"นายหญิง ท่านแม่ทัพส่งอาภรณ์มาเจ้าค่ะ"จ้าวหลี่เชี่ยนละสายตาจากภาพผีเสื้อตัวน้อยที่พากันโบยบินอย่างอิสระ ดมดอมตอมกลิ่นดอกไม้แสนสวยอย่างเพลิดเพลินจนน่าอิจฉา หันมามองเจ้าของคำพูดนั้น คำเรียกขานที่อีกฝ่ายใช้เรียกนางมันช่างฟังขัดหูเหลือเกิน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายเอ่ยเรียกนางเช่นนี้ แต่ถึงแม้นางจะเอ่ยห้ามเช่นไรอีกฝ่ายก็ไม่ฟัง กล่าวว่าในเมื่อถูกส่งมารับใช้นางก็ควรแล้วที่ต้องเอ่ยเรียกนางเช่นนี้ นางจึงต้องปล่อยเลยตามเลยดวงตาเศร้าหมองของหญิงสาวที่ตนต้องดูแลทำให้คนที่เดินถืออาภรณ์เข้ามาอดรู้สึกสงสารไม่ได้ลู่เจียว สตรีวัยประมาณยี่สิบปีผู้ที่คอยรับใช้หญิงสาวตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในจวนแม่ทัพแห่งนี้ เดินเข้ามาพร้อมกับวางอาภรณ์ที่ถืออยู่ในมือลงตรงหน้าผู้ที่ต้องสวมใส่มันในคืนนี้ แม้จะรู้สึกเวทนาสงสารอีกฝ่ายมากเพียงใดแต่นางก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย"ท่านแม่ทัพแจ้งว่าอาภรณ์สำหรับใส่ในคืนนี้เจ้าค่ะ ท่านลุกขึ้นมาชำระกายก่อนเถอะนะเจ้าคะ บ่าวเตรียมน้ำเอาไว้แล้ว"คำพูดนั้นทำให้จ้าวหลี่เชี่ยนสะท้านในอก ในที่สุดนางก็ไร้ซึ่งทางเลือก ยอมเอาตัวเองแลกกับชีวิตบ่าวของตนและแลกกับการที่อีกฝ่ายจะตามหาแม่นม
จ้าวหลี่เชี่ยนก้าวขาที่สั่นเทาพาเรือนร่างเย้ายวนในอาภรณ์เปิดเปลือยเดินเข้าไปหาบุรุษหนุ่มวัยฉกรรจ์ผู้ที่ใช้สายตาจ้องมองนางราวกับจะกลืนกิน นางรู้ดีว่าหลังจากนี้จะเกิดสิ่งใดขึ้น เขาไม่คิดจะปล่อยนางแน่อาการวูบๆ วาบๆ บางเบาที่เกิดขึ้นกับนางในตอนนี้ คงเป็นเพราะน้ำชาที่ลู่เจียวส่งให้นางดื่ม มันคงมียาปลุกกำหนัดผสมอยู่ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น นางก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอีกฝ่าย เพราะนางรู้ดีว่าลู่เจียวหาได้ไม่หวังดีกับนาง จากความรู้สึกที่เกิดขึ้นหาได้รุนแรง มันคงเป็นเพียงยาปลุกกำหนัดฤทธิ์อ่อนเท่านั้น และมันช่วยให้นางรู้สึกดีอีกด้วย นางเป็นเพียงดรุณีน้อยวัยสิบหก การต้องรับมือกับชายหนุ่มที่แข็งแกร่งและเขายังมีอายุเยอะกว่านางกว่าหนึ่งรอบ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่ในเมื่อไร้ซึ่งทางเลือก จึงข่มกลั้นความกระดากอายและความหวาดหวั่น เดินเข้าหาเจ้าของเรือนกายทรงพลังไอร้อนผ่าวจากเรือนร่างกำยำเข้าโอบล้อมนางทันทีที่เข้าใกล้ ทำให้ร่างกายนางนั้นสั่นสะท้าน เมื่อมายืนชิดใกล้กับอีกฝ่ายเช่นนี้ยิ่งเห็นว่าเขานั้นตัวสูงใหญ่กว่านางมากนัก นั่นทำให้นางอดที่จะรู้สึกหวาดหวั่นและหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้ดวงตาเจ้าเล่ห์หวานเชื่
