทะเลทรายไร้ดางอาทิตย์

Share

ทะเลทรายไร้ดางอาทิตย์

Author: Sanassetong
last update Last Updated: 2025-01-11 19:31:26

หลังจากที่ทุกคนกินปลาย่างเสร็จจางซินและจางหยงยืนยันที่จะเดินทางต่อเลยทุกคนจึงตกลงที่จะเดินทางต่อ

"ถ้าเรายังไม่เดินทางต่อนะตอนนี้ข้าเกรงว่าคนที่อยู่มิติเชื่อมจิตจะไม่ได้มีเพียงกลุ่มเดียวที่ตามพวกเราอยู่ในเมืองตะวันน่ะสิ ข้ากลัวว่าจะมีคนหลายกลุ่มเลยแหละ เพราะฉะนั้นเรารีบเดินทางต่อเถอะ เราเดินทางไปถ้าเราเหนื่อยก็พักเพราะทะเลทรายไร้กลางคืนแห่งนี้จะไม่มีทั้งดวงจันทร์และดวงอาทิตย์ เราไม่สามารถรู้ได้ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืน ใช้เวลาที่เราเหนื่อยก็แล้วกัน ทสำหรับการหยุดพักของพวกเรา"

จางหยงกล่าวขึ้น และทั้งสี่ก็เดินทางต่อไป

"ข้าออกมาจากป่าม่านได้อย่างไรกันหรือซิงอี "

จางซินถามขึ้น

"คุณชายใหญ่แบกเจ้ามานะสิ เจ้ารู้ตัวหรือไม่ว่าตัวเจ้าหนักมากเลย คุณชายใหญ่แบบเจ้าแทบไม่ไหวด้วย เขาแบกเจ้าถายในหนึ่งวันก็ต้องพักตั้งหลายรอบแหนะ"

ซิงอีเองก็แกล้งแหย่พี่สาวเล่นๆ ทำให้คนเดินร่วมทางรู้สึกขำขันไปด้วย ทำให้จางซินเองถึงกับหน้าแดงเลยทีเดียว

"คุณชายใหญ่ต้องขอขอบคุณท่านมากนะ ที่ท่านช่วยแบกข้ามา แต่ท่านไม่ได้คิดฉวยโอกาสกับข้าใช้ไหม ท่านแบกข้าตั้งหนึ่งวันแนะ"

จางซินกล่าวขึ้น

"ใครจะคิดฉวยโอกาสกับเจ้ากัน เป็นข้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Related chapters

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   เขาวงกต

    เมื่อทั้งสองเดินมาตรงจุดพักที่อยูไกลสายตา แถบนี้คือทะเลทรายถ้ามองเองก็ไม่ค่อยชัดเจน นางจึงสั่งให้กระต่ายหยกทำงานอย่างเคย กระต่ายหยกแปลงร่างเป็นแมลงตัวเล็กๆอยู่บริเวณนั้นนานแล้ว มันจึงสื่อมาว่าจางซินรักษาทั้งสองเพียงคนเดียว และตอนนี้พลังของนางน่าจะน้อยลงทำให้จางหยงถ่ายทอดพลังช่วยนาง"การรักษาด้วยพลังรักษาด้วยมิติมันหนักหนาเลยหรือ"จินเป่าถามห่าวอู๋อวี่"หากรักษาคนต่อคนก็ไม่ยากเย็นหรอก แต่ถ้ารักษาสองคนแล้วมีผู้รักษาเพียงคนเดียว ก็ต้องอาศัยพลังวรยุทธของคนอื่นร่วมด้วยทำไมหรือ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวให้ฟังและถามขึ้น"ป่าวหรอกก็แสดงว่าจางหยงไม่มีมิติธาตุนะ เรารอสักหน่อยค่อยกลับดีกว่า"จินเป่ากล่าวขึ้น พอรอให้การรักษาสมบูรณ์แล้วทั้งสองก็กลับจุดพัก"ไม่เจอพวกนั้นเลยหรืออาจเป็นเพราะเรามองไม่เห็นมัน แล้วมันไม่ได้เคลื่อนไหวใดๆหรือป่าวจึงไม่พบรังมัน"จินเป่ากล่าวขึ้น พลางมองหน้าซิงอี"พวกเจ้าหายารักษาทั้งสองได้แล้วหรือดีจังเลย งั้นเดียววันนี้ข้าเตรียมอาหารให้นะ"จินเป่ากล่าวและเตรียมอาหารให้ทุกคน ปกตินางเป็นคุณหนูสามไม่ได้ทำสิ่งใด เลยสักอย่าง แต่ร่างเดิมของนางต้องทำเองทุกอย่างจึงทำให้นางเก่งเรื่องอาหา

    Last Updated : 2025-01-11
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   มิตินิมิตร