ชายหนุ่มโอบอุ้มร่างงามระหงเข้าไปในห้องอาบน้ำโดยที่ริมฝีปากนั้นไม่ละไปจากใบหน้างาม เขายังคงจูบซับไปทั่วราวกับหลงใหลนางนักหนา สัมผัสอ่อนโยนนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว อยากจะให้ความรู้สึกอ่อนหวานอยู่เช่นนี้ตลอดไปเขาโอบอุ้มนางลงไปในถังน้ำด้วยกัน สายน้ำอุ่นที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้โอบล้อมไปรอบกายของคนทั้งสอง ความใกล้ชิดในบรรยากาศเช่นนี้ก่อให้เกิดความรู้สึกวาบหวาม ปรารถนาที่จะแนบชิดกันให้มากขึ้นฝ่ามือหนาหยาบลูบไล้ไปตามเรือนร่างงามที่เปียกน้ำ ความงดงามที่เขาปรารถนาจะครอบครองมาตลอด เนื้อผ้าบางเบาแนบลู่ไปกับร่างงาม สัดส่วนเย้ายวนปรากฏสู่สายตาชายหนุ่ม หน้าอกอวบอิ่มนุ่มหยุ่นเต็มไม้เต็มมือเหมาะเจาะลงตัวกับเอวเล็กคอดกิ่วรับกับสะโพกผายเต่งตึงกลมงอน ทั้งเนื้อทั้งตัวนุ่มละมุนหอมกรุ่น ผิวพรรณขาวนวลเนียนผุดผ่อง ไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาหลงใหลในเรือนร่างนี้ตั้งแต่ที่ช่วยนางขึ้นจากน้ำเมื่อครั้งที่นางถูกพี่สาวต่างมารดากลั่นแกล้ง เรือนร่างสะโอดสะองติดอยู่ในความทรงจำติดตรึงอยู่ภายในใจตลอดมา และตอนนี้เรือนกายที่น่าหลงใหลนั้นกำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้า อยู่ในอ้อมแขนของเขาและกำลังรอให้เขาเชยชมเหอไป๋เหยียนไ
ความรู้สึกปวดร้าวตามร่างกายที่เกิดขึ้นหลังจากที่ลืมตาตื่นขึ้นมา โดยเฉพาะส่วนสงวนกลางร่าง ทำให้ริมฝีปากอิ่มที่ยังคงบวมช้ำหลุดเสียงร้องออกมาแผ่วเบาจ้าวหลี่เชี่ยนขยับกายบอบบางได้อย่างยากลำบากจนนางไม่อยากที่จะลุกขึ้น ข้างกายนั้นไร้เงาของบุรุษผู้ที่ลงทัณฑ์นางอย่างเอาแต่ใจเมื่อคืนนี้ ความเย็นชืดที่สัมผัสได้บ่งบอกว่าคนผู้นั้นได้ลุกจากไปนานแล้ว หรือเขาอาจจะออกไปทันทีหลังจากที่ตักตวงความหอมหวานจากนางจนพอใจ เหลือทิ้งเอาไว้เพียงร่องรอยความบอบช้ำบนร่างกายและความเหนอะหนะจากคราบความใคร่ผสมกลิ่นกายของเขาที่ยังตลบอบอวลริมฝีปากแดงช้ำเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อรู้สึกได้ว่าขอบตาของนางร้อนผ่าวขึ้น ความโดดเดี่ยวอ้างว้าง น้อยเนื้อต่ำใจประเดประดังเข้ามาให้รู้สึกหนาวเหน็บจนต้องกระชับผ้าห่มคลุมกายจนแน่น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นเลย"คุณหนู คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ"เสียงอันคุ้นเคยที่เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนระคนห่วงใย พร้อมกับเจ้าของคำถามนั้นปราดเข้ามากุมมืออ่อนนุ่มของนางเอาไว้ นั่นทำให้จ้าวหลี่เชี่ยนลืมเลือนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทั้งจากทางร่างกายและจิตใจไปชั่วขณะ"ถิงถิง"เพราะสตรีเบื้องหน้าคือบ่า
"เก็บออกไปให้หมด""ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ หยุดเดี๋ยวนี้"...เสียงเอะอะโวยวายที่ดังขึ้นด้านในเรือนนอน ทำให้คิ้วเรียวสวยได้รูปขมวดเข้าหากัน เสียงหนึ่งนั้นย่อมเป็นของลู่เจียวผู้ที่คอยดูแลนางตั้งแต่เข้ามาอาศัยอยู่ในเรือนหลังนี้ ส่วนอีกเสียงหนึ่งนั้นนางมั่นใจว่าไม่เคยได้ยินเสียงของอีกฝ่ายมาก่อนจ้าวหลี่เชี่ยนวางสิ่งที่กำลังทำอยู่ในมือลง ในวันนี้นางที่ทนอุดอู้อยู่เพียงในเรือนและทนต่อความกังวลที่มีต่อเรื่องแม่นมผิงไม่ไหวจึงนำผ้าเช็ดหน้าออกมาปักอยู่ในสวนด้านหลังเรือนเพื่อให้จิตใจของตัวเองสงบ สายตานั้นจับจ้องไปยังที่มาของเสียง นางไม่รู้ว่าด้านในนั้นกำลังเกิดสิ่งใดขึ้น เรือนที่มักจะเงียบเหงาอยู่เสมอบัดนี้มีผู้ใดมาเยือนกันเมื่อก้าวเข้าไปด้านหน้าเรือนเพื่อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ภาพที่เห็นเบื้องหน้าของนางคือความวุ่นวายภายในห้องนอนของนางที่ดูคับแคบลงถนัดตาเมื่อมีสตรีนับสิบนางอยู่ในนั้นสตรีผู้หนึ่งที่แต่งกายด้วยอาภรณ์งดงามกำลังสั่งให้บ่าวไพร่สตรีสองนางขนข้าวของเครื่องใช้ของนางออกมาจากเรือนนอน และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือบ่าวสตรีอีกสองนางที่มีรูปร่างสูงใหญ่กำลังจับตัวถิงถิงคนของนางกดเอาไว้กับพื้นไม่ให้เข้าไ
จ้าวหลี่เชี่ยนถูกอีกฝ่ายกลั่นแกล้งให้ทำงานหนัก ไม่มีเวลาแม้แต่จะนั่งพัก จนมือที่อ่อนนุ่มพุพองและมีบาดแผล แต่นางก็เริ่มที่จะชินเสียแล้ว ใช่ว่านางจะไม่เคยลำบากเช่นนี้มาก่อนเสียหน่อย ตู้ซูลี่ก็ไม่ต่างกับเหล่าพี่สาวของนางมากนัก จะว่าไปการมาทำงานอยู่ที่นี่ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน แม้จะมีคนคอยจับตามอง แต่นางยังพอมีช่องทางที่จะสืบหาข่าวกับคนภายนอกได้บ้างและนางยังมีโอกาสที่จะหาทางหลบหนีออกไป แม้ตอนนี้นางจะยังไม่พบลู่ทางก็ตาม ส่วนเรือนบ่าวรับใช้ที่อาศัยอยู่ถึงแม้จะไม่สะดวกสบายแต่ก็ยังดีที่ยังมีที่ให้ซุกหัวนอนจ้าวหลี่เชี่ยนนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะขนาดเล็กริมหน้าต่างที่กลายมาเป็นมุมโปรดของนาง สายตาจับจ้องไปยังดวงจันทราที่เคลื่อนตัวสูงขึ้น นางมาอาศัยอยู่ในเรือนบ่าวไพร่แห่งนี้ร่วมสัปดาห์แล้ว กลายเป็นบ่าวรับใช้คนใหม่ในจวนตระกูลเหอภายในห้องแคบแห่งนี้มีเพียงเตียงนอนขนาดเล็กคับแคบหนึ่งหลังที่นางกับถิงถิงต้องนอนเบียดกันในยามค่ำคืนและโต๊ะเก้าอี้อีกหนึ่งชุดเพียงเท่านั้น พื้นที่ภายในห้องเมื่อวางหีบที่เอาไว้ใช้เก็บข้าวของส่วนตัวก็มีที่ว่างให้พอได้เดินสวนกันเสียงดนตรีจากเรือนใหญ่ที่ดังแว่วมาตามสายลม ทำให้ร่างบ