    "ข้าว่าพวกเรายังอยู่ที่เดิมนะ เพราะพวกเราก็อยู่ในทะเลเหมือนเดิม"ห่าวอู๋มู่ลี่กล่าวขึ้น"เราเดินไปในป่าสักนิดนึงแล้วเราค่อยพักเถอะอยู่แถวนี้มันอันตรายเกินไปเพราะจุดนี้จะเป็นทางเข้าทางออกจากนิติแห่งนี้และก็มีคนรู้จักที่นี้พอสมควรด้วย"จางหยงกล่าวขึ้นเพราะว่าพวกตนเคยมามิตินิมิตรแล้ว จึงชวนทุกคนเข้าไปพักในป่าจะดีกว่า ทุกคนจึงลากตัวเองขึ้นจากน้ำและเดินโซซัดโซเซขึ้นไปในป่าเมื่อเข้าไปในป่าก็พบกับต้นไม้ใหญ่สองต้นเหมือนเป็นทางเข้าพวกเขาทั้งหกจึงมุ่งไปทางต้นไม้ใหญ่ เมื่อพ้นจากต้นไม้ใหญ่ทั้งสองต้นนั้นแล้วความรู้สึกเหมือนไอวิเศษ พุ่งเข้ามาในร่างกายของคนทั้งสี่คน เป็นไอวิเศษที่มีแรงกดดันมหาศาล ซึ่งแรงกดดันนี้จางซินกับจางหยงจับถึงความผิดปกติไม่ได้ด้วยซ้ำ ทั้งสี่คนจึงทรุดตัวลงแล้วนั่งขัดสมาธิเพื่อที่จะขับเคลื่อนวรยุทธ์ภายใน ขนาดยืนพวกเขาทั้งสี่ยังลำบากแล้วจะให้เดินทางไปยังมิติเชื่อมจิตได้อย่างไร ระหว่างมิติสามัญกับมิตินิมิตรแห่งนี้ช่างมีไอวิเศษที่แตกต่างกันมากนัก ทั้งสี่คนนั่งขับเคลื่อนวรยุทธภายในใช้เวลาเราสองกานธูปทั้งสี่ก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมาไอวิเศษที่กดดันพวกเขามานั้นไม่ได้ทำให้พวกเขาเลื่อนวรยุทธแต่

    Last Updated : 2025-01-12
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   รถม้าจากวังหลวง

    เช้าวันต่อมารถม้าอันสวยหรูและใหญ่โตจากวังหลวงจอดรออยู่หน้าโรงเตี๊ยมสองคัน ผู้คนเดินผ่านไปมาก็สงสัยว่าเป็นรถม้าของใครกัน จากวังหลวงใครเสด็จออกมาทำไมถึงมาถึงแต่เช้า บุรุษและสตรีทั้งหก ก็ลงมาจากห้องพักของโรงเตี๊ยมและนั่งรับประทานอาหารกันอยู่ บุรุษผู้หนึ่งที่พวกเขาได้คุยกันเมื่อคืนก็เดินมาและโค้งคำนับให้พวกเขา"ผู้มียุทธทั้งหกตอนนี้รถมาได้มาจอดรอพวกท่านแล้วหากพวกท่านรับประทานอาหารเสร็จแล้วพร้อมจะไปก็เชิญเลยนะขอรับ"ชายผู้นั้นกล่าวขึ้นและเปลี่ยนสรรพนามเรียกพวกเขาทั้งหกและก็น้ำเสียงอันไพเราะและนอบน้อมกับพวกเขามากกว่าเดิม ทำให้พวกเขาทั้งหกยิ้มได้เพราะว่าถ้ามาในรูปแบบนี้ก็แสดงว่ามาดีจริงๆ"พวกเราอิ่มแล้วล่ะไปกันเถอะ ขอบคุณพวกท่านมากนะที่นำรถม้ามารับพวกเราพวกเราจะได้พักผ่อนในการเดินทาง"จางซินกล่าวขึ้น ทั้งหกจึงออกไปขึ้นรถม้าบุรุษหนึ่งคันและสตรีหนึ่งคัน เมื่อพบคนด้านมองเห็นว่าเป็นบุรุษที่หน้าตาหล่อเหลาขึ้นไปบนรถม้าคันแรกก็เดาสถานะของบุรุษทั้งสามคนนั้นไปต่างๆนานา และเห็นสตรีทั้งสาวขึ้นรถม้าคันที่ใหญ่โตได้สวยหรูอีกคันพวกเขาก็เดากันไป"บุรุษจากวังหลวงหรือ พวกเราก็ต่างเห็นองค์ชายรัชทายาทกันแล้ว

    Last Updated : 2025-01-13
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   จุดประสงค์ใด