คล้อยหลังร่างเล็กของถิงถิง ร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากมุมมืด สาวเท้าตรงไปยังห้องที่สาวใช้ตัวน้อยพึ่งจะเดินออกมา แล้วผลักประตูแทรกตัวเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจว่ามีสตรีอีกนางหนึ่งกำลังเดินตรงมาเสียงเปิดปิดประตูทำให้คนที่หันกลับไปนั่งมองดวงจันทร์อีกครั้งหลังจากที่คนของตนผลุบหายไปโดยไม่ยอมหยุดฟังคำทัดทานมีสีหน้าฉงน นึกแปลกใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงได้กลับมาเร็วนัก เพราะโรงครัวกับเรือนหลังนี้ใช่ว่าจะอยู่ใกล้กัน หรือทางจะไม่สะดวกผู้ที่ริจะเป็นแมวจอมตะกละจึงกลับมาตั้งหลักคิดได้ดังนั้นเรียวปากอวบอิ่มก็คลี่ออกจากกันเป็นรอยยิ้มขัน จ้าวหลี่เชี่ยนหันกลับมาหมายจะกล่าววาจาเย้าหยอกบ่าวของตนสักสองสามคำที่อีกฝ่ายไม่ยอมฟังกันตั้งแต่แรก แต่เมื่อเห็นว่าผู้ที่เข้ามาหาใช่คนที่ตนคิด รอยยิ้มบนริมฝีปากอิ่มกลับแข็งค้าง ก่อนจะหุบฉับลง ความตื่นตระหนกปรากฏบนใบหน้างาม เมื่อคนตรงหน้าคือคนใจร้ายที่หายหน้าไป บุรุษใจทมิฬผู้เป็นเจ้าของจวนและผู้ที่กุมชะตาชีวิตของนาง"ท่านแม่ทัพ"จ้าวหลี่เชี่ยนเอ่ยเรียกคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าน้ำเสียงสั่นเครือจนสัมผัสได้ กายบอบบางลนลานลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย หัวใจของ
"ถิงถิง"ลู่เจียวเอ่ยเรียกเด็กสาวผู้ที่หิ้วตะกร้าจนตัวเอียงทันทีที่อีกฝ่ายเดินเข้ามา พร้อมทั้งเดินเข้าไปรั้งให้อีกฝ่ายถอยห่างออกมาจากหน้าเรือน"พี่ลู่เจียวมีอันใดหรือเจ้าคะ"ถิงถิงเอ่ยถามสตรีที่มีท่าทางกระสับกระส่ายอีกทั้งยังมองไปทางเรือนนอนของนางด้วยสายตาประหลาดจนน่าสงสัย"ท่านแม่ทัพมาที่นี่"คำตอบที่ได้รับทำให้นางแทบจะปล่อยมือจากตะกร้าสานที่ด้านในนั้นเต็มไปด้วยของกินและขนมมากมาย หากอีกฝ่ายไม่ยื่นมือมาประคองเอาไว้คาดว่าของกินเหล่านี้คงไปกองอยู่บนพื้นเป็นแน่"ทะ ท่านว่าอย่างไรนะเจ้าคะ""ท่านแม่ทัพมาที่นี่"ลู่เจียวเอ่ยย้ำกับอีกฝ่าย สายตานั้นมองไปยังเรือนพักของนางและผู้เป็นนาย บ่งบอกให้ถิงถิงรู้ว่าตอนนี้คนที่ถูกกล่าวถึงกำลังอยู่ในห้องนั้นกับคุณหนูของนางลู่เจียวที่มักจะมาพูดคุยกับสองนายบ่าวอยู่เสมอ ทันได้เห็นแผ่นหลังของท่านแม่ทัพหายเข้าไปในเรือนนอนของทั้งสองหลังจากที่เห็นว่าถิงถิงเดินหายไปทางโรงครัว นางรออยู่ครู่หนึ่งก็ไม่เห็นว่าท่านแม่ทัพจะกลับออกมา แต่กลับมีเสียงหนึ่งที่เล็ดลอดออกมาแทน และเสียงนั้นนางรู้ดีว่าด้านในนั้นกำลังเกิดสิ่งใดขึ้น จึงตั้งใจรอถิงถิงอยู่ตรงนี้"เอ่อ ถิงถิงเช่นนั
"ถิงถิง"ลู่เจียวเอ่ยเรียกเด็กสาวผู้ที่หิ้วตะกร้าจนตัวเอียงทันทีที่อีกฝ่ายเดินเข้ามา พร้อมทั้งเดินเข้าไปรั้งให้อีกฝ่ายถอยห่างออกมาจากหน้าเรือน"พี่ลู่เจียวมีอันใดหรือเจ้าคะ"ถิงถิงเอ่ยถามสตรีที่มีท่าทางกระสับกระส่ายอีกทั้งยังมองไปทางเรือนนอนของนางด้วยสายตาประหลาดจนน่าสงสัย"ท่านแม่ทัพมาที่นี่"คำตอบที่ได้รับทำให้นางแทบจะปล่อยมือจากตะกร้าสานที่ด้านในนั้นเต็มไปด้วยของกินและขนมมากมาย หากอีกฝ่ายไม่ยื่นมือมาประคองเอาไว้คาดว่าของกินเหล่านี้คงไปกองอยู่บนพื้นเป็นแน่"ทะ ท่านว่าอย่างไรนะเจ้าคะ""ท่านแม่ทัพมาที่นี่"ลู่เจียวเอ่ยย้ำกับอีกฝ่าย สายตานั้นมองไปยังเรือนพักของนางและผู้เป็นนาย บ่งบอกให้ถิงถิงรู้ว่าตอนนี้คนที่ถูกกล่าวถึงกำลังอยู่ในห้องนั้นกับคุณหนูของนางลู่เจียวที่มักจะมาพูดคุยกับสองนายบ่าวอยู่เสมอ ทันได้เห็นแผ่นหลังของท่านแม่ทัพหายเข้าไปในเรือนนอนของทั้งสองหลังจากที่เห็นว่าถิงถิงเดินหายไปทางโรงครัว นางรออยู่ครู่หนึ่งก็ไม่เห็นว่าท่านแม่ทัพจะกลับออกมา แต่กลับมีเสียงหนึ่งที่เล็ดลอดออกมาแทน และเสียงนั้นนางรู้ดีว่าด้านในนั้นกำลังเกิดสิ่งใดขึ้น จึงตั้งใจรอถิงถิงอยู่ตรงนี้"เอ่อ ถิงถิงเช่นนั
คล้อยหลังร่างเล็กของถิงถิง ร่างสูงใหญ่ของบุรุษผู้หนึ่งก็เดินออกมาจากมุมมืด สาวเท้าตรงไปยังห้องที่สาวใช้ตัวน้อยพึ่งจะเดินออกมา แล้วผลักประตูแทรกตัวเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจว่ามีสตรีอีกนางหนึ่งกำลังเดินตรงมาเสียงเปิดปิดประตูทำให้คนที่หันกลับไปนั่งมองดวงจันทร์อีกครั้งหลังจากที่คนของตนผลุบหายไปโดยไม่ยอมหยุดฟังคำทัดทานมีสีหน้าฉงน นึกแปลกใจว่าเหตุใดอีกฝ่ายจึงได้กลับมาเร็วนัก เพราะโรงครัวกับเรือนหลังนี้ใช่ว่าจะอยู่ใกล้กัน หรือทางจะไม่สะดวกผู้ที่ริจะเป็นแมวจอมตะกละจึงกลับมาตั้งหลักคิดได้ดังนั้นเรียวปากอวบอิ่มก็คลี่ออกจากกันเป็นรอยยิ้มขัน จ้าวหลี่เชี่ยนหันกลับมาหมายจะกล่าววาจาเย้าหยอกบ่าวของตนสักสองสามคำที่อีกฝ่ายไม่ยอมฟังกันตั้งแต่แรก แต่เมื่อเห็นว่าผู้ที่เข้ามาหาใช่คนที่ตนคิด รอยยิ้มบนริมฝีปากอิ่มกลับแข็งค้าง ก่อนจะหุบฉับลง ความตื่นตระหนกปรากฏบนใบหน้างาม เมื่อคนตรงหน้าคือคนใจร้ายที่หายหน้าไป บุรุษใจทมิฬผู้เป็นเจ้าของจวนและผู้ที่กุมชะตาชีวิตของนาง"ท่านแม่ทัพ"จ้าวหลี่เชี่ยนเอ่ยเรียกคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าน้ำเสียงสั่นเครือจนสัมผัสได้ กายบอบบางลนลานลุกขึ้นยืนเผชิญหน้ากับอีกฝ่าย หัวใจของ
จ้าวหลี่เชี่ยนถูกอีกฝ่ายกลั่นแกล้งให้ทำงานหนัก ไม่มีเวลาแม้แต่จะนั่งพัก จนมือที่อ่อนนุ่มพุพองและมีบาดแผล แต่นางก็เริ่มที่จะชินเสียแล้ว ใช่ว่านางจะไม่เคยลำบากเช่นนี้มาก่อนเสียหน่อย ตู้ซูลี่ก็ไม่ต่างกับเหล่าพี่สาวของนางมากนัก จะว่าไปการมาทำงานอยู่ที่นี่ก็มีข้อดีอยู่เหมือนกัน แม้จะมีคนคอยจับตามอง แต่นางยังพอมีช่องทางที่จะสืบหาข่าวกับคนภายนอกได้บ้างและนางยังมีโอกาสที่จะหาทางหลบหนีออกไป แม้ตอนนี้นางจะยังไม่พบลู่ทางก็ตาม