    "ข้าไม่รู้หรอกว่าพวกเขามาดีหรือมาร้ายแต่ข้ารู้แล้วล่ะว่าพวกเขามาเรื่องอะไร สองปีที่แล้วพวกข้าไปเก็บผลหลิวต้องแสงจันทร์แล้วข้าก็พบกับผู้มียุทธของมิติเชื่อมจิตแล้วก็มิตินิมิตผู้มียุทธที่เดินทางไปอาจจะจำพวกข้าได้ จึงติดประกาศเพื่อที่จะเรียกตัวพวกข้าเข้าไปในวังแต่ข้าก็ไม่รู้ว่าจุดประสงค์ที่แท้จริงคืออะไรแต่น่าจะเกี่ยวกับผลหลิวต้องแสงจันทร์เป็นแน่"จินเป่ากล่าวออกไปให้สหายฟังอย่างแผ่วเบาเพราะกลัวว่าผู้คนที่อยู่ด้านนอกจะได้ยิน จางซินได้ยินก็ตกใจเพราะตนก็เคยได้ยินมาว่ามีผู้เก็บผลหลิวต้องแสงจันทร์ได้ในสองปีที่แล้ว แต่ทีนางไม่รู้ก็คือ สหายของนางคือผู้ที่โชคดีและเก่งกาจที่เก็บไปได้ และนางเองไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เศษเสี้ยวของคนหลิวต้องแสงจันทร์ได้อยู่ในกายของนางและพี่ชายเรียบร้อยแล้ว"เป็นพวกเจ้าเองหรือข้ากับพี่ชายก็นึกว่าใครตอนที่ข้ามาถึงนิติสามัญ ข้ามาไม่ทันผลหลิวต้องแสงจันทร์เพราะข้าทั้งสองคนตัดสินใจมาช้าไป พวกข้ายังคุยกันอยู่เลยว่าอีก 10 ปีข้างหน้าค่อยรอผลหลิวต้องแสงจันทรสุกก่อนแล้วจะเข้าไปแย่งชิงกับคนอื่น"จางซินกล่าวอย่างเบิกบาน"เจ้าเบิกบานสิ่งใดกัน เราไม่คิดด้วยซ้ำว่าคนพวกนี้จะพาเราไปท

    Last Updated : 2025-01-13
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นไม้จันทน์แดง

    พอรุ่งเช้าทุกคนตื่นนอน เมื่อข้างในมีความเคลื่อนไหวของคนที่ตื่นนอน บ่าวรับใช้ที่รออยู่ด้านหน้าอยู่แล้วก็เตรียมอ่างล้างหน้าเตรียมน้ำไปเพื่อที่จะให้บุคคลที่อยู่ภายในทั้งหมดได้อาบ พวกเขายกน้ำเข้าไปในแต่ละห้องห้องซ้ายมือสุดที่ซิงอีและจินเป่าอยู่พวกเขาก็นำไปทั้งสองอ่าง ซิงอีจึงพยักหน้าให้ทุกคนออกไปเพราะเดี๋ยวเขาจัดการให้จินเป่าเอง"เขาดูแลใส่ใจพวกเราดีขนาดนี้เจ้ายังกังวลอะไรอีกหรือ"ซิงอีถาม"พวกเราแค่ต้องการป้องกันตัวเองเท่านั้น เพราะข้าไม่อยากจะแยกจากพวกท่านอีกพี่ซิงอีเข้าใจหรือไม่ ข้าอยากจะให้พวกเราทั้งหมดเดินทางไปถึงบ้านเราเร็วๆตั้งแต่ที่เราต่อสู้ที่มิติสามัญแล้ว ข้ากลัวการที่เราต้องแยกทางกัน เหมือนตอนที่เราได้ผลหลิวต้องแสงจันทร์แล้ว ข้ารู้สึกเป็นห่วงพี่อย่างบอกไม่ถูก"จินเป่ากล่าวขึ้น ทำให้ซิงอีน้ำตาคลอ มันก็ใช่อย่างที่นางพูดเพราะตอนนั้นตนก็คิดแบบนี้เช่นกันและตนก็ไม่อยากให้เหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นอีกเหมือนกัน หลังจากที่ทุกคนอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วก็ออกไปนอกตัวห้อง ภายในเรือนนั้นก็ได้จัดเตรียมอาหารวางไว้ให้เรียบร้อยแล้วบ่าวรับใช้ยืนอยู่ข้างโต๊ะอาหาร"เชิญพวกท่านทั้งหก รับ

    Last Updated : 2025-01-14
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ห่านต้าเสวุ่ย

    เมื่อองค์ชายหกจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เขาก็กลัวว่าแขกจากมิติสามัญจะเบื่อหน่าย จึงให้บ่าวรับใช้ไปชวนทั้งหมดไปนั่งดื่มน้ำชาที่โรงเตี๊ยมสักหน่อย ทั้งหกรีบตอบรับทันทีเพราะต้องการสืบข้อมูลจากองค์ชายหกด้วบ"พวกท่านคิดว่าองค์ชายหกเป็นอย่างไรหรือ"จินเป่าเปิดประเด็นถามสหายร่วมทาง"ข้ามองดูว่าเขาเป็นคนดีออกนะ เหมือนที่อยู่ในนั้นเหมือนทุกคนจะแปลกๆ แล้วคนไหนที่เป็นชายาหรือ แล้วก็บุตรขององค์ชายรัชทายาทอีก หรือเป็นเด็กชายที่นั่งอยู่ข้างๆฮองเฮานั่นหรอ"จางหยงกล่าวขึ้น"เด็กผู้ชายคนนั้นนั่นหรือหน้าตาไม่ได้เหมือนองค์ชายรัชทายาทเลยนะ"จางซินถามขึ้น"เจ้าก็อย่าเพิ่งพูดอะไรดูพวกเราสิเป็นพี่น้องกันยังหน้าตาไม่เหมือนกันเลย แล้วดูเจ้ากับพี่ชายของเจ้าที่พ่อแม่เดียวกันสิ หน้าตายังไม่ค่อยเหมือนกัน นับประสาอะไรกับเด็กนั่นละที่กำลังเด็ก ยังไม่โตด้วยซ้ำ เดี๋ยวคนอื่นได้ยินเราก็จะเดือดร้อน"ซิงอีกล่าวขึ้น สักพักก็มีบ่าวรับใช้ผู้หนึ่งวิ่งมาจึงทำให้จางซินตกใจเพราะนางพึ่งพูดถึงลูกขององค์ชายรัชทายาทไปเมื่อตะกี้"คุณหนูกับคุณชายทุกคนเจ้าค่ะพอดีว่าองค์ชายหกเชิญพวกท่านไปดื่มน้ำชาที่โรงเตี๊ยม ถ้าพวกท่านสะดวก"บ่าวรั