ส่วนเรือนบ่าวรับใช้ที่อาศัยอยู่ถึงแม้จะไม่สะดวกสบายแต่ก็ยังดีที่ยังมีที่ให้ซุกหัวนอนจ้าวหลี่เชี่ยนนั่งเหม่ออยู่ที่โต๊ะขนาดเล็กริมหน้าต่างที่กลายมาเป็นมุมโปรดของนาง สายตาจับจ้องไปยังดวงจันทราที่เคลื่อนตัวสูงขึ้น นางมาอาศัยอยู่ในเรือนบ่าวไพร่แห่งนี้ร่วมสัปดาห์แล้ว กลายเป็นบ่าวรับใช้คนใหม่ในจวนตระกูลเหอภายในห้องแคบแห่งนี้มีเพียงเตียงนอนขนาดเล็กคับแคบหนึ่งหลังที่นางกับถิงถิงต้องนอนเบียดกันในยามค่ำคืนและโต๊ะเก้าอี้อีกหนึ่งชุดเพียงเท่านั้น พื้นที่ภายในห้องเมื่อวางหีบที่เอาไว้ใช้เก็บข้าวของส่วนตัวก็มีที่ว่างให้พอได้เดินสวนกันเสียงดนตรีจากเรือนใหญ่ที่ดังแว่วมาตามสายลม ทำให้ร่างบ
"เก็บออกไปให้หมด""ท่านจะทำอะไรเจ้าคะ หยุดเดี๋ยวนี้"...เสียงเอะอะโวยวายที่ดังขึ้นด้านในเรือนนอน ทำให้คิ้วเรียวสวยได้รูปขมวดเข้าหากัน เสียงหนึ่งนั้นย่อมเป็นของลู่เจียวผู้ที่คอยดูแลนางตั้งแต่เข้ามาอาศัยอยู่ในเรือนหลังนี้ ส่วนอีกเสียงหนึ่งนั้นนางมั่นใจว่าไม่เคยได้ยินเสียงของอีกฝ่ายมาก่อนจ้าวหลี่เชี่ยนวางสิ่งที่กำลังทำอยู่ในมือลง ในวันนี้นางที่ทนอุดอู้อยู่เพียงในเรือนและทนต่อความกังวลที่มีต่อเรื่องแม่นมผิงไม่ไหวจึงนำผ้าเช็ดหน้าออกมาปักอยู่ในสวนด้านหลังเรือนเพื่อให้จิตใจของตัวเองสงบ สายตานั้นจับจ้องไปยังที่มาของเสียง นางไม่รู้ว่าด้านในนั้นกำลังเกิดสิ่งใดขึ้น เรือนที่มักจะเงียบเหงาอยู่เสมอบัดนี้มีผู้ใดมาเยือนกันเมื่อก้าวเข้าไปด้านหน้าเรือนเพื่อดูว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ภาพที่เห็นเบื้องหน้าของนางคือความวุ่นวายภายในห้องนอนของนางที่ดูคับแคบลงถนัดตาเมื่อมีสตรีนับสิบนางอยู่ในนั้นสตรีผู้หนึ่งที่แต่งกายด้วยอาภรณ์งดงามกำลังสั่งให้บ่าวไพร่สตรีสองนางขนข้าวของเครื่องใช้ของนางออกมาจากเรือนนอน และที่น่าตกใจไปกว่านั้นคือบ่าวสตรีอีกสองนางที่มีรูปร่างสูงใหญ่กำลังจับตัวถิงถิงคนของนางกดเอาไว้กับพื้นไม่ให้เข้าไ
ความรู้สึกปวดร้าวตามร่างกายที่เกิดขึ้นหลังจากที่ลืมตาตื่นขึ้นมา โดยเฉพาะส่วนสงวนกลางร่าง ทำให้ริมฝีปากอิ่มที่ยังคงบวมช้ำหลุดเสียงร้องออกมาแผ่วเบาจ้าวหลี่เชี่ยนขยับกายบอบบางได้อย่างยากลำบากจนนางไม่อยากที่จะลุกขึ้น ข้างกายนั้นไร้เงาของบุรุษผู้ที่ลงทัณฑ์นางอย่างเอาแต่ใจเมื่อคืนนี้ ความเย็นชืดที่สัมผัสได้บ่งบอกว่าคนผู้นั้นได้ลุกจากไปนานแล้ว หรือเขาอาจจะออกไปทันทีหลังจากที่ตักตวงความหอมหวานจากนางจนพอใจ เหลือทิ้งเอาไว้เพียงร่องรอยความบอบช้ำบนร่างกายและความเหนอะหนะจากคราบความใคร่ผสมกลิ่นกายของเขาที่ยังตลบอบอวลริมฝีปากแดงช้ำเม้มเข้าหากันแน่น เมื่อรู้สึกได้ว่าขอบตาของนางร้อนผ่าวขึ้น ความโดดเดี่ยวอ้างว้าง น้อยเนื้อต่ำใจประเดประดังเข้ามาให้รู้สึกหนาวเหน็บจนต้องกระชับผ้าห่มคลุมกายจนแน่น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้นางรู้สึกดีขึ้นเลย"คุณหนู