    Last Updated : 2025-01-14
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พิษมาจากที่ใด

    "มีสิ่งใดหรือเข้ามาสิ"องค์ชายหกตอบรับขึ้น บ่าวก็วิ่งเปิดประตูเข้ามา"ด้านล่างองค์หญิงสามกับองค์หญิงสี่ กำลังมาที่โรงเตี๊ยมนี้ขอรับน่าจะรู้ว่าองค์ชายหกพาแขกจากมิติสามัญมาดื่มน้ำชาก็เลยจะตามมาขอรับ น่าจะมาแอบฟังพวกท่านสนทนากันกระมังขอรับ"บ่าวรายงานขึ้น"ช่างพวกนางเถอะข้าไม่ได้พูดคุยอะไรกันสักหน่อยข้าแค่ถามสารทุกสุขดิบการเดินทางไปมาของพวกเขาเท่านั้นเจ้าไม่ต้องกังวลหรอกออกไปเถอะ"องค์ชายหก กล่าวขึ้นแต่สีหน้าของเขานั้นเปลี่ยนไป สีหน้าของเขาทำราวกับเป็นเรื่องยุ่งยากมาก สักพักก็ได้ยินผู้คนเดินมามากมายและเปิดประตูห้องข้างๆของพวกเขา น่าจะเป็นองค์หญิงทั้งสองที่มาฟังพวกเขาสนทนากัน"องค์ชายหกท่านเคยกินปลาหลีกับน้ำจิ้มซีฟู้ดหรือไม่"ซิงอีถามขึ้น เพราะต้องการให้องค์ชายหก รับรู้ว่าพวกตนจะเปลี่ยนแนวการสนทนามาพูดเรื่องชีวิตประจำวันกันแล้วเขาจะได้ไม่ซีเรียส เพราะว่าถามจริงๆพวกเขาก็คงจะคิดว่าองค์ชายหก จะให้ข้อมูลเกี่ยวกับองค์ชายรัชทายาทมีความเป็นไปได้สูงว่าสองคนนี้มาสืบเรื่องของพวกเขา"อะไรนะปลาหลี่น่ะข้าเคยกินแต่น้ำจิ้มซีฟู้ดอะไรนั่นข้าไม่เห็นจะรู้จัก"องค์ชายหกกล่าวขึ้น"รู้ไหมมันเป็นอาหารเลิศรสของเ

    Last Updated : 2025-01-15
  • ให้ชะตากรรมนำทาง   สงสัย

    "อย่าบอกนะว่าเจ้าสงสัยพระชายานั้นจึงสอบถามองค์ชายหกแบบนั้น"จางซินถามจินเป่าขึ้นหลังจากกลับมาถึงเรือนแล้ว"ก็มันน่าสงสัยนี่เจ้าคิดดูสิว่าจะมีผู้ใดได้ผลประโยชน์ในเรื่องนี้ณเวลานี้ พวกองค์ชายทุกคนจะได้ผลประโยชน์เมื่อท่านประมุขนั้นสิ้นแล้วเท่านั้น ถ้าองค์ชายรัชทายาทไม่อยู่ เพราะข้าคิดได้แบบนี้"จินเป่ากล่าวขึ้น"แต่ก็ไม่แน่เหมือนที่องค์ชายหกบอกเองนั่นแหละ ว่าพวกอนุเองก็น่าจะมีความคิดที่อยากทำแบบนี้ ณ เวลานี้เราจะตัดสินใจลงมือทำสิ่งใดไม่ได้เลย เพราะฉะนั้นเราต้องระวังตัวเป็นอย่างมาก ถ้าเราจะจัดการให้องค์ชายรัชทายาทหายจากพิษเลยก็กลัวที่จะมีปัญหากับผู้ที่อยู่เบื้องหลัง"จินเป่ากล่าวขึ้น"แล้วเราจะรักษาให้เขาหรือป่าวล่ะ"จางซินถาม"รักษาสิ เจ้ามีตัวยาใดที่จะรักษาได้หรือป่าว"จินเป่าถามขึ้น"ก็ผลหลิวต้องแสงจันทร์ไงที่รักษาได้ "จางซินกล่าวขึ้น"ถ้าไม่ใช้ผลหลิวต้องแสงจันทร์เรามีตัวอย่าอื่นรักษาแทนได้หรือป่าว ทำให้เขาค่อยๆดีขึ้นนะ"จินเป่ากล่าวขึ้น"ทุกตัวยาที่ข้าคิดได้ต้องใช้ผลหลิวต้องแสงจันทร์เป็นตัวปรุงอยู่ดี"จางซินตอบพลางมองไปยังพี่ชายของตน"งั้นก็ปรุงยาตัวที่ง่ายที่สุดที่พวกเรามีสมุนไพรอยู

    Last Updated : 2025-01-15

Latest chapter

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แหวน

    เพื่อพวกเขาเข้ามาเสร็จแล้วก็ต้องพบกับความประหลาด ด้านในนี้มีแก้วแหวนเงินทองอยู่มากมาย ตรงกลางโถงกว้างมีไข่ขนาดใหญ่หนึ่งใบวางอยู่ ลวดลายของใข่ใบนั้นมีลวดลายที่งามวิจิตรยิ่งนัก และไอวิเศษที่เข้มข้นก็ไหลออกมาจากไข่ใบนี้นี้เอง แต่ช่างแปลกเมื่อพวกเขาทั้งเจ็ดเข้ามาในนี้แล้ว ไอวิเศษนั้นก็ไม่สามารถที่จะทำอันตรายใดๆกับพวกเขาทั้งเจ็ดนั้นได้ "ไข่นั้นมันเป็นไข่อะไรกัน ลวดลายแปลกตาจัง"ซิงอีถามขึ้นเขาไม่เคยเห็นมันมาก่อน"มันน่าจะเป็นไข่มังกรข้าเคยศึกษามา น่าจะเป็นไข่มังกรศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่ รวดลายของมันช่างมากมายขนาดนี้ มันน่าจะเป็นสัตว์อสูรที่อยู่ในขั้นที่สูงๆเป็นแน่ แต่เราจะนำมันออกจากไข่ได้อย่างไรกัน หรือว่าเราจะพามันออกจากถ้ำนี้ได้อย่างไร"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น ซิงอีจึงพยายามลองเก็บของที่อยู่ในนี้ดู เหมือนของเหล่านี้จะไม่ยอมเข้ามาในมิติของนางเลยสักชิ้น รวมถึงไข่ที่ต้าเหว่ยบอกว่าเป็นไข่มังกรด้วย มันไม่ยอมเข้ามาเลยสักนิด "ข้าเกรงว่าสมบัติที่อยู่ในนี้พวกเราไม่สามารถที่จะครอบครองมันได้ รวมทั้งไข่มังกรที่เจ้าว่าด้วย"จางซินกล่าวขึ้น ด้านข้างนอกนั้นพวกเขาก็ได้ยินเสียงของพญาวานรนั้นกำลังอาละวาดอยู่ เพร

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ช่องลับ

    ความเคลื่อนไหวของสัตว์อสูรตัวใหญ่นั้นเงียบลงแล้ว แสดงว่ามันน่าจะสงบลงพวกเขาจึงวางแผนกันใหม่ว่าจะเข้าไปยังถิ่นที่อยู่ของมันได้อย่างไรเนื่องจากไอวิเศษที่เข้มข้นพวกเขาไม่สามารถที่จะทนกลับไอวิเศษที่อยู่รอบๆตัวของมันได้เลย "ข้าว่าหากพวกเราเข้าไปใกล้ๆมันแล้วไอวิเศษนั้นมันเข้มข้นมากพวกเราจะไม่ตายเพราะไอวิเศษนั้นหรอกหรือ มันมีสิ่งใดบ้างที่จะทำให้ไอวิเศษนั้นลดน้อยลงได้หรือว่าเราสัมผัสกับไอวิเศษนั้นได้น้อยลงล่ะ"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น"มันไม่น่าจะลดไอวิเศษนั้นได้เนื่องจากว่าเรานั่งเสพไอวิเศษนั้นอยู่สามวันมันก็ยังไม่ลดเลยใครมีวิธีดีๆบ้างล่ะ"ไป๋อวิ้นกล่าวถามคนอื่น"เราใช้วิธีหลอกล่อดีหรือไม่ ให้คนกลุ่มนึงอยู่ฝั่งด้านในโน้น หากว่าคนกลุ่มหนึ่งหลอกล่อมันออกไปยังจุดนี้แล้ว คนกลุ่มที่อยู่ด้านในนั้นก็เคลื่อนตัวเข้าไปดูว่าข้างในมีสิ่งใด วิธีนี้พวกเราจะแบ่งกันเป็นสามคนและสี่คนดีหรือไม่"จางหยงกล่าวขึ้น"แล้วมันจะไม่รู้หรือว่ายังมีอีกกลุ่มที่อยู่ด้านในถ้ำนี้ไม่ได้หลอกล่อมันออกไปนอกถ้ำ"ต้าเหว่ยถามขึ้น"ท่านบอกเองไม่ใช่หรือว่ามันตาบอดเพียงแค่เราอยู่ด้านไหนและกบกินกายของเราแล้วเราอยู่เฉยๆอะไรการเคลื่อนไหว