คุณหนูตื่นแล้วหรือเจ้าคะ"เสียงอันคุ้นเคยที่เอ่ยถามขึ้นด้วยน้ำเสียงร้อนรนระคนห่วงใย พร้อมกับเจ้าของคำถามนั้นปราดเข้ามากุมมืออ่อนนุ่มของนางเอาไว้ นั่นทำให้จ้าวหลี่เชี่ยนลืมเลือนความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นทั้งจากทางร่างกายและจิตใจไปชั่วขณะ"ถิงถิง"เพราะสตรีเบื้องหน้าคือบ่า
ชายหนุ่มโอบอุ้มร่างงามระหงเข้าไปในห้องอาบน้ำโดยที่ริมฝีปากนั้นไม่ละไปจากใบหน้างาม เขายังคงจูบซับไปทั่วราวกับหลงใหลนางนักหนา สัมผัสอ่อนโยนนั้นทำให้หัวใจดวงน้อยสั่นไหว อยากจะให้ความรู้สึกอ่อนหวานอยู่เช่นนี้ตลอดไปเขาโอบอุ้มนางลงไปในถังน้ำด้วยกัน สายน้ำอุ่นที่หอมกรุ่นไปด้วยกลิ่นหอมของดอกไม้โอบล้อมไปรอบกายของคนทั้งสอง ความใกล้ชิดในบรรยากาศเช่นนี้ก่อให้เกิดความรู้สึกวาบหวาม ปรารถนาที่จะแนบชิดกันให้มากขึ้นฝ่ามือหนาหยาบลูบไล้ไปตามเรือนร่างงามที่เปียกน้ำ ความงดงามที่เขาปรารถนาจะครอบครองมาตลอด เนื้อผ้าบางเบาแนบลู่ไปกับร่างงาม สัดส่วนเย้ายวนปรากฏสู่สายตาชายหนุ่ม หน้าอกอวบอิ่มนุ่มหยุ่นเต็มไม้เต็มมือเหมาะเจาะลงตัวกับเอวเล็กคอดกิ่วรับกับสะโพกผายเต่งตึงกลมงอน ทั้งเนื้อทั้งตัวนุ่มละมุนหอมกรุ่น ผิวพรรณขาวนวลเนียนผุดผ่อง ไม่ปฏิเสธเลยว่า เขาหลงใหลในเรือนร่างนี้ตั้งแต่ที่ช่วยนางขึ้นจากน้ำเมื่อครั้งที่นางถูกพี่สาวต่างมารดากลั่นแกล้ง เรือนร่างสะโอดสะองติดอยู่ในความทรงจำติดตรึงอยู่ภายในใจตลอดมา และตอนนี้เรือนกายที่น่าหลงใหลนั้นกำลังปรากฏอยู่เบื้องหน้า อยู่ในอ้อมแขนของเขาและกำลังรอให้เขาเชยชมเหอไป๋เหยียนไ
จ้าวหลี่เชี่ยนก้าวขาที่สั่นเทาพาเรือนร่างเย้ายวนในอาภรณ์เปิดเปลือยเดินเข้าไปหาบุรุษหนุ่มวัยฉกรรจ์ผู้ที่ใช้สายตาจ้องมองนางราวกับจะกลืนกิน นางรู้ดีว่าหลังจากนี้จะเกิดสิ่งใดขึ้น เขาไม่คิดจะปล่อยนางแน่อาการวูบๆ วาบๆ บางเบาที่เกิดขึ้นกับนางในตอนนี้ คงเป็นเพราะน้ำชาที่ลู่เจียวส่งให้นางดื่ม มันคงมียาปลุกกำหนัดผสมอยู่ แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น นางก็ไม่ได้รู้สึกโกรธเคืองอีกฝ่าย เพราะนางรู้ดีว่าลู่เจียวหาได้ไม่หวังดีกับนาง จากความรู้สึกที่เกิดขึ้นหาได้รุนแรง มันคงเป็นเพียงยาปลุกกำหนัดฤทธิ์อ่อนเท่านั้น และมันช่วยให้นางรู้สึกดีอีกด้วย นางเป็นเพียงดรุณีน้อยวัยสิบหก การต้องรับมือกับชายหนุ่มที่แข็งแกร่งและเขายังมีอายุเยอะกว่านางกว่าหนึ่งรอบ มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแต่ในเมื่อไร้ซึ่งทางเลือก จึงข่มกลั้นความกระดากอายและความหวาดหวั่น เดินเข้าหาเจ้าของเรือนกายทรงพลังไอร้อนผ่าวจากเรือนร่างกำยำเข้าโอบล้อมนางทันทีที่เข้าใกล้ ทำให้ร่างกายนางนั้นสั่นสะท้าน เมื่อมายืนชิดใกล้กับอีกฝ่ายเช่นนี้ยิ่งเห็นว่าเขานั้นตัวสูงใหญ่กว่านางมากนัก นั่นทำให้นางอดที่จะรู้สึกหวาดหวั่นและหวาดกลัวขึ้นมาไม่ได้ดวงตาเจ้าเล่ห์หวานเชื่