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาวานร

    ทางด้านทั้งหกและสัตว์อสูรหนึ่งตนที่ตอนนี้กำลังนั่งบำเพ็ญอยู่ในถ้ำแห่งหนึ่ง ซึ่งพวกเขารับรู้ได้ถึงพลังงานภายในห่างพวกเขาออกไปหากเดินทางเข้าไปไม่เกินครึ่งก้านผู้พวกเขาต้องเจอกับบางสิ่งบางอย่างที่มีแรงกดดันมหาศาล อยู่ในนั้นพวกเขาเลือกจุดนี้เพราะว่าไอวิเศษนั้นมาถึงกลุ่มของพวกเขาทำให้พวกเขาได้ใช้ประโยชน์จากไอวิเศษของสิ่งเหล่านั้น เมื่อเวลาผ่านไปส่มวันจู่ๆก็รู้สึกว่าตัวของเขานั้นเย็นวูบน่าจะสามครั้งได้ นางยิ้มด้วยความดีใจเพราะวรยุทธของนางอยู่เฉยๆก็เพิ่มขึ้น อาจจะเป็นเพราะผู้เป็นนายของเขานั้นมีวรยุทธเพิ่มขึ้นก็ได้ ทุกคนมองหันมาที่ลี่หลินเพียงคนเดียวเพราะพวกเขาทุกคนสามารถรับรู้ถึงแรงกดดันก่อนที่วรยุทธนั้นจะเพิ่มขึ้น"ไม่ใช่ว่าเจ้าจะบรรลุวรยุทธอีก 3 ขั้นแล้วหรือ"ไป๋อวิ้นถามขึ้น"ข้านั่งฝึกวรยุทธภายในอยู่สามวัน ข้าไม่คิดว่าร่างกายของข้าจะเพิ่มวรยุทธขึ้นได้มากขนากนี้ ข้าคิดว่าผู้เป็นนายของข้าน่าจะมีวรยุทธเพิ่มขึ้นข้าถึงได้ผลประโยชน์ขนาดนี้"ลี่หลินพูดด้วยความดีใจ"ลี่หลินเจ้าเสื่อกับผู้เป็นนายของเจ้าได้แล้วหรือ พวกเขาอยู่ที่ใดกัน พวกเราจะรีบตามพวกเขาไป"ซิงอีกล่าวขึ้น ลี่หลินได้แต่ส่ายหัวมันรับ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ผลขจี

    หลังจากกลุ่มของจินเป่าไปตกอยู่สถานที่หนึ่งนั้นราวๆสามวันพวกเขาทั้งสามนั้นก็รู้สึกตัว พวกเขาเหี่ยวสถานที่หนึ่งเหมือนเป็นกองฟางและมีแอ่งตรงกลางแต่กองฟางที่พวกเขานอนนั้นมองแล้วลักษณะเป็นสีขาวไข่มุก ซึ่งพวกเขาก็ไม่รู้ว่าเป็นที่ใด ห่าวอู๋อวี่ลุกขึ้นได้จึงนั่งขับเคลื่อนวรยุทธของตัวเอง เส้นลมปานของเขานั้นเสียหายไปสามส่วน เลือดยังคลั่งอยู่ที่สมองเขาก็กระอักเลือดออกมาคำตอบ เจ้าอีกาดำสามขาจื่ออี้เฉินงั้นถึงกับปีกหักและขาที่สามของมันก็หักเลยทีเดียว ร่างกายของมันกระทบกับของแข็งประเภทใดตัวมันเองก็ยังไม่รู้ จินเป่าเมื่อลืมตาขึ้นมาก็รับรู้ได้ถึงคลื่นมหาศาลถาโถมเข้าตัวของตัวนางเอง นางรู้สึกเย็นวูบวาบสามครา นางลืมตาแล้วมองมือของตัวเองทั้งสองข้างวรยุทธของนางนั้นเพิ่มขึ้นอีกแล้วตั้งสามขั้น แต่นางสงสัยยิ่งนักวรยุทธของผู้อื่นนั้นสูงขึ้นนั้นจะเกิดทัฑคาด แต่ทำไมนางซึ่งวรยุทธสูงเลยระดับมามหาศักดิ์สิทธิ์มาเกินสามขั้นแล้ว นางยังไม่ถูกทัณฑฆาตเสียเลย นางมองไปรอบๆก็เห็นเจ้าอีกาดำสามขาที่นอนหมดแรงอยู่กับฟางสีขาวไข่มุกนั้น นางจึงหยิบยาสมุนไพรรักษาเส้นลมปราณธรรมดาออกมาให้มันกินไปพลางๆ และยื่นน้ำอมฤตให้ นางมองดูหน้าข

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ภาพเหมือน

    พญาหงส์ขาวที่กำลังต่อสู้นั้นหยุดชะงักและม้วนตัวพุ่งไปหาต้นขจีทันที ห่าวอู๋อวี่เองยังไม่ทันได้ตั้งตัวด้วยซ้ำ พญาหงส์ขาวที่ต่อสู้กันอยู่ดีๆก็พุ่งไปหาจินเป่า จินเป่าที่ตอนนี้เห็นท่าไม่ดีเขากำลังอยู่ใกล้ต้นขจีเพียงนิดเดียวหากเขาหลบก็ไม่ทันเสียแล้ว เจ้าต้นขจีก็มัวแต่พลักดันนักยุทธให้ถ่อยกลับไปแต่มันไม่ได้ใช้ตามองจินเป่า เนื่องจากว่ากลิ่นอายของนางนั้นเป็นต้นหลิวต้องแสงจันทร์ในเมื่อนางนั้นได้กลืนกินพลังของต้นหลิวต้องแสงจันทร์แล้ว นางก็ปล่อยพลังของมันออกมา จึงทำให้ต้นขจีซึ่งเป็นพืชวิเศษเหมือนกันไม่สามารถแยกแยะได้ว่าเป็นมนุษย์มันจึงไม่ได้ระวังตัวจากจินเป่าเลย แต่พญาหงส์ขาวรับรู้การไปของจินเป่าดีจึงพุ่งไปหานางและพ่นไฟใสทันที นางแบมือเก็บไฟดังเดิม แต่คราวนี้เจ้าพญาหงส์ขาวนั้นพุ่งเข้ามาหานางอย่างรวดเร็ว จึงไม่ทันระวังและเก็บมันเข้าไปในมิติทันที หลังจากที่มันเข้าไปในมิติแล้วจินเป่าจึงใช้กริชที่กรีดเลือดของตัวเองนั้นแทงเข้าไปยังรากของต้นขจีทันที "วี้ดๆๆๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆ วี้ดๆๆๆๆๆ"เสี่ยงต้นขจีกรีดร้องและเอนไปเอนมาตอนนี้รากของมันถอนขึ้นจากดินเสียแล้ว จินเป่าได้ทีจึงโบกมือและเก็บต้นขจีก่อนที่มันจากอาละ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   พญาหงส์ขาว

    ทั้งสองคุยกันอยู่สักพักก็เข้าใจกันส่าตะจัดการเช่นไร"นั่นไงทั้งสองคนอยู่ตรงนั้นกำลังคุยกันอยู่แล้วแผนของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อล่ะลี่หลิน"จางซินกล่าวถาม"แผนของพวกเขาคือให้พวกเราทุกคนระวังตัวเองและแก้ไขสถานการณ์ไปตามเหตุการณ์ต่างๆ"ลี่หลินกล่าวขึ้น ทุกคนก็มองไปยังลี่หลินเพราะพวกเขาไม่แน่ใจว่านางได้สื่อสารกับผู้เป็นนายจริงหรือไม่ เนื่องจากพอถามพบนางก็ตอบทันที "งั้นพวกเราก็ต้องดูแลตัวเองและปกป้องด้วยให้ได้ เพื่อที่จะไม่เป็นตัวถ่วงของพวกสองคนนั้น"ไป๋อวิ้นกล่าวขึ้น"แต่มีบางสิ่งบางอย่างที่ข้าสงสัยยิ่งนัก ทำไมข้าที่อยู่มิติแห่งนี้มาตั้งแต่เกิด แต่ไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้เลยล่ะ เรื่องที่มีผลขจีสุกอะไรนั่น ทำไมหรือพอดูดูแล้วเหมือนจะเป็นเรื่องใหญ่ เพราะสัตว์อสูรต่างๆก็รายล้อมเข้ามา และนักยุทธต่างๆก็เหมือนสนใจสิ่งเหล่านี้ ข้าอยากรู้เหลือเกินว่ามันเป็นสิ่งใด"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น"ข้าเองก็สงสัยว่าทางราชสำนักไม่ได้ส่งผู้ใดมาเข้าชิงผลขจีเลย เป็นไปได้หรือไม่ว่าทางราชสำนักนั้นไม่สนใจกับสมุนไพรชนิดนี้ เจ้าที่อยู่ในเมืองหลวงนั้นจึงไม่รู้ว่ามีของดีแบบนี้"ห่าวอู๋มู๋ลี่กล่าวขึ้น ทุกคนขอพยักหน้าพร้อมที่จ

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ต้นขจี

    เมื่อถึงยามเที่ยงคืนแล้วสัตว์อสูรตนนั้นก็ออกมาจากต้นขจีมันเป็นสัตว์อสูรสีขาวสว่างไสว มองไกลๆราวกลับนกกินรีสีขาวแต่พอมองดีๆก็รู้สึกว่ามันไม่ใช่กินรีแต่อย่างใด"นั่นมันพญาหงส์นิสัตว์มหาอสูรที่เฝ้าอยู่ต้นขจีมันคือพญาหงส์นี่เอง"บุรุษกลุ่มที่จับตัวทั้งสองคนมากล่าวขึ้น "พวกเจ้าแกะมัดมือข้าทั้งสองได้แล้วกระมังข้าจะได้หาวิธีที่จะเอาชนะสัตว์มหาอสูรตนนั้น"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น กลุ่มคนที่จับตัวพวกเขามาจึงปรึกษากันไม่นานเขาก็แกะเชือกวิญญาณนั้นออก "ข้าทั้งสองจำเป็นที่จะต้องโจมตีพร้อมๆกันแล้วพวกเจ้ามีใครที่ต้องการที่จะลงมือบ้าง ข้าจะได้วางแผนเผื่อพวกเจ้า"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น ทั้งหมดที่จับตัวทั้งสองคนมานั่นนั่งเงียบทันทีไม่มีผู้ใดกล่าวสิ่งใดเพราะไม่มีใครต้องการที่จะลงมือ "ทำไมพวกท่านไม่คิดที่จะลงมือเลยหรอ ในเมื่อต้องการของแต่ถ้าไม่ลงมือพวกท่านจะมีหน้ารับของพวกนี้ได้อย่างไร"จินเป่าถามขึ้ม"เอาเป็นว่าพวกข้าไม่ลงมือต่อสู้กับสัตว์มหาสูรแต่พวกข้าจะลงมือแย่งชิงกับผู้มียุทธเหล่านั้นเอง ถ้าพวกข้าได้ผลขจีมามากพอพวกข้าจะแบ่งให้พวกเจ้า "บุรุษผู้หนึ่งกล่าวขึ้น"ข้าเองจะไปสู้กับสัตว์อสูรเหล่านั้นแต่ข้าเอง