"นายหญิง ท่านแม่ทัพส่งอาภรณ์มาเจ้าค่ะ"จ้าวหลี่เชี่ยนละสายตาจากภาพผีเสื้อตัวน้อยที่พากันโบยบินอย่างอิสระ ดมดอมตอมกลิ่นดอกไม้แสนสวยอย่างเพลิดเพลินจนน่าอิจฉา หันมามองเจ้าของคำพูดนั้น คำเรียกขานที่อีกฝ่ายใช้เรียกนางมันช่างฟังขัดหูเหลือเกิน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่อีกฝ่ายเอ่ยเรียกนางเช่นนี้ แต่ถึงแม้นางจะเอ่ยห้ามเช่นไรอีกฝ่ายก็ไม่ฟัง กล่าวว่าในเมื่อถูกส่งมารับใช้นางก็ควรแล้วที่ต้องเอ่ยเรียกนางเช่นนี้ นางจึงต้องปล่อยเลยตามเลยดวงตาเศร้าหมองของหญิงสาวที่ตนต้องดูแลทำให้คนที่เดินถืออาภรณ์เข้ามาอดรู้สึกสงสารไม่ได้ลู่เจียว สตรีวัยประมาณยี่สิบปีผู้ที่คอยรับใช้หญิงสาวตั้งแต่ลืมตาตื่นขึ้นมาในจวนแม่ทัพแห่งนี้ เดินเข้ามาพร้อมกับวางอาภรณ์ที่ถืออยู่ในมือลงตรงหน้าผู้ที่ต้องสวมใส่มันในคืนนี้ แม้จะรู้สึกเวทนาสงสารอีกฝ่ายมากเพียงใดแต่นางก็ต้องทำตามคำสั่งของผู้เป็นนาย"ท่านแม่ทัพแจ้งว่าอาภรณ์สำหรับใส่ในคืนนี้เจ้าค่ะ ท่านลุกขึ้นมาชำระกายก่อนเถอะนะเจ้าคะ บ่าวเตรียมน้ำเอาไว้แล้ว"คำพูดนั้นทำให้จ้าวหลี่เชี่ยนสะท้านในอก ในที่สุดนางก็ไร้ซึ่งทางเลือก ยอมเอาตัวเองแลกกับชีวิตบ่าวของตนและแลกกับการที่อีกฝ่ายจะตามหาแม่นม
เหอไป๋เหยียน แม่ทัพหนุ่มวัยฉกรรจ์ในวัยสามสิบ เขาไม่ได้มีสิ่งใดต้องทำอย่างที่เอ่ยกับสตรีนางนั้น แต่กลับมาทรุดกายลงนั่งคุกเข่าอยู่ในหอบรรพชนสกุลเหอเพราะรู้สึกสับสนและว้าวุ่นใจ ในที่สุดเขาก็ทำผิดกับผู้ที่ล่วงลับ วิญญาณของบรรพบุรุษคงกำลังสาปแช่งเขา เขาจึงได้รู้สึกเจ็บปวดและทรมานอยู่เช่นนี้ ถึงแม้จะแก้แค้นทวงความยุติธรรมกลับคืนให้ตระกูลได้สำเร็จ แต่แล้วอย่างไร ในเมื่อเขาไม่อาจตัดใจพรากชีวิตสายเลือดของศัตรู อีกทั้งยังไม่อาจปล่อยมือจากนาง นำนางมาอยู่ข้างกาย ลุ่มหลงดังคนโง่แต่เขาก็ไม่เคยลืมความแค้นในอดีต ไม่เคยลืมความรู้สึกเจ็บปวดยามเมื่อสูญเสียคนที่รักเขาคือคุณชายรองตระกูลเหอ ตระกูลแม่ทัพผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกฆ่าล้างตระกูลเมื่อแปดปีก่อนด้วยวิธีสกปรก เรื่องราวการตายของคนในครอบครัว ทุกคนที่เขารัก แทบทำให้ชายหนุ่มในตอนนั้นเจ็บปวดจนแทบเสียสติ เขาสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปพร้อมกัน ทุกชีวิตสังเวยให้กับการก่อกบฏในครั้งนั้นบิดาและพี่ใหญ่ของเขาเป็นนักรบที่เก่งกาจ ปกป้องนายเหนือหัวจนตัวตาย แม้ทั้งสองจะเก่งกล้าเพียงใดแต่น้ำน้อยย่อมแพ้ไฟ บิดาและพี่ชายถูกสังหารในห้องทรงอักษรพร้อมกับอดีตฮ่องเต้และฮองเฮาผู้