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   ตอบแทน

    เมื่อยามค่ำคืนเข้ามากล้ำกรายในห้องห่าวอู๋อวี่กับจินเป่านอนด้วยกันบนเตียงนอน"ข้าอยากให้มันเป็นแบบนี้ตลอดไปจังที่เราสองคนได้นอนกอดกันบนเตียงนุ่มแบบนี้ หากเราช่วยท่านพ่อตากับแม่ยายได้แล้วเราแต่งงานกันนะ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวออกมาอย่างหยอกล่อและจิงจังในท่าที จินเป่าไม่ได้กล่าวอะไรนางได้ยินเสียงกุกกักนอกประตูนางรู้ดีว่าห่าวอู่อวี่รับรู้ได้ก่อนนางเสียอีกแต่เขาก็แกล้งพูดไปต่างๆนานา เมื่อด้านนอกได้ยินเสียงคนพูดคุยกัน เขาก็ไม่กล้าที่จะบุกเข้ามา ห่าวอู๋อวี่สังเกตเห็นถึงข้อนี้"ข้านอนแล้วนะเจ้าเองก็นอนเถอะ"ห่าวอู๋อวี่กล่าวขึ้น เพื่อจะได้เดินตามแผนของกลุ่มคนที่มาดักจับสองคนเขา สักพักใหญ่ๆเสียงเคลื่อนไหวภายในห้องก็สงบลง บุรุษผู้หนึ่งโบกมือเป็นสัญญาณให้ผู้ที่อยู่ด้านหลังค่อยๆเปิดประตูโรงเตี้ยมให้ แล้วค่อยๆบุกเข้าไปจับตัวทั้งสองได้ เมื่อถูกจับทั้งสองคนก็แกล้งทำเป็นหลับไหลไม่ได้สติ จินเป่าทำท่าทางตกใจตื่นขึ้นมา"หวกเจ้าเป็นใครกัน ทำไมถึงมาจับพวกข้าเช่นนี้ พวกข้าทั้งสองไปทำอะไรให้พวกเจ้าโกรธเคืองกัน"จินเป่าพูดขึ้น"แม่นางอย่าดิ้นรนเลย อย่าต่อรองกับการจับกุมในครั้งนี้ พวกเราวางแผนมานานแล้ว แล้วคนที่จับต

  • ให้ชะตากรรมนำทาง   แผน

    ป่ากระดังงาที่พวกเขาเดินทางเข้าไปนั้นร่มรื่นมีต้นไม้ใหญ่เล็กประปรายกันอยู่ มีโขดหินใหญ่โขดหินเล็กและมีเสียงสัตว์เล็กสัตว์น้อยมากมาย เสียงนกร้องสักพักและบินจากไปเพื่อหาอาหาร"เราจะอยู่ผจญภัยอยู่ที่ป่าอัสดงกันจนจะมีวรยุทธเพิ่มขึ้นเท่าใดดี เราต้องตั้งเป้าหมายและล่ะ"จางซินกล่าวขึ้น"ข้าไม่ได้ตั้งเป้าหมายอะไรเท่าไหร่หรอก เอาเป็นว่าจนกว่าพวกเราทั้งจะพอใจกันดีกว่า"ห่าวอู๋มูลี่กล่าวขึ้น"แล้วต้าเสว่ยล่ะท่านคิดว่ามาผจญภัยยังภายนอกแล้วท่านยังคิดว่ายังอยากติดตามพวกเราต่อหรือไม่"จินเป่าถามขึ้น"ถ้าไปกับพวกเจ้าแน่นอน ข้ารู้สึกสนุกรู้สึกตื่นเต้น รู้สึกท้าทายแล้วพวกเจ้าก็มีจิตใจที่ดีช่วยเหลือชาวบ้านถ้าคิดว่าข้าต้องติดตามพวกเจ้าไปให้ถึงที่สุด"ต้าเหว่ยกล่าวขึ้น พวกเขาเดินทางในป่ากระดังงาราวๆเจ็ดวันก็ออกจากป่ากระดังงา เดินทางด้วยความราบรื่นตอนกลางวันเดิน กลางคืนก็พักผ่อนพวกเขาไปถึงหมู่บ้านอัสดงในเวลาเที่ยงของวันที่เจ็ด เมื่อพวกเขาไปถึงก็หาโรงเตี้ยมเพื่อนั่งกินอาหารกัน และจะได้ฟังข่าวจากนักยุทฑท่านอื่นด้วย พวกเขาเลือกนั่งโต๊ะกลางสุดเพราะจะได้ฟังเสียงข้างๆได้สะดวกยิ่งขึ้น "ป่าอัสดงทุกวันนี้ทำไมข้าไม

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status